อิงตามกฎของธรรมชาติไล่จากผู้แข็งแกร่งสู่ผู้ที่อ่อนแอ เจ้าป่าย่อมมีชัยเหนือสัพพะสัตว์ทั้งปวง
บ้านเหมบำรุงขึ้นชื่อว่ามีทรัพย์สินมากมายเกินกว่าจะนั่งนับด้วยนิ้วของคนร้อยคน ด้วยผู้นำตระกูลสืบสายเลือดมาจากเสือดาวหิมะอันเป็นที่น่ายำเกรง
กระนั้นการส่งต่อเงินทองมากมายที่มีไปยังรุ่นสู่รุ่นจึงเป็นเรื่องยากเนื่องจากการหาแม่พันธุ์มาเป็นตัวกลางยากแสนยาก ทว่าสุดท้ายด้วยความพยายามไม่ว่าจะด้วยพลังเงินตราหรือพลังไสยศาสตร์จึงออกมาเป็นทายาทจำนวนสามคนซึ่งกุมอำนาจบริวารเอาไว้ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือคนนอกตระกูล
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
“น้องสิน พี่มาหาแล้วนะจ๊ะ”
เสียงลั้นลาอย่างคุณชายอารมณ์ดีเปิดประตูตำหนักเข้ามาหาน้องแฝดคนรองอย่างไม่ถือตัว ภูวธรรศมองห้องโอ่โถงประดับประดาไปด้วยของขลังในโหลแก้ว เชิงเทียน บายศรีและสายสิญจน์พันรอบเสา
“ขนลุกว่ะ”
“กูก็พอกัน”
“แล้วพูดเพื่อ?”
“ได้ยินว่าน้องเปลวชอบคนพูดเพราะ”
เดินมือล้วงกระเป๋าเมียงมองข้าวของใช้แปลกตาต่อล้อต่อเถียงกับน้องรองซึ่งเป็นพ่อครูสืบวิชาของบิดามาเพื่อสืบทอดตำหนักหิรัณย์ หน้าตาไอ้หมอนี่เหมือนกันอย่างกับเขาและน้องอีกคนอย่างกับแกะ ถ้าไม่นุ่งห่มขาวหรือสักยันต์ทั่วตัวก็คงแยกไม่ออก
*แอ๊ด* เสียงบานประตูไม้เก่าแง้มเปิดชวนให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างธรรศต้องชะโงกหน้าเอียงคอไปดูยังประตูข้างตู้เศียรครูจึงเห็นว่าวันนี้น้องชายอีกผู้หนึ่งก็มาด้วย
รุต น้องชายคนสุดท้อง สถานะเป็นเจ้าของห้างธนเลิศและหุ้นส่วนสถานบันเทิงยามราตรีร่วมกับพวกเขา
“พวกเอ็งจะมาทำไมวันนี้พร้อมกัน”
“กูจะมาดูดวง”
“กูจะมาเสริมเสน่ห์”
“พวกเอ็งเห็นตำหนักกูเป็นอะไรวะ”
ตำหนักหิรัณย์ขึ้นชื่อเรื่องทำเวทคุณไสยและของปลุกเสก ใครก็ตามที่ได้ไปล้วนกล่าวกันปากต่อปากว่าเรือนหลังนี้มีของชั้นดีซ่อนไว้ ยิ่งไปกว่านั้นพ่อครูยังคัดเลือกคนที่จะได้รับของชิ้นนั้น ๆ ไปกับตัว ดังนั้นคนที่มีโอกาสได้เข้ามาใกล้ชิดแล้วหยิบยืมความสามารถทางไสยศาสตร์ไปจากที่นี่นั้นมีน้อยเพียงหยิบมือ
แต่พวกมึงที่มีสิทธิ์เข้าออกตามใจกลับเข้ามาดูดวงกับเสริมเสน่ห์ต๊อกต๋อยเนี่ยนะ!
