Share

บทที่ 692

Penulis: อี้ซัวเยียนอวี่
ภายในรถม้า ยามที่จะกลับไปที่อี้จ้านนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยถามเซียวอวี้ว่า

“เหตุใดท่านถึงคิดได้ ไปจับกุมเจ้าของสนามประลองยุทธ์กัน?”

ใบหน้าของเซียวอวี้จึงเผยท่าทีเคร่งครัดออกมา

“กลยุทธ์จับโจรต้องเอาหัวโจกก่อน เราเองก็เคยออกรบมาก่อน”

ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเจือไปด้วยความเย็นชาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามลองเชิงออกไปด้วยท่าทีสงสัยว่า

“ท่านมิกลัวว่าข้าจักแพ้ให้กับอู๋เซียงหรือ?”

เซียวอวี้พลันขมวดคิ้วเป็นปมไปในทันที เขามิเข้าใจว่าเหตุใดนางจึงถามคำถามเช่นนี้ออกมา

ทว่า บทเรียนจากขนมเกาลัดในคราก่อน

นับจากนั้นเป็นต้นมา เขาถึงตระหนักได้ว่า ยามที่สตรีเอ่ยถามอันใดออกมานั้น ห้ามตอบกลับแบบมิคิดอันใดอีก จักต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อนค่อยตอบนางกลับไป

“เราย่อมต้องรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง ในสถานการณ์เช่นนั้น เรามีแต่จักต้องเชื่อใจเจ้าเท่านั้น สิ่งที่เราทำได้ มีเพียงจัดการทางหนีทีไล่ให้กับเจ้า เพิ่มเติมแผนการที่ขาดไปของเจ้าให้ครบสมบูรณ์”

พูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเงียบอยู่นาน

ทำเอาเซียวอวี้คิดว่าตนเองเอ่ยอันใดผิดไป ก่อนที่นางจะค่อย ๆ เอ่ยออกมาว่า

“ในปีนั้น หลังจากที่ข้าพบเจอร่องรอยของอู๋เซียงแล้ว
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (25)
goodnovel comment avatar
กระต่ายตัวอ้วน กระต่ายตัวอ้วน
กี่บทถึงจะจบเนี้ย
goodnovel comment avatar
Ramai Thonganan
นางเอกท้องแน่ๆตอนนี้และบท7ร้อยกว่าได้รับบาดเจ็บเกือบตายตามหากันยังบ่พ้ออยู่เพราะหลายครั้งล่ะครั้งนี้เต้คงลืมกินยาคุม
goodnovel comment avatar
อาภรณ์ เมืองรักษา
วันนี้ลง20ตอนใด้แล้ว
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 693

    ช่วงหัวค่ำนั้นเมฆฝนค่อย ๆ หยุดลงแล้วเซียวอวี้ยังคงกอดคนในอ้อมแขนเอาไว้ พลางเชยคางขึ้นมาจุมพิตไปที่หน้าผากในยามนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนหลับสลบไสลไปแล้วเมื่อครู่เซียวอวี้หาได้สุขสมไม่เนื่องจากเป็นห่วงนางได้รับบาดเจ็บจากการประลองเมื่อคืนนี้นั้น เขาจึงมิกล้ากระทำนางมากเกินไปเมื่อมองดูรอยฟกช้ำขนาดใหญ่บนไหล่ซ้ายของนางแล้ว แววตาของเซียวอวี้พลันเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟันในทันทีอู๋เซียงสมควรตายยิ่งนัก...สายตาของเขาจับจ้องไปที่ข้อมือของเฟิ่งจิ่วเหยียนอีกครั้งโดยเฉพาะง่ามมือที่มีผ้าเช็ดหน้าของเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ผูกเอาไว้ทำเอาคิ้วของเซียวอวี้ขมวดไปในทันทีเมื่อคิดอีกที เขากลับรู้สึกว่าตนเองโง่เง่ายิ่งนัก เขาจักต้องไปแข่งกับสตรีเหล่านั้นทำไมกันจิ่วเหยียนมิได้บอกแล้วหรือ ว่านางชอบบุรุษหล่อเหลาไม่ พูดให้ถูกก็คือชอบเขาเท่านั้นเซียวอวี้เม้มริมฝีปากด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากของเฟิ่งจิ่วเหยียนอีกครั้งครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดก็ปลุกเฟิ่งจิ่วเหยียนให้ตื่นขึ้นมาจนได้นางค่อย ๆ ผลักเขาออกไป พลางเอ่ยถามด้วยท่าทีสะลึมสะลือว่า“ยังไม่นอนอีกหรือ?”เมื่อคืนเขาไม่ได้นอน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 694

