แชร์

บทที่ 89

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
ไทฮองไทเฮาคือพระอัยยิกาของฮ่องเต้ อุทิศตนบำเพ็ญมาหลายปีและพำนักอยู่ที่ภูเขาอวี้หยางนอกวังเป็นหลัก ไม่ค่อยกลับวัง

แม้แต่พิธีอภิเษกของฮ่องเต้กับฮองเฮา ไทฮองไทเฮาก็ยังไม่เข้าร่วม

กุ้ยเฟยที่เข้าวังมาสี่ปี เคยมีโอกาสได้พบพระนางแค่สองครั้ง

ไทฮองไทเฮาเป็นคนจู้จี้จุกจิก มาตรว่าจะปฏิบัติธรรมแต่กลับโหดร้ายกับผู้อื่นมาก แม้แต่ไทเฮายังต้องกลัว

หากนางรู้ว่าฮองเฮาต้องมลทิน เช่นนั้นนางต้องพิโรธและสั่งให้ฮ่องเต้ปลดฮองเฮาเป็นแน่!

ชุนเหอได้ยินว่ากุ้ยเฟยจะเชิญไทฮองไทเฮากลับวังก็อดเป็นกังวลไม่ได้

“พระนาง มันจะดีหรือเพคะ?

“ไทฮองไทเฮามีอคติต่อท่านมาก ในอดีตเคยสั่งลงโทษท่านต่อหน้าธารกำนัล ชีวิตของท่านเพิ่งจะสบายขึ้นก็ตอนที่พระนางออกจากวังไปแล้ว

“พึงรู้ไว้ว่า เชิญเทพมาง่าย เชิญเทพออกยาก”

กุ้ยเฟยมองเศษถ้วยชาบนพื้น

นางจำท่าทีอวดดีเมื่อครู่ของเฟิ่งเวยเฉียงได้ขึ้นใจ

นังแพศยากล้ามาอวดดีถึงเบื้องหน้านางแล้ว!

“จริงอยู่ว่าข้าข้าไม่อยากให้ไทฮองไทเฮากลับวัง แต่เทียบกับนางแล้ว ฮองเฮาทำให้ข้าข้าชิงชังยิ่งกว่า!

นางเหมือนแมลงวันสกปรกที่บินผ่านหน้าไปมาทั้งวัน

ข้าอยากให้นางตาย!”

ชุนเหอรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาเพิ่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
เรื่องนี้มีแต่คนโง่ทั้งนั้น ยกเว้นฝั่งนางเอกที่มีแต่คนฉลาด ยกเว้นแม่นางเอกนะ
goodnovel comment avatar
Sanita Sriphadej
จะไม่มีตัวตนได้ไงอะคะ นอ. ถูกส่งไปให้ตระกูลเมิ่งดูแลก็ต้องใช้แซ่เมิ่งในการพรางตัว เป็นแม่ทัพเมิ่งอยู่ชายแดนงี้ ส่วนพี่ชายที่ว่านี่กุ้ยเฟยก็บอกอยู่โต้งๆ ว่ารับราชการอยู่ในเมืองหลวง มันคนละคนกันค่า แล้วนี่แม่ลูกเขาคุยกันเองไม่มีคนนอก เขาคงจำได้แหละว่ามีลูกกี่คน
goodnovel comment avatar
Prig Pannasa
ชั้นหงุดหงิดกับคำว่าพี่ชายมาก พี่ชายที่ไม่มีตัวตน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 90

    ตำหนักหลิงเซียว ดวงอาทิตย์เพิ่งจะลาลับขอบฟ้า บาดแผลของกุ้ยเฟยก็เริ่มเจ็บปวดนางกัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวด ทุกลมหายใจราวกับจะฉีกแผลให้ปริออกเจ็บเหลือเกิน!ไม่นานนัก กุ้ยเฟยก็เจ็บจนสติเลือนรางนางมีเหงื่อออกท่วมศีรษะ จับตัวชุนเหอแน่นและพูดด้วยความเกรี้ยวกราด“ยา! รีบใช้ยาระงับความเจ็บปวดให้ข้าเดี๋ยวนี้! เจ้าอยากให้ข้าเจ็บจนตายหรืออย่างไร…”ชุนเหอรีบปลอบนางว่า “พระนาง หมอหลวงบอกว่ามีแต่ต้องขับยาจู้หุนส่านออกไปก่อนจึงจะใช้ยาระงับความเจ็บปวดได้ อดทนหน่อยนะเพคะ”พระนางเป็นแบบนี้ นางเองก็เจ็บปวดเช่นกันแขนของนางจะถูกพระนางจับจนถลอกทุกครั้งเจ็บจนยากจะทานทนครึ่งชั่วยามต่อมา กุ้ยเฟยมีเหงื่อออกท่วมตัวและเอนพิงหัวเตียงอย่างอ่อนแรงชุนเหอป้อนยาให้กับนางด้วยความระมัดระวัง ทว่ากุ้ยเฟยกลับยกมือปัดยาทิ้ง“สารเลว…ไม่ได้เรื่อง! พวกคนจากสำนักหมอหลวงจงใจประวิงเวลา…“ข้า ข้าทรมานมานาน แต่พวกเขากลับทำอะไรไม่ได้เลย!“ยาจู้หุนส่าน…ยาจู้หุนส่านบ้าอะไร! ข้าดื่มยาตั้งมากขนาดนี้ เหตุใดยังขับมันออกไม่หมดอีก!”ชุนเหออธิบายอย่างมีน้ำอดน้ำทน“พระนาง ท่านเพียงต้องดื่มยาให้มาก ไม่นานก็จะขับยาจู้หุนส่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 91