“กูอยากรู้ว่ากูกับน้องเปลวจะมีโอกาสเร็ว ๆ นี้ไหม”
“พ่อก็เคยบอกแต่เด็กแล้วไม่ใช่เหรอว่าได้แน่ เอ็งจะกังวลทำไมวะ”
แฝดพี่แฝดน้องต่อล้อต่อเถียงโดยมีพ่อครูแฝดคนรองนั่งขัดสมาธิกอดอกมองเจ้าสองตัวมันทะเลาะกันอย่างเอือมระอา เพราะแบบนี้เขาถึงไม่อยากให้มาพร้อมกันสองคน
“เอ้า! ไอ้รุต กูก็อยากเข้าหอเร็ว ๆ ไหมวะ”
“หวังเมียชาวบ้านมันคงเร็วนักหรอก!”
“เอ๊ะไอ้นี่! กะหรี่ชมว่าหล่อหน่อยทำเป็นเหลิงเหรอวะ!”
“พวกเอ็งสองตัวหยุดทะเลาะกันได้ไหม”
“ไอ้คนเมียไม่รักอยู่นิ่ง ๆ ไปเลย!”
“ถ้าพวกมึงยังไม่อยากโดนกุมารกูเล่นก็หุบปากแล้วไสตูดไปนั่งดี ๆ เดี๋ยวนี้”
“ครับ...”
จากการประสานเสียงด่ากลายเป็นพี่น้องเสือต้องมานั่งขด ๆ เก็บหูเก็บหางอยู่มุมห้องรอแฝดคนรองตระเตรียมสถานที่
พวกเขาใช่ว่าจะตีกันทุกครั้งที่เจอหน้าแต่มันแค่หมั่นไส้ขำขันตามประสาพี่น้องที่เกิดมาหน้าเหมือนกันเด๊ะ ทว่าอย่างไรพวกเขาก็คงไว้ซึ่งสำนวนยามศึกเรารบ ยามสงบเราตบกันเอง
ในตอนที่น้องรองมันหาเมียมาแต่งเข้าบ้านได้เป็นตัวเป็นตน แฝดพี่อย่างเขาก็เก็บความขุ่นเคืองเอาไว้ในใจถึงจะรู้ทั้งบ้านแล้วก็ตามถึงลำดับการได้เมียมาจากปากพ่อซึ่งเป็นอดีตพ่อครูก็ตาม แต่คนมีเมียเท่ากับคนน่าอิจฉา คนน่าอิจฉาเท่ากับคนน่าหมั่นไส้
เอาไว้เขาได้น้องเปลวมาเป็นเมียเมื่อไหร่นะ จะอวดตั้งแต่เช้ากลางวันเย็นเลยคอยดู
ธรรศมองข้าวของบนเรือนก็พลอยคิดถึงคำที่พ่อเคยบอกกับพวกเขาทั้งสามถึงเรื่องความรัก กล่าวคือชีวิตในทุกด้านจะดีเว้นเสียแต่อุปสรรคทางด้านความรักที่ต้องลำบากตรากตรำถึงจะได้เพชรเม็ดงามมาครอบครอง มันไม่เป็นการยากที่พ่อจะบอกวิธีการแก้เคล็ดหรือชี้แนะแนวทางอันโรยด้วยกลีบกุหลาบ กระนั้นทุกคนเกิดมามีกรรม การหลบเลี่ยงสิ่งที่ควรเผชิญในชาตินี้มีแต่จะไปส่งผลในภายภาคหน้า และพวกเขารู้กันดีว่าหากโชคชะตาเอาคืนเมื่อไหร่ มันหนักกว่าที่ควรเป็นร้อยเท่าพันเท่า
“ของไอ้รุตมันนาน ไอ้ธรรศมาก่อน”
เสียงแฝดรองเอ่ยเรียกพี่ชาย ธรรศจึงเชิดหน้าชูตาเหยียดมองน้องชายให้หมั่นไส้เล่น ๆ ก่อนจะไปนั่งหน้าเจ้าน้องรอคำทำนาย ด้วยว่าเป็นพี่น้องกันและมาบ่อยเป็นนิจ เจ้าสินมันจึงมีข้อมูลส่วนตัวครบทุกอย่าง แค่ยื่นมือไปให้มันดูและรอมันเขียนตรวจทานดวงดาวเพียงครู่ก็ได้แล้ว
“ทุกอย่างคล้ายเดิม”
“ไม่มีอะไรแนะนำหน่อยเหรอ?”
