Share

บทที่ 990

Penulis: อี้ซัวเยียนอวี่
อู๋ไป๋เคยสืบเรื่องของคนในตระกูลหลิว

เขาจึงพูดขึ้นมาก่อน “ฮองเฮา คนตระกูลหลิว นอกจากท่านแม่กับน้าหญิงของท่าน ล้วนไม่มีแล้ว พวกเขาล้วนไม่มีนิสัยวาดภาพ ดังนั้นเป็นไปได้อย่างมากที่จะไม่สามารถหาเจอภาพวาดของพวกเขา”

เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างใจเย็น “พาตงฟางซื่อ ไปหาคนที่พอรู้จักคนตระกูลหลิว แล้วให้พวกเขาเล่าให้ฟัง”

อู๋ไป๋เข้าใจขึ้นมาทันที

ใช่!

เขาลืมตงฟางซื่อไปได้อย่างไร!

“ฮองเฮา กระหม่อมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”

……

ข้างนอกวัง

สายตาเฟิ่งหมิงเซวียนที่มองอิงเอ๋อร์ ราวกับกำลังมองศัตรู

“เจ้าทำร้ายข้าเกือบตายแล้ว!”

อิงเอ๋อร์ไม่เสียใจเลย “ขอเพียงครอบครัวเราได้อยู่พร้อมหน้ากัน ก็ไม่กลัวว่าจะไม่ได้มีชีวิตที่ดี ต่อให้เจ้าไม่ใช่คุณชายรองตระกูลเฟิ่ง ข้าก็ชอบเจ้า แต่งกับไก่ก็ตามไก่ แต่งกับสุนัขก็ตามสุนัข”

นางเพียงแค่ต้องการครอบครัวที่สมบูรณ์

“อ้าก...” เฟิ่งหมิงเซวียนยกมือกุมหัว คุกเข่าอยู่บนพื้น

จวนตระกูลเฟิ่ง

อี๋เหนียงหลินเห็นลูกชายกลับมาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย ก็ถามขึ้นมาอย่างห่วงใย

“ลูก เจ้าเข้าวังไปทำอันใดหรือ? ฝ่าบาทมอบหมายงานสำคัญให้เจ้าใช่หรือไม่?”

เฟิ่งหมิงเซวียนเกลียดแค้นอย่างมาก พร
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (9)
goodnovel comment avatar
Rojanapenkul Polntip
มันไม่สนุกที่จะอ่านอีกต่อไปแล้ว ที่ยังคงอ่านก็เพราะอ่านมาตั้งแต่ต้นก็อยากอ่านให้จบไม่อยากค้างคาใจ
goodnovel comment avatar
Raveepa Proulx
ลงนิดเดียวทุกวัน ไม่ชอบเลย
goodnovel comment avatar
Rojanapenkul Polntip
สร้างให้มันมีเรื่องบ้าบอคอแตกขึ้นมาซะงั้น ไม่เห้นจะมีเงื่อนขำน่าสงายอะไรมาก่อน ก็สร้างตัวละครใหม่ๆแตกเรื่องใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนจะหาเรื่องกินเงินไปเรื่อยๆ พอเถอะแล้วจบให้มันสวนๆ เคลีร์ยเรื่องค้างคาของคัวละครเก่าให้จบก็พอแล้วมั๊ง อย่าโลภนักเลย
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 991

    ที่ภูเขาหวูหยาในแท่นฝึกวรยุทธที่สูงตระหง่าน ผู้เฒ่าผมขาวนั่งบำเพ็ญอยู่อย่างสงบคนนี้ก็คือผู้ดูแลภูเขาหวูหยา อาจารย์ของเซียวอวี้...เสวียนหลิงเฟิงศิษย์คนหนึ่งเข้าไปในแท่น รายงานอย่างเคารพนอบน้อม“อาจารย์ ฝ่าบาทกับฮองเฮามาถึงแล้วขอรับ ท่านจะพบพวกเขาตอนนี้เลยหรือไม่?”ตามกฎของฆราวาส ฮ่องเต้ฮองเฮาเสด็จ ทุกคนล้วนต้องออกมาต้อนรับทว่า เสวียนหลิงเฟิงเป็นถึงอาจารย์ของฮ่องเต้ ยังเป็นผู้บำเพ็ญมีวรยุทธสูงส่งสันโดษ จึงไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงกฎปฏิบัติเหล่านี้ทว่า เขาก็ไม่ปล่อยให้ฮ่องเต้ฮองเฮาทั้งสองต้องรอหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เสวียนหลิงเฟิงที่อยู่บนแท่นสูงลืมตาขึ้นมา ยกมือสงบลมปราณ ใบหน้าสงบเรียบเฉย“ให้พวกเขาเข้ามา”“ขอรับ อาจารย์”เวลานี้ ข้างนอกแทนฝึกบำเพ็ญ เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ที่สูงมองไกลออกไป เท่าที่สายตามองเห็น ทุกสิ่งอย่างล้วนเขียวชอุ่ม ที่สูงล้อมรอบไปด้วยเมฆหมอก ใต้ฟ้าเหนือเมฆา ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในดินแดนสวรรค์ เซียวอวี้ยืนอยู่ด้านข้างนาง ดึงจับมือของนางไว้อย่างเป็นธรรมชาติ“งดงามหรือไม่?” เขาถามเฟิ่งจิ่วเหยียนมองไกลออกไป ผงกศีรษะเล็กน้อย“เรียกได้ว่าเป็นดินแดนมหัศจรร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 992

