Share

บทที่ 880

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
แคว้นหนานฉีออกหนังสือท้ารบ ต้องการสร้างเนินความตาย

กองทัพพันธมิตรสี่แคว้นแห่งต้าเซี่ยต่างรู้สึกบ้าคลั่ง

“แม่ทัพซ่าน แคว้นหนานฉีช่างไม่รู้จักความเป็นความตาย!”

“แม้นจะพูดเช่นนี้ เราก็ยังต้องเตรียมตัวดี ๆ จะให้พวกเขาทำสำเร็จไม่ได้เด็ดขาด!”

“ใช่แล้วแม่ทัพซ่าน! พวกเราเพิ่งสังหารกวนไหลอิ้งมา ทำให้กำลังใจของกองทัพชายแดนตะวันออกแคว้นหนานฉีมอดดับ จะให้พวกเขามีชีวิตอยู่ไม่ได้!

สีหน้าของซ่านชุนมืดครึ้ม นั่งอยู่บนที่นั่งไม่พูดไม่จา

ขณะนี้ ในหัวของเขาเต็มไปด้วยโคลงตลกขบขันที่คนแคว้นหนานฉีกล่าวเหยียดหยามเขา

แคว้นหนานฉีต้องการสร้างเนินความตาย เขาก็จะส่งทหารเก่งกาจที่ฝีมือดีที่สุดไป คนแคว้นหนานฉีคนไหนเข้ามา ก็จะฆ่าคนนั้นทิ้ง!

ในขณะเดียวกัน ภายในกระโจมกองทัพแคว้นหนานฉี ผู้คนต่างหวาดหวั่น

สวีเฟิงและเหล่าแม่ทัพต่างขมวดคิ้วมุ่น

“แม่ทัพสวี พรุ่งนี้จะให้ฮองเฮาไปสู้ศึกจริงหรือ?”

สวีเฟิงถอนหายใจออกมายาวเหยียด

“ไม่อย่างนั้นจะทำอะไรได้? ใครสามารถห้ามฮองเฮาได้บ้าง?”

หนึ่งในนั้นมีสีหน้าซีดขาว

“พระนางตั้งครรภ์โอรสรัชทายาทอยู่นะ เหตุใดถึงได้ทำอะไรหุนหันพลันแล่นเช่นนี้! ต่อให้สร้างเนินความตายได้ แต่ถ้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (8)
goodnovel comment avatar
Nuttinee Gardner
ข่วยอัพเดทยาวๆ ได้มั๊ยคะ เป็นคนว่างงาน
goodnovel comment avatar
ภัทรีน จักขุทิพย์
จางฉวนนี่นิสัยเหมือนเฟิ่งจิ่วเหยียนตอนเด็กเลย เห็นอะไรไม่ถูกต้องไม่ได้ ต่างกันตรงเฟิ่งจิ่วเหยียนเงียบกว่า
goodnovel comment avatar
Tip Khongmee
มาน้อยมาทุกวันดีค่ะแต่จะดีกว่านี้ถ้ามาสัก20ตอนงับ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 881

    ภายในกระโจมหลัก จางฉวนเหมือนเด็กที่ทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ เอ่ยฟ้องด้วยความรู้สึกคับแค้นต่อความไม่เป็นธรรม“ฮองเฮา พวกเขาพูดเช่นนั้นจริง ๆ ! คนจำพวกเห็นแก่ตัว ช่างไร้จิตสำนึก! ท่านจะไปช่วยจัดการเรื่องศพให้พวกเขา แต่พวกเขากลับมิสนใจบุตรของท่านแม้แต่น้อย ท่านไม่มีความจำเป็นต้องช่วยเหลือพวกเขาแต่แรก!”เนื่องจากในตอนกลางวันพูดมาก น้ำเสียงของเขาจึงฟังดูแหบแห้งเฟิ่งจิ่วเหยียนฟังจบ ก็มิได้สนใจสามคนแม่ลูกตระกูลกวนแม้แต่น้อย การสู้รบในวันพรุ่ง มิใช่เพื่อสามคนนี้ และมิใช่เพื่อกวนไหลอิ้งเท่านั้น สิ่งสำคัญยิ่งกว่า คือเพื่อชัยชนะของหนานฉีในที่สุดนางคงมิโง่เขลา ทำให้ตนเองต้องตกอยู่ในอันตราย เพียงเพราะเรื่องจัดการศพการแสดงความแข็งแกร่งเพียงชั่วขณะ ไม่สามารถเป็นผู้กล้าหาญที่แท้จริงได้กองกำลังพันธมิตรของสี่แคว้นทำลายขวัญกำลังใจของทหารชายแดนตะวันออก นางก็จะลอกเลียนบ้าง จะทำลายความน่ายำเกรงของพวกเขา! จางฉวนยังคิดจะเกลี้ยกล่อมนาง“ฮองเฮา ท่านตั้งครรภ์โอรสฮ่องเต้ จะบุ่มบ่ามมิได้!”ฮ่องเต้ทรงมีบุญคุณต่อเขา เขาจึงต้องปกป้องโอรสรัชทายาทของฮ่องเต้เป็นอย่างดี!เฟิ่งจิ่วเหยียนเหลือบตามองไปที่เขา“อะ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 882

