“ฝันไปเถอะครับ” คเชนทร์เค้นเสียงด้วยความลืมตัว จนพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ถึงกับหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ
“หึๆ งั้นก็รีบทำคะแนน จะมัวกลัวอะไรนักหนา ระดับนี้แล้ว อย่าให้เสียชื่อพ่อที่ฝึกวิชาให้จนหมดเปลือก” “หึๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน มันก็แค่ช่วงเวลานี้”“เอาเถอะ ไม่กวนละ ดูแลกันให้ดีๆ ละกันนะ” พ่อเลี้ยงแสนลักษณ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำลง เหมือนมีอะไรบางอย่างเก็บเอาไว้ในใจแต่ไม่ยอมเอ่ยออกมา คำว่า ดูแลกันให้ดีๆ ทำให้คเชนทร์ระแวงราวกับจะมีอะไรเกิดขึ้น“งั้นแค่นี้นะครับ ผมหาอะไรให้เธอกินก่อน ที่ทำไว้กินไม่ได้แล้ว” “รับบทพ่อบ้านใจกล้านะเรา” “แซวจริงๆ เลย แค่นี้ครับ” “อืม” สิ้นคำ ต่างฝ่ายก็ต่างวางสายจากกัน พ่อเลี้ยงได้แต่ถอนใจนึกห่วงใจของทั้งคู่ อีกใจก็นึกเอ็นดู คเชนทร์ไม่เคยดูแลใครแบบนี้มาก่อนเลย จนมาเป็นจันทรภา แต่ทำไปก็กลัวไป มันจะมีอะไรให้กลัวนอกจากหัวใจตัวเอง “ผ่านมาหมดแล้ว ไม่มีอะไรให้แกต้องกลัวหรอกเชนทร์ เชื่อพคอนโดแห่งหนึ่ง ถูกจับตามองจากเจ้าถิ่น เพื่อต้องการรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ชายที่ชื่อตุลยเทพ ทุกครั้งที่ชายหนุ่มเข้าออกคอนโด มักจะมี น้ำอิงเดินขนาบข้างอย่างกับคู่รัก ทุกจังหวะเวลาถูกเก็บภาพเอาไว้ทั้งสิ้น ทั้งภาพเคลื่อนไหวภาพนิ่งเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน เรื่องการหักหลังคบซ้อนกริ้ง! กริ้ง! กริ้ง! เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ขณะที่เขาผู้เป็นเจ้าถิ่น กำลังแอบส่องดูความเป็นไปของตุลยเทพอยู่ เมื่อได้ยินเสียงโทรก็รับทันที“อืม” เสียงขานรับในลำคอ ขณะที่สายตาจ้องไปที่ตุลยเทพ ซึ่งนั่งอยู่ในโซนรับแขกของคอนโดหลังนั้น“นายได้เรื่องยังไงบ้างครับ” เสียงปลายสายถามมาก่อนเลย บ้าบอ“กูต้องถามมึงก่อนนะไอ้เปรม”“อ๋อ เอ่อ ลืมตัว แต่ผมอยากรู้ฝั่งของนายก่อน”“ก็เนี่ย ส่องแม่งอยู่เนี่ย ทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และมันจับกลุ่มคุยกับลูกน้อง คิดการใหญ่แน่ๆ มันกำลังตามหาเจ้าขา แล้วที่กรุงเทพฯ เป็นยังไง”“งานนี้นายต้องให้โบนัสพิเศษผมแล้วล่ะ”“เออ! มึงพูดมาได้แล้ว”“เท่าที่บุกน้