    รอยยิ้มของเสวียนหลิงเฟิงที่อยู่บนแท่นสูงดูแข็งทื่อเล็กน้อยเมื่อครู่ ฮองเฮาว่ากระไรนะ?ฝ่าบาททรงบาดเจ็บถึงแก่นกายรึ?จากที่เขารู้มา ความจริงไม่ใช่เช่นนี้อย่าว่าแต่เสวียนหลิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจเลย แม้แต่ตัวเซียวอวี้เองก็ยังตกตะลึงอย่างยิ่งร่างกายของเขาแข็งแรงดีมาก ไม่เคยเกิดความผิดปกติมาก่อนแต่เพียงครู่หนึ่งเขาก็พลันนึกได้สามีภรรยาเป็นหนึ่งเดียวกัน จะให้กำเนิดบุตรได้หรือไม่ เป็นเรื่องของคนสองคนหลังจากคิดได้แล้ว ปฏิกิริยาของเซียวอวี้ก็รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง เขาคล้อยตามคำที่เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดเมื่อครู่ทันที เขาพูดกับเสวียนหลิงเฟิงผู้เป็นอาจารย์“ใช่แล้วขอรับ ขอท่านได้โปรดตรวจและรักษาให้ศิษย์ด้วยเถิด”มุมปากเสวียนหลิงเฟิงกระตุกเบา ๆเจ้าเด็กสองคนนี้นี่ โกหกคล่องปากเหมือนไม่ต้องคิดเลย!เฟิ่งจิ่วเหยียนมั่นใจว่าเสวียนหลิงเฟิงผู้นี้ไม่มีทางปฏิเสธเขาเก่งกาจเพียงนี้ ย่อมรู้จุดประสงค์ที่พวกนางเข้ามาในเขาในเมื่อทราบถึงเรื่องนี้ แล้วยังส่งศิษย์ไปต้อนรับที่ประตูหุบเขา ก็พิสูจน์แล้วว่าเขามีใจที่จะรักษาโรคกลัวความหนาวให้นางทว่าถูกห้ามไว้ด้วยกฎของภูเขาหวูหยา ทันใดนั้นเสวียนหลิงเฟิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 993

    ใบหน้าที่แก่ชราของโอวหยางเหลียน มีความชอบธรรมอย่างเห็นได้ชัด“ท่านกับซู่ยวน คนหนึ่งเหมือนมารดา อีกคนเหมือนบิดา วันนี้เมื่อได้เห็นใบหน้า ซู่ยวนผู้นั้นไม่เหมือนบิดาของท่านซักนิด ต้องไม่ใช่ตัวจริงแน่!”สีหน้าของมั่วซินหมัวมัวพลันซับซ้อน คิดอยากพูดโน้มน้าวโอวหยางเหลียนแต่ก็พูดไม่ออกวันนี้ท่านประมุขได้พบกับใต้เท้าซู่ยวนก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ไม่แน่ว่าอาการป่วยอาจจะดีขึ้นก็ได้ใต้เท้าโอวหยางเหลียนกลับเปิดเผยความจริงออกมาเช่นนี้ นี่มิใช่การทำให้อารมณ์ของท่านประมุขขึ้น ๆ ลง ๆ จนอาจจะส่งผลให้อาการป่วยแย่ลงหรอกหรือ?ทว่าเมื่อหันไปดูท่านประมุขอีกครั้ง กลับดูไม่มีปฏิกิริยาอะไรมั่วซินหมัวมัวจึงกล่าวเตือนอย่างวิตกกังวล“ท่านประมุข...”ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ยกมือขึ้นอย่างอาจหาญ มั่วซินหมัวมัวจึงหยุดพูดโอวหยางเหลียนพูดอย่างจริงจัง“ท่านประมุข หม่อมฉันทราบว่าพระองค์ตัดสินใจที่จะมอบตำแหน่งประมุขให้ซู่ยวน ดังนั้นตัวตนของซู่ยวนเป็นจริงหรือปลอม เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก“ขอพระองค์โปรดไตร่ตรองอีกครั้ง สืบให้ชัดเจนก่อน ค่อยตัดสินใจเถิดเพคะ”ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา“แล้วชิ้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 994

