“อย่าพูดให้พ่อได้ยิน เดี๋ยวส้นตีนติดคอ หึงแรง”
“หึๆ น่ารักก็บอกว่าน่ารัก แต่... ของท่านก็นัมเบอร์วันเลยครับ กินกันไม่ลงกับแม่เลี้ยง อิจๆๆ”“ไอ้เปรม” คเชนทร์เค้นเสียงพลางกัดฟัน เท่านั้นแหละเปรมณัฐก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทันที คเชนทร์ก็ได้แต่ถอนใจด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะตั้งสมาธิทำงานเสียที ขณะเดียวกันผู้จัดการฝ่ายการตลาดก็กลับมาที่ห้อง เรียกตัวนักศึกษาในแผนกทั้งหมดมาพูดคุยถึงข้อกำหนดหรือกฎต่างๆ ที่คเชนทร์สั่งเอาไว้ “ถ้าไม่อยากให้ถูกบอกเลิกฝึกงานก่อนเวลาอันควรล่ะก็ ให้ปฏิบัติตามกฎนี้ให้ได้ คุณคนนี้ถ้าได้ออกคำสั่งละก็ใครห้ามขัด ไม่งั้นปลิวหมด เข้าใจไหม” ผู้จัดการวัยสี่สิบเอ่ยเสียงเครียด“ทำไมท่านดุจังค่ะ” มิลินเอ่ยถาม“เป็นคนดุ ระเบียบจัด ใครทำผิดไล่ออกอย่างเดียว ถ้าอยากฝึกงานจนจบก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เข้าใจไหม” “เข้าใจคะ แล้วเจ้าของโรงแรมดุขนาดนี้ไหมคะ” มิลินเข้าใจแต่ก็อดอยากรู้อยากเห็นไม่ได้อีกสิน่า ขณะที่คนอื่นไม่กล้าถาม“ไม่ดุ แตช่วงเวลาเดียวกันนี้ เจ้าของหัวใจของคเชนทร์ ไม่ได้เก็บตัวอยู่ในบ้านเหมือนอย่างที่คเชนทร์หรือพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์คิดหรอก เห็นเงียบๆ จันทราก็แค่อยากอยู่เฉย เดือนเดียวมันก็ไม่ได้นาน เพราะฝ่ายบิดาเธอก็ตามติดเรื่องตุลยเทพเช่นกัน“พ่อคะ สบายดีใช่ไหม” จันทรภาโทรถามบิดาในรอบหลายวัน“สบายดีลูก แล้วลูกล่ะ”“เจ้าขาสบายดีค่ะ เอ่อ ทางนั้นเป็นยังไงบ้างเขาติดต่อพ่อหรือเปล่า”“ส่วนใหญ่คุยเรื่องเงินๆ ทองๆ พ่อทำได้แค่บอกปัดไปก่อน เขาต้องการเงินลงทุน ถ้าไม่ได้นี่ผิดใจกันแน่ๆ”“พ่อยอมเหรอคะ”“พ่อไม่ยอมแต่เราจะหลีกหนีสถานการณ์นี้ไปได้ยังไง เราตกปากรับคำที่จะช่วยไปแล้ว เขาไม่ได้ผิดและไม่มีอะไรมาหักล้าง เขามองว่าลูกผิด”“เจ้าพร้อมแล้ว เจ้าจะจัดการเองค่ะและจะไปหาพ่อ จะไปเคลียร์ทุกอย่างด้วยตัวเอง”“มันจะเสี่ยงไหมถ้าหนูจะมากรุงเทพ เพราะตุลย์ยังอยู่ที่นั่น”