“แค่นี้ก่อนนะ แล้วเจอกันค่ำๆ”“ค่ะ” เธอตอบเสียงหม่นก่อนจะกดวางสาย คเชนทร์ก็ถอนหายใจ ในความรู้สึกหลากหลายของตัวเอง ใจก็อยากกลับไปหาแหละ แต่มีงานต้องทำต่อกับพ่อเลี้ยง มีอะไรต้องปรึกษาเยอะแยะ อีกอย่างยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน เขาไม่อยากอู้บ่อยๆ และแน่นอนว่าระดับคเชนทร์หากได้ทำงาน ก็ทำแบบหามรุ่งหามค่ำ ไม่ดูเวล่ำเวลาคนอื่นกลับไปหมดแล้วตัวเองยังอ่านนั่นเซ็นนี่ที่คั่งค้าง แถมยังไปเดินตรวจตราความเรียบร้อยของโรงแรม มองแขกที่ลงมาเดินเล่นถามรูปเพลินๆ จวบจนกระทั่งเวลาสามทุ่ม ก็ยกนาฬิกาขึ้นมาดูถึงได้รู้ว่าดึกแล้ว“ตาย ไม่ใช่รอจนหน้าบูดบึ้งแล้วเหรอเนี่ย” เขาออกปากบ่นด้วยความตกใจและรีบ ออกจากโซนเรือนรับรองทันที“วันนี้ท่านกลับดึกจังครับ” พนักงานถาม“ตรวจอะไรเพลินๆ น่ะ จะกลับละ”“ครับ สวัสดีครับ” พนักงานกล่าวลาพร้อมกับยกมือไหว้“อื้อ สวัสดี” คเชนทร์รับไหว้ก่อนจะเดินดุ่มๆ ผ่านหน้าฟร้อนท์โร
“จะว่ายังไง ก็ได้เมียน่ะสิ”“โอ๊ย” คเชนทร์ได้แต่ครางโอดโอยเชียว“ทนไม่ไหวก็เอา ไอ้นี่ เจ้าไม่ได้มีเจ้าของแล้ว ใจเธอไม่ได้เหลือให้กับทางนั้นแล้ว เพราะถ้ามีเธอไม่ทนให้แกไล่เช้าไล่เย็น ทนให้แกทำอาหารธรรมดาๆ ให้กิน และใช้ชีวิตแบบนี้ได้หรอก อย่าโง่สิลูก”“เฮ้อ! แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้ ผมก็เห็นตัวอย่างพ่อ มันสมบูรณ์สวยงาม แต่ถ้ามันพลาดพลั้ง มันก็ไม่ได้มีอะไรดีหรอก ขี้เกียจมานั่งง้อ มานั่งปลอบประโลม นั่งขอโทษ อยากตื่นขึ้นมาแบบ ฟินไปเลยได้ไหม แบบพ่อน่ะ”“นี่มึงไปแอบใต้เตียงพ่อตอนไหน”“ยกตัวอย่างน่ะ”“เถียงไม่ออกเลย”“มันมีตัวอย่างให้เห็นครับ เลยไม่อยากทำอะไรที่ไม่ดี ถึงจะอยากมากแค่ไหนก็เถอะ”“หึๆ ถ้าอยากเห็นเธอมีความสุข แกก็ต้องทนได้ ไม่ใช่เจอเธอเมาก็จะเอา จะฉวยโอกาสมันก็ไม่ใช่ ต้องทำให้เธอรู้สึกว่าต่อให้เธอเมา หรือควบคุมตัวเองไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” เธอถามตัวเอง และเมื่อคิดทบทวนเรื่องเมื่อคืนแล้วนั้นเธอบุกมาหาเขาถึงที่นอนเลยนี่น่า แล้ว... แล้ว...