    ซ่านชุนเอนตัวครึ่งบนมาด้านหน้า ยืดคอมองไปทางทหารหนานฉีที่รับคำท้ารบผู้นั้นรูปร่างของคนผู้นี้หาใช่สูงใหญ่กำยำ ลักษณะเป็นคนวัยหนุ่ม ดูเหมือนมิใช่สวีเฟิงรองแม่ทัพของหนานฉีเด็กหนุ่มที่เส้นขนขึ้นยังไม่ครบ ยังกล้าจะสู้รบต่อเพื่อสร้างเนินความตาย?ฮ่า!น่าขำ!ซ่านชุนหรี่ตาและนั่งกลับลงไป นัยน์ตาเต็มไปด้วยการดูหมิ่น ซ้ำยังมีความหยิ่งทะนงที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจเขาเคยส่งสายลับไปสืบดูแต่แรกแล้ว ชายแดนตะวันออกหนานฉี นอกจากกวนไหลอิ้ง ก็จะมีสวีเฟิงที่ฝีมือโดดเด่นในเมื่อคนที่ออกรบมิใช่สวีเฟิง เช่นนั้น หนานฉีก็มิอาจสร้างเนินความตายให้สำเร็จได้ซ่านชุนมองลงไปที่คนด้านล่าง---นักรบหนึ่งร้อยนายที่เขาคัดเลือกมาเป็นอย่างดีเมื่อวานนี้“ผู้ที่สังหารชาวหนานฉีได้ จะได้เงินรางวัลหนึ่งร้อยตำลึง”เหล่านักรบถือทวนยาว สายตามองไปข้างหน้า แววตาเป็นประกาย พร้อมกับพลังอันฮึกเหิม“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!ดวงตาทั้งคู่ภายใต้หน้ากากของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่งอย่างที่สุดนางอยู่เพียงคนเดียว ทว่าบนหอประตูเมืองด้านหลัง มีทหารรักษาเมืองนับหมื่นนับพันยืนสังเกตดูการสู้รบอยู่พวกเขากำหมัดและโห่ร้องให้กำลังใจ มีบางคนก็ตีกลองร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 883

    ขวานเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างหนึ่ง ทว่าความโค้งของใบขวานมักจะลดทอนพลังของหัวขวาน ส่วนความแหลมคมของทวนกลับสามารถทะลวงการป้องกันของขวานได้ดังนั้นจึงมีคำกล่าวที่ว่า “ทวนเอาชนะขวานได้”ผู้ที่เชี่ยวชาญอาวุธ ต่างก็รู้สิ่งนี้ซ่านชุนมีสีหน้าโกรธเคืองแม่ทัพน้อยที่หนานฉีส่งมาผู้นี้ มีภูมิหลังอย่างไรกันแน่!เฟิ่งจิ่วเหยียนถือทวนในมืออย่างมั่นคง รอให้คู่ต่อสู้เข้ามาใกล้ จะได้โจมตีอย่างทันควันชายจมูกยาวผู้นี้รับรู้ถึงกระแสลมทรงพลัง จึงรีบใช้ขวานในทันที มือซ้ายถือขวานไว้ป้องกัน มือขวาถือขวานไว้โจมตีทั้งแกว่งทั้งผ่า ทั้งสับทั้งแทง พร้อมกับฟาดเกี่ยวฟันปัด ท่าที่ใช้ของขวานคู่ดุดันโหดเหี้ยม ทุกย่างก้าวมีเจตนาสังหารทว่า วิชาทวนของเฟิ่งจิ่วเหยียนยิ่งคาดเดายากทั้งคู่โจมตีตอบโต้กันหลายสิบรอบ ผู้คนรอบข้างก็จ้องมองด้วยความตื่นตาตื่นใจด้านกองทัพต้าเซี่ย สีหน้าของซ่านชุนไม่สู้ดีนักขวานคู่ของเจ้าจมูกยาวน้อยนักจะมีคู่ต่อสู้ ทว่าตอนนี้กลับถูกคู่ต่อสู้ข่มไว้ ยากจะมีโอกาสโจมตีกลับสถานการณ์เช่นนี้ ดูเหมือนไม่ค่อยสู้ดีนัก...บนหอประตูเมืองด่านเฉาอวี๋เสียงกลองรบราวกับห่าฝน ทั้งเหมือนเสียงกีบม้า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 884

