Share

บทที่ 896

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
เหล่าราษฎรที่ได้รับข่าวสารกันอย่างกว้างขวางนั้น

เมื่อทุกคนรู้ว่าฮองเฮาเสด็จไปยังชายแดนตะวันออก ทั้งยังออกรบจนแคว้นต้าเซี่ยและกองกำลังพันธมิตรทั้งสี่แคว้นถอยร่นออกไปไกลนับสิบลี้

ยังมิทันที่ราชสำนักจักประกาศเฉลิมฉลองออกมา เหล่าราษฎรก็พากันยินดีกันถ้วนหน้าไปแล้ว

นักเล่าเรื่องบนท้องถนน บัณฑิตในร้านน้ำชา ต่างก็เอ่ยถึงความสำเร็จของฮองเฮายังกว้างขวาง

“เมื่อเหล่าแคว้นที่อยู่รอบด้านรวมกำลังพลโจมตีหนานฉีนั้น ฟังดูน่ากลัวยิ่งนัก ที่แท้ทุกอย่างก็เพียงแค่โครงประดับ! ในยามนี้ พวกเขายังไม่มีปัญญาฝ่าแนวป้องกันชายแดนของหนานฉีของพวกเราเข้ามาได้ภาคใต้ได้ ช่างน่าขันเสียจริง!”

“ชายแดนเหนือของพวกเรามีค่ายทหารเหนือที่กล้าหาญชาญชัย ทั้งยังมีรัฐเหลียงที่กำลังร่วมปกป้องชายแดนหนานฉีอีก หนานเจียงเองมีกองกำลังเสริมของรุ่ยอ๋อง ทางชายแดนตะวันตกมีหนานซานอ๋องผู้แกร่งกล้า ยามนี้ชายแดนตะวันออกมีฮองเฮา ทั้งยังเคยเป็นเทพสงครามแห่งค่ายทหารเป่ยต้าอีก! เวลานี้กองกำลังพันธมิตรล้ำเลิกที่จะบุกเข้ามาโจมตีหนานฉีของพวกเราไปได้เลย!”

“ข้าได้ยินมาว่าฮองเฮาสร้างเนินฝังศพขึ้นมา เพื่อทำลายขวัญกำลังใจของกองทัพฝ่ายศัตรู ทำเอาแคว้นต้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 897

    นับตั้งแต่ที่มู่หรงหลันสมคบคิดกับพรรคเทียนหลงนั้น ทั้งยังวางแผนบีบบังคับนางในวัดอีก ตระกูลมู่หรงก็ถูกฝ่าบาทจงเกลียดจงชังในทันทีไทฮองไทเฮาที่ถูกจองจำอยู่ที่ภูเขาอวี้หยางนั้น ตระกูลมู่หรงย่อมมิมีสิทธิ์อันใดที่จักไปเอ่ยพูดต่อหน้าฮ่องเต้ได้อีกนับว่าโชคดีที่ฝ่าบาททรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าให้พวกเขาได้เข้ามาเยี่ยมเยียนไทฮองไทเฮาได้บ้างทว่า ไทฮองไทเฮาหาได้ดีใจที่ได้เห็นบุตรหลานเหล่านี้ไม่ยามที่นางยังเป็นสาวแรกรุ่นอยู่นั้น ก็จำเป็นต้องหาผลประโยชน์เพื่อตระกูลฝ่ายมารดา แม้นางจักแก่ชราแล้วในยามนี้ พวกเขาก็ยังมิวายปล่อยนางไปอีก!ผู้ที่มาเยือนภูเขาอวี้หยางในวันนี้ คือภรรยาของหลานชายที่ล่วงลับไปแล้วของนาง——ภรรยาเอกของบิดามู่หรงหลันนามว่าอันซื่อ และหลานชายหลานสาวของตระกูลสายรองอีกจำนวนหนึ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับใบหน้าซีดเซียวของเหล่าลูกหลานนั้น ไทฮองไทเฮาหาได้ปล่อยโอกาสให้พวกเขาเอ่ยอันใดออกมาไม่ พลางเอ่ยออกมาตามตรงว่า“เราถูกมู่หรงหลันทำร้ายจนต้องตกมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ พวกเจ้ายังคิดให้เราทำอันใดเพื่อพวกเจ้าอีกงั้นหรือ!“แต่นี้ไป พวกเจ้ามิจำเป็นต้องมาที่ภูเขาอวี้หยางอีกต่อไปแล้ว!”นางเพียงแค่ต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 898

    หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินทางไปยังชายแดนตะวันออกนั้น เซียวอวี้ก็เขียนจดหมายส่งถึงนางทุกวันไม่มีขาดแต่นางมักจะตอบเขากลับทุก ๆ สองสามวันเซียวอวี้หาได้คิดโทษนางไม่ ถึงอย่างไร นางที่อยู่ป้องกันศัตรูที่ชายแดนตะวันตกนั้น เขากลัวว่านางจักยุ่งจนมิมีเวลาแม้แต่จะกินข้าวกินปลา ชำระกายเลย การที่นางจักเขียนจดหมายตอบกลับมายามที่มีภารกิจติดพันตัวเป็นร้อยอย่างนั้น หาใช่เรื่องง่ายดายไม่ ทว่า เมื่อเซียวอวี้ได้ยินเฉินจี๋กล่าวว่า “ไม่มี” นั้น ภายในใจก็ทำเอารู้สึกผิดหวังขึ้นมาไม่ได้ที่เขาอยากเห็นจดหมายของนางนั้น นั่นเป็นเพราะเขาเป็นห่วงนาง อยากรู้ว่านางเป็นอย่างไรบ้างช่วงนี้เซียวอวี้ใช้มือข้างเดียวกุมหน้าผากของตนเองเอาไว้ ก่อนจะนวดคลึงไปที่หัวคิ้วของตนเอง พลางเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า: “ทางฝั่งของตงฟางซื่อเป็นเช่นไรบ้าง?”ตามแผนของเขาและจิ่วเหยี่ยนนั้น พวกเขาจักต้องทำให้กองกำลังศัตรูที่อยู่ชายแดนทั้งสี่ตั้งมั่นเสียก่อน เพื่อที่กองกำลังของตงฟางซื่อจักจัดการ “ใยแมงมุม” ให้สำเร็จเพราะเหตุนี้ เซียวอวี้จึงได้ส่งคนไปช่วยกลุ่มของตงฟางซื่อไม่น้อยเลยทีเดียวเฉินจี๋ตอบกลับด้วยท่าทีเคารพ“ไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 899

    กองกำลังพันธมิตรทั้งสี่ที่เตรียมกำลังพร้อมสู้รบนั้น พวกเขาต่างพากันมองไปยังด่านเฉาอวี๋ที่อยู่ไกล ๆ ราวกับลูกไก่ที่อยู่ในกำมือซ่านชุนมีความสุขยิ่งนัก เขาร่ำสุราลงไปหนึ่งถ้วย ก่อนจะร้องเพลงเสียงดังออกมา“ด่านเฉาอวี๋ ด่านเฉาอวี๋ สายลมพัดพาแขกมาเยือนนับหมื่นลี้! อีกไม่นาน ก็จักเป็นด่านเฉาอวี๋ของแคว้นต้าเซี่ยแล้ว!”ในวันเดียวกันนั้น ซ่านชุนก็ได้เขียนจดหมายส่งถึงจักรพรรดิ พลางเอ่ยเล่าเกี่ยวกับกองกำลังป้องกันของหนานฉี ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจว่า ชายแดนตะวันออกสามารถโจมตีได้ ขอให้พระองค์ช่วยส่งกองกำลังทหารมาเพิ่มอีกสามแคว้นก็ทำเช่นเดียวกัน พลันค่อย ๆ ทยอยส่งกองกำลังภายในแคว้นของตนเองออกมาศึกในครานี้ จักต้องได้ชัยกลับมาเท่านั้น!ในเมื่อหนานฉีไม่มีปืนมังกรไฟเช่นนี้ พวกเขาก็หามีอันใดให้ต้องกลัวไม่สำหรับเฟิ่งจิ่วเหยียนแล้ว แม้ว่าวรยุทธ์ของนางจักสูงส่งเพียงใด หากมิมีกำลังพลทหารที่เพียงพอ แม้แต่แม่บ้านแม่เรือนที่เฉลียวฉลาดก็มิสามารถหุงข้าวโดยไร้ข้าวสารไม่!แววตาของซ่านชุนพลันเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของนักสู้ในทันที“สั่งการลงไป ให้ทุกคนเตรียมจัดกระบวนทัพธนู!”“ขอรับ! ท่านแม่ทัพ!”พลั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 900

