แชร์

บทที่ 917

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
ในตำหนักอ๋องแห่งหนานเจียง

รุ่ยอ๋องถูกยกย่องให้เป็นแขกพิเศษ

อ๋องแห่งหนานเจียงยกจอกขึ้นมา พูดด้วยความปรารถนาดี

“ข้ารู้อยู่แล้ว แคว้นหนานฉีมีแผนการใหญ่

“รุ่ยอ๋อง ยามนี้แนวโน้มอิทธิพลแคว้นหนานฉีกำลังมาแรง ช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดือนเศษ ก็สามารถปราบกองกำลังเสริมได้เป็นแสนกว่า ช่างน่าชื่นชมยิ่งนัก!

“คาดว่าไม่ช้า แคว้นหนานฉีก็จะสามารถขับไล่ทหารศัตรูไปได้หมดสิ้นแล้ว!”

รุ่ยอ๋องไม่กระหยิ่มยิ้มย่อง เขาไม่ถือตัว ไม่หยิ่งผยอง

“แคว้นหนานฉีสามารถทำลายล้างศัตรู มาจากความร่วมมือร่วมใจกัน

“การศึกในตอนนี้ยังไม่แน่นอน ยังประมาทศัตรูไม่ได้”

อ๋องแห่งหนานเจียงกับเสนาบดีมองตากัน

หลังจากนั้น เสนาบดีคนนั้นลุกขึ้นมา

“รุ่ยอ๋อง แคว้นของท่านได้ชัยชนะอย่างต่อเนื่อง เมฆครึ้มผ่านไปมองเห็นท้องฟ้าสีครามแล้ว กองทัพพันธมิตรเผ่าสุยเหอข้างนอกหนานเจียง ก็ล้วนล่าถอยแล้ว ท่านเห็นว่าหนานเจียง ไม่จำเป็นต้องมีทหารของท่านคอยเฝ้าปกป้องแล้ว ใช่หรือไม่?”

สายตารุ่ยอ๋องเปลี่ยนไป

ที่แท้ นี่ต่างหากที่เป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหนานเจียง...อยากให้กองทัพหนานฉีถอนกำลังออกจากหนานเจียง

รุ่ยอ๋องยิ้มแย้มด้วยสีหน้าอ่อนโยน

“ในเมื่อเป็น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 918

    เฟิ่งจิ่วเหยียนใช้เท้าเตะทหารศัตรูลงไป จากนั้นนำของที่อยู่ในมือโยนเข้าไป พร้อมเอ่ยถามหยิ่นเอ้อร์ที่อยู่ด้านข้างตอบสนองรวดเร็ว ใช้โล่ปิดปากหลุมไว้หลังจากนั้น ก็ได้ยินข้างใต้มีเสียงกรีดร้องขึ้นมาในช่องทางใต้ดินฮ่องเต้เยี่ยนมีองครักษ์คอยคุ้มกันทั้งข้างหน้าข้างหลัง เดินมาถึงครึ่งทาง ก็ได้ยินเสียงผิดปกติดังขึ้นข้างหน้าเขารู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ไม่ดี“เกิดอะไรขึ้น!”ทันใดนั้นก็มีคนตะโกนขึ้นมา “ตัวต่อ! มีตัวต่อ! รีบวิ่ง! !”ฮ่องเต้เยี่ยน: !ตัวต่อ?ในใต้ดิน ตัวต่อมาจากไหน!เขาไม่ทันได้ครุ่นคิด ก็ถูกองครักษ์คุ้มกันถอยหลังกลับเดิมเส้นทางก็คับแคบ คนที่อยู่ข้างหลังดันไปข้างหน้า อยากที่จะหนีออกไปจากเมืองเซวียนโดยเร็ว คนข้างหน้าเพื่อหลบเลี่ยงตัวต่อ ถอยหลังจากหน้าไปหลัง คนสองกลุ่มในช่องทางลับมาเจอกัน ผลักดันซึ่งกันและกันทันใดนั้น ทุกคนถูกตัวต่อต่อยไปทั้งตัว เสียงร้องเจ็บปวดดังกึกก้องรอพวกเขาถอยกลับมาถึงเมืองเซวียน สภาพแต่ละคนย่ำแย่ไม่เป็นท่าฮ่องเต้เยี่ยนมีองครักษ์คอยปกป้อง ไม่ถูกตัวต่อทำร้ายทว่าเขากลืนความขุ่นเคืองนี้ไม่ลง“สารเลว! ตัวต่อมาจากไหน!”มีคนที่รู้เรื่อง “เป็นทห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 919

