หน้าหลัก / LGBTQ+ / โคขัดดอก / บทที่ ๔ กริ้ว

แชร์

บทที่ ๔ กริ้ว

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-31 18:00:38

เนื่องมาจากมีเศรษฐีคนหนึ่งจ้องจะหาแม่พันธุ์มาสืบตระกูลจึงตระเวนหาคนที่เหมาะสมจนมาเจอบ้านน้องโคนม แน่นอนว่าจะมีครอบครัวไหนยอมปล่อยขายลูกตัวเองง่าย ๆ ทางนั้นที่มีอำนาจมากกว่าจึงกลั่นแกล้งทำให้ธุรกิจทางบ้านตกต่ำในที่สุดก็สามารถเอาเงินฟาดซื้อตัวน้องวัวน้อยมาอยู่ในบ้านจนได้

เขาได้ยินขณะลงพื้นที่ดูการก่อสร้างก็ฉุนจัด อยากจะโยนงานทิ้งแล้วไปเด็ดหัวไอ้หมอนั่นมันเสียตอนนี้ ทั้งบังคับข่มขู่ ทั้งกดให้จมดินอย่างหน้าไม่อาย แล้วยังมองน้องเปลวของเขาเป็นเพียงแม่พันธุ์

ในตอนนั้นเขาคิดแล้วว่าบางทีคำพยากรณ์ของบิดาอาจเป็นเรื่องโกหก หากเขาจะได้มาจริงทำไมเรื่องราวมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ไม่ว่าพวกเขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันเหรอ

ใช่ เขาจะได้คนมีตำหนิ แต่แบบนี้มันทำร้ายเขาเกินไป มันช่างน่าเจ็บใจที่มารู้ในวันที่ทำอะไรไม่ทันแล้ว

เขาได้ที่อยู่อาศัยปัจจุบันของน้องโคนมมาอยู่ในกำมือและคิดว่าจะเดินทางไปดูให้เห็นกับตาว่าไอ้คนที่ได้ตัวน้องเปลวไปมันเป็นคนแบบไหน ถ้าเป็นไอ้คนสิ้นไร้ไม้ตอกละก็เขาจะแย่งมาเอง

จนเมื่อมาถึงภาพที่เขาคิดเอาไว้มันกลับไม่ใช่เลย บ้านหลังนั้นมีอาณาเขตกว้างขวาง ปลูกบ้านหลังใหญ่โตมีคนรับใช้ไม่มากแต่ดูแลทุกส่วนให้สะอาดอยู่เสมอ และที่สำคัญในตอนที่เขามาน้องเปลวกำลังตั้งครรภ์...

ภูวธรรศนั่งกำพวงมาลัยอยู่ในรถมองผ่านบานกระจก การที่เขามาช้าไปเพียงก้าวเดียวส่งผลให้ตัวเองต้องมาเห็นภาพบาดตาบาดใจแบบนี้

ผ่านรั้วไม้สีขาวทะลุเข้าไปด้านในสวนหย่อมขนาดเล็ก คนที่เขาเฝ้ามองกำลังนั่งเล่นชมบรรยากาศอยู่บนเก้าอี้สีขาวบริสุทธิ์ก้มหน้ามองท้องน้อยที่ป่องขึ้นมาพลางลูบมันอย่างแผ่วเบาในชุดผ้าเนื้อดี ไม่นานก็มีผู้ชายหูจิ้งจอกคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายจากด้านหลัง ส่งเสียงเรียกมอบรอยยิ้มให้อย่างรักใคร่ ชวนให้แม่วัวบนม้านั่งผินใบหน้าไปมอง ยกมือข้างที่สวมแหวนเงินขึ้นแตะฝ่ามือบนไหล่ตนอย่างชื่นมื่น

เมื่อนั้นเขาตัดสินใจรามือ รู้ว่ายิ่งสั่งให้ลูกน้องไปสืบ ข้อมูลเหล่านั้นจะกลับมาทำร้ายตัวเขาเอง การไล่ตามดูชีวิตเจ้าน้องไปแบบนี้มีแต่จะทำให้ตัวเองปวดใจเสียเปล่า

“ต่อจากนี้ไม่ต้องตามสืบแล้ว...มีอะไรก็ไม่ต้องมารายงานฉัน”

“ครับนาย”

เขากล่าวกับลูกน้องข้างเบาะคนขับโดยที่สายตายังคงทอดมองไปยังแม่วัวน้อยที่คล้ายจะมีชีวิตสุขสงบดี หากน้องยังยิ้มได้เขาก็ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง และเมื่อเห็นภาพนั้นไป ความหวังที่มีก็เริ่มริบหรี่ เขาคิดว่าตัวเองนั้นเชื่อคำคนหลงเชื่อเป็นตุเป็นตะมานานมากพอแล้ว หากยังไม่อยากมีใครต้องตาไอ้ธรรศก็จะครองโสดไปตลอดชีวิตนี่แหละ

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 

นับตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านมาหลายปีที่เขาไม่รู้สารทุกข์สุกดิบของน้องวัวน้อยในความทรงจำ ป่านนี้เจ้าตัวคงมีความสุขไปกับครอบครัวและลูกอายุราวหกขวบ บ้านหลังนั้นจากที่เห็นผ่านมาและสิ่งที่ลูกน้องเอามารายงาน ไอ้พิโดรคนนั้นค่อนข้างมีฐานะดีซึ่งเห็นว่ากำลังดำเนินงานในครัวเรือนไปได้สวย คงไม่ต้องห่วงเรื่องกินอยู่ มีเงินมากพอจะเลี้ยงดูภรรยาและลูกได้สบาย

ภูวธรรศในวัยยี่สิบหกกลับมาจากการลงพื้นที่อันแสนเหน็ดเหนื่อย จับผ้าขนหนูขึ้นซับน้ำบนผมที่พึ่งสระมาหมาด ๆ กระชับผ้านุ่งนั่งบนเก้าอี้ไม้ คว้าหนังสือพิมพ์บนโต๊ะขึ้นมาอ่านดูความคืบหน้าของสถานการณ์บ้านเมือง ด้วยเมื่อเช้าเกิดเหตุฉุกละหุกให้เขาต้องลงไปจัดการจึงไม่มีเวลามากพอจะอ่าน

เจ้าของเรือนรูปร่างใหญ่โตนั่งไขว่ห้างตวัดหน้ากระดาษเนื้อเหลืองบางหรี่ตาอ่าน นอกจากการเมืองอันน่าหดหู่ใจแล้วก็ยังมีข่าวกีฬา ข่าวดารานักแสดงให้พอฆ่าเวลาได้บ้าง จนมีบรรทัดหนึ่งที่สะดุดตาเขาเข้าอย่างจัง

‘เศรษฐีตกอับติดหนี้พนัน’ ด้วยบริบทที่ค่อนข้างใกล้ตัวและภาพประกอบอันคุ้นตาช่วยให้เขาจดจ่อกับมันมากกว่าเรื่องไหน ๆ บนหน้าหนังสือพิมพ์ เขาคุ้นเคยใบหน้าเจ้าของฉายาเศรษฐีคนนี้ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ในทันทีว่าไอ้นี่คือสามีของน้องเปลว