“ยังไงก็ผู้ชาย พ่อกลัวหนูสู้ไม่ไหว”“ต้องลองดูสักตั้ง ตอนนี้เจ้าตั้งหลักได้แล้ว”“งั้นลูกรอฟังเย็นนี้นะ”“ค่ะ แค่นี้นะคะคุณพ่อ”“จ้ะ” สิ้นคำ ทั้งสองจึงวางสายพร้อมกัน เจ้าสัวภากรจะรอฟังว่าเย็นนี้ตุลาจะมาไม้ไหน จะใช้ลูกอะไรขอทุนที่ยังไม่ได้สักแดงเดียว โชคดีแล้วที่จันทรภาหนีไปแบบนี้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็เป็นได้ตกนรกทั้งครอบครัว ท่านคิดส่วนจันทรภา ยืนกำโทรศัพท์เอาไว้ สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองเครียด ก่อนจะออกไปจากบ้าน เป็นจังหวะที่เกตุวดีเดินมาพอดี “อ้าว เจ้าขาจะไปไหนจ้ะ”“เจ้าคิดอะไรเพลินๆ เรื่องที่กรุงเทพค่ะ”“แล้วพี่เกตุจะไปไหนเหรอคะ แต่งตัวแบบเหมือนคาวเกิร์ล”“ออ จะพาลูกค้าไปทัวร์สนามยิงปืนน่ะ กิจกรรมพิเศษ บางคนก็ขี่ม้า ขับ ATV สนใจไหม จะได้ไม่เหงาไง แก้เบื่อเผื่ออยากลอง”
“รอเดี๋ยว” สิ้นคำเกตุวดีก็เลี้ยวรถเข้าจอดข้างทาง แต่ไม่ได้ดับเครื่องจากนั้นก็โทรศัพท์ทันทีกริ้ง! กริ้ง! กริ้ง! เสียงโทรศัพท์ปลายสายดังขึ้นขณะที่เจ้าของเครื่องยังคงนั่งทำงานอยู่ที่เรือนรับรองบริเวณริมสระว่ายน้ำ ยังไม่ได้ขึ้นห้องทำงานเสียด้วยซ้ำ“ครับ มีอะไรพี่เกตุ” พ่อเลี้ยงหนุ่มกล่าวทักทายเสียงเรียบ“พ่อเลี้ยง เอ่อ ตอนนี้พี่เกตุจะเข้าเมือง”“เข้ามาทำไม” พ่อเลี้ยงหนุ่มถามเสียงเครียดทันที“คือ พี่มีเรื่องจะถาม ตอบพี่ก่อนนะ คอนโดวิเวียงคอมเพลสน่ะ ใครเป็นเจ้าของ” ถามถึงชื่อคอนโดนี้แสนลักษณ์รู้ได้ทันทีว่าเกตุวดีคิดจะทำอะไร เขาคิดพลางขมวดคิ้ว“วิเวียงคอมเพลสเหรอ เฮ้อ! เป็น... ของน้องเฮียต้น พี่จะไปทำอะไรที่นั่น”“ทำไมรู้ว่าพี่จะไปทำอะไร”“ถ้าไม่ไปทำอะไรจะถามทำไม หืม”“พี่เกตุกับเจ้าขามา...”
“โอ้! ระดับพี่เกตุนะครับ”“ระดับพี่เกตุ ก็แพ้คนรุมได้เหมือนกัน เฮียรบกวนหน่อย และเปิดทาง อาจจะมีการขอขึ้นห้อง เฮียรู้ว่ามันผิดแต่ว่า...”“ขอแค่เฮียเอ่ยมา ผมยินดี นี่เป็นครั้งแรกที่เฮียขอให้ผมช่วย ปกติเฮียไปทางเฮียต้นมากกว่า”“ขอบใจ เฮียขอเท่านี้”“ได้ครับได้ งั้นแค่นี้นะครับเฮีย จะโทรบอกทางนั้นก่อน”“โอเค ขอบใจอีกครั้ง” เมื่อคุยกันเสร็จ ต๊อด หรือปิยะก็รีบโทรศัพท์แจ้งลูกน้องที่อยู่ใกล้ๆ ให้เข้าไปรอรับเกตุวดีและน้องสะใภ้เฮียแสนลักษณ์ทันที รวมถึงเปิดทางให้เข้าไปในคอนโดได้ โดยใช้กุญแจสำรองหากมีการขึ้นห้อง เรียกได้ว่าอารักขาอยู่ห่างๆ ไม่ให้รู้ตัวช่วงเวลาเดียวกัน เกตุวดีก็พาจันทรภา มาจนถึงหน้าคอนโดหลังที่ว่านี้ แล้วจอดที่ด้านหน้าเสียก่อน เพื่อสอดส่องดูว่ามีผู้ชายน่าสงสัยอยู่ด้านหน้าล็อบบี้ของคอนโดหรือเปล่า แต่ทางคอนโดไม่ให้คนแปลกหน้าเข้าไปนั่งอย่างแน่นอน นอกจากรถอยู่ด้านนอก ซึ่งเกตุวดีสังเกตแล้วว่าไม่มีใคร “ทางโล่ง เข้าไปกันเถอะ” เกตุวดีบอกพร้อมก