    ได้เห็นว่า จักรพรรดิเปิดม่านกระโจม เงาร่างสูงน่าเกรงขามเห็นเซียวอวี้เวลานี้ นางประหลาดใจไม่น้อยเหตุใดเขามาถึงเมืองเซวียนรวดเร็วเช่นนี้?เซียวอวี้ยังไม่ได้ถอดชุดเกราะ ก้าวเท้ายาวไปข้างหน้า โอบกอดคนที่ยังตกอยู่ในอาการตะลึง“อย่างไร จำเราไม่ได้แล้วรึ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนได้สติกลับมา ก็ยกแขนโอบกอดเขา“ฝ่าบาททรงบัญชาการศึกด้วยพระองค์เอง ลำบากแล้วเพคะ”เซียวอวี้กอดนางแน่น วางคางไว้บนไหล่ของนาง ถูไถแผ่วเบา“ได้เจอเจ้า ก็ไม่รู้สึกลำบากแล้ว เป็นอย่างไร คืนนี้จะโจมตีเมืองรึ?”ต่อให้คิดถึง วันหลังยังมีโอกาสถามทุกข์สุขยามนี้การฆ่าศัตรูสำคัญที่สุดเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดอย่างจริงจัง “ใช่เพคะ ถึงเวลาแล้วเพคะ”แผนเดิมที่วางไว้ นางนำทหารมาปิดล้อมทหารศัตรูในเมืองเซวียน ตัดขาดการติดต่อสื่อสารกับข้างนอกของพวกเขาทั้งหมด หลอกลวงให้แต่ละแคว้นส่งกำลังทหารเสริม แล้วก็ให้ฝ่าบาทกับอาจารย์จัดการพวกเขา ใช้ประโยชน์จากค่ายกล “ใยแมงมุม” กำจัดทหารเสริมของแคว้นศัตรูหลังจากนี้ ค่อยกำจัดทหารศัตรูในเมืองเซวียน ทหารศัตรูเหล่านี้เพราะขาดแคลนเสบียง ถูกกักขัง ตกตะลึง ขัดแข้งขัดขาตัวเอง ถูกทรมานจนไม่เหลือศักยภาพด้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 920

    แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนห่างเหิน พลิกตัวกระโดดลงจากม้าอย่างดุเดือด มุ่งโจมตีซ่านชุนโดยตรงความรวดเร็วขนาดนี้ ทำให้ไม่อาจตั้งตัวทวนยาวที่นางใช้ ยาวหนึ่งนิ้ว แข็งแกร่งหนึ่งนิ้วซ่านชุนไม่สามารถเข้าใกล้ตัวนาง กลับถูกทวนยาวของนางตีถูกที่แขนต่อเนื่อง จนแทบถือมีดไม่อยู่ทว่า ใช่ว่าเขาเป็นคนไม่เอาไหนรีบสั่งคนไปเอาทวนยาวมาหลังจากเปลี่ยนอาวุธแล้ว เขาค่อยถนัดมืออย่างไรก็ตาม ได้ยินเสียงที่คมชัด ทวนยาวของเขาถูกตีหัก หักกกลายเป็นสองท่อนพริบตาเดียวนั้น ซ่านชุนอึ้งตะลึงเขาคาดคิดไม่ถึง ทวนยาวนี้จะหักได้!สตรีผู้นี้ใช่หญิงตั้งครรภ์จริงหรือ?“แม่ทัพระวัง!”เมื่อเงยหน้าขึ้นมา เห็นหอกสีเงินแวววาวแทงทะลุมาหาซ่านชุนไหวตัวไว กลิ้งพลิกตัว หลบพ้นกระบวนท่าสังหาร……ส่วนอีกด้าน ฮ่องเต้เยี่ยนถูกคนปกป้องล่าถอยเขาตะโกนเสียงดัง อยากรวบรวมกำลังทหารทั้งหมดทว่ายามนี้ในเมืองกำลังวุ่นวาย เสียงของเขาถูกกลบจนหมด...เผชิญกับการโจมตีอย่างกะทันหันในยามค่ำคืน กองทัพพันธมิตรแต่ละแคว้นไม่ทันหยิบอาวุธด้วยซ้ำ เกราะก็ไม่ทันสวมใส่ ก็จะต้องต่อสู้กับทหารหนานฉียังมีคนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตะโกนขึ้นมา“ทหารว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 921

