แชร์

บทที่ 911

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
ข้างนอกเมืองเซวียน ลมเย็นหนาวเหน็บ เหล่าทหารหนานฉีนับแสนถืออาวุธต่าง ๆ ในมือ พร้อมร้องเพลงของทหาร

เสียงนั้นกึกก้องดังสนั่นทั่วเมืองเซวียน ราวกับสัตว์ร้ายยักษ์ถูกกักขัง อดใจรอไม่ไหวที่จะหลุดออกจากกรง ส่งเสียงคำรามกึกก้อง แผ่นดินเมืองเซวียนถึงกับสั่นสะเทือน

เฟิ่งจิ่วเหยียนขี่ม้าศึก ภายใต้ชุดเกราะ ร่างกายเปี่ยมไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่

นางมองกำแพงเมืองตรงหน้าอย่างเยือกเย็น

กลกลอนปิดตายของประตูได้ทำงาน คนที่อยู่ข้างใน ใครก็ล้วนหนีไม่พ้น...

บนหอประตูเมือง

ซ่านชุนจมอยู่ในความตกตะลึง เป็นเวลานานจึงได้สติกลับมา

สีหน้ารองขุนพลด้านข้างเขา ต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน

“ท่านแม่ทัพ นั่นล้วนเป็นกองทัพตงจิ้ง เหตุใดพวกเขาถึง...มาปรากฏในเมืองเซวียน? !”

หรือว่าบินมา?

ฮ่องเต้เยี่ยนได้ยินว่าข้างนอกมีกองทัพตงจิ้ง ก็กราดเกรี้ยวทันที ยกมือคว้าจับคอเสื้อซ่านชุน เอ่ยถามอย่างโกรธจัด

“เจ้าบอกว่า กองทัพตงจิ้งถูกขังอยู่ในกานโจว ออกมาไม่ได้ไม่ใช่หรือ!

“เกิดอะไรขึ้นกับคนพวกนี้!

“ซ่านชุน นี่คือผลงานของเจ้า! !”

ซ่านชุนใจคอไม่ดี พูดอะไรไม่ออกในทันที

กองทัพพันธมิตรเผ่าสุยเหอที่อยู่ข้างหลัง ฉวยโอกาสซ้ำเติม หัวเราะเย้ย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 912

    ใครเป็นคนลงกลอนประตูเมือง?เห็นได้ชัดว่า ไม่ใช่การกระทำของคนของพวกเขาเองซึ่งก็หมายความว่า ท่ามกลางพวกเขา มีไส้ศึกของทหารหนานฉีปะปนอยู่!พวกกองทัพพันธมิตร รู้สึกเย็นวาบไปทั้งแผ่นหลัง!หลังจากตกตะลึง ก็ต่างสงสัยกันขึ้นมาเผ่าสุยเหอตำหนิแคว้นต้าเซี่ย ที่นำกองทัพพันธมิตรตงปู้“ไส้ศึกคนนั้นจะต้องซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า! มีเพียงพวกเจ้าที่ได้ต่อสู้กับกองทัพตงจิ้ง! พวกเราล้วนไม่ได้ผ่านทางชายแดนใต้”ซ่านชุนรีบโต้กลับ “กองทัพพันธมิตรเป่ยเยี่ยน ก็ได้รับมือกับทหารหนานฉีเหมือนกัน อีกทั้ง แม้ว่าพวกเจ้ามาจากทางทิศใต้ ก็อาจมีไส้ศึกปะปนอยู่ได้ เป็นที่น่าสงสัยเหมือนกัน!”เวลานี้ฮ่องเต้เยี่ยนกลับใจเย็นลงเขาขัดจังหวะการถกเถียงของพวกเขา“มิต้องทะเลาะกันแล้ว! ทะเลาะกันจนเราปวดศีรษะ!“ไม่ว่าไส้ศึกจะอยู่ที่ใด สิ่งที่เร่งด่วนในตอนนี้คือต่อต้านศัตรู!“กลไกประตูเมืองเซวียนลงกลอนแล้ว พวกเราออกไปไม่ได้ ทหารหนานฉีก็โจมตีเข้ามาไม่ได้ จะต้องกลัวอันใด!”คำพูดนี้ฟังดูมีเหตุผล กลับอดคิดอย่างละเอียดไม่ได้ซ่านชุนมีประสบการณ์ทำศึกอยู่บ้าง จึงถามกลับ“ฮ่องเต้เยี่ยน คงมิใช่ว่าจนถึงตอนนี้แล้วท่านยังไม่ตระ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 913