“วันนั้นที่ฉันเห็นแกสองคนเอากันอยู่ รู้มันไหมว่ามันทำให้ฉันเจ็บแค่ไหน ฉันมาเอาคืนวันนี้มันยังน้อยไป” จันทรภาเอ่ยอย่างเคียดแค้น ก่อนจะเหวี่ยงหมัดไปที่ใบหน้าของน้ำอิงหนักๆผัวะ! “อ้าย! พี่ตุลย์ ช่วยด้วย” ยังไม่ทันจบคำ จันทรภาก็ต่อยไปอีกหมัดผัวะ! “อ้าย” ปากก็ส่งเสียงร้องไป แต่ใบหน้าต่อยซ้ายต่อยขวา พร้อมกับโดนจิกผมจนยุ่งเหยิงหมด“อีนังเจ้า! อีนังเพื่อน...” ตุบ! โอ๊ย! จันทรภาต่อยอีกมัดไปที่ท้องเสียเลย ทำเอาน้ำอิงถึงกับจุกฟุบไปกับพื้นและพูดไม่ออก “แกสิอีนังเพื่อนเลว ก็สมกันแล้วกับผู้ชายชั่ว ฉันยกให้ เอาไปเลย”“เจ้าหยุด!” ตุลยเทพตะโกนว่า และทนเห็นไม่ไหว จึงลุกทั้งที่ไม่ใส่อะไรนั่นแหละแล้วคว้าหาผ้าเช็ดตัวมาใส่ ก่อนจะปรีเข้ามาหาจันทรภา ทว่าเธอยกเท้ายันไปที่กลางเป้าของชายหนุ่มผัวะ! “อื้อ!” เท้าหนักๆ จัดเข้าไปเต็มๆ จนชายหนุ่มจุกจนหน้าเขียวผัวะ! “อื้อ อ่า เจ้า...&r
“หึๆ ค่ะ” ว่าแล้วเกตุวดีก็พาจันทรภากลับบ้าน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปตามข้างทาง หรือแม้แต่ตอนขับรถก็มองกระจกหลัง จันทรภาเห็นความผิดปกติตรงมีรถขับตาม เลี้ยวไปทางไหนก็เลี้ยวตาม“สงสัยพี่ตุลย์โทรบอกลูกน้องให้ตามเราแล้ว” จันทรภาบอกด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติ“จริงเหรอ แล้วทำไมพี่เห็นเจ้าขาไม่ตื่นเต้นหรือกลัว”“ก็... เจ้าอยู่ในถิ่นพ่อเลี้ยง เลยไม่กลัวเท่าไหร่ อีกอย่างพี่เกตุเก่งขนาดนี้”“ไม่อ่ะ พี่เกตุว่าเจ้านั่นแหละ ทำพี่เกตุอึ้ง แต่ระวังตัวหน่อยก็ดี”“ค่ะ งั้นเรารีบกลับกัน ตามก็ให้เขาตามไป” ว่าแล้วเกตุวดีก็รีบเหยียบคันเร่งทันที และอย่างที่บอก ตามก็ให้ตามไปเพราะนี่มันถิ่นของพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์และเช่นเดียวกัน ฝ่ายตุลยเทพทั้งเสียงหน้า เจ็บ อับอาย ทำให้ความโกรธแค้นกระตุ้นให้เขาลุกขึ้นมาจากเตียงได้อย่างไม่อยากเย็น หลังจากที่เอาแต่ขลุกอยู่บนเตียงเป็นเดือน ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน คราวนี้คงต้องได้เริ่มซะที“โธ่โว้ย!!! หายตัวตามหาไม่เจอเป็นเดือน พอจะโ
