เย่ซิวได้รับรายงานของหลางอี และเตรียมการใหม่ทันทีเขาเรียกกองกำลังหมาป่าราตรีสิบคนที่ถูกส่งไปทำภารกิจที่สองกลับมา และให้ทั้งหมดไปปกป้องหลิ่วเมิ่งอิ๋นภารกิจที่สองใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วจากนั้นเขาก็โทรหาหลิ่วเมิ่งอิ๋น และบอกให้เธออยู่บ้านอย่าออกไปไหนจนกว่าจะกลับมาเขาบอกให้เธอขอโรงเรียนลากลับก่อนเช่นกันต้องจัดการเรื่องที่นี่ให้เสร็จโดยเร็วที่สุดแล้วรีบกลับไปยังเจียงเฉิงเพื่อไปยังภูเขานั้นครืด!เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น และเย่ซิวก็เห็นว่าเป็นสายที่ไม่คุ้นเคยหลังจากรับสายแล้วก็มีเสียงไพเราะดังมาจากปลายสาย“สวัสดีค่ะ คุณเย่ ทานข้าวหรือยังคะ?”มันเป็นเสียงเรียกของแอร์โฮสเตส“สวัสดีครับ ทานแล้วครับ”“อ่อค่ะ…” ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกได้เลยว่าแอร์โฮสเตสค่อนข้างผิดหวัง แต่เธอก็กลับมาสงบมั่นคงอีกครั้ง และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณอยากจะออกไปดื่มสักหน่อยไหมคะ? ฉันจะเลี้ยงคุณเอง”เย่ซิวดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้วหลังจากคิดเรื่องนี้แล้วเขาก็ตัดสินใจไปพบเธอเพื่อจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย และเธอจะได้ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องนี้อีก “ได้สิ คุณบอกสถานที่มาแล้วเดี๋ยวผมจะไปหา...ไม่สิ ไม่ดีกว่
หลังจากยืนยันอาการของน่าหลันเยียนหรานแล้วเขาก็วางมือข้างหนึ่งลงบนหน้าผากของเธอ เขาใช้แรงเล็กน้อยให้เธอเอนตัวเข้าที่ ในขณะที่อีกมือหนึ่งวางลงบนหน้าท้องของเธอท่าทางนี้อาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่ายน่าหลันเยียนหรานคิดว่าเย่ซิวต้องการทำมิดีมิร้ายกับเธอจากนั้นเขาก็นิ่งไปชั่วขณะเธอรู้สึกถึงกระแสอันอบอุ่นที่ปล่อยออกมาจากฝ่ามือของเย่ซิวมันไหลเข้าสู่ท้องของเธอความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในร่างกายของเธอพลันหายไปอย่างรวดเร็วตอนนี้น่าหลันเยียนหรานมีแรงที่จะพูดแล้ว เธอมองเย่ซิวด้วยความรู้สึกซับซ้อนและถามว่า “ทำไมนายถึงช่วยฉันทั้ง ๆ ที่ฉันเคยทำแบบนั้นกับนาย?”“การรักษาและช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นหน้าที่ของหมอ ถึงจะเป็นสุนัขฉันก็ต้องช่วยอารมณ์โกรธของน่าหลันเยียนหรานพุ่งขึ้นทันที เธอกัดฟันแน่นจนเกิดเสียงกรอด“ปากสุนัขของนายนี่จะพูดอะไรดี ๆ บ้างไม่ได้เลยใช่ไหม!”เย่ซิวไม่สนใจเขาเพียงแค่ส่งกำลังภายในเข้าสู่ร่างกายของเธออย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยสลายก้อนเลือดที่อุดตันภายในท้องของเธอผิวของน่าหลันเยียนหรานเริ่มมีสีที่บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ และสภาพร่างกายของเธอก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกันสี
“น้องสาว อยู่ที่นี่คนเดียวมืด ๆ ค่ำ ๆ มันอันตรายมากนะ”“ใช่แล้ว ทำไมไม่มาเที่ยวกับพวกพี่ล่ะ”“วางใจได้เลย พวกพี่เป็นคนดีนะ”น้ำเสียงของเธอเย็นชา “ฉันไม่สนใจ ไปให้พ้น แฟนของฉันใกล้จะมาถึงแล้ว เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากเลยแหละ!”ภายนอกดูเย็นชา แต่ภายในใจเธอกลับรู้สึกตระหนกอย่างยิ่งเห็นได้ชัดว่าเธอแต่งตัวแบบนี้ ไม่ได้อวดเผยรูปร่างเลยแม้แต่น้อยแต่ทำไมเพียงแค่ออกมาหน้าบ้าน เธอก็ยังเจอพวกโรคจิตเข้ามายุ่งวุ่นวายอีก นี่มันโชคร้ายเกินไปไหม?ชายกลุ่มนี้ได้ยินคำพูดของเธอแล้วก็ไม่ได้ยอมแพ้ แต่กลับตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมเสียอีกพวกเขาเริ่มไม่เกรงใจและเข้าหาเธอมากขึ้นหนึ่งในนั้นพยายามจะจับใบหน้าของเธอแต่มือของเขายังไม่ทันได้แตะต้องเธอ เขาก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาลอยขึ้นไปโลกหมุนไปต่อหน้าต่อตาเขา และเขาก็ร่วงลงกับพื้นอย่างแรงจากนั้นเพื่อนอีกสองคนของเขาก็ลอยไปในอากาศและร่วงลงมาข้าง ๆ กัน พร้อมกับความเจ็บปวดเย่ซิวมองพวกเขาอย่างเฉยเมย “ไปให้พ้น!”เมื่อเห็นว่าเย่ซิ่วมีความโหดร้ายและโยนพวกเขาออกไปได้ง่าย ๆ เช่นนั้น ชายเหล่านั้นต่างก็แสดงสีหน้าตกใจ พวกเขาล้มลุกคลุกคลานและดิ้นรนหนีออกไปแ
ด้านข้างผู้หญิงคนนี้มีผู้ชายที่ค่อนข้างหัวล้านคนหนึ่งยืนอยู่หลังจากที่ชายคนนั้นเห็นอวี่เฟยเฟย เขาก็ละสายตาจากเธอไม่ได้เลยอวี่เฟยเฟยถึงกับงงงัน “พี่เถาจื่อ ทำไมพี่ก็อยู่ที่นี่ล่ะคะ?”หลังจากนั้นเธอก็พูดกับเย่ซิวว่า “พี่คนนี้คือเพื่อนร่วมงานของฉันค่ะ”เถาจื่อกอดอกและมองเย่ซิวอย่างเย้ยยัน “ฉันจะบอกเธอให้นะ เธออย่าให้ใครมาหลอกง่าย ๆ สิหมอนี่อายุคงยังไม่ถึงยี่สิบล่ะสิท่า ร้ายกาจจริง ๆ เลยนะ”“ดูก็รู้แล้วว่าเขาตั้งใจมาหลอกเธอ ต้นปีนี้ผู้ชายหน้าไหว้หลังหลอกมันเยอะนะ อย่าไปหลงกลโดนหลอกเชียวล่ะ”อวี่เฟยเฟยรู้สึกโกรธเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้ “พี่เถาจื่อ พี่เข้าใจผิดแล้วล่ะ คุณเย่เป็นเพื่อนของฉัน และเขาก็เป็นคนดีจริง ๆ”เถาจื่อตะคอกอย่างเย็นชาเมื่อมองไปที่เย่ซิวพร้อมเอ่ยถาม “แล้วเงินเดือนหนึ่งเดือนของนายนี่ถึงสองหมื่นห้าหรือเปล่า? ฉันได้ยินมาว่าหมอแผนโบราณเงินเดือนเพียงแค่หมื่นสองหมื่นเอง”เย่ซิวหยิบน้ำผลไม้ขึ้นมาดื่มโดยไม่ใส่ใจคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเลยสักนิดเมื่อมองแวบแรกก็รู้แล้วว่าเธอนั้นหยิ่งยโสเป็นอย่างมากคนประเภทนี้ไม่มีค่าพอที่เย่ซิวจะเสวนาด้วยเมื่อเห็นเย่ซิวไ
