แชร์

บทที่ 691

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
โรงพักแรมเวี่ยหลัย

เฟิ่งจิ่วเหยียนมาหาติงหยวนเอ๋อร์

ผู้ป่วยพลางนอนอ่อนแรงอยู่บนเตียง พร้อมด้วยลูกศิษย์ร่วมสำนักสองคนคอยดูแลอยู่

“รองเจ้าสำนัก…” ติงหยวนเอ๋อร์พยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียง

เหลิ่งเซียนเอ๋อร์รีบก้าวไปข้างหน้า พลางกล่าวว่า “นอนลงดี ๆ เถิด”

สายตาของติงหยวนเอ๋อร์มองผ่านคนอื่น ๆ ไปจนหยุดที่ร่างของเฟิ่งจิ่วเหยียน

“เป็นท่านที่ช่วยข้าเอาไว้”

ถึงแม้เมื่อวานร่างกายของนางจักอ่อนแรง ทว่า จดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี

หากมิใช่เพราะคุณชายท่านนี้ละก็ นางก็มิรู้ว่าตนเองจักต้องพบเจอกับอะไรบ้าง

ภายในห้องมิอาจมีพื้นที่ให้คนรั้งอยู่ได้มากมายนัก ดังนั้น ทั้งเซียวอวี้และเจียงหลินจึงออกมาอยู่ด้านนอกห้องแทน

เจียงหลินยกสองแขนขึ้นมากอดอก ก่อนจะประเมินดูเซียวอวี้ พลางเอ่ยถามว่า

“สหายเซียว ตกลงเจ้าเป็นใครกันแน่?”

ผู้ที่สามารถเชิญกองทัพพิทักษ์เมืองไท่ชางมาได้นั้น ย่อมมิใช่คนยุทธภพธรรมดาอย่างแน่นอน

เซียวอวี้มิตอบอันใดกลับไป เขาเอาแต่จดจ่อมองเข้าไปภายในห้องด้วยความเหม่อลอย

เฉินจี๋ที่อยู่ด้านข้างนั้น นึกเป็นกังวลเกี่ยวกับวรกายมังกรยิ่งนัก

เมื่อคืนวานฝ่าบาทพิจารณาคดีทั้งคืน ในยาม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Ramai Thonganan
เมื่อยแทนเต้จะแม่นมีแต่สู้คงสิบ่จบสิ้นเห้อเบื่อล่ะยืดเยื้อเกินผุแก้ไขกับผุทำวนไปมาข่อยเซาติดตามล่ะหมดล่ะข่อยผุบ่มักอ่านข้ามเดาเอามีแต่สู้กันเป็นบทๆเฮ้อหน่ายล่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 692

    ภายในรถม้า ยามที่จะกลับไปที่อี้จ้านนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยถามเซียวอวี้ว่า“เหตุใดท่านถึงคิดได้ ไปจับกุมเจ้าของสนามประลองยุทธ์กัน?”ใบหน้าของเซียวอวี้จึงเผยท่าทีเคร่งครัดออกมา“กลยุทธ์จับโจรต้องเอาหัวโจกก่อน เราเองก็เคยออกรบมาก่อน”ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเจือไปด้วยความเย็นชาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามลองเชิงออกไปด้วยท่าทีสงสัยว่า“ท่านมิกลัวว่าข้าจักแพ้ให้กับอู๋เซียงหรือ?”เซียวอวี้พลันขมวดคิ้วเป็นปมไปในทันที เขามิเข้าใจว่าเหตุใดนางจึงถามคำถามเช่นนี้ออกมาทว่า บทเรียนจากขนมเกาลัดในคราก่อนนับจากนั้นเป็นต้นมา เขาถึงตระหนักได้ว่า ยามที่สตรีเอ่ยถามอันใดออกมานั้น ห้ามตอบกลับแบบมิคิดอันใดอีก จักต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อนค่อยตอบนางกลับไป“เราย่อมต้องรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง ในสถานการณ์เช่นนั้น เรามีแต่จักต้องเชื่อใจเจ้าเท่านั้น สิ่งที่เราทำได้ มีเพียงจัดการทางหนีทีไล่ให้กับเจ้า เพิ่มเติมแผนการที่ขาดไปของเจ้าให้ครบสมบูรณ์”พูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเงียบอยู่นานทำเอาเซียวอวี้คิดว่าตนเองเอ่ยอันใดผิดไป ก่อนที่นางจะค่อย ๆ เอ่ยออกมาว่า“ในปีนั้น หลังจากที่ข้าพบเจอร่องรอยของอู๋เซียงแล้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 693