“เอ็งรีบประจบน้องเขาไปก็ดูไม่มีอะไรดีขึ้นใช่ไหมล่ะ”
ภูวธรรศเศร้าสร้อย ที่เขามาเพราะคิดว่าอยากจะรีบเร่งเขยิบความสัมพันธ์ขึ้นไปอีกก้าวแท้ ๆ เชียว
“แต่มีคำเตือน”
“หือ?”
“ระวังเจ้ากรรมนายเวรเอาไว้ ไม่ใช่ของเอ็งแต่เป็นว่าที่เมียเอ็ง รีบกำจัดออกไปได้ยิ่งดี”
“ต้องทำพิธีขับไล่ไหม?”
“มันมาในรูปคน จัดการด้วยวิธีทางโลกได้ สืบประวัติเมียเองดูแล้วจะรู้เองว่าเป็นใคร”
“ขอบใจ”
“จ่ายค่าครูด้วย ไปหยอดตู้ตรงนั้น”
ธรรศยิ้มแหยงไอ้นี่ก็มีเงินทองใช้เหลือเฟือยังจะมาขูดรีดพี่น้องร่วมสายเลือดอีก แต่ว่าไม่ได้ ตำหนักนี้ต้องแลกด้วยบางอย่างที่สมน้ำสมเนื้อ พี่ชายจึงไม่มีทางเลือกควักกระเป๋าเงินหยิบธนบัตรมายอดลงตู้
ต่อไปตาของเจ้ารุตที่มันไปหลงรักพ่อเล้าเจ้าของซ่องในเขตการดูแลตัวเอง กินในบ้านแบบนี้เค้าลางไม่ค่อยดีในสายตาเขาเท่าไรหรอก แต่เขาอย่าพึ่งไปห่วงคนอื่นเลย เอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า
“ไอ้ธรรศ”
“มีอะไรอีกล่ะ?”
ไอ้สินมันเรียกขณะกำลังตวัดขาเดินลงจากตำหนัก ปกติมันไม่เคยเป็นแบบนี้นี่
“จะเอาคนนี้จริงเหรอวะ”
“ก็เออสิ”
“ตามใจ”
ภูวธรรศไม่ได้ใส่ใจกับคำทักมากนัก เพราะถึงจะไม่ได้ร่ำเรียนเป็นจริงเป็นจังแต่ก็พอรู้มาบ้างถึงไสยศาสตร์การทำนาย มันกำลังจะบอกว่าสิ่งที่สมบูรณ์แบบที่สุดย่อมได้มาอยู่กำมือยากเป็นธรรมดา และคำว่าสมบูรณ์แบบ ไม่ได้หมายถึงความบริสุทธิ์แต่คือคนที่เข้ากับดวงชะตา มีสิ่งที่เรียกว่าคู่ชีวิต และคำที่สูงส่งกว่าคืออีกครึ่งชีวิตซึ่งการจะได้มานั้นต้องผ่านบททดสอบมากมายเพื่อแลกมา
คิดแล้วนึกขำ ไอ้สินมันออกปากบอกเขาแต่ไม่ส่องกระจกดูตัวเองเลยว่ามันก็เลือกเดินในเส้นทางเดียวกัน
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
กิจวัตรของภูวธรรศในวัน ๆ หนึ่งนั้นคือการตื่นเช้ามาทำธุระส่วนตัวก่อนออกมาตรวจงานรับเหมาและตรวจสอบโครงการอื่น ๆ ในการดูแล เมื่อก่อนเขาชอบที่จะออกไปลงพื้นที่มากกว่าแต่พอน้องเปลวมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ขาเจ้ากรรมมันดันอยากมานั่งไขว่ห้างตรวจเอกสารอยู่ยังโถงรับแขกเสียอย่างนั้น