    ซ่านชุนนึกไม่ถึงเลยว่า คนที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้...คนผู้นี้ที่สังหารนักรบของเขาห้าสิบนาย และแม่ทัพที่ห้าวหาญหนึ่งนาย จะเป็นเมิ่งสิงโจว!เมิ่งสิงโจวที่ตอนนั้นอายุเพียงสิบเจ็ดปี ในสงครามที่ด่านหู่เหมิน ได้นำทัพไปสังหารกองทัพศัตรูสองหมื่นนาย และสร้างเนินความตาย ทำให้ศัตรูทั่วสารทิศตื่นกลัว!คนผู้นี้น่ากลัวยิ่งนัก!!ม่านตาของซ่านชุนหดลงในทันทีแม่ทัพของอีกสามแคว้นถึงกับตาค้าง พร้อมทั้งหวาดกลัวการต่อสู้ที่แท้ก็คือเมิ่งสิงโจว มิน่าเล่าถึงได้สังหารคนได้มากมายเพียงนี้!วันนี้มิใช่จะสร้างเนินความตายของหนานฉีให้เสร็จหรอกหรือ!พวกเขาทยอยกันเอ่ยโน้มน้าว“แม่ทัพซ่าน! จะต่อสู้อีกมิได้แล้ว! คู่ต่อสู้คือเมิ่งสิงโจว คนของพวกเราจะไปตายกันเปล่า ๆ !”“เมิ่งสิงโจว เป็นเมิ่งสิงโจวได้อย่างไร! แม่ทัพซ่าน จะให้หนานฉีจูงจมูกเรามิได้เด็ดขาด!”รอบดวงตาของซ่านชุนปรากฏรอยคล้ำเป็นวง“หนังสือท้ารบรับมาแล้ว จะกลับคำกลางคันได้อย่างไร! ต้องสู้ต่อไป! ข้ามิเชื่อว่า คนตั้งมากมาย นางจะยังเอาชนะไปได้ตลอด! หนึ่งร้อยคนไม่พอ ก็หนึ่งพันคน หนึ่งหมื่นคน!”ในยามนี้ เขามิต่างจากฮ่องเต้เยี่ยนผู้บ้าคลั่งทว่าสิ่งที่ต่างคือ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 885

    กองทัพศัตรูนำศพของกวนไหลอิ้งมาวางบนพื้นที่โล่ง ทั่วร่างเต็มไปด้วยรอยเฆี่ยนตี ไม่มีอาภรณ์ปกปิดร่างกายภาพเหตุการณ์เช่นนี้ เหล่าทหารหนานฉีเห็นแล้วรู้สึกโกรธแค้นความตายก็แค่ศีรษะแตะพื้น ทว่าการกระทำจำพวกเฆี่ยนตีศพ ช่างชั่วช้าอย่างยิ่ง!บนหอประตูเมือง ทหารหนานฉีสองนายโรยเชือกลงมา พวกเขานำอาภรณ์ที่แม่ทัพกวนเคยสวมใส่ก่อนตาย มาสวมให้เขา แววตาฉายแววความโศกเศร้าซ่านชุนมองเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยสายตาโหดเหี้ยม“ฮองเฮา บุตรในท้องของท่าน เกรงว่าคงไม่รอดแล้วกระมัง!”มิเช่นนั้นแล้ว จะต่อสู้จนมาถึงตอนนี้ได้อย่างไร ไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้นกับนางหรือ?ซ่านชุนคิดว่าตนเองฉลาดกลับมิรู้เลยว่า เดิมทีแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้ตั้งครรภ์เลยหลังจากศพของกวนไหลอิ้งถูกส่งขึ้นไปยังหอประตูเมืองแล้ว ซ่านชุนก็มองไปยังศพของทหารตนเองเขารู้สึกกล้ำกลืนฝืนทนคิดอีกที ก็ยังดีที่หยุดความเสียหายได้ทันเวลาตอนนี้ตายไปเพียงหนึ่งร้อยห้าสิบนายหนานฉีพูดพร่ำไม่หยุดว่าจะสร้างหอสูงเก็บศพ ลำพังแค่คนหนึ่งร้อยคน คงมิอาจสร้างได้ซ่านชุนมองไปที่หอประตูเมืองด่านเฉาอวี๋อีกครั้ง สายตาดูเหี้ยมเกรียม“ถอยทัพ!”ทว่า ขณะที่เขากำลังจะห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 886

