ด้านข้างผู้หญิงคนนี้มีผู้ชายที่ค่อนข้างหัวล้านคนหนึ่งยืนอยู่หลังจากที่ชายคนนั้นเห็นอวี่เฟยเฟย เขาก็ละสายตาจากเธอไม่ได้เลยอวี่เฟยเฟยถึงกับงงงัน “พี่เถาจื่อ ทำไมพี่ก็อยู่ที่นี่ล่ะคะ?”หลังจากนั้นเธอก็พูดกับเย่ซิวว่า “พี่คนนี้คือเพื่อนร่วมงานของฉันค่ะ”เถาจื่อกอดอกและมองเย่ซิวอย่างเย้ยยัน “ฉันจะบอกเธอให้นะ เธออย่าให้ใครมาหลอกง่าย ๆ สิหมอนี่อายุคงยังไม่ถึงยี่สิบล่ะสิท่า ร้ายกาจจริง ๆ เลยนะ”“ดูก็รู้แล้วว่าเขาตั้งใจมาหลอกเธอ ต้นปีนี้ผู้ชายหน้าไหว้หลังหลอกมันเยอะนะ อย่าไปหลงกลโดนหลอกเชียวล่ะ”อวี่เฟยเฟยรู้สึกโกรธเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้ “พี่เถาจื่อ พี่เข้าใจผิดแล้วล่ะ คุณเย่เป็นเพื่อนของฉัน และเขาก็เป็นคนดีจริง ๆ”เถาจื่อตะคอกอย่างเย็นชาเมื่อมองไปที่เย่ซิวพร้อมเอ่ยถาม “แล้วเงินเดือนหนึ่งเดือนของนายนี่ถึงสองหมื่นห้าหรือเปล่า? ฉันได้ยินมาว่าหมอแผนโบราณเงินเดือนเพียงแค่หมื่นสองหมื่นเอง”เย่ซิวหยิบน้ำผลไม้ขึ้นมาดื่มโดยไม่ใส่ใจคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเลยสักนิดเมื่อมองแวบแรกก็รู้แล้วว่าเธอนั้นหยิ่งยโสเป็นอย่างมากคนประเภทนี้ไม่มีค่าพอที่เย่ซิวจะเสวนาด้วยเมื่อเห็นเย่ซิวไ
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เถาจื่อก็ตกใจจนถอดสีหน้าทันที “นี่ น้องสาวพี่ ทำไมเธอถึงได้พูดกับคุณหวังแบบนั้นล่ะ? รีบขอโทษเขาเดี่ยวนี้เลยนะ”แม้อวี่เฟยเฟยจะใจดี แต่เธอก็ไม่ใช่คนอ่อนแอหากถึงขีดจำกัดแล้ว เธอก็จะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น “พี่เถาจื่อ เอาไว้เราค่อยคุยกันทีหลังดีกว่าค่ะ ตอนนี้ฉันต้องการเวลาส่วนตัว พวกพี่สองคนกรุณาออกไปด้วยค่ะ!”สีหน้าของเถ้าแก่หวังดูไม่ดีเป็นอย่างมาก “คุณทำแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณด้วยใจจริง แต่ทำไมคุณถึงไม่ให้เกียรติผมแบบนี้!”เถาจื่อรินเหล้าใส่แก้วแล้วยื่นให้อวี่เฟยเฟย “เฟยเฟย ดื่มเหล้าแก้วนี้ซะ ถือว่าชดใช้ในสิ่งที่ทำกับคุณหวัง แล้วฉันจะถือว่าเรื่องนี้จบ”อวี่เฟยเฟยยืนขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ในเมื่อพวกพี่จะอยู่ที่นี่ ถ้างั้นพวกฉันก็จะไป!“ตุ๊บ!เถ้าแก่หวังยืนขึ้นแล้วตบโต๊ะด้วยความโกรธ ความดุร้ายถูกปลดปล่อยออกจากร่างกายของเขา“เธอนี่น่าไม่อายจริง ๆ เป็นเกียรติของเธอที่ฉันจะดูถูกเธอ!”อวี่เฟยเฟยโกรธมากจนร่างกายของเธอสั่นสะท้าน “นี่คุณจะตบฉันในที่สาธารณะเหรอ?”“ถ้าฉันตบเธอแล้วมันจะทำไม? ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยตบผู้หญิงซะหน่อย!”เถ้าแก่หวังจะต้องได้ผู
