@ คอนโดSN
SN Condominiumเป็นคอนโดหรูสูงยี่สิบชั้นที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวมหาวิทยาลัย มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักศึกษาที่บ้านไกลหรือหรือไม่ก็ต้องการออกมาใช้ชีวิตวัยรุ่นเพียงลำพังซึ่งได้รับความสนใจจากนักศึกษาจำนวนมากหนึ่งในนั้นก็คือลูกชายเจ้าของคอนโดที่เพิ่งถูกเพื่อนสนิทหิ้วตัวกลับมาจากโรงพยาบาลด้วย
“ไอ้ซีมึงไปฟัดกับหมาที่ไหนมาเนี่ย? สภาพแม่ง อย่างกับโดนรุมโทรม” ดาต้าที่ถูกโทรเรียกให้ไปรับเพื่อนหน้าหล่อจากโรงพยาบาลประจำมหาลัย ตั้งแต่ตะวันตรงหัว อดถามไม่ได้ เพราะสภาพชายหนุ่มตอนนี้พูดง่าย ๆ ว่า ‘หมายังดูดีกว่า’
“หึ กุว่าหมามันไม่ได้ตั้งใจมาซัดกุหรอก น่าจะซัดผิดตัวมากกว่า”ซีเมล หนุ่มหล่อมาดนิ่งพ่อเป็นเศรษฐีพันล้านมีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของประเทศ รูปร่างสูงโปร่ง นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ชั้นปีที่สามเจ้าของฉายา ‘เกียร์ล่องหนแห่งวิศวะ’
เนื่องจากเขาเป็นพวกชอบปิดบังตัวตน มีนิสัยส่วนตัวคือชอบใส่ฮู้ดนั่งเรียนในคลาสตลอดทั้งคาบ และเวลาที่ต้องอยู่ท่ามกลางฝูงชนหมู่มากเลยไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขาสักเท่าไหร่ดังนั้นฉายานี้จึงเป็นฉายาที่ตั้งกันเองในหมู่เพื่อนสนิทร่างสูงเหยียดยิ้มแบบรู้ทันถึงสาเหตุที่เขาถูกดักทำร้ายเมื่อเช้านี้
“มึงพูดเหมือนรู้”
“เดาไม่ได้ก็ควายละ เรียกชื่อกูแฝดพี่กูชัดขนาดนั้น” ซีเมลบอกเพื่อนสนิท ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งตามสไตล์เขา
“โวะ แล้วคืนนี้มึงจะนอนนี่หรือกลับบ้าน”
“กลับบ้าน”
“กลับสภาพนี้ ?พ่อมึงได้แพ่งกระบาลมึงแน่กูฟันธง” ดาต้าคาดเดาสถานการณ์ได้แบบไม่ต้องยากเพราะดาต้าซีเมลกับพ่อเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่แม่เขาเสียชีวิตไปเมื่อสองปีที่แล้ว
“ก็กลับพรุ่งนี้เช้าสิ ไอ้สัตว์ อย่าโง่พรุ่งนี้ครบรอบวันตายแม่กู ไม่ไปกูก็ตายพอกัน”
“แล้วแผลบนหน้าหล่อ ๆ ของมึงเนี่ย มึงจะตอบพ่อมึงว่าไง อีกอย่างไอ้โซนิครอเล่นงาน มึงอยู่แน่”
“ก็ไม่ว่าไง” ชายหนุ่มไหวไหล่แบบโนสนโนแคร์ ซึ่งดาต้าเองก็ไม่เซ้าซี้ต่อเพราะรู้ว่าเพื่อนเขารับมือได้แบบพันเปอร์เซ็นต์เพราะซีเมลขึ้นชื่อเรื่องความฉลาดในการตีมึนไม่ตอบคำถามที่ตัวเองไม่อยากตอบและซ่อนตัวจากคนที่เขาไม่อยากเจอ นี่ก็คืออีกหนึ่งสาเหตุผลที่เพื่อนสนิทถึง ตั้งฉายาเขาว่า ‘เกียร์ล่องหนแห่งวิศวะ’
“เออ…แล้วที่มึงเรียกกูมา คงไม่ได้ให้มารับกลับเฉย ๆ ใช่ไหม? คนอย่างมึง ถ้าจะกลับเองซะอย่าง ก็กลับได้”
“ฉลาดนี่ ”
“อย่างกูเขาไม่เรียกฉลาด เขาเรียกชินกับสันดานของมึงมากกว่าครับคุณซีเมล” ดาต้าได้ทีประชดประชันเพื่อนสนิทไปเพราะหมั่นไส้ แต่ซีเมลก็คือซีเมลเขายังคงนิ่งเงียบไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรต่อคำประชดประชันของเพื่อนอย่างที่เคยเป็น
“ตกลงจะให้กูรับใช้อะไรครับไอ้คุณหนู ?”
“สืบประวัติผู้หญิงคนนี้ให้กูที”ซีเมลพูดพร้อมส่งรูปถ่ายติดบัตรนักศึกษาของ เธอให้ดาต้าไปหนึ่งใบ
“โหย…สาวที่ไหนโคตรน่ารักเลยว่ะ”
“กูให้มึงสืบเรื่องอื่น อย่า เสือก”น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยไอสังหาร ของเขาทำให้รีบดาต้าหุบปากโดยอัตโนมัติ ก่อนจะหันมาถามถึงใครบางคน
“เอ้า แล้วยัยโคนันน้อยของมึงไปไหนเห็นว่าชมนักชมหนาว่าชำนาญกว่ากู” ดาต้าได้ทีเอ่ยแขวะถึงนักสืบสาวคู่แข่งของตน
“เรียน”
“ถึงว่าเรื่องถึงหล่นมาถึงมือกูได้ ชิ”พูดจบดาต้าก็เดินออกจากห้องของเพื่อนชายคนสนิทด้วยท่าทางงอน ๆ
ดาต้าเดินกลับมาที่คณะของตนเองพร้อมรูปที่ซีเมลให้มาเพื่อส่งต่อให้สายข่าวของเขาช่วยสืบด้วยความที่โฟกัสกับรูปถ่ายในมือเลยไม่ทันได้มองทางจึงชนเข้ากับใครบางคนโดยบังเอิญ
ซึ่งเป็นความบังเอิญที่อัปยศที่สุดในชีวิตยิ่งกว่าความจนในวัยเด็กเสียอีก เพราะคนที่เขาชนคือ โซนิคพี่ชายฝาแฝดนิสัยทรามของซีเมลที่ในหมู่นักศึกษาชายของคณะบริหาร เรียกกันว่า‘เจ้าพ่อประจำคณะบริหาร’
ปึก !
“เดินยังไงของมึงถึงได้มาชนกูได้ ตามึงบอดเหรอไอ้ขี้ครอก” โซนิคจ้องหน้าดาต้าอย่างหาเรื่องทั้ง ๆ ที่เขาเป็นฝ่ายจงใจชนชายหนุ่มก่อนแท้ ๆ
“กูมีตา แต่ตากูวันนี้กระตุกข้างขวาเลยมาเจอตัวซวยเข้าให้ว่ะโทษที” ดาต้าจงใจกดเสียงต่ำด่ากลับแบบนิ่ง ๆ พยายามท่องคติประจำใจของตัวเองที่ว่า‘หมากัดอย่ากัดตอบ’ เอาไว้ เนื่องจากกว่าเขาจะเข้า เรียนที่นี่ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เขาต้องพึ่งความสามารถของตนเองแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เพื่อสอบชิงทุนเข้ามา เพราะฐานะทางบ้าน ไม่ได้ร่ำรวยเหมือน คนอื่น ๆ ถึงซีเมลจะเคยเสนอให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ไม่ขอรับไว้ ส่วนหนึ่งก็มาจากคำเหยียดหยามของคนที่จงใจหาเรื่องเขาอยู่ตอนนี้ด้วยเช่นกัน
“เหรอ แล้วนี่รูปใคร เมียมึง?” โซนิคยังไม่หยุดแค่นั้น ใช้มือผลักอกดาต้าเพื่อหาเรื่อง จนรูปที่ซีเมลให้มาหล่นลงกับพื้น คนอันทพาลก้มไปเก็บรูปติดบัตรนักศึกษาสาวเอาขึ้นมาดูอย่างถือวิสาสะ
“จะใครก็ไม่ใช่เรื่องของมึง อย่าเสือก!!”
