@ คอนโด SN ห้องมิ้ลเชค
เจ้าของห้องสาวสุดเซ็กซี่เดินนำแขกคนแรกที่ได้รับสิทธิ์เข้ามาเยือนห้องสไตล์มินิมอลของเธอ ข้าวของในห้องถูกจัดเป็นระเบียบทุกตารางนิ้วจนให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูห้องตัวอย่าง มากกว่าห้องที่มีคนอาศัยจริง
ห้องพักขนาดห้าสิบตารางเมตรถัดจากโถงหน้าประตูเป็นพื้นที่ห้องครัวมีห้องนอนที่ใช้เป็นห้องนั่งเล่นไปด้วยได้และมีห้องน้ำเล็ก ๆ อยู่ในตัวเพื่อความสะดวกสบายของผู้อาศัย
“โหนี่ห้องใหม่เลยหรือเปล่าเนี่ย?” น้ำหนาวที่กำลังเปลี่ยนจากรองเท้าคัตชูเป็นสลิปเปอร์กวาดตาดูรอบ ๆ ห้องที่สะอาดสะอ้านไร้ซึ่งฝุ่นละอองอย่างชอบใจ
“แน่นอนจ้ะ ฉันก็เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ตอนปีหนึ่งเหมือนเธอนั่นแหละ ได้ข่าวว่าลูกชายเจ้าของคอนโดก็เรียนอยู่คณะเราด้วยนะจะบอกให้” มิ้ลเชคหันไปบอกเพื่อนตามข้อมูลที่ตนเองศึกษามาก่อนมาอยู่เป๊ะ
“อ่ะ เราอย่ามัวแต่เสียเวลากันเลย เลือกชุดกันดีกว่าเร็ว” เจ้าของห้องเหมือนจะดูตื่นเต้นยิ่งกว่าคนที่ไปผับครั้งแรก เมื่อได้โอกาสจับเพื่อนสาวเป็นแบบแต่งตัวเนื่องจากทางบ้านเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังระดับประเทศ เธอเลยค่อนข้างรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดี
มิ้ลเชคเปิดตู้เสื้อผ้าสีครีมออกกว้างเพราะก่อนหน้านี้เธอให้คนของที่บ้านขนเสื้อผ้าขึ้นมาจัดใส่ตู้ไว้ให้เรียบร้อยในตอนที่เธอลงไปทำกิจกรรมปฐมนิเทศที่คณะทำให้ตอนนี้ภายในตู้อัดแน่นไปด้วยชุดหลากหลายสไตล์ให้เลือกสรร
มิ้ลเชคเลือกหยิบชุดสายเดี่ยวสีดำรัดรูปโชว์หุ่นสวยแซ่บบริเวณหน้าอกตกแต่งด้วยโซ่ระย้ามีกิมมิก ยื่นให้น้ำหนาว
“อ่ะ ชุดนี้แหละเหมาะกับเธอ”
“ชุดนี้ไม่โป๊ไปเหรอมิ้ล” หญิงสาวเอ่ยขึ้นเมื่อชุดที่เพื่อนสาวส่งให้ค่อนข้างโชว์ทรวดทรงองค์เอวพอสมควรจนเธอกลัวว่ามันจะดูล่อเสือล่อตะเข้จนเกินงาม
“ปิดมากกว่านี้ก็แม่ชีแล้วค่ะ ไปเปลี่ยนเลยเร็ว ๆ เชื่อมือฉัน เดี๋ยวต้องแต่งหน้าอีกอย่าช้าค่ะเพื่อน เร็ว !”
มิ้ลเชคไล่ต้อนเพื่อนสาวเข้าไปในห้องน้ำก่อนปิดประตูให้พร้อม ขืนไม่มัดมือชกแบบนี้เจ้าตัวคงไม่ยอมเข้าไปเปลี่ยนชุดง่าย ๆ แน่
@ คอนโด SN ห้องซีเมล
“มึงไม่ไปจริง ๆ เหรอวะไอ้ซี งานนี้รวมสาวคณะกูทั้งนั้นเลยนะเว้ย”ดาต้าที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนส์สีดำยืนพ่นสเปรย์เซ็ตผมอยู่หน้ากระจกเอ่ยถามคนด้านหลังขึ้น
“ยืมห้องกู ยืมชุดกู แล้วมึงยังบังคับให้กุไปอีก?”