    ช่วงหัวค่ำนั้นเมฆฝนค่อย ๆ หยุดลงแล้วเซียวอวี้ยังคงกอดคนในอ้อมแขนเอาไว้ พลางเชยคางขึ้นมาจุมพิตไปที่หน้าผากในยามนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนหลับสลบไสลไปแล้วเมื่อครู่เซียวอวี้หาได้สุขสมไม่เนื่องจากเป็นห่วงนางได้รับบาดเจ็บจากการประลองเมื่อคืนนี้นั้น เขาจึงมิกล้ากระทำนางมากเกินไปเมื่อมองดูรอยฟกช้ำขนาดใหญ่บนไหล่ซ้ายของนางแล้ว แววตาของเซียวอวี้พลันเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟันในทันทีอู๋เซียงสมควรตายยิ่งนัก...สายตาของเขาจับจ้องไปที่ข้อมือของเฟิ่งจิ่วเหยียนอีกครั้งโดยเฉพาะง่ามมือที่มีผ้าเช็ดหน้าของเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ผูกเอาไว้ทำเอาคิ้วของเซียวอวี้ขมวดไปในทันทีเมื่อคิดอีกที เขากลับรู้สึกว่าตนเองโง่เง่ายิ่งนัก เขาจักต้องไปแข่งกับสตรีเหล่านั้นทำไมกันจิ่วเหยียนมิได้บอกแล้วหรือ ว่านางชอบบุรุษหล่อเหลาไม่ พูดให้ถูกก็คือชอบเขาเท่านั้นเซียวอวี้เม้มริมฝีปากด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากของเฟิ่งจิ่วเหยียนอีกครั้งครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดก็ปลุกเฟิ่งจิ่วเหยียนให้ตื่นขึ้นมาจนได้นางค่อย ๆ ผลักเขาออกไป พลางเอ่ยถามด้วยท่าทีสะลึมสะลือว่า“ยังไม่นอนอีกหรือ?”เมื่อคืนเขาไม่ได้นอน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 694

    ไม่แปลกใจเลยที่ตงฟางซื่อจักเป็นผู้สืบทอดตระกูลตงฟาง แม้ว่าจักเป็นภาพวาดเสมือนที่ปลอมตัวมา เขาก็ยังคาดเดาถึงรูปลักษณ์ที่แท้จริงออกมาได้เขาพลางยิ้มตาหยีออกมา แววตาพลันเผยให้เห็นความเฉลียวฉลาดออกมาในทันที“ที่ข้าเอ่ยถามติงหยวนเอ๋อร์นั้น หาได้เอ่ยถามไปเรื่อยเปื่อยไม่“วาดมังกรวาดพยัคฆ์ยากที่จะวาดถึงกระดูก“คนธรรมดาทั่วไปมักจะวาดแค่ภายนอกออกมา แต่ข้าเริ่มวาดที่ภายในก่อนแล้วจึงค่อย ๆ แต่งเติมเนื้อหนังเข้าไป ทว่า กลับกัน…”ตงฟางซื่อชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะมองไปยังภาพวาดที่อยู่บนโต๊ะ “เป็นนางจริง ๆ ”ด้านในภาพวาดนั้นเป็นสตรีวัยละอ่อนที่งดงามที่ดูอย่างไรก็เป็นหร่านชิว!เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม“เดิมทีคนผู้นี้ก็เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยของพวกเรามาก่อน ทว่า ยามนี้ความจริงกระจ่างออกมาแล้ว”ตงฟางซื่อพยักหน้าลงก่อนที่เขาจะหันไปเตือนเฟิ่งจิ่วเหยียนอีกครั้ง“เรื่องนี้ ยิ่งมีคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น“เจ้าบุกเข้าไปในสนามประลองยุทธ์ด้วยความโมโห ประหนึ่งวีรบุรุษช่วยเหลือสาวงาม เรื่องใหญ่โตถึงเพียงนี้ เกรงว่าหร่านชิวที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดมิดคงจะตื่นตระหนกไม่น้อย“ที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 695