“ไอ้สัตว์ต้ามึง”ความอดทนของโซนิคที่มีเดิมมีน้อยอยู่แล้วยิ่งหมดลงเร็วขึ้น เมื่ออีกฝ่ายเริ่มต่อปากต่อคำในทันทีมือขวาที่กำเข้าหากันแน่นในตอนแรกเหวี่ยงขึ้นไปที่แก้มซ้ายของดาต้าหวังสั่งสอนคนที่กล้ามาปากดีกับเขาให้หลาบจำ แต่ทว่า
หมับ !
หมัดของโซนิคถูกมือหนาของชายอีกคนคว้าไว้พร้อมปล่อยหมัดสวนกลับทันทีจนร่างของมาเจ้าพ่อคณะบริหารล้มลงกองกับพื้นในขณะที่ในมือยังกำรูปใบนั้นอยู่
ผลัวะ!!
“ไอ้ซีเมล!”โซนิคชี้หน้าน้องชายฝาแฝดเขม็งแต่โชคดีที่ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“อย่าเก่งแต่หาเรื่องคนอื่น ให้เกียรติหน้ามึงที่เสือกเหมือนกูด้วย” ซีเมลใช้มือบีบคอโซนิคไว้อย่างแรง
“แรงว่าที่ผู้บริหาร SN Group อย่างมึงมันเทียบแรงวิศวะโยธาอย่างกูไม่ได้หรอกเว้ย ฉะนั้นอย่ามาคิดแตะเพื่อนกู ไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน!!!!”พูดจบชายหนุ่มก็เหวี่ยงพี่ชายฝาแฝดลงไปที่พื้นเต็มแรงก่อนจะเดินตามไปก้มลงหยิบรูปที่ยับยู่ยี่ในมือพี่ชายคืน
“รูปนี้ มือสกปรกของมึงมาไม่มีสิทธิ์มาแตะ จำไว้ !”จบประโยคซีเมลก็หันหลังเดินออกไป พร้อมด้วยดาต้าเพื่อนสนิทที่ตามหลังไปติด ๆ โดยไม่วายหันมามองเขม่นฝ่ายที่นอนกองสภาพเละเทะบนพื้นทำนองว่าสมน้ำหน้าเป็นการส่งท้าย
โซนิคจ้องน้องชายที่เดินออกไปเขม็ง ทั้งสองไม่รู้เลยว่าคนที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังตนได้ยกมุมปากเหยียดยิ้มเจ้าเลห์ขึ้น ต่อจากนี้คงมีเรื่องสนุกให้เขาทำอีกแล้ว
“ไม่ให้แตะงั้นหรอ ฟังมึงกูก็ควายแล้ว”
“เออนี่ น้ำหนาวงานเลี้ยงต้อนรับนิสิตใหม่ของคณะเราเธอจะไปไหม?” มิ้ลเชคที่เดินกลับจากคณะมาพร้อมกันกับน้ำหนาวถามขึ้นเพราะเธอกำลังหาคนไปเป็นเพื่อน อีกอย่างนอกจากน้ำหนาวแล้วเธอก็ยังไม่รู้จักใครเลย“ฉันก็อยากไปนะแต่เห็นพวกรุ่นพี่บอกว่าไปกินเลี้ยงในผับฉันเลยลังเลอ่ะ ว่าจะไปดีไหม ฉันไม่ค่อยถนัดกับที่แบบนั้นเท่าไหร่”เธอตอบไปตามตรงเพราะชีวิตคนตัวเล็กนอกจากเรียนแล้วก็ขลุกอยู่กับที่ทำงานพาร์ทไทม์เป็นส่วนใหญ่ จนเวลาจะเที่ยวแทบไม่มี“อย่าบอกนะ ว่าเธอไม่เคยไปผับเลย?”“อืม ปกติพอฉันเลิกเรียน ก็ไปทำงานพิเศษน่ะ ไม่ค่อยได้ไป ไหนหรอก เพราะกว่าจะเลิกงานก็ดึกแล้ว”“Oh My God นี่ฉันกำลังทำความรู้จักกับแม่ชียุค 2024 หรอเนี่ย” มิ้ลเชคเอามือปิดปากแล้วอุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อ เจ้าหล่อนหน้าเหวอราวกับนี่คือการค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่แปดของโลก ที่เธอเป็นผู้ค้นพบ“ที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตอยู่หลุมดำที่ไหนมาเนี่ย” คำถามของมิ้ลเชคเล่นเอาน้ำหนาวนิ่งไปชั่วขณะจนคนพูดตกใจต้องขอโทษขอโพยกันยกใหญ่กลัวว่าเพื่อนสาวจะเข้าใจผิดว่าเธอไปดูถูกเจ้าตัวเข้าให้ เพราะด้วยท่าทางมั่นและบุคลิกหลาย ๆ อย่างของมิ้ลเชค เจ้าตัวมักจะชวนให้คนอื่น