    กองทัพหนานฉีกระจายตัวไปทั่วทั้งในและนอกเมืองเซวียน “ใครขัดขืน ฆ่าให้หมด!”เซียวอวี้ยืนอยู่บนกำแพงเมือง มองทหารศัตรูที่หนีไปทั่วทุกทิศด้วยสายตาเย็นชาชายอาภรณ์ถูกลมพัดจนเกิดเสียงหวีดหวิว สีหน้าเคร่งขรึม“บอกทุกกอง ไม่ต้องออมแรงแล้ว ลงมือทีเดียวให้หมด”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”ผ่านไปคืนหนึ่ง แสงรุ่งอรุณอันอ่อนบางสะท้อนลงบนเมืองเซวียน เผยให้เห็นซากศพเต็มทุกพื้นที่ธงของกองทัพพันธมิตรถูกดึงออกเปลี่ยนเป็นธงกองทัพหนานฉีอย่างต่อเนื่องหลังจากแสงรุ่งอรุณสาดส่อง ดวงตาที่ฆ่าฟันจนเป็นสีแดงก่ำของเฟิ่งจิ่วเหยียนแผ่ความหนาวเหน็บอันน่าหวาดกลัวออกมากองทัพใหญ่แคว้นหนานฉี เข่นฆ่าศัตรูอย่างกล้าหาญราวกับมีเทพเซียนมาช่วยก็ไม่ปานนี่เป็นสงครามครั้งยิ่งใหญ่ กองทัพใหญ่ของสองฝ่ายต่างรวมตัวกันอยู่ที่เมืองเซวียน ซึ่งต่างจากการต่อสู้ในสนามรบที่โล่งกว้าง เพราะมีสิ่งก่อสร้างรูปแบบหลากหลาย อาวุธหลายอย่างจึงใช้ที่นี่ไม่ได้ทหารในกองทัพหนานฉีเอง ส่วนใหญ่เป็นกองทัพคุ้มกันเมืองของเมืองเซวียน จึงรู้จักเมืองเซวียนเป็นอย่างดีฝ่ายไหนเป็นฝ่ายได้เปรียบ เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดเจนทหารม้าที่แข็งแกร่งและเหี้ยมโหดที่สุดข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 922

    แคว้นเป่ยเยี่ยน ณ จวนอัครเสนาบดีอัครเสนาบดีผู้ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการขมวดคิ้วแน่น ไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสุขสงบมาหลายคืนแล้วขุนนางใต้บังคับบัญชาเข้ามารายงานสถานการณ์การรบด้วยท่าทางแตกตื่น“ใต้เท้า! แย่แล้วขอรับ! กองหนุน...กองหนุนที่ส่งไปแคว้นหนานฉี ล้วนถูกกองทัพหนานฉีล้อมปราบ บ้างก็ตาย บ้างก็ถูกจับกุม!”อัครเสนาบดีที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงสุดพลันลุกขึ้นยืน“เมืองเซวียนหรือ? พวกฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง?”“ไม่ทราบเลยขอรับ จนถึงยามนี้ไม่มีข่าวมาจากเมืองเซวียนเลยขอรับ...”พูดยังไม่ทันจบ ขุนพลท่านหนึ่งก็เร่งรีบมาถึงจวนอัครเสนาบดี “ท่านอัครเสนาบดีขอรับ! เกิดเรื่องแล้ว! เมืองเซวียนเกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”อัครเสนาบดีพลันรู้สึกใจสั่นนี่ยังจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกหรือ?ขุนพลผู้นั้นส่งของที่นำมาขึ้นไป แล้วพูดอธิบายด้วยสีหน้าซีดขาว“นี่คือสาส์นตราตั้งจากแคว้นหนานฉี ต้องการประกาศสงครามกับแคว้นเป่ยเยี่ยนของเราขอรับ ทั้งยังบอกอีกว่าเมืองเซวียนถูกกองทัพหนานฉียึดเอาไว้แล้ว เป็นไปได้มากว่าฝ่าบาทกับเหล่าทหารอาจจะกลับมาไม่ได้แล้วขอรับ!”เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา เหล่าขุนนางรวมถึงอัครเสนาบด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 923

    เมื่อสองแคว้นสู้รบกัน ไม่อาจฆ่าราชทูตที่มาเยือนได้ราชทูตของต้าเซี่ยถูกนำตัวไปที่อำเภอหลิวที่อยู่ใกล้เมืองเซวียนผู้สูงศักดิ์ที่นั่งอยู่ด้านบนก็คือฮ่องเต้เซียวอวี้ราชทูตฝีปากคมกล้า ได้อธิบายว่าแคว้นต้าเซี่ยมาเจรจาสงบศึกด้วยความจริงใจ ทั้งยังหยิบยกเรื่องที่ว่าแคว้นหนานฉีและแคว้นต้าเซี่ยนั้นเป็นญาติพี่น้องกัน สาธยายไปจนถึงความสัมพันธ์กับองค์หญิงใหญ่เซียวอวี้นั่งอยู่บนที่นั่งประธาน ดื่มชาทีละคำ ดูไปแล้วเหมือนกำลังฟังอยู่ แต่กลับทำให้คนรู้สึกถึงความทระนงไม่อีนังขังขอบจนกระทั่งราชทูตนั่นพูดจบ เซียวอวี้ก็เหลือบตามองอย่างเย็นชา แววตาคมกริบดั่งธนู“เจรจาสงบศึก?”ราชทูตรีบถวายสาส์นตราตั้งที่เตรียมมาขึ้นไปทันทีหลังจากอ่านสาส์นตราตั้งจบ เซียวอวี้ค่อย ๆ ลุกขึ้น เงาร่างสูงใหญ่ราวกับกรงเล็บของสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่ไร้รูปร่างลงมาบีบคอราชทูตเอาไว้ราชทูตไม่กล้าเงยหน้าสบตาอันน่าเกรงขามของฮ่องเต้ เขาหลุบตาลง รู้สึกเพียงว่าลมหายใจติดขัดในความเงียบเชียบเพียงช่วงสั้น ๆ ไม่กี่ลมหายใจนั้น ราชทูตได้รับความทุกข์ทรมานอย่างยิ่งจากนั้นเซียวอวี้ก็เปิดปากแววตาของเขาแฝงไปด้วยนัยยิ้มเยาะ“เจ้าจะมาเจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 924