“อ๊ายยยยย” จันทรภากรี๊ดลั่นจนคเชนทร์สะดุ้งลุก“อะไรๆๆๆ เจ้าขา ใครๆ ใครทำอะไรคุณ” เขาสะดุ้งลุกแล้วละล่ำละลักถามทันทีไม่ดูอะไรเลย“อ๊าย อีพี่... อีพี่เชนทร์ ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้” เธอกรี้ดแล้วชี้หน้าเขา เท่านั้นแหละเขาก็ได้สติเช่นกัน ก่อนจะยิ้มตาหยีเชียว“อ๋ออออ นึกว่าตกใจอะไร” เขาร้องอ๋อและยิ้มก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ขณะที่เธอสั่นไปทั้งตัว เพราะคิดว่าตัวเองทำอะไรที่ไม่เหมาะโดยไม่ตั้งใจ“จำไม่ได้เหรอ ว่าเมื่อคืนเรา...”“ไม่ใช่ พี่เชนทร์อย่ามา...”“อะไร เมื่อคืนเจ้า รุกพี่ จูบพี่ แก้ผ้าพี่”“ว๊าย! ไม่จริง”“จริง” เขาตอบแบบจริงจังหน้าเคร่ง“เจ้า เจ้า เอ่อ”&nb
ทว่าเธอยังไม่ทันได้ตอบเสียด้วยซ้ำ เรียวปากร้อนก็ประทับจูบลงไปบนปากนุ่มแนบแน่น จูบซับเพื่อหยั่งความรู้สึกที่มีต่อกัน จากนั้นเขาจึงได้ถอนจูบออกเพียงนิดเดียว และดูเหมือนจะมีคำถามจากดวงตา แต่เปล่าเลย เธอกลับขยับใบหน้าเข้าหาเขา และหลับตาเพื่อให้เขาประทับจูบอีกครั้งจูบแรกในชีวิตวัย 26 ปีของเธอ ที่มอบให้กับผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้เลือก แต่กลับเป็นคนขโมยหัวใจของเธอไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ และยิ่งต่างเต็มใจก็ยิ่งไม่มีอะไรมาทัดทาน จากจูบหวานทะยานสู่ความหนักหน่วง ตามด้วยเสียงหายใจหอบพร่า พร้อมกับลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าสู่โพรงปาก เพื่อตักตวงรสหวานจากลิ้นอุ่น ที่ตวัดพันเกี่ยวกันและกันอยู่เนิ่นนานเมื่อพอใจแล้วเขาจึงได้หักใจ เรียกสติและถอนจูบออก พร้อมกับบอกตัวเองว่ายังไม่ถึงเวลา อีกทั้งเวลานี้เธอเข้าใจว่ามีอะไรกับเขาไปแล้วด้วย “พี่เชนทร์” เธอกระซิบเบาๆ เมื่อเขาเอาหน้าผากแตะหน้าผากเธอเอาไว้ มือยังประคองใบหน้าอยู่เช่นเดิม“จ๋า” เขาตอบน้ำเสียงพร่า เหมือนมีความต้องการอยู่ในร่างกายนี่แหละ“เจ้าขาหิวข้าว” เธอเอ่ย ถือว่าเป็
เป็นการกินข้าวด้วยกันมื้อแรก ที่ทำให้รู้สึกว่าท้องฟ้าเป็นสีชมพู โลกใบนี้มีเพียงสองคนที่นั่งอยู่ จันทรภามีความขัดเขิน หน้าแดง วางตัวไม่ถูก กระทั่งเขาตักข้าวให้ แล้วตักอาหารใส่จานให้เรียบร้อย ดูแลเป็นอย่างดี“กินเลยครับ”“เอ่อ แล้วพี่เชนทร์ไปทำงานไหมคะ”“ไปครับ ทำไมเหรอ”“เปล่าค่ะ เห็นพี่เชนทร์ลุกมาวุ่นกับมื้อเช้าให้เจ้า”“ทำแปบเดียวก็เสร็จแล้ว” เขาบอกและยิ้มบางๆ“แย่จังเลยนะคะ เจ้าทำอะไรไม่เป็นเลย”“สอนให้แล้วไง เดี๋ยวก็ทำเป็น”“แล้ว เจ้าทำงานบ้าน ซักผ้า ทำนั่นโน่นนี่ช่วย”“อื้อ! แพ้น้ำยาล้างจาน ไหนจะน้ำยาซักผ้า”“น้ำยาที่ไม่แรงก็ไม่แพ้แล้วค่ะ ทำเป็นแล้วด้วย มีแต่ทำกับข้าวนี่แหละที่ยังทำไม่ค่อยได้”“ทำไม เครียดเรื่องทำกับข้าวทำไ
