Share

บทที่ 696

Penulis: อี้ซัวเยียนอวี่
“ในยามนี้นางเป็นเช่นไรบ้าง” เซียวอวี้รีบร้อนเอ่ยถามในทันที สายตาที่เย็นชาและเจือไปด้วยความเฉียบคมพลางเต็มไปด้วยความกังวลมากมาย

เฉินจี๋จึงตอบกลับ

“หยิ่นลิ่วส่งจดหมายมาเล่าว่า คุณชายซูได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ หาได้อันตรายถึงชีวิตไม่ อีกทั้ง สามารถจับตัวนักฆ่าเหล่านั้นได้แล้ว จึงขอความเห็นจากฝ่าบาทจัก ให้จัดการหรือมีพระประสงค์เช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”

หลังจากรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้เป็นอันตรายมากนั้น เซียวอวี้จึงรู้สึกโล่งอกไปในทันที

ส่วนนักฆ่าพวกนั้น แน่นอนว่าพวกมันต้องถูกประหารทั้งหมด!

ทว่า……

“เป็นผู้ใดที่อยู่บงการเบื้องหลัง!”

เฉินจี๋ทูลตอบตามความจริง: “หยิ่นลิ่วยังมิอาจเค้นปากพวกมันออกมาได้ในยามนี้พ่ะย่ะค่ะ”

ดวงตาของเซียวอวี้เต็มไปด้วยความเฉียบคม เขาเอามือไพล่ไปที่ด้านหลัง ร่างสูงใหญ่ของเขาราวกับก้อนหินขนาดใหญ่ ราวกับว่า หากตกลงไปบนพระราชวัง จักต้องทำให้ผู้คนตัวสั่นไปด้วยความกลัว

“นำนักฆ่าเหล่านั้นกลับมาสอบสวนพวกเขาดี ๆ เสีย!”

“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”

เซียวอวี้มองไปยังพระราชโองการแต่งตั้งฮองเฮาที่อยู่บนโต๊ะ สายตาเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟัน

เขาอยากจะรู้นัก ว่ามันผู้ใดขว
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (21)
goodnovel comment avatar
นัทธมน ประภัทศร
ลุ้นๆให้จิ่วเหยีนมีองค์ชาย
goodnovel comment avatar
Siriwan
ขอให้วันนี้ลงถึงวันอภิเษกฮองเฮานะแอดมิน
goodnovel comment avatar
อาภรณ์ เมืองรักษา
วันนี้ลงให้จบๆๆเรื่องใด้แล้ว
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 697

    หากมิมีหลักฐาน เซียวอวี้มิมีทางมาถามกับไทฮองไทเฮาโดยตรงเช่นนี้แน่“เราได้สอบปากคำนักฆ่าเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว”ฝ่ามือของไทฮองไทเฮาพลันสั่นเทาไปในทันทีสอบปากคำ?คนที่นางส่งออกไปนั้น ถูกจับหมดแล้วหรือ?แล้วซูฮ่วนล่ะ?ซูฮ่วนตายแล้วหรือยัง?ไทฮองไทเฮาอยากที่จะรู้เรื่องนี้ยิ่งนักเซียวอวี้ที่มิรู้ว่าแรงจูงใจอันใดทำให้เสด็จย่าของเขาทำเช่นนี้เขาพลางเอ่ยถามออกมาด้วยความเย็นชาว่า“ซูฮ่วนหาได้มีความแค้นอันใดกับท่านไม่ เหตุใดท่านต้องการสังหารนางด้วย!”ไทฮองไทเฮาเม้มปากไปด้วยความโกรธเกรี้ยวในเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว นางก็มิมีเหตุผลอันใดที่จะไม่ยอมรับคำพูดที่เก็บเอาไว้มานาน ในที่สุดก็จะได้เอ่ยออกไปเสียที!“ทำไมนะหรือ?“ฝ่าบาท ท่านรู้เรื่องนี้แก่ใจดี!“ทั้งท่านและเขา ต่างทำอันใดลงไป!”ใบหน้าของไทฮองไทเฮาพลันซีดขาว ราวกับว่าลูกปัดพุทธมงคลที่พระนางชื่นชอบตกลงไปในบ่อส้วม ยามที่นึกหยิบขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดนั้น เมื่อคิดถึงวิบากกรรมที่มันต้องพบเจอนั้น พลันรู้สึกร่างกายหนาวสั่นขึ้นมาในทันทีหลานชายสุดที่รักของนาง เดิมทีก็เป็นเพียงบุรุษปกติ ตอนนี้กลับกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว!เซีย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 698

