“เออนี่ น้ำหนาวงานเลี้ยงต้อนรับนิสิตใหม่ของคณะเราเธอจะไปไหม?” มิ้ลเชคที่เดินกลับจากคณะมาพร้อมกันกับน้ำหนาวถามขึ้นเพราะเธอกำลังหาคนไปเป็นเพื่อน อีกอย่างนอกจากน้ำหนาวแล้วเธอก็ยังไม่รู้จักใครเลย
“ฉันก็อยากไปนะแต่เห็นพวกรุ่นพี่บอกว่าไปกินเลี้ยงในผับฉันเลยลังเลอ่ะ ว่าจะไปดีไหม ฉันไม่ค่อยถนัดกับที่แบบนั้นเท่าไหร่”
เธอตอบไปตามตรงเพราะชีวิตคนตัวเล็กนอกจากเรียนแล้วก็ขลุกอยู่กับที่ทำงานพาร์ทไทม์เป็นส่วนใหญ่ จนเวลาจะเที่ยวแทบไม่มี
“อย่าบอกนะ ว่าเธอไม่เคยไปผับเลย?”
“อืม ปกติพอฉันเลิกเรียน ก็ไปทำงานพิเศษน่ะ ไม่ค่อยได้ไป ไหนหรอก เพราะกว่าจะเลิกงานก็ดึกแล้ว”
“Oh My God นี่ฉันกำลังทำความรู้จักกับแม่ชียุค 2024 หรอเนี่ย” มิ้ลเชคเอามือปิดปากแล้วอุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อ เจ้าหล่อนหน้าเหวอราวกับนี่คือการค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่แปดของโลก ที่เธอเป็นผู้ค้นพบ
“ที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตอยู่หลุมดำที่ไหนมาเนี่ย” คำถามของมิ้ลเชคเล่นเอาน้ำหนาวนิ่งไปชั่วขณะจนคนพูดตกใจต้องขอโทษขอโพยกันยกใหญ่กลัวว่าเพื่อนสาวจะเข้าใจผิดว่าเธอไปดูถูกเจ้าตัวเข้าให้ เพราะด้วยท่าทางมั่นและบุคลิกหลาย ๆ อย่างของมิ้ลเชค เจ้าตัวมักจะชวนให้คนอื่นเข้าใจผิดอยู่บ่อยครั้ง
“I’m Sorryไม่ใช่ ๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกเธอหรืออะไรนะคือ…”
"เฮ้ย ๆ เธออย่าคิดมาก ฉันไม่โกรธหรอก แค่ว่า...นึกตามแล้วก็คิดว่าเธอพูดไม่ผิดเลย ฉันไม่เคยได้ใช้ชีวิตแบบเด็กคนอื่นซักเท่าไหร่จริง ๆ" พูดมาถึงตรงนี้น้ำหนาวก็แอบเสียดายช่วงเวลาเหล่านั้นขึ้นมาไม่น้อยเหมือนกัน
สองสาวหยุดยืนนิ่งอยู่สักพักก่อนที่แม่นิกกี้มินาจสุดเซ็กซี่จะเอาหน้าแนบใบหูเล็กริมฝีปากหนาตามแบบฉบับสาวสายฝอกระซิบข้างหูน้ำหนาวเบา ๆ
“ลองไปเปิดหูเปิดตากันบ้างไหมล่ะ?”
ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะตอบอะไรออกมามิ้ลเชคก็คว้าข้อมือเล็กวิ่งไปขึ้นรถของตนที่จอดอยู่ข้างคณะ จนคนถูกกระชากแบบไม่ทันตั้งตัวถลาไปตามแรงลากตัวแทบปลิว
“เธอจะพาฉันไปไหนมิ้ล?”