“วันนี้เริ่มมีนักศึกษาฝึกงานเข้ามาเหรอเนี่ย” พ่อเลี้ยงถามเสียงเรียบเรียกว่าถามลอยๆ จะดีกว่า เพราะเห็นพากันใส่ชุดนักศึกษาติดป้ายกัน และเดินกันให้วุ่นเชียว ทว่าแต่ละคนไม่รู้ว่าแสนลักษณ์กับคเชนทร์เป็นใคร เพียงแต่หันมามองด้วยสายตาแปลกๆ เท่านั้นเองเพราะมีผู้ติดตามเยอะ“ใช่ครับ แต่เราคงไม่ได้เจอนักศึกษาฝึกงานหรอก เพราะคงให้ฝึกตามแผนกอื่นๆ คงไม่ให้ยุ่งกับผู้บริหารหรอกครับ” คเชนทร์ตอบ“คงจะวุ่นน่าดู จะเดินชนกันอยู่แล้ว บอกผู้จัดการเรียกประชุมกันบ้างนะ หรือไม่ก็เอาผนังบริหารให้ดู” พ่อเลี้ยงออกปากบ่นเล็กน้อย เพราะรู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลยที่เดินสวนสนามกัน“ครับพ่อ” คเชนทร์ตอบ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานให้ เพื่อส่งพ่อเลี้ยง“ไปทำงานเถอะครับท่าน ปล่อยหน้าที่นี้ให้เป็นของเจ้าเขตกับเจ้าโอ๊ตได้แล้ว”“ก็มันชินนี่ครับ ผมไปทำงานแล้ว”“ไปเถอะ” พ่อเลี้ยงกล่าวและยิ้มอีกครั้ง จากนั้นคเชนทร์จึงได้กลับห้องทำงานของตัวเอง“สวัสดีครับนาย” เปรมณัฐทักทาย
“หนูกลัวโดนทำโทษนี่คะ”“ผมสั่ง ให้จำเอาไว้ด้วย แล้วนี่คือชั้นผู้บริหาร อย่าเที่ยวมาเดินเพ่นพ่าน”“หนูสามารถขึ้นมาฝึกงานบนชั้นนี้ได้หรือเปล่าคะ”“ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้บริหารท่านใด อยากได้นักศึกษาฝึกงานมาช่วยหรือเปล่า ทำไม ถามทำไม”“เผื่อท่าน อยากได้เด็กๆ มาช่วยงานค่ะ”“แบบเราเหรอ ก็สงสัยอยู่ ว่าจะช่วยอะไรได้ เอาไว้จะพิจารณาและลองถามท่านอื่นๆ ดูก็แล้ว ไม่มีไรแล้วก็เชิญ” พูดจบคเชนทร์ก็ออกปากไล่พร้อมกับผายมือทันที เพราะไม่อยากอ้อยอิ่งให้สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าล่อสายตานัก“ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้ แล้วถือแฟ้มออกไปจากห้องทันที แต่แล้วต้องชะงักเท้าเมื่อเจอเข้ากับเปรมณัฐเข้า“นี่เธอเข้าไปทำอะไรในห้องท่านเนี่ย”“เอ่อ หนูเอาแฟ้มเข้าไปให้ท่านเซ็นค่ะ คือ คุณเลขาไม่อยู่”“ไม่อยู่ก็ต้องรอ ไม่รู้จักกาลเทศะเลยนะเราเนี่ย ไปได้แล้ว”“ค่ะ” เธอตอบน้ำเสียงหม่นๆ ก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวจ
“หายแล้วค่ะ หายเหมือนพ่อเชนทร์เลย ไปกินข้าวต่อนะคะจะได้ไปโรงเรียน”“ครับ/ค่ะ” สองแฝดรับคำแบบประสานเสียง ก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในห้องอาหาร สองพ่อก็มองตามและยิ้ม ก่อนจะหันมามองหน้ากันแล้วปรับสีหน้าให้เรียบ“พี่รักเอาคำว่าพ่องมาจากไหน” แสนลักษณ์หันมาดุคเชนทร์ซะงั้น“หืม ก็พูดเอง เด็กพูดไม่ชัด”“พูดไม่ชัด แต่ชัดมาก แกสอนหลานไม่ดีใช่ไหม”“ป่าว ใครจะสอนหลานพูดหยาบ”“แต่สอนให้หลานกวนตีน”“ป่าว สอนเมื่อไหร่ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยเลย”“โตขึ้นมาได้นิสัยแกนี่ฉันจะเบิ้ดกะโหลกให้”“ไม่เกี่ยวกะเค้าเลย”“เอ้าๆๆ มาแล้ว เป็นงานเป็นการ สองพ่อลูกเถียงอะไรกันเนี่ย” เกตุวดีแทรกขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหา และนั่งลงข้างๆ คเชนทร์เรียกว่าข้างๆ จนชิดๆ และเบียดโดนขา“โอ๊ย! ป้า! นั่นสะโพกหรือกะละมังเนี่ย กระแทกขาแรงมาก”“ว๊าย! อีเชนทร์”“เ
“ขู่อะไรแบบนี้ แม่เจ้าไม่น่ากลัว แต่พ่อเจ้าน่ะดุ”“ดุไม่สู้พ่อแสนของพี่หรอก”“นี่จะเอาพ่อมาสู้กันเหรอคะ”“หึๆ สักตั้งหนึ่งน่า”“ระหว่างตามหานายตุลย์กับสมุนมาเข้าคุก เจ้าก็เคลียร์กับพ่อตาพี่ละกัน”“ไม่ง่ายเลยค่ะ กลัวพ่อจ้ะ...”“พูดเองว่าไม่ให้พี่กลัว ตัวเองกลัวซะงั้น”“กลัวพ่อไม่ชอบพี่เชนทร์”“ยังไม่เคยเผชิญหน้ากันจะรู้เหรอ อย่าเพิ่งกลัว พี่จะไม่กลัว นอนซะคนเก่งของพี่” สิ้นคำเขาก็กอดเธอเอาไว้และจูบเบาๆ ที่เรือนผม จากนั้นก็ไม่ได้เอ่ยอะไรกันอีก นอกเสียจากฟังเสียงหัวใจที่เต้นแรง ต่างคนต่างบอกไม่ให้กลัว ทว่าเริ่มกลัวแล้วสิน่าพอรุ่งเช้าคเชนทร์ลุกจากที่นอนตั้งแต่เช้าตรู่ ใส่แต่เพียงกางเกงดังเดิม มือหนึ่งคีบบุหรี่พ่นออกมา ส่วนมืออีกข้างถือโทรศัพท์มีการพูดคุยแบบเครียดๆ และพยายามไม่ให้เสียงดัง เพราะเปิดหน้าต่างระเบียงตรงห้องนอน“เรื่องเมื่อคืนเรียบร้อยทุกอย่างครับคุณเชนทร์&rdqu
“ซี๊ดดดด อ่า เจ้าจ๋า พี่จะแตกแล้ว”“เจ้าก็... โอ้ว พี่เชนทร์ แรงๆ อื้อ!” เธอร้องครางออกคล้ายกับใกล้จะถึงจุดหมาย จนเขาเร่งเร้าจังหวะกระแทกสะโพกอย่างหนักหน่วง และจูบแนบแน่นที่ปากอิ่ม“อื้อ” เขาครางในลำคอเมื่อถึงจุดที่เสียวซ่านที่สุด“โอ้ว เมียจ๋า ผัวจะไม่ไหวแล้ว”“เมียก็ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อ๊ะ อืม” สิ้นคำของเธอเท่านั้นแหละ ร่างกายก็กระตุกเกร็งและยกสะโพกขึ้นพร้อมกับกอดเขาเอาไว้ ปลดปล่อยความปรารถให้พรั่งพรูออกมา เขาจึงไม่รั้งรอรีบเร่งระรัวอีกเพียงไม่กี่ครั้งก็คว้าเส้นชัยตามไปติดๆ“อื้อ อ่า อ่า เมียจ๋า เมียพี่... เสียวที่สุดเลย” เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่หอบกระเส่า ขณะที่แท่งกายกดจมเข้าไป และพ่นน้ำรักใส่ในร่างกายของเธอจนเอ่อล้นเป็นหนึ่งเดียวกัน ทว่ามันยังดีดดิ้นอยู่ภายในราวกับพ่นพิษไม่หมด อารมณ์สุขสมล่องลอยอยู่บนสวรรค์ชั้นเจ็ด แต่เมื่อร่างกายยังไม่เข้าที เขาก็ประทับจูบแนบแน่นดูดดื่มพร้อมกับร่างกายที่ค่อยๆ กลับสู่สภาวะปกติ แล้วจึงได้ถอนจูบออก“ดอกฟ้าของไอ้เชนทร์”
“มันทำให้หัวใจชุ่มฉ่ำต่างหากล่ะ”“จะเอาอะไรคะ” เธอถามอย่างขัดเขิน เขาจึงยื่นหน้าเข้าไปกระซิบ“เป่ามนต์ให้พี่หนึ่งทีแล้วจะนอน” คำพูดดูเหมือนไม่มีอะไร หากเธอไม่คิดมาก ทว่าเธอโน้มหน้าลงไปเป่าที่ต้นแขนให้“โอมเพี้ยง!” ปากก็เป่าไป สายตาก็ตวัดขึ้นมองเขาและยิ้ม แต่วินาที่เขาจะคลั่งก็ตรงที่แม่คุณค่อยๆ ย่อตัวลงช้าๆ กดจูบที่แผงอกเล็กน้อยกระทั่งเข่าชิดติดพื้น เขาก็ได้ยิ้มและหลับตา เมื่อมือนุ่มดึงกางเกงเขาลงช้าๆ จมูกโด่งก็ไต่ลงมาตามหน้าท้องจนถึงขอบบ็อกเซอร์ และชั่วอึดใจมันถูกมือน้อยดึงลงไปพร้อมกับกางเกงเสียเลย แต่เธอไม่ได้สนใจสิ่งที่มันดีดผึ่งผงาดออกมาล่อสายตาหรอก เธอก้มลงไปเป่าตรงบาดแผลที่ปิดด้วยผ้าก็อตเอาไว้“โอมเพี้ยง!” เธอเอ่ยอีกครั้งก่อนจะยิ้มมุมปาก“เป่าแผลให้เค้าเฉยๆ แล้วจะถอดกางเกงเขาทำไม” เขาถามเสียงนุ่ม ว่ากลับก้มหน้าลงมองเธอราวกับจะกลืนกิน เธอก็สบตาคมกริบก่อนจะเอามือลูบไล้น่องของเขา ขึ้นมาจนถึงกลางลำตัว ใบหน้าเสมอแท่งไอศรี
“เรียกคุณอาขาแล้วจะแตก เซ็กซี่จัง” สิ้นคำเขาก็จูบปิดปากนิ่มเอาไว้แล้วกระแทกสะโพกแรงๆ ระรัวจนเมียเด็กทานทนไม่ไหว ได้แต่ครางในลำคอพลางแอ่นกายเหยียดเกร็งลำตัว พลางกอดเขาเอาไว้แน่น“อืม” มีแต่เพียงเสียงอื้ออึงที่เปล่งออกมาเพราะถูกปิดปาก พร้อมกับความปรารถนาถูกเปล่งออกมาจนกระทั่งเม็ดสวาทกระตุกตอด“ซี๊ดดดด อาจะแตกแล้วเมียจ๋า” สิ้นคำเขาก็กดสะโพกแนบแน่น กับกลีบนุ่มและปล่อยลาวาอุ่นๆ ทะลักเข้าสู่กายเธอ หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ขณะที่ท่อนเนื้อยังคงเคลื่อนไหวอยู่ภายใน เพื่อปล่อยทุกอย่างให้ออกมาจนสุด