อันที่จริงมีตลาดสามแห่งซึ่งเขาเป็นเจ้าของแต่เรื่องเก็บค่าแผงเขาจ้างลูกน้องไปดูแลแทน เพราะการได้นั่งจิบกาแฟร้อนในบรรยากาศลมเย็นสบายพร้อมมองแม่วัวน้อยปัดกวาดเช็ดถูเรือนไปนี่มันเจริญหูเจริญตาเป็นอย่างยิ่งเลยเชียว
เขารู้สึกว่าตัวเองลำบากมากในการดึงหน้าให้ตึงเปรี๊ยะอยู่ตลอดเวลา หากทำตัวเซ่อซ่าเข้าละก็น้องเปลวอาจนำเรื่องที่เขาจริง ๆ เป็นคนนิสัยขี้ใจอ่อนเหลวเป๋ว ไม่ได้เคร่งขรึมอย่างที่แสดงออกต่อหน้าไปบอกผัวละก็ตำแหน่งเจ้าหนี้อาจสั่นคลอน ลดอำนาจการต่อรองลงมาก็ได้
“คุณธรรศจ๊ะ มีตรงไหนที่อยากให้เช็ดอีกไหมจ๊ะ?”
เปลวเดินถือผ้าขี้ริ้วมาโน้มตัวถามด้วยความสุภาพ คนเป็นเจ้านายจึงตัวกระตุกกาแฟกระฉอกเล็กน้อย
“ไม่...ไม่มีแล้ว เอ็งไปพักเถอะ”
“จ้ะ”
เมื่อเห็นแม่โคน้อยเดินลงบันไดไปก็รีบวางแก้วกาแฟมานั่งก้มหน้าหวีดร้องอยู่ในใจคนเดียว
เมื่อสักครู่ในตอนที่เจ้าน้องโน้มตัวลงมาสายตาเขากลับไม่ได้สบตามองหน้าแต่ดันเผลอไปมองสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเสียได้
*เพียะ!* ธรรศเลือกที่จะตบหน้าตัวเองเรียกสติที่ฟุ้งซ่านกลับคืนมา รู้ ๆ อยู่ว่าการไปมองแบบนั้นมันบัดสีแค่ไหน แต่...ก็สมกับที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่วัวจริง ๆ
*เพียะ!* สงสัยครั้งเดียวมันจะไม่พอ คุณชายภูวธรรศตบแก้มอีกครั้งจนมันแดงเสมอกันทั้งสองฝั่งพลางนั่งประสานมือมองออกไปยังท้องฟ้าโล่งกว้างให้จิตใจได้ซึมซับกับธรรมชาติ โดยหวังให้ความคิดดำมืดค่อย ๆ เจือจางลงจากเสียงนกร้องและเสียงลมพัด
“เฮ้อ...”
จากที่ไปดูดวงมาเมื่อเช้า เขาจึงเริ่มคิดเรื่องสืบประวัติน้องเปลวจริงจังอีกครั้ง เขารู้เรื่องราวชีวิตผ่านการทำนายของบิดามาล่วงหน้าหลายปี เรียกว่าได้เปรียบในหลาย ๆ ความหมาย เขามีเวลาเหลือเฟือในการเตรียมตัวเตรียมใจที่จะเผชิญหน้ากับอนาคต ทว่าทุกอย่างล้วนสมบูรณ์แบบมาจนกระทั่งเรื่องคู่ชีวิต
พลาดไปเพียงเสี้ยวจังหวะเดียว เอ็งก็กลายเป็นของคนอื่นเสียแล้ว
จนเมื่อพยายามข่มใจไม่ให้นึกย้อนถึงอดีตอันแสนหวานที่มีร่วมกันและกำลังจะยอมแพ้ เอ็งกลับมาหาอีกครั้งโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เป็นเวลากว่าหกปีที่ไม่ได้เจอกัน พี่หวังว่าเอ็งจะยังจำกันได้แม้เพียงนิดแต่ไม่เลย...
