แชร์

บทที่ 703

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
หร่านชิวฝึกตนอยู่ในถ้ำด้านข้าง

เคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถีของนางได้บรรลุขั้นที่สองแล้ว มันราบรื่นกว่าที่นางคาดคิดเอาไว้เสียอีก

ดูเหมือนว่า เคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถีนี้เหมาะสมกับพื้นฐานร่างกายของสตรีมากกว่าจริง ๆ

นางอาจจะสามารถฝึกฝนได้เร็วกว่าหยางเหลียนซั่ว และดีกว่าด้วยซ้ำ!

ขอเพียงนางประสบความสำเร็จ ก็จะกลายเป็นอันดับหนึ่งของยุทธภพ ในตอนนั้น จักไม่มีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ของนาง!

ทั่วทั้งยุทธภพจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของนาง ไม่เว้นแม้แต่ซูฮ่วน และตงฟางซื่อ!

ดวงตาของหร่านชิวเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน และยังแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะไม่ลดน้อยลง

คนที่นางอยากจะกำจัดมากที่สุด ยังคงเป็นหยางเหลียนซั่ว

จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวของเขา ตราบใดที่เขายังไม่ตาย นางจะต้องซ่อนตัวฝึกตนต่อไป

หารู้ไม่ว่า ในขณะนี้หยางเหลียนซั่วอยู่ที่เป่ยเยี่ยน

ณ เป่ยเยี่ยน

ในพระราชวัง

หยางเหลียนซั่วได้รับการแนะนำโดยราชครูเป่ยเยี่ยน และได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้เยี่ยนในที่สุด

ดวงตาของเขาถูกปกคลุมด้วยผ้าขาว จอนผมทั้งสองข้างกลายเป็นสีเทา

บนบัลลังก์สูง ฮ่องเต้เยี่ยนมองดู
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
maybe vemnvvx
อะ กุว่าละ สองคนนี้มันมีซัมติง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 704

    รุ่ยอ๋องมองดูสตรีที่อยู่ตรงหน้า แววตาไร้ซึ่งความอบอุ่นและสงบนิ่งเช่นเคย “มู่หรงหลัน เจ้าหมดหนทางจะเยียวยาแล้วจริง ๆ !” เขาพลันหันหลังให้นาง ไม่อยากจะมองนางมากนัก มู่หรงหลันถอดอาภรณ์ชั้นนอกออกเหลือเพียงเสื้อชั้นในเท่านั้น ก้าวมาข้างหน้า และสวมกอดเขาจากด้านหลัง ทว่าถูกเขาต่อต้านอย่างรุนแรงและผละตัวออกห่าง “ออกไป! อย่ามาแตะต้องข้า!” มู่หรงหลันจ้องมองแผ่นหลังของเขา พลางหัวเราะเบา ๆ “ในสมัยนั้น ท่านกักขังข้าไว้ บอกว่าต้องการรักษาข้า และทำให้ข้ากลายเป็นคนปกติ แนะนำให้ข้าอย่าปิดบังความเจ็บป่วยและปฏิเสธการรักษา “วันนี้ข้าอยากรักษาให้ท่าน ไยท่านกลับปฏิเสธด้วยเล่า?” รุ่ยอ๋องขบกรามแน่นขึ้น ใบหน้าเขียวคล้ำ มู่หรงหลันเห็นว่าเขาเพิกเฉยต่อตนเอง จึงเดินอ้อมไปหยุดข้างหน้าของเขา แววตาของนางอ่อนโยน ทว่าแฝงไว้ด้วยเจตนาฆ่า “เหตุใดจึงไม่ช่วยข้า? “หรือว่า ท่านคิดจะกำจัดข้าไปตั้งนานแล้ว เช่นนั้นข้างกายของฝ่าบาทก็จะได้เหลือท่านเพียงคนเดียว?” ดวงตาของรุ่ยอ๋องเย็นชา “ข้าไม่เหมือนเจ้า” นางเสียสติไปนานแล้ว “มู่หรงหลัน หากมิใช่เพราะมิตรภาพ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 705