    ไม่แปลกใจเลยที่ตงฟางซื่อจักเป็นผู้สืบทอดตระกูลตงฟาง แม้ว่าจักเป็นภาพวาดเสมือนที่ปลอมตัวมา เขาก็ยังคาดเดาถึงรูปลักษณ์ที่แท้จริงออกมาได้เขาพลางยิ้มตาหยีออกมา แววตาพลันเผยให้เห็นความเฉลียวฉลาดออกมาในทันที“ที่ข้าเอ่ยถามติงหยวนเอ๋อร์นั้น หาได้เอ่ยถามไปเรื่อยเปื่อยไม่“วาดมังกรวาดพยัคฆ์ยากที่จะวาดถึงกระดูก“คนธรรมดาทั่วไปมักจะวาดแค่ภายนอกออกมา แต่ข้าเริ่มวาดที่ภายในก่อนแล้วจึงค่อย ๆ แต่งเติมเนื้อหนังเข้าไป ทว่า กลับกัน…”ตงฟางซื่อชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะมองไปยังภาพวาดที่อยู่บนโต๊ะ “เป็นนางจริง ๆ ”ด้านในภาพวาดนั้นเป็นสตรีวัยละอ่อนที่งดงามที่ดูอย่างไรก็เป็นหร่านชิว!เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม“เดิมทีคนผู้นี้ก็เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยของพวกเรามาก่อน ทว่า ยามนี้ความจริงกระจ่างออกมาแล้ว”ตงฟางซื่อพยักหน้าลงก่อนที่เขาจะหันไปเตือนเฟิ่งจิ่วเหยียนอีกครั้ง“เรื่องนี้ ยิ่งมีคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น“เจ้าบุกเข้าไปในสนามประลองยุทธ์ด้วยความโมโห ประหนึ่งวีรบุรุษช่วยเหลือสาวงาม เรื่องใหญ่โตถึงเพียงนี้ เกรงว่าหร่านชิวที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดมิดคงจะตื่นตระหนกไม่น้อย“ที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 695

    หลังจากที่เซียวอวี้จัดการกับคดีสนามประลองยุทธ์ภายในเมืองไท่ชางเสร็จนั้น เขาก็เร่งเดินทางกลับไปยังเมืองหลวงในทันทีเจียงหลินรับสินค้าผิดพลาด จึงทำให้การค้าเกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ ดังนั้น เขาจึงต้องพยายามหาช่องทางอุดช่องโหว่เหล่านี้ทว่า เส้นทางการค้าของเขานั้น เริ่มแรกยังพอไปได้อยู่ หากในยามนี้เขากลับรู้สึกว่ามันน่าเบื่อหน่ายยิ่งนักยิ่งเขาเห็นการผจญภัยท่องไปในโลกยุทธภพของซูฮ่วนแล้ว ทั้งเต็มไปด้วยความตื่นตาและน่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งทำให้หัวใจของเขารู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมาอีกครั้งทำเอาเขาหวนคิดไปถึงตนเองในวัยเด็กที่มิต้องมาเป็นกังวลกับการค้าของตระกูล เช่นนี้เขาก็จะสามารถร่วมผจญภัยท่องไปในใต้หล้ากับพวกเขาได้……สิบวันต่อมาเมื่อเซียวอวี้มาถึงเมืองหลวงแล้วนั้นรุ่ยอ๋องจึงมารับเสด็จอยู่ที่ด้านหน้าประตูวังพิธีการชุดนี้ ยามนี้รุ่ยอ๋องทำได้อย่างเชี่ยวชาญมากเซียวอวี้ที่จากไปนานกว่าสองเดือน ราชกิจในราชสำนักจึงมีรุ่ยอ๋องและขุนนางหลายคนคอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้ จึงมิได้เกิดความวุ่นวายอันใดมากวังหลังสูญเสียนางสนมไปมากกว่าครึ่ง จึงเงียบสงบยิ่งนักเรื่องใหญ่เพียงอย่างเดียวก็คือ ไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 696