    เสียงร้อง “มีผี” ทำให้ทหารเวรยามดึกตกใจขนลุกขึ้นมาเห็นเพียง ในเมืองเซวียน เดิมพื้นที่ว่างเปล่าอันกว้างใหญ่ ปรากฏทหารจำนวนมาก!ทหารเหล่านั้นสวมเสื้อเกราะแคว้นหนานฉี ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงภายใต้เสียงฟ้าร้อง ไฟผีสีเขียวพวยพุ่งออกมาตามร่างกายบนกำแพงเมือง มีคนกรีดร้องขึ้นมาอย่างตกใจ“ทหารวิญญาณ! เป็นทหารวิญญาณ! !”ข่าวลือเกี่ยวกับทหารวิญญาณยืมเส้นทาง แต่ละแคว้นล้วนเคยได้ยินแม้นมีคำกล่าวว่า หากมิกระทำเรื่องละอายใจ ก็ไม่ต้องกลัวผีมาเคาะประตูกลางคืนความจริงแล้ว นอกจากพวกที่กระทำเรื่องละอายใจ คนขี้ขลาดก็กลัวผีบนโลกนี้ คนขี้ขลาดมีจำนวนมากกว่าเห็นทหารวิญญาณยืมเส้นทาง เหล่าทหารเฝ้าเวรยามดึกสั่นเทา คนที่กล้าหาญรีบไปรายงานแม่ทัพทหารวิญญาณมากมายขนาดนั้น แต่ละคนสีหน้าขาวซีด เห็นแล้วทำให้คนขนลุกหลังจากซ่านชุนได้ยินเรื่องนี้ ก็รีบสวมเสื้อเกราะ ออกไปตรวจดูสถานการณ์เขาก็ไม่เคยเห็นทหารวิญญาณด้วยตาตนเองเมื่อเห็นทหารหนานฉี ที่เดินอยู่อย่างประหลาดเหล่านั้น ชายร่างโตแท้ ก็ตกใจจนสีหน้าขาวซีดเขาพยายามสงบสติอารมณ์ สั่งการทหารภายใต้บังคับบัญชา“ทุกคนหันหน้าไป หลับตา ไม่ต้องมองพวกเขา!”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 914

    มือซ่านชุนสั่นเทา“อะไรนะ? ฆ่าคน?”สีหน้าทหารผู้น้อยคนนั้นขาวซีด คุกเข่าอยู่บนพื้น ชี้ไปทางด้านนอก พูดกับซ่านชุน“หลังจากทหารวิญญาณเหล่านั้นผ่านแดนไปแล้ว ได้ฆ่าคนของพวกเราไปหลายสิบคน พวกเขาตายอย่างอนาถ น่ากลัวมาก...แม่ทัพ เช่นนี้จะทำอย่างไรดี!”ซ่านชุนอึ้งตะลึงจะทำอย่างไรดี?เขาก็อยากรู้ว่าจะทำอย่างไรดี!เขาทำศึกต่อสู้กับคนมากว่าครึ่งชีวิต ล้วนต่อสู้กับคน เป็นครั้งแรกที่จะต่อสู้กับผีจวนจู้กั๋วกงองครักษ์พุ่งเข้ามาถึงในห้องหลัก“ฝ่าบาท! ทหารวิญญาณฆ่าคนแล้ว!”ฮ่องเต้เยี่ยนลุกขึ้นนั่ง ได้ยินว่าทหารวิญญาณฆ่าคน เขาตาแดงขึ้นมาทันที“เราบอกแล้ว! ผีขวางฆ่าผี! ฆ่าทหารวิญญาณเหล่านั้นให้หมด!”ฮ่องเต้เยี่ยนบ้าคลั่ง ทุกคนล้วนรู้ดีทว่าคิดไม่ถึง เขาบ้าถึงขั้นจะต่อสู้กับผีองครักษ์เรียนตอบ“ฝ่าบาท นั่นคือทหารวิญญาณ ปรากฏตัวออกมาให้เห็น แล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พวกเราจับตัวไม่ได้ พวกเขาฆ่าทหารเวรยามหน่วยเล็กของพวกเราหนึ่งหน่วย พริบตาเดียวก็ไม่เห็นร่องรอยแล้ว ไม่รู้ว่าจะลงมืออย่างไร!”แววตาฮ่องเต้เยี่ยนเยือกเย็นหรือเมืองเซวียนนี้ มีผีจริง ๆ ?ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิด มือลูบตรงเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 915

