หลังจากยืนยันอาการของน่าหลันเยียนหรานแล้วเขาก็วางมือข้างหนึ่งลงบนหน้าผากของเธอ เขาใช้แรงเล็กน้อยให้เธอเอนตัวเข้าที่ ในขณะที่อีกมือหนึ่งวางลงบนหน้าท้องของเธอท่าทางนี้อาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่ายน่าหลันเยียนหรานคิดว่าเย่ซิวต้องการทำมิดีมิร้ายกับเธอจากนั้นเขาก็นิ่งไปชั่วขณะเธอรู้สึกถึงกระแสอันอบอุ่นที่ปล่อยออกมาจากฝ่ามือของเย่ซิวมันไหลเข้าสู่ท้องของเธอความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในร่างกายของเธอพลันหายไปอย่างรวดเร็วตอนนี้น่าหลันเยียนหรานมีแรงที่จะพูดแล้ว เธอมองเย่ซิวด้วยความรู้สึกซับซ้อนและถามว่า “ทำไมนายถึงช่วยฉันทั้ง ๆ ที่ฉันเคยทำแบบนั้นกับนาย?”“การรักษาและช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นหน้าที่ของหมอ ถึงจะเป็นสุนัขฉันก็ต้องช่วยอารมณ์โกรธของน่าหลันเยียนหรานพุ่งขึ้นทันที เธอกัดฟันแน่นจนเกิดเสียงกรอด“ปากสุนัขของนายนี่จะพูดอะไรดี ๆ บ้างไม่ได้เลยใช่ไหม!”เย่ซิวไม่สนใจเขาเพียงแค่ส่งกำลังภายในเข้าสู่ร่างกายของเธออย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยสลายก้อนเลือดที่อุดตันภายในท้องของเธอผิวของน่าหลันเยียนหรานเริ่มมีสีที่บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ และสภาพร่างกายของเธอก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกันสี
“น้องสาว อยู่ที่นี่คนเดียวมืด ๆ ค่ำ ๆ มันอันตรายมากนะ”“ใช่แล้ว ทำไมไม่มาเที่ยวกับพวกพี่ล่ะ”“วางใจได้เลย พวกพี่เป็นคนดีนะ”น้ำเสียงของเธอเย็นชา “ฉันไม่สนใจ ไปให้พ้น แฟนของฉันใกล้จะมาถึงแล้ว เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากเลยแหละ!”ภายนอกดูเย็นชา แต่ภายในใจเธอกลับรู้สึกตระหนกอย่างยิ่งเห็นได้ชัดว่าเธอแต่งตัวแบบนี้ ไม่ได้อวดเผยรูปร่างเลยแม้แต่น้อยแต่ทำไมเพียงแค่ออกมาหน้าบ้าน เธอก็ยังเจอพวกโรคจิตเข้ามายุ่งวุ่นวายอีก นี่มันโชคร้ายเกินไปไหม?ชายกลุ่มนี้ได้ยินคำพูดของเธอแล้วก็ไม่ได้ยอมแพ้ แต่กลับตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมเสียอีกพวกเขาเริ่มไม่เกรงใจและเข้าหาเธอมากขึ้นหนึ่งในนั้นพยายามจะจับใบหน้าของเธอแต่มือของเขายังไม่ทันได้แตะต้องเธอ เขาก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาลอยขึ้นไปโลกหมุนไปต่อหน้าต่อตาเขา และเขาก็ร่วงลงกับพื้นอย่างแรงจากนั้นเพื่อนอีกสองคนของเขาก็ลอยไปในอากาศและร่วงลงมาข้าง ๆ กัน พร้อมกับความเจ็บปวดเย่ซิวมองพวกเขาอย่างเฉยเมย “ไปให้พ้น!”เมื่อเห็นว่าเย่ซิ่วมีความโหดร้ายและโยนพวกเขาออกไปได้ง่าย ๆ เช่นนั้น ชายเหล่านั้นต่างก็แสดงสีหน้าตกใจ พวกเขาล้มลุกคลุกคลานและดิ้นรนหนีออกไปแ