    “ในยามนี้นางเป็นเช่นไรบ้าง” เซียวอวี้รีบร้อนเอ่ยถามในทันที สายตาที่เย็นชาและเจือไปด้วยความเฉียบคมพลางเต็มไปด้วยความกังวลมากมายเฉินจี๋จึงตอบกลับ“หยิ่นลิ่วส่งจดหมายมาเล่าว่า คุณชายซูได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ หาได้อันตรายถึงชีวิตไม่ อีกทั้ง สามารถจับตัวนักฆ่าเหล่านั้นได้แล้ว จึงขอความเห็นจากฝ่าบาทจัก ให้จัดการหรือมีพระประสงค์เช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้เป็นอันตรายมากนั้น เซียวอวี้จึงรู้สึกโล่งอกไปในทันทีส่วนนักฆ่าพวกนั้น แน่นอนว่าพวกมันต้องถูกประหารทั้งหมด!ทว่า……“เป็นผู้ใดที่อยู่บงการเบื้องหลัง!”เฉินจี๋ทูลตอบตามความจริง: “หยิ่นลิ่วยังมิอาจเค้นปากพวกมันออกมาได้ในยามนี้พ่ะย่ะค่ะ”ดวงตาของเซียวอวี้เต็มไปด้วยความเฉียบคม เขาเอามือไพล่ไปที่ด้านหลัง ร่างสูงใหญ่ของเขาราวกับก้อนหินขนาดใหญ่ ราวกับว่า หากตกลงไปบนพระราชวัง จักต้องทำให้ผู้คนตัวสั่นไปด้วยความกลัว“นำนักฆ่าเหล่านั้นกลับมาสอบสวนพวกเขาดี ๆ เสีย!”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวอวี้มองไปยังพระราชโองการแต่งตั้งฮองเฮาที่อยู่บนโต๊ะ สายตาเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟันเขาอยากจะรู้นัก ว่ามันผู้ใดขว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 697

    หากมิมีหลักฐาน เซียวอวี้มิมีทางมาถามกับไทฮองไทเฮาโดยตรงเช่นนี้แน่“เราได้สอบปากคำนักฆ่าเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว”ฝ่ามือของไทฮองไทเฮาพลันสั่นเทาไปในทันทีสอบปากคำ?คนที่นางส่งออกไปนั้น ถูกจับหมดแล้วหรือ?แล้วซูฮ่วนล่ะ?ซูฮ่วนตายแล้วหรือยัง?ไทฮองไทเฮาอยากที่จะรู้เรื่องนี้ยิ่งนักเซียวอวี้ที่มิรู้ว่าแรงจูงใจอันใดทำให้เสด็จย่าของเขาทำเช่นนี้เขาพลางเอ่ยถามออกมาด้วยความเย็นชาว่า“ซูฮ่วนหาได้มีความแค้นอันใดกับท่านไม่ เหตุใดท่านต้องการสังหารนางด้วย!”ไทฮองไทเฮาเม้มปากไปด้วยความโกรธเกรี้ยวในเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว นางก็มิมีเหตุผลอันใดที่จะไม่ยอมรับคำพูดที่เก็บเอาไว้มานาน ในที่สุดก็จะได้เอ่ยออกไปเสียที!“ทำไมนะหรือ?“ฝ่าบาท ท่านรู้เรื่องนี้แก่ใจดี!“ทั้งท่านและเขา ต่างทำอันใดลงไป!”ใบหน้าของไทฮองไทเฮาพลันซีดขาว ราวกับว่าลูกปัดพุทธมงคลที่พระนางชื่นชอบตกลงไปในบ่อส้วม ยามที่นึกหยิบขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดนั้น เมื่อคิดถึงวิบากกรรมที่มันต้องพบเจอนั้น พลันรู้สึกร่างกายหนาวสั่นขึ้นมาในทันทีหลานชายสุดที่รักของนาง เดิมทีก็เป็นเพียงบุรุษปกติ ตอนนี้กลับกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว!เซีย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 698

    วังหลวงพลันตกอยู่ในการสอบสวนอย่างเข้มงวด ทำเอาผู้คนต่างตื่นตระหนกไปในทันทีภายในวันเดียว เพียงตำหนักจื้อเฉินนั้น มีเหล่านางกำนัลมากมายถูกลากเข้าไปในกรมราชทัณฑ์แม้แต่ขันทีข้างกายของฝ่าบาทหลิวซื่อเหลียง ก็ถูกนำตัวไปที่กรมราชทัณฑ์ด้วยมิต้องเอ่ยถึงตำหนักวั่นโซ่วเลยคนสนิทของไทฮองไทเฮาล้วนถูกจับกุมไปจนหมด ทั่วทั้งตำหนักถูกเปลี่ยนเป็นนางกำนัลชุดใหม่มาแทนการลงดาบเช่นนี้ ทำเอาผู้คนภายในวังหลวงต่างก็ระมัดระวังตัวเองมากขึ้นตำหนักฉือหนิงหนิงเฟยและไทเฮาที่นั่งคุยกันอยู่นั้น พลางเอ่ยออกมาด้วยความขบขันว่า“เสด็จป้าเพคะ ในที่สุดหญิงชราจากตำหนักวั่นโซ่วก็จะได้ออกจากวังไปเสียที“หม่อมฉันได้ยินมา เป็นพระประสงค์ของฝ่าบาทคือ และหากมิมีราชโองการเรียกตัว ห้ามกลับมาอีกด้วยนะเพคะ”“ดูภายนอก ดูเหมือนส่งพระนางไปพักฟื้นที่ภูเขาอวี้หยาง แท้จริงแล้วทุกคนต่างก็มองออกว่า ว่าไทฮองไทเฮาไปทำสิ่งใดให้ฝ่าบาททรงพิโรธเข้า“มิเช่นนั้น ตำหนักวั่นโซ่วคงมิมีทางคึกคักเช่นนี้ มีคนมากมายถูกกุมตัวไป หากเป็นเมื่อก่อนแล้วละก็ มิเห็นแก่หน้าพระก็ต้องเห็นแก่หน้าพระพุทธ ผู้ใดจักกล้าแตะต้องคนของไทฮองไทเฮาได้!”ไทเฮาฟังคำ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 699

    ตำหนักฉางเล่อ“พระสนมเพคะ ฝ่าบาทมีรับสั่งเรียกตัวพระนางไปที่ห้องทรงพระอักษรเพคะ!” นางกำนัลพลันวิ่งเจ้ามารายงานที่ตำหนักในด้วยท่าทีเป็นสุขหรงเฟยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเปี่ยมสุขพลางนั่งอยู่บนหน้าโต๊ะเครื่องแป้งฝ่าบาทกลับมาถึงวังหลวงได้หลายวันแล้ว ในที่สุดเขาก็คิดถึงนางเสียทีหลังจากนั้นไม่นาน หรงเฟยก็เดินทางไปยังห้องทรงพระอักษรในทันทีด้านในห้องมีเพียงฝ่าบาทและเฉินจี๋เพียงสองคนนางโค้งกายทำความเคารพ“ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”เซียวอวี้พลางหันมามองนางด้วยความเย็นชา“เรื่องของเรากับซูฮ่วน เป็นเจ้าที่นำความไปบอกกับเสด็จย่าใช่หรือไม่?”หัวใจของหรงเฟยพลันตกไปอยู่บนตาตุ่มทันทีซูฮ่วน...ที่ฝ่าบาทต้องการจะพบตัวนางนั้น เป็นเพราะเรื่องนี้เองหรือ?หรงเฟยครุ่นคิดกับตนเองผู้คนในวังหลวงที่ถูกจับกุมตัวไปมากมายนั้น โดยเฉพาะในตำหนักวั่นโซ่วไทฮองไทเฮาได้ส่งคนมาส่งข่าวกับนางแล้วว่า เรื่องการลอบสังหารของซูฮ่วนนั้น ความแตกแล้วฝ่าบาทที่เป็นคนเฉลียวฉลาดเช่นนี้ ย่อมต้องคาดเดาได้ว่ามีคนวิ่งโร่ไปฟ้องไทฮองไทเฮาอย่างแน่นอนในเมื่อเรื่องมาถึงเช่นนี้ หากนางยังมิยอมรับอีก ย่อมทำให้ฝ่าบาทเอาแต่สืบความ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 700

    ดวงตาของหรงเฟยพลันเต็มไปด้วยความโศกเศร้า“ฝ่าบาท หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ หม่อมฉันจะมิทำเช่นนี้อีก”ซูฮ่วนคือเส้นตายของเขาตราบใดที่เขาให้อภัยนาง นางจะมิมีทางแตะต้องอีก“ศิษย์พี่ หม่อมฉันก็แค่อยากให้ท่านมีความสุขและสงบสุข...”เซียวอวี้พลันลุกขึ้นยืน ดวงตาเฉยชาหาได้แยแสสิ่งใดไม่“เสด็จย่าหาได้ทรยศเจ้าไม่ พระนางใช้วิธีของตนเองเพื่อปกป้องเจ้า“แล้วเจ้าล่ะ? มู่หรงหลัน เจ้ากลับโยนความผิดทั้งหมดไปให้กับหญิงชราเช่นพระนาง”หรงเฟยพลันตัวสั่นเทาไปในทันที“ไม่ หม่อมฉันแค่...หม่อมฉันแค่บอกความจริงเพคะ นักฆ่าพวกนั้นเป็นความคิดของไทฮองไทเฮาจริง...หรือว่าการที่หม่อมฉันพูดความจริงออกไป ก็ถือเป็นความผิดเช่นนั้นหรือ?”ดวงตาของเซียวอวี้พลันเจือไปด้วยความเย็นชาและเฉยเมย“เราคือฮ่องเต้ “เจ้าคิดว่า ยามที่เจ้ามาอยู่เบื้องหน้าของเรา เจ้าจักกล้าเล่นพรางใจหรือมีเล่ห์เหลี่ยมได้เช่นนั้นหรือ?“ในตอนนั้น เราได้ตอบตกลงเจ้า จักให้เกียรติเจ้าและเลี้ยงดูเจ้าภายในวังให้มีกินมีใช้ไปชั่วชีวิต”“แต่เจ้าก็ให้สัญญากับเราเช่นกัน ว่าจักมิคิดตุกติกเล่นแง่กับเรา! เจ้ารู้ดี ว่าเราเกลียดสตรีในวังหลังที่กะล่อนปลิ้นปล่อน