    หลังจากที่ฮ่องเต้แห่งต้าเซี่ยได้รับจดหมายของซ่านชุนนั้น เขาก็รีบสั่งการให้นำทัพใหญ่บุกเข้าไปตีด่านเฉาอวี๋ในทันทีหนึ่งเดือนต่อมา เมื่อกำลังเสริมจากทั้งสี่แคว้นมารวมตัวกันที่ด้านนอกด่านเฉาอวี๋นั้น กองกำลังพลันมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ขึ้นเป็นเท่าตัวกองทัพใหญ่จำนวนสองแสนนายนั้น กำลังยืนอยู่ด้านหน้าประตูเมือง มวลคนสีดำทมึนกำลังเคลื่อนที่มาอย่างรวดเร็วซ่านชุนผู้เป็นผู้นำของกองทัพนั้น พลันมีสีหน้ามืดครึ้มเขาต้องการสังหารพวกชาวหนานฉีที่หัวเราะเยาะเย้ยเขามานานแล้ว!“กระบวนทัพพลธนู เตรียมพร้อม!”เหล่าทหารที่มีหน้าที่รับผิดชอบธนูนั้น จึงก้าวขึ้นมาข้างหน้า พลางง้างคันธนูออกมาเพื่อเล็งไปที่กำแพงด่านเฉาอวี๋ในทันทีเมื่อเทียบกับธนูทั่วไปแล้ว หน้าไม้ของธนูนี้จักมีระยะยิงที่ไกลกว่า ทั้งยังมีความแม่นยำที่มากกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากนี้ กลไกที่ใช้หน้าไม้ดึงสายและยิงธนูนั้น ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากกว่าทว่า การทำธนูเช่นนี้ขึ้นมานั้น มีความซับซ้อนยิ่งนักทั้งลำกล้อง ข้อเหวี่ยง ตาแมวที่ใช้ในการเล็ง กลไกในการเหนี่ยวไกและอีกมากมายนั้น จำเป็นต้องใช้ช่างที่มีฝีมือละเอียดละออการทำธนูขึ้นมาหาใช

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 901

    ด่านเฉาอวี๋ไร้การป้องกันเป็นเวลานานแล้ว ส่วนทหารที่ถูกศรหน้าไม้ยิง ล้วนเป็นหุ่นฟาง เป็นคนปลอม! ในโสตของซ่านชุนเต็มไปด้วยเสียงอื้ออึง ฝ่ามือที่กำทวนยาวชื้นไปด้วยเหงื่อ ทั้งเจ็บใจ และไม่ยอมรับ! เขาถูกชาวฉีปั่นหัวเล่นอีกแล้ว!! ทว่า จักไม่มีใครเลยได้อย่างไร! ด่านเฉาอวี๋เป็นปราการสำคัญแห่งชายแดนตะวันออกของหนานฉี! ซ่านชุนไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ชาวฉีเหล่านั้นคิดจะทำอันใดแน่ เขาหาได้เชื่อคำพูดของทหารสอดแนมไม่ และต้องการไปยืนยันด้วยสายตาของตนเอง ประตูเมืองด่านเฉาอวี๋ ถูกข้าศึกที่บุกเข้าไปเปิดเอาไว้ ซ่านชุนจึงขี่อาชา เข้าเมืองได้อย่างง่ายดาย ในด่านว่างเปล่า ไม่มีกระโจมทหาร และกำลังพลแม้แต่นายเดียว เขาวิ่งขึ้นไปบนหอประตูเมืองอีก เป็นจริงดั่งที่ทหารสอดแนมรายงาน ทหารหนานฉีที่ยืนเรียงแถวบนกำแพงเมือง ล้วนเป็นหุ่นฟางในชุดเกราะ! เหล่าทหารที่พยายามปีนขึ้นกำแพงเมืองอย่างลำบาก และเหนื่อยจนลำคอแห้งผากนั้น ตอนนี้ทุกคนต่างหันมองหน้ากัน รู้สึกทำอะไรไม่ถูกอย่างงงงวย พวกเขาทุกคนพร้อมที่จะต่อสู้จนตัวตาย ฝ่ายตรงข้ามกลับวิ่งหนีไปแล้ว... ชั่วขณะหน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 902

    เมื่อเข้าสู่กานโจว เฟิ่งจิ่วเหยียนพักอยู่ในโรงพักแรมชั่วคราว ซึ่งสะดวกกว่าการนอนในกระโจมตามปกตินัก นางตรวจตราค่ายทหารเสร็จ และกลับมาที่โรงพักแรม เวลาก็ใกล้ยามจื่อแล้ว จางฉวนยังไม่เข้านอน และตั้งใจมานั่งรอนางที่ธรณีประตู ครั้นได้เห็นฮองเฮา จางฉวนพลันผุดลุกขึ้นยืนเพื่อทำความเคารพทันที “ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ!” เฟิ่งจิ่วเหยียนถามอย่างเรียบเฉย “ดึกมากแล้ว เจ้ายังมีธุระใดกับข้า” จางฉวนกำชายเสื้อไว้แน่น ดูลำบากใจไม่น้อย “ฮองเฮา ข้า ข้าคิดถึงท่านแม่...” ในยามปกติเขามักจะทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย อันที่จริงแล้วเขายังเป็นเด็กชายคนหนึ่ง เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้เกลี้ยกล่อมไม่ “หยิ่นเอ้อร์ ให้คนส่งเขากลับไป” หยิ่นเอ้อร์คาบหญ้าหางสุนัขไว้ในปาก พลางมองไปที่จางฉวนด้วยแววตาหยอกล้อ เมื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนเดินจากไปแล้ว หยิ่นเอ้อร์ก็ดึงจางฉวนขึ้นมา “เจ้าหนู คงมิใช่กลัวสงคราม และอยากจะหนีกระมัง!” จางฉวนรีบปฏิเสธอย่างใส่อารมณ์ “ไม่จริง! ลูกผู้ชายมีจิตใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ จักละทิ้งหน้าที่ได้อย่างไร!” ทุกวันนี้ เขาติดตามทุกการเคลื่อนไหวของกองทัพให