    “เสด็จพี่สะใภ้! ไม่เจอกันนานเลยเพคะ!” องค์หญิงน้อยทำการถวายคำนับตามธรรมเนียมในวังนางสวมชุดกระโปรงแบบสบายตัว ใบหน้าแดงระเรื่อ ลมหายใจหอบแฮ่ก ๆจากนั้นก็หันกลับมาถวายคำนับให้เซียวอวี้ต่อ“คารวะฝ่าบาท!”เฟิ่งจิ่วเหยียนถามอย่างไม่แปลกใจ“เหตุใดองค์หญิงจึงเข้าเมืองมาเล่า?”ทหารศัตรูในเมืองนี้ถูกควบคุมตัวเอาไว้เกือบหมดแล้ว ทว่าไม่อาจรับประกันได้ว่าจะปลอดภัยทั้งหมดใบหน้าองค์หญิงน้อยยิ้มแย้มดุจดอกไม้ ไม่มีท่าทีกลัวการสู้รบแม้แต่น้อย“ข้ามากับเสด็จพ่อ เสด็จพ่อเข้าเมืองมาส่งเสบียง ข้าสามารถช่วยได้นะ”เซียวอวี้ไม่คิดเช่นนั้น“เด็กน้อยคนหนึ่งอย่างเจ้า จะช่วยอะไรได้”องค์หญิงน้อยเท้าสะเอวด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วตอบอย่างไม่พอใจว่า“เสด็จพี่ฮ่องเต้ ท่านอย่าดูถูกคนอื่น“ข้าเติบโตในเมืองเซวียน สามารถบอกทางให้พวกเขาได้นะ!“จริงสิ เหตุใดพวกท่านจึงอยู่ที่โรงพักแรมหลวงนี่ ไม่ไปพักที่จวนกั๋วกงล่ะ? ที่นี่อัตคัดเกินไปแล้ว”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“หากในเมืองมีข้าศึกเคลื่อนไหว การพักอยู่ที่โรงพักแรมหลวงจะนำทหารออกไปได้สะดวกกว่า”องค์หญิงน้อยพยักหน้า จากนั้นสายตาก็ตกอยู่ที่มือข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 925

    แคว้นหนานฉี ณ เมืองหลวงเหล่าราษฎรต่างใส่ใจสถานการณ์สงครามเป็นอย่างมาก เกรงว่าแคว้นหนานฉีจะล่มสลายทว่ากลับได้ยินข่าวว่าแคว้นหนานฉีจะบุกโจมตีกลับแคว้นเป่ยเยี่ยนและแคว้นต้าเซี่ยแล้ว“นี่เป็นเรื่องจริงหรือ?”“ก็เรื่องจริงน่ะสิ ข้ามีหลานคนหนึ่งอยู่ในค่ายทหาร เขาเขียนจดหมายกลับมา บอกว่าพวกเราไม่ต้องกังวลแล้ว ช่วงอันตรายของแคว้นหนานฉีได้ผ่านพ้นไปแล้ว ตอนนี้ผู้ที่ต้องกังวลว่าแคว้นจะล่มสลายคือแคว้นเป่ยเยี่ยนและแคว้นต้าเซี่ย แล้วก็แคว้นอื่น ๆ !”ข่าวนี้ทำให้คนยินดียิ่งราษฎรทุกคนมีความสุขจนกระโดดโลดเต้นจากนั้นก็ได้ยินอีกว่าราชสำนักกำลังเกณฑ์ทหาร“ประกาศการเกณฑ์ทหารได้ติดไปทั่ว ดูเหมือนว่าข่าวทั้งหมดจะเป็นเรื่องจริง!”“ข้าจะเข้าร่วมกองทัพ! สามารถขยายดินแดนเพื่อแคว้นหนานฉีได้ เป็นการสร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูล!”“ข้าจะไปลงชื่อ! แคว้นเป่ยเยี่ยนและแคว้นอื่น ๆ ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ทำผิดต่อแคว้นหนานฉีเรา จะให้พวกเขาอยู่อย่างสุขสบายไม่ได้!”การรับสมัครทหารขยายกำลังพลของราชสำนักในครั้งนี้ จำนวนคนที่มาสมัครมากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนถึงอย่างไรพอผ่านประสบการณ์แคว้นเกือบล่มสลายมา เหล่าราษฎรต่า