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
“ธรรศลูก วันนี้ไม่ไปเล่นกับน้องเขาเหรอ?”
เสียงมารดาหูกระต่ายเอ่ยเรียกแฝดชายคนโตซึ่งคล้ายจะเดินกลับเข้าห้องนอนทันทีหลังทานมื้อเช้าเสร็จแทนที่จะลงไปวิ่งเล่นกับน้องข้างบ้านที่สนิทกันมาตั้งแต่ยังเล็ก
“น้องบอกอยากเล่นลูกข่าง เลยจะขึ้นไปเอาจ้ะ”
ภูวธรรศในวัยสิบเจ็ดยังไม่ผ่านพิธีซ่อนสังขารส่ายหางดุ๊กดิ๊กยิ้มดีใจขณะสนทนากับมารดา แล้วจึงรีบวิ่งขึ้นไปยังชั้นบนเพื่อค้นกรุของเล่นในกล่องเก่าเก็บ
บ้านหลังนี้ไม่ใช่เรือนไทยแต่เป็นบ้านสองชั้นอิงตามแบบโคโลเนียล ผนังมีสีอ่อนตัดกับพื้นไม้สีเข้ม บานประตูหน้าต่างประดับเส้นลูกฟักเรียบหรู ทรงหลังคาสีทรงจั่วปั้นหยาปูด้วยกระเบื้องว่าวประกอบกับไม้ฉลุลาย มองจากภายนอกไม่มีใครไม่รู้ถึงฐานะอันมั่งคั่งร่ำรวย
“ฉันว่าไอ้ธรรศมันออกหน้าออกตาเกินไปแล้วนะรุต”
“ก็เนื้อคู่เล่นมาเช่าที่อยู่ข้างบ้านเลยนี่”
มารุตเคี้ยวข้าวไข่เจียวในปากหงุบ ๆ กับพี่คนรองที่นั่งหรี่ตามองพี่ชายฝาแฝดตนวิ่งลงมาพร้อมลูกข่างเต็มมือประหนึ่งจะเอาไปเล่นกับคนทั้งหมู่บ้าน
พวกเขารู้มาก่อนว่าจะได้ใครรูปร่างลักษณะนิสัยแบบไหนมาเป็นคู่ชีวิต ต่างกันก็แค่ระยะเวลาการพบเจอ และคนที่มีโอกาสทำคะแนนเป็นคนแรกคือภูวธรรศพี่ใหญ่ของบ้าน พอวันหนึ่งที่บิดากลับจากการไปตกลงทำสัญญาเช่าที่ก็มาเรียกตัวแฝดคนโตออกไปดูหน้าบ้านพร้อมชี้ปลายนิ้วไปยังลูกวัวน้อยในชุดผ้าสีชมพูกลีบดอกบัวพลางกล่าว
‘คนคนนั้นแหละ คู่ของเอ็ง’ ทันทีเมื่อเด็กคนนั้นเหลือบตามามองเพียงแค่แรกพบก็พลอยทำให้รู้สึกเนื้อตัวเบาหวิวก่อนจะตามด้วยไอร้อนที่ค่อย ๆ ถูกปลุกปั้นจากกลางอกขึ้นมายังใบหูและหน้าแก้ม ในคืนนั้นเขาไม่อาจลืมภาพเมื่อครั้งสบตาได้เลย
ผิวสีน้ำผึ้งต้องแสงอาทิตย์ ลอนผมหยักศกถูกถักเป็นเปียยาว เครื่องหน้าจิ้มลิ้มน่ารักน่าเอ็นดู และการแต่งกายเรียบร้อยน่ามอง
นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านมาเกือบสิบปีทั้งสองคนก็สนิทสนมกันมากกว่าพี่น้องแท้ ๆ เสียอีก วันหยุดหนึ่งวันของภูวธรรศคือการอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันลงมากินข้าวและไปเล่นไปคุยกับน้องวัวน้อยข้างบ้านก่อนจะกลับมาอาบน้ำนอนหลับฝันถึงน้องวัวน้อยต่อ หรือหากกลับมาจากโรงเรียนอย่างน้อยขอแค่ได้เห็นหน้าน้องวัวน้อยออกมาช่วยคุณแม่รดน้ำต้นไม้ ธรรศก็ชื่นใจไม่ต่างจากกอหญ้าในสวน
“พี่ธรรศจ๊ะ พี่ธรรศเป็นพิโดรใช่ไหมจ๊ะ?”