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เถาจื่อก็ตกใจจนถอดสีหน้าทันที “นี่ น้องสาวพี่ ทำไมเธอถึงได้พูดกับคุณหวังแบบนั้นล่ะ? รีบขอโทษเขาเดี่ยวนี้เลยนะ”แม้อวี่เฟยเฟยจะใจดี แต่เธอก็ไม่ใช่คนอ่อนแอหากถึงขีดจำกัดแล้ว เธอก็จะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น “พี่เถาจื่อ เอาไว้เราค่อยคุยกันทีหลังดีกว่าค่ะ ตอนนี้ฉันต้องการเวลาส่วนตัว พวกพี่สองคนกรุณาออกไปด้วยค่ะ!”สีหน้าของเถ้าแก่หวังดูไม่ดีเป็นอย่างมาก “คุณทำแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณด้วยใจจริง แต่ทำไมคุณถึงไม่ให้เกียรติผมแบบนี้!”เถาจื่อรินเหล้าใส่แก้วแล้วยื่นให้อวี่เฟยเฟย “เฟยเฟย ดื่มเหล้าแก้วนี้ซะ ถือว่าชดใช้ในสิ่งที่ทำกับคุณหวัง แล้วฉันจะถือว่าเรื่องนี้จบ”อวี่เฟยเฟยยืนขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ในเมื่อพวกพี่จะอยู่ที่นี่ ถ้างั้นพวกฉันก็จะไป!“ตุ๊บ!เถ้าแก่หวังยืนขึ้นแล้วตบโต๊ะด้วยความโกรธ ความดุร้ายถูกปลดปล่อยออกจากร่างกายของเขา“เธอนี่น่าไม่อายจริง ๆ เป็นเกียรติของเธอที่ฉันจะดูถูกเธอ!”อวี่เฟยเฟยโกรธมากจนร่างกายของเธอสั่นสะท้าน “นี่คุณจะตบฉันในที่สาธารณะเหรอ?”“ถ้าฉันตบเธอแล้วมันจะทำไม? ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยตบผู้หญิงซะหน่อย!”เถ้าแก่หวังจะต้องได้ผู
เถาจื่อขยี้ตาอย่างแรง เธอสงสัยว่าเธอกำลังมีอาการประสาทหลอนอวี่เฟยเฟยค่อนข้างสงบ แต่ก็ยังดูตกใจมากอยู่ดีแม้ว่าเธอจะมาที่นี่เป็นครั้งแรก แต่แน่นอนว่าเธอเคยได้ยินมาว่าภูมิหลังของเจ้าของผับที่นี่นั้นใหญ่โตแต่ใครจะไปรู้ว่าเจ้าของที่ใหญ่โตแบบนี้ เมื่อเจอเย่ซิวจะศิโรราบแบบนี้หลังจากที่เหมยจื่อเห็นพลังของเย่ซิวครั้งนั้น เธอก็มีความชื่นชมอย่างมากต่อผู้ชายคนนี้ที่อายุน้อยกว่าเธอคิดมาตลอดว่าอยากจะเชิญให้เขามาสอนวรยุทธ แต่กลับยังไม่มีโอกาสนั้นเย่ซิวกลืนน้ำลาย แล้วชี้ไปที่เถ้าแก่หวังกับเถาจื่อ “สองคนนี้สร้างความวุ่นวายและรบกวนการทานข้าวของผมและเพื่อน”ดวงตาของเหมยจื่อฉายแววดุร้าย เธอรีบหันกลับไปมองทั้งสองคนทันทีทันใดนั้น หัวใจของคนทั้งสองก็เต้นแรงราวกับว่าพวกเขากำลังถูกสัตว์ขนาดยักษ์จ้องมอง“คุณเหมยจื่อ มันคือการเข้าใจผิด ผมไม่รู้ว่าคุณผู้ชายคนนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรกับคุณ” เถ้าแก่หวังอธิบายด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวสำหรับเถาจื่อ เธอยิ่งตื่นตระหนกขึ้นอีก เธอรีบคุกเข่าลงต่อหน้าเย่ซิวทันที “คุณเย่ซิวฉันผิดไปแล้ว เป็นฉันเองที่ตาถั่ว ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะคะ”เย่ซิวดูเย็นชาและไม่มองเธ
“ผมเหรอ? ผมก็แค่พลเมืองที่ดีของประเทศหลงเถิงก็เท่านั้นเอง”ฮ่าฮ่า!อวี่เฟยเฟยรู้สึกขบขันกับคำพูดของเย่ซิว เธอหัวเราะหนักจนกิ่งก้านดอกสะเทือนต้องบอกว่าผู้หญิงที่สวยเมื่อเธอยิ้มทำให้คนสบายตาสบายใจตอนนี้เธออารมณ์ดีเป็นอย่างมากเมื่ออารมณ์ดีขึ้นเธอจึงดื่มมากยิ่งขึ้น แม้ว่าใครจะพูดโน้มน้าวอย่างไรเธอก็ไม่หยุดดื่ม ไม่นานเธอก็ดื่มเหล้าเข้ม ๆ หนึ่งขวดจนหมด ดวงตาของอวี่เฟยเฟยพร่ามัวด้วยความมึนเมา ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ “นี่คุณเย่ ชนแก้วสิคะ“เย่ซิวส่ายหัว “คุณเมาแล้ว ผมจะไปส่งคุณกลับบ้านเอง”“ฉันไม่ได้เมานะ ฉันยังดื่มได้อีก”คนที่เมาแล้วก็มักจะชอบพูดแบบนี้ประจำเย่ซิวหมดคำจะพูดพลางยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้บริกรบริกรเดินเข้ามาเอ่ยถามด้วยความเคารพ “ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ทางเรารับใช้ครับ?”