ตามด้วยเสียงหายใจหอบทว่ายังคงบดขยี้จูบอย่างดูดดื่มสิ้นสุดอารมณ์ปรารถนาเหลือไว้แต่เพียงเสียงหายใจหอบ ทว่าร่างกายยังคงสอดประสานไม่ยอมขยับออก จวบจนกระทั่งอารมณ์ล่องลอยและปลดปล่อยจนหมด แล้วร่างกายกลับมาเป็นปกติถึงได้ถอนจูบออก ทว่าทั้งสองดูเหนื่อยหอบราวกับวิ่งทางไกลมาก“เมียจ๋า อายังเสียวอยู่เลย” เขากระซิบเสียงหวานออดอ้อน“อื้อ ให้วีกลับมาเป็นปกติก่อนนะคะ
“อย่าพูดอ้อมค้อม บอกว่าต้องการซิ” เขากระซิบเสียงนุ่มและยิ้ม เธอก็ได้แต่เม้มปากขัดเขินก่อนจะพยักหน้า“ต้องการค่ะ ต้องการผัวแก่ตลอดแหละ”“รู้ไหมว่า... ไอ้คนที่มันตายน่ะมันเรียกอาว่าไอ้แก่ แล้วเมียเรียกแบบนี้”“จะทำอะไรวีเหรอคะ”“จะทำให้ตายคาอกเลย เดี๋ยวเจอฤทธิ์คนแก่” สิ้นคำเขาก็กดจูบที่ปากนุ่มอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ก่อนจะพรมจูบซับพวงแก้ม ซอกคอ และลากไล้เรียวลิ้นอุ่นลงมาตามเนินอก ก่อนจะอ้าปากครอบครองเม็ดถัน และโลมเลียอย่างรวดเร็ว ทำเอาร่างน้อยสั่นสะท้านเสียวซ่านและบิดเกร็ง ได้แต่หายใจหอบพร่า ทั้งเนินอกและหน้าท้องขยับไหว มือน้อยๆ ก็กดศีรษะเขาเบาๆ พลางแอ่นโค้งแผ่นหลังขณะเดียวกันมือหนาก็เอื้อมลงไปสัมผัสกลีบอวบนุ่มผ่านกางเกงชั้นในสีขาวบางจิ๋ว ซึ่งเวลานี้เปียกแฉะไปด้วยน้ำกุหลาบหวาน และกลีบนุ่มนั้นเริ่มบวมเบ่งเพราะความปรารถนา“ซี๊ด อืม” เธอครางอย่างสุดจะกลั้น เมื่อเขาบดขยี้ปลายนิ้วกับเกสรน้อย และเพียงชั่
แสนลักษณ์มองตามสองคน ที่เดินจากไปและยังคงยิ้มอยู่ เคยจินตนาการเอาไว้ ว่าสักวันการเดินกลับบ้านในแต่ละครั้งของคเชนทร์ จะมีใครสักคนได้เดินไปด้วย แต่ละวันที่ผ่านไปคเชนทร์เดินคนเดียวเสมอ ทว่าวันนี้เห็นเขาจูงมือไปกับผู้หญิงที่เขารัก มันช่างเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบ แต่ยัง อุปสรรคยังไม่หมดตราบใดที่ยังขึ้นชื่อว่าเด็ดดอกฟ้ามาไว้ริมถนนอยู่“เข้าบ้านเถอะค่ะ อาแสนจะได้ไปอาบน้ำ วีจะไปดูเด็กๆ ด้วย”“จ้ะ” แสนลักษณ์ตอบก่อนจะจูงมือมนัสวีเข้าบ้าน จากนั้นก็ปิดบ้านให้เรียบร้อย เพื่อแสนลักษณ์อาบน้ำก่อน ขณะที่มนัสวีเข้าไปดูสองแฝดในอีกห้องที่อยู่ติดกันทว่ามีพี่เลี้ยงมานอนเป็นเพื่อน“คุณวี กลับมาเมื่อไหร่คะ”“เมื่อกี้นี้เอง เดี๋ยววีดูเด็กๆ ต่อ กลับบ้านพักเถอะค่ะ”“ค่ะ” ว่าแล้วพี่เลี้ยงก็งัวเงียตื่น แล้วเก็บของกลับบ้านพัก ดีหน่อยที่มันไม่ได้ดึกดื่นอะไรมากนัก บ้านพักคนงานก็อยู่ไม่ไกลจึงไม่ได้ห่วง เพราะอยู่ในบริเวณรีสอร์ตนี่แหละ ส่วนมนัสวีก็เพ่งมองลูกน้องฝาแฝดที่หลับปุ๋ยคนละเตียง ยังดีที่เด็กๆ เลี้ยงง่ายไม่งอแง ม