    หลังจากที่เซียวอวี้จัดการกับคดีสนามประลองยุทธ์ภายในเมืองไท่ชางเสร็จนั้น เขาก็เร่งเดินทางกลับไปยังเมืองหลวงในทันทีเจียงหลินรับสินค้าผิดพลาด จึงทำให้การค้าเกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ ดังนั้น เขาจึงต้องพยายามหาช่องทางอุดช่องโหว่เหล่านี้ทว่า เส้นทางการค้าของเขานั้น เริ่มแรกยังพอไปได้อยู่ หากในยามนี้เขากลับรู้สึกว่ามันน่าเบื่อหน่ายยิ่งนักยิ่งเขาเห็นการผจญภัยท่องไปในโลกยุทธภพของซูฮ่วนแล้ว ทั้งเต็มไปด้วยความตื่นตาและน่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งทำให้หัวใจของเขารู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมาอีกครั้งทำเอาเขาหวนคิดไปถึงตนเองในวัยเด็กที่มิต้องมาเป็นกังวลกับการค้าของตระกูล เช่นนี้เขาก็จะสามารถร่วมผจญภัยท่องไปในใต้หล้ากับพวกเขาได้……สิบวันต่อมาเมื่อเซียวอวี้มาถึงเมืองหลวงแล้วนั้นรุ่ยอ๋องจึงมารับเสด็จอยู่ที่ด้านหน้าประตูวังพิธีการชุดนี้ ยามนี้รุ่ยอ๋องทำได้อย่างเชี่ยวชาญมากเซียวอวี้ที่จากไปนานกว่าสองเดือน ราชกิจในราชสำนักจึงมีรุ่ยอ๋องและขุนนางหลายคนคอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้ จึงมิได้เกิดความวุ่นวายอันใดมากวังหลังสูญเสียนางสนมไปมากกว่าครึ่ง จึงเงียบสงบยิ่งนักเรื่องใหญ่เพียงอย่างเดียวก็คือ ไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 696

    “ในยามนี้นางเป็นเช่นไรบ้าง” เซียวอวี้รีบร้อนเอ่ยถามในทันที สายตาที่เย็นชาและเจือไปด้วยความเฉียบคมพลางเต็มไปด้วยความกังวลมากมายเฉินจี๋จึงตอบกลับ“หยิ่นลิ่วส่งจดหมายมาเล่าว่า คุณชายซูได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ หาได้อันตรายถึงชีวิตไม่ อีกทั้ง สามารถจับตัวนักฆ่าเหล่านั้นได้แล้ว จึงขอความเห็นจากฝ่าบาทจัก ให้จัดการหรือมีพระประสงค์เช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้เป็นอันตรายมากนั้น เซียวอวี้จึงรู้สึกโล่งอกไปในทันทีส่วนนักฆ่าพวกนั้น แน่นอนว่าพวกมันต้องถูกประหารทั้งหมด!ทว่า……“เป็นผู้ใดที่อยู่บงการเบื้องหลัง!”เฉินจี๋ทูลตอบตามความจริง: “หยิ่นลิ่วยังมิอาจเค้นปากพวกมันออกมาได้ในยามนี้พ่ะย่ะค่ะ”ดวงตาของเซียวอวี้เต็มไปด้วยความเฉียบคม เขาเอามือไพล่ไปที่ด้านหลัง ร่างสูงใหญ่ของเขาราวกับก้อนหินขนาดใหญ่ ราวกับว่า หากตกลงไปบนพระราชวัง จักต้องทำให้ผู้คนตัวสั่นไปด้วยความกลัว“นำนักฆ่าเหล่านั้นกลับมาสอบสวนพวกเขาดี ๆ เสีย!”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวอวี้มองไปยังพระราชโองการแต่งตั้งฮองเฮาที่อยู่บนโต๊ะ สายตาเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟันเขาอยากจะรู้นัก ว่ามันผู้ใดขว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 697