‘…กู้เงินธนาคาร ต่อด้วยการหยิบยืมคนรอบข้าง…’ ยิ่งอ่านเขายิ่งเป็นห่วงน้องเปลว อ่านมาจนจบก็รู้ว่าตอนนี้บ้านโอ่อ่าหลังนั้นโดนอายัด ไม่รู้ตอนนี้น้องเปลวจะนอนอยู่ที่ไหน มีหนี้หลักแสนขนาดนี้หากไม่สามารถผ่อนได้จะโดนเจ้าหนี้หรือผัวส่งไปทำอะไรก็ไม่รู้

เขาเดือดเนื้อร้อนใจเป็นอันมากเมื่อรู้ว่าเจ้าน้องกับลูกเสี่ยงอันตรายทั้งทางกายและจิตใจ อาการเดิมจึงกลับมา ไม่พลาดที่เขาสั่งลูกน้องให้ตามสืบโดยเร็วและไปยื่นข้อเสนอในทันที

โดยเขาจะจ่ายหนี้ให้ทั้งหมดแลกกับการเอาลูกเมียมาขัดดอกปรนนิบัติรับใช้อยู่ในอาณาเขตระหว่างที่ตัวผัวต้องออกไปทำงานหาเงินมาจ่ายเงินที่คั่งค้างคนเดียว

แน่นอนว่าไอ้จิ้งจอกนั่นมาตกลงก้มหัวไหว้ปลก ๆ ขอบคุณแล้วให้คำสัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะหาเงินมาคืนให้ครบขั้นต่ำในแต่ละเดือน แต่ลางสังหรณ์เขามันบอกว่าไอ้คนที่ชื่อกอบนี่มันมีลับลมคมในบางอย่างคอยจี้อกเขาตลอดเวลานี่สิ เนื่องจากข้อมูลที่ได้มาถูกค้นหาด้วยความรีบร้อน อาจตกหล่นไปมาก คงต้องใช้เวลาตามสืบกันอีกสักหน่อยถึงจะเจอตอ

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 

“เอ่อ...”

วันแรกที่ได้เห็นสองแฝดกับแม่โคนมเขาก็อยากจะพุ่งตัวเข้าไปกอดด้วยความคิดถึงกระนั้นยังคงต้องรักษามาดเจ้าหนี้ผู้เคร่งขรึมเอาไว้ ทว่าดูจากท่าทีของน้องเปลวที่ส่งสายตาหวาดกลัวมาทางเขาก็รู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายคงลืมพี่ธรรศคนนี้ไปแล้วเป็นแน่ แม้จะน่าเสียใจอย่างไรเขาคงต้องผ่านสถานการณ์ตรงหน้าไปให้ได้เสียก่อน

สองแฝดตัวจิ๋วผอมแห้งยืนหลบเกาะชายผ้าถุงสั้นเหนือเข่าช้อนมองมายังเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ คนที่ไม่เคยมีลูกอย่างเขา เมียก็ไม่เคยมี เด็กก็ไม่เคยเลี้ยงจึงทำตัวไม่ถูกยืนแข็งทื่อไม่ต่างกัน

‘นายครับ จะทำอย่างไรต่อดีครับ’

ลูกน้องคนสนิทซึ่งยืนขนาบข้างเข้ามากระซิบปลุกสติหัวหน้าที่เครื่องค้าง เพราะตัวเองก็ทำตัวไม่ถูกพอกัน การรับสุคนธ์เข้ามาท่ามกลางกลุ่มคนงานพิโดร รดา นี่มันเป็นเรื่องใหญ่มากเลยเชียว ไหนจะมีเด็ก ๆ วัยเตาะแตะอีกตั้งสองคน ให้อยู่ท่ามกลางชายฉกรรจ์แบบนี้คงจะไม่ดีเท่าไรนัก เพราะสภาพแต่ละตัวก็หน้าโหดใช่ย่อย

‘ไอ้ม่วง เอ็งว่าเด็กจะชอบขนมแบบไหนวะ?’

‘มันใช่เวลาไหมครับนาย’

ม่วงลูกน้องควบตำแหน่งเลขานุการหัวจะปวดเป็นที่หนึ่งกับลำดับความคิดของเจ้านายตัวเอง ตั้งแต่สั่งให้ตามสืบแล้วถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่วัวคนนี้ทีไรก็มักจะสลัดความสุขุมทิ้งไม่สนอะไรทั้งนั้น

กระทั่งตอนนี้สามแม่ลูกมองพวกเขาน้ำตาคลอเบ้าสั่นกลัวกันไปหมดแล้ว ถ้าลูกพี่จะทำคะแนนหรือทำตัวเป็นคนดีอวดเขาก็ช่วยรีบคิดหาหนทางหน่อยเถอะครับ!

“เอ็งพาลูกไปกินข้าวในครัวก่อนไป เดี๋ยวฉันหาห้องนอนให้”

ม่วงปลื้มปริ่มอยู่ในอก เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดมากครับนาย

ในทีแรกเขาเข้ามาทำงานนี้ในฐานะลูกน้องของคุณธรรศไป ๆ มา ๆ งานที่ให้ทำเริ่มกลายเป็นงานจิปาถะตามค่าความสนิทที่เพิ่มมากขึ้น จนตอนนี้พวกเขาเป็นเพื่อนรู้ใจกันไปแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องเงินเจ้านายภูวธรรศก็รังสรรค์ทุกอย่างออกมาได้อย่างไร้ที่ติ แต่พอเป็นเรื่องนี้ทีไรเจ้านายเขามักเหมือนย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กสิบห้าผู้อ่อนต่อโลกอย่างไรอย่างนั้น ต่อให้จะเก๊กขรึมอย่างไรพวกคนงานก็มองออกอยู่ดีนั่นแหละว่าลูกพี่หลงแม่โคนมลูกสองคนนั้นหัวปักหัวปำ

โงหัวจากหลุมไม่ขึ้นจนสั่งให้คนทำความสะอาดห้องเก็บของย้ายทุกอย่างไปไว้ที่อื่นภายในครึ่งวันทั้งที่ของพวกนั้นใช่ว่าจะมีน้อย จัดแจงสั่งคนทำความสะอาดหาที่นอนซึ่งเป็นเตียงขาสิงห์โบราณอย่างดีพร้อมด้วยฟูกปูพร้อมชุดเครื่องนอนราคาแพง แต่ของพวกนั้นสุดท้ายก็ไม่ได้ใช้เพราะลูกหนี้อย่างคุณแม่วัวยังไม่ไว้ใจ สุดท้ายจึงต้องเก็บพวกมันเอาไว้บนเรือนแบบเหงา ๆ ให้ฝุ่นเกาะเล่น

จะทำตัวสมเป็นเจ้าหนี้ ให้นอนห้องเก็บของเหมือนละครวิทยุแต่ไม่เนียนเลยสักนิด ถ้าแม่วัวคนนั้นไม่ทักขึ้นมาก่อนสงสัยห้องเก็บของคงได้หรูหรากว่าห้องนอนเจ้าของเรือนแล้ว

ม่วงเห็นสภาพเจ้านายตัวเองก็ละเหี่ยใจ จะจีบเขาแต่เขามีผัวแล้วแถมยังเป็นลูกหนี้ตัวเองอีก อะไรมันจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนปานนั้น

“เฮ้อ....”