    ภายในภูเขาหวูหยามีศิษย์อยู่ทั้งหมดสามสิบคนในบรรดาพวกเขา มีหลายคนที่โตมากับเซียวอวี้ เวลาพูดจาจึงไม่ได้คิดอะไรมากนักวันนั้นเซียวอวี้ที่ไม่ค่อยออกมานอกเรือน ได้ออกมาแล้วพบกับศิษย์น้องผู้หนึ่งเข้าฝ่ายหลังที่มาส่งยา คล้ายจะยิ้มแต่ก็ไม่กล้ายิ้ม เขามองจนเซียวอวี้รู้สึกเดือดดาล“ศิษย์พี่ ยานี้ท่านรีบดื่มตอนร้อน ๆ เถิด”เซียวอวี้: …อดทนไว้!เขารับยามา ยามที่กำลังจะหันกายจากไปนั้นเอง ศิษย์น้องผู้นั้นก็ตะโกนขึ้นเสียงดัง“ศิษย์พี่ มิน่าเล่าตั้งแต่ท่านขึ้นครองราชย์ก็ไม่เคยมีบุตรหลานเลย ท่านนี่นะ น่าจะรีบกลับมาหาอาจารย์ตั้งนานแล้ว!”ความโกรธในร่างของเซียวอวี้ที่ลดลงไปพลันพุ่งขึ้นในทันทีพอหันกลับมา ศิษย์น้องผู้นั้นก็วิ่งหนีหายไปจนไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วสมควรตายนัก!เขากลับเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าบึ้งตึง ทว่าเมื่อเจอเฟิ่งจิ่วเหยียนก็รีบปรับอารมณ์ของตนแล้วเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มทันที“จิ่วเหยียน ได้เวลาดื่มยาแล้ว”คนอื่นล้วนเข้าใจว่ายานี้สำหรับให้เขาดื่ม ทว่าที่จริงแล้วล้วนต้มให้นางทั้งนั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนยกชามยาขึ้นแล้วดื่มคำใหญ่โดยไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว เพียงครู่หนึ่งก็เห็นก้นชามยานี้เซียว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 995

    ประมุขแคว้นซีหนีว์ส่งจดหมายมาเล่าเรื่องของหลิวอิ๋งอย่างละเอียดเฟิ่งจิ่วเหยียนอ่านจดหมายจนจบ ก็พูดกับเซียวอวี้ด้วยสีหน้าจริงจัง“ทางแคว้นซีหนีว์สงสัยว่าหลิวอิ๋งไม่ใช่ซู่ยวนตัวจริง”ผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้ เซียวอวี้กับนางไม่แปลกใจซักนิดหลายวันก่อนหน้านี้นางได้รับภาพเหมือนของคนตระกูลหลิวมาแล้วตงฟางซื่ออาศัยคำบรรยายของแต่ละฝ่าย วาดภาพเหมือนของสามีภรรยาสกุลหลิว รวมทั้งบุตรชายคนเล็กที่ตายไปแล้วออกมาเฟิ่งจิ่วเหยียนเคยพิจารณาอย่างละเอียดมาก่อน และดูออกว่าหลิวอิ๋งกับน้องชายผู้นั้น หน้าตาเหมือนพ่อและแม่อยู่หลายส่วนมีเพียงท่านแม่ของนางเท่านั้น ที่หน้าตาไม่เหมือนคนตระกูลหลิวทว่าการอาศัยเพียงจุดนี้จุดเดียว ยากที่จะเป็นหลักฐานได้ถึงอย่างไรอายุของหลิวอิ๋ง ก็ตรงกับซู่ยวนพอดีจะต้องมีเรื่องที่ถูกปิดบังอยู่เป็นแน่เฟิ่งจิ่วเหยียนเก็บจดหมายขึ้น ทอดมองไปไกลด้วยสายตาเย็นชา......ณ แคว้นซีหนี่ว์ภายในพระราชวังเจิ้งจีเดินเล่นในวังจนครบรอบหนึ่งแล้วพูดกับมารดาเป็นการส่วนตัวว่า“ท่านแม่ พวกเขาล้วนพูดกันว่าท่านประมุขจะให้ท่านสืบทอดตำแหน่งต่อ!”หลิวอิ๋งไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อยเรื่องนี้นางรู้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 996