“เช็คบิลด้วยครับ”เดิมทีเป็นอวี่เฟยเฟยที่พูดว่าจะเลี้ยงเขาเป็นการตอบแทน แต่ดูจากสภาพของเธอในตอนนี้แล้ว แน่นอนว่าเธอคงจะจ่ายเงินไม่ไหวบริกรเอ่ยตอบว่า “สวัสดีครับคุณผู้ชาย หัวหน้าของเราได้บอกมาว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดหัวหน้าจะเป็นคนจัดการเองครับ”เย่ซิวพยักหน้าตอบรับ เขาไม่ได้ยืดเยื้อต่อผู้หญิงคน
ทางเลือกเดียวคือยอมแพ้หรือใช้วิธีการอื่นแล้ววิธีนั้นต้องมีการสัมผัสทางกายภาพกับอวี่เฟยเฟยแต่ถึงอย่างนั้นเย่ซิวก็ปฏิบัติต่ออวี่เฟยเฟยในฐานะผู้ป่วยเท่านั้น ไม่มีอะไรแอบแฝงเริ่มจากมือทั้งสองข้าง ต่อไปยังจุดช่านจง จากนั้นจึงไปยังจุดเทียนฉือ…เมื่อถึงตอนที่จะไปยังจุดเทียนฉือ อวี่เฟยเฟยก็ตื่นขึ้นมาอวี่เฟยเฟยสับสนเล็กน้อย เธอกลอกตาแล้วก้มศีรษะลง และเห็นมือของเย่ซิวกดมือของเธออยู่…“ว้าย!”หลังจากตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เธอก็ส่งเสียงกรีดร้องสูงออกมาเย่ซิวเก็บมือกลับอย่างใจเย็น “ผมนวดให้คุณตื่นน่ะ คุณดื่มจนเมา และผมก็ไม่รู้ว่าคุณพักอยู่ที่ไหน”“ฉันดื่มจนเมาเลยเหรอคะ?”อวี่เฟยเฟยพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเขินอายมากเธอนึกถึงสภาพขี้เมาของเธอเมื่อกี้ เธอดูเหมือนผู้หญิงบ้า เธอได้สูญเสียภาพลักษณ์ไปหมดแล้ว “ตายแล้ว!” มือทั้งสองจับไปที่หน้า ชื่อเสียงสูญสิ้นไปโดยสิ้นเชิงเธออายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี แต่หลังจากที่รู้สึกเขินอาย เธอก็เข้าไปพัวพันอีกครั้งและเงยหน้าขึ้นมองเย่ซิว “แต่แค่นวด…ต้องนวดจุดนั้นเลยเหรอคะ?”โตมาขนาดนี้แล้ว แม้แต่มือเธอก็ไม่เคยคิดอยาก
นอกจากนี้เย่ซิวยังมีฐานปลูกสมุนไพรอีกแห่งหนึ่งที่ประเทศหลงเถิง เมื่อรวมกันแล้ว ฐานทั้งสองแห่งสามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับการหลอมยาได้เป็นจำนวนมหาศาล ต่อไปเมื่อเขาสามารถหลอมยาได้มากพอ ก็จะสามารถใช้โอสถเหล่านั้นสร้างกองกำลังสุดแกร่งขึ้นมาได้ เป็นกองกำลังที่สามารถทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง เย่ซิวมีแนวคิดเกี่ยวกับกองกำลังนี้มานานแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มดำเนินการ สำหรับแกนหลักของกองกำลัง เย่ซิววางแผนให้สมาชิกของหน่วยกองกำลังหมาป่าราตรีเป็นผู้รับผิดชอบ พวกเขามีทั้งพลังและประสบการณ์มากพอที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายกันไป เย่ซิวมอบหมายให้หวังซวงเป็นผู้จัดการเรื่องรถถังและทองคำ โดยทองคำบางส่วนจะถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเสบียงและทรัพยากร ก่อนจะส่งไปให้ถังอวิ้น การพัฒนาของประเทศสุ่ยจือยังคงต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องกังวลมากนักก็คือ ประเทศสุ่ยจือมีภูเขาล้อมรอบทั้งสามด้าน แนวภูเขาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ทำให้เป็นปราการธรรมชาติที่แข็งแกร่ง โอกาสที่ประเทศนี้จะถูกโจมตีนั้นค่อนข้างต่ำ อีกทั้งตอนนี้สภาพของที