Bab terbaru

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1030

    ณ ตำหนักฉือหนิงสายตาที่ไทเฮามองมายังฮ่องเต้ ดูไม่สบายใจและไม่มั่นใจอยู่บ้างนางไม่คิดว่า ฝ่าบาทเป็นห่วงนาง เลยแวะมาเยี่ยมนางเซียวอวี้พูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการถามสารทุกข์สุกดิบใด ๆ“ถวายบังคมเสด็จแม่“เราจะไม่อยู่วัง วันกลับยังไม่แน่ชัด เรื่องภายในวังหลัง เรากังวลว่าหนิงเฟยคนเดียวจะตัดสินใจไม่ได้ จึงอยากฝากให้ท่านดูแลชั่วคราว”ไทเฮางุนงงยิ่งกว่าเดิมเขาจะออกจากวังไปทำอะไรอีก?ไม่ใช่ว่าเพิ่งกลับมาเมื่อไม่กี่วันก่อนหรือ?เซียวอวี้ส่งสายตา หลิวซื่อเหลียงจึงนำตราประทับทองวางลงบนโต๊ะมีตราประทับทอง ก็จะสามารถควบคุมเรื่องทุกอย่างในวังหลังได้นานแล้วที่ไทเฮาไม่ได้จับตราประทับทองแต่บางเรื่อง นางเองก็เข้าใจเป็นอย่างดี“ฮ่องเต้ เจ้าไม่อยู่วังอีกแล้วหรือ ครั้งนี้เพราะอะไรล่ะ? อีกอย่าง ตอนนั้นฮองเฮาใส่ชุดสามัญชนออกตรวจแต่ละเมืองกับเจ้า ทำไมมีแต่เจ้ากลับมาคนเดียว ฮองเฮาล่ะ?”แววตาของเซียวอวี้ราบเรียบ คำโป้ปดพูดออกมาโดยไม่ต้องคิด“เราต้องกลับมาจัดการเรื่องสำคัญในราชสำนัก ฮองเฮายังออกตรวจอยู่ ครั้งนี้ เราจึงต้องไปตามหานาง”ไม่รู้ไทเฮาเชื่อหรือไม่ เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างขณะที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1029

    เซียวอวี้ไม่ทันได้รอให้เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับมา แต่กลับได้ยินข่าวลือที่นางจะขึ้นบัลลังก์ในแคว้นซีหนี่ว์เขาไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็อดที่จะคิดไปต่าง ๆ นานาไม่ได้จากนิสัยของจิ่วเหยียน มีความเป็นไปได้ว่าเพื่อปกป้องแคว้นซีหนี่ว์แล้ว นางจะปล่อยไปตามสถานการณ์ รับช่วงแก้ปัญหาต่อของแคว้นซีหนี่ว์ นัยน์ตาของเซียวอวี้เจือแววหม่นหมองเขาสั่งเฉินจี๋ “ไปสืบมาให้ชัดเจน ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่!”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”เฉินจี่เองก็ไม่อยากจะเชื่อ ฮองเฮาจะทิ้งฝ่าบาท และหันหลังให้แคว้นหนานฉีทั้งอย่างนี้วันต่อมาณ ตำหนักฉือหนิง หลายวันนี้ไทเฮารู้สึกอ่อนเพลีย มักจะนอนไม่หลับสนิทหมอหลวงตรวจชีพจรให้นาง หนิงเฟยเฝ้าอยู่ข้าง ๆ “หมอหลวง ร่างกายของท่านป้าเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรหรือไม่?”หมอหลวงโค้งคำนับ “ทูลพระนาง เส้นลมปราณจุดเริ่นของไทเฮาอ่อนแรง เส้นลมปราณไท่ชงก็น้อยลง  ชีพจรเทียนขุยหดหาย อุโมงค์อุดตัน ระดูหมด”เขาอธิบายจบ สีหน้าของไทเฮาพลันแข็งค้าง หัวใจเหมือนถูกอะไรทับไว้ จนหายใจไม่ออกระดูหมด นั่นหมายความว่านางเข้าสู่วัยชราอย่างสมบูรณ์นี่เป็นเรื่องที่สตรีต้องประสบพบเจอในชีวิตแต่นางไม่คิดเลยว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1028