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 903

    เพิ่งจะสูญเสียชายแดนตะวันออก ตอนนี้มาสูญเสียชายแดนเหนือไปอีก ช่างเป็นคลื่นลูกแรกไม่ทันหายคลื่นลูกหลังก็ตามมาซัดจริง ๆ เหล่าขุนนางต่างตื่นตระหนก และรู้สึกเหมือนกันว่า มันจบสิ้นแล้วจริง ๆ ... บนบัลลังก์มังกร เซียวอวี้ยังสงบมิแปรเปลี่ยน เขาเป็นฮ่องเต้ เป็นเสาหลักของหนานฉีทั้งหมด จึงมิอาจล้มลงได้ เมื่อออกจากราชสำนัก ขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊รวมตัวกันเป็นกลุ่ม ๆ และถอนหายใจไม่หยุด “ชายแดนเหนือจะปราชัยได้อย่างไร? กองทัพเยี่ยนโจมตีถึงที่ไหนแล้ว? นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันเอง ไฉนยังสร้างเรื่องไม่หยุดหย่อนทุกวัน? ก่อนหน้านี้ยังพูดว่า สามารถปกป้องชายแดนทั้งสี่ทิศได้ และศัตรูเข้ามาไม่ได้แน่!” “ฮองเฮานำทัพดุจเทพสร้าง ยังไม่อาจปกป้องชายแดนตะวันออกได้ ข้าคิดว่า ชายแดนตะวันตกและชายแดนใต้ก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน” พลังของแคว้นเดียว ย่อมมิอาจต้านทานพลังของสิบกว่าแคว้นได้! เหล่าขุนนางต่างกังวล และเตรียมพร้อมที่จะพลีชีพเพื่อแว่นแคว้นด้วย ในพระราชวัง เหล่านางสนมก็ได้ทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชายแดนตะวันออกและชายแดนเหนือเช่นกัน พวกนางรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 904

    ทั่วหมู่บ้านหลี่ ไร้เงามนุษย์แม้แต่คนเดียว! กองทัพพันธมิตรยืนมองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ แววตาของฮ่องเต้เยี่ยนคมกริบ พลางสั่งให้นำตัวทหารที่รอดชีวิตมาพบ ทหารแม้ถูกธนูยิง ก็ต้องถูกลากตัวมาสอบสวนอย่างน่าเวทนา เขาคุกเข่าลงกับพื้น พลางรายงานอย่างหนักแน่น “ฝ่าบาท เป็นตรงนี้พ่ะย่ะค่ะ! พวกเราถูกซุ่มโจมตีกันตรงนี้!” ฮ่องเต้เยี่ยนอยู่บนหลังอาชา ทอดสายตามองไปข้างหน้าอย่างเย็นชา “สถานที่แห่งนี้ ไม่มีแม้แต่ผีสาง!” ทหารสอดแนมที่ออกไปสำรวจก่อนหน้านี้ก็ถูกนำตัวมาด้วย “ฝ่าบาท เป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ ก่อนหน้านี้ยังมีชาวบ้านอยู่มากมาย!” ฮ่องเต้เยี่ยนกุมสายบังเหียนไว้แน่น เอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน “ไปค้นหาต่อ!” เหล่าทหารออกตรวจค้นทั่วหมู่บ้านหลี่ กลับไม่พบชาวบ้านแม้แต่คนเดียว รวมถึงทหารที่เสียชีวิตในการถูกซุ่มโจมตี ก็ไม่รู้ว่าถูกลากศพไปไว้ที่ใด หมู่บ้านหลี่แห่งนี้เปรียบเสมือนยมโลก เอ่อล้นด้วยพลังงานหยิน หิมะเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ ปกคลุมพื้นดินอย่างสมบูรณ์ ม่านตาของฮ่องเต้เยี่ยนฉายแววแดงฉานดุจเลือด แสดงถึงความกระวนกระวาย “เดินทัพต่อไป!” ตลอด