    ตงฟางซื่อถูกปลุกขึ้นมากลางดึก ใบหน้าเต็มไปด้วยอาการง่วงงุน “ซูฮ่วน เจ้าควรจะมีเรื่องที่ยิ่งใหญ่สุด ๆ ...” เฟิ่งจิ่วเหยียนคว้าไหล่ของเขา และเขย่าแรง ๆ สองครั้ง เพื่อสลัดความง่วงงุนไร้สติของเขาออกไป “ฟังนะ! หร่านชิวเป็นลูกสาวนอกสมรสของหยางเหลียนซั่ว” ทันทีที่พูดจบ ตายิ้มดวงเล็ก ๆ ของตงฟางซื่อ พลันเบิกกว้าง จนกลมโต “นางเป็นลูกสาวของหยางเหลียนซั่ว?! เช่นนั้นฮูหยินหร่าน...ก็มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับหยางเหลียนซั่ว?” เขาตกตะลึงและเหลือเชื่อ คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่า ฮูหยินหร่านดูเมตตาอ่อนโยนขนาดนั้น จักทำเรื่องพรรค์นั้นได้ “ซูฮ่วน แท้จริงเรื่องราวเป็นมาอย่างไรกันแน่?” ตอนนี้ ตงฟางซื่อไม่ง่วงนอนอีกแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนเปิดปากเอ่ย “เมื่อฮูหยินหร่านรู้ว่าหร่านชิวกำลังฝึกฝนเคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถี โดยเฉพาะหลังจากที่รู้ว่านางฆ่าผู้บริสุทธิ์ไปมากมาย จึงไม่อยากเห็นนางทำชั่วอีกต่อไป นางมีวิธีติดต่อกับหร่านชิว และพวกเราจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้” หลังจากตงฟางซื่อครุ่นคิดอยู่สองสามอึดใจ พลันค่อย ๆ เอ่ย “ซูฮ่วน เจ้าลองคิดดู นางตั้งใจเอ่ยเช่นนี้หรือ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 706

    ตงฟางซื่อผุดลุกขึ้นยืนทันที ใบหน้านั้นสงบและจริงจัง “ซูฮ่วน ข้าไม่เห็นด้วย “ข้ารู้ว่าเจ้าร้อนใจอยากตามหาหยางเหลียนซั่วให้พบ ทว่าเจ้าควรเชื่อใจในเหล่าพันธมิตรของเจ้า พวกเหล่าฝานกำลังค้นหาที่อยู่ของหยางเหลียนซั่วในเป่ยเยี่ยน ย่อมไม่จำเป็นจะต้องใช้หร่านชิว “เพียงเพื่อล่อหยางเหลียนซั่วออกมา เจ้ากลับปล่อยหร่านชิวตัวหายนะไว้ หากปล่อยให้วิชามารของนางทวีความแข็งแกร่ง ก็จะได้ไม่คุ้มเสียเท่านั้น” ครั้นเอ่ยถึงตรงนี้ เขาหยุดไปครู่หนึ่ง นัยน์ตามีความโกรธเจืออยู่ “ยิ่งกว่านั้น เจ้าไว้ชีวิตนางแล้วไซร้ จักไม่ทำให้วิญญาณของสหายชาวยุทธที่ถูกนางสังหารต้องผิดหวังหรือ? พวกเราได้ไล่ตามนางมาถึงจุดนี้ ก็เพื่อกำจัดนางมิใช่รึ?” เฟิ่งจิ่วเหยียนรอให้เขาพูดจบก่อน ค่อยเอ่ยอย่างใจเย็น “คนเหล่านั้นล้วนตายไปแล้ว “หร่านชิวได้บรรลุวิชาดาราโรยหมื่นวิถีขั้นสองแล้ว ต่อจากนี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องจับกุมคนเพื่อฝึกวิชาอีก “ตงฟางซื่อ พวกเราต้องยอมรับ ความจริงข้อหนึ่ง——พวกเรามาช้าเกินไป” ตงฟางซื่อคาดไม่ถึงว่านางจะเอ่ยเช่นนี้ “ยังไม่สายเกินไป ขอเพียงสังหารหร่านชิวได้ ก็จะไม่สายเกินไป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 707

    ยามบ่าย เฟิ่งจิ่วเหยียนและคณะได้ออกเดินทาง ไปทางเหนือเพื่อตามหาหร่านชิว ตงฟางซื่อคำนวณเวลาระหว่างทาง และเอ่ย “เมื่อเรายังไม่ฆ่าหร่านชิวในขณะนี้ ให้ข้าไปหารือแผนการที่จะกำจัดหยางเหลียนซั่วกับนางคนเดียว ก็เพียงพอแล้ว “น้องสาวของเจ้ากำลังจะแต่งงานในเดือนสิบเอ็ด นี่ก็เข้าสู่ช่วงปลายเดือนสิบแล้ว เจ้าจะกลับไปที่ชายแดนเหนือก่อนดีหรือไม่?” เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งเดือน ก็จะถึงงานแต่งงานของเวยเฉียงในปลายเดือนสิบเอ็ด เฟิ่งจิ่วเหยียนลังเลใจบ้าง ดังที่ตงฟางซื่อเอ่ย เรื่องของหร่านชิว ไม่จำเป็นต้องให้นางร่วมเดินทางไปด้วยตลอด ในขณะนี้ หยิ่นลิ่วผู้คุ้นเคยกับการเดินทางในความมืดก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเอ่ยเตือนเฟิ่งจิ่วเหยียน “คุณชายซู ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทเขียนจดหมายส่งมา แจ้งว่าต้องตัดเย็บชุดแต่งงานของท่านโดยเร็วที่สุด เหตุใดท่านไม่กลับไปวัดตัวที่เมืองหลวงก่อนเล่าขอรับ?” ตงฟางซื่อยิ้มจนตาหยี เอ่ยหยอกล้อ “ซูฮ่วน เจ้ายุ่งมากเชียว งานหนึ่งอยู่ทางเหนือ อีกงานอยู่ทางใต้ ขึ้นอยู่กับเจ้าจะเลือกทางใดแล้ว” เฟิ่งจิ่วเหยียนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก็เอ่ยอย่างเด็ดขาด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 708