    หัวใจทหารเสริมของแคว้นต้าเซี่ยรู้สึกหวาดกลัวเมื่อคิดดูอีกที ถึงแม้ทหารหนานฉีมีศิลาหยก ทว่าฮ่องเต้ฉีมีกำลังทหารม้าเพียงกลุ่มเล็ก คิดอยากต่อสู้กับกองทัพแสนคนของพวกเขา? เหิมเกริมเกินไปหรือไม่!หลังจากนั้น ภาพที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้พวกเขายากที่จะลืมไปตลอดชีวิตเห็นเพียงทั่วทั้งพื้นดินแยกออก กองกำลังทหารเป็นหมื่น ๆ พัน ๆ จากทั่วสี่ทิศปรากฏตัวออกมาพวกเขาถูกล้อมแล้ว!ผู้นำทัพของแคว้นต้าเซี่ยตกตะลึงทหารที่อยู่ด้านหลังจับอาวุธไว้แน่น “แม่ทัพ! มีทหารซุ่มโจมตี!”สายตาเซียวอวี้เยือกเย็น ราวกับวิญญาณน้ำค้างแข็งหนาวเหน็บ ไม่มีความสงสารเลยสักนิด“ผู้ที่ยอมจำนน จะไม่ถูกฆ่า”ทหารแคว้นต้าเซี่ยเตรียมหน้าไม้ ก่อตัวเป็นค่ายกลผู้นำทัพตะโกนขึ้นมา“ปฏิญาณตนไม่ยอมจำนน ฆ่าทหารหนานฉีให้สิ้น...”ท่าทีเซียวอวี้เยือกเย็น โบกมือ ค่ายกลธนูไกลออกไปที่เตรียมไว้ตั้งแต่แรก ถูกยิงออกมาอย่างนับไม่ถ้วน...ส่วนอีกด้านทางเหนือของแคว้นหนานฉีกองทัพเยี่ยนแสนนาย ก็เผชิญการซุ่มโจมตีเมิ่งฉวีนำกองทัพเป่ยจิ้ง มาปรากฏอย่างไร้ร่องรอย ข้างกายยังมีศิลาหยกชิ้นหนึ่งทหารเป่ยเยี่ยนรู้จักเมิ่งฉวี รู้สึกตกตะลึงกองทัพเป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 916

    จนมาถึงเดือนสาม สภาพอากาศเริ่มอบอุ่น ดอกไม้นับพันบานสะพรั่งทหารเสริมแต่ละแคว้นเข้ามาในชายแดนแคว้นหนานฉี ถูกเซี่ยวอวี้นำทัพล้อมปราบ “ใยแมงมุม” อยู่ข้างใต้ คนอยู่ข้างบน ยากที่จะป้องกันเหล่าทหารแต่ละแคว้นไม่เคยเห็นกลยุทธ์การต่อสู้เช่นนี้มาก่อน กลไกกับดักที่ “รอคอย” ทหารหนานฉีก็เคลื่อนไหวลึกลับการยุทธ์หัวใจอยู่ที่รวดเร็วเซียวอวี้นำทัพด้วยพระองค์เอง ทำอันใดเด็ดขาดเฉียบคมทางด้านเมืองเซวียนกองทัพพันธมิตรไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับทหารเสริมของแคว้นตนเองพวกเขาถูกขังสามเดือนแล้ว เสบียงอาหารยิ่งอยู่ยิ่งน้อย ไม่สามารถที่จะเลี้ยงทหารมากมายขนาดนี้แล้วปล่อยแบบนี้ต่อไป ต่อให้หาเจอขุมทรัพย์เมืองเซวียน พวกเขาก็ไม่มีชีวิตได้เสพสุขช่วงเวลานี้ พวกเขาลองที่จะเปิดกลไกกลอนประตูเมืองอย่างไรก็ตาม จำนวนคนมากกว่าห้าแสนคน กลับไม่มีใครสามารถเปิดกลไกได้ซ่านชุนพาเหล่าทหาร ใช้ค้อน ใช้มีด คิดอยากฟันทำลายประตูเมืองทว่ากลไกผนังเหล็ก แข็งแกร่งคงกระพันจวนจู้กั๋วกงฮ่องเต้เยี่ยนเห็นกับข้าวบนโต๊ะ ก็วางตะเกียบลงอย่างแรงพับ!เขาถามขึ้นมา“แค่นี้หรือ? เนื้อล่ะ!”องครักษ์ตอบ “ฝ่าบาท เสบียงอาหารในค่ายไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 917

    ในตำหนักอ๋องแห่งหนานเจียงรุ่ยอ๋องถูกยกย่องให้เป็นแขกพิเศษอ๋องแห่งหนานเจียงยกจอกขึ้นมา พูดด้วยความปรารถนาดี“ข้ารู้อยู่แล้ว แคว้นหนานฉีมีแผนการใหญ่“รุ่ยอ๋อง ยามนี้แนวโน้มอิทธิพลแคว้นหนานฉีกำลังมาแรง ช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดือนเศษ ก็สามารถปราบกองกำลังเสริมได้เป็นแสนกว่า ช่างน่าชื่นชมยิ่งนัก!“คาดว่าไม่ช้า แคว้นหนานฉีก็จะสามารถขับไล่ทหารศัตรูไปได้หมดสิ้นแล้ว!”รุ่ยอ๋องไม่กระหยิ่มยิ้มย่อง เขาไม่ถือตัว ไม่หยิ่งผยอง“แคว้นหนานฉีสามารถทำลายล้างศัตรู มาจากความร่วมมือร่วมใจกัน“การศึกในตอนนี้ยังไม่แน่นอน ยังประมาทศัตรูไม่ได้”อ๋องแห่งหนานเจียงกับเสนาบดีมองตากันหลังจากนั้น เสนาบดีคนนั้นลุกขึ้นมา“รุ่ยอ๋อง แคว้นของท่านได้ชัยชนะอย่างต่อเนื่อง เมฆครึ้มผ่านไปมองเห็นท้องฟ้าสีครามแล้ว กองทัพพันธมิตรเผ่าสุยเหอข้างนอกหนานเจียง ก็ล้วนล่าถอยแล้ว ท่านเห็นว่าหนานเจียง ไม่จำเป็นต้องมีทหารของท่านคอยเฝ้าปกป้องแล้ว ใช่หรือไม่?”สายตารุ่ยอ๋องเปลี่ยนไปที่แท้ นี่ต่างหากที่เป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหนานเจียง...อยากให้กองทัพหนานฉีถอนกำลังออกจากหนานเจียงรุ่ยอ๋องยิ้มแย้มด้วยสีหน้าอ่อนโยน“ในเมื่อเป็น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 918