    เมืองหลวงแคว้นหนานฉีณ จวนตระกูลเฟิ่งอี๋เหนียงหลินร้องไห้จนแทบขาดใจ น้ำมูกน้ำตาไหลพราก“ลูกเอ๋ย ลูกรักของแม่ เจ้ามีจุดจบเช่นนี้ได้อย่างไรกัน...”ขณะที่นางกำลังร้องไห้ เฟิ่งหมิงเซวียนที่อยู่ข้าง ๆ ก็ถามขึ้นว่า“ท่านแม่ ข้าไม่ได้ตายเสียหน่อย ท่านร้องไห้ทำไมกัน?”อี๋เหนียงหลินจิ้มหน้าผากของเขาด้วยความโมโห “เจ้าจะออกจากตระกูลเฟิ่งไปแต่งกับแม่นางหอนางโลม เจ้า...เจ้าตายไปยังดีเสียกว่า!”เฟิ่งหมิงเซวียนเองก็ทุกข์ใจมากเช่นกันทว่าเรื่องก็มาถึงจุดนี้แล้ว เขาเองก็ไม่อาจขัดขืนได้ถึงอย่างไรอิงเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ลูกของเขาแล้ว เขาจะเป็นพ่อคนแล้ว พอคิดเช่นนี้ ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องร้ายไปซะหมดต่อให้ภายนอกเขาไม่ใช่คนตระกูลเฟิ่งแล้ว ทว่าเขามีสายเลือดตระกูลเฟิ่งไหลเวียนอยู่ หากอนาคตเขาต้องการความช่วยเหลือ ท่านพ่อและพี่ใหญ่ไม่มีทางนิ่งเฉยเป็นแน่เฟิ่งหมิงเซวียนพูดโน้มน้าวตัวเองเรียบร้อยยามนี้เขาต้องพูดโน้มน้าวท่านแม่ ให้นางยอมรับความจริงให้ได้อี๋เหนียงหลินร้องไห้ไม่หยุด และไม่ฟังที่เขาพูดในหัวของนางคิดเพียงว่า ทำไมตนไม่ตายไปให้รู้แล้วรู้รอดก่อนที่ท่านพี่จะไปยังกำชับนางว่าให้ดูแลเรือนในและบ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 997

    เมื่อตระหนักได้ว่าตนเริ่มผิดปกติอีกครั้ง รุ่ยอ๋องก็หันกายจากไปหร่วนฝูอวี้จงใจเรียกเขาเอาไว้“ท่านอ๋องเพคะ ~อย่าไป”สีหน้ารุ่ยอ๋องมืดครึ้มสตรีนางนี้ ช่างไร้ยางอายเสียจริง!เขาจะต้องเอากู่เสน่ห์นี่ออกไปให้ได้!......ณ จวนพลทหารนายหญิงเฟิ่งกลับมาจากจางโจวแล้วนึกไม่ถึงเลยว่าสองเดือนที่นางจากเมืองหลวงไป จะเกิดเรื่องมากมายเพียงนี้เดิมนายหญิงเฟิ่งคิดว่า อาอิ๋งจะแต่งให้กับเฟิ่งหลินได้อย่างราบรื่นใครเล่าจะรู้ว่าจิ่วเหยียน เด็กคนนี้จะหัวรั้นเช่นนี้ จะต้องสอดมือเข้าไปยุ่งให้ได้ตระกูลเฟิ่งถอนหมั้น อาอิ๋งก็หายตัวไป“อาอิ๋งไปอยู่ที่ไหนกันแน่? ฮองเฮาเล่า? ข้าจะเข้าเฝ้าฮองเฮาได้อย่างไร?”สะใภ้โจวซื่อประคองนางให้นั่งลง แล้วบอกนางอย่างอดทนว่า“ท่านแม่ ท่านอย่าได้รีบร้อนไป ท่านน้าจะต้องกลับเจียงโจวอย่างปลอดภัยแล้วเป็นแน่ ฮองเฮาทรงเสด็จออกไปท่องเที่ยวที่เมืองต่าง ๆ กับฝ่าบาทแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะเสด็จกลับมาเมื่อใด“อีกซักครู่พอท่านพี่ออกเวรกลับมาที่จวนแล้ว ท่านค่อยคุยกับเขาอย่างละเอียดนะเจ้าคะ”ยามเย็น เฟิ่งเหยียนเฉินกลับมาถึงจวนนายหญิงเฟิ่งร้อนใจดั่งไฟสุม ขมวดคิ้วด้วยความกังวล“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 998