@ คอนโด SN ห้องมิ้ลเชคเจ้าของห้องสาวสุดเซ็กซี่เดินนำแขกคนแรกที่ได้รับสิทธิ์เข้ามาเยือนห้องสไตล์มินิมอลของเธอ ข้าวของในห้องถูกจัดเป็นระเบียบทุกตารางนิ้วจนให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูห้องตัวอย่าง มากกว่าห้องที่มีคนอาศัยจริงห้องพักขนาดห้าสิบตารางเมตรถัดจากโถงหน้าประตูเป็นพื้นที่ห้องครัวมีห้องนอนที่ใช้เป็นห้องนั่งเล่นไปด้วยได้และมีห้องน้ำเล็ก ๆ อยู่ในตัวเพื่อความสะดวกสบายของผู้อาศัย“โหนี่ห้องใหม่เลยหรือเปล่าเนี่ย?” น้ำหนาวที่กำลังเปลี่ยนจากรองเท้าคัตชูเป็นสลิปเปอร์กวาดตาดูรอบ ๆ ห้องที่สะอาดสะอ้านไร้ซึ่งฝุ่นละอองอย่างชอบใจ“แน่นอนจ้ะ ฉันก็เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ตอนปีหนึ่งเหมือนเธอนั่นแหละ ได้ข่าวว่าลูกชายเจ้าของคอนโดก็เรียนอยู่คณะเราด้วยนะจะบอกให้” มิ้ลเชคหันไปบอกเพื่อนตามข้อมูลที่ตนเองศึกษามาก่อนมาอยู่เป๊ะ“อ่ะ เราอย่ามัวแต่เสียเวลากันเลย เลือกชุดกันดีกว่าเร็ว” เจ้าของห้องเหมือนจะดูตื่นเต้นยิ่งกว่าคนที่ไปผับครั้งแรก เมื่อได้โอกาสจับเพื่อนสาวเป็นแบบแต่งตัวเนื่องจากทางบ้านเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังระดับประเทศ เธอเลยค่อนข้างรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดีมิ้ลเชคเปิดตู้เสื้อผ้าสีครีมออกกว้างเพ
“สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย”“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”ประโยคเหล่านั้นยังคงดังก้องในหูของเธอ เลือนราง ห่างไกลราวกับเป็นอดีต แต่ในความทรงจำของน้ำหนาวมันเพิ่งเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าเท่านั้น“พี่ทิว…”ร่างของเด็กสาววัยสิบหกปีเปล่งเสียงเรียกอย่างยากลำบากเนื่องจาก ร่างกายเธอบอบช้ำไร้เรี่ยวแรงตรงหน้าคือรถเบ๊นซ์คันที่เธอเพิ่งนั่งมากับแฟนหนุ่มอยู่ในสภาพพังยับเยิน และเขายังติดอยู่ในนั้นชุดนักเรียน ม.ปลายที่ใส่มาเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานของโลหิตเกือบจะทั้งตัวนั่นคือภาพสุดท้ายที่น้ำหนาวเห็นก่อนทุกอย่างจะดับหายไปพร้อมสติของเธอ…---หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้--- “สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย” เสียงหวานใสของเด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายที่นั่งอยู่ริมคลองหลังโรงเรียนข้างๆรุ่นพี่หนุ่มหน้าใสที่ตอนนี้ได้เลื่อนไปใช้สถานะ ‘แฟน’ เรียบร้อยแล้ว“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”คำสัญญาที่ออกจากปากทิวผู้ชายที่ซื่อสัตย์ซื่อตรงและเชื่อมั่นในรักแท้ ทั้งสองเกี่ยวก้อยสัญญากันตั้งแต่วันนั้น และเด็กสาวเชื่อคำพูดของเขาตลอดมา เพราะเขาก็ไม่เคยทำใ