“ตอนนี้ผมว่าไม่ล่ะ แผนเราคงต้องเปลี่ยน ลงทุนไปธุรกิจก็ไม่ใช่ของลูกสาวผม และไม่รู้ว่าจะได้กำไรไหม เพราะได้ข่าวว่าขายไม่ออกสักหลัง ผมยอมรับภาวะทุนหายกำไรหดไม่ได้”“แต่เจ้าสัวรับปากแล้ว และคนที่ทำให้เรื่องมันเสียหายแบบนี้ก็เพราะลูกสาวท่านหนีไปนั่นแหละ ไม่งั้นมันคงไม่พัง” การกล่าวหาจันทรภาถือว่าเป็นที่สิ่งที่ผิดพลาด เพราะเจ้าสัวก็ยิ่งจะไม่ยอม“อย่ามากล่าวหาลูกสาวผม เพราะถ้าไม่หยุด เรื่องธุรกิจไม่ต้องมาคุย” เจ้าสัวยื่นคำขาด ทำเอาตุลาถึงกับควันออกหูเลยทีเดียว“ได้ หากเจ้าสัวจะเล่นแบบนี้ ยอมผิดคำพูด ผิดสัจจะเพราะเรื่องเด็กๆ ดีล่ะงั้นผมก็จะเอาเรื่องเด็กๆ นี่แหละ ไปบอกนักข่าวให้รู้กันให้หมด คนอย่างผมน่ะมันแค่นักธุรกิจเสียหน้าแปบเดียว แต่ระดับเจ้าสัวน่ะ ผมไม่แน่ใจถ้านักข่าวรู้ว่าหนูเจ้าขา หนีตามผู้ชาย” เจอคำพูดของตุลา ก็ทำให้เจ้าสัวภากรถึงกับเลือดขึ้นหน้า แต่พยายามใจเย็นให้ได้มากที่สุด โกรธที่ลูกสาวโดนกล่าวหาเช่นนี้“เราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ หากคุณจะใช้แต่อารมณ์ แต่ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าใครจะเสียหน้ามากกว่า
“จะไปรู้เหรอครับ เห็นสั่งน้ำแดงโซดา”“มันก็มีน้ำตาลตกบ้างแหละน่า ไม่ได้ดื่มอะไรหวานๆ เลยนะวันนี้” คำพูดคำจาเหมือนคนอ่อนเพลีย ทว่ากลับมีรอยยิ้มแปลกๆ คเชนทร์คิดพลางมองหน้า“มีอะไรครับ ยิ้มแปลกๆ”“เปล่า ยิ้มเฉยๆ เห็นหน้าแกแล้วนึกถึงตอนน้องวีมาอยู่กับเราใหม่ๆ สอนทุกอย่างจนเป็น”“ทำไมอยู่ๆ นึกถึงวันวานครับ 4 ปีที่แล้วเอง ทำอย่างกับนานงั้นแหละ”“วันนี้ทำให้นึกถึงวันนี้ แต่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ฉันว่าแกต้องระวังตัวเองเอาไว้”“เรื่องอะไรครับ”“เรื่องสาวๆ น่ะ เผื่อแฟนแกขี้หึง เห็นป้วนเปี้ยนใกล้ๆ”“พ่อหมายถึงใครครับ”“หึๆ อย่าทำเป็นไม่รู้ คนอย่างแกดูออกเสมอแหละว่าใครชอบตัวเองหรือไม่ชอบ”“ผมไม่ได้สนนี่ครับ”“ระวังไว้หน่อยก็ได้ สาวๆ สมัยนี้น่ากลัว เขาไม่ค่อยกลัวอะไรแม้กระทั่งบาปบุญหรือว่านรก”“พูดแปลกๆ พ่อก็ระวังไว้ด้วย ผมเห็นนะอย่าให้เข้