    เฟิ่งจิ่วเหยียนใช้เท้าเตะทหารศัตรูลงไป จากนั้นนำของที่อยู่ในมือโยนเข้าไป พร้อมเอ่ยถามหยิ่นเอ้อร์ที่อยู่ด้านข้างตอบสนองรวดเร็ว ใช้โล่ปิดปากหลุมไว้หลังจากนั้น ก็ได้ยินข้างใต้มีเสียงกรีดร้องขึ้นมาในช่องทางใต้ดินฮ่องเต้เยี่ยนมีองครักษ์คอยคุ้มกันทั้งข้างหน้าข้างหลัง เดินมาถึงครึ่งทาง ก็ได้ยินเสียงผิดปกติดังขึ้นข้างหน้าเขารู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ไม่ดี“เกิดอะไรขึ้น!”ทันใดนั้นก็มีคนตะโกนขึ้นมา “ตัวต่อ! มีตัวต่อ! รีบวิ่ง! !”ฮ่องเต้เยี่ยน: !ตัวต่อ?ในใต้ดิน ตัวต่อมาจากไหน!เขาไม่ทันได้ครุ่นคิด ก็ถูกองครักษ์คุ้มกันถอยหลังกลับเดิมเส้นทางก็คับแคบ คนที่อยู่ข้างหลังดันไปข้างหน้า อยากที่จะหนีออกไปจากเมืองเซวียนโดยเร็ว คนข้างหน้าเพื่อหลบเลี่ยงตัวต่อ ถอยหลังจากหน้าไปหลัง คนสองกลุ่มในช่องทางลับมาเจอกัน ผลักดันซึ่งกันและกันทันใดนั้น ทุกคนถูกตัวต่อต่อยไปทั้งตัว เสียงร้องเจ็บปวดดังกึกก้องรอพวกเขาถอยกลับมาถึงเมืองเซวียน สภาพแต่ละคนย่ำแย่ไม่เป็นท่าฮ่องเต้เยี่ยนมีองครักษ์คอยปกป้อง ไม่ถูกตัวต่อทำร้ายทว่าเขากลืนความขุ่นเคืองนี้ไม่ลง“สารเลว! ตัวต่อมาจากไหน!”มีคนที่รู้เรื่อง “เป็นทห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 919

    ได้เห็นว่า จักรพรรดิเปิดม่านกระโจม เงาร่างสูงน่าเกรงขามเห็นเซียวอวี้เวลานี้ นางประหลาดใจไม่น้อยเหตุใดเขามาถึงเมืองเซวียนรวดเร็วเช่นนี้?เซียวอวี้ยังไม่ได้ถอดชุดเกราะ ก้าวเท้ายาวไปข้างหน้า โอบกอดคนที่ยังตกอยู่ในอาการตะลึง“อย่างไร จำเราไม่ได้แล้วรึ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนได้สติกลับมา ก็ยกแขนโอบกอดเขา“ฝ่าบาททรงบัญชาการศึกด้วยพระองค์เอง ลำบากแล้วเพคะ”เซียวอวี้กอดนางแน่น วางคางไว้บนไหล่ของนาง ถูไถแผ่วเบา“ได้เจอเจ้า ก็ไม่รู้สึกลำบากแล้ว เป็นอย่างไร คืนนี้จะโจมตีเมืองรึ?”ต่อให้คิดถึง วันหลังยังมีโอกาสถามทุกข์สุขยามนี้การฆ่าศัตรูสำคัญที่สุดเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดอย่างจริงจัง “ใช่เพคะ ถึงเวลาแล้วเพคะ”แผนเดิมที่วางไว้ นางนำทหารมาปิดล้อมทหารศัตรูในเมืองเซวียน ตัดขาดการติดต่อสื่อสารกับข้างนอกของพวกเขาทั้งหมด หลอกลวงให้แต่ละแคว้นส่งกำลังทหารเสริม แล้วก็ให้ฝ่าบาทกับอาจารย์จัดการพวกเขา ใช้ประโยชน์จากค่ายกล “ใยแมงมุม” กำจัดทหารเสริมของแคว้นศัตรูหลังจากนี้ ค่อยกำจัดทหารศัตรูในเมืองเซวียน ทหารศัตรูเหล่านี้เพราะขาดแคลนเสบียง ถูกกักขัง ตกตะลึง ขัดแข้งขัดขาตัวเอง ถูกทรมานจนไม่เหลือศักยภาพด้ว