เถาจื่อขยี้ตาอย่างแรง เธอสงสัยว่าเธอกำลังมีอาการประสาทหลอนอวี่เฟยเฟยค่อนข้างสงบ แต่ก็ยังดูตกใจมากอยู่ดีแม้ว่าเธอจะมาที่นี่เป็นครั้งแรก แต่แน่นอนว่าเธอเคยได้ยินมาว่าภูมิหลังของเจ้าของผับที่นี่นั้นใหญ่โตแต่ใครจะไปรู้ว่าเจ้าของที่ใหญ่โตแบบนี้ เมื่อเจอเย่ซิวจะศิโรราบแบบนี้หลังจากที่เหมยจื่อเห็นพลังของเย่ซิวครั้งนั้น เธอก็มีความชื่นชมอย่างมากต่อผู้ชายคนนี้ที่อายุน้อยกว่าเธอคิดมาตลอดว่าอยากจะเชิญให้เขามาสอนวรยุทธ แต่กลับยังไม่มีโอกาสนั้นเย่ซิวกลืนน้ำลาย แล้วชี้ไปที่เถ้าแก่หวังกับเถาจื่อ “สองคนนี้สร้างความวุ่นวายและรบกวนการทานข้าวของผมและเพื่อน”ดวงตาของเหมยจื่อฉายแววดุร้าย เธอรีบหันกลับไปมองทั้งสองคนทันทีทันใดนั้น หัวใจของคนทั้งสองก็เต้นแรงราวกับว่าพวกเขากำลังถูกสัตว์ขนาดยักษ์จ้องมอง“คุณเหมยจื่อ มันคือการเข้าใจผิด ผมไม่รู้ว่าคุณผู้ชายคนนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรกับคุณ” เถ้าแก่หวังอธิบายด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวสำหรับเถาจื่อ เธอยิ่งตื่นตระหนกขึ้นอีก เธอรีบคุกเข่าลงต่อหน้าเย่ซิวทันที “คุณเย่ซิวฉันผิดไปแล้ว เป็นฉันเองที่ตาถั่ว ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะคะ”เย่ซิวดูเย็นชาและไม่มองเธ
“ผมเหรอ? ผมก็แค่พลเมืองที่ดีของประเทศหลงเถิงก็เท่านั้นเอง”ฮ่าฮ่า!อวี่เฟยเฟยรู้สึกขบขันกับคำพูดของเย่ซิว เธอหัวเราะหนักจนกิ่งก้านดอกสะเทือนต้องบอกว่าผู้หญิงที่สวยเมื่อเธอยิ้มทำให้คนสบายตาสบายใจตอนนี้เธออารมณ์ดีเป็นอย่างมากเมื่ออารมณ์ดีขึ้นเธอจึงดื่มมากยิ่งขึ้น แม้ว่าใครจะพูดโน้มน้าวอย่างไรเธอก็ไม่หยุดดื่ม ไม่นานเธอก็ดื่มเหล้าเข้ม ๆ หนึ่งขวดจนหมด ดวงตาของอวี่เฟยเฟยพร่ามัวด้วยความมึนเมา ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ “นี่คุณเย่ ชนแก้วสิคะ“เย่ซิวส่ายหัว “คุณเมาแล้ว ผมจะไปส่งคุณกลับบ้านเอง”“ฉันไม่ได้เมานะ ฉันยังดื่มได้อีก”คนที่เมาแล้วก็มักจะชอบพูดแบบนี้ประจำเย่ซิวหมดคำจะพูดพลางยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้บริกรบริกรเดินเข้ามาเอ่ยถามด้วยความเคารพ “ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ทางเรารับใช้ครับ?”“เช็คบิลด้วยครับ”เดิมทีเป็นอวี่เฟยเฟยที่พูดว่าจะเลี้ยงเขาเป็นการตอบแทน แต่ดูจากสภาพของเธอในตอนนี้แล้ว แน่นอนว่าเธอคงจะจ่ายเงินไม่ไหวบริกรเอ่ยตอบว่า “สวัสดีครับคุณผู้ชาย หัวหน้าของเราได้บอกมาว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดหัวหน้าจะเป็นคนจัดการเองครับ”เย่ซิวพยักหน้าตอบรับ เขาไม่ได้ยืดเยื้อต่อผู้หญิงคน
ทางเลือกเดียวคือยอมแพ้หรือใช้วิธีการอื่นแล้ววิธีนั้นต้องมีการสัมผัสทางกายภาพกับอวี่เฟยเฟยแต่ถึงอย่างนั้นเย่ซิวก็ปฏิบัติต่ออวี่เฟยเฟยในฐานะผู้ป่วยเท่านั้น ไม่มีอะไรแอบแฝงเริ่มจากมือทั้งสองข้าง ต่อไปยังจุดช่านจง จากนั้นจึงไปยังจุดเทียนฉือ…เมื่อถึงตอนที่จะไปยังจุดเทียนฉือ อวี่เฟยเฟยก็ตื่นขึ้นมาอวี่เฟยเฟยสับสนเล็กน้อย เธอกลอกตาแล้วก้มศีรษะลง และเห็นมือของเย่ซิวกดมือของเธออยู่…“ว้าย!”หลังจากตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เธอก็ส่งเสียงกรีดร้องสูงออกมาเย่ซิวเก็บมือกลับอย่างใจเย็น “ผมนวดให้คุณตื่นน่ะ คุณดื่มจนเมา และผมก็ไม่รู้ว่าคุณพักอยู่ที่ไหน”“ฉันดื่มจนเมาเลยเหรอคะ?”อวี่เฟยเฟยพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเขินอายมากเธอนึกถึงสภาพขี้เมาของเธอเมื่อกี้ เธอดูเหมือนผู้หญิงบ้า เธอได้สูญเสียภาพลักษณ์ไปหมดแล้ว “ตายแล้ว!” มือทั้งสองจับไปที่หน้า ชื่อเสียงสูญสิ้นไปโดยสิ้นเชิงเธออายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี แต่หลังจากที่รู้สึกเขินอาย เธอก็เข้าไปพัวพันอีกครั้งและเงยหน้าขึ้นมองเย่ซิว “แต่แค่นวด…ต้องนวดจุดนั้นเลยเหรอคะ?”โตมาขนาดนี้แล้ว แม้แต่มือเธอก็ไม่เคยคิดอยาก
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?” เย่ซิวโบกมือต่อหน้าอวี่เฟยเฟยอวี่เฟยเฟยเอ่ยตอบโดยไม่รู้ตัว “ฉันตกลงค่ะ”เย่ซิวถึงกับสงสัย “อะไรนะครับ?”ไม่กีวินาที่ต่อมาเธอก็ได้สติและอายมากจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี“ไม่มีอะไรค่ะ ๆ”เธอรีบส่ายหน้าระงับความคิดยุ่งเหยิงในใจตัวเอง“ถึงบ้านฉันแล้ว คุณจะเข้าไปดื่มน้ำสักแก้วไหมคะ?”ตอนที่เธอพูดคำนี้ออกมาใจเธอเต้นแรงมาก และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ตัวเองเชิญเพศตรงข้ามเข้าบ้านอีกด้วย “ไม่เป็นไร นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณรีบเข้าไปพักผ่อนเถอะ”“ก็ได้ค่ะ คุณก็ระวังด้วยนะคะ”เย่ซิวพยักหน้าตอบในใจของอวี่เฟยเฟยรู้สึกผิดหวัง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเชิญผู้ชายเข้าห้องแต่กลับถูกปฏิเสธในใจได้แต่สงสัยว่าตัวเองมีเสน่ห์ไม่พอหรือเปล่าแต่อีกความคิดหนึ่งก็น่าจะไม่ใช่ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีเสน่ห์มากพอ แต่เป็นเพราะเย่ซิวนั่นเป็นสุภาพบุรุษ เขาคงจะไม่เข้าบ้านผู้หญิงตามใจชอบเมื่อคิดได้แบบนี้แล้ว เย่ซิวยิ่งอยู่ใจของเธอมากขึ้นทันทีต้องบอกว่า จินตนาการที่มากเกินไปอันตรายถึงชีวิตเย่ซิวไม่ได้คิดมาก เขาแค่อยากจะกลับไปพักผ่อนก็เท่านั้นไม่นาน ก็เกือบจะเจ็ดโมงเช้าของวันถัดไปแล้ว เย่ซิว หลิ่ว
เย่ซิวหันกลับมาและได้เห็นหลี่หรูเฟิงเดินเข้ามาท่ามกลางบอดี้การ์ดหญิงสี่คนแขนทั้งสองข้างของเขาอยู่ในเฝือก เห็นได้ชัดว่ามันยังไม่หายดีหลี่หรูเฟิงอยากจะฆ่าเย่ซิวให้ตายมาตั้งนานแล้ว หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ เขาก็ยังไม่มีโอกาสได้ชำระแค้นเลยเขาเพิ่งได้ยินข่าวเมื่อวานนี้ เขาจึงตัดสินใจมายังสถานที่ประลองยุทธทันทีแม้ว่าแพทย์จะห้ามก็ตามหลี่หรูเฟิงต้องการกำจัดเขาให้เร็วที่สุดหากเย่ซิวไม่เข้ามาขวางทางตั้งแต่แรก ตนคงปล่อยตระกูลหลิ่วไปแล้ว เดิมทีเรื่องนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำเย่ซิวไม่แยแสและหันไปพูดกับสองสาวว่า “เข้าไปกันเถอะ”หลี่หรูเฟิงโกรธมาก “ฉันพูดกับแกอยู่ ไม่ได้ยินเหรอ?!”