    หากมิมีหลักฐาน เซียวอวี้มิมีทางมาถามกับไทฮองไทเฮาโดยตรงเช่นนี้แน่“เราได้สอบปากคำนักฆ่าเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว”ฝ่ามือของไทฮองไทเฮาพลันสั่นเทาไปในทันทีสอบปากคำ?คนที่นางส่งออกไปนั้น ถูกจับหมดแล้วหรือ?แล้วซูฮ่วนล่ะ?ซูฮ่วนตายแล้วหรือยัง?ไทฮองไทเฮาอยากที่จะรู้เรื่องนี้ยิ่งนักเซียวอวี้ที่มิรู้ว่าแรงจูงใจอันใดทำให้เสด็จย่าของเขาทำเช่นนี้เขาพลางเอ่ยถามออกมาด้วยความเย็นชาว่า“ซูฮ่วนหาได้มีความแค้นอันใดกับท่านไม่ เหตุใดท่านต้องการสังหารนางด้วย!”ไทฮองไทเฮาเม้มปากไปด้วยความโกรธเกรี้ยวในเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว นางก็มิมีเหตุผลอันใดที่จะไม่ยอมรับคำพูดที่เก็บเอาไว้มานาน ในที่สุดก็จะได้เอ่ยออกไปเสียที!“ทำไมนะหรือ?“ฝ่าบาท ท่านรู้เรื่องนี้แก่ใจดี!“ทั้งท่านและเขา ต่างทำอันใดลงไป!”ใบหน้าของไทฮองไทเฮาพลันซีดขาว ราวกับว่าลูกปัดพุทธมงคลที่พระนางชื่นชอบตกลงไปในบ่อส้วม ยามที่นึกหยิบขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดนั้น เมื่อคิดถึงวิบากกรรมที่มันต้องพบเจอนั้น พลันรู้สึกร่างกายหนาวสั่นขึ้นมาในทันทีหลานชายสุดที่รักของนาง เดิมทีก็เป็นเพียงบุรุษปกติ ตอนนี้กลับกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว!เซีย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 698

    วังหลวงพลันตกอยู่ในการสอบสวนอย่างเข้มงวด ทำเอาผู้คนต่างตื่นตระหนกไปในทันทีภายในวันเดียว เพียงตำหนักจื้อเฉินนั้น มีเหล่านางกำนัลมากมายถูกลากเข้าไปในกรมราชทัณฑ์แม้แต่ขันทีข้างกายของฝ่าบาทหลิวซื่อเหลียง ก็ถูกนำตัวไปที่กรมราชทัณฑ์ด้วยมิต้องเอ่ยถึงตำหนักวั่นโซ่วเลยคนสนิทของไทฮองไทเฮาล้วนถูกจับกุมไปจนหมด ทั่วทั้งตำหนักถูกเปลี่ยนเป็นนางกำนัลชุดใหม่มาแทนการลงดาบเช่นนี้ ทำเอาผู้คนภายในวังหลวงต่างก็ระมัดระวังตัวเองมากขึ้นตำหนักฉือหนิงหนิงเฟยและไทเฮาที่นั่งคุยกันอยู่นั้น พลางเอ่ยออกมาด้วยความขบขันว่า“เสด็จป้าเพคะ ในที่สุดหญิงชราจากตำหนักวั่นโซ่วก็จะได้ออกจากวังไปเสียที“หม่อมฉันได้ยินมา เป็นพระประสงค์ของฝ่าบาทคือ และหากมิมีราชโองการเรียกตัว ห้ามกลับมาอีกด้วยนะเพคะ”“ดูภายนอก ดูเหมือนส่งพระนางไปพักฟื้นที่ภูเขาอวี้หยาง แท้จริงแล้วทุกคนต่างก็มองออกว่า ว่าไทฮองไทเฮาไปทำสิ่งใดให้ฝ่าบาททรงพิโรธเข้า“มิเช่นนั้น ตำหนักวั่นโซ่วคงมิมีทางคึกคักเช่นนี้ มีคนมากมายถูกกุมตัวไป หากเป็นเมื่อก่อนแล้วละก็ มิเห็นแก่หน้าพระก็ต้องเห็นแก่หน้าพระพุทธ ผู้ใดจักกล้าแตะต้องคนของไทฮองไทเฮาได้!”ไทเฮาฟังคำ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 699