    ภายนอกด่านเฉาอวี๋ กองทัพศัตรูหนีกระเจิงไปคนละทิศละทางภายในด่านเฉาอวี๋ กองทัพหนานฉีกำลังตีกลองลูกตะกร้อไฟเผาไหม้จนหมดแล้ว แสงไฟมอดดับลง แสงจันทร์และแสงดาวดูสว่างไสวเป็นพิเศษ สาดกระทบลงมาบนตัวเฟิ่งจิ่วเหยียน ขับเน้นให้รูปร่างนางยิ่งดูผอมเพรียว ทว่ากลับแน่วแน่มั่นคงราวกับต้นสนหลังจากรอจนกองกำลังพันธมิตรสี่แคว้นนำโดยต้าเซี่ยถอยหนีไป นางถึงนั่งลงบนโขดหินด้วยความเหนื่อยล้า โน้มตัวลงมาเล็กน้อย เลือดสด ๆ ไหลมาตามร่องนิ้วมือแขนของนางได้รับบาดเจ็บจากขวานคู่ แต่ไม่มีผู้ใดมองเห็นได้ชัดเจนทว่า สำหรับนางแล้วนี่ถือเป็นบาดแผลเล็กน้อยหากผ่านวันนี้ไปแล้ว กองกำลังพันธมิตรสี่แคว้นมิกล้ามารุกรานง่าย ๆ อีก นี่ถึงจะเป็นเรื่องสำคัญ“ฮองเฮา ท่านมิเป็นไรนะพ่ะย่ะค่ะ!” ทหารที่รับผิดชอบเชือกขวางม้าล้อมวงเข้ามา ในใจรู้สึกเป็นกังวลเฟิ่งจิ่วเหยียนซ่อนมือที่มีเลือดออกไว้ น้ำเสียงฟังดูราบเรียบไม่รีบร้อน“มิเป็นไร”นางเงยหน้าขึ้น มองไปทางศพของทหารศัตรู แววตาดูเฉยชา......ณ ฐานที่มั่นของกองกำลังพันธมิตรสี่แคว้นหลังจากซ่านชุนนำกองทัพถอนกำลังไปแล้ว สิ่งแรกที่ทำคือลากตัวเหล่าทหารสอดแนมออกมาทหารสอดแนม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 887

    ฮูหยินกวนเงยหน้าขึ้น มองไปทางเฟิ่งจิ่วเหยียน คราบน้ำตาบนใบหน้ายังไม่ทันเหือดแห้ง พลันปรากฏความรู้สึกประหลาดใจ“ตรวจพิสูจน์ศพ? ฮองเฮา เป็นเพราะเหตุใดเพคะ?”บุตรชายสองคนของนางก็ประหลาดใจเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันรองแม่ทัพสวีเฟิงเป็นตัวแทนเหล่าทหาร เอ่ยถามอย่างใจกล้า“ฮองเฮา หรือท่านคิดว่า การตายของแม่ทัพกวนน่าสงสัยพ่ะย่ะค่ะ?”มีเพียงสงสัยว่าอีกฝ่ายเสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติเท่านั้น ถึงจะให้นักชันสูตรศพมาตรวจพิสูจน์ศพ โดยปกติก็เป็นกระบวนการหนึ่งในการจัดการคดีของขุนนางดังนั้น เมื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนเสนอให้ตรวจพิสูจน์ศพ สวีเฟิงย่อมต้องคิดมากเฟิ่งจิ่วเหยียนกวาดสายตามองดูคนเหล่านั้นที่มีสีหน้าท่าทางแตกต่างกันไป พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“ข้าเคยประมือกับชายจมูกยาว และยังรู้ถึงพละกำลังของแม่ทัพกวนด้วย“หากเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว แม่ทัพกวนคงมิพ่ายแพ้ง่ายดายถึงเพียงนี้“ดังนั้น จึงจำเป็นต้องตรวจพิสูจน์ศพ”นางมิอาจยอมรับสิ่งที่ขัดแย้งกับความคิดโดยเฉพาะในค่ายทหารแห่งนี้กวนไหลอิ้งเป็นแม่ทัพที่ดีทำเพื่อแว่นแคว้นและราษฎร ต้องมาตายอย่างมีเงื่อนงำ ซ้ำยังถูกครหาว่ามุทะลุบุ่มบ่าม ช่างน่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 888

    ฮูหยินกวนมิเห็นด้วยกับการผ่าศพ บุตรชายคนโตของตระกูลกวนก็รู้สึกโมโหขึ้นมาเช่นกัน“มิได้! บิดาข้าน้อยก่อนตายก็ต้องทนทุกข์ทรมาน ตายแล้วก็ยังถูกคนเฆี่ยนตี มิอาจถูกทำร้ายได้อีกแล้ว!”บุตรชายคนเล็กก็คล้อยตามกัน: “ฮองเฮา ให้ศพของบิดาข้าน้อยอยู่ครบถ้วนเถิดพ่ะย่ะค่ะ! บิดาข้าน้อยช่างน่าอนาถยิ่งนัก!”สวีเฟิงรู้สึกลังเลอยู่บ้าง เขาจึงสอบถามหมอเทวดาเฒ่าผู้นั้น“การผ่าศพจะสามารถค้นพบบางอย่างได้แน่นอนใช่หรือไม่?”หมอเทวดาเฒ่าเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา: “ก็ไม่แน่”“ในเมื่อเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ก็ห้ามมิให้ผ่าศพอีกเด็ดขาด!” ฮูหยินกวนร่ำไห้สะอึกสะอื้นทุกคนต่างมองไปทางเฟิ่งจิ่วเหยียนเฟิ่งจิ่วเหยียนกลับมองไปที่ศพของกวนไหลอิ้ง ด้านบนปกปิดด้วยผ้าขาว นี่คือปลายทางสุดท้ายของทุกคนจางฉวนตัวน้อยรู้สึกกังวลใจหากฮองเฮายืนกรานจะตรวจพิสูจน์ศพ เพื่อค้นหาความจริง หากค้นพบบางอย่างก็ถือว่าดีไป หากไม่พบ ก็อาจจะทำให้คนตระกูลกวนไม่พอใจอย่างแน่นอน นี่จะเป็นการเสียแรงเปล่านั่นก็มิสู้ปล่อยผ่านไปจะดีกว่าไม่ว่าอย่างไร แม่ทัพกวนก็ตายด้วยน้ำมือของกองทัพศัตรู อย่างไรเสียก็ถือเป็นวีรบุรุษที่ยอมสละชีพเมื่อนึกถึงเรื่องนี

