ภายในห้อง มีผู้หญิงที่สวยมากเพิ่มมาคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เขาพบเมื่อกี้ที่ประตูห้องน้ำหญิงเย่ซิวคิดกับตัวเองว่า นี่มันบังเอิญเกินไปแล้วผู้หญิงคนนั้นเห็นเย่ซิวก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ขมวดคิ้วหลิ่วอวี้ฝูยืนขึ้นแล้วดึงเย่ซิวให้มานั่งข้างเธอ จากนั้นก็ชี้ไปที่ผู้หญิงผมสีทองแล้วพูดว่า“พี่เย่ ฉันขอแนะนำให้พี่รู้จัก นี่คือรองประธานอีกคนของบริษัทของเรา หลินโหรว”“เธอมีความสามารถรอบด้าน ฉันโทรเรียกให้เธอมาที่นี่เพื่อจะได้ดูว่าเราจะหารือเรื่องความร่วมมือกันในอนาคตของบริษัทของพี่ยังไงดี”ตระกูลหลิ่วมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และมีหลายด้านที่พวกเขาสามารถร่วมมือกับบริษัทของเย่ซิวได้เย่ซิวยิ้มและยื่นมือออกมา “สวัสดีครับ ผมเย่ซิว”ร่องรอยของความรังเกียจแวบขึ้นมาในดวงตาของหลินโหรว แต่เพราะหลิ่วอวี้ฝูอยู่ตรงนี้ด้วยเธอจึงยื่นมือออกไปจับมือของเขา และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หลินโหรว” หลิ่วอวี้ฝูเหลือบมองหลินโหรวอย่างแปลกใจ ทำไมวันนี้เธอทำตัวแปลก ๆ?หลิ่วอวี้ฝูไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเข้าใจผิด หลินโหรวจึงมองว่าเย่ซิวเป็นพวกโรคจิตลามก……“ป้าจาง ถั่วงอกพวกนี้ขายยังไงคะ?”“กะหล่ำปล
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็นำของที่ซื้อมาไปวางไว้ในครัว จากนั้นก็อุ่นซาลาเปาและซาลาเปาเนื้อที่เหลือจากมื้อเช้าแล้วนำไปใส่ไว้ในชามเธอยังเทน้ำลงในแก้วกระดาษและถือออกไปแม่ชีขอบคุณเธอและเริ่มทานมันเธอทานอย่างรวดเร็วแต่ยังคงความสง่างามเอาไว้เธอรีบทานซาลาเปาและซาลาเปาเนื้อจนหมดอย่างรวดเร็วหลิ่วเมิ่งอิ๋นยื่นน้ำให้ “แม่ชี ดื่มน้ำหน่อยนะคะ”“ขอบใจแม่หนู!”แม่ชีกล่าวขอบคุณอีกครั้ง เธอดื่มน้ำรวดเดียวพร้อมพูดว่า “แม่หนู ฉันขอดูลายมือให้หนูหน่อยได้ไหม?”หลิ่วเมิ่งอิ๋นค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ และยื่นมือออกไปแม่ชีจับมือของเธอแล้วบีบทีละนิ้วแววตาของแม่ชีค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้น และเมื่อใกล้จะถึงจุดจบ เธอก็รู้สึกตื่นเต้นมากจนตัวสั่นเล็กน้อย“แม่ชี มีอะไรหรือเปล่าคะ?” หลิ่วเมิ่งอิ๋นถามด้วยความงุนงงเล็กน้อย พฤติกรรมของแม่ชีผู้นี้แปลกจริง ๆแม่ชีกลับมามีสติพลันส่ายหน้าแล้วยิ้ม "ไม่มีอะไร แม่หนูช่างโชคดี ขอบคุณสำหรับอาหาร แล้วพบกันเมื่อสวรรค์ต้องการ”จากนั้นแม่ชีก็จากไปหลิ่วเมิ่งอิ๋นกลับมาบ้านอีกครั้งแต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ แม่ชีกลับมาอีกครั้งและปรากฏตัวบนกำแพงและสังเหตุ