    ปัง! ในคืนวันนั้น เจ้าหน้าที่ทหารเข้าปิดล้อมบ้านพักของมู่หรงหลัน พังเปิดประตู และจับกุมนางไว้ ยามนี้มู่หรงหลันได้เข้านอนแล้ว จึงไม่มีเวลาสวมใส่อาภรณ์ให้เรียบร้อย พลันตวาดลั่น “พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรมาบุกบ้านพักส่วนตัวของข้า!” เจ้าหน้าที่ทหารปิดปากนางไว้ทันที และจับนางยัดเข้าไปในรถม้า จากนั้น นางถูกพาเข้าไปในพระราชวัง และเข้าสู่ห้องทรงพระอักษร รุ่ยอ๋องก็อยู่ในห้องทรงพระอักษรด้วยเช่นกัน มู่หรงหลันถูกบังคับให้คุกเข่าลงกับพื้น สองมือถูกมัดไว้ ไพล่ไปที่ด้านหลัง นางมีน้ำตาคลอหน่วยและตื่นตระหนก พลางจับจ้องมองไปที่ฝ่าบาทด้วยแววตาที่น้อยใจไร้เดียงสา “ฝ่าบาท...” ด้านหลังโต๊ะทรงงาน ฮ่องเต้หนุ่มเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร ราวกับถูกเทพสังหารเข้าครอบงำก็มิปาน “มู่หรงหลัน เป็นเจ้าทำร้ายเซียวหย่าใช่หรือไม่?” มู่หรงหลันรีบส่ายศีรษะปฏิเสธทันที “ไม่ใช่เพคะ จักเป็นหม่อมฉันได้อย่างไร? ฝ่าบาท ท่านคงจะเข้าพระทัยผิดไปแล้ว หม่อมฉันพักอยู่ที่จวน...” รุ่ยอ๋องมองดูนาง น้ำเสียงเย็นชาทุ้มลึก “มู่หรงหลัน ยอมรับสารภาพเสีย” เปลือกตาของมู่หรงหลันกระตุก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 709

    วันนี้รุ่ยอ๋องจะต่อสู้กับมู่หรงหลันจนตกตายไปพร้อมกัน เขาจะไม่ทนให้นางมาคอยรบกวนเขาเหมือนคนบ้า และยังชอบปฏิบัติกับเขาอย่างไร้เหตุผลอยู่เสมออีกแล้ว หากยังปล่อยไว้เช่นนี้ต่อไป เขาแค่กลัวว่าตนเองจะกลายเป็นบ้า “ฝ่าบาท เป็นกระหม่อมเองที่พานางออกจากวัง! “เมื่อกระหม่อมได้ทราบทีหลังว่านางสังหารองค์หญิงน้อย ก็ตระหนักได้ว่านางหมกมุ่นในตัวท่านจนเสียสติ และนางจะทำร้ายทุกคนที่อยู่รอบกายของท่าน “ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไรกระหม่อมจะต้องหยุดยั้งพ่ะย่ะค่ะ “ครั้นเมื่อนึกถึงมิตรภาพระหว่างพี่น้องของพวกเราตั้งแต่เยาว์วัย กอปรกับการวินิจฉัยของหมอ บอกว่านางมีอาการป่วยทางจิต และขอเพียงได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ก็ยังมีโอกาสรักษาหาย “ดังนั้น กระหม่อมจึงขังนางไว้ในจวน และเชิญหมอมารักษาอาการของนางทุกวัน “กระหม่อมหวังว่านางจะกลับมาเป็นคนปกติได้อีกครั้ง ต่อมา อาการของนางก็ดีขึ้นจริง ๆ กระหม่อมจึงค่อย ๆ ผ่อนปรนการควบคุมดูแลนางลง คาดไม่ถึงว่า นางจะฉวยโอกาสตอนที่กระหม่อมออกไปข้างนอก หลอกให้หมอปลดโซ่ตรวน และทำร้ายทั้งหมอทั้งองครักษ์จนบาดเจ็บ ก่อนจะหลบหนีออกมาพ่ะย่ะค่ะ” รุ่ยอ๋องทูลอธิบา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 710