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 942

    หลังจากจับกุมพัศดีได้นั้น เขาหาได้มีท่าทีสำนึกผิดไม่“ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยทำสิ่งใดผิดไปงั้นหรือ…”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดมองเขาไม่ นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาพลางกล่าวออกมาว่า“ในฐานะพัศดีนั้น กลับกระทำการรับสินบน ติดต่อกับศัตรูต่างแคว้น ย่อมต้องถูกโทษประหาร!”พัศดีพลันมีสีหน้าซีดเผือดไปในทันทีเหตุใดถึง?ฮองเฮาทรงทราบว่าเขาลอบทำสิ่งใดเช่นนั้นหรือ?ผู้ใดเป็นคนทรยศเขากัน!พัศดีพลันรีบก้มลง พร้อมโขกหัวลงบนพื้นเพื่อ ร้องขอความเมตตา“ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยมิกล้าอีกแล้ว! ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิด ได้โปรด...”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดฟังเรื่องไร้สาระจากเขาไม่ พลางหันไปสั่งการกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคุกเทียนเหลาว่า“ข้าจักให้เวลาพวกเจ้าสามวัน ไปทำการสืบค้นเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าเสีย”“พ่ะย่ะค่ะ!” เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้รับผิดชอบนั้นพลันก้มหน้าลงด้วยความละอายใจเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงหันไปกล่าวกับพัศดีคนอื่น ๆ ที่ยืนเนื้อตัวสั่นเทาว่า“ภายในสามวันนี้ หากผู้ใดยอมสารภาพออกมาแต่โดยดี จักได้รับโทษสถานเบา หากว่าทำการสืบหาตัวมาได้เมื่อใดนั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 941

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมาพบกับถานไถเหยี่ยนอีกครั้ง แววตาของเขายังคงสงบเงียบดังเดิม ทว่า มิได้ไร้ชีวิตชีวาเหมือนดังแต่ก่อนอีกด้วย“ถานไถเหยี่ยน เจ้ารู้หรือไม่ว่า แคว้นตงซานได้ส่งราชทูตมาขอพาตัวเจ้ากลับไปจัดการด้วย?”ถานไถเหยี่ยนพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉยเมย“คิดไว้แล้วว่าจักต้องเป็นเช่นนี้“พวกเขาหาได้มาเพื่อข้าไม่ แต่มาเพื่อ ‘ใยแมงมุม’ ของตระกูลถานไถต่างหาก”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีท่าเคร่งขรึมไปในทันที“เจ้าจึงคิดใช้ประโยชน์จากคนทุกคน รวมไปถึงแคว้นตงซานด้วยหรือ”ถานไถเหยี่ยนพลันหัวเราะเยาะตนเองออกมา“ดังนั้น ชีวิตนั้นแสนสั้น อย่างไรย่อมต้องถูกผู้อื่นสังหารตามอำเภอใจ”เขารู้ดีว่า หากตนเองกลับไปถึงแคว้นตงซานเมื่อใดนั้น จุดจบคงมิได้ดีนักทว่า เขาหาได้กลัวตายไม่ ทั้งยังมองดูความตายอย่างไม่ยี่หระอีกด้วยเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยตรงเข้าประเด็นในทันที“เจ้าคิดดีแล้วหรือ”เรียวคิ้วดวงตาที่งดงามของถานไถเหยี่ยน พลันเผยให้เห็นท่าทีเด็ดขาดออกมาหากเขายังตัดสินใจไม่ได้ เขาคงมิมาขอพบนางเช่นนี้“กระหม่อมเต็มใจที่จะช่วยให้หนานฉีรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ” พูดจบ เขาพลันโค้งกายคำนับเฟิ่งจิ่วเหยียนในทันที