“ใช่ ทำไมเหรอ?”
น้องวัวน้อยนั่งมองเจ้าลูกข่างสีเข้มหมุนติ้วอยู่บนลานดินแห้งด้วยสายตาจดจ่อพลางถามด้วยความสงสัย
“แม่ฉันบอกว่าพี่ที่เป็นพิโดรจะรู้กลิ่นสุคนธ์ ฉันเลยอยากรู้ว่าตัวฉันมีกลิ่นอะไรน่ะจ้ะ”
สุคนธ์ พิโดร รดา สามเพศรองในโลกที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นเพื่อให้เหล่าสิ่งมีชีวิตดำรงเผ่าพันธุ์ไปได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
สุคนธ์ มนุษย์ฐานพีระมิดนับเป็นเพศซึ่งมีอำนาจต่อรองน้อยที่สุดในบรรดาเพศทั้งหมด ด้วยรูปลักษณ์ที่ในสายตาใครก็ถูกมองว่าอ่อนแอ ตั้งแต่เกิดส่วนใหญ่จึงล้วนถูกประคบประหงมดูแลประหนึ่งไข่ในหิน ส่งกลิ่นหอมกำจายเมื่อเข้า ‘ฤดูพิสมัย’ ชักจูงพิโดรที่อยู่ใกล้ให้เข้ามามีสัมพันธ์ทางกายเพื่อก่อเกิดทายาท
พิโดร มนุษย์ยอดพีระมิด มีรูปร่างสูงใหญ่เป็นที่น่าเกรงขาม มิหนำซ้ำส่วนใหญ่มียศถาบรรดาศักดิ์และอำนาจต่อรองสูงที่สุดในบรรดาเพศทั้งหมด สามารถขับกลิ่นข่มเพศอื่นได้โดยเฉพาะสุคนธ์ ในทางตรงกันข้ามกลับถูกดึงดูดด้วยกลิ่นหอมของสุคนธ์ได้ง่ายในบางรายอาจคลุ้มคลั่งไม่อาจควบคุมสติสัมปชัญญะได้เลยเชียว
รดา เพศที่มีจำนวนมากที่สุดในสังคม เป็นคนธรรมดาดาษดื่นไม่สามารถรับรู้กลิ่นพิสมัยของสุคนธ์ได้กระนั้นในบางครั้งก็สามารถได้กลิ่นข่มจากพิโดรได้เช่นกัน
ภูวธรรศทราบเรื่องพวกนี้มาจากพ่อแม่ซึ่งเป็นคู่สุคนธ์พิโดรจึงได้เรียนรู้มาตั้งแต่เด็กถึงวิธีปฏิบัติกับเพศรองโดยเฉพาะเพศที่อ่อนแอที่สุดอย่างที่น้องเปลวเป็น
“ตอนนี้พี่ยังไม่ได้กลิ่นเราหรอก คงต้องรอโตกว่านี้ก่อน”
ตอนนี้น้องเจ้าอายุสิบสามย่างสิบสี่แม้ยังไม่ใช่วัยเจริญพันธุ์แต่ใบหน้ากลับกลมกลึงจิ้มลิ้มน่ารักฉายแววงดงามเมื่อเติบใหญ่ ไหนจะนิสัยน่ารักใสซื่อประหนึ่งดอกไม้ขาวบริสุทธิ์ยิ่งทำให้เขาเอื้อเอ็นดูเข้าไปอีก
เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ากลิ่นกายของน้องวัวน้อยเมื่อได้สัมผัสมันจะหอมรัญจวนเพียงใด อยากให้วันที่เราได้เป็นครอบครัวเดียวกันมาถึงเร็ว ๆ แล้วสิ