    ตำหนักฉางซิ่นเวลานี้ล่วงเลยยามไห้ มาแล้วสามเค่อ ภายในตำหนักยังคงเหลือเพียงเซียวอวี้ผู้เดียวเขาเริ่มที่จะหมดความอดทนกระทั่งเมื่อเห็นคนที่กำลังมาอยู่ คิ้วที่ขมวดแน่นจึงได้คลายจากกัน“ครานี้มีคนสะกดรอยตามอีกแล้วหรือ?” เขาจงใจถามครั้งก่อนนางมาสายไปสองเค่อเพราะถูกเสี่ยวลู่จื่อจากตำหนักหลิงเซียวสะกดรอยตาม สามารถยกโทษให้ได้เพราะจำเป็นต้องจัดการผู้นั้นก่อนแต่ครั้งนี้เล่า?เฟิ่งจิ่วเหยียนนำเข็มเงินชุดหนึ่งออกมาวางเรียงบนโต๊ะ“มีธุระติดพัน” นางอธิบายอย่างขอไปทีจากนั้นเข้าสู่ประเด็นหลัก“เชิญถอดฉลองพระองค์ออก”คิ้วของเซียวอวี้แหลมคม เขาจ้องนางแน่นิ่งโดยไม่ขยับเขยื้อนเฟิ่งจิ่วเหยียนหันหลังกลับไปเพื่อเตรียมตัว ทว่าเมื่อหันกลับมากลับพบว่าเขายังคงอยู่ในสภาพเดิม“เหตุใดไม่ถอดฉลองพระองค์ออก?” นางถามแววตาของเซียวอวี้เฉียบแหลมกว่าเดิม“นับวันเจ้าก็ยิ่งเกียจคร้าน“เรารอเจ้ามาสามเค่อแล้ว”ไม่เคยมีหมอหลวงคนใดกล้าให้เขาต้องรอมาก่อนในเมื่อจะมาสายก็ควรส่งข่าวมาบอก คิดว่าเขาไม่มีอย่างอื่นต้องทำหรือ?เฟิ่งจิ่วเหยียนมองเขาด้วยความแน่นิ่ง“ข้าผิดที่ไม่ตรงต่อเวลา”“อืม” เซียวอวี้ละสาย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 92

    “แค่ก ๆ…” เฟิ่งจิ่วเหยียนถูกบังคับให้ต้องถลาลงพื้น พื้นรองเท้าเสียดสีเป็นรอยดำบนพื้นนางวางมือไว้ใต้ลำคอ พยายามขับยาเม็ดนั้นออกด้วยแรงตบทว่า เปล่าประโยชน์ เซียวอวี้หยุดยืนที่เบื้องหน้านางอย่างมั่นคง เสื้อคลุมถูกลมพัดปลิว เสริมให้ดูคาดเดายากกว่าเดิมดวงตาเย็นชาของเขาจดจ้องมาที่นาง แววตาลุ่มลึกดุจก้นเหว“เรารู้ว่าเจ้ามีความสามารถไม่น้อย“พิษแดนฝันออกฤทธิ์ทุก ๆ สิบวัน “หากเจ้ามาฝังเข็มตรงเวลา ข้าก็จะให้ยาถอนพิษตรงเวลา”ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชามาก“ทำเกินความจำเป็นแท้ ๆ”นางไม่ได้บอกว่าจะไม่ถอนพิษให้เขาสักหน่อย เขาระแวงไปเองทั้งนั้นหากไม่ใช่เพื่อความมั่นคงของบ้านเมืองหนานฉีแล้ว นางจะไม่ยอมอดทนแน่!จากนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนก็หลบหนีออกจากตำหนักฉางซิ่นเฉินจี๋จะไล่ตามไปแต่ถูกเซียวอวี้ห้ามไว้“ปล่อยนางไป”บัดนี้นางถูกยาพิษแล้ว ไม่ต้องกลัวว่านางจะหนีกระนั้น หญิงสาวนางนี้ก็ผิดจากความคาดหมายของเขานางรู้จักกระทั่งวิชาหดกระดูก หากไม่สามารถทำงานเพื่อเขาได้ เช่นนั้นรอให้ถอนพิษเสร็จแล้วต้องสังหารทิ้งเมื่อคิดถึงตรงนี้ ดวงตาเย็นชาดุจหยกเย็นของเซียวอวี้พลันปรากฏจิตสังหาร ……