เย่ซิวส่ายหน้า คนแบบนี้ไม่ควรค่าให้เขาเสียเวลาด้วยเลยสักนิด เจตนาการเพิกเฉยเช่นนี้ยิ่งทำให้หลี่หรูเฟิงโกรธมากยิ่งขึ้น“นี่นายจะโอหังเกินไปแล้วนะ! พ่อแม่นายไม่สั่งสอนความเป็นคนเลยหรือไง?”ในเวลานั้น จางจื้อเซิงมาถึงลุงของเขาก็มาด้วยเช่นกันยอดฝีมือวรยุทธหลายที่อยู่ที่นั้นออกมาต้อนรับพวกเขาและแสดงความเคารพต่อพวกเขาทั้งสองเป็นอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงจางจื้อเซิง อาจารย์ลุงของเขาคนนั้นเป็นจอมยุทธขั้นสูงสุด
ที่บนสังเวียน ภายในลานประลองยุทธ เย่ซิวและจางจื้อเซิงยืนอยู่ที่นั่นหลี่หรูปิงที่ยืนอยู่ด้านล่างตะโกนขึ้นว่า “ประลองอย่างเดียวคงน่าเบื่อแย่ ผมจะเป็นเจ้าภาพเอง ทุกคนสามารถเดิมพันได้ว่าใครชนะและใครแพ้...“หากใครเดิมพันผู้อาวุโสจางชนะหนึ่งต่อหนึ่งเท่า หากเดิมพันว่าเย่ซิวชนะ อัตราต่อรองคือหนึ่งเท่าต่อสิบ!”มีคนหัวเราะเสียงดังแล้วเอ่ยขึ้น “แล้วคุณจะต้องเสียเปรียบแน่นอน ผมจะเดิมพันหนึ่งล้าน ผมพนันว่าผู้อาวุโสจางจะชนะ”“ผมขอเดิมพันห้าแสน ผู้อาวุโสจางจะชนะ”“นี่มันส่งเงินมาให้ฟรีชัด ๆ ผมพนันห้าล้าน!”นอกจากหลิ่วอวี้ฝูแล้วก็ไม่มีคิดว่าเย่ซิวจะสามารถเอาชนะจางจื้อเซิงได้พวกเขาทั้งหมดวางเดิมพันให้จางจื้อเซิงชนะผ่านไปไม่นาน หลี่หรูปิงก็ได้รับเงินเดิมพันราว ๆ ห้าสิบล้าน เขาไม่สนใจที่จะสูญเสียเงินจำนวนเล็กน้อยนี้ เขาแค่อยากจะเหยียบย่ำเย่ซิวไว้ใต้เท้าของเขาในเวลานี้ หลิ่วอวี้ฝูได้เดินเข้ามา “อัตราต่อรองคือหนึ่งต่อสิบ คุณคงไม่เบี้ยวใช่ไหมคะ?“ไม่ แน่นอน”“ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเดิมพันเย่ซิวชนะหนึ่งพันล้าน! ฉันหวังว่าคุณจะไม่เบี้ยวนะ!”เธอวางเช็คหนึ่งพันล้านลงตรงหน้าหลี่หรูปิงหลี่หรู
“คุณค่อย ๆ ดูไปก่อนนะ ฉันจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือจะไปรอฉันที่ห้องนอนก็ได้”เธอพูดด้วยน้ำเสียงสงบเหมือนกำลังคุยเรื่องอาหารเย็นว่าจะกินอะไร“คุณไปเถอะ”เย่ซิวตอบก่อนจะตั้งใจอ่านเอกสารทั้งหมด โดยจดจำข้อมูลทุกอย่างลงในสมองสำหรับข้อมูลองค์กรขนาดใหญ่เช่นนี้ หากให้เย่ซิวสร้างขึ้นด้วยตัวเอง คงใช้เวลาอย่างน้อยห้าถึงหกปีกว่าจะสำเร็จได้แต่ชื่นชมว่าอาจารย์เขาช่างยอดเยี่ยมเสียจริง!อีกด้านหนึ่ง หยางชิงเสวี่ยเดินกลับไปที่ห้องนอนก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าสายตาเธอจับจ้องที่ชุดเดรสตัวยาวสีแดงชุดหนึ่งบนเดรสตัวนั้นปักลายหงส์กางปีกโบยบินด้วยด้ายทองอย่างวิจิตรบรรจงหงส์ตัวนั้นดูเหมือนมีชีวิตจริง ๆ ราวกับสามารถโบยบินออกมาจากชุดได้ทุกเมื่อหยางชิงเสวี่ยลูบชุดเดรสนั้นเบา ๆ ภาพความทรงจำบางอย่างปรากฏขึ้นในหัวของเธอ จากนั้นเธอก็หยิบชุดและเดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีปกติแล้วหยางชิงเสวี่ยมักจะแต่งตัวอย่างเรียบร้อยและสุภาพเสมอแต่เมื่อเธอปลดพันธนาการออกจากร่างกายแล้ว ความงดงามสมบูรณ์แบบของเธอก็เผยออกมา ต่อให้นางแบบระดับโลกมาอยู่ตรงหน้าเธอก็ยังเทียบไม่ติดเสียงน้ำจากฝักบัวไหลรินลงมาชโลมร่างกายของ