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 938

    ราชทูตแคว้นตงซานมาพร้อมกับผ้าทอและอาชา เริ่มจากปฏิบัติด้วยความสุภาพก่อน“แคว้นตงซานเราไม่เคยเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างแคว้น ครั้งนี้แต่ละแคว้นมาล้อมโจมตีหนานฉี ฮ่องเต้พวกเราก็ได้ยินข่าวลือเหล่านี้เช่นกัน ต่างพูดกันว่า ข้อพิพาทนี้ ต้นเหตุมาจากการยุยงของแคว้นตงซาน”ราชทูตแคว้นอื่นต่างมองหน้ากันราชทูตแคว้นตงซานผู้นี้หมายความว่าอย่างไร? คำนึงแต่ตนเองไม่สนใจผู้อื่นรึ?ในตอนแรก มิใช่แคว้นตงซานพวกเขาส่งคนมาพูดหว่านล้อมว่า หากร่วมมือกับพวกเขาโจมตีหนานฉี จะแบ่งดินแดนหนานฉีให้หรอกหรือ!หลี่หลิงราชทูตแคว้นตงซานกล่าวต่อ“หลังจากสืบสวนอยู่หลายทาง พวกเราถึงสืบพบว่า เดิมทีแล้ว ทั้งหมดนี้ถานไถเหยี่ยนเป็นคนทำ“เขาหลอกลวงอวดอ้าง จนได้รับความไว้วางพระทัยจากฝ่าบาทของเรา ถูกยกย่องให้เป็นราชครู และถือเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของแคว้นตงซานด้วย “นึกไม่ถึงว่า เขายังไม่พึงพอใจกับสิ่งนี้ เจตนาจะหลอกล่อกษัตริย์ของเรา ให้กษัตริย์ของเราโจมตีหนานฉี เพื่อจะได้เป็นมหาอำนาจ กษัตริย์ของเรามีสติ จึงไม่หลงกลการยั่วยุ“นึกไม่ถึงว่าเขายังไม่ยอมหยุดความคิดชั่วร้าย ยังแอบตระเวนไปยังแต่ละแคว้น เพื่อยุยงให้แต่ละแคว้นล้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 937

    เรื่องส่งคืนกองทัพอินทรีเหินให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียน ตอนที่นางเสร็จสิ้นจากการไปเป็นราชทูตที่แคว้นซีหนี่ว์ เซียวอวี้ก็เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ทว่าภายหลังเจอกับสงครามครั้งใหญ่ เรื่องนี้จึงถูกพักไว้ก่อนเซียวอวี้เป็นฝ่ายเริ่มพูดเรื่องนี้ ซ้ำยังเตรียมการทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี ถือว่ามีความจริงใจเต็มเปี่ยมโดยมิต้องสงสัยทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับเป็นกังวล“เรื่องนี้ ราชสำนักรู้หรือไม่เพคะ?”เซียวอวี้สวมกอดนางจากทางด้านหลัง ราวกับได้ครอบครองทั้งใต้หล้า“เราเคยเรียกพบขุนนางคนสำคัญหลายคนในราชสำนักตั้งแต่แรก เพื่อบอกเรื่องนี้กับพวกเขา พวกเขาต่างก็คิดว่า เราสมควรทำเช่นนี้“วันนี้ประชุมราชกิจ เราก็ประกาศกับเหล่าขุนนางอย่างเป็นทางการแล้ว ทว่าก็มีบางคนคัดค้านเช่นกัน แต่เราพูดเพียงว่า ‘ตอนนี้หนานฉีต้องโจมตีกับแคว้นอื่น ผู้ใดที่คัดค้าน เราจะให้ออกไปสนามรบ’ ดังนั้น พวกเขาก็พากันเงียบกริบ“เจ้าเห็นหรือไม่ เรื่องนี้มิได้ยากเย็น”ถึงแม้เขาเอ่ยออกมาดูเหมือนจะง่ายดาย เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับรู้ว่า เพื่อตราคำสั่งทหาร เขาต้องทุ่มเทความพยายามอย่างมากขุนนางใหญ่ในราชสำนักเหล่านั้น โดยเฉพาะขุนนางอาวุโส แต่ละคนมีฝีปา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 936