    วังหลวงพลันตกอยู่ในการสอบสวนอย่างเข้มงวด ทำเอาผู้คนต่างตื่นตระหนกไปในทันทีภายในวันเดียว เพียงตำหนักจื้อเฉินนั้น มีเหล่านางกำนัลมากมายถูกลากเข้าไปในกรมราชทัณฑ์แม้แต่ขันทีข้างกายของฝ่าบาทหลิวซื่อเหลียง ก็ถูกนำตัวไปที่กรมราชทัณฑ์ด้วยมิต้องเอ่ยถึงตำหนักวั่นโซ่วเลยคนสนิทของไทฮองไทเฮาล้วนถูกจับกุมไปจนหมด ทั่วทั้งตำหนักถูกเปลี่ยนเป็นนางกำนัลชุดใหม่มาแทนการลงดาบเช่นนี้ ทำเอาผู้คนภายในวังหลวงต่างก็ระมัดระวังตัวเองมากขึ้นตำหนักฉือหนิงหนิงเฟยและไทเฮาที่นั่งคุยกันอยู่นั้น พลางเอ่ยออกมาด้วยความขบขันว่า“เสด็จป้าเพคะ ในที่สุดหญิงชราจากตำหนักวั่นโซ่วก็จะได้ออกจากวังไปเสียที“หม่อมฉันได้ยินมา เป็นพระประสงค์ของฝ่าบาทคือ และหากมิมีราชโองการเรียกตัว ห้ามกลับมาอีกด้วยนะเพคะ”“ดูภายนอก ดูเหมือนส่งพระนางไปพักฟื้นที่ภูเขาอวี้หยาง แท้จริงแล้วทุกคนต่างก็มองออกว่า ว่าไทฮองไทเฮาไปทำสิ่งใดให้ฝ่าบาททรงพิโรธเข้า“มิเช่นนั้น ตำหนักวั่นโซ่วคงมิมีทางคึกคักเช่นนี้ มีคนมากมายถูกกุมตัวไป หากเป็นเมื่อก่อนแล้วละก็ มิเห็นแก่หน้าพระก็ต้องเห็นแก่หน้าพระพุทธ ผู้ใดจักกล้าแตะต้องคนของไทฮองไทเฮาได้!”ไทเฮาฟังคำ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 699

    ตำหนักฉางเล่อ“พระสนมเพคะ ฝ่าบาทมีรับสั่งเรียกตัวพระนางไปที่ห้องทรงพระอักษรเพคะ!” นางกำนัลพลันวิ่งเจ้ามารายงานที่ตำหนักในด้วยท่าทีเป็นสุขหรงเฟยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเปี่ยมสุขพลางนั่งอยู่บนหน้าโต๊ะเครื่องแป้งฝ่าบาทกลับมาถึงวังหลวงได้หลายวันแล้ว ในที่สุดเขาก็คิดถึงนางเสียทีหลังจากนั้นไม่นาน หรงเฟยก็เดินทางไปยังห้องทรงพระอักษรในทันทีด้านในห้องมีเพียงฝ่าบาทและเฉินจี๋เพียงสองคนนางโค้งกายทำความเคารพ“ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”เซียวอวี้พลางหันมามองนางด้วยความเย็นชา“เรื่องของเรากับซูฮ่วน เป็นเจ้าที่นำความไปบอกกับเสด็จย่าใช่หรือไม่?”หัวใจของหรงเฟยพลันตกไปอยู่บนตาตุ่มทันทีซูฮ่วน...ที่ฝ่าบาทต้องการจะพบตัวนางนั้น เป็นเพราะเรื่องนี้เองหรือ?หรงเฟยครุ่นคิดกับตนเองผู้คนในวังหลวงที่ถูกจับกุมตัวไปมากมายนั้น โดยเฉพาะในตำหนักวั่นโซ่วไทฮองไทเฮาได้ส่งคนมาส่งข่าวกับนางแล้วว่า เรื่องการลอบสังหารของซูฮ่วนนั้น ความแตกแล้วฝ่าบาทที่เป็นคนเฉลียวฉลาดเช่นนี้ ย่อมต้องคาดเดาได้ว่ามีคนวิ่งโร่ไปฟ้องไทฮองไทเฮาอย่างแน่นอนในเมื่อเรื่องมาถึงเช่นนี้ หากนางยังมิยอมรับอีก ย่อมทำให้ฝ่าบาทเอาแต่สืบความ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 700