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 93

    จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็เสด็จกลับวัง เรื่องนี้ทำให้ทุกคนในวังตื่นตระหนกกันหมดตำหนักฉือหนิงไทเฮารู้สึกประหม่าอย่างยิ่งยวด“เหตุใดจึงกลับวังกระทันหันแบบนี้?”ตามหลักแล้ว หากไทฮองไทเฮาจะเสด็จกลับวังก็ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อยครึ่งเดือนเพื่อที่จะได้จัดพิธีต้อนรับ ทว่าครั้งนี้กลับเร่งรีบประหนึ่งมีเรื่องด่วนต้องจัดการอย่างไรอย่างนั้นไทเฮาอดระแวงไม่ได้ว่าตัวเองทำอะไรผิดให้ “เทพแห่งเคราะห์ร้าย” ต้องกลับมาหรือเปล่า?กุ้ยหมัวมัวปลอบว่า“ไทเฮาโปรดวางพระทัย ได้ยินว่าไทฮองไทเฮากลับมาแล้วเรียกพบฮองเฮาทันที น่าจะไม่เกี่ยวกับท่านเพคะ”ไทเฮาครุ่นคิดอย่างจริงจัง “ด้วยนิสัยของไทฮองไทเฮาแล้ว นางจะอนุญาตให้บรรดาผู้น้อยเข้าเฝ้าหลังจากที่กลับวังได้หนึ่งวัน น้อยมากที่จะเรียกพบผู้ใดทันทีภายในวันเดียวกัน เว้นเสียแต่ว่าจะกลับมาเพื่อฮองเฮาโดยเฉพาะ? แต่ฮองเฮาจะไปล่วงเกินไทฮองไทเฮาที่ไปไหว้พระไกลถึงภูเขาอวี้หยางได้อย่างไร”กุ้ยหมัวมัวใคร่ครวญแล้วลองคาดเดา“ไทเฮา หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับกุ้ยเฟยเพคะ?”ไทเฮาแปลกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเข้าใจในบันดลหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ได้รับบาดเจ็บเพราะการแข่งขันขี่ม้าโปโล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 94

    “กระไรนะ? ฝ่าบาทจะเข้าห้องหอกับนังแพศยานั่น?!” อารมณ์ที่ตอนแรกกำลังเบิกบานของกุ้ยเฟยพังลงในชั่วพริบตาข้ารับใช้ที่มารายงานเอาแต่ก้มหน้า ไม่กล้าเผชิญกับเพลิงโทสะของกุ้ยเฟย“บ่าว…บ่าวได้ยินเองกับหู ไทฮองไทเฮาทรงมีรับสั่ง…”“พอแล้ว!” กุ้ยเฟยไม่อยากฟังต่อนางทั้งตกใจทั้งสับสนไม่ใช่ว่าไทฮองไทเฮากลับวังมาเพื่อตรวจความบริสุทธิ์ของฮองเฮาหรอกหรือ!เหตุใดจึงรีบร้อนจะให้ฮ่องเต้กับฮองเฮาเข้าหอเสียได้?แววตาของกุ้ยเฟยเย็นยะเยียบน่ากลัว“ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง ไทฮองไทเฮาได้ถามเรื่องที่ฮองเฮาถูกลักพาตัวหรือไม่!”ข้ารับใช้คนนั้นส่ายหน้า“เรื่องนี้ บ่าวไม่แน่ใจพ่ะย่ะค่ะ“ภายในตำหนักมีคนอยู่ปรนนิบัติเพียงไม่กี่คน บ่าวอยู่ด้านนอก ได้ยินที่พวกเจ้านายคุยกันไม่ชัดนัก”กุ้ยเฟยฟังแล้วหน้าซีดนางอยากรู้เหลือเกินว่าไทฮองไทเฮาคิดจะทำอะไรกันแน่!ในเมื่อฮองเฮาไม่บริสุทธิ์ สิ่งแรกที่ควรทำก็คือปลดจากตำแหน่งฮองเฮาไม่ใช่หรือ?ด้วยนิสัยที่ไม่ยอมคนของไทฮองไทเฮาแล้ว เหตุใดจึงยอมให้…กุ้ยเฟยว้าวุ่นสับสนราวกับมีบางสิ่งบางอย่างกำลังค่อย ๆ หลุดจากการควบคุมของนางนางถามข้ารับใช้คนนั้นต่ออย่างเร่งร้อน“แล้วต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 95