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 930

    ห้องชงชาในโรงพักแรมหมอทหารและลูกศิษย์ถูกพาเข้ามา ทำความเคารพฮ่องเต้บนพระที่นั่งหลักเซียวอวี้ล้างมืออย่างง่าย ๆ ใส่เสื้อคลุมสบาย ๆ แต่มิอาจปกปิดรังสีสูงส่งของฮ่องเต้ได้ ผมดำขลับมัดรวบด้วยผ้ายาวประดับมุขขาว คิ้วคมเด่นชัด ดูแข็งแรงกำยำ“ในเมื่อเป็นหมอทหาร เหตุใดไม่ตามกองทัพใหญ่ไป แต่กลับแอบหนีมาที่แห่งนี้?” เมื่อเผชิญกับคำซักถามของฮ่องเต้ หมอทหารก็อธิบายอย่างไม่เร่งรีบ“ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยได้รับคำสั่งในยามคับขัน หาใช่หมอทหารที่แท้จริงไม่”สิ้นคำกล่าว ก็มีคนเดินเข้ามาในห้องชงชา“ฝ่าบาท” ผู้มาคือเฟิ่งจิ่วเหยียนเมื่อเซียวอวี้เห็นนาง ก็รีบลุกขึ้น น้ำเสียงฟังดูตำหนิเล็กน้อย“ทำไมไม่นอนอีก?”เฟิ่งจิ่วเหยียนโค้งให้เขาเล็กน้อย จากนั้นก็นั่งลงพร้อมกับเขา แนะนำอาจารย์กับลูกศิษย์สองคนนั้นอย่างเป็นทางการ“เรื่องนี้หม่อมฉันเลินเล่อเอง ฝ่าบาท ตอนนั้นหม่อมฉันประสบภัยในภูเขาหิมะเทียนฉือ และได้รับการช่วยเหลือจากพวกเขา”สีหน้าของเซียวอวี้ผ่อนคลายลง ไม่ดุดันเหมือนก่อนหน้านี้เขารีบออกคำสั่ง“ที่แท้ก็เป็นสองคนนี้นี่เอง เชิญนั่ง”หมอเทวดาเฒ่ารีบโค้งคำนับ“มิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ข้าน้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 929   

    ณ จวนจู้กั๋วกง เมืองเซวียนองครักษ์เข้ามาในเรือนอย่างเร่งรีบ รายงานจู้กั๋วกงว่า“ใต้เท้า! กองทัพเยี่ยนจับฮ่องเต้เยี่ยน มุ่งหน้ามามอบตัว!”จู้กั๋วกงประหลาดใจเล็กน้อย“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ! ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใด?”จู้กั๋งกงรีบนำคนตรงไปที่นั่น จึงเห็นเพียง ฮ่องเต้เยี่ยนที่หิวจนผอมโซ ถูกกองทัพเยี่ยนจับมัดแขนมัดขา โยนทิ้งไว้บนพื้นกองทัพเยี่ยนถอดเสื้อเกราะออก คุกเข่าบนพื้น ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มขมขื่นอย่างเอาใจและประจบสอพลอ“ขอร้องพวกท่านล่ะ ให้อาหารข้ากินเถอะ…พวกข้ายอมแพ้แล้ว!”จู้กั๋วกงเหลือบมองฮ่องเต้เยี่ยนที่สลบบนพื้น จากนั้นก็ส่ายหน้าเกรงว่าฮ่องเต้เยี่ยนคงคาดคิดไม่ถึง ว่าตัวเองจะตกอยู่ในเงื้อมมือคนของตัวเองจิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึงจริง ๆจู้กั๋วกงออกคำสั่งเสียงแข็งกร้าว“จับพวกเขากลับไป คุมขังเอาไว้!”“รับทราบ!”ในคืนนั้น จู้กั๋วกงเขียนจดหมายด้วยตนเองหนึ่งฉบับ สั่งให้คนไปส่งให้ฝ่าบาทอย่างเร่งด่วนในเวลาเดียวกัน เซียวอวี้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงอยู่ระหว่างเดินทางกลับเมืองหลวงบนถนนที่พวกเขาเดินทางกลับ ล้วนมีประชาชนคอยต้อนรับตลอดทางคืนนี้ พวกเขาเข้าพักที่โรงพักแรม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 928     