    ณ แคว้นซีหนี่ว์หลายวันมานี้มีหมอเทวดาท่านหนึ่งมา ด้วยการรักษาของเขา อาการป่วยของประมุขแคว้นเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นคนล้วนพูดกันว่าเรื่องน่ายินดีทำให้จิตใจเบิกบาน พอท่านประมุขแคว้นหาใต้เท้าซู่ยวนผู้เป็นน้องสาวพบ อาการป่วยก็ดีขึ้นภายในห้องโถงด้านข้างสีหน้าของหลิวอิ๋งดูดำมืดอย่างยิ่งเดิมคิดว่าประมุขแคว้นนี่ใกล้จะตายแล้วนึกไม่ถึงว่าจู่ ๆ จะอาการดีขึ้นเช่นนี้!หมอสมควรตายนี่โผล่มาจากที่ใดกัน!ยามนี้ดูไปแล้ว ประมุขแคว้นนั่นคงจะไม่ตายในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้แล้วในเมื่อเป็นเช่นนี้ เมื่อไหร่จะถึงคราวที่นางได้เป็นประมุขแคว้นล่ะ?ความทะเยอทะยานในดวงตาของหลิวอิ๋งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆไม่ได้!นางจะรอแบบนี้ต่อไปไม่ได้ นางต้องทำอะไรซักอย่างหลิวอิ๋งลุกขึ้นยืนทันที แล้วไปขอเข้าเฝ้าประมุขแคว้นภายในตำหนักบรรทมประมุขแคว้นเพิ่งจะดื่มยาเสร็จหลิวอิ๋งเดินเข้าไปด้านหน้าแท่นบรรทม แล้วโค้งกายคารวะ“ท่านพี่”ประมุขแคว้นเงยหน้าขึ้นมองนาง แววตาแฝงด้วยรอยยิ้มและความอ่อนโยน“ซู่ยวน เจ้ามาแล้วหรือ ทำไม มีเรื่องอะไรหรือ?”สาวใช้ยกเก้าอี้กลมเข้ามา หลิวอิ๋งนั่งลงอย่างเป็นธรรมชาตินางเริ่มพูดอย่า

Bab terbaru

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1186

    หนานฉีทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน มิใช่การกระทำที่ชาญฉลาดสงครามที่แคว้นต่าง ๆ ล้อมโจมตีหนานฉี ต้องสูญเสียกำลังทหารจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายต่างจำเป็นต้องพักฟื้นและฟื้นฟูเป่ยเยี่ยนกล้าเคลื่อนทัพไปทางใต้ เป็นเพราะไม่มีอุปสรรค สามารถยึดครองแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้โดยไม่สูญเสียกำลังทหารแม้แต่นายเดียวแม้ว่าหนานฉีจะไม่พอใจเป่ยเยี่ยนมากเพียงใด ก็ไม่อาจประกาศสงครามโดยไม่ไตร่ตรองถึงแม้คืนที่ผ่านมารุ่ยอ๋องจะหลับไม่เต็มที่ สมองก็ยังคงตื่นอยู่เขาคัดค้านการส่งกองทัพออกไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยนอย่างเด็ดขาดแม่ทัพอาวุโสหลี่ไม่พอใจ“ท่านอ๋อง ขอบังอาจถามว่าตอนนี้ฮ่องเต้ทรงประทับอยู่ที่ใด?”รุ่ยอ๋องมีท่าทีลังเล เรื่องเช่นนี้ คงต้องมอบให้ฮ่องเต้ตัดสินพระทัยในที่ประชุม รุ่ยอ๋องเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน“ท่านแม่ทัพอาวุโสหลี่ ข้ารู้ว่าท่านปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อต้านเป่ยเยี่ยน ทว่าเรื่องนี้สุดท้ายแล้วมิใช่หนานฉีควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว“การส่งกองทัพไปช่วยแคว้นซีหนี่ว์เพื่อขัดขวางแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง เป็นเพราะเรากับแคว้นซีหนี่ว์เป็นพันธมิตรกัน หากส่งกองทัพไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน พวกเราจะใช้เหตุผลใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1185

    หร่วนฝูอวี้สวมอาภรณ์ผ้าโปร่งบางเบา เดินออกมาจากด้านหลังฉากกั้นทันทีรุ่ยอ๋องจ้องมองนางตาไม่กะพริบ เหงื่อในฝ่ามือก็ยิ่งออกมาก“ข้า ข้ายังมีเอกสารทางการ...”เขาไม่มีประสบการณ์เลย จำต้องดูจากสมุดภาพทว่าคำพูดนี้ เขาไม่อาจเอ่ยออกมาได้ดวงตาของหร่วนฝูอวี้หรี่ลงทันที สายตาราวกับสัตว์ป่าที่ออกล่าเหยื่อ“เอกสารทางการ? ข้าว่า เจ้าคงคิดจะหนีกระมัง!”นางก้าวเท้ายาวมาข้างหน้า พร้อมกับข่มขู่: “มาถึงสถานที่ของข้าแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะออกไปได้!”พูดจบ นางก็ตรงไปแบกคนขึ้นมาทันทีรุ่ยอ๋องไม่คาดคิดเลยว่า จะเป็นเหตุการณ์เช่นนี้!ศีรษะของเขาคว่ำลง เมื่อเลือดสูบเข้า ก็มีแต่ความว่างเปล่าไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้?อย่างน้อยเขาก็เป็นบุรุษ!ตึง!หร่วนฝูอวี้โยนเขาลงบนเตียง ไม่ทะนุถนอมแม้แต่น้อยจากนั้นด้วยความรวดเร็วและง่ายดาย นางก็ถอดเข็มขัดบนตัวของรุ่ยอ๋องออกมาในที่สุดรุ่ยอ๋องก็ได้สติกลับมา รีบคว้าปกคอเสื้อของตนเองไว้“เจ้าช้าก่อน...”นางร้อนใจจนไม่อาจทนไหว!หร่วนฝูอวี้นั่งอยู่บนเอวของเขา กดมือทั้งสองข้างของเขาวางไว้ข้างศีรษะทั้งสองด้านมองเห็นบุรุษที่ยามปกติมีระเบียบแบบแผน เยือกเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1184