เย่ซิวเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ดังนั้นการบำเพ็ญที่กินเวลาสองชั่วโมงกว่าจึงเริ่มขึ้น เขายังช่วยหนานกงอวี่แก้ไขข้อบกพร่องบางอย่างอีกด้วย… หลังจากนั้น หนานกงเสวี่ยก็เสร็จสิ้นงานของวันและกลับมาที่วิลล่า เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมาก็รู้สึกดีใจมาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองน้องสาวของตัวเองอย่างตำหนิเล็กน้อย ในใจคิดว่า ‘ยายตัวแสบ แอบกินเงียบ ๆ ไม่แบ่งพี่เลยนะ’จากนั้นเธอก็เข้าร่วมการบำเพ็ญตนด้วย พลังของเย่ซิวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็กำลังก้าวเข้าสู่จินตานขั้นสมบูรณ์อย่างมั่นคง เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์ เพราะตามที่บันทึกโบราณได้กล่าวไว้ เมื่อไปถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ที่มีพรสวรรค์สูงบางคนจะสามารถเข้าใจวิถีแห่งสวรรค์และโลกได้พวกเขาสามารถรวบรวมร่างพลังขนาดใหญ่ได้หลายร้อยหรือแม้แต่พันเมตร ดึงพลังของสวรรค์และโลกมาใช้ ซึ่งมีพลังทำลายล้างมหาศาล ถึงขั้นที่เมืองทั้งเมืองอาจไม่สามารถต้านทานได้ ในมือของเขายังมีโอสถเม็ดหนึ่ง ซึ่งได้มาตอนที่ได้รับเตาเพลิงปฐพีมา แต่เขาก็อดกลั้นไว้ ไม่ได้ใช้มัน นี่คือโอสถที่เขาตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ตอนที่ทะล
พรีเอลล์ถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย เย่ซิวไม่ได้ปฏิเสธเด็ดขาดในทันที นั่นหมายความว่ายังพอมีช่องทางให้เจรจาต่อรองได้ หลังจากพูดคุยกันอีกสักพัก เขาก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานนัก เย่ซิวก็ได้รับรูปภาพหนึ่งทางโทรศัพท์ของเขา เมื่อเปิดดู ดวงตาของเขาหดเล็กลงเล็กน้อย ในภาพเป็นใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงสาวที่สวยจนยากจะบรรยายเป็นคำพูด เธอมีผมสีทองส่องประกายราวกับเปล่งแสงได้ ดวงตาสีฟ้าลึกเหมือนอัญมณีไพลินใบหน้าสวยบริสุทธิ์แต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ยั่วยวนเล็กน้อย สันจมูกโด่ง ริมฝีปากเล็กสีชมพูชวนหลงใหล สิ่งที่ทำให้เย่ซิวรู้สึกสะดุดตาคือออร่าของหญิงสาวในภาพช่างคล้ายกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็ง ทั้งสองมีบรรยากาศที่ดูสูงส่ง ดั่งกำเนิดมาเพื่อเป็นผู้ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง มองลงมายังสรรพสิ่งเบื้องล่าง เย่ซิวอดไม่ได้ที่จะคิดไปว่า หรือว่าหญิงสาวทั้งสองคนนี้จะมีความเกี่ยวข้องกัน?เดิมทีเย่ซิวไม่ได้สนใจอะไรมากเกี่ยวกับลูกพี่ลูกน้องที่พรีเอลล์พูดถึง แต่ตอนนี้เขากลับต้องคิดทบทวนใหม่ คงต้องหาโอกาสไปดูให้เห็นกับตา ใต้ภาพ พรีเอลล์ยังทิ้งข้อความไว้ด้วย : “เป็นไงล่ะ? สวยส