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 940

    ราชทูตหลี่หลิงแสดงสีหน้าประหลาดใจทันทีทำการค้า?นี่เป็นการบังคับฝืนใจกันโดยแท้แคว้นตงซานพวกเขาไม่เคยทำการค้ากับแคว้นอื่นมาก่อนทว่าหากไม่ยินยอม เกรงว่าฮ่องเต้ฉีจักต้องให้พวกเขาชดเชยด้วยการยกดินแดนให้เป็นแน่!ต้องโทษที่เขาผิดพลาดเพราะคำพูด จนสร้างปัญหาเช่นนี้!หลี่หลิงรู้สึกเสียใจอย่างมาก พร้อมกับมองไปทางหยวนจั้นที่อยู่ข้างกันหยวนจั้นพยักหน้าเบา ๆหลังจากหลี่หลิงได้รับอนุญาต ถึงได้ก้าวไปข้างหน้า“เรื่องทำการค้า ถือเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองแคว้น กระหม่อมจะนำเจตนารมณ์นี้กราบทูลต่อกษัตริย์ของกระหม่อม!”เวลายิ่งนานอุปสรรคยิ่งมาก เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีทางให้โอกาสพวกเขาได้กลับคำ“ฝ่าบาท แม้จริงอยู่ที่ว่าเรื่องดี ๆ มักจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่หม่อมฉันกลัวว่าเวลาจะไม่คอยท่า มิสู้ให้คนร่างหนังสือข้อตกลงขึ้นมา แล้วให้ราชทูตลงนาม จากนั้นค่อยนำกลับไปยังแคว้นตงซาน พร้อมกับออกสาส์นตราตั้งอย่างเป็นทางการ?”ราชทูตถูกส่งมา ก็ถือเป็นตัวแทนของฮ่องเต้นั่นเอง ทันทีที่ลงนาม ก็จะไม่มีทางกลับคำเซียวอวี้ยิ้มน้อย ๆ และกุมมือเฟิ่งจิ่วเหยียนต่อหน้าฝูงชน“นับว่าฮองเฮาวิเคราะห์ได้รอบคอบ“ใครก็ได้ ไปร่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 939

    แคว้นตงซานมีราชทูตสองคนหลี่หลิงผู้นั้นตกหลุมพรางกับคำพูด เมื่อเห็นว่าทำให้แคว้นตนกำลังตกอยู่ในอันตราย เหงื่อก็เริ่มผุดออกมาเต็มใบหน้าเขามองไปทางราชทูตอีกผู้หนึ่ง---หยวนจั้นชายหนุ่มรูปร่างซูบผอม ท่าทางดูเหมือนใจเย็น ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ แทบจะมิได้เอ่ยสิ่งใดเลยในยามนี้ เขาเอ่ยอย่างช้า ๆ “กระหม่อมได้ยินว่า ครั้งนี้หนานฉีเอาชนะแต่ละแคว้นได้ เป็นเพราะมีตัวช่วยอย่าง ‘ใยแมงมุม’ ที่ดัดแปลงโดยตระกูลตงฟาง ทว่าการค้นพบ ‘ใยแมงมุม’ ก็เป็นความดีความชอบของถานไถเหยี่ยนเช่นกัน“ดังนั้น กระหม่อมสงสัยว่า ถานไถเหยี่ยนยุยงให้เกิดข้อพิพาท ก็เพื่อล่อลวงกองกำลังของแต่ละแคว้นมาที่หนานฉี ทำให้ง่ายต่อการที่จะทำลายแต่ละแคว้น“มิเช่นนั้นจะทำไปเพื่อเหตุใด ตามหลักเหตุผล แคว้นท่านจักต้องเกลียดชังถานไถเหยี่ยนจนเข้ากระดูก ทว่าตอนนี้แค่เพียงจับเขาคุมขังไว้?“หากมองจากสิ่งนี้ แคว้นท่านไม่ยินยอมที่จะมอบถานไถเหยี่ยนให้ในตอนนี้ ก็เพื่อต้องการจะปกป้องชีวิตถานไถเหยี่ยน”ขุนนางหนานฉีเริ่มโมโห“ช่างพูดจาใส่ร้ายอย่างชั่วช้า! คนเลวนั้นกล่าวโทษคนอื่นเพื่อปกปิดความผิดตน!”“เมื่อครู่ยังพูดว่าถานไถเหยี่ยนเป็นคนของแคว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 938