ร่างสูงที่นอนเหยียดยาวดวงตาจดจ้องอยู่กับหนังสือเกี่ยวกับโครงสร้างบ้านอยู่บนที่นอนเอ่ยเสียงเรียบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“ก็ไม่ใช่ว่ากูจะบังคับ แต่กูแค่กลัวว่าไอ้โซนิคมันจะเอาคืนมึง มึงอย่าลืมว่าน้องน้ำหนาวอยู่ปีหนึ่งคณะกูแล้วที่สำคัญ ไอ้โซ..”
ดาต้าพูดยังไม่ทันจบประโยคดี ซีเมลที่นอนอยู่ก็เด้งตัวลุกขึ้นราวกับติดสปริงไว้ที่หลังเดินเข้าห้องน้ำไปโดยอัตโนมัติ
“โถ ๆๆๆ กูชวนแม่งตั้งแต่นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ แม่งไม่ไป พอกูพูดถึงน้ำหนาวเท่านั้นแหละมันลุกเลย สงสัยคนนี้มันเอาจริงว่ะ เห้ย อย่าหล่อ มากนะเว้ย เดี๋ยวสาวแม่งไม่มีสาวมาอ่อยกู” ดาต้าเหยียดปากใส่เจ้าของห้องด้วยความหมันไส้ ก่อนตะโกนแซวเพื่อนไล่หลังทำเอาคนที่ถูกแซวปิดประตูปึงปังขึ้นเสียงเดียวสำหรับคนอื่นอาจจะไม่อะไรแต่สำหรับซีเมลมันแปลออกมาเป็นคำพูดได้ว่า
"หุบปากซะ’
ปึง!!!
@ผับ K
ผับKเป็นร้านผับที่ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยมากที่สุด ฉะนั้นลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นนักศึกษาจะมีเสี่ยอายุสามสิบปลาย ๆ บ้างแต่ก็ยังน้อยกว่าเด็กวัยรุ่นวัยเรียนภายในสถานบันเทิงแห่งนี้แบ่งเป็นสองโซนคือ โซนลูกค้าทั่วไปทางร้านจะจัดให้อยู่บริเวณชั้นล่างส่วนชั้นบนเป็นของลูกค้าVIPซึ่งจะต่างกันตรงที่โซน VIP จะค่อนข้างส่วนตัวกว่า และที่สำคัญที่นี่มีห้องนอนไว้สำหรับแขกที่เมาหนักแล้วจนกลับไม่ไหวหรือต้องการจะมีกิจกรรมอื่น ๆ ต่อจากนั้นกับสาวนั่งดริ้งของทางร้านก็สามารถทำได้
“โต๊ะคณะเราอยู่ไหนวะ”มิ้ลเชคจูงมือน้ำหนาวเดินเบียดหนุ่มสาวที่เต้นอวดลีลากันอยู่ตามที่ต่าง ๆ เข้ามาในผับที่มีเสียงเพลงดังสนั่นจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงคนคุยกันเว้นแต่จะกระซิบข้างหูกันเท่านั้นเหมือนจงใจให้แขกในร้านได้พูดคุยกันในระยะประชิดมากกว่าปกติ ไหนจะแสงไฟสลัวที่เปิดก็เหมือนกับไม่เปิดเพื่อสร้างบรรยากาศให้แขกสามารถใกล้ชิดกันโดยไม่ต้องเห็นหน้ากันซึ่งทำให้เห็นได้ชัดถึงเจตนาของทางร้านจนนักศึกษาส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวมักได้แฟนกลับไปแทบทุกคน จึงทำให้ที่นี่โด่งดังในฐานะของผับหาคู่ไปด้วย
“ทางนี้น้องน้ำหนาว” ดาต้าที่เห็นสองสาวเดินมารีบโบกมือให้เห็นเป็นจุดเด่นทันทีที่เห็นว่าพวกเธอเดินเข้ามาทั้งคู่เดินมาตามเสียงเรียกของรุ่นพี่หนุ่มที่พวกเธอเจอในลิฟท์เมื่อตอนบ่ายก่อนจะเข้าไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนในคณะเดียวกันบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่