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 930

    ห้องชงชาในโรงพักแรมหมอทหารและลูกศิษย์ถูกพาเข้ามา ทำความเคารพฮ่องเต้บนพระที่นั่งหลักเซียวอวี้ล้างมืออย่างง่าย ๆ ใส่เสื้อคลุมสบาย ๆ แต่มิอาจปกปิดรังสีสูงส่งของฮ่องเต้ได้ ผมดำขลับมัดรวบด้วยผ้ายาวประดับมุขขาว คิ้วคมเด่นชัด ดูแข็งแรงกำยำ“ในเมื่อเป็นหมอทหาร เหตุใดไม่ตามกองทัพใหญ่ไป แต่กลับแอบหนีมาที่แห่งนี้?” เมื่อเผชิญกับคำซักถามของฮ่องเต้ หมอทหารก็อธิบายอย่างไม่เร่งรีบ“ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยได้รับคำสั่งในยามคับขัน หาใช่หมอทหารที่แท้จริงไม่”สิ้นคำกล่าว ก็มีคนเดินเข้ามาในห้องชงชา“ฝ่าบาท” ผู้มาคือเฟิ่งจิ่วเหยียนเมื่อเซียวอวี้เห็นนาง ก็รีบลุกขึ้น น้ำเสียงฟังดูตำหนิเล็กน้อย“ทำไมไม่นอนอีก?”เฟิ่งจิ่วเหยียนโค้งให้เขาเล็กน้อย จากนั้นก็นั่งลงพร้อมกับเขา แนะนำอาจารย์กับลูกศิษย์สองคนนั้นอย่างเป็นทางการ“เรื่องนี้หม่อมฉันเลินเล่อเอง ฝ่าบาท ตอนนั้นหม่อมฉันประสบภัยในภูเขาหิมะเทียนฉือ และได้รับการช่วยเหลือจากพวกเขา”สีหน้าของเซียวอวี้ผ่อนคลายลง ไม่ดุดันเหมือนก่อนหน้านี้เขารีบออกคำสั่ง“ที่แท้ก็เป็นสองคนนี้นี่เอง เชิญนั่ง”หมอเทวดาเฒ่ารีบโค้งคำนับ“มิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ข้าน้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 929   

    ณ จวนจู้กั๋วกง เมืองเซวียนองครักษ์เข้ามาในเรือนอย่างเร่งรีบ รายงานจู้กั๋วกงว่า“ใต้เท้า! กองทัพเยี่ยนจับฮ่องเต้เยี่ยน มุ่งหน้ามามอบตัว!”จู้กั๋วกงประหลาดใจเล็กน้อย“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ! ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใด?”จู้กั๋งกงรีบนำคนตรงไปที่นั่น จึงเห็นเพียง ฮ่องเต้เยี่ยนที่หิวจนผอมโซ ถูกกองทัพเยี่ยนจับมัดแขนมัดขา โยนทิ้งไว้บนพื้นกองทัพเยี่ยนถอดเสื้อเกราะออก คุกเข่าบนพื้น ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มขมขื่นอย่างเอาใจและประจบสอพลอ“ขอร้องพวกท่านล่ะ ให้อาหารข้ากินเถอะ…พวกข้ายอมแพ้แล้ว!”จู้กั๋วกงเหลือบมองฮ่องเต้เยี่ยนที่สลบบนพื้น จากนั้นก็ส่ายหน้าเกรงว่าฮ่องเต้เยี่ยนคงคาดคิดไม่ถึง ว่าตัวเองจะตกอยู่ในเงื้อมมือคนของตัวเองจิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึงจริง ๆจู้กั๋วกงออกคำสั่งเสียงแข็งกร้าว“จับพวกเขากลับไป คุมขังเอาไว้!”“รับทราบ!”ในคืนนั้น จู้กั๋วกงเขียนจดหมายด้วยตนเองหนึ่งฉบับ สั่งให้คนไปส่งให้ฝ่าบาทอย่างเร่งด่วนในเวลาเดียวกัน เซียวอวี้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงอยู่ระหว่างเดินทางกลับเมืองหลวงบนถนนที่พวกเขาเดินทางกลับ ล้วนมีประชาชนคอยต้อนรับตลอดทางคืนนี้ พวกเขาเข้าพักที่โรงพักแรม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 928     