ม่วงถอนหายใจออกมาในช่วงสายของวันจันทร์ ณ หลังครัวไฟเรือนเหมบำรุง เป็นหน้าที่ของเขาในการมารับแกงหรือกับข้าวหม้อใหญ่พร้อมข้าวสวยจากเรือนไปให้คนงานก่อสร้าง จากปกติจะให้เป็นเบี้ยเลี้ยงแทนแต่เพราะช่วงนี้เจ้านายธรรศสร้างโครงการอยู่ใกล้ ๆ ทำแบบนี้จึงประหยัดงบไปได้มาก ทั้งคนงานยังเลือกตักกินเยอะเท่าไรก็ได้

“ละ...ลุงม่วงจ๊ะ...มะ...มาเล่นตะกร้อกับฉันได้ไหมจ๊ะ”

เด็กชายตัวจิ๋วท่าทางขี้อายเดินกำลูกตะกร้อจักสานเข้ามาทางเขา ด้วยว่าในครั้งแรกเขาเป็นคนเสนอให้ซื้อขนมมาล่อทำคะแนน บวกกับเขามาหาทุกเช้าจึงมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กพวกนี้บ้างตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ซ้ำเด็กพวกนี้ก็น่ารักน่าเอ็นดู ไม่น่าล่ะลูกพี่แกถึงได้อยากประคบประหงมนัก

“ได้สิ ไปตรงนั้นนะ ลูกจะได้ไม่กระเด็นไปลงสวน”

“จ้ะ!”

เสียงตะกร้อกระทบฝ่าเท้าส่งให้ลูกจักสานลอยขึ้นเหนือพื้นสูง เด็กน้อยที่พยายามเล่นอาจทุลักทุเลไปบ้างด้วยสรีระที่ยังไม่เอื้ออำนวยแต่ยังคงผลิยิ้มหัวเราะคิกคักไปกับกิจกรรมช่วงสาย

ทว่าม่วงกลับรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิต ไม่สิ รังสีความริษยาแผ่มาจากหน้ากระไดเรือน เมื่อเงยหน้าขึ้นไปดูจึงเห็นเป็นคุณผู้ชายภูวธรรศยืนเท้าคางส่งสายตาอาฆาตแค้นมาทางเขาประหนึ่งยักษ์มาร

เจ้าของเรือนในชุดเชิ้ตดำตลอดเช้ามาคิดว่าจะทำอย่างไรในการเข้าหาเด็ก ๆ แต่ไอ้ม่วงลูกน้องที่แค่นั่งเฉย ๆ กลับถูกชวนเล่นตะกร้อเนี่ยนะ ไม่ยอม! ธรรศไม่ยอมเด็ดขาด! เขาก็อยากจะเล่นตะกร้อกับหนูเปี่ยมเหมือนกันนะ!

หรือว่าหน้าเขาจะดุเกินไป สงสัยต้องไปทำอะไรกับเจ้าแผลบากบนหน้าเสียแล้ว

“คุณธรรศจ๊ะ”

เจ้าของชื่อเปลี่ยนสีหน้าทันควันเมื่อเสียงทุ้มหวานเอ่ยเรียกมาจากด้านหลัง แน่นอนว่าเป็นน้องเปลววัวน้อยสุดน่ารัก

“มีอะไร?”

เขาทำเสียงเข้มเกินไปหรือเปล่านะ!? น้องเปลวคงไม่กลัวเขาอยู่ลึก ๆ ใช่ไหม โอ๊ย มองตาใส ๆ นั้นนึกไม่ออกเลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

“คะ...คุณธรรศไม่ชอบที่เปี่ยมเขาเล่นกับพี่ม่วงใช่ไหมจ๊ะ ฉันจะได้เตือนลูกให้ระวัง”

เปลวที่ทำความสะอาดพื้นเรือนสังเกตเห็นว่าคุณธรรศเดินออกไปยืนมองตามเสียงลูกตะกร้ออยู่หน้าเรือน กดคิ้วทำหน้าไม่พอใจบางทีคงไม่อยากให้เขาที่เข้ามาในฐานะลูกนี้ขัดดอกยุ่งกับคนของตัวเองก็เป็นได้

ว่าแล้วทันใดนั้นหน้าของคุณธรรศหลังเขาเอ่ยถามไปก็ถมึงทึงจนเขาตัวกระตุกขึ้นมา นี่เขาพูดละลาบละล้วงเกินไปหรือเปล่า ต่อให้คุณผู้ชายไม่พอใจจริง ๆ เขาก็ไม่มีสิทธิ์ถามใช่ไหมนะ

“ฉะ...ฉันจะรีบไปบอกลูกนะจ๊ะ ว่าห้ามเล่นกั-

“ไม่ต้อง เป็นเด็กก็ต้องเล่นออกแรงสิ แล้วก็...”

เปลวกำผ้าขี้ริ้วแน่น'แล้วก็'อะไร ถ้าคุณธรรศไม่ได้โกรธเด็ก ๆ หรือว่าจะโกรธที่เขาเข้ามาก้าวก่ายชีวิตมากเกินไปหรือเปล่านะ

“ไม่ต้องเรียกว่า ‘คุณ’ แล้ว”

“แล้ว...จะให้ฉันเรียกแทนว่าอะไรเหรอจ๊ะ?’

เปลวถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เข้าไม่รู้ใจเจ้าหนี้คนนี้เลย ไม่ทราบว่าในหัวกำลังคิดอะไรอยู่ บางทีที่ขมวดคิ้วหน้าแดงก่ำอยู่แบบนี้อาจจะโมโหจนเลือดขึ้นหน้าแต่กำลังกดข่มมันอยู่ก็ได้ ดังนั้นเขาต้องสงบเสงี่ยมเข้าไว้

ภูวธรรศรู้สึกเหมือนตัวเองคล้ายกับเสือเด็กในอดีต จะพูดแต่ก็ไม่กล้าพูด และคงไม่สามารถขอเวลาทำใจกับน้องเปลวได้มากเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

“พี่...”

“จ้ะ?”

“จะเรียกฉันว่าพี่เหมือนไอ้ม่วงก็ได้”

ในขณะที่แม่โคนมกำลังเป็นกังวลอยู่นั้น ในหัวของภูวธรรศกลับติดใจอยู่เพียงคำคำเดียว ‘พี่ม่วง’ ทำไมกับเขาเรียกคุณธรรศ กับไอ้ม่วงเรียกพี่ ไอ้นั่นมันได้ไปพูดคุยสนทนากับน้องวัวนมตอนไหนทำไมเขาถึงไม่รู้ ประเดี๋ยวเถอะไอ้ม่วงไอ้หนูจี๊ดเจ้าเล่ห์ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ !

ภูวธรรศเดินตึงตังมาปล่อยหูหางในห้องนอน หน้าดำหน้าแดงอยู่คนเดียว โอ๊ย! ไอ้ธรรศ!! เอ็งจะเดินหนีมาทำไมวะ! เดี๋ยวน้องเปลวเขาก็คิดว่าเอ็งไปโมโหน้องเขาหรอก!!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคขัดดอก   บทที่ ๕ ร้อน ๆ หนาว ๆ

    แม้ไม่มีเสียงไก่ขันหรือนาฬิกาปลุกไขลานเมื่อถึงเวลาเช้าตรู่ร่างกายซึ่งเริ่มปรับตัวจึงค่อย ๆ รับรู้ถึงอากาศเย็นที่ลอยเข้ามาแตะผิว ยังดีที่เขาปักชุนผ้าห่มแล้วหาผ้าอะไรมาเย็บเพิ่มอีกทบทันก่อนเข้าหน้าหนาวพอดีแม่โคนมค่อย ๆ หยัดตัวขึ้นขยี้ตาจัดแจงผมเผ้าที่ชี้ฟูให้มันพอดูได้ กระชับผ้าคาดหน้าอกที่หลุดหลวมให้เข้าที่ เหลือบตามองพื้นใต้บานประตูจึงเห็นว่าฟ้ายังคงมืดอยู่ สงสัยเขาคงต้องออกไปดูนาฬิกาบนเสาให้แน่ใจว่านี่กี่โมง เขาไม่อยากปลุกเด็ก ๆ เสียเที่ยวประเดี๋ยวจะนอนไม่เต็มอิ่มแม่วัวก้าวลุกออกจากฟูกเตียงอย่างเชื่องช้าเกรงจะทำลูกน้อยทั้งสองตื่นแล้วจึงค่อยเอื้อมมือไปคว้าผ้าผวยผืนของตนเองออกมาคลุมเนื้อตัวกันลมหนาว เพราะมันแค่ออกมามองนาฬิกาจึงไม่ได้พกเชิงเทียนออกมาด้วย‘ตีสี่ครึ่ง’ นี่ก็ใกล้เวลาตื่นแล้ว เขาต้องตระเตรียมอะไรให้เสร็จก่อนหกโมงรวมไปถึงมื้อเช้า แต่ดูจากลมแล้วเขาว่าน้ำในโอ่งวันนี้ท่าจะเย็นพอควร ไปขอป้าจำเนียนต้มน้ำร้อนผสมลงไปสักหน่อยก็แล้วกันเดินอ้อมไปหลังเรือน ณ ครัวไฟ เขาได้ยินเสียงกุกกักพร้อมดวงไฟเหนือหัวที่เปิดอยู่ วันนี้ป้าจำเนียนก็ตื่นเช้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • โคขัดดอก   บทที่ ๖ ไม่กินใบไม้

    “คุณธรรศทำไมไม่กินผักบ้างล่ะจ้ะ”“ปิ่นพูดอะไรน่ะ!?”เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงที่เคี้ยวผักพายลวกหงุบ ๆ โพล่งขึ้นกลางวงเมื่อเห็นว่าในจานขนมจีนของคุณผู้ชายมีแต่น้ำยากับลูกชิ้นไม่เห็นมีผักใบเขียวสักกะนิด ส่วนเปลวผู้เป็นแม่ก็ติเตียนเด็กหญิงไม่ให้พูดอะไรลามปามคนเป็นนายนั่นทำธรรศถึงกับสะอึก ใช่ว่าเขาจะกินไม่ได้แต่มันไม่ชอบ ทั้งสีที่เขียวอี๋ไหนจะกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่เขาซึ่งมีพื้นฐานมาจากสัตว์กินเนื้อเลี่ยงได้ก็จะเลี่ยง แต่ในเมื่อเขาตัดสินใจจะมานั่งร่วมโต๊ะแล้วอย่างน้อยก็ต้องสร้างความประทับใจ แม้มันจะเป็นความประทับใจเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการกินผักก็ตาม“คุณธรรศ ฉันขอโทษแทนลูกฉันด้วยนะจ๊ะ”เปลวใจไม่ดีวางจานส่วนของตัวเองมาปรามลูกสาวที่พูดจาไม่มีหูรูด เขาทั้งแปลกใจทั้งเกร็งที่จู่ ๆ เมื่อเช้าคุณธรรศก็เดินลงมาบอกจะนั่งทานมื้อเช้าด้วยกัน เขาที่คิดว่าเจ้าตัวคงอยากนั่งกินกับป้าจำเนียนสองคนก็จะพากันไปนั่งกันในห้องเก็บของแต่คุณชายเจ้าดันบอกให้พวกเขานั่งตามเดิม“ไม่เป็นไรหรอก ก็มันเป็นเรื่องจริงนี่”ภูวธรรศไม่คิดถือสาเด็ก แม้มันจะแทงใจดำไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • โคขัดดอก   บทที่ ๗ พิเศษ

    ตกเย็นเปลวเอาข้อเสนอของคุณธรรศมาคิด มันน่าลำบากใจกับคำว่า ‘นอน’ ถึงมีเรื่องราวพรรค์นั้นเกิดขึ้นอย่างไรร่างกายเขาก็รองรับได้ เพราะเขากับสามียังไม่ได้มีพันธะต่อกัน ซึ่งคุณธรรศคงจะรู้เรื่องนี้จากการที่เขาไม่มีรอยอยู่บนหลังคอ‘ถ้าฉันนอนแล้วคุณธรรศจะไม่มาเก็บค่าคุณครูกับฉันทีหลังใช่ไหมจ๊ะ’‘ใช่’เมื่อเที่ยงคุณธรรศตอบมาเร็วมาก ทั้งยังหน้าแดงแจ๋ทั้งที่อากาศบนเรือนก็ไม่ได้ร้อน‘…ถะ...ถ้าเอ็งอยากนอนกับลูกวันไหนก็บอก…’ทีแรกเขาคิดว่านอนเพียงคืนเดียวแต่อาจจะไม่ใช่สินะ ก็ค่าการเรียนการสอนเทียบกับการที่ให้คนอย่างเขาไปนอนด้วยแล้วคุณค่ามันวัดกันไม่ได้เลยเปลวหนักใจ มองลูก ๆ ซึ่งกำลังพยายามแต่งตัวเหน็บผ้ากันอยู่ก็นึกอดสู ยิ่งหลังจากเขาบอกว่าจะไม่มีครูมาสอนอะไรทั้งนั้นเด็ก ๆ ก็คล้ายซึมลงอย่างเห็นได้ชัด“เด็ก ๆ อยากเรียนกัน...จริง ๆ ใช่ไหมจ๊ะ?”“จ้ะ!/จ้ะ!”เปลวข่มนัยน์ตาเศร้าผลิยิ้มออกมาเจือจาง ทีเมื่อกี้ทำเป็นนั่งหงอยนะ เขาตัดสินใจได้แล้วแต่อย่างไรก็ยังต้องการคำยืนยันจากเด็ก ๆ“สัญญากับแม่ได้ไหมว่าจะตั้งใจเรียนไม่ดื้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • โคขัดดอก   บทที่ ๘ หนึ่งคืนหมื่นเหตุการณ์

    คุณผู้ชายภูวธรรศ เหมบำรุง หลังโดนคำถามกระชากจิตจากแม่วัวไปก็ถึงกับหน้าซีดตัวสั่น มันห้ามไม่ได้เลยจริง ๆ ที่จะเผลอร้อยเรียงเรื่องราวสัปดนเป็นฉาก ๆสุดท้ายท่ามกลางแสงไฟสลัว กลิ่นกำยาน และสุคนธ์ตัวหอมที่นั่งเฝ้ารอคำสั่งตาแป๋วก็ต้องมานั่งนวดไหล่ให้เจ้าหนี้ตอนนี้สวรรค์กำลังลงโทษเขาอยู่หรือไร ทำไมเขาที่เป็นคนกุมอำนาจแท้ ๆ ไฉนต้องมานั่งกดข่มอารมณ์พลุ่งพล่าน ภูวธรรศในตอนนี้คล้ายคนกำลังจะจมน้ำตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งแต่ความหวังช่างริบหรี่เหลือเกิน“ตรงนี้ได้ไหมจ๊ะ?”“อือ...”หนึ่งคำล้านความหมายนัก เขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะสรรหาคำไหนมาบรรยายอาการปัจจุบันในตอนนี้และในอนาคตอันใกล้ ถ้าเขาปล่อยหูหางออกมาตอนนี้น้องเปลวจะมองเขาว่าประหลาดหรือเปล่า ในเมื่อเจ้าตัวจำไม่ได้ว่าตัวเขานั้นไว้ใจน้องเปลวมากแค่ไหนภูวธรรศขณะบ่ากำลังถูกนวด สายตาก็เหลือบมองแม่วัวนมที่สะท้อนอยู่บนกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง“ฉันถามอะไรเอ็งได้ไหม?”“ได้สิจ๊ะ”“ทำไมเอ็งถึงตัดผมสั้น?”เขาจำได้แม่นว่าเมื่อก่อนน้องเปลวไว้ผมยาวแล้วก็ถักเปียเดี่ยวล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • โคขัดดอก   บทที่ ๙ ซื้อทำไม