“ไปคอนโดฉันกัน”มิ้ลเชคใช้มือกดศีรษะคนตัวเล็กไปในรถอย่างง่ายดาย ก่อนที่ตัวเองจะเดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับหน้าตาเฉย
“ฉันไม่ได้เอาชุดอะไรมาเลยนะ ธะ เธอให้ฉันลงไปเอาชุดมาที่ห้องมาก่อนไม่ ดีกว่าเหรอ?” น้ำหนาวค้านในขณะที่ยังตกใจไม่หาย
“ไม่ต้องจ้ะชุดฉันเยอะแม่ชีอย่างเธออยู่เฉย ๆ เลยเดี๋ยวเจ้าแม่แฟชั่นอย่างฉันจัดการเอง” มิ้ลเชคจีบปากจีบคอเป็นเชิงว่าเรื่องนี้ไว้ใจเธอได้ ย.ห อย่าห่วง
“ตะ แต่ชุดฉันก็มีนะ จะได้ไม่ต้องรบกวน…”
“รบกงรบกวนอะไรฉันชอบเลยล่ะเรื่องแบบนี้ นี่ฉันกะว่าจบไปนะกะจะขอแม่เปิดร้านเสริมสวยทำแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองแล้วก็เปิดโรงงานผลิตเครื่องสำอางใหญ่ระดับประเทศไปเลยแล้วจากนั้นค่อย ๆ ขยายสาขาเพิ่มอีกทั่วโลก”
น้ำหนาวนั่งฟังมิ้ลเชคสาธยายโครงการในอนาคตของเธอเสียยาวเหยียดตลอดเส้นทางจากคณะไปที่หอพักโดยที่เจ้าของรถไม่เว้นช่องไฟให้อีกฝ่ายพูด จนมาถึงคอนโดอย่างที่ตั้งใจไว้
“ไป! ไปกันถึงแล้ว”มิ้ลเชคเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดนิรภัยของตนเองออกน้ำหนาวเองก็เช่นกัน ในเมื่อไหนเจ้าของห้องก็พามาถึงที่ขนาดนี้แล้วต่อให้เธอพูดว่าเกรงใจอีกเป็นร้อยครั้งก็คงไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี
ทั้งสองเดินตรงไปกดลิฟท์บริเวณกลางคอนโดที่กำลังจะปิดลงพอดีทำให้ เจ้าแม่แฟชั่นสาวรีบสับขาวิ่งไปไวปานจรวด
“รอด้วยค่ะ รอด้วย รอสาวสวยด้วยคะหนุ่ม ๆ”เสียงลูกคอสิบแปดชั้นของนิกกี้มินาจคณะบริหารดังลั่นล็อบบี้คอนโด จนคนในลิฟท์ต้องกดเปิดให้เธอจนได้
ติ้ง!
ทันทีที่ประตูลิฟท์ถูกเปิดออกก็ปรากฏร่างสูงสวมเสื้อกันหนาวฮู้ดสีดำปิดหน้าปิดตามิดชิดยืนอยู่ในลิฟท์กับชายอีกคนที่ส่วนสูงพอ ๆ กันในมือเขาถือของกินพะรุงพะรังยืนอยู่ก่อนแล้ว สองสาวเดินเข้าไปในลิฟท์ยืนขนาบซ้ายขวาโดยดันให้หนุ่มทั้งสองคนยืนอยู่ตรงกลาง
“ไปชั้นไหน?” เสียงทุ้มของชายเสื้อดำถามขึ้นสั้น ๆ
“ชั้นเก้าค่ะ” บรรยากาศในลิฟท์เงียบสงัดไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาอีก จนกระทั่งลิฟท์ขึ้นถึงชั้นเก้า
ติ้ง !
สองสาวกำลังเดินออกจากลิฟท์แต่ทว่า จู่ ๆ ชายที่ยืนอยู่ด้านขวาก็เดินแทรกออกมาเบียดคนตัวเล็กจนล้มพับไปตรงกลางระหว่างประตูลิฟท์
“โอ๊ย!!”
“เห้ย! เดินยังไงของคุณเนี่ยไม่เห็นหรือไงว่าคนเขากำลังจะออก” มิ้ลเชคโวยขึ้นมาเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองถูกชนล้มลงกับพื้นจนเอกสารที่ถืออยู่หล่นกระจัดกระจายไป คนละทิศคนละทาง
“ขะ ขอโทษครับน้อง เจ็บตรงไหนไหมพี่ไม่ได้ตั้งใจ?”