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมองอุปกรณ์ร่วมบรรทมพวกนี้แล้วต้องมุ่นคิ้วนับวันก็ยิ่งเหลวไหลจริง ๆ!เซียวอวี้เล่า? เขายอมรับการจัดแจงเช่นนี้ได้อย่างไร!โจวหมัวมัวสั่งนางกำนัลพวกนั้น“วางของลงแล้วปรนนิบัติฮองเฮาสรงน้ำ”“เจ้าค่ะ—”เฟิ่งจิ่วเหยียนตัดบทเสียงทุ้ม“ให้เหลียนซวงปรนนิบัติแค่คนเดียวก็พอ”โจวหมัวมัวค่อนข้างที่จะตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเองเป็นผู้ตัดสินใจเด็ดขาด นางวางตัวเป็นผู้อาวุโสของเฟิ่งจิ่วเหยียนโดยอาศัยว่าตนได้รับคำสั่งจากไทฮองไทเฮา“ฮองเฮา ท่านเพิ่งเคยร่วมบรรทมเป็นครั้งแรก ไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ของทางในวัง“การสรงน้ำก่อนร่วมบรรทมแตกต่างจากการสรงน้ำปกติ กระบวนการมีความละเอียดมากมาย!“นางกำนัลแค่คนเดียวจะทำไหวได้อย่างไร“พระนาง อย่าให้ฝ่าบาทต้องรอนานเลยเพคะ”โจวหมัวมัวใช้แขนข้างหนึ่งทำท่าผายมือ ‘เชิญ’ ด้วยความเคารพดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา น้ำเสียงทุ้มต่ำ“ไทฮองไทเฮาส่งเจ้ามาเพื่อดูให้แน่ใจว่าเปิ่นกงข้ากับฝ่าบาทจะได้เข้าหอโดยราบรื่น“หากเปิ่นกงข้าไม่สบอารมณ์ขึ้นมา เจ้าก็คอยดูเถิดว่าเปิ่นกงข้าจะยอมเข้าหอหรือไม่”โจวหมัวมัวตกใจถ้อยคำของฮองเฮาจองหองอวดดีมาก!ครั้นลองคิดดูอีกครั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 96

    เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินไปข้างหน้าสองก้าว แววตาราบเรียบไม่ไหวติงเซียวอวี้วางตำราลง สีหน้าของเขานิ่งขรึม มองแล้วเหมือนเจือด้วยความไม่พอใจ“อะไรกัน โจวหมัวมัวไม่ได้สอนวิธีร่วมบรรทมให้เจ้ารึ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนตั้งใจจดจ่อมาก ไม่อยากพลาดสีหน้าใด ๆ ของเขานางมองออกว่าเขาเองก็ไม่อยากเข้าหอเช่นกันทันใดนั้นเอง เซียวอวี้ก็ดึงแขนนางเข้าไปหาปลายนิ้วของเขาจับข้อมือนางแน่นโดยมีอาภรณ์กั้นอยู่สายตาที่มองมายังนางเย็นยะเยียบอยู่ในที ทั้งยังเจือด้วยความรุนแรงแห่งการทำลายล้าง“กลัวเจ็บรึ”เฟิ่งจิ่วเหยียนมุ่นคิ้วเล็กน้อยกลัวเจ็บอะไร?ใช่แบบที่นางเข้าใจหรือไม่?นี่หรือเขาจะฟังทำตามที่ไทฮองไทเฮาสั่ง จะทำตัวเป็นหลายชายผู้เชื่อฟังจริงหรือ?นางขัดขืนโดยพลัน กัดฟันกรอดจนแทบจะเกิดประกายไฟพร้อมกับจ้องเขาตาเขม็งโดยไม่ตอบอะไรใบหน้าหล่อเหลาของบุรุษไม่มีความสะทกสะท้านเขาจับตัวนางด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างหยิบกริชเล่มหนึ่งออกมาสีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงราบเรียบ ภายในใจรู้สึกสงสัยเล็กน้อยเขาเอากริชมาทำอะไร?ชั่วพริบตานั้น นางนึกถึงคืนวันแต่งงานขึ้นมาเวลานั้นเขาสงสัยในความบริสุทธิ์ของนางและให้นางพ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 97

    กุ้ยเฟยแทบจะลุกขึ้นจากเก้าอี้อยู่แล้วเดี๋ยวนั้นเป็นไปไม่ได้!ฝ่าบาทไม่มีทางร่วมบรรทมกับเฟิ่งเวยเฉียง!แล้วก็ โลหิตบนผ้าพรหมจรรย์ต้องไม่ใช่เลือดพรหมจรรย์ของเฟิ่งเวยเฉียงแน่นอน!เพราะเฟิ่งเวยเฉียงสูญเสียความบริสุทธิ์ไปตั้งนานแล้ว!แววตาของกุ้ยเฟยเปลี่ยนแปลงไปมาภายในเวลาแค่พริบตา ในนั้นเปี่ยมด้วยความไม่เชื่อไทฮองไทเฮากลับทรงพอพระทัยมาก นางอนุญาตให้กุ้ยเฟยกลับไปได้ทันทีกุ้ยเฟยออกจากตำหนักวั่นโซ่ว นางใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปตลอดทางชุนเหอมีอาการไม่ต่างกันฝ่าบาทกับฮองเฮาเข้าห้องหอกันแล้วจริง ๆ หรือ?แต่ไม่ใช่ว่าฮองเฮา…ชุนเหอมองไปทางพระสนมของตัวเองตามสัญชาตญาณแววตาของกุ้ยเฟยราวกับอาบยาพิษ มันส่องประกายแดงฉานต้องมีปัญหาแน่!การเข้าหอต้องเป็นเรื่องตบตาแน่นอน!ด้านหนึ่งกุ้ยเฟยก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ ด้านหนึ่งก็ร้อนใจอยากเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อถามให้กระจ่างอีกด้านหนึ่งภายในตำหนักฉือหนิงไทเฮาทรงแปลกใจเมื่อทราบข่าวเรื่องการเข้าหอของฮ่องเต้และฮองเฮา“เรื่องนี้เป็นความจริงหรือ?”กุ้ยหมัวมัวพยักหน้า“ไม่ผิดแน่เพคะ โจวหมัวมัวของไทฮองไทเฮาคอยจับตาดูทุกขั้นตอน อีกทั้งผ้าพรหมจร