ตอนนี้เย่ซิวกลายเป็นคนดังระดับโลกไปแล้ว ดังยิ่งกว่าดาราระดับนานาชาติหลายเท่าถ้าเขาหันไปทำไลฟ์สด วันเดียวก็คงทำรายได้เป็นหลายร้อยล้านหรืออาจถึงพันล้านเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น เขาจึงเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองก่อนออกจากบ้านเขามาหยุดอยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัย ก่อนจะเงยหน้ามองชื่อสถานที่นั้นและเดินเข้าไปทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีนักศึกษาเดินสวนไปมาขวักไขว่ทุกครั้งที่มาที่นี่ เย่ซิวจะรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากเขาเดินไปที่ศาลาพักผ่อนอีกครั้ง และเห็นร่างที่คุ้นเคยอยู่ตรงนั้นที่นี่อาจเป็นสถานที่พิเศษสำหรับหยางชิงเสวี่ย นอกจากเธอแล้วก็มีจวงเสี่ยวหยิงที่เย่ซิวเคยเห็นว่ามาที่นี่เช่นกันเขาเดินเข้าไปในศาลาอย่างไม่รีบร้อนแล้วนั่งลงตรงหน้าเธอหยางชิงเสวี่ยที่กำลังอ่านหนังสือท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบเงยหน้าขึ้นดวงตาที่ใสราวคริสตัลของเธอเหมือนสามารถมองทะลุทุกสิ่งในโลกนี้ได้เธอกะพริบตาเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากสีชมพูจะเผยอขึ้น “ยินดีด้วยที่เข้าสู่ระดับจินตานแล้ว”เย่ซิวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ผมเปลี่ยนทั้งรูปร่างและหน้าตา คุณก็ยังจำผมได้อีกเหรอ?”หยางชิงเสวี่ยปิดห
เย่ซิวโทรหาชูตง อวี่เฟยเฟย เสวี่ยเหมย หลัวอีอี แล้วเรียกพวกเธอมาที่บ้านพร้อมหน้ากันอย่างแรก ทุกคนต้องเป็นห่วงกันอยู่แล้ว การได้มาเจอกันและกินข้าวด้วยกัน น่าจะทำให้พวกเธอสบายใจขึ้นอย่างที่สอง เย่ซิวตั้งใจที่จะช่วยยกระดับพลังของพวกเธอทั้งหมดในคราวเดียวหลังวางสาย เขาก็ชี้ไปที่เด็กผู้หญิงที่ดูมีท่าทีเขินอาย ก่อนเอ่ยถามว่า “พวกคุณไม่คิดว่าเธอคล้ายใครบางคนเหรอ?”สาว ๆ ทุกคนหันไปมองเด็กหญิงคนนั้น พอมองชัด ๆ ก็พากันอึ้งไปตาม ๆ กัน“เหมือนจริง ๆ ด้วย”“คล้ายกันตั้งหกเจ็ดส่วนแน่ะ”“นี่ต้องเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเธอแน่ แต่ทำไมถึงไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงเลยนะ”……ระหว่างที่พวกเธอกำลังพูดคุยกัน ประตูวิลล่าก็เปิดออกไป๋อวี้เจี๋ยเดินเข้ามาในชุดกางเกงยีนรัดรูปเธอวางกระเป๋าลงแล้วพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเย่ซิวทันที“คุณไม่เป็นอะไรแล้วก็ดีแล้ว ฉันตกใจแทบแย่ตอนเห็นข่าว…คุณไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นฉันกลัวแค่ไหน”เย่ซิวตบหลังเธอเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ คุณลองดูเธอสิ”เขาชี้ไปที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กไป๋อวี้เจี๋ยหันมองตามนิ้วของเย่ซิวด้วยความสงสัยเมื่อสายตาของทั้งคู่ปร