ชายหนุ่มบอกเอ่ยขอโทษอีกฝ่ายพลางก้มลงช่วยเธอเก็บเอกสารแล้วส่งให้เจ้าของ ก่อนที่สายตาคมจะเหลือบไปเห็นข้อมูลส่วนตัวของหญิงสาวบนเอกสารบางฉบับ
“อะ เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ”
“น้องเรียนบริหารเหรอครับ?”
“คะ อะ… อ๋อ ใช่ค่ะพี่….”
“เรียนคณะเดียวกับ พี่เลยพี่ชื่อดาต้าอยู่ปีสามครับ” ชายหนุ่มเอ่ยแนะนำตัว พร้อมส่งมือให้หญิงสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ดูเป็นมิตร
“หนูชื่อน้ำหนาวค่ะ บริหารปีหนึ่งค่ะยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่ดาต้า”
หญิงสาวยื่นมือไปจับมือเชคแฮนด์กับดาต้าอย่างงง ๆ แต่สุดท้ายก็ยิ้มตอบเขา ก่อนจะถูกเพื่อนนมโตของเธอตัดรำคาญอีกฝ่ายด้วยการลากออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
“มึงจะยืนอีกนานไหม กูหิวข้าว” ซีเมลเอาฮู้ดลงไปอยู่ที่ระดับไหล่เผยให้เห็นบาดแผลจาง ๆ จากการโดนทำร้ายที่หน้ารั้วมหาลัย ก่อนจะกดปิดลิฟท์โดยที่เพื่อนสนิทของตัวเองยังยืนอยู่ตรงประตู
“ไอ้สัตว์ซีจะรีบปิดเพื่อ” ดาต้าตะโกนด่าคนข้างหลังแล้วพาตัวเองถอยกลับ เข้ามาในลิฟท์
“กูหิว”
“แหม…หิวเมื่อกี้กูเห็นนะว่ามึงจงใจเอามือกันประตูลิฟท์ไว้ตอนที่กูเก็บของให้น้องเขาอ่ะ” ซีเมลที่ถูกเพื่อนรู้ทันรีบเสมองไปทางอื่นทำไม่รู้ไม่ชี้ตามประสาคนมีฟอร์ม
“นี่อย่างน้อยกูก็ได้ข้อมูลมาแล้วสองอย่าง น้องชื่อน้ำหนาวเรียนคณะบริหาร ปีหนึ่ง เป็นไง ๆ เพื่อนมึงเจ๋งไหม”
“ก็ดี…แต่วิธีสืบของมึงอนุบาลไปนิดนึง สู้โคนันตัวแสบของกูไม่ได้” คำเปรียบเทียบของซีเมลเล่นเอาคนถูกเปรียบเทียบกัดกรามชี้หน้าอย่างหมั่นไส้
“มึงนี่นะไม่น่าช่วยเลยจริง ๆ ไอ้เนรคุณ”ดาต้าหันไปเหวใส่เพื่อนเมื่อถูกด่าว่าแผนที่ใช้บ่งบอกถึงสติปัญญาที่มี
@ คอนโด SN ห้องมิ้ลเชคเจ้าของห้องสาวสุดเซ็กซี่เดินนำแขกคนแรกที่ได้รับสิทธิ์เข้ามาเยือนห้องสไตล์มินิมอลของเธอ ข้าวของในห้องถูกจัดเป็นระเบียบทุกตารางนิ้วจนให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูห้องตัวอย่าง มากกว่าห้องที่มีคนอาศัยจริงห้องพักขนาดห้าสิบตารางเมตรถัดจากโถงหน้าประตูเป็นพื้นที่ห้องครัวมีห้องนอนที่ใช้เป็นห้องนั่งเล่นไปด้วยได้และมีห้องน้ำเล็ก ๆ อยู่ในตัวเพื่อความสะดวกสบายของผู้อาศัย“โหนี่ห้องใหม่เลยหรือเปล่าเนี่ย?” น้ำหนาวที่กำลังเปลี่ยนจากรองเท้าคัตชูเป็นสลิปเปอร์กวาดตาดูรอบ ๆ ห้องที่สะอาดสะอ้านไร้ซึ่งฝุ่นละอองอย่างชอบใจ“แน่นอนจ้ะ ฉันก็เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ตอนปีหนึ่งเหมือนเธอนั่นแหละ ได้ข่าวว่าลูกชายเจ้าของคอนโดก็เรียนอยู่คณะเราด้วยนะจะบอกให้” มิ้ลเชคหันไปบอกเพื่อนตามข้อมูลที่ตนเองศึกษามาก่อนมาอยู่เป๊ะ“อ่ะ เราอย่ามัวแต่เสียเวลากันเลย เลือกชุดกันดีกว่าเร็ว” เจ้าของห้องเหมือนจะดูตื่นเต้นยิ่งกว่าคนที่ไปผับครั้งแรก เมื่อได้โอกาสจับเพื่อนสาวเป็นแบบแต่งตัวเนื่องจากทางบ้านเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังระดับประเทศ เธอเลยค่อนข้างรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดีมิ้ลเชคเปิดตู้เสื้อผ้าสีครีมออกกว้างเพ
“สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย”“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”ประโยคเหล่านั้นยังคงดังก้องในหูของเธอ เลือนราง ห่างไกลราวกับเป็นอดีต แต่ในความทรงจำของน้ำหนาวมันเพิ่งเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าเท่านั้น“พี่ทิว…”ร่างของเด็กสาววัยสิบหกปีเปล่งเสียงเรียกอย่างยากลำบากเนื่องจาก ร่างกายเธอบอบช้ำไร้เรี่ยวแรงตรงหน้าคือรถเบ๊นซ์คันที่เธอเพิ่งนั่งมากับแฟนหนุ่มอยู่ในสภาพพังยับเยิน และเขายังติดอยู่ในนั้นชุดนักเรียน ม.ปลายที่ใส่มาเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานของโลหิตเกือบจะทั้งตัวนั่นคือภาพสุดท้ายที่น้ำหนาวเห็นก่อนทุกอย่างจะดับหายไปพร้อมสติของเธอ…---หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้--- “สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย” เสียงหวานใสของเด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายที่นั่งอยู่ริมคลองหลังโรงเรียนข้างๆรุ่นพี่หนุ่มหน้าใสที่ตอนนี้ได้เลื่อนไปใช้สถานะ ‘แฟน’ เรียบร้อยแล้ว“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”คำสัญญาที่ออกจากปากทิวผู้ชายที่ซื่อสัตย์ซื่อตรงและเชื่อมั่นในรักแท้ ทั้งสองเกี่ยวก้อยสัญญากันตั้งแต่วันนั้น และเด็กสาวเชื่อคำพูดของเขาตลอดมา เพราะเขาก็ไม่เคยทำใ
สามเดือนต่อมาวันที่อากาศร้อนอบอ้าวจนแทบจะแผดเผามนุษย์บนโลกให้หมดโลกได้ภายในพริบตาเดียวกลับเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ใคร ๆ ก็ต่างใฝ่ฝันอยากเข้ามาเรียนอย่างSN university เสียอย่างนั้นรถเมล์สาย 7 ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ภายในรถมีผู้โดยสารนับร้อยชีวิตยืนอัดกันแน่นยิ่งกว่าปลาแมคเคอเรลในกระป๋อง จนแทบจะมองวิวทิวทัศน์ข้างนอกไม่เห็นน้ำหนาว หญิงสาวร่างเล็กส่วนสูงร้อยหกสิบต้น ๆ ถูกเบียดจนเซไปเซมาตามแรงขับเคลื่อนของตัวรถ เธอทั้งร้อนทั้งอึดอัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่ทนไปแบบนั้น จนกระทั่งถึงยังจุดหมายปลายทาง“ขอทางหน่อยค่ะ ขอโทษนะคะ ขอทางหน่อยค่ะ” เด็กสาวพยายามแทรกตัวเพื่อที่จะเดินตรงไปยังประตูทางออกให้เร็วที่สุดเพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกซึ่งตัวเธอยังไม่รู้อะไรเลยแม้แต่ที่ตั้งของคณะที่เธอเรียนอยู่“เห้อ กว่าจะลงมาได้พ่อคุ๊ณ นึกว่าจะโดนบี้แบนตายในรถเมล์ซะแล้ว” คนตัวเล็กบ่นอุบได้เพียงแค่นั้นก่อนจะรีบสาวเท้าตรงไปยังรั้วมหาวิทยาลัยด้วยความเร่งรีบแต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินพ้นประตูเข้าไป ดวงตาคู่สวยก็ดันเหลือบไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นที