    คำที่ผู้คุมโทษบอก ถานไถเหยี่ยนทำเป็นไม่สนใจดวงตาของเขามีเพียงใยแมงมุม สายตาว่างเปล่าทอดมองยาวไกล“สงครามข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง”ผู้คุมโทษถูกจ้างมาจัดการให้ ท่าทีจึงเคารพนอบน้อม“ฝ่าบาทเสด็จไปรบด้วยตัวเอง ปราบปรามกองทัพศัตรูในเมืองเซวียนได้แล้ว กองกำลังเสริมของแต่ละแคว้นก็ถูกจับไปเป็นเชลยหมด“ราชสำนักเกณฑ์ทหารทุกพื้นที่ เตรียมบุกโจมตีเป่ยเยี่ยนและแคว้นต้าเซี่ย คาดว่า แคว้นหนานฉีปลอดภัยแล้ว”สีหน้าของถานไถเหยี่ยนเฉยชา“เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับ ‘ใยแมงมุม’ หรือไม่”?ผู้คุมโทษนิ่งงันไปเล็กน้อย จากนั้นก็เรียกสติกลับมา“ท่านหมายถึงสนามกลไกของตระกูลตงฟางหรือ! ของสิ่งนั้นวิเศษมาก เผยแพร่ไปทั่วแคว้นหนานฉี ไม่ว่ากองทัพศัตรูจะปรากฏที่ไหน ก็จะถูกพวกเราขัดขวาง!”พูดถึงเรื่องนี้ ผู้คุมโทษก็รู้สึกมีเกียรติเขาหมกมุ่นอยู่กับการเล่าเรื่องราว จนไม่สังเกตเห็น ความเปลี่ยนแปลงของถานไถเหยี่ยน ภายในห้องขังถานไถเหยี่ยนหันมา เผชิญหน้ากับเขา ถามเสียงเข้มว่า“สนามกลไกของตระกูลตงฟาง?”ผู้คุมโทษพยักหน้าอย่างหนักแน่น“ใช่แล้ว! ตระกูลตงฟางนั่นแหละ! คุณชายตงฟางนำกองทัพใหญ่สร้างสนามกลไกขึ้นมา เพียงเส้นทา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 927

    เมืองเซวียนกองทัพศัตรูภายในเมือง นอกจากกองทัพเยี่ยนที่ถอยกองกำลังไปอยู่ภูเขาจิ่วเหลียน กองทัพอื่นล้วนถูกจับเป็นเชลยเชลยศึกถูกบังคับให้ถอดเสื้อเกราะ วางอาวุธลง ถึงจะถูกปล่อยออกไปจากเมืองเซวียนธนูแต่ละแบบของแคว้นต้าเซี่ย ล้วนถูกทิ้งไว้ในเมืองเซวียน เสียไปให้กองทัพแคว้นหนานฉีอย่างสูญเปล่าเดิมทีซ่านชุนอยากทำลายธนูเหล่านั้นทิ้งก่อนทว่า ยามที่พวกเขาวางอาวุธนั้น ต่างมีกองทัพแคว้นหนานฉียืนเฝ้าอยู่ข้าง ๆ ต่อให้เขาอยากเล่นตุกติก ก็ไม่มีโอกาสในสภาพอากาศหนาวเหน็บ เหล่าทหารกองทัพพันธมิตรออกไปจากเมืองเซวียนด้วยอาภรณ์ชิ้นบางเมื่อเห็นท่าทางหมดสภาพของกันและกัน ต่างคนต่างไม่ส่งเสียงออกมาซ่านชุนหันกลับไปมองเมืองเซวียน ปฏิญาณกับตัวเองว่า——เขาต้องได้นำกองทัพใหญ่โจมตีกลับอีก!หากไม่ใช่เพราะพวกเขาถูกลอบโจมตีโดยที่ไม่ได้เตรียมตัว  กินนอนก็ลำบาก กำลังทหารเบาบางลง  คงไม่แพ้จนมีสภาพน่าเวทนาขนาดนี้เหล่าเชลยศึกถูกส่งมายังค่ายทหาร ถูกควบคุมโดยแคว้นหนานฉีเข้าด้วยกันข้อดีของการถูกจับเป็นเชลยคือ มีอาหารให้กินในที่สุดถึงแม้ทุกคนจะได้กินแค่โจ๊กหนึ่งถ้วย หมั่นโถวหนึ่งลูก ก็ยังดีกว่าถูกขังอยู่ในเมือ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 926