    หัวหน้าแม่ทัพของแคว้นเจิ้งมีสีหน้าอดกลั้น“ผู้หญิงคนนั้นพูดถูก ควรถอยทัพ เพื่อปกป้องกองกำลังของแค้นให้คงอยู่!”หัวหน้าแม่ทัพแคว้นเสี่ยวโจวหงุดหงิดอย่างยิ่ง“สุดท้ายสวรรค์ก็ไม่เข้าข้างข้า! ตอนนี้แคว้นซีหนี่ว์และแคว้นหนานฉี ผูกมัดรวมกันแล้ว!”หากพวกเขาเคลื่อนทัพเมื่อใด กองทัพชายแดนตะวันตกของแคว้นหนานฉีก็จะเคลื่อนไหวทันทีพอถึงเวลานั้น พวกเขาก็จะถูกโจมตีทั้งสองทางอันตรายนี้ จะเข้าไปเสี่ยงไม่ได้แคว้นหนานฉีในปัจจุบัน เปรียบเสมือนปีศาจจอมตะกละที่กินอย่างไรก็ไม่อิ่มท้องหากถูกพวกเขาโจมตียึดครอง  ก็ไม่ใช่แค่ตกเป็นแคว้นอาณานิคม แต่แคว้นจะล่มสลายอย่างสมบูรณ์ ไม่มีวันได้ฟื้นคืนชีพกลับมาอีก……บริเวณขอบชายแดนเฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่ไปไหนลมค่อย ๆ แรงขึ้น หูย่วนเอ๋อร์นำผ้าคลุมกันลม มาคลุมให้นางอย่างนอบน้อมสายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนทอดมองยังเบื้องหน้า กล่าวอย่างลุ่มลึก“แม่ทัพหู ข้าอยากให้เจ้าบอกมาตามตรง“เรื่องที่สองแม่ลูกหลิวอิ๋งกลับมาที่แคว้นซีหนี่ว์ ท่านป้ารู้หรือไม่?”หูย่วนเอ๋อร์บอกอย่างงุนงง“ยามที่ประมุขแคว้นรักษาตัวอยู่ที่ชานเมือง นางรู้อะไร หรือไม่รู้อะไรนั้น  ข้าไม่รู้เรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1027

    เมื่อเห็นว่าขอร้องไปก็ไร้ความหวัง เจิ้งจีก็ตะโกนสาปแช่งไล่หลังเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ค่อย ๆ เดินออกไปไกล“เฟิ่งจิ่วเหยียนเจ้าไม่ได้ตายดีแน่ เจ้าสร้างบาปกรรมเช่นนี้  ชั่วชีวิตนี้เจ้ามีลูกอีกไม่ได้แน่นอน!”เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยิน ในใจกลับไม่สะทกสะท้านด้านหลัง มีเสียงยกดาบและลงดาบดังตามมาติด ๆหลิวอิ๋งพูดถูก  ถูกประหารศีรษะก็แค่หลุดล่วงบนพื้นวันนี้ ศีรษะของนางหลุดในวังหลวงแคว้นซีหนี่ว์หัวกลิ้งหลุน ๆ ดึงดันหันไปทางตำหนักหลัก จ้องบัลลังก์ที่นางยังไม่ได้ครอบครอง อย่างตายตาไม่หลับเจิ้งจีเห็นภาพนี้ พลันนิ่งอึ้ง“ไม่นะ! ไม่——ท่านแม่!”เมื่อเห็นดาบกำลังจะฟันลงที่นาง นางก็เบิกตากว้างนางเสียใจนางไม่น่าตามมารดาไปที่เมืองหลวง ไม่น่าไปฝันลม ๆ แล้ง ๆ อยากเป็นนางสนม ไม่น่ากลับมาที่แคว้นซีหนี่ว์อีกครั้งหากนางอยู่ที่เจียงโจว ก็คงไม่ตายต่อมา เลือดสด ๆ ก็สาดกระเซ็นออกมา…ศีรษะหลุดออกจากบ่าหล่นบนพื้นตายตาไม่หลับเหมือนกัน……นอกชายแดนแคว้นซีหนี่ว์กองทัพของแคว้นเสี่ยวโจวและแคว้นเจิ้งโจวเตรียมบุกโจมตีเวลากลางคืน ทหารสอดแนมมารายงาน“ท่านแม่ทัพ! ประมุขแคว้นซีหนี่ว์สิ้นพระชนม์แล้ว! แต่ซู่ย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1026