"มีอะไรหรือเปล่า?" เย่ซิวกดรับสาย คนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่น เป็นพรีเอลล์ครั้งก่อนเขาเผลอมองข้ามเธอไป ผู้หญิงคนนี้คงโกรธมากแน่ ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ในมุมหนึ่งของสถานที่แห่งหนึ่ง พรีเอลล์มีสีหน้าดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่เสียงที่เธอพูดกลับอ่อนหวานเหลือจะกล่าว จนทำให้ผู้ฟังขนลุกชัน "พี่ชายที่รัก ตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอ คิดถึงมากเลยนะ" เย่ซิวแสยะยิ้มเย็น ถ้าเขาไม่เคยติดต่อกับเธอมาก่อน คงเผลอเชื่อคำพูดของเธอไปแล้ว "พูดมาเถอะ มีธุระอะไร ระหว่างเราไม่ต้องมาเสียเวลาพูดจาอ้อมค้อม" "จะมีอะไรได้ยังไงล่ะ หรือฉันคิดถึงคุณไม่ได้เหรอ? เราสองคนก็เคยทำแบบนั้นแล้วนี่นา แต่ทำไมคุณถึงยังสงสัยว่าฉันมีแผนอะไรอีกล่ะ เสียใจจังเลย" เย่ซิวแค่นเสียงเยาะที่มุมปาก "งั้นเหรอ ถ้าไม่มีธุระอะไร งั้นผมวางสายแล้วนะ" "เดี๋ยว ๆ ๆ!" เสียงของพรีเอลล์เปลี่ยนเป็นปกติขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดอย่างหงุดหงิด"ไอ้คนไร้รสนิยม! คุณนี่ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมถึงมีผู้หญิงชอบเยอะขนาดนี้แต่ก็เอาเถอะ นี่โทรมานี่ก็เพราะมีเรื่องจะถาม ว่าคุณจะขายหุ่นยนต์ให้ฉันสักสองสามตัวได้ไหม ราคาคุณตั้งมาได้เลย"
เย่ซิวกำหนดเงื่อนไขให้พวกเขาส่งคนมาได้เพียงแค่หนึ่งร้อยคน และอีกฝ่ายก็ตอบตกลง หลังจากจบการสนทนา เย่ซิวกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม พลางจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ความบาดหมางระหว่างเขากับประเทศจ้านคงไม่จบลงง่าย ๆ แน่นอน เขารู้ดีว่าประเทศนี้เป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น เขาตบหน้าพวกนั้นอย่างรุนแรงขนาดนี้ อีกฝ่ายจะต้องหาทางเอาคืนแน่นอน ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งให้สายการผลิตเร่งสร้างจักรกลมังกรดำอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากสายการผลิตเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ขอแค่เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ส่วนที่เหลือก็ให้ระบบจัดการได้เลยด้วยประสิทธิภาพการผลิตในปัจจุบัน สามารถสร้างจักรกลมังกรดำได้วันละสองตัว ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ ต้องเสริมแนวป้องกันบริเวณพรมแดนทุกจุด และต้องรับสมัครผู้ควบคุมหุ่นยนต์เพิ่มอีก ยังต้องเตรียมรับมือกับมาตรการทางทหารจากอำนาจอื่น ๆ รอบตัว แต่โชคดีที่ตอนนี้เขามีคนเก่งอยู่ในทีมเยอะขึ้นแล้ว ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพียงแค่ออกคำสั่งก็พอ หลังจากนั้นเขาก็ออกจากที่นี่และตรงไปหาหยางถิงถิงที่กำลังทำงานสร้างถนน สาวน้อยคนนี้ดูอารมณ์เสีย หงุดหงิดไม่น้อย