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าในโลกนี้ยังมีผู้หญิงสวยสดอย่างนี้อยู่ด้วย!”เขาอดไม่ได้ที่จะน้ำลายไหล จากนั้นก็รีบเก็บกระเป๋าสัมภาระและออกเดินทางอย่างรีบร้อนเขาไม่ได้สนใจอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากผู้หญิง เมื่อเห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋นเช่นนี้แล้วเขาจะอดใจไหวได้อย่างไร?“สาวน้อย รอฉันก่อนนะ ฉันจะรีบไปหาเธอเดี๋ยวนี้เลย!”…“เป็นไปไม่ได้ ให้ตายเถอะ ให้ตายสิวะ!”ต่งเฟยคำรามอยู่ภายในห้องเดิมที เขาคิดว่าเย่ซิวโกหกเขาอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขากลับมา เขาต้องการหาผู้หญิงเพื่อระบายอารมณ์ แต่กลับพบว่าตนได้สูญเสียความเป็นชายไปหมดแล้วไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ไม่เป็นผล ยากระตุ้นต่าง ๆ ที่กินเข้าไปก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลยเขาตื่นตระหนกมากจากนั้นเขาก็ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแต่ก็ไม่พบปัญหาอะไรเลยเขายังไปพบแพทย์แผนจีนเก่ง ๆ หลายคนแต่ก็ไร้ประโยชน์แม้กระทั่งไปขอให้จอมยุทธภายในตระกูลช่วยตรวจดูให้ก็ยังไม่ได้ผลเช่นกันคำตอบที่ทุกคนให้มาคือ เขามีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดแต่เขาได้สูญเสียหน้าที่ที่สำคัญที่สุดในฐานะลูกผู้ชายไปแล้วตอนนี้เองที่เขาตระหนักถึงความน่ากลัวของเย่ซิ่ว ดังนั้นเขาจึงต้องบอกเรื่อ
ตามที่คาดไว้ เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ทั้งสองคนก็เคร่งขรึมมากขึ้นทันที“คุณพูดจริงเหรอ?” เฉิงอู่ถามและจ้องมองที่ต่งอู่อย่างตั้งใจ“แน่นอนว่าเรื่องจริง” ต่งอู่พยักหน้าหนักแน่น “ผมเห็นมาด้วยตาของตัวเอง เขามาถึงระดับนี้ตั้งแต่อายุยังน้อยเบื้องหลังของเขาอาจจะมีอาจารย์ที่แข็งแกร่งมาก หรือเขาอาจจะได้เรียนรู้ทักษะวิชายุทธที่ทรงพลังมาก หรือยิ่งกว่านั้น อาจเป็นไปได้ที่เขาจะดื่มน้ำอมฤตเข้าไปแล้ว…”เมื่อมาถึงจุดนี้เขาก็หยุดพูด และปล่อยให้พวกเขาคิดต่งอู่รู้ดีว่า สำหรับผู้ฝึกยุทธเหล่านี้ สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับพวกเขาคือทักษะอันทรงพลังหรือเครื่องยาสมุนไพรอันล้ำค่าโบราณไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน ความแข็งแกร่งของพวกมันก็สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?” คุณจางถามอย่างร้อนรนใจ“ตระกูลหลิ่ว”เมื่อได้ยินชื่อนี้ คุณจางก็แสดงสีหน้าลำบากใจ “ถ้าเป็นที่อื่นก็คงจะจัดการได้ง่ายกว่า ตอนนี้คุณรู้สถานการณ์ของตระกูลหลิ่วดีกว่าผม ผมไม่กล้าบุ่มบ่ามไปที่บ้านของพวกเขาหรอก”ตอนนี้ตระกูลหลิ่วได้รับการขนานนามว่าเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของประเทศหลงเถิง ใครก็ตามที่กล้ายั่วยุพวกเขาก็เท่ากับรนห