จากนั้นจึงได้กลับบ้าน เจ้านายทั้งหมดนั่งรถตู้ไปด้วยกัน แสนลักษณ์มนัสวีนั่งคู่หน้า คเชนทร์กับจันทรภานั่งข้างหลังมืดๆ พลางจับมือกันเอาไว้ แล้วก้มหน้าลงมองที่มือของเธอซึ่งจับประสานกันชนิดที่ไม่อยากปล่อย“กลับบ้านกัน เขต” แสนลักษณ์เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ“ครับ” เขตแดนรับคำ จากนั้นจึงได้ออกจากลานจอดรถหน้าโรงพยาบาลเพื่อพาทั้งหมดกลับบ้าน คเชนทร์ได้แต่ถอนใจและมองหน้าคนรัก ก่อนจะยกมือขึ้นพรมจูบเบาๆ พลางเอามือเสยให้เธออย่างอ่อนโยน อีกทั้งสำรวจไปตามใบหน้า“พี่ปล่อยให้คุณหนูเป็นแบบนี้ไปได้ เจ็บไหม หืม” คเชนทร์กระซิบถามเสียงหม่น“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เจ็บแล้ว” เธอตอบเบาๆ“เข้มแข้งนะเนี่ย แต่หัวใจพี่น่ะ” เขากระซิบพลางเอาหน้าผากแนบกับเธอเอาไว้ เรียกว่าไม่อยากให้ใครได้ยิน แต่พ่อเลี้ยงนั่งฟังอยู่ด้านหน้าน่ะได้ยินอยู่แล้ว ยิ่งรถเงียบด้วย“หัวใจอยู่ตรงนี้แล้ว” เธอกระซิบตอบกลับพลางประคองใบหน้าเขาเอาไว้“อะแฮ่ม!” เสียงกระแอมกวนๆ ดังขึ้น ทำเอาคเชนทร์ถึงกับเหลือบมองด้วยความหมั่นไส้ งอนอ
“ไม่เป็นไร มันมีหน่วยกล้าตายแทนมาเป็นกำแพง เพื่อมาแลกให้มันรอดไปได้ แต่ฉันไม่ให้ใครมาเป็นหน่วยกล้าตาย ฉันไม่ให้แลก” แสนลักษณ์ตอบเสียงเรียบ“แล้วมีใครได้รับบาดเจ็บไหม” แสนลักษณ์เอ่ยถามขึ้นอีก เท่านั้นแหละคเชนทร์ก็มองหน้าแสนลักษณ์ทันที“ก็เค้าไง! กระสุนเฉี่ยวยังไม่พอ ยังโดนมีดบินอีก” คเชนทร์บ่นพลางตวัดหางตาใส่แสนลักษณ์อย่างงอนเง้า“เอ่อ ป๋าตั้งใจเล็งไปหน่อย นิดเดียวน่าไกลหัวใจมาก” แสนลักษณ์เอ่ยแซว เพราะรู้ว่าคเชนทร์ทนได้ไม่เป็นไรมากหรอก“แต่เสียบขา” คเชนทร์ขึ้นเสียงใส่“เล่มเล็กๆ” แสนลักษณ์ตอบและยิ้ม“เล็กแต่ยาวนะพ่อนะ” คเชนทร์ยังเถียงอยู่“ช่วยด้วย พี่ตุลย์ช่วยด้วย” ขณะที่สองพ่อลูกกำลังเถียงกันอยู่นั้น เสียงของน้ำอิงก็ดังขึ้น จันทรภาจึงเดินเข้าไปก่อน และทุกคนก็ได้ตามเข้าไป เห็นแต่ท่าทางอ่อนเพลียศีรษะมีเลือดไหลนอง และมองมาที่จันทรภา“อีเจ้า” น้ำอิงเรียกจิกด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย จะตายอยู่แล้วแต่เรียกเพื่อนได้จิกมาก จันทรภาไ