ด้านข้างผู้หญิงคนนี้มีผู้ชายที่ค่อนข้างหัวล้านคนหนึ่งยืนอยู่หลังจากที่ชายคนนั้นเห็นอวี่เฟยเฟย เขาก็ละสายตาจากเธอไม่ได้เลยอวี่เฟยเฟยถึงกับงงงัน “พี่เถาจื่อ ทำไมพี่ก็อยู่ที่นี่ล่ะคะ?”หลังจากนั้นเธอก็พูดกับเย่ซิวว่า “พี่คนนี้คือเพื่อนร่วมงานของฉันค่ะ”เถาจื่อกอดอกและมองเย่ซิวอย่างเย้ยยัน “ฉันจะบอกเธอให้นะ เธออย่าให้ใครมาหลอกง่าย ๆ สิหมอนี่อายุคงยังไม่ถึงยี่สิบล่ะสิท่า ร้ายกาจจริง ๆ เลยนะ”“ดูก็รู้แล้วว่าเขาตั้งใจมาหลอกเธอ ต้นปีนี้ผู้ชายหน้าไหว้หลังหลอกมันเยอะนะ อย่าไปหลงกลโดนหลอกเชียวล่ะ”อวี่เฟยเฟยรู้สึกโกรธเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้ “พี่เถาจื่อ พี่เข้าใจผิดแล้วล่ะ คุณเย่เป็นเพื่อนของฉัน และเขาก็เป็นคนดีจริง ๆ”เถาจื่อตะคอกอย่างเย็นชาเมื่อมองไปที่เย่ซิวพร้อมเอ่ยถาม “แล้วเงินเดือนหนึ่งเดือนของนายนี่ถึงสองหมื่นห้าหรือเปล่า? ฉันได้ยินมาว่าหมอแผนโบราณเงินเดือนเพียงแค่หมื่นสองหมื่นเอง”เย่ซิวหยิบน้ำผลไม้ขึ้นมาดื่มโดยไม่ใส่ใจคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเลยสักนิดเมื่อมองแวบแรกก็รู้แล้วว่าเธอนั้นหยิ่งยโสเป็นอย่างมากคนประเภทนี้ไม่มีค่าพอที่เย่ซิวจะเสวนาด้วยเมื่อเห็นเย่ซิวไ
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เถาจื่อก็ตกใจจนถอดสีหน้าทันที “นี่ น้องสาวพี่ ทำไมเธอถึงได้พูดกับคุณหวังแบบนั้นล่ะ? รีบขอโทษเขาเดี่ยวนี้เลยนะ”แม้อวี่เฟยเฟยจะใจดี แต่เธอก็ไม่ใช่คนอ่อนแอหากถึงขีดจำกัดแล้ว เธอก็จะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น “พี่เถาจื่อ เอาไว้เราค่อยคุยกันทีหลังดีกว่าค่ะ ตอนนี้ฉันต้องการเวลาส่วนตัว พวกพี่สองคนกรุณาออกไปด้วยค่ะ!”สีหน้าของเถ้าแก่หวังดูไม่ดีเป็นอย่างมาก “คุณทำแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณด้วยใจจริง แต่ทำไมคุณถึงไม่ให้เกียรติผมแบบนี้!”เถาจื่อรินเหล้าใส่แก้วแล้วยื่นให้อวี่เฟยเฟย “เฟยเฟย ดื่มเหล้าแก้วนี้ซะ ถือว่าชดใช้ในสิ่งที่ทำกับคุณหวัง แล้วฉันจะถือว่าเรื่องนี้จบ”อวี่เฟยเฟยยืนขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ในเมื่อพวกพี่จะอยู่ที่นี่ ถ้างั้นพวกฉันก็จะไป!“ตุ๊บ!เถ้าแก่หวังยืนขึ้นแล้วตบโต๊ะด้วยความโกรธ ความดุร้ายถูกปลดปล่อยออกจากร่างกายของเขา“เธอนี่น่าไม่อายจริง ๆ เป็นเกียรติของเธอที่ฉันจะดูถูกเธอ!”อวี่เฟยเฟยโกรธมากจนร่างกายของเธอสั่นสะท้าน “นี่คุณจะตบฉันในที่สาธารณะเหรอ?”“ถ้าฉันตบเธอแล้วมันจะทำไม? ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยตบผู้หญิงซะหน่อย!”เถ้าแก่หวังจะต้องได้ผู
เถาจื่อขยี้ตาอย่างแรง เธอสงสัยว่าเธอกำลังมีอาการประสาทหลอนอวี่เฟยเฟยค่อนข้างสงบ แต่ก็ยังดูตกใจมากอยู่ดีแม้ว่าเธอจะมาที่นี่เป็นครั้งแรก แต่แน่นอนว่าเธอเคยได้ยินมาว่าภูมิหลังของเจ้าของผับที่นี่นั้นใหญ่โตแต่ใครจะไปรู้ว่าเจ้าของที่ใหญ่โตแบบนี้ เมื่อเจอเย่ซิวจะศิโรราบแบบนี้หลังจากที่เหมยจื่อเห็นพลังของเย่ซิวครั้งนั้น เธอก็มีความชื่นชมอย่างมากต่อผู้ชายคนนี้ที่อายุน้อยกว่าเธอคิดมาตลอดว่าอยากจะเชิญให้เขามาสอนวรยุทธ แต่กลับยังไม่มีโอกาสนั้นเย่ซิวกลืนน้ำลาย แล้วชี้ไปที่เถ้าแก่หวังกับเถาจื่อ “สองคนนี้สร้างความวุ่นวายและรบกวนการทานข้าวของผมและเพื่อน”ดวงตาของเหมยจื่อฉายแววดุร้าย เธอรีบหันกลับไปมองทั้งสองคนทันทีทันใดนั้น หัวใจของคนทั้งสองก็เต้นแรงราวกับว่าพวกเขากำลังถูกสัตว์ขนาดยักษ์จ้องมอง“คุณเหมยจื่อ มันคือการเข้าใจผิด ผมไม่รู้ว่าคุณผู้ชายคนนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรกับคุณ” เถ้าแก่หวังอธิบายด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวสำหรับเถาจื่อ เธอยิ่งตื่นตระหนกขึ้นอีก เธอรีบคุกเข่าลงต่อหน้าเย่ซิวทันที “คุณเย่ซิวฉันผิดไปแล้ว เป็นฉันเองที่ตาถั่ว ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะคะ”เย่ซิวดูเย็นชาและไม่มองเธ
“ผมเหรอ? ผมก็แค่พลเมืองที่ดีของประเทศหลงเถิงก็เท่านั้นเอง”ฮ่าฮ่า!อวี่เฟยเฟยรู้สึกขบขันกับคำพูดของเย่ซิว เธอหัวเราะหนักจนกิ่งก้านดอกสะเทือนต้องบอกว่าผู้หญิงที่สวยเมื่อเธอยิ้มทำให้คนสบายตาสบายใจตอนนี้เธออารมณ์ดีเป็นอย่างมากเมื่ออารมณ์ดีขึ้นเธอจึงดื่มมากยิ่งขึ้น แม้ว่าใครจะพูดโน้มน้าวอย่างไรเธอก็ไม่หยุดดื่ม ไม่นานเธอก็ดื่มเหล้าเข้ม ๆ หนึ่งขวดจนหมด ดวงตาของอวี่เฟยเฟยพร่ามัวด้วยความมึนเมา ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ “นี่คุณเย่ ชนแก้วสิคะ“เย่ซิวส่ายหัว “คุณเมาแล้ว ผมจะไปส่งคุณกลับบ้านเอง”“ฉันไม่ได้เมานะ ฉันยังดื่มได้อีก”คนที่เมาแล้วก็มักจะชอบพูดแบบนี้ประจำเย่ซิวหมดคำจะพูดพลางยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้บริกรบริกรเดินเข้ามาเอ่ยถามด้วยความเคารพ “ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ทางเรารับใช้ครับ?”“เช็คบิลด้วยครับ”เดิมทีเป็นอวี่เฟยเฟยที่พูดว่าจะเลี้ยงเขาเป็นการตอบแทน แต่ดูจากสภาพของเธอในตอนนี้แล้ว แน่นอนว่าเธอคงจะจ่ายเงินไม่ไหวบริกรเอ่ยตอบว่า “สวัสดีครับคุณผู้ชาย หัวหน้าของเราได้บอกมาว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดหัวหน้าจะเป็นคนจัดการเองครับ”เย่ซิวพยักหน้าตอบรับ เขาไม่ได้ยืดเยื้อต่อผู้หญิงคน
ทางเลือกเดียวคือยอมแพ้หรือใช้วิธีการอื่นแล้ววิธีนั้นต้องมีการสัมผัสทางกายภาพกับอวี่เฟยเฟยแต่ถึงอย่างนั้นเย่ซิวก็ปฏิบัติต่ออวี่เฟยเฟยในฐานะผู้ป่วยเท่านั้น ไม่มีอะไรแอบแฝงเริ่มจากมือทั้งสองข้าง ต่อไปยังจุดช่านจง จากนั้นจึงไปยังจุดเทียนฉือ…เมื่อถึงตอนที่จะไปยังจุดเทียนฉือ อวี่เฟยเฟยก็ตื่นขึ้นมาอวี่เฟยเฟยสับสนเล็กน้อย เธอกลอกตาแล้วก้มศีรษะลง และเห็นมือของเย่ซิวกดมือของเธออยู่…“ว้าย!”หลังจากตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เธอก็ส่งเสียงกรีดร้องสูงออกมาเย่ซิวเก็บมือกลับอย่างใจเย็น “ผมนวดให้คุณตื่นน่ะ คุณดื่มจนเมา และผมก็ไม่รู้ว่าคุณพักอยู่ที่ไหน”“ฉันดื่มจนเมาเลยเหรอคะ?”