เมื่อเย่ซิวได้ยินเช่นนี้เขาก็หันกลับมาและคว้ามือเล็ก ๆ ของเซี่ยซิ่วซิ่วทันที “จริงเหรอ? คุณเคยได้ยินเรื่องนี้จากที่ไหน?”ฝ่ามือของเย่ซิวกว้างและแข็งแกร่ง ทันทีที่สัมผัสกัน หัวใจของเซี่ยซิ่วซิ่วก็เต้นเร็วขึ้น ใบหน้าของเธอแดงอย่างน่าหลงใหลเธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เหมือนฉันจะได้ยินคุณปู่พูดกับคุณลุง แต่ฉันจำรายละเอียดไม่ได้ ฉันไปถามคุณปู่ดีไหม?”เย่ซิวพยักหน้า “ดีสิ รีบไปถามได้เลย"เซี่ยซิ่วซิ่วยังไม่ไป แต่แลบลิ้นใส่เย่ซิว “ฉันไม่ได้ช่วยนายฟรี ๆ หรอกนะ นายต้องให้รางวัลฉันบ้างสิ”เย่ซิวยิ้มและพูดว่า “คุณอยากได้อะไรเป็นรางวัลเหรอ?”เซี่ยซิ่วซิ่วกัดริมฝีปากเล็กน้อย และรวบรวมความกล้าเพื่อพูดว่า “ฉันอยากได้จูบแรกของนาย นายจะให้ฉันไหม?”เย่ซิวยิ้มอย่างไม่รู้จะพูดอะไร และค่อย ๆ เดินไปหาเซี่ยซิ่วซิ่วหัวใจของเซี่ยซิ่วซิ่วเต้นเร็วมากเมื่อเห็นเย่ซิวเดินมาทางตน เธอก็ค่อยๆ หลับตาลงด้วยความคาดหวังท่ามกลางความกังวลใจจากนั้นเธอก็รู้สึกถึงความอุ่นเล็กน้อยบนริมฝีปาก แต่ไม่นานก็หายไปเมื่อเธอลืมตาขึ้น เธอเห็นเย่ซิวมองเธอกึ่งยิ้มซิ่วซิ่วรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในใจในการแข่งขันกับในหม
ภายในร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีชายหนวดเครารุงรังสองคนกำลังนั่งกินหม้อไฟเนื้อสุนัขอยู่“น่าสนใจจริง ๆ ลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสือเลย!!”“แค่จอมยุทธระดับสามยังกล้าท้าทายจอมยุทธระดับสี่ เขาคิดจริงหรือว่าอายุน้อยเป็นข้อได้เปรียบ?”…ภายในโรงน้ำชา ชายชราผู้มีสายตาเฉียบแหลมกำลังเพลิดเพลินกับชาอย่างสบายใจทันใดนั้น หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างโต๊ะก็สว่างขึ้นเมื่อเขาเปิดดู สีหน้าประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา“ระดับสามสู้กับระดับสี่ มั่นใจหรืออวดดีกันแน่? คงต้องไปดูให้เห็นกับตาเสียแล้ว”…ที่ในโรงฝึก มีผู้หญิงรูปร่างล่ำสันคนหนึ่งก็ได้รับข่าวนี้เช่นกัน“ในที่สุดแวดวงยุทธภพที่น่าเบื่อก็เกิดประกายความตื่นเต้นขึ้นแล้วสินะ”…“ที่นี่แหละ!”ชายหน้าตาไม่น่าไว้ใจปรากฏตัวขึ้นหน้าเขตที่อยู่อาศัยเก่า ๆ แห่งหนึ่งเพื่อที่จะพาตัวหลิ่วเมิ่งอิ๋นไปโดยเร็วที่สุดเขาจึงไม่รีรอและมาที่นี่โดยเร็วที่สุดทันทีที่มาถึง เขาก็เห็นคนสองคนเดินออกมาจากเขตที่อยู่อาศัยหลิ่วเมิ่งอิ๋นกำลังช่วยประคองพ่อของเธอ “ตอนนี้คุณพ่อรู้สึกยังไงบ้างคะ?”พ่อของเธอยิ้ม “ดีขึ้นมาก ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเจ้าหนุ่มคนนั
เย่ซิวได้รับรายงานของหลางอี และเตรียมการใหม่ทันทีเขาเรียกกองกำลังหมาป่าราตรีสิบคนที่ถูกส่งไปทำภารกิจที่สองกลับมา และให้ทั้งหมดไปปกป้องหลิ่วเมิ่งอิ๋นภารกิจที่สองใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วจากนั้นเขาก็โทรหาหลิ่วเมิ่งอิ๋น และบอกให้เธออยู่บ้านอย่าออกไปไหนจนกว่าจะกลับมาเขาบอกให้เธอขอโรงเรียนลากลับก่อนเช่นกันต้องจัดการเรื่องที่นี่ให้เสร็จโดยเร็วที่สุดแล้วรีบกลับไปยังเจียงเฉิงเพื่อไปยังภูเขานั้นครืด!เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น และเย่ซิวก็เห็นว่าเป็นสายที่ไม่คุ้นเคยหลังจากรับสายแล้วก็มีเสียงไพเราะดังมาจากปลายสาย“สวัสดีค่ะ คุณเย่ ทานข้าวหรือยังคะ?”