“ดื่มอะไรกันดีสาว ๆ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”
“โอ้ยป๋าจังเว้ย”เพื่อนร่วมคณะเดียวกันหันมาแขวะทันทีซึ่งพวกนั้นก็คือเพื่อนของโซนิคนั่นแหละเพียงแต่เขาไม่อยากมี เรื่องต่อหน้าเด็กปีหนึ่งก็เลยแสร้งทำเป็นสนใจแต่แล้วจู่ ๆ เสียงของเจ้าพ่อคณะบริหารพูดซ้ำประโยคของดาต้าขึ้นมาหน้าตาเฉย
“น้อง ๆ ทุกคนครับเดี๋ยวพวกเรามาดื่มกันให้เต็มที่เลยนะ พวกพี่เลี้ยงเองไม่ต้องห่วง”
เสียงประกาศที่ดังขึ้นทำให้ทุกคนหันไปโฟกัสโซนิคที่ยืนขึ้นต่อหน้าทุกคนใบหน้าหล่อเหล่าราวกับเทพบุตรจุติลงมาเกิดสะกดทุกสายตาเอาไว้โดยเฉพาะน้ำหนาวที่รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาชายตรงหน้ายังไงชอบกล
“ค่าาา พี่โซนิค” เมื่อชื่อของเทพบุตรหนุ่มถูกเปิดเผย หญิงสาวก็จ้องหน้าเขาแบบไม่ละสายตาพลันนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่เธอกำลังจะเดินเข้ารั้วมหาวิทยาลัย
“พี่โซนิค หรือว่าจะเป็นเขาคนนั้น…”สิ้นเสียงพึมพำของหญิงสาวภาพเหตุการณ์ชายที่ถูกซอมหน้ารั้วก็แฟตแบคกลับมาในหัวทันที
‘มึงจะเอายังไง จะจ่ายไม่จ่าย ไอ้โซนิค’
หญิงสาวที่กำลังใช้ความคิดในขณะที่สายตายังมองตรงไปที่คนคนเดิมอยู่ โดยไม่รู้ตัวว่าสายตาของเธอได้ถูกโซนิคสังเกตเห็น
และเขาก็จำได้ว่าเธอคือคนเดียวกับในรูปติดบัตรนักศึกษาที่เขาแย่งมาจากมือดาต้าเมื่อกลางวันนี้ รู้ตัวอีกทีคนที่อยู่ไกลตัวเมื่อครู่ก็เข้ามายืนประชิดตัวเธอพร้อมกับแก้วเหล้าในมือเสียแล้ว
“สวัสดีครับน้อง ชื่อ….”
“อะ…เอ่อน้ำหนาวค่ะแล้วพี่…”น้ำหนาวได้ยินเสียงเรียกของรุ่นพี่หนุ่มจึงทำให้สติที่กำลังหลุดลอยไปกับภาพในอดีตถูกดึงกลับมาในทันที
“พี่ชื่อโซนิคครับ”
“ออค่ะ…แผลหายดีแล้วเหรอคะ?” หญิงสาวถือโอกาสถามไปเพื่อรีเช็กว่าเขาใช่โซนิคคนเดียวกับที่โดนซ้อมที่หน้ามหาลัยหรือไม่
“ครับแผล……”โซนิคที่โดนยิงคำถามแบบไม่ทันตั้งตัวนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะนึกได้ ว่าโซนิคที่เธอหมายถึงอาจจะเป็นซีเมลก็เป็นได้เพราะตอนที่น้องชายฝาแฝดที่วิ่งมาต่อยเขาเมื่อตอนกลางวันช่วงที่กำลังปะทะกันเขาเห็นซีเมลมีสภาพบาดแผลเต็มตัวคล้ายโดนทำร้ายมา
โซนิคยกยิ้มมุมปาก สายตามองไปยังสาวน้อยผู้ไร้เดียงสา ด้วยความเจ้าเล่ห์
“ครับ ดีขึ้นแล้วครับ น้องรู้ได้ยังไงว่า…”
“น้ำหนาวคือคนที่พาพี่ไปโรงพยาบาลไงคะ จำได้ไหม” หญิงสาวอธิบายเพราะเข้าใจว่าตอนนั้นชายหนุ่มอาจจะเมาหมัดอยูจึงจำเธอไม่ได้
อ๋อ…น้องนี่เอง ขอบคุณนะครับที่ช่วยพี่ถ้าไม่ได้น้องพี่คงแย่”
ปึ้ง !!