สามเดือนต่อมาวันที่อากาศร้อนอบอ้าวจนแทบจะแผดเผามนุษย์บนโลกให้หมดโลกได้ภายในพริบตาเดียวกลับเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ใคร ๆ ก็ต่างใฝ่ฝันอยากเข้ามาเรียนอย่างSN university เสียอย่างนั้นรถเมล์สาย 7 ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ภายในรถมีผู้โดยสารนับร้อยชีวิตยืนอัดกันแน่นยิ่งกว่าปลาแมคเคอเรลในกระป๋อง จนแทบจะมองวิวทิวทัศน์ข้างนอกไม่เห็นน้ำหนาว หญิงสาวร่างเล็กส่วนสูงร้อยหกสิบต้น ๆ ถูกเบียดจนเซไปเซมาตามแรงขับเคลื่อนของตัวรถ เธอทั้งร้อนทั้งอึดอัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่ทนไปแบบนั้น จนกระทั่งถึงยังจุดหมายปลายทาง“ขอทางหน่อยค่ะ ขอโทษนะคะ ขอทางหน่อยค่ะ” เด็กสาวพยายามแทรกตัวเพื่อที่จะเดินตรงไปยังประตูทางออกให้เร็วที่สุดเพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกซึ่งตัวเธอยังไม่รู้อะไรเลยแม้แต่ที่ตั้งของคณะที่เธอเรียนอยู่“เห้อ กว่าจะลงมาได้พ่อคุ๊ณ นึกว่าจะโดนบี้แบนตายในรถเมล์ซะแล้ว” คนตัวเล็กบ่นอุบได้เพียงแค่นั้นก่อนจะรีบสาวเท้าตรงไปยังรั้วมหาวิทยาลัยด้วยความเร่งรีบแต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินพ้นประตูเข้าไป ดวงตาคู่สวยก็ดันเหลือบไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นที
@ คอนโด SN ห้องมิ้ลเชคเจ้าของห้องสาวสุดเซ็กซี่เดินนำแขกคนแรกที่ได้รับสิทธิ์เข้ามาเยือนห้องสไตล์มินิมอลของเธอ ข้าวของในห้องถูกจัดเป็นระเบียบทุกตารางนิ้วจนให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูห้องตัวอย่าง มากกว่าห้องที่มีคนอาศัยจริงห้องพักขนาดห้าสิบตารางเมตรถัดจากโถงหน้าประตูเป็นพื้นที่ห้องครัวมีห้องนอนที่ใช้เป็นห้องนั่งเล่นไปด้วยได้และมีห้องน้ำเล็ก ๆ อยู่ในตัวเพื่อความสะดวกสบายของผู้อาศัย“โหนี่ห้องใหม่เลยหรือเปล่าเนี่ย?” น้ำหนาวที่กำลังเปลี่ยนจากรองเท้าคัตชูเป็นสลิปเปอร์กวาดตาดูรอบ ๆ ห้องที่สะอาดสะอ้านไร้ซึ่งฝุ่นละอองอย่างชอบใจ“แน่นอนจ้ะ ฉันก็เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ตอนปีหนึ่งเหมือนเธอนั่นแหละ ได้ข่าวว่าลูกชายเจ้าของคอนโดก็เรียนอยู่คณะเราด้วยนะจะบอกให้” มิ้ลเชคหันไปบอกเพื่อนตามข้อมูลที่ตนเองศึกษามาก่อนมาอยู่เป๊ะ“อ่ะ เราอย่ามัวแต่เสียเวลากันเลย เลือกชุดกันดีกว่าเร็ว” เจ้าของห้องเหมือนจะดูตื่นเต้นยิ่งกว่าคนที่ไปผับครั้งแรก เมื่อได้โอกาสจับเพื่อนสาวเป็นแบบแต่งตัวเนื่องจากทางบ้านเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังระดับประเทศ เธอเลยค่อนข้างรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดีมิ้ลเชคเปิดตู้เสื้อผ้าสีครีมออกกว้างเพ