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เทคโนโลยีของหุ่นยนต์ก็ไม่ใช่ว่าจะถ่ายโอนไม่ได้""แต่เรื่องแบบนี้ พวกเราควรมานั่งคุยกันให้ละเอียดเสียก่อน""อีกสองวันเป็นวันดี ผมขอเชิญทุกท่านมาหารืออย่างจริงจังดีไหม?"แน่นอนว่าเทคโนโลยีของหุ่นยนต์ไม่มีทางถูกส่งมอบให้พวกเขา นี่เป็นเพียงแค่กลยุทธ์ถ่วงเวลาเท่านั้นตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเย่ซิวหรือประเทศหลงเถิง ต่างก็ต้องการเวลาเย่ซิวต้องการเวลาเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับวิญญาณก่อกำเนิดประเทศหลงเถิงเองก็ต้องการเวลาในการผลิตหุ่นยนต์ในปริมาณมากเช่นกันเมื่อถึงตอนนั้น หากพวกเขาเปิดตัวหุ่นยนต์เป็นพัน ๆ ตัว พวกโจรเหล่านี้ก็จะถอยไปเองผู้นำแต่ละประเทศที่เข้าร่วมประชุมเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น มีไม่น้อยที่ถึงกับแสดงรอยยิ้มออกมาประเทศหลงเถิงเป็นที่รู้กันดีว่ามักจะแข็งกร้าวเมื่อพูดถึงผลประโยชน์หลักของตนเองแต่ตอนนี้พวกเขากลับยอมผ่อนปรน ทุกคนจึงคิดว่ามีโอกาสที่ข้อตกลงนี้จะเป็นไปได้ ดังนั้นพวกเขาจึงตอบตกลงกันทั้งหมดหลังจากนั้น การประชุมทางวิดีโอที่ทั่วโลกจับตามองก็สิ้นสุดลงด้านของเย่ซิว ขณะเดียวกันก็ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศจ้านชายผู้นั้นเป็นชายร่างใหญ่ มีหนวด
คำพูดดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหลักการอันสูงส่ง แต่ความจริงแล้วมันเป็นการปล้นดี ๆ นี่เอง ผู้นำประเทศหลงเถิงตั้งแต่ต้นจนจบยังคงรักษาท่าทีนิ่งสงบไม่มีแม้แต่แววความไม่พอใจบนใบหน้า จนกระทั่งพวกเขาพูดจบ เขาถึงได้พูดขึ้นมาช้า ๆ ว่า "ทุกท่านคิดว่าตอนนี้ประเทศหลงเถิงของเราผลิตหุ่นยนต์ไปแล้วกี่ตัว?" ทันทีที่คำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาทั้งที่ประชุมก็เงียบกริบ ใช่สิ พวกเขามัวแต่รีบร้อนเกินไป ในหัวมีเพียงความคิดเดียวคือต้องรีบช่วงชิงเทคโนโลยีของจักรกลมังกรดำมาให้ได้เร็วที่สุด แต่พวกเขากลับไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้เลย เมื่อถูกเตือนขึ้นมาแบบนี้ หลายคนรู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลังเหงื่อเย็นไหลซึมออกมาไม่หยุด ประเทศหลงเถิงสามารถมอบจักรกลมังกรดำถึงสิบสามตัวให้เย่ซิว นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องมีสต๊อกอีกจำนวนมากเท่าไหร่?พวกเขาต่างก็เห็นพลังของจักรกลมังกรดำกันหมดแล้ว เพียงแค่สิบสามตัวก็สามารถทำลายล้างกองกำลังหลักของมหาอำนาจได้ ถ้าหากประเทศหลงเถิงมีจำนวนมากกว่านี้ ประเทศขนาดกลางและขนาดเล็กบางประเทศอาจถูกกวาดล้างจนหายไปจากแผนที่ได้เลย!เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศเล็กคนหนึ่งปาดเหงื่อที่หน้าผากแล้วถามขึ้น