    ภูวธรรศหลังจากที่มาเป็นคนเดินเก็บค่าแผงเองเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย จากวันแรกผ่านมาได้สองวันแล้วแต่กลับไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทั้งถามไถ่เหล่าพ่อค้าแม่ขายก็เห็นว่าทุกอย่างดำเนินไปได้เป็นอย่างดี ไม่มีอันธพาลวัยรุ่นที่ไหนมารังควานสร้างความเสียหายแก่สินค้าพวกเขาแล้ว หากเป็นเช่นนี้ไปจนครบหนึ่งสัปดาห์เต็มเขาก็คิดว่าจะให้พวกลูกน้องกลับมาดูแลดังเดิมบรรยากาศตลาดในยามเช้าตรู่ของวันพุธช่างเป็นอะไรที่ครึกครื้นพอ ๆ กับห้างร้านในตัวเมืองเมื่อตกบ่าย ผู้คนแห่แหนมาซื้อวัตถุดิบไปปรุงอาหาร บ้างก็ซื้อของสำเร็จไปอุ่นทานกันง่าย ๆ ในครอบครัว เพราะเห็นว่าตอนนี้มีคนทำกิจการขายเสื้อผ้ามื้อหนึ่งมือสองกันเยอะ เขาจึงขยายพื้นที่วางเขตขายเครื่องนุ่งห่มขึ้นมาโดยเฉพาะ ผ่านมาไม่ถึงปีผลตอบรับการจับจองพื้นที่ก็ดีตามคาด ว่าแล้วก็ยืดอกภาคภูมิใจกับตนเอง เขาที่มันคนดีจริง ๆ ได้ช่วยแม่ค้าไหนจะได้เงินเข้ากระเป๋าเพิ่มเป็นของแถมอีกภูวธรรศเดินไปตามทางพร้อมมือขวาอย่างไอ้ม่วงหนูจี๊ด เห็นว่ามันช่วงนี้กำลังส่งคนตามสืบไม่รู้ได้เรื่องได้ราวไปถึงไหนแล้ว‘ไอ้ม่วง’‘ตอนนี้ยังสืบไม่ครบครับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • โคขัดดอก   บทที่ ๑๐ ล้ำเส้น

    “มะ...แม่เปลวสวยจังเลยจ้ะ...”เด็กชายเปี่ยมเอ่ยชมมารดาด้วยใบหน้าขวยเขินขณะตัวเองกำลังเปลี่ยนชุด ชุดที่แม่ใส่เป็นชุดที่ลุงธรรศเลือกให้ซึ่งเขามองว่ามันเหมาะกับแม่เปลวมาก ๆ ปกติแม่เปลวในสายตาเขาก็สวยอยู่แล้วพอเปลี่ยนมาใส่เสื้อสีขาวไล่สีท้องฟ้าแขนพองยาวเว้าไหล่เข้าคู่กับกางเกงขายาวสีน้ำตาลอ่อนแม่เปลวก็ยิ่งสวยเข้าไปใหญ่!“ไม่หรอกจ้ะ ลูกก็ชมไป”แม่โคนมในชุดใหม่นั่งคุกเข่ากับพื้นช่วยลูกชายติดกระดุมเสื้อ เกี่ยวสายเอี๊ยมสีน้ำตาลอย่างเหม่อลอยก่อนจะปิดท้ายด้วยการติดหูกระต่ายสีฟ้าอ่อนกลางอก นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ใส่เสื้อมีคอปกมีแขนแบบนี้ตั้งแต่ตั้งท้องเด็ก ๆ ไหนเสื้อตัวนี้จะมีผ้าตาข่ายแล้วก็โบผูกคออีก รุ่มร่ามแบบนี้คงทำงานอะไรไม่ได้เรื่องเป็นแน่ ดีนะที่แค่ลองแล้วก็ถอดคืน“เปี่ยมจะออกไปรอข้างนอกก่อนหรือว่าจะออกไปพร้อมกับปิ่นจ๊ะ?”“ดะ...เดี๋ยวฉัน อะ...ออกไปรอข้างน้องจ้ะ”“อื้อ อย่าไปกวนคุณธรรศเขาล่ะ”“จ้ะ”ว่าแล้วก็เดินออกมาเข้าอีกห้องที่เขาบอกให้เด็กหญิงลองใส่เสื้อเอง แม้จะทุลักทุเลไปบ้างแต่ก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ว่าแล้วก็ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • โคขัดดอก   บทที่ ๑๑ พิง

    ภูวธรรศบอกเลขาอย่างม่วงเอาไว้ว่าหลังจบมื้อเช้าจะผละออกจากสามแม่ลูกมาทำงานทำการบ้าง เพราะเขาต้องประเมินเก็บข้อมูลส่งไอ้รุตให้ทันก่อนเที่ยงของวันพรุ่งนี้ แม้จะเป็นห้างขนาดกะทัดรัดแต่ก็มีถึงสามชั้น นี่ปกติไอ้รุตมันเดินตรวจเองให้เสร็จภายในวันเดียวได้อย่างไรวะเนี่ยม่วงซึ่งส่งตัวเจ้านายไปทำงานได้เสียทีหลังคุณธรรศงอแงจะขอเดินกับคุณเปลวต่ออีกครึ่งชั่วโมง เขาที่เอือมระอาจึงหันหลังบอกคนคุ้มกันทั้งสองให้ลากพาคุณธรรศไปทำงานเสีย“ละ...ลุงม่วงจ๊ะ จะพาพวกฉันกลับบ้านใช่ไหมจ๊ะ?”“หือ? นายเขายังไม่ได้บอกเหรอว่าลุงมาทำหน้าที่อะไร”คุณลุงหนูตัวเล็กจิ๋วคลี่ยิ้มกว้าง ในเมื่อคุณธรรศไปแล้ว หน้าที่ใช้เงินปรนเปรอซื้อสิ่งของให้สามแม่ลูกจะเป็นของใครได้เล่าไม่ว่าเปล่าม่วงเดินนำสามแม่ลูกตระเวนซื้อข้าวของใช้จำเป็นอย่างเสื้อผ้าตามฤดูกาล รองเท้าใส่อยู่บ้าน/นอกบ้าน ของเล่นสำหรับคุณหนูวัยสี่ขวบ รวมไปถึงอุปกรณ์การเรียนที่เขาประสานกับคุณกุมภีร์เอาไว้แล้วว่ามีสิ่งใดจำเป็นบ้าง“พี่ม่วงจ๊ะ เรื่องนี้...คือ…”“คุณธรรศสั่งผมมาอีกทีครับว่าให้ดูแลคุณเปลว ดังนั้นถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-07
  • โคขัดดอก   บทที่ ๑๒ หนึ่งเดียว