    เซียวอวี้กับเซียวฉีเริ่มจะขัดแย้งกันเขานึกไม่ถึงว่า เซียวฉีจะใส่ร้ายเขาต่อหน้าจิ่วเหยียนเช่นนี้“วาดภาพ” อะไรกัน เขาจำสิ่งใดมิได้เลย!เซียวฉีเล่าออกมาเป็นเรื่องเป็นราว“ตอนที่เขาออกไปเที่ยวเล่นกับเหล่าเสด็จพี่ อาภรณ์ของทุกคนเรียบร้อยกันหมด ทว่าของเขามักจะทำขาดอยู่เสมอ ซ้ำยังขาดตรงส่วนก้นด้านหลัง จนเห็นกางเกงลายดอกไม้ยามเหมันต์ และเพราะกลัวเสด็จพ่อจะทรงดุ จึงต้องเดินถอยหลัง“พอโตขึ้นมาหน่อย เขาก็ชอบไปเล่นกับสาวน้อยนางกำนัล...”“พูดจาเพ้อเจ้อ! เราเคยทำเรื่องแบบนั้นที่ไหนกัน!” เซียวอวี้ไม่ยอมรับ จึงตะโกนเรียกเฉินจี๋ให้เข้ามาทันที เพื่อใช้กำลังขับไล่เซียวฉีออกจากตำหนักหย่งเหอองค์หญิงใหญ่มิยอมให้เซียวอวี้อยู่อย่างสงบ ขณะถูกพาตัวไป นางยังพยายามจะหันกลับมา พร้อมตะโกน“สาวน้อยนางกำนัลไม่ยอมเล่นกับท่าน ท่านยังแกล้งนอนคว่ำอยู่บนพื้น ฮองเฮา เขายังชักดิ้นชักงอด้วย!”สีหน้าของเซียวอวี้หม่นคล้ำราวกับน้ำหมึก“ปิดปากนางไว้!”ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน เฉินจี๋ตื่นตระหนกจนมิรู้จะใช้วิธีใด จึงรีบทำให้ตัวคนหมดสติทันทีก่อนองค์หญิงใหญ่จะหมดสติ ก็ยังเหลือกตาขาวในตำหนักชั้นในขณะที่เซียว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 935

    ราชทูตจากแคว้นต่าง ๆ มาโดยพร้อมเพรียง และเข้าพักในโรงพักแรมเหล่าราษฎรได้ยินเรื่องนี้ ภายใต้แรงผลักดันจากความโกรธแค้น จึงรวมตัวกันไปก่อจลาจลที่โรงพักแรม เพื่อต้องการจะสั่งสอนกลุ่มราชทูตเหล่านั้นยังมีชาวยุทธภพบางส่วน อาศัยวิทยายุทธ์อันแข็งแกร่ง พยายามบุกเข้าไปในโรงพักแรมพวกเขาจับราชทูตมัดไว้ และพาออกไปด้านนอก เพื่อให้เหล่าราษฎรได้ขว้างปาผักเน่า และด่าประณามเหล่าราชทูตมิกล้าต่อต้าน และมิอาจต่อต้านได้ด้วยราชทูตของต้าเซี่ยมิอาจทนต่อความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้“ราษฎรเลวทราม! ราษฎรเลวทราม!! ข้าเป็นราชทูต พวกเจ้าทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้!”สิ่งที่เขาได้รับจากการขัดขืน คือฝ่ามือของเหล่าราษฎรเป็นเพราะคนเหล่านี้ ที่เกือบจะทำให้หนานฉีต้องล่มสลายพวกเขายังมีหน้ามาหนานฉีอีกหรือ?เหล่าราษฎรระบายความโกรธอยู่พักหนึ่ง ไม่นานก็ถูกทางการปราบปราม เหล่าราชทูตจึงได้รับการช่วยเหลือ แต่ละคนใบหน้าปูดบวมเขียวช้ำ สติมึนงงณ หอสุราใกล้เคียง ภายในห้องส่วนตัวบนชั้นสองราชทูตสองคนของแคว้นตงซานยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้านนอกโรงพักแรมหนึ่งในนั้นรู้สึกโชคดี“ท่านแม่ทัพหยวน โชค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 934

    เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเซียวอวี้ตื่นขึ้นมา ก็ไม่เห็นเงาของเฟิ่งจิ่วเหยียนแล้วคงจะตื่นเช้าไปฝึกยุทธ์อีกเป็นแน่เซียวอวี้เปลี่ยนอาภรณ์ด้วยตนเอง มิได้ให้ผู้ใดมารับใช้หลิวซื่อเหลียงยกอ่างน้ำร้อนเข้ามา “ฝ่าบาท ฮองเฮาทรงเสด็จไปที่คุกเทียนเหลาตั้งแต่เช้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้ขมวดคิ้วมุ่นนางไปคุกเทียนเหลาด้วยเหตุใด?ณ คุกเทียนเหลาระหว่างเฟิ่งจิ่วเหยียนกับถานไถเหยี่ยน มีเพียงประตูคุกคั่นอยู่หนึ่งบานถานไถเหยี่ยนนั่งสงบนิ่งอยู่ข้างกำแพง บนกำแพงที่อยู่ด้านหลังยังสลักภาพ “ใยแมงมุม” ไว้ ภายใต้แสงเงา ยิ่งขับเน้นให้เขาดูเยือกเย็นเป็นพิเศษ“ฮองเฮาเสด็จมาเอง คิดว่าคงมิได้มาเพื่อพูดคุยความหลังกับข้ากระมัง”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูดุดัน“แคว้นตงซานส่งราชทูตมาที่หนานฉี ก็เพื่อช่วยเหลือเจ้า”สีหน้าของถานไถเหยี่ยนดูเป็นปกติ“จะช่วยข้า หรือจะสังหารข้า ก็ไม่ต่างกัน”ดูเหมือนเขาจะถอดใจแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนถามขึ้นในทันที “อาจารย์เต็มใจจะอยู่ที่หนานฉีหรือไม่”ถานไถเหยี่ยนรู้สึกประหลาดใจ หลังจากตะลึงงันอยู่ชั่วขณะ ก็เงยหน้าขึ้นมองนางเห็นนางมีสีหน้าจริงจัง ไม่เหมือนพูดหยอกล้อ“ฮองเฮา ทรงมิอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 933

    ในเมื่อเป็นสามีภรรยากัน เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่มีสิ่งใดต้องปิดบังต่อเซียวอวี้ นางจึงบอกตามความจริง“ก็แค่จดหมายเพคะ”เซียวอวี้เลือกหยิบจดหมายขึ้นมาหนึ่งฉบับ เห็นบนนั้นเขียนว่า---[อาเหยียนที่รัก]สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา จากนั้นฝืนข่มความรู้สึกไม่พอใจนั้นไว้ และหันมายิ้มให้เฟิ่งจิ่วเหยียนพร้อมถามว่า“นี่ต้วนไหวซวี่เป็นคนเขียนทั้งหมดหรือ?”หว่านชิวยืนอยู่ด้านข้าง เหมือนจะรับรู้บางอย่าง ทว่าก็ยังไม่แน่ชัด และยังไม่เข้าใจหลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนเหลือบมองที่เซียวอวี้ ก็หันไปพูดกับหว่านชิว “เจ้าออกไปก่อน”“เพคะ ฮองเฮา”ในตำหนักชั้นในไม่มีผู้อื่น เหลือเพียงฮ่องเต้กับฮองเฮาสองคนเท่านั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนหยิบจดหมายฉบับนั้นมาจากมือเซียวอวี้ และเอ่ยอย่างจริงจัง“เรื่องในอดีต ฝ่าบาทจักสนพระทัยไปไยเพคะ”เซียวอวี้กลับคว้าข้อมือของนางไว้ “เราอยากอ่าน”เขาดูท่าทางจริงจังอย่างมาก “เราอยากรู้ว่า ในจดหมายของเขา เขียนอะไรบ้าง และยิ่งอยากรู้ว่า เจ้าตอบเขาว่าอย่างไร”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย“ฝ่าบาท...”เซียวอวี้เอ่ยแทรกคำพูดของนาง มองนางด้วยสายตาที่ยากจะเข้าใจ พร้อมกับย้อนถาม“ม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 932

    หลายวันก่อนเหล่าราชทูตก็ทยอยกันมาถึงแล้ว กำลังรอให้ฮ่องเต้ฉีเรียกเข้าเฝ้า เพื่อเจรจาเรื่องชดเชยการสงบศึกพวกเขามิอาจรบได้อีก และมิอาจเดิมพันได้ไหวหากหนานฉีโจมตีแว่นแคว้นของพวกเขาจริง ๆ จักต้องล่มสลายเป็นแน่ไม่เพียงแต่แคว้นเล็ก ๆ ที่ผู้คนรู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย แคว้นใหญ่อย่างต้าเซี่ยก็เช่นเดียวกันราชทูตต้าเซี่ยต้องการจะเข้าเฝ้าองค์หญิงใหญ่ เพราะหวังว่าองค์หญิงใหญ่จะออกหน้า ประสานความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้นทว่า แม้แต่ประตูจวนองค์หญิงใหญ่พวกเขาก็ยังมิอาจเข้าไปได้เหล่าราชทูตอยู่รวมกัน ต่างมองหน้ากัน และถอนหายใจพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย“เฮ้อ!”“ทุกท่าน พวกท่านจะยอมจำนนต่อข้อเรียกร้องของหนานฉี ยอมยกดินแดนตามที่พวกเขาต้องการจริงหรือ?”“แล้วจะอย่างไร? พวกเรายังมีทางเลือกอื่นอีกหรือ?”“พวกเรามิใช่เป่ยเยี่ยน ไม่มีกองกำลังมากพอที่จะต่อสู้กับหนานฉีได้ การสงบศึกถึงจะรับประกันความสงบสุขได้”เหล่าราชทูตสีหน้าซีดเผือด ราวกับแบกภูเขาลูกใหญ่ หายใจแทบไม่ออกหากรู้แต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ ตอนนั้นคงจะไม่เข้าร่วมกับการสู้รบครั้งนี้......จันทราลอยอยู่บนกิ่งไม้ ม่านราตรีมาเยือนงานเลี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 931