    “เจ้าคิดจะ...มีลูกกับข้า?” คิ้วของรุ่ยอ๋องขมวดปมแน่น จ้องมองหร่วนฝูอวี้ที่อยู่ตรงหน้า ดูเหมือนจะทำตัวไม่ถูกเหตุใดจู่ ๆ นางถึงมีความคิดเช่นนี้ได้?เพียงเพื่อจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับฮองเฮาหรือ? หร่วนฝูอวี้ยังคงจับปกเสื้อของเขาอยู่ พร้อมกับมองสำรวจเขาด้วยท่าทางของผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า“พวกเราเป็นสามีภรรยากัน มีลูกแล้วจะอย่างไร?“เจ้ายังจะเรื่องมากอีกรึ?”รุ่ยอ๋องส่ายศีรษะอย่างแข็งเกร็ง“ข้าเพียงรู้สึกว่า...”นี่ไม่ปกติเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีคนขัดขวางการกระทำที่ขาดสติของหร่วนฝูอวี้ได้นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่า การจะมีลูกนั้น มีความหมายอย่างไร“ข้าไม่ใช่คนใจง่ายเช่นนั้น” รุ่ยอ๋องผลักนางออกไปโดยแสร้งทำเป็นสุขุมเยือกเย็น พร้อมกับหันหลังให้นาง สายตามองไปยังที่ไกล ๆ“ใจง่ายรึ?” หร่วนฝูอวี้หัวเราะด้วยความโมโห เช่นนั้นก็เท่ากับว่านางเป็นคนใจง่ายรึ?บุรุษสุนัขผู้นี้ ปากช่างร้ายกาจนัก!“ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะไปหาคนอื่น!”หร่วนฝูอวี้พูดได้ทำได้ รุ่ยอ๋องจึงรีบคว้าแขนของนางไว้“เจ้าเสียสติไปแล้วรึ?!”นางเป็นพระชายาของเขา จะมีสัมพันธ์กับชายอื่นได้อย่างไร?หร่วนฝูอวี้เกลียดท่าทางลั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1183

    ด้านนอกห้องทรงพระอักษรเซียวอวี้ยืนอยู่ด้วยสีหน้าคร่ำเคร่งได้ยินว่าเสนาบดีที่ช่วยปกครองเหล่านี้ต้องการทำตามโอวหยางเหลียน ใช้ความตายมาข่มขู่จิ่วเหยียนวิธีนี้ช่างชั่วร้ายยิ่งนักจนกระทั่งตอนที่เห็นพวกนางเดินออกมา และไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย เซียวอวี้ถึงค่อยโล่งใจเหล่าเสนาบดีทำเป็นมองไม่เห็นเขา มีเพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่มองเขาด้วยแววตาที่แฝงความรู้สึกซับซ้อนฮ่องเต้ฉีเสด็จมาที่แคว้นซีหนี่ว์ด้วยพระองค์เอง คิดดูแล้วก็คงกังวลพระทัยว่าประมุขแคว้นจะทรงหวั่นไหว ไม่เสด็จกลับไปหนานฉีอีกเห็นได้ชัดว่า พวกเขาเป็นเช่นเดียวกัน ไม่อาจคาดเดาจิตใจของประมุขแคว้นได้ช่างน่าเศร้าจริง ๆเมื่อเปรียบเทียบเช่นนี้ หูย่วนเอ๋อร์ก็รู้สึกสบายใจโดยไม่รู้ตัวยิ่งไปกว่านั้นคำพูดแต่ละคำของประมุขแคว้นนั้นมีความหมายอันลึกซึ้ง สิ่งที่พวกนางพยายามจะรักษาไว้ อย่างมากเพียงชั่วชีวิตเดียวนี่เหมือนกับการที่หมอรักษาโรค รักษาที่ปลายเหตุมิได้รักษาที่ต้นเหตุเมื่อครู่ประมุขแคว้นเอ่ยกับพวกนางมากมาย ทำให้พวกนางเข้าใจว่า ต้นเหตุที่แคว้นซีหนี่ว์ไม่อาจสร้างความยิ่งใหญ่ได้ ก็คือ “บาดแผลภายใน”การกดขี่บุรุษภายในแคว้นมากเกินไป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1182