เสียงแก้วเหล้าถูกวางกระทบกับโต๊ะอย่างแรง เมื่อบทสนทนาของทั้งคู่ดังเข้าโสตประสาทของร่างสูงใส่เสือเชิ้ตสีดำที่นั่งหันหลังห่างจากทั้งสองเพียงแผ่นหลังชนกันเท่านั้น จนทำให้น้ำหนาวที่ยังคงมีสติดีหันมามองแผ่นหลังของเขาชั่วขณะเมื่อหูของตนคล้ายว่าจะได้ยินอะไรแว่ว ๆ
“คะ คุณตรงนั้น มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
ซึ่งโซนิคมีหรือจะไม่รู้ เขารู้ตั้งแต่น้องชายเดินมานั่งที่โต๊ะ ด้านหลังแล้ว อีกอย่างเขากับซีเมลเห็นกันมาตั้งแต่เกิดเห็นแค่แผ่นหลังก็จำได้แล้วแต่ด้วยความอยากเอาคืนน้องชายฝาแฝดผู้อวดดีเขาจึงหันไปจับศีรษะเล็กให้มาสนใจเขาตามเดิมเพื่อยั่วโมโหอีกฝ่าย
“มีอะไรครับ พี่ไม่เห็นได้ยินอะไรเลย เสียงเพลงหรือเปล่า?”
“อะ...อ๋อค่ะ” นักศึกษาสาวผู้ใสซื่อไม่ได้คิดอะไรมาก ก็จริงอย่างที่เขาว่า เสียงเพลงดังกระหึ่มขนาดนั้นเธออาจจะหูฟาดเธอเลยไม่ได้สงสัยอะไรอีก ทำให้คนโดนเมินยิ่งเดือดดาล และมันก็เป็นไปตามเกมส์ของ
โซนิค
ตั้งแต่ที่โซนิคเห็นน้ำหนาวเดินเข้าในผับมาซึ่งเธอมีหน้าตาเหมือนกับหญิงสาวที่อยู่ในรูปติดบัตรที่เขาเห็นเมื่อกลางวัน บวกกับคำพูดที่ซีเมลทิ้งท้ายไว้ให้เขา
“รูปนี่มือสกปรกของมึงมาไม่มีสิทธิ์มาแตะ จำไว้”
ยิ่งทำให้ชายหนุ่มมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้สำหรับซีเมลแล้วไม่ธรรมดาแน่ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นหล่อนจะกลายเป็นหมากตัวสำคัญที่ทำให้น้องชายฝาแฝดผู้เย็นชาปานน้ำแข็งขั้วโลกได้คลั่งจนแทบบ้าก็ได้ และนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ
ถึงอย่างไรฝาแฝดล่องหนอย่างมันก็ไม่มีปัญญาโผล่หน้ามาช่วยยัยผู้หญิงที่แสนสำคัญคนนี้ได้หรอก
“สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย”“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”ประโยคเหล่านั้นยังคงดังก้องในหูของเธอ เลือนราง ห่างไกลราวกับเป็นอดีต แต่ในความทรงจำของน้ำหนาวมันเพิ่งเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าเท่านั้น“พี่ทิว…”ร่างของเด็กสาววัยสิบหกปีเปล่งเสียงเรียกอย่างยากลำบากเนื่องจาก ร่างกายเธอบอบช้ำไร้เรี่ยวแรงตรงหน้าคือรถเบ๊นซ์คันที่เธอเพิ่งนั่งมากับแฟนหนุ่มอยู่ในสภาพพังยับเยิน และเขายังติดอยู่ในนั้นชุดนักเรียน ม.ปลายที่ใส่มาเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานของโลหิตเกือบจะทั้งตัวนั่นคือภาพสุดท้ายที่น้ำหนาวเห็นก่อนทุกอย่างจะดับหายไปพร้อมสติของเธอ…---หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้--- “สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย” เสียงหวานใสของเด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายที่นั่งอยู่ริมคลองหลังโรงเรียนข้างๆรุ่นพี่หนุ่มหน้าใสที่ตอนนี้ได้เลื่อนไปใช้สถานะ ‘แฟน’ เรียบร้อยแล้ว“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”คำสัญญาที่ออกจากปากทิวผู้ชายที่ซื่อสัตย์ซื่อตรงและเชื่อมั่นในรักแท้ ทั้งสองเกี่ยวก้อยสัญญากันตั้งแต่วันนั้น และเด็กสาวเชื่อคำพูดของเขาตลอดมา เพราะเขาก็ไม่เคยทำใ