    เฟิ่งจิ่วเหยียนสังเกตว่า หลังจากเซียวอวี้ได้พบกับอาจารย์ศิษย์ทั้งสองคน หลายวันต่อมาหลังจากนั้นดูเหมือนในใจมีเรื่องครุ่นคิด คิ้วขมวดปมไม่คลาย คิดดูแล้วอาจจะวิตกกังวลเรื่องของมนุษย์โอสถขณะที่นางขี่ม้าอยู่ด้านหน้าเพื่อเปิดทาง จะรู้สึกอยู่เสมอว่ามีสายตาหนึ่งกำลังจ้องมองนางเมื่อหันกลับมา ก็มองเห็นเพียงเซียวอวี้ ใบหน้าเขาไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ดวงตาดำคล้ำคู่นั้นลึกล้ำยากจะหยั่งถึง มองไม่ออกว่าเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่ต้นเดือนเจ็ดกองทัพใหญ่ได้รับชัยชนะ และกลับมาถึงเมืองหลวงผู้คนในเมืองหลวงพากันออกจากบ้านเรือน มายืนอยู่ริมถนนสายหลักเพื่อต้อนรับกองทัพใหญ่ชาวบ้านต่างเปล่งเสียงด้วยความยินดี“ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี!”“ฮองเฮาทรงเกรียงไกร!”เด็กตัวเล็ก ๆ ก็ถูกพ่อแม่จับยกขึ้นเหนือศีรษะ เพื่อมองดูฉากเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ผู้คนพากันพูดปากต่อปาก“ว่ากันว่าฝ่าบาททรงนำทัพด้วยพระองค์เอง จนพลิกสถานการณ์เลวร้าย แก้ไขวิกฤตในเมืองเซวียน ทหารกองทัพศัตรูก็ถูกจับกุมทั้งหมด”“ชายแดนเหนือกับชายแดนตะวันออกสร้างการป้องกันขึ้นมาใหม่! แคว้นต่าง ๆ ถูกหนานฉีพวกเราตีพ่ายจนหวาดกลัว คงมิกล้ามารุกรานอีกเป็นแน่!”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 930

    ห้องชงชาในโรงพักแรมหมอทหารและลูกศิษย์ถูกพาเข้ามา ทำความเคารพฮ่องเต้บนพระที่นั่งหลักเซียวอวี้ล้างมืออย่างง่าย ๆ ใส่เสื้อคลุมสบาย ๆ แต่มิอาจปกปิดรังสีสูงส่งของฮ่องเต้ได้ ผมดำขลับมัดรวบด้วยผ้ายาวประดับมุขขาว คิ้วคมเด่นชัด ดูแข็งแรงกำยำ“ในเมื่อเป็นหมอทหาร เหตุใดไม่ตามกองทัพใหญ่ไป แต่กลับแอบหนีมาที่แห่งนี้?” เมื่อเผชิญกับคำซักถามของฮ่องเต้ หมอทหารก็อธิบายอย่างไม่เร่งรีบ“ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยได้รับคำสั่งในยามคับขัน หาใช่หมอทหารที่แท้จริงไม่”สิ้นคำกล่าว ก็มีคนเดินเข้ามาในห้องชงชา“ฝ่าบาท” ผู้มาคือเฟิ่งจิ่วเหยียนเมื่อเซียวอวี้เห็นนาง ก็รีบลุกขึ้น น้ำเสียงฟังดูตำหนิเล็กน้อย“ทำไมไม่นอนอีก?”เฟิ่งจิ่วเหยียนโค้งให้เขาเล็กน้อย จากนั้นก็นั่งลงพร้อมกับเขา แนะนำอาจารย์กับลูกศิษย์สองคนนั้นอย่างเป็นทางการ“เรื่องนี้หม่อมฉันเลินเล่อเอง ฝ่าบาท ตอนนั้นหม่อมฉันประสบภัยในภูเขาหิมะเทียนฉือ และได้รับการช่วยเหลือจากพวกเขา”สีหน้าของเซียวอวี้ผ่อนคลายลง ไม่ดุดันเหมือนก่อนหน้านี้เขารีบออกคำสั่ง“ที่แท้ก็เป็นสองคนนี้นี่เอง เชิญนั่ง”หมอเทวดาเฒ่ารีบโค้งคำนับ“มิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ข้าน้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status