    เสนาบดีที่ช่วยปกครองต่างก็เป็นคนสนิทของอดีตประมุข แต่ละคนล้วนเป็นเสาหลักสำคัญของราชสำนักพวกนางยืนอยู่นอกห้องทรงพระอักษร ถึงอายุจะต่างกัน ทว่าล้วนมีความจงรักภักดีและกล้าหาญ“พวกหม่อมฉันขอเข้าเฝ้าประมุขแคว้น!”เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรในห้องทรงพระอักษร ด้วยสายตาที่แน่วแน่นางจ้องมองเงาร่างของแต่ละคนที่อยู่ด้านนอกตำหนัก ความแน่วแน่ในดวงตาเจือความหม่นหมอง“ให้พวกนางเข้ามา”ไม่นาน เหล่าเสนาบดีก็ทยอยกันเข้ามาด้านใน หูย่วนเอ๋อร์ที่บาดเจ็บหนักนอนอยู่บนแคร่หามนั้นเห็นเด่นชัดที่สุดเฟิ่งจิ่วเหยียนวางฎีกาที่อยู่ในมือลง กวาดตามองพวกนางแวบหนึ่ง“ต้องการจะพูดสิ่งใด?”“ท่านประมุขแคว้น พวกหม่อมฉันทราบแล้ว เหตุใดใต้เท้าโอวหยางถึงสิ้นใจ” ลมหายใจของหูย่วนเอ๋อร์สงบนิ่ง ทว่ามองเห็นบาดแผลภายในไม่รุนแรงเสนาบดีคนอื่น ๆ จึงเอ่ยต่อ“ใต้เท้าโอวหยางทำเพื่อความมั่นคงของแผ่นดินแคว้นซีหนี่ว์ นางอาศัยความตาย ขอร้องให้ประมุขแคว้นทรงอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ต่อไป!”สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูสงบนิ่ง มิได้เอ่ยขัดจังหวะคำพูดของพวกนางหูย่วนเอ๋อร์ลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก หันไปโน้มศีรษะให้เฟิ่งจิ่วเห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1181

    การตายของโอวหยางเหลียน สำหรับหูย่วนเอ๋อแล้ว เป็นการสูญเสียที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง ในบรรดาขุนนางใหญ่ของราชสำนัก พวกนางทั้งสองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันที่สุด ที่สำคัญกว่านั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป หูย่วนเอ๋อร์มิได้เตรียมใจไว้เลย สาวใช้ตอบอย่างระมัดระวัง “บ่าวรู้เพียงว่า ใต้เท้าโอวหยางกินยาพิษฆ่าตัวตายเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์ไม่เชื่อ ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ไฉนใต้เท้าโอวหยางกลับมาฆ่าตัวตาย? “ต้องมีคนวางแผนสังหารนางเป็นแน่! เรื่องนี้ ท่านประมุขแคว้นทราบหรือไม่!” สาวใช้ผงกศีรษะ “ตอนที่ใต้เท้าโอวหยางเกิดเรื่อง ท่านประมุขแคว้นก็อยู่ที่จวนโอวหยางเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์มีน้ำตาคลอหน่วย รู้สึกเสียใจที่ตนเองบาดเจ็บ จึงไม่สามารถออกไปสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง การตายของโอวหยางเหลียน มิใช่เพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่ตกตะลึงสงสัย ยังสร้างความวุ่นวายในราชสำนักด้วย ในการประชุมราชสำนักวันรุ่งขึ้น หัวข้อที่เหล่าขุนนางเอ่ยถึง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของโอวหยางเหลียน เสนาบดีสามรัชสมัยผู้นี้ ไม่มีผลงานอะไรยิ่งใหญ่แต่ก็ทำงานอย่างหนักหน่วง ควรได้รับการเชิดชูหลังสิ้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1180