อวี่เฟยเฟยพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเขินอายมากเธอนึกถึงสภาพขี้เมาของเธอเมื่อกี้ เธอดูเหมือนผู้หญิงบ้า เธอได้สูญเสียภาพลักษณ์ไปหมดแล้ว “ตายแล้ว!” มือทั้งสองจับไปที่หน้า ชื่อเสียงสูญสิ้นไปโดยสิ้นเชิงเธออายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี แต่หลังจากที่รู้สึกเขินอาย เธอก็เข้าไปพัวพันอีกครั้งและเงยหน้าขึ้นมองเย่ซิว “แต่แค่นวด…ต้องนวดจุดนั้นเลยเหรอคะ?”โตมาขนาดนี้แล้ว แม้แต่มือเธอก็ไม่เคยคิดอยาก
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?” เย่ซิวโบกมือต่อหน้าอวี่เฟยเฟยอวี่เฟยเฟยเอ่ยตอบโดยไม่รู้ตัว “ฉันตกลงค่ะ”เย่ซิวถึงกับสงสัย “อะไรนะครับ?”ไม่กีวินาที่ต่อมาเธอก็ได้สติและอายมากจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี“ไม่มีอะไรค่ะ ๆ”เธอรีบส่ายหน้าระงับความคิดยุ่งเหยิงในใจตัวเอง“ถึงบ้านฉันแล้ว คุณจะเข้าไปดื่มน้ำสักแก้วไหมคะ?”ตอนที่เธอพูดคำนี้ออกมาใจเธอเต้นแรงมาก และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ตัวเองเชิญเพศตรงข้ามเข้าบ้านอีกด้วย “ไม่เป็นไร นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณรีบเข้าไปพักผ่อนเถอะ”“ก็ได้ค่ะ คุณก็ระวังด้วยนะคะ”เย่ซิวพยักหน้าตอบในใจของอวี่เฟยเฟยรู้สึกผิดหวัง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเชิญผู้ชายเข้าห้องแต่กลับถูกปฏิเสธในใจได้แต่สงสัยว่าตัวเองมีเสน่ห์ไม่พอหรือเปล่าแต่อีกความคิดหนึ่งก็น่าจะไม่ใช่ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีเสน่ห์มากพอ แต่เป็นเพราะเย่ซิวนั่นเป็นสุภาพบุรุษ เขาคงจะไม่เข้าบ้านผู้หญิงตามใจชอบเมื่อคิดได้แบบนี้แล้ว เย่ซิวยิ่งอยู่ใจของเธอมากขึ้นทันทีต้องบอกว่า จินตนาการที่มากเกินไปอันตรายถึงชีวิตเย่ซิวไม่ได้คิดมาก เขาแค่อยากจะกลับไปพักผ่อนก็เท่านั้นไม่นาน ก็เกือบจะเจ็ดโมงเช้าของวันถัดไปแล้ว เย่ซิว หลิ่ว
ชายคนนั้นมีท่าทีไม่เชื่ออย่างแรง “อย่ามาหลอกฉัน ถ้าเจ้าอาวาสไม่ออกมา ฉันก็ไม่ไป และวัดนี้ก็อย่าหวังว่าจะมีใครมากราบไหว้อีก!”นักพรตหนุ่มรู้สึกทั้งโกรธและหมดหนทาง เมื่อเจอกับคนที่มีพลังแข็งแกร่งและเล่นไม่ซื่อแบบนี้ เขาเองก็ไม่รู้จะรับมือยังไง“เฮ้ พวกเธอสองคน ไสหัวไปซะ!”ชายคนนั้นมองเย่ซิวกับน่าหลันเยียนหรานด้วยสายตาดุดันดั่งสิงโตที่กำลังคำราม ดูน่ากลัวเป็นอย่างมากนี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้ผู้คนที่มาไหว้พระพากันหนีไปหมดเย่ซิวเอ่ยเรียบ ๆ “นี่เป็นที่สาธารณะ ทำไมผมต้องไปด้วย?”ชายคนนั้นแสยะยิ้ม “ไอ้หนู คิดจะโชว์แมนต่อหน้าแฟนหรือไง? อยากโดนฉันสั่งสอนใช่ไหม!”พูดจบ พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ออกมาจากร่างของเขามีเพียงผู้ที่ผ่านสมรภูมิความเป็นความตายอันโหดร้ายมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นที่จะสามารถแผ่กลิ่นอายอันน่ากลัวเช่นนี้ออกมาน่าหลันเยียนหรานตัวสั่นเทิ้ม ขนลุกไปทั้งร่างชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้วแต่ในวินาทีนั้นเย่ซิวก็ยื่นมือใหญ่ที่อบอุ่นและแข็งแรงมาจับมือเล็ก ๆ ของเธอไว้ เธอรู้สึกสงบลง ก่อนจะมองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาขอบคุณนักพรตหนุ่มรีบวิ่งลงมาหาเย่ซิวพร้อมเตือนด้วยความกังวล “โย
คนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่เกลียดชังคนรวยเหมือนกับตอนนี้ที่แม้น่าหลันเยียนหรานเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเห็นได้ชัดแต่เพียงเพราะเธอขับรถหรูและใส่เสื้อผ้าราคาแพง คนรอบข้างจึงคิดว่าเป็นความผิดของเธอเหตุการณ์แบบนี้ที่แสดงถึงความเกลียดชังคนรวยมีให้เห็นทั่วไปขณะที่น่าหลันเยียนหรานไม่รู้จะทำอย่างไรดี เย่ซิวก็ปรากฏตัวขึ้นมายืนขวางหน้าเธอไว้น่าหลันเยียนหรานยิ้มด้วยความดีใจ “คุณเย่มาที่นี่ได้ยังไงคะ”“ผ่านมาแถวนี้พอดี” เย่ซิวมองหญิงชราที่นอนขวางรถของน่าหลันเยียนหราน แล้วเอ่ยเรียบ ๆ “ลุกขึ้น แล้วไสหัวไปซะ!”หญิงชรายิ้มเยาะ “อะไร พวกเธอสองคนรวมหัวกันจะรังแกคนแก่เหรอ หน้าไม่อาย ถ้าฉันไม่ลุกพวกเธอจะทำอะไรฉันได้!”คนที่ไม่รู้จักอายมักจะได้เปรียบเสมอเย่ซิวจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่เปล่งประกายแล้วตวาดใส่หญิงชราคนนั้น “มองฉัน!”หญิงชราหันมามองตาของเย่ซิวโดยไม่ทันรู้ตัวตึง!สมองของเธอว่างเปล่าไปชั่วขณะ ราวกับสติหายไปชั่วคราวเย่ซิวมองเธอ “บอกมาว่าทำไมถึงคิดจะหลอกคนอื่น”หญิงชราเผยความในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว“ฉันเล่นไพ่นกกระจอกจนเสียเงินค่าใช้จ่ายสำหรับทั้งปีไป กลัวสามีจะด่าก็เลยคิดจะหลอกเอาเงินจากค
“พี่เป็นคนดีจริง ๆ ฉันรักพี่ที่สุดเลย”จวงเสี่ยงหยิงดีใจจนกระโดดโลดเต้นอยู่ตรงหน้าเย่ซิว“พอแล้ว” เย่ซิวกดไหล่เธอลง “ผู้หญิงไม่ควรกระโดดโลดเต้นต่อหน้าผู้ชายแบบนี้ จะเสียเปรียบเอานะ”จวงเสี่ยงหยิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง ใบหน้าเธอแดงก่ำ ก่อนจะเอ่ยด้วยความเขินอาย “พี่นี่ลามกจริง ๆ เลย คราวหน้าฉันจะกระโดดแค่ต่อหน้าพี่แค่คนเดียวดีไหมคะ?”จวงเสี่ยงหยิงเปรียบเสมือนดอกไม้ที่ยังตูมรอวันผลิบาน แผ่กลิ่นอายแห่งความสดใสและเยาว์วัยออกมาทุกอณูการได้อยู่กับสาวน้อยแบบนี้ทำให้จิตใจพลอยสดชื่นไปด้วยถ้าไม่ติดว่ายังมีเรื่องรอให้ทำอีกมากมาย เย่ซิวคงจะอยู่กับเธอนานกว่านี้หน่อยหลังจากออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว เย่ซิวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาอารามเต๋าภายในประเทศตอนนี้เขาอยู่ในขั้นสูงของการสร้างรากฐานปราณ อีกไม่นานก็จะถึงขั้นสมบูรณ์ เขาต้องเริ่มเตรียมตัวสำหรับการบ่มเพาะจินตานแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำคือหาวิธีการบ่มเพาะจินตานปัจจุบัน อารามเต๋าในประเทศที่มีอายุมากกว่าร้อยปีนั้นมีอยู่ไม่กี่แห่งเย่ซิวค้นเจออารามเต๋าห้าแห่ง หนึ่งในนั้นมีอยู่ที่เมืองหลวงและระยะทางก็ไม่ไกลมากเมื่อค้นเจอต