    ราชทูตแคว้นตงซานมาพร้อมกับผ้าทอและอาชา เริ่มจากปฏิบัติด้วยความสุภาพก่อน“แคว้นตงซานเราไม่เคยเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างแคว้น ครั้งนี้แต่ละแคว้นมาล้อมโจมตีหนานฉี ฮ่องเต้พวกเราก็ได้ยินข่าวลือเหล่านี้เช่นกัน ต่างพูดกันว่า ข้อพิพาทนี้ ต้นเหตุมาจากการยุยงของแคว้นตงซาน”ราชทูตแคว้นอื่นต่างมองหน้ากันราชทูตแคว้นตงซานผู้นี้หมายความว่าอย่างไร? คำนึงแต่ตนเองไม่สนใจผู้อื่นรึ?ในตอนแรก มิใช่แคว้นตงซานพวกเขาส่งคนมาพูดหว่านล้อมว่า หากร่วมมือกับพวกเขาโจมตีหนานฉี จะแบ่งดินแดนหนานฉีให้หรอกหรือ!หลี่หลิงราชทูตแคว้นตงซานกล่าวต่อ“หลังจากสืบสวนอยู่หลายทาง พวกเราถึงสืบพบว่า เดิมทีแล้ว ทั้งหมดนี้ถานไถเหยี่ยนเป็นคนทำ“เขาหลอกลวงอวดอ้าง จนได้รับความไว้วางพระทัยจากฝ่าบาทของเรา ถูกยกย่องให้เป็นราชครู และถือเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของแคว้นตงซานด้วย “นึกไม่ถึงว่า เขายังไม่พึงพอใจกับสิ่งนี้ เจตนาจะหลอกล่อกษัตริย์ของเรา ให้กษัตริย์ของเราโจมตีหนานฉี เพื่อจะได้เป็นมหาอำนาจ กษัตริย์ของเรามีสติ จึงไม่หลงกลการยั่วยุ“นึกไม่ถึงว่าเขายังไม่ยอมหยุดความคิดชั่วร้าย ยังแอบตระเวนไปยังแต่ละแคว้น เพื่อยุยงให้แต่ละแคว้นล้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 937

    เรื่องส่งคืนกองทัพอินทรีเหินให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียน ตอนที่นางเสร็จสิ้นจากการไปเป็นราชทูตที่แคว้นซีหนี่ว์ เซียวอวี้ก็เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ทว่าภายหลังเจอกับสงครามครั้งใหญ่ เรื่องนี้จึงถูกพักไว้ก่อนเซียวอวี้เป็นฝ่ายเริ่มพูดเรื่องนี้ ซ้ำยังเตรียมการทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี ถือว่ามีความจริงใจเต็มเปี่ยมโดยมิต้องสงสัยทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับเป็นกังวล“เรื่องนี้ ราชสำนักรู้หรือไม่เพคะ?”เซียวอวี้สวมกอดนางจากทางด้านหลัง ราวกับได้ครอบครองทั้งใต้หล้า“เราเคยเรียกพบขุนนางคนสำคัญหลายคนในราชสำนักตั้งแต่แรก เพื่อบอกเรื่องนี้กับพวกเขา พวกเขาต่างก็คิดว่า เราสมควรทำเช่นนี้“วันนี้ประชุมราชกิจ เราก็ประกาศกับเหล่าขุนนางอย่างเป็นทางการแล้ว ทว่าก็มีบางคนคัดค้านเช่นกัน แต่เราพูดเพียงว่า ‘ตอนนี้หนานฉีต้องโจมตีกับแคว้นอื่น ผู้ใดที่คัดค้าน เราจะให้ออกไปสนามรบ’ ดังนั้น พวกเขาก็พากันเงียบกริบ“เจ้าเห็นหรือไม่ เรื่องนี้มิได้ยากเย็น”ถึงแม้เขาเอ่ยออกมาดูเหมือนจะง่ายดาย เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับรู้ว่า เพื่อตราคำสั่งทหาร เขาต้องทุ่มเทความพยายามอย่างมากขุนนางใหญ่ในราชสำนักเหล่านั้น โดยเฉพาะขุนนางอาวุโส แต่ละคนมีฝีปา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 936

    เซียวอวี้กับเซียวฉีเริ่มจะขัดแย้งกันเขานึกไม่ถึงว่า เซียวฉีจะใส่ร้ายเขาต่อหน้าจิ่วเหยียนเช่นนี้“วาดภาพ” อะไรกัน เขาจำสิ่งใดมิได้เลย!เซียวฉีเล่าออกมาเป็นเรื่องเป็นราว“ตอนที่เขาออกไปเที่ยวเล่นกับเหล่าเสด็จพี่ อาภรณ์ของทุกคนเรียบร้อยกันหมด ทว่าของเขามักจะทำขาดอยู่เสมอ ซ้ำยังขาดตรงส่วนก้นด้านหลัง จนเห็นกางเกงลายดอกไม้ยามเหมันต์ และเพราะกลัวเสด็จพ่อจะทรงดุ จึงต้องเดินถอยหลัง“พอโตขึ้นมาหน่อย เขาก็ชอบไปเล่นกับสาวน้อยนางกำนัล...”“พูดจาเพ้อเจ้อ! เราเคยทำเรื่องแบบนั้นที่ไหนกัน!” เซียวอวี้ไม่ยอมรับ จึงตะโกนเรียกเฉินจี๋ให้เข้ามาทันที เพื่อใช้กำลังขับไล่เซียวฉีออกจากตำหนักหย่งเหอองค์หญิงใหญ่มิยอมให้เซียวอวี้อยู่อย่างสงบ ขณะถูกพาตัวไป นางยังพยายามจะหันกลับมา พร้อมตะโกน“สาวน้อยนางกำนัลไม่ยอมเล่นกับท่าน ท่านยังแกล้งนอนคว่ำอยู่บนพื้น ฮองเฮา เขายังชักดิ้นชักงอด้วย!”สีหน้าของเซียวอวี้หม่นคล้ำราวกับน้ำหมึก“ปิดปากนางไว้!”ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน เฉินจี๋ตื่นตระหนกจนมิรู้จะใช้วิธีใด จึงรีบทำให้ตัวคนหมดสติทันทีก่อนองค์หญิงใหญ่จะหมดสติ ก็ยังเหลือกตาขาวในตำหนักชั้นในขณะที่เซียว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 935