    หร่วนฝูอวี้ดิ้นรนอยู่นาน จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“เฮ้อ! เจ้าโง่ จริง ๆ แล้ว…คืนนั้นเจ้าหลับอย่างกับหมูตาย เจ้าไม่ได้ร่วมหอกับข้าเลยสักนิด”รุ่ยอ๋องได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าพลันหม่นลงเขาแทบไม่อยากจะเชื่อเนื้อความที่เขาได้ยิน“เจ้า ว่าอะไรนะ?”ไม่ได้ร่วมหอ?แล้วเด็กคนนั้นล่ะ?สายตาที่หร่วนฝูอวี้มองมายังเขา เจือไปด้วยความสงสารไม่น้อยเขาโง่ถึงเพียงนี้เลยหรือ ตัวเองทำหรือไม่ทำก็ยังไม่รู้ หลังจากนี้กลัวจะถูกคนหลอกง่าย ๆ“ไม่ได้ร่วมหอ และไม่มีลูกด้วย เข้าใจหรือไม่?” นางพูดอย่างละเอียดอ่อนรุ่ยอ๋องออกแรงจับข้อมือของนาง จดจ้องนางแน่นิ่ง นัยน์ตาที่เคยสงบสุข ย้อมไปด้วยโทสะหลายส่วน“ไม่มีลูก? แล้วชีพจรครรภ์คืออะไร”เขานิสัยดี จนถึงเวลานี้ยังคุมอารมณ์อยู่หร่วนฝูอวี้ตอบกลับ“วิชาไสยเวทของหนานเจียง ข้าใช้วิชาไสยเวทสร้างขึ้นมา”รุ่ยอ๋องเข้าใจในทันที ไม่แปลกใจเลย ที่ครรภ์ของนางจะดูออกช้าขนาดนี้ที่แท้ไม่ใช่เพราะนางรักษารูปร่าง แต่นางไม่ได้ตั้งท้องเลยต่างหาก!นางโกหกเขามาตลอด!นางโกหกเขาได้อย่างไร…รุ่ยอ๋องรู้สึกแน่นหน้าอกหายใจลำบาก ทั่วทั้งร่างกายเหมือนมีไฟแผดเผา“ข้าไปทำอะไรให

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 925

    แคว้นหนานฉี ณ เมืองหลวงเหล่าราษฎรต่างใส่ใจสถานการณ์สงครามเป็นอย่างมาก เกรงว่าแคว้นหนานฉีจะล่มสลายทว่ากลับได้ยินข่าวว่าแคว้นหนานฉีจะบุกโจมตีกลับแคว้นเป่ยเยี่ยนและแคว้นต้าเซี่ยแล้ว“นี่เป็นเรื่องจริงหรือ?”“ก็เรื่องจริงน่ะสิ ข้ามีหลานคนหนึ่งอยู่ในค่ายทหาร เขาเขียนจดหมายกลับมา บอกว่าพวกเราไม่ต้องกังวลแล้ว ช่วงอันตรายของแคว้นหนานฉีได้ผ่านพ้นไปแล้ว ตอนนี้ผู้ที่ต้องกังวลว่าแคว้นจะล่มสลายคือแคว้นเป่ยเยี่ยนและแคว้นต้าเซี่ย แล้วก็แคว้นอื่น ๆ !”ข่าวนี้ทำให้คนยินดียิ่งราษฎรทุกคนมีความสุขจนกระโดดโลดเต้นจากนั้นก็ได้ยินอีกว่าราชสำนักกำลังเกณฑ์ทหาร“ประกาศการเกณฑ์ทหารได้ติดไปทั่ว ดูเหมือนว่าข่าวทั้งหมดจะเป็นเรื่องจริง!”“ข้าจะเข้าร่วมกองทัพ! สามารถขยายดินแดนเพื่อแคว้นหนานฉีได้ เป็นการสร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูล!”“ข้าจะไปลงชื่อ! แคว้นเป่ยเยี่ยนและแคว้นอื่น ๆ ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ทำผิดต่อแคว้นหนานฉีเรา จะให้พวกเขาอยู่อย่างสุขสบายไม่ได้!”การรับสมัครทหารขยายกำลังพลของราชสำนักในครั้งนี้ จำนวนคนที่มาสมัครมากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนถึงอย่างไรพอผ่านประสบการณ์แคว้นเกือบล่มสลายมา เหล่าราษฎรต่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 924

    “เสด็จพี่สะใภ้! ไม่เจอกันนานเลยเพคะ!” องค์หญิงน้อยทำการถวายคำนับตามธรรมเนียมในวังนางสวมชุดกระโปรงแบบสบายตัว ใบหน้าแดงระเรื่อ ลมหายใจหอบแฮ่ก ๆจากนั้นก็หันกลับมาถวายคำนับให้เซียวอวี้ต่อ“คารวะฝ่าบาท!”เฟิ่งจิ่วเหยียนถามอย่างไม่แปลกใจ“เหตุใดองค์หญิงจึงเข้าเมืองมาเล่า?”ทหารศัตรูในเมืองนี้ถูกควบคุมตัวเอาไว้เกือบหมดแล้ว ทว่าไม่อาจรับประกันได้ว่าจะปลอดภัยทั้งหมดใบหน้าองค์หญิงน้อยยิ้มแย้มดุจดอกไม้ ไม่มีท่าทีกลัวการสู้รบแม้แต่น้อย“ข้ามากับเสด็จพ่อ เสด็จพ่อเข้าเมืองมาส่งเสบียง ข้าสามารถช่วยได้นะ”เซียวอวี้ไม่คิดเช่นนั้น“เด็กน้อยคนหนึ่งอย่างเจ้า จะช่วยอะไรได้”องค์หญิงน้อยเท้าสะเอวด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วตอบอย่างไม่พอใจว่า“เสด็จพี่ฮ่องเต้ ท่านอย่าดูถูกคนอื่น“ข้าเติบโตในเมืองเซวียน สามารถบอกทางให้พวกเขาได้นะ!“จริงสิ เหตุใดพวกท่านจึงอยู่ที่โรงพักแรมหลวงนี่ ไม่ไปพักที่จวนกั๋วกงล่ะ? ที่นี่อัตคัดเกินไปแล้ว”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“หากในเมืองมีข้าศึกเคลื่อนไหว การพักอยู่ที่โรงพักแรมหลวงจะนำทหารออกไปได้สะดวกกว่า”องค์หญิงน้อยพยักหน้า จากนั้นสายตาก็ตกอยู่ที่มือข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 923