มันเป็นเสียงเรียกของแอร์โฮสเตส“สวัสดีครับ ทานแล้วครับ”“อ่อค่ะ…” ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกได้เลยว่าแอร์โฮสเตสค่อนข้างผิดหวัง แต่เธอก็กลับมาสงบมั่นคงอีกครั้ง และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณอยากจะออกไปดื่มสักหน่อยไหมคะ? ฉันจะเลี้ยงคุณเอง”เย่ซิวดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้วหลังจากคิดเรื่องนี้แล้วเขาก็ตัดสินใจไปพบเธอเพื่อจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย และเธอจะได้ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องนี้อีก “ได้สิ คุณบอกสถานที่มาแล้วเดี๋ยวผมจะไปหา...ไม่สิ ไม่ดีกว่
หลังจากยืนยันอาการของน่าหลันเยียนหรานแล้วเขาก็วางมือข้างหนึ่งลงบนหน้าผากของเธอ เขาใช้แรงเล็กน้อยให้เธอเอนตัวเข้าที่ ในขณะที่อีกมือหนึ่งวางลงบนหน้าท้องของเธอท่าทางนี้อาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่ายน่าหลันเยียนหรานคิดว่าเย่ซิวต้องการทำมิดีมิร้ายกับเธอจากนั้นเขาก็นิ่งไปชั่วขณะเธอรู้สึกถึงกระแสอันอบอุ่นที่ปล่อยออกมาจากฝ่ามือของเย่ซิวมันไหลเข้าสู่ท้องของเธอความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในร่างกายของเธอพลันหายไปอย่างรวดเร็วตอนนี้น่าหลันเยียนหรานมีแรงที่จะพูดแล้ว เธอมองเย่ซิวด้วยความรู้สึกซับซ้อนและถามว่า “ทำไมนายถึงช่วยฉันทั้ง ๆ ที่ฉันเคยทำแบบนั้นกับนาย?”“การรักษาและช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นหน้าที่ของหมอ ถึงจะเป็นสุนัขฉันก็ต้องช่วยอารมณ์โกรธของน่าหลันเยียนหรานพุ่งขึ้นทันที เธอกัดฟันแน่นจนเกิดเสียงกรอด“ปากสุนัขของนายนี่จะพูดอะไรดี ๆ บ้างไม่ได้เลยใช่ไหม!”เย่ซิวไม่สนใจเขาเพียงแค่ส่งกำลังภายในเข้าสู่ร่างกายของเธออย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยสลายก้อนเลือดที่อุดตันภายในท้องของเธอผิวของน่าหลันเยียนหรานเริ่มมีสีที่บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ และสภาพร่างกายของเธอก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกันสี
นอกจากนี้เย่ซิวยังมีฐานปลูกสมุนไพรอีกแห่งหนึ่งที่ประเทศหลงเถิง เมื่อรวมกันแล้ว ฐานทั้งสองแห่งสามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับการหลอมยาได้เป็นจำนวนมหาศาล ต่อไปเมื่อเขาสามารถหลอมยาได้มากพอ ก็จะสามารถใช้โอสถเหล่านั้นสร้างกองกำลังสุดแกร่งขึ้นมาได้ เป็นกองกำลังที่สามารถทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง เย่ซิวมีแนวคิดเกี่ยวกับกองกำลังนี้มานานแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มดำเนินการ สำหรับแกนหลักของกองกำลัง เย่ซิววางแผนให้สมาชิกของหน่วยกองกำลังหมาป่าราตรีเป็นผู้รับผิดชอบ พวกเขามีทั้งพลังและประสบการณ์มากพอที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายกันไป เย่ซิวมอบหมายให้หวังซวงเป็นผู้จัดการเรื่องรถถังและทองคำ โดยทองคำบางส่วนจะถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเสบียงและทรัพยากร ก่อนจะส่งไปให้ถังอวิ้น การพัฒนาของประเทศสุ่ยจือยังคงต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องกังวลมากนักก็คือ ประเทศสุ่ยจือมีภูเขาล้อมรอบทั้งสามด้าน แนวภูเขาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ทำให้เป็นปราการธรรมชาติที่แข็งแกร่ง โอกาสที่ประเทศนี้จะถูกโจมตีนั้นค่อนข้างต่ำ อีกทั้งตอนนี้สภาพของที
เย่ซิวเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ดังนั้นการบำเพ็ญที่กินเวลาสองชั่วโมงกว่าจึงเริ่มขึ้น เขายังช่วยหนานกงอวี่แก้ไขข้อบกพร่องบางอย่างอีกด้วย… หลังจากนั้น หนานกงเสวี่ยก็เสร็จสิ้นงานของวันและกลับมาที่วิลล่า เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมาก็รู้สึกดีใจมาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองน้องสาวของตัวเองอย่างตำหนิเล็กน้อย ในใจคิดว่า ‘ยายตัวแสบ แอบกินเงียบ ๆ ไม่แบ่งพี่เลยนะ’จากนั้นเธอก็เข้าร่วมการบำเพ็ญตนด้วย พลังของเย่ซิวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็กำลังก้าวเข้าสู่จินตานขั้นสมบูรณ์อย่างมั่นคง เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์ เพราะตามที่บันทึกโบราณได้กล่าวไว้ เมื่อไปถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ที่มีพรสวรรค์สูงบางคนจะสามารถเข้าใจวิถีแห่งสวรรค์และโลกได้พวกเขาสามารถรวบรวมร่างพลังขนาดใหญ่ได้หลายร้อยหรือแม้แต่พันเมตร ดึงพลังของสวรรค์และโลกมาใช้ ซึ่งมีพลังทำลายล้างมหาศาล ถึงขั้นที่เมืองทั้งเมืองอาจไม่สามารถต้านทานได้ ในมือของเขายังมีโอสถเม็ดหนึ่ง ซึ่งได้มาตอนที่ได้รับเตาเพลิงปฐพีมา แต่เขาก็อดกลั้นไว้ ไม่ได้ใช้มัน นี่คือโอสถที่เขาตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ตอนที่ทะล
พรีเอลล์ถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย เย่ซิวไม่ได้ปฏิเสธเด็ดขาดในทันที นั่นหมายความว่ายังพอมีช่องทางให้เจรจาต่อรองได้ หลังจากพูดคุยกันอีกสักพัก เขาก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานนัก เย่ซิวก็ได้รับรูปภาพหนึ่งทางโทรศัพท์ของเขา เมื่อเปิดดู ดวงตาของเขาหดเล็กลงเล็กน้อย ในภาพเป็นใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงสาวที่สวยจนยากจะบรรยายเป็นคำพูด เธอมีผมสีทองส่องประกายราวกับเปล่งแสงได้ ดวงตาสีฟ้าลึกเหมือนอัญมณีไพลินใบหน้าสวยบริสุทธิ์แต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ยั่วยวนเล็กน้อย สันจมูกโด่ง ริมฝีปากเล็กสีชมพูชวนหลงใหล สิ่งที่ทำให้เย่ซิวรู้สึกสะดุดตาคือออร่าของหญิงสาวในภาพช่างคล้ายกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็ง ทั้งสองมีบรรยากาศที่ดูสูงส่ง ดั่งกำเนิดมาเพื่อเป็นผู้ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง มองลงมายังสรรพสิ่งเบื้องล่าง เย่ซิวอดไม่ได้ที่จะคิดไปว่า หรือว่าหญิงสาวทั้งสองคนนี้จะมีความเกี่ยวข้องกัน?เดิมทีเย่ซิวไม่ได้สนใจอะไรมากเกี่ยวกับลูกพี่ลูกน้องที่พรีเอลล์พูดถึง แต่ตอนนี้เขากลับต้องคิดทบทวนใหม่ คงต้องหาโอกาสไปดูให้เห็นกับตา ใต้ภาพ พรีเอลล์ยังทิ้งข้อความไว้ด้วย : “เป็นไงล่ะ? สวยส