    ดวงตาของหรงเฟยพลันเต็มไปด้วยความโศกเศร้า“ฝ่าบาท หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ หม่อมฉันจะมิทำเช่นนี้อีก”ซูฮ่วนคือเส้นตายของเขาตราบใดที่เขาให้อภัยนาง นางจะมิมีทางแตะต้องอีก“ศิษย์พี่ หม่อมฉันก็แค่อยากให้ท่านมีความสุขและสงบสุข...”เซียวอวี้พลันลุกขึ้นยืน ดวงตาเฉยชาหาได้แยแสสิ่งใดไม่“เสด็จย่าหาได้ทรยศเจ้าไม่ พระนางใช้วิธีของตนเองเพื่อปกป้องเจ้า“แล้วเจ้าล่ะ? มู่หรงหลัน เจ้ากลับโยนความผิดทั้งหมดไปให้กับหญิงชราเช่นพระนาง”หรงเฟยพลันตัวสั่นเทาไปในทันที“ไม่ หม่อมฉันแค่...หม่อมฉันแค่บอกความจริงเพคะ นักฆ่าพวกนั้นเป็นความคิดของไทฮองไทเฮาจริง...หรือว่าการที่หม่อมฉันพูดความจริงออกไป ก็ถือเป็นความผิดเช่นนั้นหรือ?”ดวงตาของเซียวอวี้พลันเจือไปด้วยความเย็นชาและเฉยเมย“เราคือฮ่องเต้ “เจ้าคิดว่า ยามที่เจ้ามาอยู่เบื้องหน้าของเรา เจ้าจักกล้าเล่นพรางใจหรือมีเล่ห์เหลี่ยมได้เช่นนั้นหรือ?“ในตอนนั้น เราได้ตอบตกลงเจ้า จักให้เกียรติเจ้าและเลี้ยงดูเจ้าภายในวังให้มีกินมีใช้ไปชั่วชีวิต”“แต่เจ้าก็ให้สัญญากับเราเช่นกัน ว่าจักมิคิดตุกติกเล่นแง่กับเรา! เจ้ารู้ดี ว่าเราเกลียดสตรีในวังหลังที่กะล่อนปลิ้นปล่อน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 701

    รุ่ยอ๋องหาได้เปิดโปงเรื่องที่องค์หญิงมาแอบฟังไม่ นัยน์ตายังคงอ่อนโยนดุจน้ำ “ไปกันเถิด พวกเรากลับไป เล่นหมากรุกกันต่อเถอะ” องค์หญิงน้อยรู้สึกตัวสั่นระริกอย่างสุดที่จะพรรณนา หันไปมองอีกที กลับไม่เห็นผู้ใดอยู่ในห้องโถงด้านข้างเลย หารู้ไม่ว่า หลังจากที่นางกับรุ่ยอ๋องเดินจากไป หรงเฟยมายืนอยู่ริมหน้าต่าง พลางจ้องมองไปที่นางอย่างเย็นชา หรงเฟยถูกรุ่ยอ๋องปฏิเสธ หัวใจของนางดั่งถูกไฟแผดเผา ครั้นได้เห็นองค์หญิงน้อย ทำให้นางหวนนึกถึงอดีต ในสมัยนั้น องค์หญิงน้อยมีอายุเพียงหนึ่งหรือสองขวบ และฝ่าบาททรงรักเอ็นดูเด็กน้อยผู้นี้ยิ่งนัก นังเด็กสารเลว ยังอยู่ในวัยแบเบาะ ก็รู้วิธีดึงดูดความสนใจจากบุรุษเสียแล้ว ตอนนี้ ข้างพระวรกายของฝ่าบาทพลันมีซูฮ่วนโผล่มาอีกคน ผู้ใดที่กล้าแย่งชิงความสนใจของฝ่าบาทไป ล้วนสมควรตาย! หรงเฟยยกยิ้มมุมปาก ดูอ่อนโยนและสงบนิ่ง…… เมื่อเซียวอวี้จัดการเรื่องนักฆ่าเสร็จแล้ว ก็ได้เขียนจดหมายแจ้งข่าวถึงเฟิ่งจิ่วเหยียน ในขณะนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนกับตงฟางซื่อกำลังสืบเรื่องของหร่านชิว พวกเขาพบว่า บิดาของหร่านชิวเป็นหนึ่งในเก้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 702

    เซียวอวี้มองดูคนตรงหน้าด้วยสายตาที่คาดไม่ถึง คนผู้นั้นถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย... “อะไรกัน จำข้าไม่ได้แล้วหรือเพคะ?” เฟิ่งจิ่วเหยียนยกโค้งมุมปากอย่างสงบ ดูเหมือนยิ้ม ทว่าก็เหมือนตำหนิเช่นกัน นางสวมชุดดำพรางตัว รัดกุมแน่นหนา เส้นผมดำขลับถูกรวบมัดสูง ดูสง่างามดุจวีรบุรุษ ใบหน้าเจือด้วยความเหนื่อยล้าอยู่บ้าง ทว่ารอยยิ้มเล็ก ๆ นั้น ดุจบุปผากลางทะเลทราย ที่มีชีวิตชีวายิ่งนัก และทำให้เซียวอวี้ยิ่งรู้สึกคาดไม่ถึง เขาลุกขึ้นยืนทันที คว้าเสื้อคลุมมาใส่อย่างลวก ๆ และก้าวเดินไปหานางอย่างรวดเร็ว เฟิ่งจิ่วเหยียนถอยหลังไปสองก้าว พลางเตือนเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เนื้อตัวของข้ามีแต่ฝุ่นเพคะ” ดวงตาที่เย็นชาของเซียวอวี้กลายเป็นแย้มยิ้มอ่อนโยน ไม่สนใจที่นางจะหลบเลี่ยง ก็ดึงนางเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขนทันที จากนั้นจุมพิตหน้าผากของนาง และจูบสัมผัสมุมปากของนางอีกครั้ง “ไยถึงกลับมาไม่บอกกล่าวกันเล่า? เรื่องนั้นจบแล้วหรือ?” เฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายศีรษะ “ยังเพคะ “มารดาผู้ให้กำเนิดของหร่านชิวอยู่ที่อารามวั่งเฉินในเมืองอาน ข้ากับตงฟางซ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 703