สามเดือนต่อมาวันที่อากาศร้อนอบอ้าวจนแทบจะแผดเผามนุษย์บนโลกให้หมดโลกได้ภายในพริบตาเดียวกลับเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ใคร ๆ ก็ต่างใฝ่ฝันอยากเข้ามาเรียนอย่างSN university เสียอย่างนั้นรถเมล์สาย 7 ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ภายในรถมีผู้โดยสารนับร้อยชีวิตยืนอัดกันแน่นยิ่งกว่าปลาแมคเคอเรลในกระป๋อง จนแทบจะมองวิวทิวทัศน์ข้างนอกไม่เห็นน้ำหนาว หญิงสาวร่างเล็กส่วนสูงร้อยหกสิบต้น ๆ ถูกเบียดจนเซไปเซมาตามแรงขับเคลื่อนของตัวรถ เธอทั้งร้อนทั้งอึดอัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่ทนไปแบบนั้น จนกระทั่งถึงยังจุดหมายปลายทาง“ขอทางหน่อยค่ะ ขอโทษนะคะ ขอทางหน่อยค่ะ” เด็กสาวพยายามแทรกตัวเพื่อที่จะเดินตรงไปยังประตูทางออกให้เร็วที่สุดเพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกซึ่งตัวเธอยังไม่รู้อะไรเลยแม้แต่ที่ตั้งของคณะที่เธอเรียนอยู่“เห้อ กว่าจะลงมาได้พ่อคุ๊ณ นึกว่าจะโดนบี้แบนตายในรถเมล์ซะแล้ว” คนตัวเล็กบ่นอุบได้เพียงแค่นั้นก่อนจะรีบสาวเท้าตรงไปยังรั้วมหาวิทยาลัยด้วยความเร่งรีบแต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินพ้นประตูเข้าไป ดวงตาคู่สวยก็ดันเหลือบไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นที
@ คอนโดSNSN Condominiumเป็นคอนโดหรูสูงยี่สิบชั้นที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวมหาวิทยาลัย มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักศึกษาที่บ้านไกลหรือหรือไม่ก็ต้องการออกมาใช้ชีวิตวัยรุ่นเพียงลำพังซึ่งได้รับความสนใจจากนักศึกษาจำนวนมากหนึ่งในนั้นก็คือลูกชายเจ้าของคอนโดที่เพิ่งถูกเพื่อนสนิทหิ้วตัวกลับมาจากโรงพยาบาลด้วย“ไอ้ซีมึงไปฟัดกับหมาที่ไหนมาเนี่ย? สภาพแม่ง อย่างกับโดนรุมโทรม” ดาต้าที่ถูกโทรเรียกให้ไปรับเพื่อนหน้าหล่อจากโรงพยาบาลประจำมหาลัย ตั้งแต่ตะวันตรงหัว อดถามไม่ได้ เพราะสภาพชายหนุ่มตอนนี้พูดง่าย ๆ ว่า ‘หมายังดูดีกว่า’“หึ กุว่าหมามันไม่ได้ตั้งใจมาซัดกุหรอก น่าจะซัดผิดตัวมากกว่า”ซีเมล หนุ่มหล่อมาดนิ่งพ่อเป็นเศรษฐีพันล้านมีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของประเทศ รูปร่างสูงโปร่ง นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ชั้นปีที่สามเจ้าของฉายา ‘เกียร์ล่องหนแห่งวิศวะ’เนื่องจากเขาเป็นพวกชอบปิดบังตัวตน มีนิสัยส่วนตัวคือชอบใส่ฮู้ดนั่งเรียนในคลาสตลอดทั้งคาบ และเวลาที่ต้องอยู่ท่ามกลางฝูงชนหมู่มากเลยไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขาสักเท่าไหร่ดังนั้นฉายานี้จึงเป็นฉายาที่ตั้งกันเองในหมู่เพื่อนสนิทร่างสูงเหยียดยิ้มแบบรู้ทันถึงสาเห