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 942

    หลังจากจับกุมพัศดีได้นั้น เขาหาได้มีท่าทีสำนึกผิดไม่“ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยทำสิ่งใดผิดไปงั้นหรือ…”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดมองเขาไม่ นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาพลางกล่าวออกมาว่า“ในฐานะพัศดีนั้น กลับกระทำการรับสินบน ติดต่อกับศัตรูต่างแคว้น ย่อมต้องถูกโทษประหาร!”พัศดีพลันมีสีหน้าซีดเผือดไปในทันทีเหตุใดถึง?ฮองเฮาทรงทราบว่าเขาลอบทำสิ่งใดเช่นนั้นหรือ?ผู้ใดเป็นคนทรยศเขากัน!พัศดีพลันรีบก้มลง พร้อมโขกหัวลงบนพื้นเพื่อ ร้องขอความเมตตา“ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยมิกล้าอีกแล้ว! ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิด ได้โปรด...”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดฟังเรื่องไร้สาระจากเขาไม่ พลางหันไปสั่งการกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคุกเทียนเหลาว่า“ข้าจักให้เวลาพวกเจ้าสามวัน ไปทำการสืบค้นเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าเสีย”“พ่ะย่ะค่ะ!” เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้รับผิดชอบนั้นพลันก้มหน้าลงด้วยความละอายใจเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงหันไปกล่าวกับพัศดีคนอื่น ๆ ที่ยืนเนื้อตัวสั่นเทาว่า“ภายในสามวันนี้ หากผู้ใดยอมสารภาพออกมาแต่โดยดี จักได้รับโทษสถานเบา หากว่าทำการสืบหาตัวมาได้เมื่อใดนั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 941

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมาพบกับถานไถเหยี่ยนอีกครั้ง แววตาของเขายังคงสงบเงียบดังเดิม ทว่า มิได้ไร้ชีวิตชีวาเหมือนดังแต่ก่อนอีกด้วย“ถานไถเหยี่ยน เจ้ารู้หรือไม่ว่า แคว้นตงซานได้ส่งราชทูตมาขอพาตัวเจ้ากลับไปจัดการด้วย?”ถานไถเหยี่ยนพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉยเมย“คิดไว้แล้วว่าจักต้องเป็นเช่นนี้“พวกเขาหาได้มาเพื่อข้าไม่ แต่มาเพื่อ ‘ใยแมงมุม’ ของตระกูลถานไถต่างหาก”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีท่าเคร่งขรึมไปในทันที“เจ้าจึงคิดใช้ประโยชน์จากคนทุกคน รวมไปถึงแคว้นตงซานด้วยหรือ”ถานไถเหยี่ยนพลันหัวเราะเยาะตนเองออกมา“ดังนั้น ชีวิตนั้นแสนสั้น อย่างไรย่อมต้องถูกผู้อื่นสังหารตามอำเภอใจ”เขารู้ดีว่า หากตนเองกลับไปถึงแคว้นตงซานเมื่อใดนั้น จุดจบคงมิได้ดีนักทว่า เขาหาได้กลัวตายไม่ ทั้งยังมองดูความตายอย่างไม่ยี่หระอีกด้วยเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยตรงเข้าประเด็นในทันที“เจ้าคิดดีแล้วหรือ”เรียวคิ้วดวงตาที่งดงามของถานไถเหยี่ยน พลันเผยให้เห็นท่าทีเด็ดขาดออกมาหากเขายังตัดสินใจไม่ได้ เขาคงมิมาขอพบนางเช่นนี้“กระหม่อมเต็มใจที่จะช่วยให้หนานฉีรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ” พูดจบ เขาพลันโค้งกายคำนับเฟิ่งจิ่วเหยียนในทันที