    ราชทูตจากแคว้นต่าง ๆ มาโดยพร้อมเพรียง และเข้าพักในโรงพักแรมเหล่าราษฎรได้ยินเรื่องนี้ ภายใต้แรงผลักดันจากความโกรธแค้น จึงรวมตัวกันไปก่อจลาจลที่โรงพักแรม เพื่อต้องการจะสั่งสอนกลุ่มราชทูตเหล่านั้นยังมีชาวยุทธภพบางส่วน อาศัยวิทยายุทธ์อันแข็งแกร่ง พยายามบุกเข้าไปในโรงพักแรมพวกเขาจับราชทูตมัดไว้ และพาออกไปด้านนอก เพื่อให้เหล่าราษฎรได้ขว้างปาผักเน่า และด่าประณามเหล่าราชทูตมิกล้าต่อต้าน และมิอาจต่อต้านได้ด้วยราชทูตของต้าเซี่ยมิอาจทนต่อความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้“ราษฎรเลวทราม! ราษฎรเลวทราม!! ข้าเป็นราชทูต พวกเจ้าทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้!”สิ่งที่เขาได้รับจากการขัดขืน คือฝ่ามือของเหล่าราษฎรเป็นเพราะคนเหล่านี้ ที่เกือบจะทำให้หนานฉีต้องล่มสลายพวกเขายังมีหน้ามาหนานฉีอีกหรือ?เหล่าราษฎรระบายความโกรธอยู่พักหนึ่ง ไม่นานก็ถูกทางการปราบปราม เหล่าราชทูตจึงได้รับการช่วยเหลือ แต่ละคนใบหน้าปูดบวมเขียวช้ำ สติมึนงงณ หอสุราใกล้เคียง ภายในห้องส่วนตัวบนชั้นสองราชทูตสองคนของแคว้นตงซานยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้านนอกโรงพักแรมหนึ่งในนั้นรู้สึกโชคดี“ท่านแม่ทัพหยวน โชค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 934

    เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเซียวอวี้ตื่นขึ้นมา ก็ไม่เห็นเงาของเฟิ่งจิ่วเหยียนแล้วคงจะตื่นเช้าไปฝึกยุทธ์อีกเป็นแน่เซียวอวี้เปลี่ยนอาภรณ์ด้วยตนเอง มิได้ให้ผู้ใดมารับใช้หลิวซื่อเหลียงยกอ่างน้ำร้อนเข้ามา “ฝ่าบาท ฮองเฮาทรงเสด็จไปที่คุกเทียนเหลาตั้งแต่เช้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้ขมวดคิ้วมุ่นนางไปคุกเทียนเหลาด้วยเหตุใด?ณ คุกเทียนเหลาระหว่างเฟิ่งจิ่วเหยียนกับถานไถเหยี่ยน มีเพียงประตูคุกคั่นอยู่หนึ่งบานถานไถเหยี่ยนนั่งสงบนิ่งอยู่ข้างกำแพง บนกำแพงที่อยู่ด้านหลังยังสลักภาพ “ใยแมงมุม” ไว้ ภายใต้แสงเงา ยิ่งขับเน้นให้เขาดูเยือกเย็นเป็นพิเศษ“ฮองเฮาเสด็จมาเอง คิดว่าคงมิได้มาเพื่อพูดคุยความหลังกับข้ากระมัง”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูดุดัน“แคว้นตงซานส่งราชทูตมาที่หนานฉี ก็เพื่อช่วยเหลือเจ้า”สีหน้าของถานไถเหยี่ยนดูเป็นปกติ“จะช่วยข้า หรือจะสังหารข้า ก็ไม่ต่างกัน”ดูเหมือนเขาจะถอดใจแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนถามขึ้นในทันที “อาจารย์เต็มใจจะอยู่ที่หนานฉีหรือไม่”ถานไถเหยี่ยนรู้สึกประหลาดใจ หลังจากตะลึงงันอยู่ชั่วขณะ ก็เงยหน้าขึ้นมองนางเห็นนางมีสีหน้าจริงจัง ไม่เหมือนพูดหยอกล้อ“ฮองเฮา ทรงมิอ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status