“เออนี่ น้ำหนาวงานเลี้ยงต้อนรับนิสิตใหม่ของคณะเราเธอจะไปไหม?” มิ้ลเชคที่เดินกลับจากคณะมาพร้อมกันกับน้ำหนาวถามขึ้นเพราะเธอกำลังหาคนไปเป็นเพื่อน อีกอย่างนอกจากน้ำหนาวแล้วเธอก็ยังไม่รู้จักใครเลย“ฉันก็อยากไปนะแต่เห็นพวกรุ่นพี่บอกว่าไปกินเลี้ยงในผับฉันเลยลังเลอ่ะ ว่าจะไปดีไหม ฉันไม่ค่อยถนัดกับที่แบบนั้นเท่าไหร่”เธอตอบไปตามตรงเพราะชีวิตคนตัวเล็กนอกจากเรียนแล้วก็ขลุกอยู่กับที่ทำงานพาร์ทไทม์เป็นส่วนใหญ่ จนเวลาจะเที่ยวแทบไม่มี“อย่าบอกนะ ว่าเธอไม่เคยไปผับเลย?”“อืม ปกติพอฉันเลิกเรียน ก็ไปทำงานพิเศษน่ะ ไม่ค่อยได้ไป ไหนหรอก เพราะกว่าจะเลิกงานก็ดึกแล้ว”“Oh My God นี่ฉันกำลังทำความรู้จักกับแม่ชียุค 2024 หรอเนี่ย” มิ้ลเชคเอามือปิดปากแล้วอุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อ เจ้าหล่อนหน้าเหวอราวกับนี่คือการค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่แปดของโลก ที่เธอเป็นผู้ค้นพบ“ที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตอยู่หลุมดำที่ไหนมาเนี่ย” คำถามของมิ้ลเชคเล่นเอาน้ำหนาวนิ่งไปชั่วขณะจนคนพูดตกใจต้องขอโทษขอโพยกันยกใหญ่กลัวว่าเพื่อนสาวจะเข้าใจผิดว่าเธอไปดูถูกเจ้าตัวเข้าให้ เพราะด้วยท่าทางมั่นและบุคลิกหลาย ๆ อย่างของมิ้ลเชค เจ้าตัวมักจะชวนให้คนอื่น
@ คอนโด SN ห้องมิ้ลเชคเจ้าของห้องสาวสุดเซ็กซี่เดินนำแขกคนแรกที่ได้รับสิทธิ์เข้ามาเยือนห้องสไตล์มินิมอลของเธอ ข้าวของในห้องถูกจัดเป็นระเบียบทุกตารางนิ้วจนให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูห้องตัวอย่าง มากกว่าห้องที่มีคนอาศัยจริงห้องพักขนาดห้าสิบตารางเมตรถัดจากโถงหน้าประตูเป็นพื้นที่ห้องครัวมีห้องนอนที่ใช้เป็นห้องนั่งเล่นไปด้วยได้และมีห้องน้ำเล็ก ๆ อยู่ในตัวเพื่อความสะดวกสบายของผู้อาศัย“โหนี่ห้องใหม่เลยหรือเปล่าเนี่ย?” น้ำหนาวที่กำลังเปลี่ยนจากรองเท้าคัตชูเป็นสลิปเปอร์กวาดตาดูรอบ ๆ ห้องที่สะอาดสะอ้านไร้ซึ่งฝุ่นละอองอย่างชอบใจ“แน่นอนจ้ะ ฉันก็เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ตอนปีหนึ่งเหมือนเธอนั่นแหละ ได้ข่าวว่าลูกชายเจ้าของคอนโดก็เรียนอยู่คณะเราด้วยนะจะบอกให้” มิ้ลเชคหันไปบอกเพื่อนตามข้อมูลที่ตนเองศึกษามาก่อนมาอยู่เป๊ะ“อ่ะ เราอย่ามัวแต่เสียเวลากันเลย เลือกชุดกันดีกว่าเร็ว” เจ้าของห้องเหมือนจะดูตื่นเต้นยิ่งกว่าคนที่ไปผับครั้งแรก เมื่อได้โอกาสจับเพื่อนสาวเป็นแบบแต่งตัวเนื่องจากทางบ้านเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังระดับประเทศ เธอเลยค่อนข้างรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดีมิ้ลเชคเปิดตู้เสื้อผ้าสีครีมออกกว้างเพ