เย่ซิวชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะหันกลับมา “ว่าไงครับ?”หยางชิงเสวี่ยเม้มปากเล็กน้อย ดวงตางดงามจับจ้องไปยังเย่ซิวที่ยืนอย่างองอาจ “คุณต้องเร่งบำเพ็ญตนให้มากขึ้น แล้วรีบทะลวงให้ถึงระดับจินตานให้เร็วที่สุด ถึงตอนนั้น…”ประโยคหลังจากนั้นเธอไม่ได้พูดออกมา แต่แค่ขยับริมฝีปากเท่านั้นเย่ซิวเข้าใจอย่างชัดเจน จึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากหยางชิงเสวี่ยมีร่างกายที่พิเศษ และต้องรอให้เย่ซิวทะลวงระดับจินตานเสียก่อนจึงจะสามารถมีสัมพันธ์กับเธอได้นี่เป็นกฎที่อาจารย์ของเขากำหนดไว้เมื่อถึงเวลาที่เขาสมหวังกับหยางชิงเสวี่ย เขาจะได้รับพลังพิเศษที่แข็งแกร่งมากเย่ซิวกลับไปที่ศาลา ก่อนจะหยิบจี้หยกสองชิ้นออกมา แล้วสวมให้เธอด้วยมือของเขาเองทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจนกลิ่นอายความแข็งแกร่งของเขาแผ่ซ่านเข้ามาจนสัมผัสได้หยางชิงเสวี่ยรู้สึกเหมือนร่างกายถูกจุดไฟ รู้สึกอ่อนแรงและใบหน้าก็แดงระเรื่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจากนั้นเย่ซิวก็คว้ามือเล็กอ่อนนุ่มของเธอไว้ ก่อนจะสวมแหวนลงบนนิ้วของเธอสองวง แล้วบอกวิธีใช้ให้เธอฟัง“ของพวกนี้ล้ำค่าเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก”หยางชิงเสวี่ยส่ายหน้า พยายามจะถอดออก“ไม่เป็นไร ของพว
ชีวิตของเธอในตอนนี้เรียบง่ายมากบางครั้งก็เรียน บางครั้งก็ไปฝึกงานที่บริษัท ชีวิตดูเต็มไปด้วยคุณค่าและมีความหมายมากเย่ซิวลูบหัวเธอเบา ๆ “มาดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”สายตาของเขามองไปที่ศาลาตรงนั้นมีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้ากำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจมองจากมุมนี้ ใบหน้าด้านข้างของเธอสวยไร้ที่ติ ทำให้คนใจเต้นแรงแม้เพียงพบเห็น แต่ก็ไม่กล้าคิดลามกกับเธอเธอคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างน่าอัศจรรย์คนหนึ่งเลยทีเดียวดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกถึงสายตาของเย่ซิว เธอจึงหันมองมาแล้วพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยกมุมปากยิ้มบางเย่ซิวยิ้มตอบจวงเสี่ยวหยิงยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหึงหวง “ที่แท้ก็ไม่ได้มองแค่ฉันนี่นา”เย่ซิวหัวเราะ “เด็กน้อย ยังจะหึงอีกนะ ไปซื้อน้ำให้ฉันหน่อยสิ”“ค่ะ…”จวงเสี่ยวหยิงยู่ปากแต่ก็เดินออกไปอย่างว่าง่ายเย่ซิวเดินเข้าไปในศาลา นั่งลงตรงหน้าชิงเสวี่ยแล้วถามอย่างตรงไปตรงมา “คุณรู้จักที่มาที่ไปของคุณลี่หรือเปล่า?”ชิงเสวี่ยวางหนังสือลง มองเย่ซิวด้วยดวงตากลมโต พลางส่ายหัวเบา ๆ “ไม่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ”เย่ซิวจ้องมองเธอด้วยสายตาตรงไปตรงมา จิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหว ทำให้รู้ว่าเธอไม