@ คอนโดSNSN Condominiumเป็นคอนโดหรูสูงยี่สิบชั้นที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวมหาวิทยาลัย มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักศึกษาที่บ้านไกลหรือหรือไม่ก็ต้องการออกมาใช้ชีวิตวัยรุ่นเพียงลำพังซึ่งได้รับความสนใจจากนักศึกษาจำนวนมากหนึ่งในนั้นก็คือลูกชายเจ้าของคอนโดที่เพิ่งถูกเพื่อนสนิทหิ้วตัวกลับมาจากโรงพยาบาลด้วย“ไอ้ซีมึงไปฟัดกับหมาที่ไหนมาเนี่ย? สภาพแม่ง อย่างกับโดนรุมโทรม” ดาต้าที่ถูกโทรเรียกให้ไปรับเพื่อนหน้าหล่อจากโรงพยาบาลประจำมหาลัย ตั้งแต่ตะวันตรงหัว อดถามไม่ได้ เพราะสภาพชายหนุ่มตอนนี้พูดง่าย ๆ ว่า ‘หมายังดูดีกว่า’“หึ กุว่าหมามันไม่ได้ตั้งใจมาซัดกุหรอก น่าจะซัดผิดตัวมากกว่า”ซีเมล หนุ่มหล่อมาดนิ่งพ่อเป็นเศรษฐีพันล้านมีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของประเทศ รูปร่างสูงโปร่ง นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ชั้นปีที่สามเจ้าของฉายา ‘เกียร์ล่องหนแห่งวิศวะ’เนื่องจากเขาเป็นพวกชอบปิดบังตัวตน มีนิสัยส่วนตัวคือชอบใส่ฮู้ดนั่งเรียนในคลาสตลอดทั้งคาบ และเวลาที่ต้องอยู่ท่ามกลางฝูงชนหมู่มากเลยไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขาสักเท่าไหร่ดังนั้นฉายานี้จึงเป็นฉายาที่ตั้งกันเองในหมู่เพื่อนสนิทร่างสูงเหยียดยิ้มแบบรู้ทันถึงสาเห
@ คอนโด SN ห้องมิ้ลเชคเจ้าของห้องสาวสุดเซ็กซี่เดินนำแขกคนแรกที่ได้รับสิทธิ์เข้ามาเยือนห้องสไตล์มินิมอลของเธอ ข้าวของในห้องถูกจัดเป็นระเบียบทุกตารางนิ้วจนให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูห้องตัวอย่าง มากกว่าห้องที่มีคนอาศัยจริงห้องพักขนาดห้าสิบตารางเมตรถัดจากโถงหน้าประตูเป็นพื้นที่ห้องครัวมีห้องนอนที่ใช้เป็นห้องนั่งเล่นไปด้วยได้และมีห้องน้ำเล็ก ๆ อยู่ในตัวเพื่อความสะดวกสบายของผู้อาศัย“โหนี่ห้องใหม่เลยหรือเปล่าเนี่ย?” น้ำหนาวที่กำลังเปลี่ยนจากรองเท้าคัตชูเป็นสลิปเปอร์กวาดตาดูรอบ ๆ ห้องที่สะอาดสะอ้านไร้ซึ่งฝุ่นละอองอย่างชอบใจ“แน่นอนจ้ะ ฉันก็เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ตอนปีหนึ่งเหมือนเธอนั่นแหละ ได้ข่าวว่าลูกชายเจ้าของคอนโดก็เรียนอยู่คณะเราด้วยนะจะบอกให้” มิ้ลเชคหันไปบอกเพื่อนตามข้อมูลที่ตนเองศึกษามาก่อนมาอยู่เป๊ะ“อ่ะ เราอย่ามัวแต่เสียเวลากันเลย เลือกชุดกันดีกว่าเร็ว” เจ้าของห้องเหมือนจะดูตื่นเต้นยิ่งกว่าคนที่ไปผับครั้งแรก เมื่อได้โอกาสจับเพื่อนสาวเป็นแบบแต่งตัวเนื่องจากทางบ้านเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังระดับประเทศ เธอเลยค่อนข้างรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดีมิ้ลเชคเปิดตู้เสื้อผ้าสีครีมออกกว้างเพ