“เออนี่ น้ำหนาวงานเลี้ยงต้อนรับนิสิตใหม่ของคณะเราเธอจะไปไหม?” มิ้ลเชคที่เดินกลับจากคณะมาพร้อมกันกับน้ำหนาวถามขึ้นเพราะเธอกำลังหาคนไปเป็นเพื่อน อีกอย่างนอกจากน้ำหนาวแล้วเธอก็ยังไม่รู้จักใครเลย“ฉันก็อยากไปนะแต่เห็นพวกรุ่นพี่บอกว่าไปกินเลี้ยงในผับฉันเลยลังเลอ่ะ ว่าจะไปดีไหม ฉันไม่ค่อยถนัดกับที่แบบนั้นเท่าไหร่”เธอตอบไปตามตรงเพราะชีวิตคนตัวเล็กนอกจากเรียนแล้วก็ขลุกอยู่กับที่ทำงานพาร์ทไทม์เป็นส่วนใหญ่ จนเวลาจะเที่ยวแทบไม่มี“อย่าบอกนะ ว่าเธอไม่เคยไปผับเลย?”“อืม ปกติพอฉันเลิกเรียน ก็ไปทำงานพิเศษน่ะ ไม่ค่อยได้ไป ไหนหรอก เพราะกว่าจะเลิกงานก็ดึกแล้ว”“Oh My God นี่ฉันกำลังทำความรู้จักกับแม่ชียุค 2024 หรอเนี่ย” มิ้ลเชคเอามือปิดปากแล้วอุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อ เจ้าหล่อนหน้าเหวอราวกับนี่คือการค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่แปดของโลก ที่เธอเป็นผู้ค้นพบ“ที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตอยู่หลุมดำที่ไหนมาเนี่ย” คำถามของมิ้ลเชคเล่นเอาน้ำหนาวนิ่งไปชั่วขณะจนคนพูดตกใจต้องขอโทษขอโพยกันยกใหญ่กลัวว่าเพื่อนสาวจะเข้าใจผิดว่าเธอไปดูถูกเจ้าตัวเข้าให้ เพราะด้วยท่าทางมั่นและบุคลิกหลาย ๆ อย่างของมิ้ลเชค เจ้าตัวมักจะชวนให้คนอื่น
@ คอนโดSNSN Condominiumเป็นคอนโดหรูสูงยี่สิบชั้นที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวมหาวิทยาลัย มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักศึกษาที่บ้านไกลหรือหรือไม่ก็ต้องการออกมาใช้ชีวิตวัยรุ่นเพียงลำพังซึ่งได้รับความสนใจจากนักศึกษาจำนวนมากหนึ่งในนั้นก็คือลูกชายเจ้าของคอนโดที่เพิ่งถูกเพื่อนสนิทหิ้วตัวกลับมาจากโรงพยาบาลด้วย“ไอ้ซีมึงไปฟัดกับหมาที่ไหนมาเนี่ย? สภาพแม่ง อย่างกับโดนรุมโทรม” ดาต้าที่ถูกโทรเรียกให้ไปรับเพื่อนหน้าหล่อจากโรงพยาบาลประจำมหาลัย ตั้งแต่ตะวันตรงหัว อดถามไม่ได้ เพราะสภาพชายหนุ่มตอนนี้พูดง่าย ๆ ว่า ‘หมายังดูดีกว่า’“หึ กุว่าหมามันไม่ได้ตั้งใจมาซัดกุหรอก น่าจะซัดผิดตัวมากกว่า”ซีเมล หนุ่มหล่อมาดนิ่งพ่อเป็นเศรษฐีพันล้านมีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของประเทศ รูปร่างสูงโปร่ง นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ชั้นปีที่สามเจ้าของฉายา ‘เกียร์ล่องหนแห่งวิศวะ’เนื่องจากเขาเป็นพวกชอบปิดบังตัวตน มีนิสัยส่วนตัวคือชอบใส่ฮู้ดนั่งเรียนในคลาสตลอดทั้งคาบ และเวลาที่ต้องอยู่ท่ามกลางฝูงชนหมู่มากเลยไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขาสักเท่าไหร่ดังนั้นฉายานี้จึงเป็นฉายาที่ตั้งกันเองในหมู่เพื่อนสนิทร่างสูงเหยียดยิ้มแบบรู้ทันถึงสาเห