ภูวธรรศเปลี่ยนลูกข่างไปจนครบ เหวี่ยงเชือกแล้วไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแต่น้องวัวน้อยก็ไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อเลยสักนิด ยิ่งเป็นลูกข่างซึ่งวาดลวดลายสีสันยิ่งจ้องมองไม่วางตา เขาจำได้ว่าตัวเองเล่นแป๊บ ๆ ก็เบื่อแต่ไม่ใช่กับน้องเปลวเลยบ้านของโคน้อยย้ายมาจากต่างจังหวัด เข้ามาเช่าหนึ่งในบ้านหลังที่เขาเป็นเจ้าของ บ้านหลังนั้นไม่ได้เล็กหรือใหญ่จนเกินไป พอดีกับขนาดครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูก จากการแต่งตัวน่าจะพึ่งมาเริ่มมีฐานะเมื่อไม่นานมานี้ จากการถามน้องเปลว น้องเจ้าเล่าว่าเมื่อก่อนปลูกกระท่อมทำเถียงนาอยู่กันเล็ก ๆ จนเมื่อมีคนมาขอซื้อที่ด้วยจำนวนเงินมากมายมหาศาลบ้านน้องเปลวจึงคิดย้ายเข้ามาเริ่มต้นใหม่ในตัวเมืองเหนือซึ่งเส้นทางก็ไปได้ดีไม่มีติดขัด“วันนี้น้องขอไปเล่นบ้านที่ธรรศได้ไหมจ๊ะ?”“ได้สิ แต่แม่จะไม่ว่าเอาเหรอ?”ส่วนที่เขาเล่นอยู่ประจำคือลานดินหน้าบ้านน้องเปลว หากจะไปบ้านคนอื่นต้องขอผู้ใหญ่เสียก่อน แต่มาขอปุบปับแบบนี้ไม่รู้มารดาจะอนุญาตหรือไม่ยิ่งเป็นสุคนธ์เสียด้วย“ฉันขอแม่ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วล่ะจ๊ะ”“แบบนี้น่าจะบอกพี่แต่แรกสิ จะได้พาไปนั่
เนื่องมาจากมีเศรษฐีคนหนึ่งจ้องจะหาแม่พันธุ์มาสืบตระกูลจึงตระเวนหาคนที่เหมาะสมจนมาเจอบ้านน้องโคนม แน่นอนว่าจะมีครอบครัวไหนยอมปล่อยขายลูกตัวเองง่าย ๆ ทางนั้นที่มีอำนาจมากกว่าจึงกลั่นแกล้งทำให้ธุรกิจทางบ้านตกต่ำในที่สุดก็สามารถเอาเงินฟาดซื้อตัวน้องวัวน้อยมาอยู่ในบ้านจนได้เขาได้ยินขณะลงพื้นที่ดูการก่อสร้างก็ฉุนจัด อยากจะโยนงานทิ้งแล้วไปเด็ดหัวไอ้หมอนั่นมันเสียตอนนี้ ทั้งบังคับข่มขู่ ทั้งกดให้จมดินอย่างหน้าไม่อาย แล้วยังมองน้องเปลวของเขาเป็นเพียงแม่พันธุ์ในตอนนั้นเขาคิดแล้วว่าบางทีคำพยากรณ์ของบิดาอาจเป็นเรื่องโกหก หากเขาจะได้มาจริงทำไมเรื่องราวมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ไม่ว่าพวกเขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันเหรอใช่ เขาจะได้คนมีตำหนิ แต่แบบนี้มันทำร้ายเขาเกินไป มันช่างน่าเจ็บใจที่มารู้ในวันที่ทำอะไรไม่ทันแล้วเขาได้ที่อยู่อาศัยปัจจุบันของน้องโคนมมาอยู่ในกำมือและคิดว่าจะเดินทางไปดูให้เห็นกับตาว่าไอ้คนที่ได้ตัวน้องเปลวไปมันเป็นคนแบบไหน ถ้าเป็นไอ้คนสิ้นไร้ไม้ตอกละก็เขาจะแย่งมาเองจนเมื่อมาถึงภาพที่เขาคิดเอาไว้มันกลับไม่ใช่เลย บ้านหลังนั้นมีอาณาเ