    หร่านชิวฝึกตนอยู่ในถ้ำด้านข้าง เคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถีของนางได้บรรลุขั้นที่สองแล้ว มันราบรื่นกว่าที่นางคาดคิดเอาไว้เสียอีก ดูเหมือนว่า เคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถีนี้เหมาะสมกับพื้นฐานร่างกายของสตรีมากกว่าจริง ๆ นางอาจจะสามารถฝึกฝนได้เร็วกว่าหยางเหลียนซั่ว และดีกว่าด้วยซ้ำ! ขอเพียงนางประสบความสำเร็จ ก็จะกลายเป็นอันดับหนึ่งของยุทธภพ ในตอนนั้น จักไม่มีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ของนาง! ทั่วทั้งยุทธภพจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของนาง ไม่เว้นแม้แต่ซูฮ่วน และตงฟางซื่อ! ดวงตาของหร่านชิวเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน และยังแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะไม่ลดน้อยลง คนที่นางอยากจะกำจัดมากที่สุด ยังคงเป็นหยางเหลียนซั่ว จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวของเขา ตราบใดที่เขายังไม่ตาย นางจะต้องซ่อนตัวฝึกตนต่อไป หารู้ไม่ว่า ในขณะนี้หยางเหลียนซั่วอยู่ที่เป่ยเยี่ยน ณ เป่ยเยี่ยน ในพระราชวังหยางเหลียนซั่วได้รับการแนะนำโดยราชครูเป่ยเยี่ยน และได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้เยี่ยนในที่สุด ดวงตาของเขาถูกปกคลุมด้วยผ้าขาว จอนผมทั้งสองข้างกลายเป็นสีเทา บนบัลลังก์สูง ฮ่องเต้เยี่ยนมองดู

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 704

    รุ่ยอ๋องมองดูสตรีที่อยู่ตรงหน้า แววตาไร้ซึ่งความอบอุ่นและสงบนิ่งเช่นเคย “มู่หรงหลัน เจ้าหมดหนทางจะเยียวยาแล้วจริง ๆ !” เขาพลันหันหลังให้นาง ไม่อยากจะมองนางมากนัก มู่หรงหลันถอดอาภรณ์ชั้นนอกออกเหลือเพียงเสื้อชั้นในเท่านั้น ก้าวมาข้างหน้า และสวมกอดเขาจากด้านหลัง ทว่าถูกเขาต่อต้านอย่างรุนแรงและผละตัวออกห่าง “ออกไป! อย่ามาแตะต้องข้า!” มู่หรงหลันจ้องมองแผ่นหลังของเขา พลางหัวเราะเบา ๆ “ในสมัยนั้น ท่านกักขังข้าไว้ บอกว่าต้องการรักษาข้า และทำให้ข้ากลายเป็นคนปกติ แนะนำให้ข้าอย่าปิดบังความเจ็บป่วยและปฏิเสธการรักษา “วันนี้ข้าอยากรักษาให้ท่าน ไยท่านกลับปฏิเสธด้วยเล่า?” รุ่ยอ๋องขบกรามแน่นขึ้น ใบหน้าเขียวคล้ำ มู่หรงหลันเห็นว่าเขาเพิกเฉยต่อตนเอง จึงเดินอ้อมไปหยุดข้างหน้าของเขา แววตาของนางอ่อนโยน ทว่าแฝงไว้ด้วยเจตนาฆ่า “เหตุใดจึงไม่ช่วยข้า? “หรือว่า ท่านคิดจะกำจัดข้าไปตั้งนานแล้ว เช่นนั้นข้างกายของฝ่าบาทก็จะได้เหลือท่านเพียงคนเดียว?” ดวงตาของรุ่ยอ๋องเย็นชา “ข้าไม่เหมือนเจ้า” นางเสียสติไปนานแล้ว “มู่หรงหลัน หากมิใช่เพราะมิตรภาพ