เย่ซิวรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางของหนานกงเสวี่ยเขาจึงฟาดฝ่ามือลงไปหนัก ๆ หนึ่งที "เวลานี้แล้วยังมาคิดเรื่องพวกนี้อีก แถมเธอยังเป็นกษัตริย์ด้วยระวังภาพลักษณ์ของตัวเองหน่อยสิ" หนานกงเสวี่ยมองเขาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายราวกับน้ำใส "แล้วมันจะเป็นอะไรไปล่ะ? ยังไงทุกคนที่นี่ก็เป็นพวกเดียวกัน อีกอย่างก็ฉันดีใจนี่นา" ตอนนี้เธออยู่ในอารมณ์ที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เธอลอบดีใจที่ตอนนั้นตัดสินใจยอมรับเย่ซิวซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดในชีวิต เธอสามารถมองเห็นอนาคตที่ยิ่งใหญ่ของประเทศปิงจือได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากประชาชนของประเทศปิงจือได้เห็นกษัตริย์ของพวกเขาทำตัวแบบนี้กับเย่ซิว เกรงว่าหลายคนคงรับไม่ได้ เฉินหลานกลับไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะในสายตาของเธอเย่ซิวคือบุคคลในตำนาน เป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง ท้ายที่สุด เย่ซิวก็ไม่ได้ทำตามที่หนานกงเสวี่ยคาดหวัง เขาให้เธอกลับไปประจำการก่อนเพื่อไม่ให้ทางนั้นเกิดปัญหา หนานกงเสวี่ยเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียดาย แต่พอเย่ซิวบอกกับเธอว่า"เดี๋ยวฉันจัดการธุระเสร็จแล้วจะไปหาเธอ" หญิงสาวก็กลับมายิ้มดีใจอีกครั้งหุ่นยนต์ทั้งสิบสามต
เครื่องบินห้าลำพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยตรง การยิงถล่มอย่างรุนแรงทำให้เครื่องบินรบถูกสอยร่วงลงทีละลำ ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!เสียงระเบิดดังกึกก้องต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพลิงไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทั่วแนวชายแดน กองทัพอัคคีแดงซึ่งเคยเป็นที่ขนานนามว่าเป็นกองทัพไร้เทียมทาน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง พากันล่าถอยอย่างอลหม่าน ทว่าระหว่างการล่าถอย พวกเขากลับถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล กระทิงคลั่งคำรามเสียงดัง ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันมหึมายิ่งขยายใหญ่ขึ้น เขาคำรามพลางพุ่งเข้าไปในห้องบัญชาการ สกัดกั้นแม่ทัพพยัคฆ์ขาวที่กำลังคิดจะหลบหนี การปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้น แม้ว่าแม่ทัพพยัคฆ์ขาวจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับกระทิงคลั่งแล้ว ยังถือว่าอ่อนด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพียงไม่กี่นาที เขาก็ถูกกระทิงคลั่งจับตัวได้ อย่างไรก็ตาม กระทิงคลั่งไม่ได้สังหารเขา แต่คว้าตัวแม่ทัพพยัคฆ์ขาวเอาไว้ หลบหลีกการโจมตีจากปืนใหญ่และระเบิด ก่อนจะพากลับไปยังค่ายของฝ่ายตน เพราะหมอนี่ถือเป็นตัวประกันที่มีค่ามาก และจะเป็นหม