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 940

    ราชทูตหลี่หลิงแสดงสีหน้าประหลาดใจทันทีทำการค้า?นี่เป็นการบังคับฝืนใจกันโดยแท้แคว้นตงซานพวกเขาไม่เคยทำการค้ากับแคว้นอื่นมาก่อนทว่าหากไม่ยินยอม เกรงว่าฮ่องเต้ฉีจักต้องให้พวกเขาชดเชยด้วยการยกดินแดนให้เป็นแน่!ต้องโทษที่เขาผิดพลาดเพราะคำพูด จนสร้างปัญหาเช่นนี้!หลี่หลิงรู้สึกเสียใจอย่างมาก พร้อมกับมองไปทางหยวนจั้นที่อยู่ข้างกันหยวนจั้นพยักหน้าเบา ๆหลังจากหลี่หลิงได้รับอนุญาต ถึงได้ก้าวไปข้างหน้า“เรื่องทำการค้า ถือเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองแคว้น กระหม่อมจะนำเจตนารมณ์นี้กราบทูลต่อกษัตริย์ของกระหม่อม!”เวลายิ่งนานอุปสรรคยิ่งมาก เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีทางให้โอกาสพวกเขาได้กลับคำ“ฝ่าบาท แม้จริงอยู่ที่ว่าเรื่องดี ๆ มักจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่หม่อมฉันกลัวว่าเวลาจะไม่คอยท่า มิสู้ให้คนร่างหนังสือข้อตกลงขึ้นมา แล้วให้ราชทูตลงนาม จากนั้นค่อยนำกลับไปยังแคว้นตงซาน พร้อมกับออกสาส์นตราตั้งอย่างเป็นทางการ?”ราชทูตถูกส่งมา ก็ถือเป็นตัวแทนของฮ่องเต้นั่นเอง ทันทีที่ลงนาม ก็จะไม่มีทางกลับคำเซียวอวี้ยิ้มน้อย ๆ และกุมมือเฟิ่งจิ่วเหยียนต่อหน้าฝูงชน“นับว่าฮองเฮาวิเคราะห์ได้รอบคอบ“ใครก็ได้ ไปร่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 939

    แคว้นตงซานมีราชทูตสองคนหลี่หลิงผู้นั้นตกหลุมพรางกับคำพูด เมื่อเห็นว่าทำให้แคว้นตนกำลังตกอยู่ในอันตราย เหงื่อก็เริ่มผุดออกมาเต็มใบหน้าเขามองไปทางราชทูตอีกผู้หนึ่ง---หยวนจั้นชายหนุ่มรูปร่างซูบผอม ท่าทางดูเหมือนใจเย็น ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ แทบจะมิได้เอ่ยสิ่งใดเลยในยามนี้ เขาเอ่ยอย่างช้า ๆ “กระหม่อมได้ยินว่า ครั้งนี้หนานฉีเอาชนะแต่ละแคว้นได้ เป็นเพราะมีตัวช่วยอย่าง ‘ใยแมงมุม’ ที่ดัดแปลงโดยตระกูลตงฟาง ทว่าการค้นพบ ‘ใยแมงมุม’ ก็เป็นความดีความชอบของถานไถเหยี่ยนเช่นกัน“ดังนั้น กระหม่อมสงสัยว่า ถานไถเหยี่ยนยุยงให้เกิดข้อพิพาท ก็เพื่อล่อลวงกองกำลังของแต่ละแคว้นมาที่หนานฉี ทำให้ง่ายต่อการที่จะทำลายแต่ละแคว้น“มิเช่นนั้นจะทำไปเพื่อเหตุใด ตามหลักเหตุผล แคว้นท่านจักต้องเกลียดชังถานไถเหยี่ยนจนเข้ากระดูก ทว่าตอนนี้แค่เพียงจับเขาคุมขังไว้?“หากมองจากสิ่งนี้ แคว้นท่านไม่ยินยอมที่จะมอบถานไถเหยี่ยนให้ในตอนนี้ ก็เพื่อต้องการจะปกป้องชีวิตถานไถเหยี่ยน”ขุนนางหนานฉีเริ่มโมโห“ช่างพูดจาใส่ร้ายอย่างชั่วช้า! คนเลวนั้นกล่าวโทษคนอื่นเพื่อปกปิดความผิดตน!”“เมื่อครู่ยังพูดว่าถานไถเหยี่ยนเป็นคนของแคว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 938