1. นิยายเรื่องนี้อิงประวัติศาสตร์ในช่วงเวลาปีพ.ศ.250X*ไม่ได้ระบุเจาะจงยุคชัดเจนแต่ประมาณรุ่นคุณปู่คุณย่าค่ะ* ทุกตัวละคร และสถานการณ์ที่เอ่ยถึงกล่าวถึงเป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งแต่เพียงเท่านั้น ซึ่งไม่มีเจตนาดูหมิ่นไม่ว่าจะในเชิงส่วนบุคคลหรือสถาบันเลยแม้แต่น้อย2. บางส่วนของนิยายอาจมีเนื้อหาเกินความเป็นจริงเพื่ออรรถรสในการอ่าน3. นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับนักอ่านที่ชื่นชอบ/สนใจเคะกล้ามหนุบหนับ และความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหนี้/ลูกหนี้4. บางส่วนในนิยายมีการกล่าวถึง สิ่งเสพติด/อบายมุข, ความรุนแรง, คำหยาบคาย, การค้ามนุษย์, ฉากโจ่งแจ้งทางเพศโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .จำนวนตอนหลัก 21 ตอนจำนวนตอนพิเศษ 8 ตอน***พิสูจน์อักษร 2 ครั้ง***อัปเดตครั้งล่าสุด 10/07/2024#โคขัดดอก. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
‘สังคมมนุษย์สัตว์’ คือนิยามของโลกนี้ ทุกผู้ทุกคนมีวิวัฒนาการมาจากสัตว์ประเภทใดประเภทหนึ่งโดยมีพื้นฐานคล้ายคลึงกับมนุษย์ พัฒนาสังคมระหว่างสัตว์กินพืชและสัตว์กินเนื้อมาจนเข้าสู่ยุคสมัยสุขสงบซึ่งสิ่งประดิษฐ์เดินหน้าไกลขึ้นจากประวัติศาสตร์ ผู้คนเริ่มตั้งหมู่บ้านเวลาผ่านไปกลายเป็นพระนครอันใหญ่โต ก่อเกิดเศรษฐกิจการเมืองโดยมีคนตัวเล็กตัวน้อยเป็นฟันเฟืองช่วยกันขับเคลื่อนและนั่นคือสังคมมนุษย์สัตว์การสืบสายพันธุ์ยังคงมีต่อไปตามสัญชาตญาณ กระนั้นหากมีการประสมข้ามสายพันธุ์เลือดที่เข้มกว่าจะเป็นผู้อยู่รอดโดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย และนั่นอาจเป็นชนวนของการซื้อขายซึ่งแม่พันธุ์ชั้นดี. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .เสียงตะหลิวโลหะกะเทาะกับขอบกระทะใบโตซึ่งเต็มไปด้วยเม็ดข้าวเคลือบไข่ไก่สีทองเนียนละเอียดพร้อมด้วยเนื้อหมูสับและต้นหอมซอยสีเขียวเพิ่มสารอาหาร กลิ่นควันหอมโชยคละคลุ้งไปทั่วครัวไฟซึ่งถูกปลูกไว้หลังเรือนไม้ใหญ่โตข