    เมื่อหมอหลวงมาถึง โอวหยางเหลียนก็เสียชีวิตจากพิษแล้ว เหล่าคนรับใช้ในจวนต่างคุกเข่าลงกับพื้น ส่งเสียงร้องไห้ดังระงมไม่ขาดสาย “ใต้เท้า——” สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนจดจ้องไปบนเตียง ที่มีโอวหยางเหลียนนอนอยู่บนนั้น ที่จากไปอย่างเด็ดเดี่ยว ยอมตายเพื่อตักเตือน โอวหยางเหลียนทำเช่นนี้ ทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องรับภาระที่หนักหน่วง “ฝังศพอย่างสมเกียรติ” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยสั้น ๆ จบ พลันลุกขึ้นและเดินออกไป เสียงร้องไห้ทางด้านหลังนั้น ราวกับลอยเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของนาง เซียวอวี้ยืนอยู่ที่ข้างประตู ยื่นมือให้นางจับไว้อย่างมั่นคง การตายของโอวหยางเหลียน เปรียบเหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถูกโยนลงทะเลสาบ สร้างแรงกระเพื่อม แต่ก็สงบลงในที่สุด เขาหาได้สนใจความเป็นหรือตายของโอวหยางเหลียนไม่ สนใจเพียงสุขภาพของจิ่วเหยียนเท่านั้น สีหน้าของนางดูมิสู้ดีเลย “กลับวังก่อนเถิด” เขาตัดสินใจแทนนาง ในรถม้า เฟิ่งจิ่วเหยียนเงียบจนน่าใจหาย เซียวอวี้ไม่ได้รบกวนนาง เพียงอยู่เคียงข้างนาง และคอยเป็นที่พึ่งพิงให้นางเสมอ หลังจากกลับมาถึงวัง คนทั้งสองนั่งอยู่ข้างเตียง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1179

    โอวหยางเหลียนมองเห็นความหวั่นไหวในใจของเฟิ่งจิ่วเหยียน นี่คือสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น “ตั้งแต่เยาว์วัยท่านก็แตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปในหนานฉี “ท่านกำเนิดมาเพื่อแคว้นซีหนี่ว์เพคะ “ท่านก็คงจะคิดด้วยว่า หนานฉีกดขี่สตรีที่มีความสามารถเกินไป “แต่ท่านมิอาจเปลี่ยนแปลงมันได้ “ท่านประมุขแคว้น ท่านเคยคิดหรือไม่ หากท่านให้กำเนิดองค์หญิงรัชทายาท ในแคว้นซีหนี่ว์แห่งนี้ นางจะกลายเป็นประมุขแคว้น ทว่าในหนานฉี นางจะเป็นเพียงองค์หญิง แม้จะได้รับความโปรดปราน แต่ไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมของการช่วยเหลือสามีและดูแลบุตรได้ “ในหนานฉี ผู้หญิงทุกคนไม่สามารถเป็นแม่ทัพหญิงเช่นท่านได้ ฮ่องเต้ฉีองค์ปัจจุบันหลักแหลมกว่าใครอย่างมิต้องสงสัย แต่ทายาทรุ่นหลังเล่า? ท่านประมุขแคว้น ท่านไม่คิดเพื่อตัวเอง ก็ต้องคิดถึงลูก ๆ ของท่านด้วยเพคะ!” เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้ตกอยู่ในกับดักชั่วร้ายที่โอวหยางเหลียนสร้างขึ้น ใบหน้าของนางแน่วแน่ “สิ่งที่เจ้าพูด ล้วนอ้างแต่มุมมองของผู้หญิง “ลองคิดอีกมุม หากเราให้กำเนิดองค์ชาย สถานการณ์ของเขาในแคว้นซีหนี่ว์ ก็ไม่ต่างกับสถานการณ์ขององค์หญิงในหนานฉี”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1178

    หูย่วนเอ๋อร์ถูกลอบสังหาร โอวหยางเหลียนจึงเสนอให้เซียวอวี้เป็นผู้นำทัพ นี่ยิ่งทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนเกิดความสงสัยอย่างเลี่ยงมิได้ นางหันกลับไปมองที่โอวหยางเหลียน “เราคิดว่า เจ้าเหมาะที่จะปกป้องเมืองมากกว่าพระสวามี” มีความแปลกประหลาดในแววตาของโอวหยางเหลียน “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยินดีจะไปเพคะ!” นางรับคำสั่งอย่างง่ายดาย หาได้มีพิรุธไม่ เฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้ต้องการให้โอวหยางเหลียนเป็นผู้นำทัพจริง ๆ ดวงตาของนางมืดมน กล่าวอย่างสื่อความนัย “ท่านป้าอายุมากแล้ว จะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร “เมื่อผ่านพ้นวันเกิดปีที่แปดสิบแล้ว มิลองเกษียณแล้วกลับบ้านเกิด มีชีวิตบั้นปลายที่ดีเล่า” ตามกฎระเบียบของแคว้นซีหนี่ว์ เมื่อขุนนางมีอายุครบเจ็ดสิบห้าปี ก็สมควรเกษียณและกลับบ้านเกิด ม่านตาของโอวหยางเหลียนเบิกกว้าง “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยังทำได้...” เฟิ่งจิ่วเหยียนลดเสียงลง “นี่คือเกียรติยศสุดท้ายที่เราจะมอบให้ท่าน” ทั้งเรื่องซูถงและการลอบสังหารหูย่วนเอ๋อร์คืนนี้ หากจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับโอวหยางเหลียน นางหาได้เชื่อไม่ นางได้จัดสาย

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status