“เออนี่ น้ำหนาวงานเลี้ยงต้อนรับนิสิตใหม่ของคณะเราเธอจะไปไหม?” มิ้ลเชคที่เดินกลับจากคณะมาพร้อมกันกับน้ำหนาวถามขึ้นเพราะเธอกำลังหาคนไปเป็นเพื่อน อีกอย่างนอกจากน้ำหนาวแล้วเธอก็ยังไม่รู้จักใครเลย“ฉันก็อยากไปนะแต่เห็นพวกรุ่นพี่บอกว่าไปกินเลี้ยงในผับฉันเลยลังเลอ่ะ ว่าจะไปดีไหม ฉันไม่ค่อยถนัดกับที่แบบนั้นเท่าไหร่”เธอตอบไปตามตรงเพราะชีวิตคนตัวเล็กนอกจากเรียนแล้วก็ขลุกอยู่กับที่ทำงานพาร์ทไทม์เป็นส่วนใหญ่ จนเวลาจะเที่ยวแทบไม่มี“อย่าบอกนะ ว่าเธอไม่เคยไปผับเลย?”“อืม ปกติพอฉันเลิกเรียน ก็ไปทำงานพิเศษน่ะ ไม่ค่อยได้ไป ไหนหรอก เพราะกว่าจะเลิกงานก็ดึกแล้ว”“Oh My God นี่ฉันกำลังทำความรู้จักกับแม่ชียุค 2024 หรอเนี่ย” มิ้ลเชคเอามือปิดปากแล้วอุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อ เจ้าหล่อนหน้าเหวอราวกับนี่คือการค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่แปดของโลก ที่เธอเป็นผู้ค้นพบ“ที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตอยู่หลุมดำที่ไหนมาเนี่ย” คำถามของมิ้ลเชคเล่นเอาน้ำหนาวนิ่งไปชั่วขณะจนคนพูดตกใจต้องขอโทษขอโพยกันยกใหญ่กลัวว่าเพื่อนสาวจะเข้าใจผิดว่าเธอไปดูถูกเจ้าตัวเข้าให้ เพราะด้วยท่าทางมั่นและบุคลิกหลาย ๆ อย่างของมิ้ลเชค เจ้าตัวมักจะชวนให้คนอื่น
@ คอนโดSNSN Condominiumเป็นคอนโดหรูสูงยี่สิบชั้นที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวมหาวิทยาลัย มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักศึกษาที่บ้านไกลหรือหรือไม่ก็ต้องการออกมาใช้ชีวิตวัยรุ่นเพียงลำพังซึ่งได้รับความสนใจจากนักศึกษาจำนวนมากหนึ่งในนั้นก็คือลูกชายเจ้าของคอนโดที่เพิ่งถูกเพื่อนสนิทหิ้วตัวกลับมาจากโรงพยาบาลด้วย“ไอ้ซีมึงไปฟัดกับหมาที่ไหนมาเนี่ย? สภาพแม่ง อย่างกับโดนรุมโทรม” ดาต้าที่ถูกโทรเรียกให้ไปรับเพื่อนหน้าหล่อจากโรงพยาบาลประจำมหาลัย ตั้งแต่ตะวันตรงหัว อดถามไม่ได้ เพราะสภาพชายหนุ่มตอนนี้พูดง่าย ๆ ว่า ‘หมายังดูดีกว่า’“หึ กุว่าหมามันไม่ได้ตั้งใจมาซัดกุหรอก น่าจะซัดผิดตัวมากกว่า”ซีเมล หนุ่มหล่อมาดนิ่งพ่อเป็นเศรษฐีพันล้านมีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของประเทศ รูปร่างสูงโปร่ง นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ชั้นปีที่สามเจ้าของฉายา ‘เกียร์ล่องหนแห่งวิศวะ’เนื่องจากเขาเป็นพวกชอบปิดบังตัวตน มีนิสัยส่วนตัวคือชอบใส่ฮู้ดนั่งเรียนในคลาสตลอดทั้งคาบ และเวลาที่ต้องอยู่ท่ามกลางฝูงชนหมู่มากเลยไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขาสักเท่าไหร่ดังนั้นฉายานี้จึงเป็นฉายาที่ตั้งกันเองในหมู่เพื่อนสนิทร่างสูงเหยียดยิ้มแบบรู้ทันถึงสาเห