“เออนี่ น้ำหนาวงานเลี้ยงต้อนรับนิสิตใหม่ของคณะเราเธอจะไปไหม?” มิ้ลเชคที่เดินกลับจากคณะมาพร้อมกันกับน้ำหนาวถามขึ้นเพราะเธอกำลังหาคนไปเป็นเพื่อน อีกอย่างนอกจากน้ำหนาวแล้วเธอก็ยังไม่รู้จักใครเลย“ฉันก็อยากไปนะแต่เห็นพวกรุ่นพี่บอกว่าไปกินเลี้ยงในผับฉันเลยลังเลอ่ะ ว่าจะไปดีไหม ฉันไม่ค่อยถนัดกับที่แบบนั้นเท่าไหร่”เธอตอบไปตามตรงเพราะชีวิตคนตัวเล็กนอกจากเรียนแล้วก็ขลุกอยู่กับที่ทำงานพาร์ทไทม์เป็นส่วนใหญ่ จนเวลาจะเที่ยวแทบไม่มี“อย่าบอกนะ ว่าเธอไม่เคยไปผับเลย?”“อืม ปกติพอฉันเลิกเรียน ก็ไปทำงานพิเศษน่ะ ไม่ค่อยได้ไป ไหนหรอก เพราะกว่าจะเลิกงานก็ดึกแล้ว”“Oh My God นี่ฉันกำลังทำความรู้จักกับแม่ชียุค 2024 หรอเนี่ย” มิ้ลเชคเอามือปิดปากแล้วอุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อ เจ้าหล่อนหน้าเหวอราวกับนี่คือการค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่แปดของโลก ที่เธอเป็นผู้ค้นพบ“ที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตอยู่หลุมดำที่ไหนมาเนี่ย” คำถามของมิ้ลเชคเล่นเอาน้ำหนาวนิ่งไปชั่วขณะจนคนพูดตกใจต้องขอโทษขอโพยกันยกใหญ่กลัวว่าเพื่อนสาวจะเข้าใจผิดว่าเธอไปดูถูกเจ้าตัวเข้าให้ เพราะด้วยท่าทางมั่นและบุคลิกหลาย ๆ อย่างของมิ้ลเชค เจ้าตัวมักจะชวนให้คนอื่น
@ คอนโดSNSN Condominiumเป็นคอนโดหรูสูงยี่สิบชั้นที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวมหาวิทยาลัย มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักศึกษาที่บ้านไกลหรือหรือไม่ก็ต้องการออกมาใช้ชีวิตวัยรุ่นเพียงลำพังซึ่งได้รับความสนใจจากนักศึกษาจำนวนมากหนึ่งในนั้นก็คือลูกชายเจ้าของคอนโดที่เพิ่งถูกเพื่อนสนิทหิ้วตัวกลับมาจากโรงพยาบาลด้วย“ไอ้ซีมึงไปฟัดกับหมาที่ไหนมาเนี่ย? สภาพแม่ง อย่างกับโดนรุมโทรม” ดาต้าที่ถูกโทรเรียกให้ไปรับเพื่อนหน้าหล่อจากโรงพยาบาลประจำมหาลัย ตั้งแต่ตะวันตรงหัว อดถามไม่ได้ เพราะสภาพชายหนุ่มตอนนี้พูดง่าย ๆ ว่า ‘หมายังดูดีกว่า’“หึ กุว่าหมามันไม่ได้ตั้งใจมาซัดกุหรอก น่าจะซัดผิดตัวมากกว่า”ซีเมล หนุ่มหล่อมาดนิ่งพ่อเป็นเศรษฐีพันล้านมีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของประเทศ รูปร่างสูงโปร่ง นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ชั้นปีที่สามเจ้าของฉายา ‘เกียร์ล่องหนแห่งวิศวะ’เนื่องจากเขาเป็นพวกชอบปิดบังตัวตน มีนิสัยส่วนตัวคือชอบใส่ฮู้ดนั่งเรียนในคลาสตลอดทั้งคาบ และเวลาที่ต้องอยู่ท่ามกลางฝูงชนหมู่มากเลยไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขาสักเท่าไหร่ดังนั้นฉายานี้จึงเป็นฉายาที่ตั้งกันเองในหมู่เพื่อนสนิทร่างสูงเหยียดยิ้มแบบรู้ทันถึงสาเห