"มีอะไรหรือเปล่า?" เย่ซิวกดรับสาย คนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่น เป็นพรีเอลล์ครั้งก่อนเขาเผลอมองข้ามเธอไป ผู้หญิงคนนี้คงโกรธมากแน่ ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ในมุมหนึ่งของสถานที่แห่งหนึ่ง พรีเอลล์มีสีหน้าดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่เสียงที่เธอพูดกลับอ่อนหวานเหลือจะกล่าว จนทำให้ผู้ฟังขนลุกชัน "พี่ชายที่รัก ตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอ คิดถึงมากเลยนะ" เย่ซิวแสยะยิ้มเย็น ถ้าเขาไม่เคยติดต่อกับเธอมาก่อน คงเผลอเชื่อคำพูดของเธอไปแล้ว "พูดมาเถอะ มีธุระอะไร ระหว่างเราไม่ต้องมาเสียเวลาพูดจาอ้อมค้อม" "จะมีอะไรได้ยังไงล่ะ หรือฉันคิดถึงคุณไม่ได้เหรอ? เราสองคนก็เคยทำแบบนั้นแล้วนี่นา แต่ทำไมคุณถึงยังสงสัยว่าฉันมีแผนอะไรอีกล่ะ เสียใจจังเลย" เย่ซิวแค่นเสียงเยาะที่มุมปาก "งั้นเหรอ ถ้าไม่มีธุระอะไร งั้นผมวางสายแล้วนะ" "เดี๋ยว ๆ ๆ!" เสียงของพรีเอลล์เปลี่ยนเป็นปกติขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดอย่างหงุดหงิด"ไอ้คนไร้รสนิยม! คุณนี่ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมถึงมีผู้หญิงชอบเยอะขนาดนี้แต่ก็เอาเถอะ นี่โทรมานี่ก็เพราะมีเรื่องจะถาม ว่าคุณจะขายหุ่นยนต์ให้ฉันสักสองสามตัวได้ไหม ราคาคุณตั้งมาได้เลย"
เย่ซิวกำหนดเงื่อนไขให้พวกเขาส่งคนมาได้เพียงแค่หนึ่งร้อยคน และอีกฝ่ายก็ตอบตกลง หลังจากจบการสนทนา เย่ซิวกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม พลางจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ความบาดหมางระหว่างเขากับประเทศจ้านคงไม่จบลงง่าย ๆ แน่นอน เขารู้ดีว่าประเทศนี้เป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น เขาตบหน้าพวกนั้นอย่างรุนแรงขนาดนี้ อีกฝ่ายจะต้องหาทางเอาคืนแน่นอน ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งให้สายการผลิตเร่งสร้างจักรกลมังกรดำอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากสายการผลิตเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ขอแค่เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ส่วนที่เหลือก็ให้ระบบจัดการได้เลยด้วยประสิทธิภาพการผลิตในปัจจุบัน สามารถสร้างจักรกลมังกรดำได้วันละสองตัว ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ ต้องเสริมแนวป้องกันบริเวณพรมแดนทุกจุด และต้องรับสมัครผู้ควบคุมหุ่นยนต์เพิ่มอีก ยังต้องเตรียมรับมือกับมาตรการทางทหารจากอำนาจอื่น ๆ รอบตัว แต่โชคดีที่ตอนนี้เขามีคนเก่งอยู่ในทีมเยอะขึ้นแล้ว ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพียงแค่ออกคำสั่งก็พอ หลังจากนั้นเขาก็ออกจากที่นี่และตรงไปหาหยางถิงถิงที่กำลังทำงานสร้างถนน สาวน้อยคนนี้ดูอารมณ์เสีย หงุดหงิดไม่น้อย