    องค์หญิงน้อยเจ็บป่วยร้ายแรงถึงขั้นวิกฤต สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงไม่พูดมาก เพียงเอ่ยรวบรัดชัดเจนให้เซียวอวี้เข้าใจ “เรื่องการโน้มน้าวหร่านชิวให้ร่วมมือต่อสู้กับหยางเหลียนซั่ว ให้ตงฟางซื่อจัดการคนเดียวก็พอ “เวยเฉียงใกล้จะแต่งงานแล้ว ข้าตั้งใจจะไปยังชายแดนเหนือก่อน เพื่อส่งนางออกเรือน “ก่อนหน้านั้นจะแวะที่ภูเขาหิมะเทียนฉือก่อนเพคะ” ภูเขาหิมะเทียนฉือเป็นสถานที่อันตราย เซียวอวี้ไม่อยากให้นางไปเสี่ยง “เราสั่งให้คนไปหาตัวยาแล้ว...” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยความผ่อนคลาย “ข้าเคยขึ้นไปที่ยอดเขาเทียนฉือแล้วเพคะ “ทุกคนล้วนกล่าวว่าอันตราย แท้จริงเป็นเพราะถนนบนภูเขาไม่ชัดเจน จึงง่ายจะติดอยู่ในพายุหิมะและหมดแรงไปเอง “หม่อมฉันมีร่างกายที่ทรหดเพียงใด ท่านเองก็รู้ดีเพคะ” ร่างกายที่ทรหด... เซียวอวี้คิดฟุ้งซ่านในเวลาที่ไม่เหมาะสม ความมีชีวิตอยู่หรือตายนั้นสำคัญ มิอาจล่าช้าได้ เฟิ่งจิ่วเหยียนหยิบกระบี่ขึ้นมาทันที พลางลุกขึ้นกล่าวคำอำลา “ฝ่าบาท ขอทูลลาเพคะ” เซียวอวี้ขมวดคิ้วเบา ๆ พลันลุกขึ้นตามนางไป และคว้าแขนของนางไว้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 711

    ดอกจื่อซวี่เติบโตอยู่ตามหน้าผา หากต้องการเด็ดมัน ต้องระมัดระวังอย่างมากนายพรานคนนำทางคนนั้นบอกกับนาง ต้องระวังกองหิมะเป็นพิเศษหากเกิดหิมะถล่ม พวกเขาก็จะแย่กันหมดอู๋ไป๋นั่งบนพื้นอย่างอ่อนแรง ช่วยอะไรไม่ได้ เริ่มต้นลำคอนั้นเยือกเย็น จากนั้นก็ร้อนรุ่มกระวนกระวายท่ามกลางหิมะอันกว้างใหญ่ เขารู้สึกเพียงว่า ชีวิตของตนเองอยู่ได้ไม่นานแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนก็เป็นคน ปีนเขามาสองวัน กำลังของนางก็ใกล้จะหมดลงแล้วเกล็ดหิมะเกาะบนขนตา ภาพข้างหน้าพร่ามัวยอดเขาหิมะ ลมที่พัดผ่านหน้าราวกับคมมีดทุกย่างก้าว ทรมานราวกับถูกเฉือนอย่างช้าๆนางมองดอกจื่อซวี่ที่เห็นใกล้แค่เอื้อม ทว่าไกลสุดขอบฟ้า มือสั่นเทาแข็งเป็นสีม่วงทว่า คิดถึงชีวิตขององค์หญิงน้อยขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ นางก็ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งอย่างเด็ดเดี่ยวเจตจำนงอันน่าอัศจรรย์ ระเบิดออกมาในขณะนี้ก้าวแล้วก้าวเล่า นางเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆแต่แล้ว ฝนฟ้าไม่เป็นใจคิดอยากแย่งชีวิตหนึ่งมาจากในมือยมบาล จักต้องทนรับความพิโรธของท่านลมพัดกระหน่ำบนยอดเขา พร้อมกับเกล็ดหิมะอันกว้างใหญ่ เสมือนพายุหอบเอาเศษปุยเมฆสลายหายไป คลื่นซัดสูงปลาและกุ้งปรากฏต