    ถึงมีเรื่องให้ต้องคิดยาวเป็นหางว่าวแต่ภูวธรรศก็ยังคงมีความสุขได้เพียงแค่ได้เห็นน้องเปลวใส่เสื้อผ้าที่เขาซื้อให้เดินไปเดินมาในเขตเรือนกรรณิการ์ใจเขาก็ลอยขึ้นสวรรค์แล้วแน่นอนว่าเขาขมวดงานที่ไม่จำเป็นต้องออกไปทำงานด้านนอกมาทำงานในเรือน ดังนั้นวันนี้ทั้งวันเขาจึงสามารถนั่งจิบกาแฟร้อนบนส่วนรับรองแล้วอ่านเอกสารงบประมาณการก่อสร้างได้อย่างสบายใจแม้มันจะกองเป็นพะเนินก็ตาม เพราะเมื่อวานเขาดันขออู้งานตัวเองพาน้องเปลวกับเด็ก ๆ ไปเที่ยวห้างบวกกับทำรายงานส่งให้รุต ไม่น่าเชื่อว่าแค่ขาดงานไปวันเดียวทุกอย่างจะมากองสุมกันจนมีความสูงเกือบถึงแจกัน“เฮ้อ...”ภูวธรรศละสายตาออกจากหน้ากระดาษยกมือบีบนวดขมับ ถึงบัญชีจะมาทำให้แล้วก็แต่ก็ต้องตรวจกันเหนียวเอาไว้ก่อน อย่างไรเขาก็เคยทำทุกขั้นตอนมาด้วยตัวเองมาหมด ทั้งวันนี้เขาก็สั่งให้ไอ้ม่วงมันไปคุมหน้างานแทนเสียด้วย ไม่มีผู้ช่วยที่ไว้ใจได้แบบนี้มันปวดหัวใช่ย่อยเลยเชียว“คุ...พี่ธรรศจ๊ะ ให้ฉันยกมื้อเที่ยงขึ้นมาเลยไหมจ๊ะ?”“ยัง เอ็งไปกินให้เสร็จก่อนค่อยเอาขึ้นมาให้ก็ได้”“ฉันกินเสร็จตั้งแต่เที่ยงแล้วจ้ะ”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-08

บทล่าสุด

  • โคขัดดอก   บทพิเศษ ๘ จั่วหัว

    เฉลิม × ม่วงอีกไม่นานเด็ก ๆ ในการดูแลของเขาก็จะจบการศึกษาจากโรงเรียนประจำที่ส่งไปพระนคร โดยแต่เดิมตัวเขาเป็นเด็กที่มาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และเด็กพวกนั้นก็นับเป็นประหนึ่งน้องชายน้องสาวต่างสายเลือดที่อายุห่างจากเขาไปเยอะโข แต่อย่างไรเขาในฐานะพี่ใหญ่ก็อยากจะหาโอกาสมามอบให้เด็กเหล่านั้น ไม่ต้องให้มาตกระกำลำบากเช่นตัวเองเขาจับพลัดจับผลูจนได้มาทำงานในเครือเหมบำรุงและได้รับความช่วยเหลือจากคุณธรรศโดยการหยิบยืมเงินเพื่อส่งเด็ก ๆ ทั้งหมดเข้าโรงเรียนรวมถึงการบำรุงรักษาสถานรับเลี้ยงที่เขาเติบโตมา ส่วนคนไหนเป็นสุคนธ์ถึงเขาจะไม่สามารถจ้างครูสอนรายบุคคลได้แต่อย่างน้อยก็มีอาจารย์ช่วยกันสอนสั่งดูแลถึงสองคนต่อเด็กห้าสิบกว่าคนมันไม่เชิงว่าเขาเป็นหนี้เจ้านายอย่างคุณภูวธรรศ แต่เป็นเขาเองที่อยากให้เจ้านายหักเงินรายเดือนคืนกลับไป แม้มันจะเล็กน้อยเท่าหยิบมือแต่เขาในตอนนี้ก็คืนมันไปจนหมดแล้ว กระนั้นด้วยบุญคุณที่เจ้านายมอบให้ในตอนที่เขายังไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง ตอนที่ยังคงแต่งตัวซอมซ่อเหมือนหนูข้างถนน เขาจึงตั้งมั่นตั

  • โคขัดดอก   บทพิเศษ ๗ ชนแก้ว

    วันนี้เนื่องจากเป็นวันเรียนจบของลูกเปรมซึ่งเข้าสู่วัยรุ่นอย่างเต็มตัว พ่อเสือจึงลางานละหน้าที่หนึ่งวันสำหรับพาครอบครัวมาทานมื้อค่ำในตัวเมืองซึ่งเป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ นับเป็นเรื่องปกติของที่บ้านที่จะพาเด็ก ๆ มาฉลองในแต่ละช่วงเวลาสำคัญของชีวิตแม้เปรมจะเป็นสุคนธ์ไม่สามารถเข้าเรียนในโรงเรียนทั่วไปได้อย่างพี่เปี่ยมพี่ปิ่นแต่ก็ถือว่าเรียนจบหลักสูตรตามที่อาจารย์ซึ่งจ้างมาครบหมดแล้วตอนนี้ลูก ๆ ของเขาโตขึ้นกันเร็วเสียน่าใจหายเผลอแป๊บเดียวปิ่นเปี่ยมก็อายุสิบหกเริ่มทำงานช่วยพ่อธรรศกันแล้ว กระนั้นผลลัพธ์กลับออกมาตรงกันข้ามเสียอย่างนั้น กลายเป็นว่าปิ่นที่เคยพูดจาเจื้อยแจ้วนั้นสุขุมขึ้น แต่อย่างไรความมั่นใจในตัวเองที่พ่อธรรศมอบให้ผ่านการใช้เวลาร่วมกันก็ยังคงฝังลึก มีหลายครั้งที่ลูกสาวคนนี้แสดงมุมตลก ๆ ออกมา ในขณะเดียวกันเปี่ยมซึ่งเคยเป็นเด็กขี้อายเมื่อโตเป็นหนุ่มกลับเป็นคนแสดงออกชัดเจนพูดจาเถรตรง และมั่นใจในการพูดมากขึ้นบนโต๊ะอาหาร“เปรมกินอันนี้ไหม เดี๋ยวพี่ตักให้”“กินจ้ะ”ภาพพี่น้องรักใคร่กลมเกลียวแบบนี้ช่าง

  • โคขัดดอก   บทพิเศษ ๖ กระโจมอก (NC)