    ความผูกพันที่เฟิ่งจิ่วเหยียนมีต่อแคว้นซีหนี่ว์ ไม่ลึกซึ้งเท่าความผูกพันที่มีต่อแคว้นหนานฉีเนื่องจากนางเติบโตในแคว้นหนานฉีตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเคยเป็นทหารของแคว้นหนานฉีญาติสนิทมิตรสหายของนาง ล้วนอยู่ในแคว้นหนานฉีทั้งนั้นตอนนี้ นางยังเป็นฮองเฮาของแคว้นหนานฉีอีกด้วยหากนางตัวคนเดียว บางทีนางอาจจะสามารถอยู่ได้แบบไม่ต้องลังเล แต่ว่าตอนนี้ หากให้นางทิ้งทุกอย่างในแคว้นหนานฉี อยู่เป็นฮ่องเต้ที่แคว้นซีหนี่ว์ นางทำไม่ได้นางมีหลายเรื่องที่ปล่อยวางไม่ได้และยังอาลัยอาวรณ์อยู่สามีของนาง ท่านอาจารย์และอาจารย์หญิง แล้วไหนจะเวยเฉียง…ทว่า แคว้นซีหนี่ว์เองก็ต้องปกป้องในด้านส่วนตัว นี่คือสายเลือดตระกูลบรรพบุรุษของนางในด้านส่วนรวม จำเป็นต้องมีแคว้นเฉกเช่นแคว้นซีหนี่ว์ เพื่อสังคมโลกที่ไม่ยุติธรรมต่อสตรี อีกอย่าง แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งก็สนิทชิดเชื้อกับเป่ยเยี่ยน หากพวกเขาแบ่งแยกแคว้นซีหนี่ว์ ก็จะสร้างความกดดันต่อชายแดนทางตะวันตกของแคว้นหนานฉี หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด“ข้าจะช่วยแคว้นซีหนี่ว์ปราบปรามศัตรูให้ล่าถอย แต่ตำแหน่งฮ่องเต้ คงต้องให้ผู้ปรา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1025

    ณ แคว้นหนานฉีภายในพระราชวังความรู้สึกไม่สบายใจของเซียวอวี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆเขาฝืนอ่านฎีกาจนจบ แล้วขึ้นราชรถไปตำหนักหย่งเหอด้วยจิตใจที่ล่องลอยหลิวซื่อเหลียงรีบตามมาด้านหลัง เขามองออกว่าฝ่าบาทกำลังวิตกกังวล ก็นึกว่าฝ่าบาททรงกังวลเรื่องของแคว้น จึงให้ข้าหลวงถอยออกไปด้วยสายตาที่เฉียบแหลมเซียวอวี้นั่งเหม่อลอยอยู่ที่เก้าอี้ในตำหนักชั้นในเป็นเวลานานหากไม่ติดเรื่องฐานะฮ่องเต้ ยามนี้เขาอยากจะไปแคว้นซีหนี่ว์ ตามจิ่วเหยียนของเขากลับมาแล้วแคว้นซีหนี่ว์ในเวลาเดียวกันเฟิ่งจิ่วเหยียนตกอยู่ในสองสถานการณ์ที่ยากลำบากด้านหนึ่ง นางรู้ดีว่าด้วยฐานะฮองเฮาแคว้นหนานฉีของนาง ไม่อาจอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ได้อีกด้านหนึ่ง แคว้นซีหนี่ว์ถูกคุกคามจากแคว้นศัตรู หากนางพาท่านแม่จากไปโดยไม่สนใจความอยู่รอดของแคว้นซีหนี่ว์ ย่อมทำใจได้ยากภายในตำหนัก โอวหยางเหลียนและหูย่วนเอ๋อร์ต่างคุกเข่าให้นางอยู่บนพื้น ขอร้องให้นางอยู่ต่อด้านนอกตำหนัก เหล่าขุนนางที่เดิมยังอยู่ที่ท้องพระโรงหน้า ไม่รู้ว่าได้ข่าวมาจากที่ใด ยามนี้ต่างก็มาคุกเข่าอยู่ด้านนอก ขอให้นางขึ้นครองราชย์แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนหนักอึ้ง“ลุกข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1024

    หลิวอิ๋งไม่สนใจว่าคนอื่นเป็นอย่างไรบ้าง นางถามเจิ้งจีเป็นอย่างแรก“ท่านป้าของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง!”“ท่านแม่ ท่านป้าสวรรคตแล้วเจ้าค่ะ...”ความทรงจำของเจิ้งจีเลือนราง จึงนึกว่าท่านแม่เองก็จำได้ไม่ชัดเจนเช่นกันหญิงผู้นั้นตายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ใช่หรือยามนี้นางจึงรีบพูดเรื่องสำคัญ “ท่านแม่ มีคนบุกเข้าไปในตำหนักบรรทม พวกเขาตีข้าจนสลบ ท่านรีบส่งทหารรักษาพระองค์ไปจับพวกเขาเร็วเข้า!”หลังจากเจิ้งจีที่อยู่นอกตำหนักฟื้นขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมาก ยังมีเสียงเลือนรางที่ดังมาจากด้านในตำหนักอีก ปฏิกิริยาแรกของนางก็คือหนีเพื่อไปขอความช่วยเหลือ ดังนั้นนางจึงไม่รู้ว่าใครเป็นคนตีนางจนสลบ และไม่รู้ว่าในตำหนักเกิดอะไรขึ้นเมื่อหลิวอิ๋งได้ยินคำพูดของลูกสาว ก็คิดว่าประมุขแคว้นตายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่ได้มีเรื่องอย่างการฟื้นคืนชีพ ก็รู้สึกยินดียิ่งตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ที่ว่าประมุขแคว้นยังเหลือลมหายใจอยู่อะไรนั่น ที่แท้ก็เป็นการหลอกนาง!เฮ้อ! โชคดีที่นางไม่ติดกับ!พอซู่เฉียนเสวี่ยตายแล้ว ทีนี้นางอยากรู้นัก ใครจะพิสูจน์ได้เล่าว่านางไม่ใช่ซู่ยวน?......ตอนที่นายหญิงเฟิ่งมาถึงพระราชว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1023