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เทคโนโลยีของหุ่นยนต์ก็ไม่ใช่ว่าจะถ่ายโอนไม่ได้""แต่เรื่องแบบนี้ พวกเราควรมานั่งคุยกันให้ละเอียดเสียก่อน""อีกสองวันเป็นวันดี ผมขอเชิญทุกท่านมาหารืออย่างจริงจังดีไหม?"แน่นอนว่าเทคโนโลยีของหุ่นยนต์ไม่มีทางถูกส่งมอบให้พวกเขา นี่เป็นเพียงแค่กลยุทธ์ถ่วงเวลาเท่านั้นตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเย่ซิวหรือประเทศหลงเถิง ต่างก็ต้องการเวลาเย่ซิวต้องการเวลาเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับวิญญาณก่อกำเนิดประเทศหลงเถิงเองก็ต้องการเวลาในการผลิตหุ่นยนต์ในปริมาณมากเช่นกันเมื่อถึงตอนนั้น หากพวกเขาเปิดตัวหุ่นยนต์เป็นพัน ๆ ตัว พวกโจรเหล่านี้ก็จะถอยไปเองผู้นำแต่ละประเทศที่เข้าร่วมประชุมเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น มีไม่น้อยที่ถึงกับแสดงรอยยิ้มออกมาประเทศหลงเถิงเป็นที่รู้กันดีว่ามักจะแข็งกร้าวเมื่อพูดถึงผลประโยชน์หลักของตนเองแต่ตอนนี้พวกเขากลับยอมผ่อนปรน ทุกคนจึงคิดว่ามีโอกาสที่ข้อตกลงนี้จะเป็นไปได้ ดังนั้นพวกเขาจึงตอบตกลงกันทั้งหมดหลังจากนั้น การประชุมทางวิดีโอที่ทั่วโลกจับตามองก็สิ้นสุดลงด้านของเย่ซิว ขณะเดียวกันก็ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศจ้านชายผู้นั้นเป็นชายร่างใหญ่ มีหนวด
คำพูดดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหลักการอันสูงส่ง แต่ความจริงแล้วมันเป็นการปล้นดี ๆ นี่เอง ผู้นำประเทศหลงเถิงตั้งแต่ต้นจนจบยังคงรักษาท่าทีนิ่งสงบไม่มีแม้แต่แววความไม่พอใจบนใบหน้า จนกระทั่งพวกเขาพูดจบ เขาถึงได้พูดขึ้นมาช้า ๆ ว่า "ทุกท่านคิดว่าตอนนี้ประเทศหลงเถิงของเราผลิตหุ่นยนต์ไปแล้วกี่ตัว?" ทันทีที่คำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาทั้งที่ประชุมก็เงียบกริบ ใช่สิ พวกเขามัวแต่รีบร้อนเกินไป ในหัวมีเพียงความคิดเดียวคือต้องรีบช่วงชิงเทคโนโลยีของจักรกลมังกรดำมาให้ได้เร็วที่สุด แต่พวกเขากลับไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้เลย เมื่อถูกเตือนขึ้นมาแบบนี้ หลายคนรู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลังเหงื่อเย็นไหลซึมออกมาไม่หยุด ประเทศหลงเถิงสามารถมอบจักรกลมังกรดำถึงสิบสามตัวให้เย่ซิว นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องมีสต๊อกอีกจำนวนมากเท่าไหร่?พวกเขาต่างก็เห็นพลังของจักรกลมังกรดำกันหมดแล้ว เพียงแค่สิบสามตัวก็สามารถทำลายล้างกองกำลังหลักของมหาอำนาจได้ ถ้าหากประเทศหลงเถิงมีจำนวนมากกว่านี้ ประเทศขนาดกลางและขนาดเล็กบางประเทศอาจถูกกวาดล้างจนหายไปจากแผนที่ได้เลย!เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศเล็กคนหนึ่งปาดเหงื่อที่หน้าผากแล้วถามขึ้น