    ตำหนักฉางเล่อ“พระสนมเพคะ ฝ่าบาทมีรับสั่งเรียกตัวพระนางไปที่ห้องทรงพระอักษรเพคะ!” นางกำนัลพลันวิ่งเจ้ามารายงานที่ตำหนักในด้วยท่าทีเป็นสุขหรงเฟยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเปี่ยมสุขพลางนั่งอยู่บนหน้าโต๊ะเครื่องแป้งฝ่าบาทกลับมาถึงวังหลวงได้หลายวันแล้ว ในที่สุดเขาก็คิดถึงนางเสียทีหลังจากนั้นไม่นาน หรงเฟยก็เดินทางไปยังห้องทรงพระอักษรในทันทีด้านในห้องมีเพียงฝ่าบาทและเฉินจี๋เพียงสองคนนางโค้งกายทำความเคารพ“ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”เซียวอวี้พลางหันมามองนางด้วยความเย็นชา“เรื่องของเรากับซูฮ่วน เป็นเจ้าที่นำความไปบอกกับเสด็จย่าใช่หรือไม่?”หัวใจของหรงเฟยพลันตกไปอยู่บนตาตุ่มทันทีซูฮ่วน...ที่ฝ่าบาทต้องการจะพบตัวนางนั้น เป็นเพราะเรื่องนี้เองหรือ?หรงเฟยครุ่นคิดกับตนเองผู้คนในวังหลวงที่ถูกจับกุมตัวไปมากมายนั้น โดยเฉพาะในตำหนักวั่นโซ่วไทฮองไทเฮาได้ส่งคนมาส่งข่าวกับนางแล้วว่า เรื่องการลอบสังหารของซูฮ่วนนั้น ความแตกแล้วฝ่าบาทที่เป็นคนเฉลียวฉลาดเช่นนี้ ย่อมต้องคาดเดาได้ว่ามีคนวิ่งโร่ไปฟ้องไทฮองไทเฮาอย่างแน่นอนในเมื่อเรื่องมาถึงเช่นนี้ หากนางยังมิยอมรับอีก ย่อมทำให้ฝ่าบาทเอาแต่สืบความ

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 734

    ไทฮองไทเฮาทรงถูกส่งเข้ามาในคุกเทียนเหลา แต่ยังรักษาความน่าเกรงขามเอาไว้อย่างเต็มที่เหล่าท่านอ๋องมองเห็นนาง ทุกคนถึงกับตาค้างแม้แต่เสด็จย่าก็ถูกส่งเข้ามาในคุกเทียนเหลาด้วยหรือ?ถ้าเช่นนั้นพวกเขา...ดูเหมือนจะไม่ถูกปรักปรำแล้วช้าก่อน!หรือว่าพวกเขาจะก่อกบฏตามไทฮองไทเฮาจริง ๆ?สวรรค์!หญิงชราผู้นี้ ไม่เพียงทำร้ายคนอื่นก็ยังทำร้ายตนเองด้วย!เหล่าท่านอ๋องพลันนิ่งเงียบไม่ส่งเสียง แอบขบเขี้ยวเคี้ยวฟันในเวลานี้ พลุดอกไม้ไฟนอกคุกเทียนเหลาอยู่ ๆ ก็ดังขึ้น พวกเขารู้สึกถึงความอ้างว้างคืนวันดี ๆ ส่งท้ายปีเก่า พวกเขากลับต้องอยู่ในคุกเทียนเหลา ช่างเป็นกรรมแท้ ๆ!ไทฮองไทเฮาทรงเข้ามาในห้องขังแห่งนี้ ก็เห็นมู่หรงหลันแม่ลูกอยู่ที่นี่ด้วยในใจนางรู้สึกหวาดหวั่นเมื่อหันกลับมา ก็ประสานกับแววตาอันยั่วยุขององครักษ์ลับผู้นั้น และถูกเย้ยหยัน“คนสามรุ่นอยู่ร่วมกัน ไทฮองไทเฮา หญิงชราเช่นท่านช่างโชคดีเหลือเกิน”ขณะที่พูด หญ้าหางจิ้งจอกของคนผู้นั้นก็ขยับขึ้นลง แสดงออกถึงการยั่วยุไทฮองไทเฮาทรงทรมานพระทัยอย่างมากมู่หรงหลันได้รับบาดเจ็บหนัก ถูกโยนไว้ที่มุมห้องอย่างไม่ใส่ใจ เอนพิงอยู่ข้างกำแพง ห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 733