สามเดือนต่อมาวันที่อากาศร้อนอบอ้าวจนแทบจะแผดเผามนุษย์บนโลกให้หมดโลกได้ภายในพริบตาเดียวกลับเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ใคร ๆ ก็ต่างใฝ่ฝันอยากเข้ามาเรียนอย่างSN university เสียอย่างนั้นรถเมล์สาย 7 ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ภายในรถมีผู้โดยสารนับร้อยชีวิตยืนอัดกันแน่นยิ่งกว่าปลาแมคเคอเรลในกระป๋อง จนแทบจะมองวิวทิวทัศน์ข้างนอกไม่เห็นน้ำหนาว หญิงสาวร่างเล็กส่วนสูงร้อยหกสิบต้น ๆ ถูกเบียดจนเซไปเซมาตามแรงขับเคลื่อนของตัวรถ เธอทั้งร้อนทั้งอึดอัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่ทนไปแบบนั้น จนกระทั่งถึงยังจุดหมายปลายทาง“ขอทางหน่อยค่ะ ขอโทษนะคะ ขอทางหน่อยค่ะ” เด็กสาวพยายามแทรกตัวเพื่อที่จะเดินตรงไปยังประตูทางออกให้เร็วที่สุดเพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกซึ่งตัวเธอยังไม่รู้อะไรเลยแม้แต่ที่ตั้งของคณะที่เธอเรียนอยู่“เห้อ กว่าจะลงมาได้พ่อคุ๊ณ นึกว่าจะโดนบี้แบนตายในรถเมล์ซะแล้ว” คนตัวเล็กบ่นอุบได้เพียงแค่นั้นก่อนจะรีบสาวเท้าตรงไปยังรั้วมหาวิทยาลัยด้วยความเร่งรีบแต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินพ้นประตูเข้าไป ดวงตาคู่สวยก็ดันเหลือบไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นที
“สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย”“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”ประโยคเหล่านั้นยังคงดังก้องในหูของเธอ เลือนราง ห่างไกลราวกับเป็นอดีต แต่ในความทรงจำของน้ำหนาวมันเพิ่งเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าเท่านั้น“พี่ทิว…”ร่างของเด็กสาววัยสิบหกปีเปล่งเสียงเรียกอย่างยากลำบากเนื่องจาก ร่างกายเธอบอบช้ำไร้เรี่ยวแรงตรงหน้าคือรถเบ๊นซ์คันที่เธอเพิ่งนั่งมากับแฟนหนุ่มอยู่ในสภาพพังยับเยิน และเขายังติดอยู่ในนั้นชุดนักเรียน ม.ปลายที่ใส่มาเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานของโลหิตเกือบจะทั้งตัวนั่นคือภาพสุดท้ายที่น้ำหนาวเห็นก่อนทุกอย่างจะดับหายไปพร้อมสติของเธอ…---หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้--- “สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย” เสียงหวานใสของเด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายที่นั่งอยู่ริมคลองหลังโรงเรียนข้างๆรุ่นพี่หนุ่มหน้าใสที่ตอนนี้ได้เลื่อนไปใช้สถานะ ‘แฟน’ เรียบร้อยแล้ว“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”คำสัญญาที่ออกจากปากทิวผู้ชายที่ซื่อสัตย์ซื่อตรงและเชื่อมั่นในรักแท้ ทั้งสองเกี่ยวก้อยสัญญากันตั้งแต่วันนั้น และเด็กสาวเชื่อคำพูดของเขาตลอดมา เพราะเขาก็ไม่เคยทำใ