    “ท่านประมุข แคว้นเสี่ยวโจวและแคว้นเจิ้งต่างจ้องแคว้นเราตาเป็นมัน ท่านทำใจทิ้งพวกเราลงได้หรือเพคะ!”“ท่านประมุข ท่านจะต้องอายุยืนเป็นร้อยปี! ได้โปรดทำใจให้ฮึกเหิมเพื่อแคว้นซีหนี่ว์ จะต้องทรงดีขึ้นนะเพคะ!”“ท่านประมุข หม่อมฉันไร้ความสามารถ หม่อมฉันมาช่วยพระองค์ช้าเกินไป! แท้ที่จริงแล้วหลิวอิ๋งผู้นั้น ใช่ใต้เท้าซู่ยวนหรือไม่เพคะ? ขอท่านเผยความจริงด้วยเถิด!”ประมุขแคว้นที่อยู่บนเตียง เบ้าตาจมลึก ริมฝีปากซีดขาว ผอมจนเห็นกระดูก อาภรณ์ขาวบนร่างดูราวกับผ้าห่อศพ แผ่กลิ่นอายความตายออกมาลมหายใจของนางแผ่วเบา ทว่าเสียงที่ออกมาจากปากกลับชัดเจนยิ่ง “หลิวอิ๋ง...ไม่ใช่ซู่ยวน จะให้นางทำให้แคว้นซีหนีว์วุ่นวายไม่ได้!”เมื่อซู่เฉียนเสวี่ยพูดคำสุดท้ายจบ ก็ราวกับว่านางได้ใช้เรี่ยวแรงไปจนหมดแล้ว นางหายใจรุนแรงราวกับว่าวิญญาณในร่างกำลังล่องลอยออกไป นางเงยหน้าขึ้นด้วยความทรมานอย่างที่สุด เพื่อให้ลมหายใจเคลื่อนผ่านสะดวกเหล่าขุนนางคนสนิทต่างก่นด่าถึงความไม่เป็นธรรม“ท่านประมุข ท่านวางใจเถิดเพคะ! หม่อมฉันจะไม่ยอมให้ซู่ยวนตัวปลอมนั่นขึ้นครองราชย์เด็ดขาด!”“ใช่ ฆ่านางซะ! นางหลอกลวงเบื้องสูง ทั้งยังทำร้ายท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1022

    หลิวอิ๋งดิ้นรนเหมือนคนบ้า“ปล่อยข้า! ข้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของท่านประมุขนะ! ข้าจะไปพบท่านพี่! พวกเจ้าจะทำร้ายท่านพี่ของข้า!”“ขุนนางรัก รีบหยุดพวกเขาเร็ว!“พวกเขาต้องมีเจตนาร้ายแน่!”ยามนี้เหล่าขุนนางต่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ต่อให้พวกนางอยากจะช่วย ก็ยังต้องดูด้วยว่าตนมีความสามารถที่จะช่วยหรือไม่แม่ทัพใหญ่ทั้งสี่มีอำนาจคุมกองทัพ รวมกับฮองเฮาแคว้นหนานฉีเองก็อยู่ที่นี่ จะให้สู้อย่างไรเล่า?อีกทั้งประมุขคนใหม่นี้มีเหตุผลชอบธรรมจริงหรือไม่ ก็ยังต้องพิจารณากันอีกที!หากนางไม่ใช่ซู่ยวนจริง ๆ พวกนางจะไม่กลายเป็นประสงค์ดีแต่ดันทำเรื่องไม่ดีลงไป แล้วช่วยคนชั่วทำความผิดหรอกหรือ?เสียงโวยวายของหลิวอิ๋ง เฟิ่งจิ่วเหยียนทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่นางสั่งทุกคนอย่างหนักแน่น“แม่ทัพหู ท่านดูแลท้องพระโรงให้ดี“แม่ทัพอีกสามท่านแยกกันเฝ้าประตูวัง ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออกทั้งสิ้น ป้องกันไม่ให้สายลับของแคว้นอื่นฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวาย“มั่วซินหมัวมัว พาขุนนางคนสนิทสองสามคนตามข้าไปพบท่านประมุข”“เพคะ!” หูย่วนเอ๋อร์และมั่วซินหมัวมัวตอบรับคำสั่งขุนนางบุ๋นบู๊ที่เหลือเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกสั

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status