ต่อจากนี้จะเป็นการบรรยายยาวกว่าหนึ่งแสนคำครั้งที่แล้วเย่ซิวเป็นฝ่ายเริ่มบำเพ็ญตนกับหลินโหรวก่อนแต่ครั้งนี้หลินโหรวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน สรุปง่าย ๆ เลยสามคำ เธอเก่งมากคงเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอยู่กับสาวผมเหลืองก่อนหน้านี้“ผมต้องไปแล้ว” เย่ซิวจิบเครื่องดื่มพลางเอ่ยกับหลินโหรวหลินโหรวปาดเหงื่อหอมบนหน้าผาก พลางมองเย่ซิวด้วยสายตาอ่อนหวาน “ฉัน…พอจะเป็นแฟนคุณได้ไหม?”เย่ซิวใช้นิ้วเชยคางขาวเนียนของเธอขึ้น แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณคิดว่าตัวเองคู่ควรหรือเปล่าล่ะ?”สายตาของหลินโหรวหม่นลงในทันที ใช่แล้ว ตอนนี้เธอไม่คู่ควรกับเขาจริง ๆแต่เธอก็รีบกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง “ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะทำตัวเหลวไหลไปหน่อย แต่จากนี้ไป ฉันจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น”“อืม ความสามารถของเธอก็ไม่เลวนะ” เย่ซิวพยักหน้า “ตอนนี้คุณยังไม่มีงานทำใช่ไหม”“ยังค่ะ”เย่ซิวเกิดความคิดหนึ่งขึ้น เขาเอ่ยกับเธอว่า “ผมจะลงทุนให้คุณห้าพันล้าน ไปตั้งบริษัทการจัดการระหว่างประเทศสักแห่ง แล้วดึงคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมทีมเยอะ ๆ”หลินโหรวทำหน้าจริงจัง “ค่ะ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ห้าพันล้านนี้จะทำกำไรให้คุณสิบเท่า ยี่สิ
ยาที่อยู่ในมือเธอหล่นลงบนพื้นทันที “นายเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง!”เย่ซิวเดินตรงเข้าไปหาเธอด้วยสีหน้าเย็นชา “พูดมาว่าใครเป็นคนสั่งให้เธอมาเล่นงานฉัน”“เล่นงานนาย? หมายความว่าไง?”สีหน้าของสาวผมทองดูไม่เหมือนคนโกหก นั่นหมายความว่าเธอเพียงแค่ถูกใครบางคนใช้เงินจ้างมาเท่านั้นเย่ซิวจึงเปลี่ยนวิธีถาม “ใครเป็นคนให้ยานี้กับเธอ หน้าตาเป็นยังไง?”“ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงอะไร” สาวผมทองพยายามปฏิเสธสุดกำลังเย่ซิวคว้าคอเธอไว้แล้วค่อย ๆ ยกขึ้นสาวผมทองดิ้นรนสุดชีวิต ดวงตาเบิกโพลง ลิ้นยื่นออกมายาวความรู้สึกหวาดกลัวอย่างรุนแรงพุ่งขึ้นมาจับใจเธอ ผู้ชายที่ดูหล่อเหลาจนน่าตะลึงคนนี้กล้าฆ่าเธอจริง!“ฉัน…ยอมบอกแล้ว…”ปึก!เย่ซิวโยนเธอลงกับพื้นแล้วนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะถือโอกาสหยิบยาขึ้นมาสาวผมทองไออย่างหนัก เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย สายตาที่มองเย่ซิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ฉันก็ไม่รู้จักเขาหรอก อยู่ ๆ เขาก็มาหาฉัน ให้เงินมาก้อนหนึ่ง แล้วบอกให้ฉันเอายาให้หลินโหรว…แค่นั้นแหละ”“หน้าตาเขาเป็นยังไง?”“ฉันมองเห็นไม่ค่อยชัด เขาใส่เสื้อโค้ตสีดำ สวมหน้ากาก ยานี้เขาให้มาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว”เย่ซิ