    เมื่อสองแคว้นสู้รบกัน ไม่อาจฆ่าราชทูตที่มาเยือนได้ราชทูตของต้าเซี่ยถูกนำตัวไปที่อำเภอหลิวที่อยู่ใกล้เมืองเซวียนผู้สูงศักดิ์ที่นั่งอยู่ด้านบนก็คือฮ่องเต้เซียวอวี้ราชทูตฝีปากคมกล้า ได้อธิบายว่าแคว้นต้าเซี่ยมาเจรจาสงบศึกด้วยความจริงใจ ทั้งยังหยิบยกเรื่องที่ว่าแคว้นหนานฉีและแคว้นต้าเซี่ยนั้นเป็นญาติพี่น้องกัน สาธยายไปจนถึงความสัมพันธ์กับองค์หญิงใหญ่เซียวอวี้นั่งอยู่บนที่นั่งประธาน ดื่มชาทีละคำ ดูไปแล้วเหมือนกำลังฟังอยู่ แต่กลับทำให้คนรู้สึกถึงความทระนงไม่อีนังขังขอบจนกระทั่งราชทูตนั่นพูดจบ เซียวอวี้ก็เหลือบตามองอย่างเย็นชา แววตาคมกริบดั่งธนู“เจรจาสงบศึก?”ราชทูตรีบถวายสาส์นตราตั้งที่เตรียมมาขึ้นไปทันทีหลังจากอ่านสาส์นตราตั้งจบ เซียวอวี้ค่อย ๆ ลุกขึ้น เงาร่างสูงใหญ่ราวกับกรงเล็บของสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่ไร้รูปร่างลงมาบีบคอราชทูตเอาไว้ราชทูตไม่กล้าเงยหน้าสบตาอันน่าเกรงขามของฮ่องเต้ เขาหลุบตาลง รู้สึกเพียงว่าลมหายใจติดขัดในความเงียบเชียบเพียงช่วงสั้น ๆ ไม่กี่ลมหายใจนั้น ราชทูตได้รับความทุกข์ทรมานอย่างยิ่งจากนั้นเซียวอวี้ก็เปิดปากแววตาของเขาแฝงไปด้วยนัยยิ้มเยาะ“เจ้าจะมาเจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 922

    แคว้นเป่ยเยี่ยน ณ จวนอัครเสนาบดีอัครเสนาบดีผู้ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการขมวดคิ้วแน่น ไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสุขสงบมาหลายคืนแล้วขุนนางใต้บังคับบัญชาเข้ามารายงานสถานการณ์การรบด้วยท่าทางแตกตื่น“ใต้เท้า! แย่แล้วขอรับ! กองหนุน...กองหนุนที่ส่งไปแคว้นหนานฉี ล้วนถูกกองทัพหนานฉีล้อมปราบ บ้างก็ตาย บ้างก็ถูกจับกุม!”อัครเสนาบดีที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงสุดพลันลุกขึ้นยืน“เมืองเซวียนหรือ? พวกฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง?”“ไม่ทราบเลยขอรับ จนถึงยามนี้ไม่มีข่าวมาจากเมืองเซวียนเลยขอรับ...”พูดยังไม่ทันจบ ขุนพลท่านหนึ่งก็เร่งรีบมาถึงจวนอัครเสนาบดี “ท่านอัครเสนาบดีขอรับ! เกิดเรื่องแล้ว! เมืองเซวียนเกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”อัครเสนาบดีพลันรู้สึกใจสั่นนี่ยังจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกหรือ?ขุนพลผู้นั้นส่งของที่นำมาขึ้นไป แล้วพูดอธิบายด้วยสีหน้าซีดขาว“นี่คือสาส์นตราตั้งจากแคว้นหนานฉี ต้องการประกาศสงครามกับแคว้นเป่ยเยี่ยนของเราขอรับ ทั้งยังบอกอีกว่าเมืองเซวียนถูกกองทัพหนานฉียึดเอาไว้แล้ว เป็นไปได้มากว่าฝ่าบาทกับเหล่าทหารอาจจะกลับมาไม่ได้แล้วขอรับ!”เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา เหล่าขุนนางรวมถึงอัครเสนาบด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status