    เนื่องจากปิ่นเปี่ยมก็โตขึ้นแล้ว สามีจึงเห็นว่าควรหาพื้นที่ส่วนตัวให้อย่างน้อยก็เป็นห้องนอนเล็ก ๆ ให้ฝึกใช้ชีวิตด้วยตัวเองส่วนเปรมด้วยว่าพึ่งคลอดได้ไม่กี่เดือนยังคงต้องนอนห้องเดียวกันกับพวกเขาอยู่ แต่ก็มีอยู่หลายวันเหมือนกันที่พวกเราห้าคนมานอนด้วยกัน จะนับเป็นส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ในตอนนี้ปิ่นเปี่ยมขึ้นป.๒ และก็มีบางวันที่เลิกเรียนกลับมาเย็นเนื่องจากมีกิจกรรมของทางโรงเรียนเขา ในขณะเดียวกันนี่ก็เป็นอีกครั้งที่มีกินเลี้ยงคนงาน ครัวจึงถูกใช้งานอย่างเต็มอัตราโดยมีพี่ม่วงพี่เฉลิมมาช่วยอย่างที่เคยเป็น กว่าจะวางมือจากตะหลิวเช็ดล้างทำความสะอาดพื้นครัวก็ปาไปเกือบหกโมง ลูก ๆ จึงอาบน้ำอาบท่าขึ้นไปทำการบ้านกันก่อนแล้ว ไหนจะได้ยินว่าง่วงเพราะเล่นกีฬามา สงสัยคงต้องขึ้นไปดูน้ำในเหยือกด้านบนเสียหน่อยว่าพอหรือเปล่า“ขอบคุณที่มาช่วยนะจ๊ะพี่ม่วง”“ผมต้องมาช่วยอยู่แล้วครับ”พี่ม่วงมอบยิ้มให้หลังพี่เฉลิมเดินมายกหม้อไปขึ้นท้ายรถ ส่วนพี่ธรรศตอนนี้พึ่งกลับมาจากการออกไปสะสางเรื่องหนี้กับผัวเมียสองคนนั้นนิดหน่อย จะว่าไปหลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ได้เห็นหน้าพี่กอบกับคุณ

  • โคขัดดอก   บทพิเศษ ๕ ขิง

    เนื่องจากเขาสนิทกับพี่ม่วงเป็นทุนเดิมเพราะคุยกันถูกคอถึงเรื่องเด็ก ๆ ที่ได้โอกาสและเงินสนับสนุนจากพี่ธรรศให้ไปเรียนไกลถึงพระนครซึ่งใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าที่นั่นการศึกษายอดเยี่ยมแค่ไหน จนตอนนี้เด็ก ๆ เหล่านั้นก็กลับมาช่วยงานของสามีภายใต้การดูแลของพี่ม่วงพี่หนูตัวเล็กเคยเล่าว่าเด็ก ๆ ตัวสูงกันมาก ซึ่งพอได้มาทำงานร่วมกันเขาจึงเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเด็กพวกนั้นก็เป็นที่น่าเอ็นดู รับฟังคำแนะนำ ไหนจะขยันขันแข็งหนักเอาเบาสู้จนมีหลายครั้งที่หากกำไรงาม เขามักจะปันส่วนให้เด็ก ๆ เอาไปกินเลี้ยงหรือไม่ก็เก็บหยอดกระปุกเผื่ออยากจะเอาไปต่อยอดสานฝันเขาอยากหาเงินด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองจึงเก็บหอมรอมริบเงินเดือนในสมัยที่ยังทำงานประหนึ่งคนใช้ในช่วงเป็นหนี้มาซื้ออุปกรณ์ทำอาหาร และเอาเงินไปจ่ายค่าแผงของพี่ธรรศที่แม้ในเริ่มแรกเจ้าตัวจะอิดออดขอไม่รับแต่เขาก็บอกจุดประสงค์ชัดเจน จนในที่สุดเจ้าพี่ก็ยอมให้กันในช่วงแรกนั้นดำเนินไปได้ด้วยดี แม้มีชะงักไปบ้างเพราะมันคาบเกี่ยวตอนตั้งท้องน้องเปรมแต่สุดท้ายเขาก็พาตัวเองมาขายได้บ้างเป็นบางครั้งบางคราว เพราะพี่ธรรศเอาบทบาทสามีภรรยา

  • โคขัดดอก   บทพิเศษ ๔ สวนสัตว์น้ำ

    “ใต้ท้องทะเลอุดมไปด้วยชาวเมืองปลา...”ย้อนกลับไปในระยะเวลาก่อนที่เขาจะแต่งงาน มันเป็นช่วงที่กุมภีร์กำลังสอนเด็ก ๆ อ่านหนังสือโดยเริ่มจากการเรียนตัวอักษร สระ วรรณยุกต์ตามมาด้วยการคัดลายมือ และการฝึกอ่านต่าง ๆ โดยนอกจากแบบเรียนแล้ว ก็มีหนังสือภาพหนังสือนิทานที่ชักจูงความสนใจของสองแฝดได้เพราะมีภาพประกอบสวยงามคนเป็นแม่อย่างเปลวเมื่อลูก ๆ หยิบหนังสือมาให้อ่านก่อนนอนมีหรือจะปฏิเสธ ทั้งพี่ธรรศก็ให้การสนับสนุนการเรียนการสอน ออกไปตระเวนหาซื้อหนังสือนิทานมาตั้งไว้สูงชะลูด ไม่รู้ว่าจะอ่านพวกมันจบก่อนเด็กน้อยโตเลยวัยหรือเปล่าในทุกคืนสองแฝดจะทำข้อตกลงเลือกหนังสือนิทานเล่มใหม่หรือเล่มเดิมที่สนใจวิ่งดุ๊ก ๆ เอามาให้แม่วัวอ่าน ยอมรับเลยว่าช่วงเวลาที่ได้ใช้ไปกับลูกในทุกคืนแม้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของวันแต่มันช่างมอบความสุขให้เขามากมายเหลือเกิน และวันนี้เด็ก ๆ ก็เลือกหนังสือนิทานเรื่อง ‘พระราชาใต้มหาสมุทร’ มาให้เขาอ่าน คงเพราะมีหน้าปกวาดแต่งแต้มสีฟ้าสดใสพร้อมเหล่าสัตว์ทะเลหน้าตาแปลก ๆ เต็มไปหมด อ่านไปเรื่อย ๆ เรื่องราวจะกล่าวถึงพระราชาที่เคยสั่งงานทุกค

  • โคขัดดอก   บทพิเศษ ๓ เที่ยงตรง (NC)

    ในขณะที่พี่ธรรศช่วงนี้ต้องออกไปทำงานต่างจังหวัดเป็นเวลาสามวัน เขาในฐานะที่ไม่ได้ออกไปไหนก็ต้องทำงานบ้านงานเรือน ทั้งเดี๋ยวนี้พี่ธรรศก็มักจะไหว้วานเขาให้ตรวจสอบบัญชีไปก่อนระหว่างรอรับสมัครพนักงานคนใหม่เข้ามา เป็นงานที่หนักเอาการเพราะระหว่างวันเขาต้องคอยดูแลเด็ก ๆ โดยเฉพาะเจ้าเปรมที่ร้องไห้งอแงอยู่แทบจะตลอด บางครั้งก็ร้อนเกิน หนาวเกิน ขับถ่าย หิวข้าว หิวนม แม้จะพยายามทำอาหารรสอ่อนให้ทานแต่ลูกชายคนนี้จนอายุได้สองขวบปีก็ยังต้องเอามาเข้าเต้าบ้างเปลวคิดจะให้ลูกเสือตัวน้อยหัดกินผักตั้งแต่เด็กจะได้ทานอะไรได้หลากหลายเหมือนพี่ ๆ คิดสะระตะไปมาตอนนี้ก็นอนหลับปุ๋ยกันไปหมดสามคน ในที่สุดความวุ่นวายในวันหยุดก็เพลาลงเสียทีคนเป็นแม่อย่างเปลวจึงได้เวลาหาอะไรกินเป็นมื้อเที่ยง แล้วจึงรีบมาเปลี่ยนผ้าปูเตียงประจำเดือนยังห้องพ่อแม่ เขาในตอนนี้ไว้ผมยาวลงมาจนสามารถถักเป็นเปียได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทีแรกด้วยความไม่ชินจึงมีความคิดที่จะตัดสั้นดังเดิม ทว่าก็ทำได้แค่คิดเพราะงานอะไรล้วนยุ่งไปหมด อยู่ไปอยู่มาก็ชินเสียแล้ว*แกร๊ก* เสียงกลอนประตูเปิดออก เปลวที่กำลังวุ่นอย