    ขณะเหม่อลอย เซียวอวี้มองเห็นชัดเจนแล้วคนที่วิ่งมาหาเขาจากที่ไกล คือเฟิ่งจิ่วเหยียน!คือคนที่เขาคะนึงถึงทุกคืนวัน!เขาพยายามอย่างเต็มที่ ให้หลุดพ้นจากพื้นหิมะที่กลืนกินคนหลุดพ้นจากตะขอและสิ่งพัวพันที่ไร้ตัวตนเหล่านั้นเขาลุกขึ้นพร้อมกับคำรามเบา ๆ คิดจะวิ่งไปข้างหน้า นาทีเดียวก็ไม่กล้ารีรอ กลัวว่านี่จะเป็นเพียงภาพลวงตาของเขาในเวลาเดียวกันนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ใกล้เขาเข้ามาเรื่อย ๆ เช่นกันสองคนอยู่ท่ามกลางหิมะโปรยปรายเต็มท้องฟ้า ทั้งคู่ต่างวิ่งเข้าหากันในที่สุด ก็โอบกอดกันท่ามกลางหิมะมีเพียงวินาทีที่สวมกอดอีกฝ่าย ถึงได้กลับสู่ความเป็นจริงโดยสิ้นเชิงเซียวอวี้สวมกอดคนที่อยู่ในอ้อมแขนไว้แน่น ปล่อยให้ลมหิมะพัดถาโถมเขาจุมพิตที่หน้าผากและแก้มของนาง รับรู้ถึงความอบอุ่นของนางมือข้างหนึ่งประคองหลังศีรษะนาง หน้าผากชนกัน ลมหายใจรินรดกัน ริมโสตคือเสียงลมหวีดหวิว เขาได้ยินนางเรียกเขาอย่างชัดเจน“ฝ่าบาท...”เซียวอวี้รับรู้เพียงใบหน้าชื้นแฉะ ไม่รู้สึกตัวว่า น้ำตาอุ่น ๆ ที่เอ่อคลอของเขาไหลออกมา นั่นคือความปีติยินดีที่ยากเกินบรรยายจากสิ่งที่สูญเสียได้คืนกลับมาเขาตื้นตันใจอย่างมา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 732

    “จิ่วเหยียนนาง...ยังมีชีวิตอยู่!” นิ้วมือของเซียวอวี้สั่นรัว ความรู้สึกมากมายเกิดขึ้นในจิตใจ ขณะเหม่อลอย รู้สึกเพียงตัวอยู่ในความฝันช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขาราวกับศพเดินได้ก็มิปานถึงแม้วางแผนจะจัดการกลุ่มกบฏเหล่านั้นให้หมดในคราวเดียว ก็มักจะทำแบบขอไปที ความจำก็ถดถอย มิรู้ว่าตนเองเคยเตรียมการเรื่องใดบ้างคนอยู่ที่นี่ ใจกลับล่องลอยไปที่ภูเขาหิมะเทียนฉือบัดนี้ ได้ยินข่าวว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนยังมีชีวิตอยู่ เขาถึงรู้สึกว่าตนเองกลับมามีชีวิตแล้วนางยังมีชีวิตอยู่!เซียวอวี้หันหลังให้ทุกคน ดวงตาแดงก่ำด้วยความตื้นตันใจ น้ำตาพลันเอ่อล้นในทันทีเขารู้อยู่แล้วว่า แม่ทัพน้อยของเขา จะไม่มีทางตาย!องค์หญิงใหญ่ทรงตื่นเต้นอย่างที่สุดเช่นกัน ร่ำไห้ด้วยความปีติ“ดีเหลือเกิน! แม่ทัพน้อยยังมีชีวิตอยู่!!”ก่อนหน้านี้ไทฮองไทเฮาทรงพำนักอยู่ที่ภูเขาอวี้หยางมาตลอด มิรู้ที่มาที่ไป ในเวลานี้ถึงรู้ว่า แม่ทัพน้อยเมิ่งกับซูฮ่วนเป็นคนเดียวกันนี่มิได้หมายความว่า นางเคยส่งคนไปลอบสังหารซูฮ่วน และเกือบจะทำร้ายแม่ทัพน้อยเมิ่ง!?สวรรค์!นางทำสิ่งใดลงไป!นางเกือบจะกลายเป็นคนบาปที่ถูกสาปแช่งไปชั่วลูกชั่วหลาน!