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 730

    “พวกเจ้าเป็นใคร!” มือทั้งสองข้างของมู่หรงหลันมีเลือดไหลอาบ จดจ้องกลุ่มคนสวมหน้ากาก ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแต่ไม่ยอมแพ้บุรุษที่เป็นหัวหน้าเช็ดเลือดบนดาบอย่างไม่รีบร้อน “นายท่านของข้านามสกุลเซียว”เซียว…ทันใดนั้นมู่หรงหลันก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างไม่อยากจะเชื่อ“พวกเจ้าคือ องครักษ์ลับ?!”องครักษ์ลับของฝ่าบาท!ดังนั้น เป็นฝ่าบาทส่งพวกเขามาเพื่อจับนาง!ไม่ควรเป็นแบบนั้นพวกเขาทราบได้อย่างไรว่านางจะผ่านทางนี้หรือว่า ฝ่าบาทได้วางแผนล่วงหน้ามานานแล้วคิดได้เช่นนี้ มู่หรงหลันพลันรู้สึกขนลุกนางอยากส่งสัญญาณให้หม่ากงกง ทว่า นางไม่มีมือแล้ว…ณ วิหารบรรพบุรุษแม่ทัพอาวุโสหลี่มาส่งเสบียงอาหารทุกวัน โดยวางไว้นอกประตูวิหารบรรพบุรุษในระยะสองลี้ หลังจากนั้นก็จะมีกบฏพวกนั้นออกมารับไปตั้งแต่ที่ฝ่าบาทถูกจับขัง เวลาก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้วแนวป้องกันของเมืองเซวียนพังทลาย จู้กั๋วกงจึงแอบลักลอบกลับมาที่เมืองเซวียนด้านเป่ยเยี่ยนและหนานฉี ก็กำลังจะมีสงครามภายในห้องฌานเสบียงส่งมาถึงมือของเหล่านางสนม เพื่อป้องกันไม่ให้วุ่นวาย ไทเฮาจึงมีหน้าที่แจกจ่ายตามหลักแล้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 729

    เมื่อเผชิญหน้ากับฮ่องเต้องค์ใหม่ที่โผล่มาอย่างกะทันหัน หม่ากงกงก็ตัดสินใจเดินหน้าให้ถึงที่สุดเขาไม่เสแสร้งอีกต่อไป พูดออกไปตามตรงว่า“ไท่ซ่างหวงอยู่ในมือของพวกข้า! หากอยากได้ชีวิตของเขาคืน ก็ต้องคัดราชโองการ ส่งต่อบัลลังก์ให้รัชทายาทที่แท้จริง!”เขาให้ลูกน้องอุ้มเด็กคนนั้นออกมา แล้วพูดกับทุกคนว่า“บุคคลนี้ต่างหากคือบุตรชายแท้ ๆ ของไท่ซ่างหวง ไม่กี่วันได้เปิดเผยตัวตนทำความรู้จักกับไท่ซ่างหวง…”ไม่รอให้เขาพูดจบ รุ่ยอ๋องก็เอ่ยขึ้น“สามหาว!​ จะสลับสับเปลี่ยนบัลลังก์ เหมือนการเล่นสนุกได้อย่างไร?”แม่ทัพอาวุโสหลี่ผสมโรงด่าอย่างโมโห“หมารับใช้เช่นเจ้ากล้าดีอย่างไร! ถึงได้เอาเด็กที่ไหนไม่รู้มาสวมรอยเป็นโอรสรัชทายาท คิดว่าคนอื่นโง่หรือไง!”เหล่าทหารคนอื่น ๆ ต่างหัวเราะเยาะ“เจ้าโจรขันที นั่นคือลูกชายของเจ้าล่ะสิไม่ว่า!”สีหน้าของหม่ากงกงมืดลงเรื่อย ๆ“พวกเจ้าไม่เชื่อใช่ไหม! ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะส่งไท่ซ่างหวงกลับสวรรค์! รุ่ยอ๋อง แม่ทัพอาวุโสหลี่ยังไม่บอกท่านสินะ ว่าในวิหารแห่งนี้มีระเบิดฟ้าคำรณ…”ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ฮ่องเต้องค์ใหม่ก็คุกเข่าลง ก้มคำนับไปทางวิหาร“เสด็จพ่อ! ก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 728

    ทันทีที่เสียงระเบิดฟ้าคำรณดังขึ้นมา องค์ชายทั้งหลายก็วุ่นวายกันไปหมด“ทำไมจู่ ๆ ก็ระเบิดล่ะ?”“ต้องเป็นฝ่าบาทแน่ ๆ! อย่าลืมสิ ฝ่าบาทตรอมใจเพราะความรัก เขาต้องการให้เราลงสุสานไปด้วย!”“โถ่โว๊ย!​ ไม่ว่าจะเป็นใคร ปล่อยข้าออกไปเดี๋ยวนี้! ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด!”เหล่านางสนมเองก็กรูเข้ามากอดกันไว้ ทั้งยังจ้องบานประตูอย่างไม่สบายใจขณะนี้ ด้านบอกประตูวิหารบรรพบุรุษหม่ากงกงตะโกนไปทางป่าแห่งนั้นเสียงดัง “ออกมาเถอะ! ข้าเห็นพวกเจ้าแล้ว!”เหล่าทหารที่อยู่ในป่านิ่งงันไม่ไหวติงหม่ากงกงข่มขู่ “เสียงเมื่อครู่ พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่? หากยังไม่ออกมา ข้าจะพังข้างในให้ราบเป็นหน้ากลอง!”สิ้นเสียงของเขา แม่ทัพอาวุโสหลี่ก็ลุกออกมา“โจรขันที! เจ้ากล้าหรือ!ภายใต้แสงจันทร์ หม่ากงกงยิ้มอย่างโอหัง“ที่แท้ก็เป็นแม่ทัพอาวุโสหลี่นี่เอง!“ข้าขอคารวะอยู่ตรงนี้แล้วกันนะ!“ท่านแม่ทัพ ฝ่าบาทกับองค์ชายทั้งหลายกำลังปรึกษาหารือเรื่องแคว้นกันอยู่ ข้าได้รับคำสั่งจากไทฮองไทเฮา ให้เฝ้าอยู่ตรงนี้ ห้ามให้คนร้ายเข้าไปรบกวนวาระอันศักดิ์สิทธิ์“ท่านระดมกำลังคนมามากมายขนาดนี้ คิดจะก่อกบฏหรือ!”เมื่อได้ยินเขาร้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 727

    วิหารบรรพบุรุษถูกกลุ่มกบฏล้อมเอาไว้ กอปรกับระเบิดฟ้าคำรณเหล่านั้น จึงไม่มีผู้ใดกล้าก้าวผ่านดงระเบิดนั้นไป เหล่าท่านอ๋องบ่นกันไม่หยุด“ข้าบอกแล้วว่าไม่เข้าร่วม ไม่เข้าร่วม! ก็ยังจะให้ข้ามาให้ได้!”“นั่นสิ!  หากรู้ตั้งแต่แรกว่าเสด็จย่าจะแต่งตั้งรัชทายาท พวกเราจะมายุ่งวุ่นวายไปทำอะไร! ตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ ต้องมาถูกกลุ่มกบฏจับขัง น่าขายหน้าจริง ๆ!”พวกเขาล้วนเป็นคนสูงศักดิ์ในราชวงศ์ อาหารการกินและข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันล้วนเป็นของที่ดีที่สุด พอคราวนี้ต้องมาเบียดเสียดรวมกันอยู่ในห้องฌานห้องเดียว ซึ่งเตียงที่มีเพียงหลังเดียว ถูกผู้มีอำนาจสูงสุดอย่างซู่อ๋องยึดครองไปแล้ว คนอื่น ๆ จำต้องนอนบนพื้นข่าวที่ฝ่าบาทถูกขังถูกส่งต่ออย่างรวดเร็ว จนรุ่ยอ๋องรู้เรื่องในวันนั้นรุ่ยอ๋องรับคำสั่ง กำจัดกลุ่มลับในราชวัง และส่งตัวแม่ทัพอาวุโสหลี่นำกองกำลังไปช่วยเหลือแม่ทัพอาวุโสหลี่นำทัพทหารรักษาพระองค์เข้าบุกวิหารบรรพบุรุษเขาไม่ได้รีบร้อนช่วยคนออกมา สังเกตสถานการณ์ของศัตรูก่อนเป็นอย่างแรกซึ่งก็พบสิ่งผิดปกติอย่างที่คิดไว้ตามหลักแล้ว ราชองครักษ์ของไทฮองไทเฮากับองค์ชายทั้งหลาย มีจำนวนมากกว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 726

    แม้นจะบอกว่าช้าแต่กลับเร็วกว่าที่คิด หม่ากงกงถีบระเบิดสายฟ้าจนปลิว ไม่ให้องครักษ์จุดมันเขาอ้าปากตะคอก“ไสหัวเข้าไปในวิหารบรรพบุรุษให้หมด!! อยากตาย มันไม่ง่ายขนาดนั้น!”พวกเขาบ้าไปแล้ว!ทุกคน แม้แต่ฮ่องเต้ ต่างถูกขังไว้ในวิหารบรรพบุรุษไทฮองไทเฮาและเหล่าสตรีในวังหลังถูกขังไว้ด้วยกันสีหน้าของผู้อาวุโสเช่นนางไม่ค่อยดีนัก รู้สึกคิดผิดและรู้สึกโทษตัวเองที่เผลอไปเชื่อมู่หรงหลัน“ข้าไม่คิดเลยว่า หลันเอ๋อร์จะร่วมมือกับกลุ่มกบฏพวกนั้น…”นางเอาแต่พร่ำบ่น แต่กลับไม่ฟังคำพูดเข้าอกเข้าใจของคนอื่น จนทำให้หนิงเฟยหงุดหงิดหนิงเฟยทนไม่ไหว จึงดุด่านางไป“ยายแก่น่ารำคาญ! พอได้แล้ว!”“จะแสร้งทำเป็นไม่มีความผิดไปทำไม! หากไม่ใช่เพราะท่านช่วยเหลือพวกเผด็จการ พวกเราจะตกอยู่ในสถานการณ์นี้หรือ? ท่านป่วยมาตั้งนาน ทำไมไม่ตาย ๆ ไปซะ!”ไทฮองไทเฮาไม่อยากจะเชื่อ หนิงเฟยที่เคยเคารพนางในยามปกติ จะกล้าตะคอกใส่นางเช่นนี้“เจ้า…บังอาจ!”ไทเฮาโอบไหล่ของหนิงเฟย ปกป้องนางไว้ในอ้อมกอด “ไทฮองไทเฮา หนิงเฟยคงตกใจกลัว ถึงได้หลุดวาจาไม่สุภาพ…”“ฮือ ๆ…” ในมุมหนึ่งมีนางสนมร้องไห้สะอึกสะอื้น “ข้าอยากกลับบ้าน หากรู้เ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 725