“เสี่ยวโหรว อย่าไปเลยนะ ได้ไหม?”“ปล่อยฉันนะ ตอนนั้นเธอเป็นคนบอกเลิกฉันเอง แล้วตอนนี้กลับมาวุ่นวายอะไรกับฉันอีก!”“ตอนนั้นฉันเองที่เสียสติ แต่หลังจากนั้นฉันก็รู้ว่าขาดเธอไม่ได้จริง ๆ”“หึหึ ตอนนั้นฉันพยายามมากแค่ไหนเพื่อรั้งเธอไว้ แต่เธอก็ใจแข็งใส่ฉัน ตอนนี้ต่อให้พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”“เสี่ยวโหรว ฉันรู้นะว่าเธอยังรักฉันอยู่”“เพ้อเจ้อ! ตอนนี้ฉันหันมาชอบผู้ชายแบบปกติแล้ว และเธอก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉันอีก!”……มีสาวสวยสองคนกำลังทะเลาะกันบนถนนคนหนึ่งย้อมผมสีเหลือง ใส่เสื้อเอวลอย ทรวดทรงเย้ายวนอีกคนสวมเดรสยาวสีขาวกับรองเท้าผ้าใบ ดูสะอาดบริสุทธิ์ฝูงชนที่มุงดูพลอยเข้าใจเรื่องราวจากบทสนทนาของทั้งคู่ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายที่แท้สองคนนี้ก็เป็นหญิงรักหญิง ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาจึงลุกโชนขึ้นมาทันทีเย่ซิวเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอพวกเธอที่นี่อีกครั้งอดีตแฟนสาวหรือแฟนหนุ่มของหลินโหรวยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่หลินโหรวนั้นเปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียวไม่มีความหยิ่งยโสและอวดดีเหมือนแต่ก่อน กลับดูอ่อนโยนขึ้นมากดูเหมือนว่า ‘การปรับเปลี่ยน’ ของเขาในตอนนั้นจะได้
เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำแล้วจะดูโปร่งแสงเล็กน้อย ดังนั้นถังเขอเข่อในตอนนี้จึงดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูกถังเขอเข่อกอดอกตัวเองไว้ด้วยความอับอายและหงุดหงิด “อย่ามองสิ หันหลังไปเลยนะ ฉันไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ก็เลยต้องใส่ชุดเดิมนี่แหละ”เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “มานี่ เดี๋ยวผมช่วยทำให้เสื้อผ้าคุณแห้งเอง”“ไม่เอา…”เธอกลับถอยหลังไปอีกสองสามก้าว เธอรู้ดีว่าสภาพของตัวเองตอนนี้ จะส่งผลต่อผู้ชายมากแค่ไหนเธอกลัวว่าเย่ซิวจะควบคุมตัวเองไม่ไหว แล้วก็…เย่ซิวชูมือขึ้นแล้วส่งพลังดูดมหาศาลออกมาใส่ถังเขอเข่อ“กรี๊ด!” ถังเขอเข่อร้องเสียงหลง ร่างกายของเธอลอยลิ่วเข้ามาหาเย่ซิวอย่างไม่ตั้งใจ เธอดิ้นไปมาพลางกรีดร้องไม่หยุด “ปล่อยนะ ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำตามใจหรอก ฉันยังไม่เคยมีแฟนเลย ไม่ได้นะ…เอ๊ะ ทำไมอุ่นจัง”ในขณะที่กำลังดิ้นพล่าน ถังเขอเข่อก็หยุดทันที ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความสงสัย สถานการณ์ดูไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลยสักนิด เย่ซิวเพียงแค่ปล่อยพลังไฟออกมาเบา ๆ เพื่อช่วยให้เสื้อผ้าของเธอแห้งเท่านั้นเอง“นี่มันอะไรน่ะ?!” ถังเขอเข่อตกใจจนพูดไม่ออก “มายากลเหรอ?”