    ราชทูตแคว้นตงซานมาพร้อมกับผ้าทอและอาชา เริ่มจากปฏิบัติด้วยความสุภาพก่อน“แคว้นตงซานเราไม่เคยเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างแคว้น ครั้งนี้แต่ละแคว้นมาล้อมโจมตีหนานฉี ฮ่องเต้พวกเราก็ได้ยินข่าวลือเหล่านี้เช่นกัน ต่างพูดกันว่า ข้อพิพาทนี้ ต้นเหตุมาจากการยุยงของแคว้นตงซาน”ราชทูตแคว้นอื่นต่างมองหน้ากันราชทูตแคว้นตงซานผู้นี้หมายความว่าอย่างไร? คำนึงแต่ตนเองไม่สนใจผู้อื่นรึ?ในตอนแรก มิใช่แคว้นตงซานพวกเขาส่งคนมาพูดหว่านล้อมว่า หากร่วมมือกับพวกเขาโจมตีหนานฉี จะแบ่งดินแดนหนานฉีให้หรอกหรือ!หลี่หลิงราชทูตแคว้นตงซานกล่าวต่อ“หลังจากสืบสวนอยู่หลายทาง พวกเราถึงสืบพบว่า เดิมทีแล้ว ทั้งหมดนี้ถานไถเหยี่ยนเป็นคนทำ“เขาหลอกลวงอวดอ้าง จนได้รับความไว้วางพระทัยจากฝ่าบาทของเรา ถูกยกย่องให้เป็นราชครู และถือเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของแคว้นตงซานด้วย “นึกไม่ถึงว่า เขายังไม่พึงพอใจกับสิ่งนี้ เจตนาจะหลอกล่อกษัตริย์ของเรา ให้กษัตริย์ของเราโจมตีหนานฉี เพื่อจะได้เป็นมหาอำนาจ กษัตริย์ของเรามีสติ จึงไม่หลงกลการยั่วยุ“นึกไม่ถึงว่าเขายังไม่ยอมหยุดความคิดชั่วร้าย ยังแอบตระเวนไปยังแต่ละแคว้น เพื่อยุยงให้แต่ละแคว้นล้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 937

    เรื่องส่งคืนกองทัพอินทรีเหินให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียน ตอนที่นางเสร็จสิ้นจากการไปเป็นราชทูตที่แคว้นซีหนี่ว์ เซียวอวี้ก็เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ทว่าภายหลังเจอกับสงครามครั้งใหญ่ เรื่องนี้จึงถูกพักไว้ก่อนเซียวอวี้เป็นฝ่ายเริ่มพูดเรื่องนี้ ซ้ำยังเตรียมการทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี ถือว่ามีความจริงใจเต็มเปี่ยมโดยมิต้องสงสัยทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับเป็นกังวล“เรื่องนี้ ราชสำนักรู้หรือไม่เพคะ?”เซียวอวี้สวมกอดนางจากทางด้านหลัง ราวกับได้ครอบครองทั้งใต้หล้า“เราเคยเรียกพบขุนนางคนสำคัญหลายคนในราชสำนักตั้งแต่แรก เพื่อบอกเรื่องนี้กับพวกเขา พวกเขาต่างก็คิดว่า เราสมควรทำเช่นนี้“วันนี้ประชุมราชกิจ เราก็ประกาศกับเหล่าขุนนางอย่างเป็นทางการแล้ว ทว่าก็มีบางคนคัดค้านเช่นกัน แต่เราพูดเพียงว่า ‘ตอนนี้หนานฉีต้องโจมตีกับแคว้นอื่น ผู้ใดที่คัดค้าน เราจะให้ออกไปสนามรบ’ ดังนั้น พวกเขาก็พากันเงียบกริบ“เจ้าเห็นหรือไม่ เรื่องนี้มิได้ยากเย็น”ถึงแม้เขาเอ่ยออกมาดูเหมือนจะง่ายดาย เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับรู้ว่า เพื่อตราคำสั่งทหาร เขาต้องทุ่มเทความพยายามอย่างมากขุนนางใหญ่ในราชสำนักเหล่านั้น โดยเฉพาะขุนนางอาวุโส แต่ละคนมีฝีปา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 936

    เซียวอวี้กับเซียวฉีเริ่มจะขัดแย้งกันเขานึกไม่ถึงว่า เซียวฉีจะใส่ร้ายเขาต่อหน้าจิ่วเหยียนเช่นนี้“วาดภาพ” อะไรกัน เขาจำสิ่งใดมิได้เลย!เซียวฉีเล่าออกมาเป็นเรื่องเป็นราว“ตอนที่เขาออกไปเที่ยวเล่นกับเหล่าเสด็จพี่ อาภรณ์ของทุกคนเรียบร้อยกันหมด ทว่าของเขามักจะทำขาดอยู่เสมอ ซ้ำยังขาดตรงส่วนก้นด้านหลัง จนเห็นกางเกงลายดอกไม้ยามเหมันต์ และเพราะกลัวเสด็จพ่อจะทรงดุ จึงต้องเดินถอยหลัง“พอโตขึ้นมาหน่อย เขาก็ชอบไปเล่นกับสาวน้อยนางกำนัล...”“พูดจาเพ้อเจ้อ! เราเคยทำเรื่องแบบนั้นที่ไหนกัน!” เซียวอวี้ไม่ยอมรับ จึงตะโกนเรียกเฉินจี๋ให้เข้ามาทันที เพื่อใช้กำลังขับไล่เซียวฉีออกจากตำหนักหย่งเหอองค์หญิงใหญ่มิยอมให้เซียวอวี้อยู่อย่างสงบ ขณะถูกพาตัวไป นางยังพยายามจะหันกลับมา พร้อมตะโกน“สาวน้อยนางกำนัลไม่ยอมเล่นกับท่าน ท่านยังแกล้งนอนคว่ำอยู่บนพื้น ฮองเฮา เขายังชักดิ้นชักงอด้วย!”สีหน้าของเซียวอวี้หม่นคล้ำราวกับน้ำหมึก“ปิดปากนางไว้!”ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน เฉินจี๋ตื่นตระหนกจนมิรู้จะใช้วิธีใด จึงรีบทำให้ตัวคนหมดสติทันทีก่อนองค์หญิงใหญ่จะหมดสติ ก็ยังเหลือกตาขาวในตำหนักชั้นในขณะที่เซียว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 935