เย่ซิวรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางของหนานกงเสวี่ยเขาจึงฟาดฝ่ามือลงไปหนัก ๆ หนึ่งที "เวลานี้แล้วยังมาคิดเรื่องพวกนี้อีก แถมเธอยังเป็นกษัตริย์ด้วยระวังภาพลักษณ์ของตัวเองหน่อยสิ" หนานกงเสวี่ยมองเขาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายราวกับน้ำใส "แล้วมันจะเป็นอะไรไปล่ะ? ยังไงทุกคนที่นี่ก็เป็นพวกเดียวกัน อีกอย่างก็ฉันดีใจนี่นา" ตอนนี้เธออยู่ในอารมณ์ที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เธอลอบดีใจที่ตอนนั้นตัดสินใจยอมรับเย่ซิวซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดในชีวิต เธอสามารถมองเห็นอนาคตที่ยิ่งใหญ่ของประเทศปิงจือได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากประชาชนของประเทศปิงจือได้เห็นกษัตริย์ของพวกเขาทำตัวแบบนี้กับเย่ซิว เกรงว่าหลายคนคงรับไม่ได้ เฉินหลานกลับไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะในสายตาของเธอเย่ซิวคือบุคคลในตำนาน เป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง ท้ายที่สุด เย่ซิวก็ไม่ได้ทำตามที่หนานกงเสวี่ยคาดหวัง เขาให้เธอกลับไปประจำการก่อนเพื่อไม่ให้ทางนั้นเกิดปัญหา หนานกงเสวี่ยเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียดาย แต่พอเย่ซิวบอกกับเธอว่า"เดี๋ยวฉันจัดการธุระเสร็จแล้วจะไปหาเธอ" หญิงสาวก็กลับมายิ้มดีใจอีกครั้งหุ่นยนต์ทั้งสิบสามต
เครื่องบินห้าลำพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยตรง การยิงถล่มอย่างรุนแรงทำให้เครื่องบินรบถูกสอยร่วงลงทีละลำ ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!เสียงระเบิดดังกึกก้องต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพลิงไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทั่วแนวชายแดน กองทัพอัคคีแดงซึ่งเคยเป็นที่ขนานนามว่าเป็นกองทัพไร้เทียมทาน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง พากันล่าถอยอย่างอลหม่าน ทว่าระหว่างการล่าถอย พวกเขากลับถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล กระทิงคลั่งคำรามเสียงดัง ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันมหึมายิ่งขยายใหญ่ขึ้น เขาคำรามพลางพุ่งเข้าไปในห้องบัญชาการ สกัดกั้นแม่ทัพพยัคฆ์ขาวที่กำลังคิดจะหลบหนี การปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้น แม้ว่าแม่ทัพพยัคฆ์ขาวจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับกระทิงคลั่งแล้ว ยังถือว่าอ่อนด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพียงไม่กี่นาที เขาก็ถูกกระทิงคลั่งจับตัวได้ อย่างไรก็ตาม กระทิงคลั่งไม่ได้สังหารเขา แต่คว้าตัวแม่ทัพพยัคฆ์ขาวเอาไว้ หลบหลีกการโจมตีจากปืนใหญ่และระเบิด ก่อนจะพากลับไปยังค่ายของฝ่ายตน เพราะหมอนี่ถือเป็นตัวประกันที่มีค่ามาก และจะเป็นหม