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!ขณะที่เย่ซิวกำลังจะลงมือจัดการกับพวกคนชั่วเหล่านี้ สายฟ้าหลายสายพลันฟาดลงมาจากท้องฟ้าชิงลงมือก่อนเย่ซิว เจ้าชายเหล่านั้นก็ถูกฟ้าผ่าจนไม่เหลือซากเย่ซิวถึงกับนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเสียงเย็น "กรรมที่สวรรค์ลิขิตยังพอรอดได้ กรรมที่ก่อเองไม่อาจรอดพ้นกรรม"แม้แต่สวรรค์ก็ทนดูไม่ได้ ต้องลงมือสำเร็จโทษพวกเขาด้วยตัวเองคนเหล่านี้ถูกทำลายจนวิญญาณแตกสลาย ไม่มีแม้แต่โอกาสจะกลับไปเกิดใหม่อีกเย่ซิวไปจากที่นี่ เรื่องหลังจากนี้ไม่ใช่เรื่องของเขาแล้วไม่นานหลังจากที่เขาไป เฟยอวี่ก็ปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อเห็นรอยฟ้าผ่าบนพื้น เธออดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว มันน่ากลัวเหลือเกินแต่ไม่นานเธอก็เลียริมฝีปาก รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก"ไอ้พวกโง่นี่ถูกฆ่าตาย งั้นตอนนี้ทั้งประเทศอ่ายเหรินก็ไร้ผู้นำแล้วแบบนี้งานของฉันก็ง่ายขึ้นมากฮ่า ๆ เย่ซิวเอ๋ยเย่ซิว ฉันต้องขอบคุณคุณอย่างจริงจังแล้วล่ะ"…… ครืน!เหนือผืนทะเล มีแสงหนึ่งพุ่งผ่านไปด้วยความเร็วสูงเย่ซิวยืนอยู่ที่หัวกระบี่ เด็กสาวสองคนที่อยู่ข้างหลังเขามองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น ความรู้สึกแบบนี้ไม่อาจบรรยายได้เลยเ
ที่นี่กลายเป็นเหมือนนรกบนดินเย่ซิวพุ่งขึ้นมาจากก้นทะเลในตอนนี้เขาดูโทรมมาก เสื้อผ้าที่สวมอยู่ขาดรุ่งริ่ง แถมยังมีบาดแผลทั้งใหญ่และเล็กนับร้อยจุดทั่วร่างนี่เป็นการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เขาเกิดมา มันแทบจะทำลายรากฐานของเขาแม้ว่าตอนนี้เขาจะดูสงบมาก แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความอาฆาตและเดือดดาลชนิดที่ยากจะข่มพวกนั้นช่างโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อหากการระเบิดนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ของพวกเขาเอง อย่างน้อยหนึ่งหรือสองเมืองคงได้กลายเป็นนรกภูมิ ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีวิญญาณผู้บริสุทธิ์จำนวนเท่าไหร่โชคดีที่เย่ซิวเพิ่งทะลวงเข้าสู่ระดับจินตานขั้นกลาง มิฉะนั้นชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายแน่นอนเขาหยิบน้ำเต้าออกมา แล้วดื่มน้ำพุวิญญาณลงไปรวดเดียวหลายกิโลกรัมร่างกายของเขาฟื้นตัวจากบาดแผลอย่างรวดเร็วแสงของจินตานห้าสีที่สลัว ๆ ในตันเถียน เริ่มกลับมาส่องประกายสดใสอีกครั้งเขาไม่กล้าล่าช้า รีบกลับไปอย่างรวดเร็วเด็กสาวสองคนยังอยู่ที่นั่น เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นเหล่าเจ้าชายได้เริ่มเตรียมแชมเปญเพื่อเฉลิมฉลองแล้วพวกเขาคิดว่าไม่ว่าเย่ซิวจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็คงไม่รอดจากการระเบิดระด
ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดที่ควบคุมเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อเห็นเย่ซิวชักกระบี่ยาวออกมา ใบหน้าของเขาก็มืดครึ้มลง พลางพูดว่า "คุณคิดจะดึงดันกับพวกเราจนถึงที่สุดจริง ๆ เหรอ? คุณไม่กลัวว่ามันจะนำไปสู่สงครามระหว่างสองประเทศเลยหรือไง!""ฮ่า ๆ ๆ!"เย่ซิวหัวเราะเสียงดังอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก ผู้บัญชาการสูงสุดมีสีหน้าบึ้งตึง "คุณหัวเราะอะไร?!""ก็หัวเราะที่พวกคุณไม่รู้จักประมาณตน หลงตัวเองไงพวกคุณคู่ควรที่จะเป็นศัตรูกับประเทศหลงเถิงของผมด้วยเหรอ?ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณยอมรับประเทศจ้านอิงตี้เป็นนายเหนือหัว ใช้เวลาไม่เกินสามวัน พวกคุณก็จะถูกกำจัดไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เป็นสุนัขแล้วยังกล้ามาทำตัวหยิ่งผยองอีก!"คำพูดที่ไม่ปรานีนี้ได้ยั่วยุคนของประเทศอ่ายเหรินทั้งหมดแล้วพวกเขาต่างมองเย่ซิวด้วยสายตาที่เดือดดาลเย่ซิวไม่ได้เริ่มต่อสู้ทันที ส่วนหนึ่งเพราะเขาต้องการให้ชาวบ้านทั่วไปมีเวลาอพยพเขาไม่ต้องการให้ผู้บริสุทธิ์ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องผู้บัญชาการสูงสุดหัวเราะด้วยความโกรธ "ดีมาก! ปากคอเราะรายดีจริง ๆ! อยากจะรู้นักว่าคุณมีความสามารถมากแค่ไหน! ลงมือ! โจมตีให้เต็มที่เลย!"เขาถอยไปอยู่ด้านหล
ขณะที่พวกเขากำลังโต้เถียงกันอย่างดุเดือด รายงานลับฉบับหนึ่งก็ถูกส่งมาวางไว้ตรงหน้าพวกเขาเมื่อพวกเขาอ่านเนื้อหาในรายงานจบ ต่างก็ลุกพรวดขึ้นด้วยความตกตะลึง“เป็นไปไม่ได้!”“เขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง”“เด็กสาวที่อยู่ข้าง ๆ เขาคนนั้นไม่ใช่...เป็นเขา! เขาคือคนที่ฆ่าเสด็จพ่อ!”“จะปล่อยเขาให้หนีไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”“เรื่องของเราพักไว้ก่อนชั่วคราว มาร่วมมือกันกำจัดเขาก่อน!”เหล่าเจ้าชายตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว จับมือกันเพื่อเผชิญหน้าศัตรูภายนอก เพราะความหวาดกลัวที่เย่ซิวนำมาสู่พวกเขานั้นมันลึกซึ้งเกินไปยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองฝ่ายไม่มีทางที่จะหวนคืนสู่จุดเดิมได้แล้ว จำเป็นต้องมีฝ่ายหนึ่งล้มลงเท่านั้น“ส่งกองทหารรักษาพระองค์ไปสกัดเขา!”“ส่งหน่วยอารักขาของฉันไปด้วย!”“พลังธรรมดาเหล่านี้อาจไม่เพียงพอ เราต้องใช้ทั้งจรวดความเร็วเหนือเสียงและขีปนาวุธประเภทดีล็อกเป้าหมายเขาไว้ด้วย!”“ตอนนี้ไม่มีเวลามากังวลว่าอาวุธใหม่ของเราจะถูกเปิดเผยอีกแล้ว ใช้ทุกอย่างที่มี ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ต้องรั้งเขาไว้ให้ได้!”…… คำสั่งต่าง ๆ ถูกส่งต่อไปอย่างรวดเร็ว และดำเนินการโดยเร็วที่สุด