“หายแล้วค่ะ หายเหมือนพ่อเชนทร์เลย ไปกินข้าวต่อนะคะจะได้ไปโรงเรียน”“ครับ/ค่ะ” สองแฝดรับคำแบบประสานเสียง ก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในห้องอาหาร สองพ่อก็มองตามและยิ้ม ก่อนจะหันมามองหน้ากันแล้วปรับสีหน้าให้เรียบ“พี่รักเอาคำว่าพ่องมาจากไหน” แสนลักษณ์หันมาดุคเชนทร์ซะงั้น“หืม ก็พูดเอง เด็กพูดไม่ชัด”“พูดไม่ชัด แต่ชัดมาก แกสอนหลานไม่ดีใช่ไหม”“ป่าว ใครจะสอนหลานพูดหยาบ”“แต่สอนให้หลานกวนตีน”“ป่าว สอนเมื่อไหร่ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยเลย”“โตขึ้นมาได้นิสัยแกนี่ฉันจะเบิ้ดกะโหลกให้”“ไม่เกี่ยวกะเค้าเลย”“เอ้าๆๆ มาแล้ว เป็นงานเป็นการ สองพ่อลูกเถียงอะไรกันเนี่ย” เกตุวดีแทรกขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหา และนั่งลงข้างๆ คเชนทร์เรียกว่าข้างๆ จนชิดๆ และเบียดโดนขา“โอ๊ย! ป้า! นั่นสะโพกหรือกะละมังเนี่ย กระแทกขาแรงมาก”“ว๊าย! อีเชนทร์”“เ
“ขู่อะไรแบบนี้ แม่เจ้าไม่น่ากลัว แต่พ่อเจ้าน่ะดุ”“ดุไม่สู้พ่อแสนของพี่หรอก”“นี่จะเอาพ่อมาสู้กันเหรอคะ”“หึๆ สักตั้งหนึ่งน่า”“ระหว่างตามหานายตุลย์กับสมุนมาเข้าคุก เจ้าก็เคลียร์กับพ่อตาพี่ละกัน”“ไม่ง่ายเลยค่ะ กลัวพ่อจ้ะ...”“พูดเองว่าไม่ให้พี่กลัว ตัวเองกลัวซะงั้น”“กลัวพ่อไม่ชอบพี่เชนทร์”“ยังไม่เคยเผชิญหน้ากันจะรู้เหรอ อย่าเพิ่งกลัว พี่จะไม่กลัว นอนซะคนเก่งของพี่” สิ้นคำเขาก็กอดเธอเอาไว้และจูบเบาๆ ที่เรือนผม จากนั้นก็ไม่ได้เอ่ยอะไรกันอีก นอกเสียจากฟังเสียงหัวใจที่เต้นแรง ต่างคนต่างบอกไม่ให้กลัว ทว่าเริ่มกลัวแล้วสิน่าพอรุ่งเช้าคเชนทร์ลุกจากที่นอนตั้งแต่เช้าตรู่ ใส่แต่เพียงกางเกงดังเดิม มือหนึ่งคีบบุหรี่พ่นออกมา ส่วนมืออีกข้างถือโทรศัพท์มีการพูดคุยแบบเครียดๆ และพยายามไม่ให้เสียงดัง เพราะเปิดหน้าต่างระเบียงตรงห้องนอน“เรื่องเมื่อคืนเรียบร้อยทุกอย่างครับคุณเชนทร์&rdqu
“ซี๊ดดดด อ่า เจ้าจ๋า พี่จะแตกแล้ว”“เจ้าก็... โอ้ว พี่เชนทร์ แรงๆ อื้อ!” เธอร้องครางออกคล้ายกับใกล้จะถึงจุดหมาย จนเขาเร่งเร้าจังหวะกระแทกสะโพกอย่างหนักหน่วง และจูบแนบแน่นที่ปากอิ่ม“อื้อ” เขาครางในลำคอเมื่อถึงจุดที่เสียวซ่านที่สุด“โอ้ว เมียจ๋า ผัวจะไม่ไหวแล้ว”“เมียก็ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อ๊ะ อืม” สิ้นคำของเธอเท่านั้นแหละ ร่างกายก็กระตุกเกร็งและยกสะโพกขึ้นพร้อมกับกอดเขาเอาไว้ ปลดปล่อยความปรารถให้พรั่งพรูออกมา เขาจึงไม่รั้งรอรีบเร่งระรัวอีกเพียงไม่กี่ครั้งก็คว้าเส้นชัยตามไปติดๆ“อื้อ อ่า อ่า เมียจ๋า เมียพี่... เสียวที่สุดเลย” เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่หอบกระเส่า ขณะที่แท่งกายกดจมเข้าไป และพ่นน้ำรักใส่ในร่างกายของเธอจนเอ่อล้นเป็นหนึ่งเดียวกัน ทว่ามันยังดีดดิ้นอยู่ภายในราวกับพ่นพิษไม่หมด อารมณ์สุขสมล่องลอยอยู่บนสวรรค์ชั้นเจ็ด แต่เมื่อร่างกายยังไม่เข้าที เขาก็ประทับจูบแนบแน่นดูดดื่มพร้อมกับร่างกายที่ค่อยๆ กลับสู่สภาวะปกติ แล้วจึงได้ถอนจูบออก“ดอกฟ้าของไอ้เชนทร์”
“มันทำให้หัวใจชุ่มฉ่ำต่างหากล่ะ”“จะเอาอะไรคะ” เธอถามอย่างขัดเขิน เขาจึงยื่นหน้าเข้าไปกระซิบ“เป่ามนต์ให้พี่หนึ่งทีแล้วจะนอน” คำพูดดูเหมือนไม่มีอะไร หากเธอไม่คิดมาก ทว่าเธอโน้มหน้าลงไปเป่าที่ต้นแขนให้“โอมเพี้ยง!” ปากก็เป่าไป สายตาก็ตวัดขึ้นมองเขาและยิ้ม แต่วินาที่เขาจะคลั่งก็ตรงที่แม่คุณค่อยๆ ย่อตัวลงช้าๆ กดจูบที่แผงอกเล็กน้อยกระทั่งเข่าชิดติดพื้น เขาก็ได้ยิ้มและหลับตา เมื่อมือนุ่มดึงกางเกงเขาลงช้าๆ จมูกโด่งก็ไต่ลงมาตามหน้าท้องจนถึงขอบบ็อกเซอร์ และชั่วอึดใจมันถูกมือน้อยดึงลงไปพร้อมกับกางเกงเสียเลย แต่เธอไม่ได้สนใจสิ่งที่มันดีดผึ่งผงาดออกมาล่อสายตาหรอก เธอก้มลงไปเป่าตรงบาดแผลที่ปิดด้วยผ้าก็อตเอาไว้“โอมเพี้ยง!” เธอเอ่ยอีกครั้งก่อนจะยิ้มมุมปาก“เป่าแผลให้เค้าเฉยๆ แล้วจะถอดกางเกงเขาทำไม” เขาถามเสียงนุ่ม ว่ากลับก้มหน้าลงมองเธอราวกับจะกลืนกิน เธอก็สบตาคมกริบก่อนจะเอามือลูบไล้น่องของเขา ขึ้นมาจนถึงกลางลำตัว ใบหน้าเสมอแท่งไอศรี
“เรียกคุณอาขาแล้วจะแตก เซ็กซี่จัง” สิ้นคำเขาก็จูบปิดปากนิ่มเอาไว้แล้วกระแทกสะโพกแรงๆ ระรัวจนเมียเด็กทานทนไม่ไหว ได้แต่ครางในลำคอพลางแอ่นกายเหยียดเกร็งลำตัว พลางกอดเขาเอาไว้แน่น“อืม” มีแต่เพียงเสียงอื้ออึงที่เปล่งออกมาเพราะถูกปิดปาก พร้อมกับความปรารถนาถูกเปล่งออกมาจนกระทั่งเม็ดสวาทกระตุกตอด“ซี๊ดดดด อาจะแตกแล้วเมียจ๋า” สิ้นคำเขาก็กดสะโพกแนบแน่น กับกลีบนุ่มและปล่อยลาวาอุ่นๆ ทะลักเข้าสู่กายเธอ หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ขณะที่ท่อนเนื้อยังคงเคลื่อนไหวอยู่ภายใน เพื่อปล่อยทุกอย่างให้ออกมาจนสุด ตามด้วยเสียงหายใจหอบทว่ายังคงบดขยี้จูบอย่างดูดดื่มสิ้นสุดอารมณ์ปรารถนาเหลือไว้แต่เพียงเสียงหายใจหอบ ทว่าร่างกายยังคงสอดประสานไม่ยอมขยับออก จวบจนกระทั่งอารมณ์ล่องลอยและปลดปล่อยจนหมด แล้วร่างกายกลับมาเป็นปกติถึงได้ถอนจูบออก ทว่าทั้งสองดูเหนื่อยหอบราวกับวิ่งทางไกลมาก“เมียจ๋า อายังเสียวอยู่เลย” เขากระซิบเสียงหวานออดอ้อน“อื้อ ให้วีกลับมาเป็นปกติก่อนนะคะ