    ณ วิหารบรรพบุรุษของราชวงศ์ที่โอ่อ่าน่าเกรงขาม บัดดนี้กลับถูกคนชั่วยึดครอง“ปล่อยข้า...อย่านะ! อย่ามาแตะต้องข้า!” สนมนางนั้นถูกกดลงบนพื้น ดิ้นรนเสียงดังโครมครามยิ่งนางร้องไห้ตะโกนดังเท่าไหร่ พวกชั่วก็ยิ่งได้ใจมากขึ้นเท่านั้นภายในกรง องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว“อย่าแตะต้องนาง! มาที่ข้านี่! ข้าคือองค์หญิงใหญ่!”นางคิด หากแม่ทัพน้อยเมิ่งอยู่ล่ะก็ จะต้องยอมสละตนเพื่อช่วยคนเป็นแน่สตรีเหล่านี้ล้วนถูกฮ่องเต้ทอดทิ้งก็น่าสงสารอยู่แล้ว ยามนี้ยังต้องถูกทำให้อับอายเช่นนี้ ช่างน่าโมโหนัก!ไทเฮาร้อนใจยิ่ง รีบปิดปากองค์หญิงใหญ่ข้างหนึ่งนางโอบองค์หญิงใหญ่ อีกข้างหนึ่งโอบหนิงเฟย ราวกับแม่ไก่ที่ปกป้องลูก ไม่ให้คนชั่วช้ามาทำร้ายพวกนางได้แม้แต่น้อยหม่ากงกงยิ้มเย็นพลางตอบ“นำตัวองค์หญิงใหญ่ผู้นั้นออกมาด้วย!”นางเป็นถึงพี่สาวแท้ ๆ ของฮ่องเต้ใจของไทเฮาส่งเสียงดังกึกไม่ได้!ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายลูกสาวของนางทั้งนั้น!!นางเตรียมใจที่จะสู้สุดชีวิต ยามนี้เอง กลับได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น“ต่อให้เจ้าฆ่าพวกนางจนหมด เราก็ไม่สนใจ”ปฏิกิริยาของเซียวอวี้เย็นชาจนผิดปกติเข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 724

    เมื่อประโยคนี้ดังขึ้น ทุกคนที่เดิมก็ตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูกอยู่แล้ว ยามนี้ก็ยิ่งโกลาหลขึ้นไปอีกมีเพียงเซียวอวี้เท่านั้นที่ยังคงสงบนิ่งไม่ตื่นตูม ในฐานะที่เป็นฮ่องเต้ ย่อมต้องมีท่าทางไม่สะทกสะท้อนแม้ไท่ซานจะถล่มลงต่อหน้าเขาพูดเสียงทุ้มหนัก“วางยาเซียวหย่า ด้านหนึ่งอาศัยโอกาสนี้กำจัดซูฮ่วน อีกด้านหนึ่งให้จู้กั๋วกงออกจากเมืองเซวียน ทำให้เมืองเซวียนไร้ผู้นำ พรรคเทียนหลง นี่คือการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว”หม่ากงกงหัวเราะอย่างสดใส“ฝ่าบาทหัวไวกว่าผู้อื่นนัก“น่าเสียดาย! ยามนี้ท่านเพิ่งจะเข้าใจ สายเกินไปแล้ว!”แววตาของเขาเย็นชา“กองทัพใหญ่แคว้นเป่ยเยี่ยนจะบุกโจมตีแคว้นหนานฉีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความคิดเพียงชั่ววูบของท่านแล้ว เพียงท่านรีบแต่งตั้งรัชทายาทและสละราชบัลลังก์ ข้าก็จะส่งสัญญาณออกไป เมื่อกองทัพเป่ยเยี่ยนเห็นก็จะถอยทัพ ไม่เช่นนั้นราษฎรย่อมเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า!”“เพราะการสูญเสียของเมืองเซวียน แคว้นหนานฉีในยามนี้ถูกแบ่งแยกออกเป็นสองส่วน! กองทัพใหญ่ของทางเหนือและตะวันตกไม่อาจมาเป็นกำลังหนุนให้ได้ กองทัพเยี่ยนสามารถเข้ามาถึงใจกลางแคว้นโดยตรงได้ ย่อมทำได้แม้กระทั่งการบุกยึดเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 723