Bab terbaru

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1030

    ณ ตำหนักฉือหนิงสายตาที่ไทเฮามองมายังฮ่องเต้ ดูไม่สบายใจและไม่มั่นใจอยู่บ้างนางไม่คิดว่า ฝ่าบาทเป็นห่วงนาง เลยแวะมาเยี่ยมนางเซียวอวี้พูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการถามสารทุกข์สุกดิบใด ๆ“ถวายบังคมเสด็จแม่“เราจะไม่อยู่วัง วันกลับยังไม่แน่ชัด เรื่องภายในวังหลัง เรากังวลว่าหนิงเฟยคนเดียวจะตัดสินใจไม่ได้ จึงอยากฝากให้ท่านดูแลชั่วคราว”ไทเฮางุนงงยิ่งกว่าเดิมเขาจะออกจากวังไปทำอะไรอีก?ไม่ใช่ว่าเพิ่งกลับมาเมื่อไม่กี่วันก่อนหรือ?เซียวอวี้ส่งสายตา หลิวซื่อเหลียงจึงนำตราประทับทองวางลงบนโต๊ะมีตราประทับทอง ก็จะสามารถควบคุมเรื่องทุกอย่างในวังหลังได้นานแล้วที่ไทเฮาไม่ได้จับตราประทับทองแต่บางเรื่อง นางเองก็เข้าใจเป็นอย่างดี“ฮ่องเต้ เจ้าไม่อยู่วังอีกแล้วหรือ ครั้งนี้เพราะอะไรล่ะ? อีกอย่าง ตอนนั้นฮองเฮาใส่ชุดสามัญชนออกตรวจแต่ละเมืองกับเจ้า ทำไมมีแต่เจ้ากลับมาคนเดียว ฮองเฮาล่ะ?”แววตาของเซียวอวี้ราบเรียบ คำโป้ปดพูดออกมาโดยไม่ต้องคิด“เราต้องกลับมาจัดการเรื่องสำคัญในราชสำนัก ฮองเฮายังออกตรวจอยู่ ครั้งนี้ เราจึงต้องไปตามหานาง”ไม่รู้ไทเฮาเชื่อหรือไม่ เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างขณะที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1029

    เซียวอวี้ไม่ทันได้รอให้เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับมา แต่กลับได้ยินข่าวลือที่นางจะขึ้นบัลลังก์ในแคว้นซีหนี่ว์เขาไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็อดที่จะคิดไปต่าง ๆ นานาไม่ได้จากนิสัยของจิ่วเหยียน มีความเป็นไปได้ว่าเพื่อปกป้องแคว้นซีหนี่ว์แล้ว นางจะปล่อยไปตามสถานการณ์ รับช่วงแก้ปัญหาต่อของแคว้นซีหนี่ว์ นัยน์ตาของเซียวอวี้เจือแววหม่นหมองเขาสั่งเฉินจี๋ “ไปสืบมาให้ชัดเจน ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่!”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”เฉินจี่เองก็ไม่อยากจะเชื่อ ฮองเฮาจะทิ้งฝ่าบาท และหันหลังให้แคว้นหนานฉีทั้งอย่างนี้วันต่อมาณ ตำหนักฉือหนิง หลายวันนี้ไทเฮารู้สึกอ่อนเพลีย มักจะนอนไม่หลับสนิทหมอหลวงตรวจชีพจรให้นาง หนิงเฟยเฝ้าอยู่ข้าง ๆ “หมอหลวง ร่างกายของท่านป้าเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรหรือไม่?”หมอหลวงโค้งคำนับ “ทูลพระนาง เส้นลมปราณจุดเริ่นของไทเฮาอ่อนแรง เส้นลมปราณไท่ชงก็น้อยลง  ชีพจรเทียนขุยหดหาย อุโมงค์อุดตัน ระดูหมด”เขาอธิบายจบ สีหน้าของไทเฮาพลันแข็งค้าง หัวใจเหมือนถูกอะไรทับไว้ จนหายใจไม่ออกระดูหมด นั่นหมายความว่านางเข้าสู่วัยชราอย่างสมบูรณ์นี่เป็นเรื่องที่สตรีต้องประสบพบเจอในชีวิตแต่นางไม่คิดเลยว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1028