เมื่อเย่ซิวเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นว่ามีผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งอยู่ในห้องนี้ด้วยเธออายุประมาณสามสิบกว่าปีได้ใบหน้าสวยมาก รูปร่างอวบอิ่ม สวมชุดที่ค่อนข้างน้อยชิ้นเธอกำลังทำท่าออกกำลังกายที่เรียกเลือดกำเดาได้ง่าย ๆจวงเสี่ยวหยิงกับสาวน้อยกำลังทำท่าตามเธอเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ทั้งสามคนก็หยุดลงพร้อมกันผู้หญิงคนนั้นมองเย่ซิวด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เบิกตากว้างเธอจำเย่ซิวได้"ในข่าวบอกว่าคุณหนีไปแล้วไม่ใช่เหรอ?""พี่ชาย!""พี่กลับมาแล้ว!"หญิงสาวสองคนวิ่งเข้ามาเย่ซิวเผยรอยยิ้มที่มุมปาก มองผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นแล้วถามว่า "เธอเป็นใคร?"จวงเสี่ยวหยิงอธิบายว่า "พี่สาวคนนี้อยู่ห้องข้าง ๆ เราค่ะ เมื่อกี้นี้เราเห็นเธอออกกำลังกายอยู่ที่ระเบียงก็เลยชวนมาคุยกัน แล้วก็ให้เธอมาช่วยสอนเราด้วย"เย่ซิวพยักหน้า ยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นอย่างเป็นมิตรผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นจากพื้นรูปร่างของเธอดีมาก แถมยังสวมเสื้อผ้าที่ทั้งวาบหวิวและรัดรูป ชวนให้มองแล้วแทบจะเลือดกำเดาไหล"สะ...สวัสดีค่ะ ตัวจริงคุณหล่อกว่าที่เห็นในทีวีเยอะเลย"ผู้หญิงคนนั้นดูประหม่าเล็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่ซิว
ฐานทัพทหารทั้งหมดของประเทศอ่ายเหรินถูกทำลายจนราบเป็นหน้ากลองในชั่วพริบตาภาพเหตุการณ์นี้ถูกดาวเทียมบนท้องฟ้าจับไว้ได้ และส่งต่อไปยังห้องควบคุมของประเทศมหาอำนาจทั้งหลายในทันทีใบหน้าของคนเหล่านั้นเปลี่ยนสีด้วยความตกใจ พวกเขาลุกพรวดขึ้นแล้วรายงานภาพที่เห็นให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ“แค่ก ๆ ๆ...”ชายชราไออย่างหนัก ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าไม่ละสายตาเบื้องหน้าที่ม่านหมอกปกคลุมอยู่ มีร่างของเย่ซิวยืนถือกระบี่เดินออกมาด้วยลมหายใจที่มั่นคง เขาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย“ความสามารถไม่เลว แต่คุณกระทั่งทำให้ผมบาดเจ็บก็ยังไม่มีปัญญา แล้วยังกล้าโลภในร่างกายของผม โง่จริง ๆ”“หนุ่มสาวสมัยนี้ช่างน่าทึ่งจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่เธอครอบครองเนตรจักรพรรดิ” ชายชราหัวเราะเสียงเย็น “แต่ว่านะ ชัยชนะก็ยังคงเป็นของฉันอยู่ดี”พูดจบ เขาก็หยิบเข็มทิศออกมาจากอกเสื้ออย่างรวดเร็ว แล้วโยนมันลงพื้นเย่ซิวรู้สึกถึงอันตราย จึงรีบถอยหลังโดยไม่หยุดคิดสักนิดแต่ก็ยังช้าไปหนึ่งก้าวเข็มทิศขยายตัวขึ้นอย่างเร็วมาก พร้อมปลดปล่อยลำแสงออกมาจนก่อตัวเป็นค่ายกลที่แน่นหนา ปิดล้อมเย่ซิวไว้ด้านในจากนั้นเถาวัลย์นับไม่ถ้วนก็เ