    ราชทูตจากแคว้นต่าง ๆ มาโดยพร้อมเพรียง และเข้าพักในโรงพักแรมเหล่าราษฎรได้ยินเรื่องนี้ ภายใต้แรงผลักดันจากความโกรธแค้น จึงรวมตัวกันไปก่อจลาจลที่โรงพักแรม เพื่อต้องการจะสั่งสอนกลุ่มราชทูตเหล่านั้นยังมีชาวยุทธภพบางส่วน อาศัยวิทยายุทธ์อันแข็งแกร่ง พยายามบุกเข้าไปในโรงพักแรมพวกเขาจับราชทูตมัดไว้ และพาออกไปด้านนอก เพื่อให้เหล่าราษฎรได้ขว้างปาผักเน่า และด่าประณามเหล่าราชทูตมิกล้าต่อต้าน และมิอาจต่อต้านได้ด้วยราชทูตของต้าเซี่ยมิอาจทนต่อความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้“ราษฎรเลวทราม! ราษฎรเลวทราม!! ข้าเป็นราชทูต พวกเจ้าทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้!”สิ่งที่เขาได้รับจากการขัดขืน คือฝ่ามือของเหล่าราษฎรเป็นเพราะคนเหล่านี้ ที่เกือบจะทำให้หนานฉีต้องล่มสลายพวกเขายังมีหน้ามาหนานฉีอีกหรือ?เหล่าราษฎรระบายความโกรธอยู่พักหนึ่ง ไม่นานก็ถูกทางการปราบปราม เหล่าราชทูตจึงได้รับการช่วยเหลือ แต่ละคนใบหน้าปูดบวมเขียวช้ำ สติมึนงงณ หอสุราใกล้เคียง ภายในห้องส่วนตัวบนชั้นสองราชทูตสองคนของแคว้นตงซานยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้านนอกโรงพักแรมหนึ่งในนั้นรู้สึกโชคดี“ท่านแม่ทัพหยวน โชค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 934

    เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเซียวอวี้ตื่นขึ้นมา ก็ไม่เห็นเงาของเฟิ่งจิ่วเหยียนแล้วคงจะตื่นเช้าไปฝึกยุทธ์อีกเป็นแน่เซียวอวี้เปลี่ยนอาภรณ์ด้วยตนเอง มิได้ให้ผู้ใดมารับใช้หลิวซื่อเหลียงยกอ่างน้ำร้อนเข้ามา “ฝ่าบาท ฮองเฮาทรงเสด็จไปที่คุกเทียนเหลาตั้งแต่เช้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้ขมวดคิ้วมุ่นนางไปคุกเทียนเหลาด้วยเหตุใด?ณ คุกเทียนเหลาระหว่างเฟิ่งจิ่วเหยียนกับถานไถเหยี่ยน มีเพียงประตูคุกคั่นอยู่หนึ่งบานถานไถเหยี่ยนนั่งสงบนิ่งอยู่ข้างกำแพง บนกำแพงที่อยู่ด้านหลังยังสลักภาพ “ใยแมงมุม” ไว้ ภายใต้แสงเงา ยิ่งขับเน้นให้เขาดูเยือกเย็นเป็นพิเศษ“ฮองเฮาเสด็จมาเอง คิดว่าคงมิได้มาเพื่อพูดคุยความหลังกับข้ากระมัง”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูดุดัน“แคว้นตงซานส่งราชทูตมาที่หนานฉี ก็เพื่อช่วยเหลือเจ้า”สีหน้าของถานไถเหยี่ยนดูเป็นปกติ“จะช่วยข้า หรือจะสังหารข้า ก็ไม่ต่างกัน”ดูเหมือนเขาจะถอดใจแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนถามขึ้นในทันที “อาจารย์เต็มใจจะอยู่ที่หนานฉีหรือไม่”ถานไถเหยี่ยนรู้สึกประหลาดใจ หลังจากตะลึงงันอยู่ชั่วขณะ ก็เงยหน้าขึ้นมองนางเห็นนางมีสีหน้าจริงจัง ไม่เหมือนพูดหยอกล้อ“ฮองเฮา ทรงมิอ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status