“อย่าพูดอ้อมค้อม บอกว่าต้องการซิ” เขากระซิบเสียงนุ่มและยิ้ม เธอก็ได้แต่เม้มปากขัดเขินก่อนจะพยักหน้า“ต้องการค่ะ ต้องการผัวแก่ตลอดแหละ”“รู้ไหมว่า... ไอ้คนที่มันตายน่ะมันเรียกอาว่าไอ้แก่ แล้วเมียเรียกแบบนี้”“จะทำอะไรวีเหรอคะ”“จะทำให้ตายคาอกเลย เดี๋ยวเจอฤทธิ์คนแก่” สิ้นคำเขาก็กดจูบที่ปากนุ่มอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ก่อนจะพรมจูบซับพวงแก้ม ซอกคอ และลากไล้เรียวลิ้นอุ่นลงมาตามเนินอก ก่อนจะอ้าปากครอบครองเม็ดถัน และโลมเลียอย่างรวดเร็ว ทำเอาร่างน้อยสั่นสะท้านเสียวซ่านและบิดเกร็ง ได้แต่หายใจหอบพร่า ทั้งเนินอกและหน้าท้องขยับไหว มือน้อยๆ ก็กดศีรษะเขาเบาๆ พลางแอ่นโค้งแผ่นหลังขณะเดียวกันมือหนาก็เอื้อมลงไปสัมผัสกลีบอวบนุ่มผ่านกางเกงชั้นในสีขาวบางจิ๋ว ซึ่งเวลานี้เปียกแฉะไปด้วยน้ำกุหลาบหวาน และกลีบนุ่มนั้นเริ่มบวมเบ่งเพราะความปรารถนา“ซี๊ด อืม” เธอครางอย่างสุดจะกลั้น เมื่อเขาบดขยี้ปลายนิ้วกับเกสรน้อย และเพียงชั่
แสนลักษณ์มองตามสองคน ที่เดินจากไปและยังคงยิ้มอยู่ เคยจินตนาการเอาไว้ ว่าสักวันการเดินกลับบ้านในแต่ละครั้งของคเชนทร์ จะมีใครสักคนได้เดินไปด้วย แต่ละวันที่ผ่านไปคเชนทร์เดินคนเดียวเสมอ ทว่าวันนี้เห็นเขาจูงมือไปกับผู้หญิงที่เขารัก มันช่างเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบ แต่ยัง อุปสรรคยังไม่หมดตราบใดที่ยังขึ้นชื่อว่าเด็ดดอกฟ้ามาไว้ริมถนนอยู่“เข้าบ้านเถอะค่ะ อาแสนจะได้ไปอาบน้ำ วีจะไปดูเด็กๆ ด้วย”“จ้ะ” แสนลักษณ์ตอบก่อนจะจูงมือมนัสวีเข้าบ้าน จากนั้นก็ปิดบ้านให้เรียบร้อย เพื่อแสนลักษณ์อาบน้ำก่อน ขณะที่มนัสวีเข้าไปดูสองแฝดในอีกห้องที่อยู่ติดกันทว่ามีพี่เลี้ยงมานอนเป็นเพื่อน“คุณวี กลับมาเมื่อไหร่คะ”“เมื่อกี้นี้เอง เดี๋ยววีดูเด็กๆ ต่อ กลับบ้านพักเถอะค่ะ”“ค่ะ” ว่าแล้วพี่เลี้ยงก็งัวเงียตื่น แล้วเก็บของกลับบ้านพัก ดีหน่อยที่มันไม่ได้ดึกดื่นอะไรมากนัก บ้านพักคนงานก็อยู่ไม่ไกลจึงไม่ได้ห่วง เพราะอยู่ในบริเวณรีสอร์ตนี่แหละ ส่วนมนัสวีก็เพ่งมองลูกน้องฝาแฝดที่หลับปุ๋ยคนละเตียง ยังดีที่เด็กๆ เลี้ยงง่ายไม่งอแง ม