    คำที่ผู้คุมโทษบอก ถานไถเหยี่ยนทำเป็นไม่สนใจดวงตาของเขามีเพียงใยแมงมุม สายตาว่างเปล่าทอดมองยาวไกล“สงครามข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง”ผู้คุมโทษถูกจ้างมาจัดการให้ ท่าทีจึงเคารพนอบน้อม“ฝ่าบาทเสด็จไปรบด้วยตัวเอง ปราบปรามกองทัพศัตรูในเมืองเซวียนได้แล้ว กองกำลังเสริมของแต่ละแคว้นก็ถูกจับไปเป็นเชลยหมด“ราชสำนักเกณฑ์ทหารทุกพื้นที่ เตรียมบุกโจมตีเป่ยเยี่ยนและแคว้นต้าเซี่ย คาดว่า แคว้นหนานฉีปลอดภัยแล้ว”สีหน้าของถานไถเหยี่ยนเฉยชา“เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับ ‘ใยแมงมุม’ หรือไม่”?ผู้คุมโทษนิ่งงันไปเล็กน้อย จากนั้นก็เรียกสติกลับมา“ท่านหมายถึงสนามกลไกของตระกูลตงฟางหรือ! ของสิ่งนั้นวิเศษมาก เผยแพร่ไปทั่วแคว้นหนานฉี ไม่ว่ากองทัพศัตรูจะปรากฏที่ไหน ก็จะถูกพวกเราขัดขวาง!”พูดถึงเรื่องนี้ ผู้คุมโทษก็รู้สึกมีเกียรติเขาหมกมุ่นอยู่กับการเล่าเรื่องราว จนไม่สังเกตเห็น ความเปลี่ยนแปลงของถานไถเหยี่ยน ภายในห้องขังถานไถเหยี่ยนหันมา เผชิญหน้ากับเขา ถามเสียงเข้มว่า“สนามกลไกของตระกูลตงฟาง?”ผู้คุมโทษพยักหน้าอย่างหนักแน่น“ใช่แล้ว! ตระกูลตงฟางนั่นแหละ! คุณชายตงฟางนำกองทัพใหญ่สร้างสนามกลไกขึ้นมา เพียงเส้นทา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 927

    เมืองเซวียนกองทัพศัตรูภายในเมือง นอกจากกองทัพเยี่ยนที่ถอยกองกำลังไปอยู่ภูเขาจิ่วเหลียน กองทัพอื่นล้วนถูกจับเป็นเชลยเชลยศึกถูกบังคับให้ถอดเสื้อเกราะ วางอาวุธลง ถึงจะถูกปล่อยออกไปจากเมืองเซวียนธนูแต่ละแบบของแคว้นต้าเซี่ย ล้วนถูกทิ้งไว้ในเมืองเซวียน เสียไปให้กองทัพแคว้นหนานฉีอย่างสูญเปล่าเดิมทีซ่านชุนอยากทำลายธนูเหล่านั้นทิ้งก่อนทว่า ยามที่พวกเขาวางอาวุธนั้น ต่างมีกองทัพแคว้นหนานฉียืนเฝ้าอยู่ข้าง ๆ ต่อให้เขาอยากเล่นตุกติก ก็ไม่มีโอกาสในสภาพอากาศหนาวเหน็บ เหล่าทหารกองทัพพันธมิตรออกไปจากเมืองเซวียนด้วยอาภรณ์ชิ้นบางเมื่อเห็นท่าทางหมดสภาพของกันและกัน ต่างคนต่างไม่ส่งเสียงออกมาซ่านชุนหันกลับไปมองเมืองเซวียน ปฏิญาณกับตัวเองว่า——เขาต้องได้นำกองทัพใหญ่โจมตีกลับอีก!หากไม่ใช่เพราะพวกเขาถูกลอบโจมตีโดยที่ไม่ได้เตรียมตัว  กินนอนก็ลำบาก กำลังทหารเบาบางลง  คงไม่แพ้จนมีสภาพน่าเวทนาขนาดนี้เหล่าเชลยศึกถูกส่งมายังค่ายทหาร ถูกควบคุมโดยแคว้นหนานฉีเข้าด้วยกันข้อดีของการถูกจับเป็นเชลยคือ มีอาหารให้กินในที่สุดถึงแม้ทุกคนจะได้กินแค่โจ๊กหนึ่งถ้วย หมั่นโถวหนึ่งลูก ก็ยังดีกว่าถูกขังอยู่ในเมือ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 926