    หัวหน้าแม่ทัพของแคว้นเจิ้งมีสีหน้าอดกลั้น“ผู้หญิงคนนั้นพูดถูก ควรถอยทัพ เพื่อปกป้องกองกำลังของแค้นให้คงอยู่!”หัวหน้าแม่ทัพแคว้นเสี่ยวโจวหงุดหงิดอย่างยิ่ง“สุดท้ายสวรรค์ก็ไม่เข้าข้างข้า! ตอนนี้แคว้นซีหนี่ว์และแคว้นหนานฉี ผูกมัดรวมกันแล้ว!”หากพวกเขาเคลื่อนทัพเมื่อใด กองทัพชายแดนตะวันตกของแคว้นหนานฉีก็จะเคลื่อนไหวทันทีพอถึงเวลานั้น พวกเขาก็จะถูกโจมตีทั้งสองทางอันตรายนี้ จะเข้าไปเสี่ยงไม่ได้แคว้นหนานฉีในปัจจุบัน เปรียบเสมือนปีศาจจอมตะกละที่กินอย่างไรก็ไม่อิ่มท้องหากถูกพวกเขาโจมตียึดครอง  ก็ไม่ใช่แค่ตกเป็นแคว้นอาณานิคม แต่แคว้นจะล่มสลายอย่างสมบูรณ์ ไม่มีวันได้ฟื้นคืนชีพกลับมาอีก……บริเวณขอบชายแดนเฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่ไปไหนลมค่อย ๆ แรงขึ้น หูย่วนเอ๋อร์นำผ้าคลุมกันลม มาคลุมให้นางอย่างนอบน้อมสายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนทอดมองยังเบื้องหน้า กล่าวอย่างลุ่มลึก“แม่ทัพหู ข้าอยากให้เจ้าบอกมาตามตรง“เรื่องที่สองแม่ลูกหลิวอิ๋งกลับมาที่แคว้นซีหนี่ว์ ท่านป้ารู้หรือไม่?”หูย่วนเอ๋อร์บอกอย่างงุนงง“ยามที่ประมุขแคว้นรักษาตัวอยู่ที่ชานเมือง นางรู้อะไร หรือไม่รู้อะไรนั้น  ข้าไม่รู้เรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1027

    เมื่อเห็นว่าขอร้องไปก็ไร้ความหวัง เจิ้งจีก็ตะโกนสาปแช่งไล่หลังเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ค่อย ๆ เดินออกไปไกล“เฟิ่งจิ่วเหยียนเจ้าไม่ได้ตายดีแน่ เจ้าสร้างบาปกรรมเช่นนี้  ชั่วชีวิตนี้เจ้ามีลูกอีกไม่ได้แน่นอน!”เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยิน ในใจกลับไม่สะทกสะท้านด้านหลัง มีเสียงยกดาบและลงดาบดังตามมาติด ๆหลิวอิ๋งพูดถูก  ถูกประหารศีรษะก็แค่หลุดล่วงบนพื้นวันนี้ ศีรษะของนางหลุดในวังหลวงแคว้นซีหนี่ว์หัวกลิ้งหลุน ๆ ดึงดันหันไปทางตำหนักหลัก จ้องบัลลังก์ที่นางยังไม่ได้ครอบครอง อย่างตายตาไม่หลับเจิ้งจีเห็นภาพนี้ พลันนิ่งอึ้ง“ไม่นะ! ไม่——ท่านแม่!”เมื่อเห็นดาบกำลังจะฟันลงที่นาง นางก็เบิกตากว้างนางเสียใจนางไม่น่าตามมารดาไปที่เมืองหลวง ไม่น่าไปฝันลม ๆ แล้ง ๆ อยากเป็นนางสนม ไม่น่ากลับมาที่แคว้นซีหนี่ว์อีกครั้งหากนางอยู่ที่เจียงโจว ก็คงไม่ตายต่อมา เลือดสด ๆ ก็สาดกระเซ็นออกมา…ศีรษะหลุดออกจากบ่าหล่นบนพื้นตายตาไม่หลับเหมือนกัน……นอกชายแดนแคว้นซีหนี่ว์กองทัพของแคว้นเสี่ยวโจวและแคว้นเจิ้งโจวเตรียมบุกโจมตีเวลากลางคืน ทหารสอดแนมมารายงาน“ท่านแม่ทัพ! ประมุขแคว้นซีหนี่ว์สิ้นพระชนม์แล้ว! แต่ซู่ย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1026