สามเดือนต่อมาวันที่อากาศร้อนอบอ้าวจนแทบจะแผดเผามนุษย์บนโลกให้หมดโลกได้ภายในพริบตาเดียวกลับเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ใคร ๆ ก็ต่างใฝ่ฝันอยากเข้ามาเรียนอย่างSN university เสียอย่างนั้นรถเมล์สาย 7 ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ภายในรถมีผู้โดยสารนับร้อยชีวิตยืนอัดกันแน่นยิ่งกว่าปลาแมคเคอเรลในกระป๋อง จนแทบจะมองวิวทิวทัศน์ข้างนอกไม่เห็นน้ำหนาว หญิงสาวร่างเล็กส่วนสูงร้อยหกสิบต้น ๆ ถูกเบียดจนเซไปเซมาตามแรงขับเคลื่อนของตัวรถ เธอทั้งร้อนทั้งอึดอัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่ทนไปแบบนั้น จนกระทั่งถึงยังจุดหมายปลายทาง“ขอทางหน่อยค่ะ ขอโทษนะคะ ขอทางหน่อยค่ะ” เด็กสาวพยายามแทรกตัวเพื่อที่จะเดินตรงไปยังประตูทางออกให้เร็วที่สุดเพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกซึ่งตัวเธอยังไม่รู้อะไรเลยแม้แต่ที่ตั้งของคณะที่เธอเรียนอยู่“เห้อ กว่าจะลงมาได้พ่อคุ๊ณ นึกว่าจะโดนบี้แบนตายในรถเมล์ซะแล้ว” คนตัวเล็กบ่นอุบได้เพียงแค่นั้นก่อนจะรีบสาวเท้าตรงไปยังรั้วมหาวิทยาลัยด้วยความเร่งรีบแต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินพ้นประตูเข้าไป ดวงตาคู่สวยก็ดันเหลือบไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นที
“สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย”“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”ประโยคเหล่านั้นยังคงดังก้องในหูของเธอ เลือนราง ห่างไกลราวกับเป็นอดีต แต่ในความทรงจำของน้ำหนาวมันเพิ่งเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าเท่านั้น“พี่ทิว…”ร่างของเด็กสาววัยสิบหกปีเปล่งเสียงเรียกอย่างยากลำบากเนื่องจาก ร่างกายเธอบอบช้ำไร้เรี่ยวแรงตรงหน้าคือรถเบ๊นซ์คันที่เธอเพิ่งนั่งมากับแฟนหนุ่มอยู่ในสภาพพังยับเยิน และเขายังติดอยู่ในนั้นชุดนักเรียน ม.ปลายที่ใส่มาเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานของโลหิตเกือบจะทั้งตัวนั่นคือภาพสุดท้ายที่น้ำหนาวเห็นก่อนทุกอย่างจะดับหายไปพร้อมสติของเธอ…---หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้--- “สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย” เสียงหวานใสของเด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายที่นั่งอยู่ริมคลองหลังโรงเรียนข้างๆรุ่นพี่หนุ่มหน้าใสที่ตอนนี้ได้เลื่อนไปใช้สถานะ ‘แฟน’ เรียบร้อยแล้ว“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”คำสัญญาที่ออกจากปากทิวผู้ชายที่ซื่อสัตย์ซื่อตรงและเชื่อมั่นในรักแท้ ทั้งสองเกี่ยวก้อยสัญญากันตั้งแต่วันนั้น และเด็กสาวเชื่อคำพูดของเขาตลอดมา เพราะเขาก็ไม่เคยทำใ