    หร่วนฝูอวี้ดิ้นรนอยู่นาน จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“เฮ้อ! เจ้าโง่ จริง ๆ แล้ว…คืนนั้นเจ้าหลับอย่างกับหมูตาย เจ้าไม่ได้ร่วมหอกับข้าเลยสักนิด”รุ่ยอ๋องได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าพลันหม่นลงเขาแทบไม่อยากจะเชื่อเนื้อความที่เขาได้ยิน“เจ้า ว่าอะไรนะ?”ไม่ได้ร่วมหอ?แล้วเด็กคนนั้นล่ะ?สายตาที่หร่วนฝูอวี้มองมายังเขา เจือไปด้วยความสงสารไม่น้อยเขาโง่ถึงเพียงนี้เลยหรือ ตัวเองทำหรือไม่ทำก็ยังไม่รู้ หลังจากนี้กลัวจะถูกคนหลอกง่าย ๆ“ไม่ได้ร่วมหอ และไม่มีลูกด้วย เข้าใจหรือไม่?” นางพูดอย่างละเอียดอ่อนรุ่ยอ๋องออกแรงจับข้อมือของนาง จดจ้องนางแน่นิ่ง นัยน์ตาที่เคยสงบสุข ย้อมไปด้วยโทสะหลายส่วน“ไม่มีลูก? แล้วชีพจรครรภ์คืออะไร”เขานิสัยดี จนถึงเวลานี้ยังคุมอารมณ์อยู่หร่วนฝูอวี้ตอบกลับ“วิชาไสยเวทของหนานเจียง ข้าใช้วิชาไสยเวทสร้างขึ้นมา”รุ่ยอ๋องเข้าใจในทันที ไม่แปลกใจเลย ที่ครรภ์ของนางจะดูออกช้าขนาดนี้ที่แท้ไม่ใช่เพราะนางรักษารูปร่าง แต่นางไม่ได้ตั้งท้องเลยต่างหาก!นางโกหกเขามาตลอด!นางโกหกเขาได้อย่างไร…รุ่ยอ๋องรู้สึกแน่นหน้าอกหายใจลำบาก ทั่วทั้งร่างกายเหมือนมีไฟแผดเผา“ข้าไปทำอะไรให

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 925

    แคว้นหนานฉี ณ เมืองหลวงเหล่าราษฎรต่างใส่ใจสถานการณ์สงครามเป็นอย่างมาก เกรงว่าแคว้นหนานฉีจะล่มสลายทว่ากลับได้ยินข่าวว่าแคว้นหนานฉีจะบุกโจมตีกลับแคว้นเป่ยเยี่ยนและแคว้นต้าเซี่ยแล้ว“นี่เป็นเรื่องจริงหรือ?”“ก็เรื่องจริงน่ะสิ ข้ามีหลานคนหนึ่งอยู่ในค่ายทหาร เขาเขียนจดหมายกลับมา บอกว่าพวกเราไม่ต้องกังวลแล้ว ช่วงอันตรายของแคว้นหนานฉีได้ผ่านพ้นไปแล้ว ตอนนี้ผู้ที่ต้องกังวลว่าแคว้นจะล่มสลายคือแคว้นเป่ยเยี่ยนและแคว้นต้าเซี่ย แล้วก็แคว้นอื่น ๆ !”ข่าวนี้ทำให้คนยินดียิ่งราษฎรทุกคนมีความสุขจนกระโดดโลดเต้นจากนั้นก็ได้ยินอีกว่าราชสำนักกำลังเกณฑ์ทหาร“ประกาศการเกณฑ์ทหารได้ติดไปทั่ว ดูเหมือนว่าข่าวทั้งหมดจะเป็นเรื่องจริง!”“ข้าจะเข้าร่วมกองทัพ! สามารถขยายดินแดนเพื่อแคว้นหนานฉีได้ เป็นการสร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูล!”“ข้าจะไปลงชื่อ! แคว้นเป่ยเยี่ยนและแคว้นอื่น ๆ ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ทำผิดต่อแคว้นหนานฉีเรา จะให้พวกเขาอยู่อย่างสุขสบายไม่ได้!”การรับสมัครทหารขยายกำลังพลของราชสำนักในครั้งนี้ จำนวนคนที่มาสมัครมากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนถึงอย่างไรพอผ่านประสบการณ์แคว้นเกือบล่มสลายมา เหล่าราษฎรต่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 924

    “เสด็จพี่สะใภ้! ไม่เจอกันนานเลยเพคะ!” องค์หญิงน้อยทำการถวายคำนับตามธรรมเนียมในวังนางสวมชุดกระโปรงแบบสบายตัว ใบหน้าแดงระเรื่อ ลมหายใจหอบแฮ่ก ๆจากนั้นก็หันกลับมาถวายคำนับให้เซียวอวี้ต่อ“คารวะฝ่าบาท!”เฟิ่งจิ่วเหยียนถามอย่างไม่แปลกใจ“เหตุใดองค์หญิงจึงเข้าเมืองมาเล่า?”ทหารศัตรูในเมืองนี้ถูกควบคุมตัวเอาไว้เกือบหมดแล้ว ทว่าไม่อาจรับประกันได้ว่าจะปลอดภัยทั้งหมดใบหน้าองค์หญิงน้อยยิ้มแย้มดุจดอกไม้ ไม่มีท่าทีกลัวการสู้รบแม้แต่น้อย“ข้ามากับเสด็จพ่อ เสด็จพ่อเข้าเมืองมาส่งเสบียง ข้าสามารถช่วยได้นะ”เซียวอวี้ไม่คิดเช่นนั้น“เด็กน้อยคนหนึ่งอย่างเจ้า จะช่วยอะไรได้”องค์หญิงน้อยเท้าสะเอวด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วตอบอย่างไม่พอใจว่า“เสด็จพี่ฮ่องเต้ ท่านอย่าดูถูกคนอื่น“ข้าเติบโตในเมืองเซวียน สามารถบอกทางให้พวกเขาได้นะ!“จริงสิ เหตุใดพวกท่านจึงอยู่ที่โรงพักแรมหลวงนี่ ไม่ไปพักที่จวนกั๋วกงล่ะ? ที่นี่อัตคัดเกินไปแล้ว”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“หากในเมืองมีข้าศึกเคลื่อนไหว การพักอยู่ที่โรงพักแรมหลวงจะนำทหารออกไปได้สะดวกกว่า”องค์หญิงน้อยพยักหน้า จากนั้นสายตาก็ตกอยู่ที่มือข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 923