    ความผูกพันที่เฟิ่งจิ่วเหยียนมีต่อแคว้นซีหนี่ว์ ไม่ลึกซึ้งเท่าความผูกพันที่มีต่อแคว้นหนานฉีเนื่องจากนางเติบโตในแคว้นหนานฉีตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเคยเป็นทหารของแคว้นหนานฉีญาติสนิทมิตรสหายของนาง ล้วนอยู่ในแคว้นหนานฉีทั้งนั้นตอนนี้ นางยังเป็นฮองเฮาของแคว้นหนานฉีอีกด้วยหากนางตัวคนเดียว บางทีนางอาจจะสามารถอยู่ได้แบบไม่ต้องลังเล แต่ว่าตอนนี้ หากให้นางทิ้งทุกอย่างในแคว้นหนานฉี อยู่เป็นฮ่องเต้ที่แคว้นซีหนี่ว์ นางทำไม่ได้นางมีหลายเรื่องที่ปล่อยวางไม่ได้และยังอาลัยอาวรณ์อยู่สามีของนาง ท่านอาจารย์และอาจารย์หญิง แล้วไหนจะเวยเฉียง…ทว่า แคว้นซีหนี่ว์เองก็ต้องปกป้องในด้านส่วนตัว นี่คือสายเลือดตระกูลบรรพบุรุษของนางในด้านส่วนรวม จำเป็นต้องมีแคว้นเฉกเช่นแคว้นซีหนี่ว์ เพื่อสังคมโลกที่ไม่ยุติธรรมต่อสตรี อีกอย่าง แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งก็สนิทชิดเชื้อกับเป่ยเยี่ยน หากพวกเขาแบ่งแยกแคว้นซีหนี่ว์ ก็จะสร้างความกดดันต่อชายแดนทางตะวันตกของแคว้นหนานฉี หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด“ข้าจะช่วยแคว้นซีหนี่ว์ปราบปรามศัตรูให้ล่าถอย แต่ตำแหน่งฮ่องเต้ คงต้องให้ผู้ปรา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1025

    ณ แคว้นหนานฉีภายในพระราชวังความรู้สึกไม่สบายใจของเซียวอวี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆเขาฝืนอ่านฎีกาจนจบ แล้วขึ้นราชรถไปตำหนักหย่งเหอด้วยจิตใจที่ล่องลอยหลิวซื่อเหลียงรีบตามมาด้านหลัง เขามองออกว่าฝ่าบาทกำลังวิตกกังวล ก็นึกว่าฝ่าบาททรงกังวลเรื่องของแคว้น จึงให้ข้าหลวงถอยออกไปด้วยสายตาที่เฉียบแหลมเซียวอวี้นั่งเหม่อลอยอยู่ที่เก้าอี้ในตำหนักชั้นในเป็นเวลานานหากไม่ติดเรื่องฐานะฮ่องเต้ ยามนี้เขาอยากจะไปแคว้นซีหนี่ว์ ตามจิ่วเหยียนของเขากลับมาแล้วแคว้นซีหนี่ว์ในเวลาเดียวกันเฟิ่งจิ่วเหยียนตกอยู่ในสองสถานการณ์ที่ยากลำบากด้านหนึ่ง นางรู้ดีว่าด้วยฐานะฮองเฮาแคว้นหนานฉีของนาง ไม่อาจอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ได้อีกด้านหนึ่ง แคว้นซีหนี่ว์ถูกคุกคามจากแคว้นศัตรู หากนางพาท่านแม่จากไปโดยไม่สนใจความอยู่รอดของแคว้นซีหนี่ว์ ย่อมทำใจได้ยากภายในตำหนัก โอวหยางเหลียนและหูย่วนเอ๋อร์ต่างคุกเข่าให้นางอยู่บนพื้น ขอร้องให้นางอยู่ต่อด้านนอกตำหนัก เหล่าขุนนางที่เดิมยังอยู่ที่ท้องพระโรงหน้า ไม่รู้ว่าได้ข่าวมาจากที่ใด ยามนี้ต่างก็มาคุกเข่าอยู่ด้านนอก ขอให้นางขึ้นครองราชย์แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนหนักอึ้ง“ลุกข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1024

    หลิวอิ๋งไม่สนใจว่าคนอื่นเป็นอย่างไรบ้าง นางถามเจิ้งจีเป็นอย่างแรก“ท่านป้าของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง!”“ท่านแม่ ท่านป้าสวรรคตแล้วเจ้าค่ะ...”ความทรงจำของเจิ้งจีเลือนราง จึงนึกว่าท่านแม่เองก็จำได้ไม่ชัดเจนเช่นกันหญิงผู้นั้นตายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ใช่หรือยามนี้นางจึงรีบพูดเรื่องสำคัญ “ท่านแม่ มีคนบุกเข้าไปในตำหนักบรรทม พวกเขาตีข้าจนสลบ ท่านรีบส่งทหารรักษาพระองค์ไปจับพวกเขาเร็วเข้า!”หลังจากเจิ้งจีที่อยู่นอกตำหนักฟื้นขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมาก ยังมีเสียงเลือนรางที่ดังมาจากด้านในตำหนักอีก ปฏิกิริยาแรกของนางก็คือหนีเพื่อไปขอความช่วยเหลือ ดังนั้นนางจึงไม่รู้ว่าใครเป็นคนตีนางจนสลบ และไม่รู้ว่าในตำหนักเกิดอะไรขึ้นเมื่อหลิวอิ๋งได้ยินคำพูดของลูกสาว ก็คิดว่าประมุขแคว้นตายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่ได้มีเรื่องอย่างการฟื้นคืนชีพ ก็รู้สึกยินดียิ่งตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ที่ว่าประมุขแคว้นยังเหลือลมหายใจอยู่อะไรนั่น ที่แท้ก็เป็นการหลอกนาง!เฮ้อ! โชคดีที่นางไม่ติดกับ!พอซู่เฉียนเสวี่ยตายแล้ว ทีนี้นางอยากรู้นัก ใครจะพิสูจน์ได้เล่าว่านางไม่ใช่ซู่ยวน?......ตอนที่นายหญิงเฟิ่งมาถึงพระราชว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1023