  • โคขัดดอก   บทพิเศษ ๒ ฟูฟ่อง

    ผ่านมาหนึ่งปีถ้วนนับตั้งแต่คืนวันแต่งงาน ในช่วงเวลาที่ผ่านมาพี่ธรรศพาเขาไปพบสูติแพทย์อยู่เป็นประจำตามกำหนด หาหยูกยาบำรุงตามคำหมอมาต้มให้เขาดื่มทุกคืนก่อนนอน ไหนจะอาหารการกินอุดมสมบูรณ์เต็มตาเต็มโต๊ะยิ่งกว่าเก่า เขาที่ท้องสามแล้วจึงพอมีความคุ้นชินอยู่บ้าง และทราบว่าคนท้องพอทำอะไรเองได้ กระนั้นประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขากลับใช้ไม่ได้กับพี่ธรรศเจ้าตัวหวงเขาหนักหนา จากที่เขาตั้งใจว่าจะลงเรือนไปกินข้าวในครัว ไม่ต้องให้ใครเดินขึ้นเดินลงเพื่อเก็บจานของคนเพียงคนเดียวแต่พี่ธรรศขอปฏิเสธ เป็นคนอาสาเดินหยิบมื้อเช้ากลางวันเย็นกระทั่งขนมมื้อดึกขึ้นมาให้ทุกวี่ทุกวันและการที่ทำเช่นนั้นได้แปลว่าพี่ธรรศต้องแบกงานกระทั่งพาลูกค้ามาคุยที่เรือน เขาเคยพูดคุยขำ ๆ กับเรื่องนี้กับคุณเลขานุการอย่างพี่ม่วง อีกคนก็ได้แต่หัวเราะแหะ ๆ เพราะต้องวางตารางใหม่ทั้งหมดข้ามวันข้ามคืนแทบไม่ได้นอน เขาจึงดุพี่ธรรศไปหนึ่งรอบจนต่อรองกันว่าจะไม่ฝืนธรรมชาติ ออกไปทำงานอย่างเป็นกิจจะลักษณะเป็นครั้งคราวคิดถึงอดีตที่ผ่านมาร่วมหลายเดือนก็กลั้วหัวเราะ อย่างไรเขาก็ไม่ได้มองนิสัยนี้ของพี่ธรรศไปในทาง

  • โคขัดดอก   บทพิเศษ ๑ งานแต่ง (NC)

    กลิ่นหอมสดชื่นของพานพุ่มใบตองโชยมาจากท้ายขบวน เสียงพูดคุยของเหล่าเครือญาติและมิตรสหายแว่วมาพร้อมรอยยิ้มแห่งความยินดีปรีดา เหล่าพานมงคลไล่เรียงขึ้นมามีผลไม้ ขนม สินสอด และแหวนฝังเพชรเม็ดงามสองวงตั้งเด่นบนพานดอกไม้ใบน้อย เป็นสองแฝดน้องชายผู้ถือพานต้นกล้วยลอบมองเจ้าบ่าวในชุดผ้าไทยซึ่งระริกระรี้เป็นพิเศษภูวธรรศยิ้มแก้มแทบปริ กำพานธูปเทียนแพรแน่นขนัด ตระเตรียมขบวนในการเดินไปหาน้องเปลวบนเรือนกรรณิการ์ ทั้งที่คิดว่าใกล้วันงานจะได้นอนพูดคุยกับน้องเปลวเสียอีกแต่ไม่เลย เพราะแม่ดันบอกว่าพวกเขาต้องนอนแยกห้องกันไม่แค่ ๑ วัน ๓ วันแต่นานถึง ๗ วัน! น้องเปลวขั้นต่ำก่อนแต่งมานอนกับเขาสัปดาห์ละสองหนเชียวนะแม่นอกจากห้ามนอนด้วยกันในขั้นตอนลองชุด หรือลองเครื่องประดับก็ห้ามมอง ยิ่งทำกงการอะไรสองต่อสองยิ่งไม่ได้เลยเชียว เขาคิดถึงใจจะขาดอยู่แล้วขณะภูวธรรศกำลังใคร่ครวญถึงแม่วัวอยู่นั้นเองเสียงกู่ร้องก็ดังขึ้นเป็นจุดเริ่มต้นตามด้วยเสียงกลองฉิ่งฉาบกรับฆ้องเป็นสัญญาณการเริ่มเดินขบวน พวกลูกน้องของเขาที่ได้วันหยุดมาหนึ่งวันก็คล้ายเป็นวันปล่อยผี เต้นกันไม่เกรงใจเจ้าบ่าวหน้าขบว

  • โคขัดดอก   บทที่ ๒๑ เด็กน้อย (จบบริบูรณ์)

    “อึก! อืออ...”ฝ่ามือสีน้ำผึ้งกำแน่นอยู่บนลาดไหล่กว้าง ส่งเสียงร้องครางอยู่ข้างใบหูพ่อเสือเมื่อสะโพกอวบกำลังถูกกดลงต่ำสวนทางกับแก่นกายยักษ์เต้นตุบที่เข้าปากทางย้อนขึ้นมากระทุ้งผนังอ่อนชวนให้รู้สึกจุกเสียว“เอ็ง...อึก...รัดแน่นเกินไปแล้ว”“อ๊ะ! พี่ อื้อ!”ภูวธรรศกัดฟันชะลอแรงเกรงว่าจะทำน้องเปลวเจ็บ กระนั้นภาพที่ฉายบนดวงตากลับเร่งเร้าเขาเสียอย่างนั้น แม่วัวหรี่ตามองน้ำตาคลอเบ้าขมวดคิ้วมุ่นพร้อมหน้าแก้มขึ้นริ้วแดงชวนมอง ด้วยความไม่รู้เนื้อรู้ตัวคมเขี้ยวที่คันมาแต่ไหนแต่ไรจึงไม่วายเข้าไปขบเม้มหน้าแก้มกลมกลึงเปลวด้วยความตกใจจึงตัวกระตุกกดสะโพกลงไปจนสุดโคน ปลายป้านกระแทกเข้าผนังอ่อนชนต่อมน้ำคาวอย่างจังจนส่วนหน้าเผลอเสร็จสมอย่างเป็นไปเอง แม่วัวหอบหายใจหนักก่อนจะขอเปลี่ยนแขนไปคล้องลำคอหนาบดเบียดอกอวบอ้อนขอรสจูบปลอบประโลมอีกครั้ง“อือ...”กลิ่นไม้กฤษณาตลบอบอวลอยู่ในโพรงจมูก มันไม่ได้ชวนอึดอัดจนหายใจไม่ออกหรืออยากจะถอนเรียวลิ้นออกเลยแม้แต่น้อย กลับหอมอย่างเข้มขลังดึงดูดให้เขาไม่สามารถหนีไปไหนได้อย่างแยบยล“เอ็งยังเจ็บอยู่ร

DMCA.com Protection Status