    ที่อยู่ด้านนอกวิหารบรรพบุรุษล้วนเป็นทหารส่วนพระองค์ของไทฮองไทเฮาคนเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่อดีตฮ่องเต้เหลือเอาไว้ให้นางนางเองก็นึกไม่ถึงว่าวันหนึ่งจะได้ใช้พวกเขามาบีบบังคับฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้ที่ไร้น้ำใจไร้เหตุผลก่อน ช่างทำให้นางผิดหวังเกินไปแล้ว!ใบหน้าที่แก่ชราของไทฮองไทเฮาเต็มไปด้วยความผิดหวัง“ฮ่องเต้ หากวันนี้เจ้าไม่แต่งตั้งรัชทายาท ข้าก็จะไม่อนุญาตให้เจ้าไป!”นางหันกลับมาพูดกับเหล่าท่านอ๋องอีก“พวกเจ้าต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับข้า! ข้าทำเพื่อบ้านเมือง ทำเพื่อแผ่นดินของแคว้นหนานฉี!”ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าพฤติกรรมของฝ่าบาทช่างเหลวไหลนัก ควรจะบังคับเขาเสียหน่อยแล้ว“กระหม่อมเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ ไทฮองไทเฮาพูดไม่ผิด! ฝ่าบาท แต่งตั้งรัชทายาทเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”มู่หรงหลันจูงมือเด็กคนนั้น เดินไปด้านหน้าเซียวอวี้อย่างไม่กลัวตายนางเดินไปพูดไป“ฝ่าบาท ไทฮองไทเฮาทรงทำเช่นนี้ก็เพราะหวังดีต่อท่านนะเพคะ“หากท่านยืนกรานจะไปภูเขาไม่หวนกลับให้ได้ แล้วจะให้ท่านผู้เฒ่าวางใจได้อย่างไรกัน?“ขอเพียงท่านแต่งตั้งลูกของพวกเราเป็นรัชทายาท ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องข้างหลังแล้ว“ฝ่าบาท...”หลังจากเข้าใกล้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 722

    เมื่อเห็นมู่หรงหลันแม่ลูกถูกจับตัวไป ไทฮองไทเฮาก็พูดอย่างแข็งกร้าว“ฮ่องเต้! แม้แต่ลูกแท้ ๆ ของตนก็ยังไม่ยอมรับแล้วรึ!“เจ้าถูกซูฮ่วนนั่นทำจนฟั่นเฟือนไปแล้วจริง ๆ!“วันนี้ ต่อหน้าบรรพบุรุษ เจ้าต้องแต่งตั้งเด็กคนนี้เป็นรัชทายาท และรับหลันเอ๋อร์กลับเข้าวัง!”“ไม่เช่นนั้น ข้าไม่มีทางยอมให้เจ้าไปตามหาซูฮ่วนแน่ ภูเขาหิมะเทียนฉือนั่นยังถูกเรียกว่าภูเขาไม่หวนกลับ เจ้าเป็นฮ่องเต้ จะไปที่อันตรายเช่นนั้นได้อย่างไร!”เหล่าท่านอ๋องพูดคล้อยตามอย่างเซ็งแซ่“ฝ่าบาท กระหม่อมเห็นด้วยกับไทฮองไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ!”“เสด็จพี่ เสด็จย่าพูดถูก ท่านจะไม่ยอมรับเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาท เรื่องนี้ท่านทำผิดแล้ว!”ไทฮองไทเฮากวาดตามองเหล่าขุนนาง “พวกเจ้าคิดเช่นไร!”เหล่าขุนนางต่างมองตากัน สุดท้ายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน“ขอฝ่าบาททรงแต่งตั้งรัชทายาทโดยเร็วพ่ะย่ะค่ะ!”ทุกสิ่งที่ฝ่าบาททรงทำในช่วงนี้ ทำให้พวกเขาราวกับกำลังเหยียบอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบาง ๆแล้วเขายังจะไปภูเขาไม่หวนกลับนั่นอีก หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น แคว้นหนานฉีจะไม่เกิดความวุ่นวายใหญ่หลวงหรอกหรือ!ดังนั้นรีบแต่งตั้งรัชทาย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status