    “ท่านประมุข แคว้นเสี่ยวโจวและแคว้นเจิ้งต่างจ้องแคว้นเราตาเป็นมัน ท่านทำใจทิ้งพวกเราลงได้หรือเพคะ!”“ท่านประมุข ท่านจะต้องอายุยืนเป็นร้อยปี! ได้โปรดทำใจให้ฮึกเหิมเพื่อแคว้นซีหนี่ว์ จะต้องทรงดีขึ้นนะเพคะ!”“ท่านประมุข หม่อมฉันไร้ความสามารถ หม่อมฉันมาช่วยพระองค์ช้าเกินไป! แท้ที่จริงแล้วหลิวอิ๋งผู้นั้น ใช่ใต้เท้าซู่ยวนหรือไม่เพคะ? ขอท่านเผยความจริงด้วยเถิด!”ประมุขแคว้นที่อยู่บนเตียง เบ้าตาจมลึก ริมฝีปากซีดขาว ผอมจนเห็นกระดูก อาภรณ์ขาวบนร่างดูราวกับผ้าห่อศพ แผ่กลิ่นอายความตายออกมาลมหายใจของนางแผ่วเบา ทว่าเสียงที่ออกมาจากปากกลับชัดเจนยิ่ง “หลิวอิ๋ง...ไม่ใช่ซู่ยวน จะให้นางทำให้แคว้นซีหนีว์วุ่นวายไม่ได้!”เมื่อซู่เฉียนเสวี่ยพูดคำสุดท้ายจบ ก็ราวกับว่านางได้ใช้เรี่ยวแรงไปจนหมดแล้ว นางหายใจรุนแรงราวกับว่าวิญญาณในร่างกำลังล่องลอยออกไป นางเงยหน้าขึ้นด้วยความทรมานอย่างที่สุด เพื่อให้ลมหายใจเคลื่อนผ่านสะดวกเหล่าขุนนางคนสนิทต่างก่นด่าถึงความไม่เป็นธรรม“ท่านประมุข ท่านวางใจเถิดเพคะ! หม่อมฉันจะไม่ยอมให้ซู่ยวนตัวปลอมนั่นขึ้นครองราชย์เด็ดขาด!”“ใช่ ฆ่านางซะ! นางหลอกลวงเบื้องสูง ทั้งยังทำร้ายท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1022

    หลิวอิ๋งดิ้นรนเหมือนคนบ้า“ปล่อยข้า! ข้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของท่านประมุขนะ! ข้าจะไปพบท่านพี่! พวกเจ้าจะทำร้ายท่านพี่ของข้า!”“ขุนนางรัก รีบหยุดพวกเขาเร็ว!“พวกเขาต้องมีเจตนาร้ายแน่!”ยามนี้เหล่าขุนนางต่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ต่อให้พวกนางอยากจะช่วย ก็ยังต้องดูด้วยว่าตนมีความสามารถที่จะช่วยหรือไม่แม่ทัพใหญ่ทั้งสี่มีอำนาจคุมกองทัพ รวมกับฮองเฮาแคว้นหนานฉีเองก็อยู่ที่นี่ จะให้สู้อย่างไรเล่า?อีกทั้งประมุขคนใหม่นี้มีเหตุผลชอบธรรมจริงหรือไม่ ก็ยังต้องพิจารณากันอีกที!หากนางไม่ใช่ซู่ยวนจริง ๆ พวกนางจะไม่กลายเป็นประสงค์ดีแต่ดันทำเรื่องไม่ดีลงไป แล้วช่วยคนชั่วทำความผิดหรอกหรือ?เสียงโวยวายของหลิวอิ๋ง เฟิ่งจิ่วเหยียนทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่นางสั่งทุกคนอย่างหนักแน่น“แม่ทัพหู ท่านดูแลท้องพระโรงให้ดี“แม่ทัพอีกสามท่านแยกกันเฝ้าประตูวัง ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออกทั้งสิ้น ป้องกันไม่ให้สายลับของแคว้นอื่นฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวาย“มั่วซินหมัวมัว พาขุนนางคนสนิทสองสามคนตามข้าไปพบท่านประมุข”“เพคะ!” หูย่วนเอ๋อร์และมั่วซินหมัวมัวตอบรับคำสั่งขุนนางบุ๋นบู๊ที่เหลือเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกสั

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status