สามเดือนต่อมาวันที่อากาศร้อนอบอ้าวจนแทบจะแผดเผามนุษย์บนโลกให้หมดโลกได้ภายในพริบตาเดียวกลับเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ใคร ๆ ก็ต่างใฝ่ฝันอยากเข้ามาเรียนอย่างSN university เสียอย่างนั้นรถเมล์สาย 7 ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ภายในรถมีผู้โดยสารนับร้อยชีวิตยืนอัดกันแน่นยิ่งกว่าปลาแมคเคอเรลในกระป๋อง จนแทบจะมองวิวทิวทัศน์ข้างนอกไม่เห็นน้ำหนาว หญิงสาวร่างเล็กส่วนสูงร้อยหกสิบต้น ๆ ถูกเบียดจนเซไปเซมาตามแรงขับเคลื่อนของตัวรถ เธอทั้งร้อนทั้งอึดอัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่ทนไปแบบนั้น จนกระทั่งถึงยังจุดหมายปลายทาง“ขอทางหน่อยค่ะ ขอโทษนะคะ ขอทางหน่อยค่ะ” เด็กสาวพยายามแทรกตัวเพื่อที่จะเดินตรงไปยังประตูทางออกให้เร็วที่สุดเพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกซึ่งตัวเธอยังไม่รู้อะไรเลยแม้แต่ที่ตั้งของคณะที่เธอเรียนอยู่“เห้อ กว่าจะลงมาได้พ่อคุ๊ณ นึกว่าจะโดนบี้แบนตายในรถเมล์ซะแล้ว” คนตัวเล็กบ่นอุบได้เพียงแค่นั้นก่อนจะรีบสาวเท้าตรงไปยังรั้วมหาวิทยาลัยด้วยความเร่งรีบแต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินพ้นประตูเข้าไป ดวงตาคู่สวยก็ดันเหลือบไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นที
“สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย”“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”ประโยคเหล่านั้นยังคงดังก้องในหูของเธอ เลือนราง ห่างไกลราวกับเป็นอดีต แต่ในความทรงจำของน้ำหนาวมันเพิ่งเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าเท่านั้น“พี่ทิว…”ร่างของเด็กสาววัยสิบหกปีเปล่งเสียงเรียกอย่างยากลำบากเนื่องจาก ร่างกายเธอบอบช้ำไร้เรี่ยวแรงตรงหน้าคือรถเบ๊นซ์คันที่เธอเพิ่งนั่งมากับแฟนหนุ่มอยู่ในสภาพพังยับเยิน และเขายังติดอยู่ในนั้นชุดนักเรียน ม.ปลายที่ใส่มาเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานของโลหิตเกือบจะทั้งตัวนั่นคือภาพสุดท้ายที่น้ำหนาวเห็นก่อนทุกอย่างจะดับหายไปพร้อมสติของเธอ…---หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้--- “สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย” เสียงหวานใสของเด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายที่นั่งอยู่ริมคลองหลังโรงเรียนข้างๆรุ่นพี่หนุ่มหน้าใสที่ตอนนี้ได้เลื่อนไปใช้สถานะ ‘แฟน’ เรียบร้อยแล้ว“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”คำสัญญาที่ออกจากปากทิวผู้ชายที่ซื่อสัตย์ซื่อตรงและเชื่อมั่นในรักแท้ ทั้งสองเกี่ยวก้อยสัญญากันตั้งแต่วันนั้น และเด็กสาวเชื่อคำพูดของเขาตลอดมา เพราะเขาก็ไม่เคยทำใ