    เมื่อสองแคว้นสู้รบกัน ไม่อาจฆ่าราชทูตที่มาเยือนได้ราชทูตของต้าเซี่ยถูกนำตัวไปที่อำเภอหลิวที่อยู่ใกล้เมืองเซวียนผู้สูงศักดิ์ที่นั่งอยู่ด้านบนก็คือฮ่องเต้เซียวอวี้ราชทูตฝีปากคมกล้า ได้อธิบายว่าแคว้นต้าเซี่ยมาเจรจาสงบศึกด้วยความจริงใจ ทั้งยังหยิบยกเรื่องที่ว่าแคว้นหนานฉีและแคว้นต้าเซี่ยนั้นเป็นญาติพี่น้องกัน สาธยายไปจนถึงความสัมพันธ์กับองค์หญิงใหญ่เซียวอวี้นั่งอยู่บนที่นั่งประธาน ดื่มชาทีละคำ ดูไปแล้วเหมือนกำลังฟังอยู่ แต่กลับทำให้คนรู้สึกถึงความทระนงไม่อีนังขังขอบจนกระทั่งราชทูตนั่นพูดจบ เซียวอวี้ก็เหลือบตามองอย่างเย็นชา แววตาคมกริบดั่งธนู“เจรจาสงบศึก?”ราชทูตรีบถวายสาส์นตราตั้งที่เตรียมมาขึ้นไปทันทีหลังจากอ่านสาส์นตราตั้งจบ เซียวอวี้ค่อย ๆ ลุกขึ้น เงาร่างสูงใหญ่ราวกับกรงเล็บของสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่ไร้รูปร่างลงมาบีบคอราชทูตเอาไว้ราชทูตไม่กล้าเงยหน้าสบตาอันน่าเกรงขามของฮ่องเต้ เขาหลุบตาลง รู้สึกเพียงว่าลมหายใจติดขัดในความเงียบเชียบเพียงช่วงสั้น ๆ ไม่กี่ลมหายใจนั้น ราชทูตได้รับความทุกข์ทรมานอย่างยิ่งจากนั้นเซียวอวี้ก็เปิดปากแววตาของเขาแฝงไปด้วยนัยยิ้มเยาะ“เจ้าจะมาเจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 922

    แคว้นเป่ยเยี่ยน ณ จวนอัครเสนาบดีอัครเสนาบดีผู้ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการขมวดคิ้วแน่น ไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสุขสงบมาหลายคืนแล้วขุนนางใต้บังคับบัญชาเข้ามารายงานสถานการณ์การรบด้วยท่าทางแตกตื่น“ใต้เท้า! แย่แล้วขอรับ! กองหนุน...กองหนุนที่ส่งไปแคว้นหนานฉี ล้วนถูกกองทัพหนานฉีล้อมปราบ บ้างก็ตาย บ้างก็ถูกจับกุม!”อัครเสนาบดีที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงสุดพลันลุกขึ้นยืน“เมืองเซวียนหรือ? พวกฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง?”“ไม่ทราบเลยขอรับ จนถึงยามนี้ไม่มีข่าวมาจากเมืองเซวียนเลยขอรับ...”พูดยังไม่ทันจบ ขุนพลท่านหนึ่งก็เร่งรีบมาถึงจวนอัครเสนาบดี “ท่านอัครเสนาบดีขอรับ! เกิดเรื่องแล้ว! เมืองเซวียนเกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”อัครเสนาบดีพลันรู้สึกใจสั่นนี่ยังจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกหรือ?ขุนพลผู้นั้นส่งของที่นำมาขึ้นไป แล้วพูดอธิบายด้วยสีหน้าซีดขาว“นี่คือสาส์นตราตั้งจากแคว้นหนานฉี ต้องการประกาศสงครามกับแคว้นเป่ยเยี่ยนของเราขอรับ ทั้งยังบอกอีกว่าเมืองเซวียนถูกกองทัพหนานฉียึดเอาไว้แล้ว เป็นไปได้มากว่าฝ่าบาทกับเหล่าทหารอาจจะกลับมาไม่ได้แล้วขอรับ!”เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา เหล่าขุนนางรวมถึงอัครเสนาบด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status