จากนั้นจึงได้กลับบ้าน เจ้านายทั้งหมดนั่งรถตู้ไปด้วยกัน แสนลักษณ์มนัสวีนั่งคู่หน้า คเชนทร์กับจันทรภานั่งข้างหลังมืดๆ พลางจับมือกันเอาไว้ แล้วก้มหน้าลงมองที่มือของเธอซึ่งจับประสานกันชนิดที่ไม่อยากปล่อย“กลับบ้านกัน เขต” แสนลักษณ์เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ“ครับ” เขตแดนรับคำ จากนั้นจึงได้ออกจากลานจอดรถหน้าโรงพยาบาลเพื่อพาทั้งหมดกลับบ้าน คเชนทร์ได้แต่ถอนใจและมองหน้าคนรัก ก่อนจะยกมือขึ้นพรมจูบเบาๆ พลางเอามือเสยให้เธออย่างอ่อนโยน อีกทั้งสำรวจไปตามใบหน้า“พี่ปล่อยให้คุณหนูเป็นแบบนี้ไปได้ เจ็บไหม หืม” คเชนทร์กระซิบถามเสียงหม่น“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เจ็บแล้ว” เธอตอบเบาๆ“เข้มแข้งนะเนี่ย แต่หัวใจพี่น่ะ” เขากระซิบพลางเอาหน้าผากแนบกับเธอเอาไว้ เรียกว่าไม่อยากให้ใครได้ยิน แต่พ่อเลี้ยงนั่งฟังอยู่ด้านหน้าน่ะได้ยินอยู่แล้ว ยิ่งรถเงียบด้วย“หัวใจอยู่ตรงนี้แล้ว” เธอกระซิบตอบกลับพลางประคองใบหน้าเขาเอาไว้“อะแฮ่ม!” เสียงกระแอมกวนๆ ดังขึ้น ทำเอาคเชนทร์ถึงกับเหลือบมองด้วยความหมั่นไส้ งอนอ
“ไม่เป็นไร มันมีหน่วยกล้าตายแทนมาเป็นกำแพง เพื่อมาแลกให้มันรอดไปได้ แต่ฉันไม่ให้ใครมาเป็นหน่วยกล้าตาย ฉันไม่ให้แลก” แสนลักษณ์ตอบเสียงเรียบ“แล้วมีใครได้รับบาดเจ็บไหม” แสนลักษณ์เอ่ยถามขึ้นอีก เท่านั้นแหละคเชนทร์ก็มองหน้าแสนลักษณ์ทันที“ก็เค้าไง! กระสุนเฉี่ยวยังไม่พอ ยังโดนมีดบินอีก” คเชนทร์บ่นพลางตวัดหางตาใส่แสนลักษณ์อย่างงอนเง้า“เอ่อ ป๋าตั้งใจเล็งไปหน่อย นิดเดียวน่าไกลหัวใจมาก” แสนลักษณ์เอ่ยแซว เพราะรู้ว่าคเชนทร์ทนได้ไม่เป็นไรมากหรอก“แต่เสียบขา” คเชนทร์ขึ้นเสียงใส่“เล่มเล็กๆ” แสนลักษณ์ตอบและยิ้ม“เล็กแต่ยาวนะพ่อนะ” คเชนทร์ยังเถียงอยู่“ช่วยด้วย พี่ตุลย์ช่วยด้วย” ขณะที่สองพ่อลูกกำลังเถียงกันอยู่นั้น เสียงของน้ำอิงก็ดังขึ้น จันทรภาจึงเดินเข้าไปก่อน และทุกคนก็ได้ตามเข้าไป เห็นแต่ท่าทางอ่อนเพลียศีรษะมีเลือดไหลนอง และมองมาที่จันทรภา“อีเจ้า” น้ำอิงเรียกจิกด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย จะตายอยู่แล้วแต่เรียกเพื่อนได้จิกมาก จันทรภาไ