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 731

    หากต้องการจะช่วยฮ่องเต้ จักต้องจัดการกับระเบิดฟ้าคำรณเหล่านั้นก่อน โดยเฉพาะยังมีกระสุนมังกรไฟนั่นอีก...เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ แม่ทัพอาวุโสหลี่พลันมีสีหน้าเคร่งขรึมภายในวิหารบรรพบุรุษหม่ากงกงถีบประตูให้เปิดออกในทันที“ฝ่าบาทหนอฝ่าบาท ท่านหลอกลวงพวกเราทั้งหมดแล้ว! ฮ่องเต้องค์ใหม่อะไรกัน ท่านคงเพื่อให้เปิดเผยพวกพ้องที่อยู่ในราชสำนักออกมากระมัง!”เมื่อครู่เขาได้รับข่าวว่า ขุนนางในเมืองหลายคนถูกจับกุมแล้ว ทั้งหมดคือคนที่เลือกสนับสนุนแต่งตั้งรัชทายาท ยังมีคุกเทียนเหลา เส้นสายลับที่ซ่อนอยู่ในคุกเทียนเหลาก็ถูกจับกุมแล้วเช่นกัน!บางคนก็ถูกตัดศีรษะประจานในวันเดียวกัน!แววตาของเซียวอวี้ดูเย็นชา เพียงมองไปยังที่ไกล ๆหม่ากงกงเย้ยหยัน“ทว่าท่านประเมินพวกเราต่ำเกินไป“คนที่ท่านสังหารเหล่านั้นมีความสำคัญอันใด? อีกไม่นาน ประมุขพรรคก็จะนำกองทัพเยี่ยนมาบุกหนานฉี!“คืนนี้ จะให้ท่านมองดูพี่น้องและสตรีของท่าน ตายไปทีละคน! ให้ท่านรับรู้ ผลที่ตามมาของการวางแผนเล่นงานพวกเรา!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ออกคำสั่ง เหล่าท่านอ๋องกับนางสนมก็ถูกลากออกไปด้านนอกภายใต้แสงรัตติกาล คมดาบสาดส่องประกายอันเยือกเย็น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 730

    “พวกเจ้าเป็นใคร!” มือทั้งสองข้างของมู่หรงหลันมีเลือดไหลอาบ จดจ้องกลุ่มคนสวมหน้ากาก ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแต่ไม่ยอมแพ้บุรุษที่เป็นหัวหน้าเช็ดเลือดบนดาบอย่างไม่รีบร้อน “นายท่านของข้านามสกุลเซียว”เซียว…ทันใดนั้นมู่หรงหลันก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างไม่อยากจะเชื่อ“พวกเจ้าคือ องครักษ์ลับ?!”องครักษ์ลับของฝ่าบาท!ดังนั้น เป็นฝ่าบาทส่งพวกเขามาเพื่อจับนาง!ไม่ควรเป็นแบบนั้นพวกเขาทราบได้อย่างไรว่านางจะผ่านทางนี้หรือว่า ฝ่าบาทได้วางแผนล่วงหน้ามานานแล้วคิดได้เช่นนี้ มู่หรงหลันพลันรู้สึกขนลุกนางอยากส่งสัญญาณให้หม่ากงกง ทว่า นางไม่มีมือแล้ว…ณ วิหารบรรพบุรุษแม่ทัพอาวุโสหลี่มาส่งเสบียงอาหารทุกวัน โดยวางไว้นอกประตูวิหารบรรพบุรุษในระยะสองลี้ หลังจากนั้นก็จะมีกบฏพวกนั้นออกมารับไปตั้งแต่ที่ฝ่าบาทถูกจับขัง เวลาก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้วแนวป้องกันของเมืองเซวียนพังทลาย จู้กั๋วกงจึงแอบลักลอบกลับมาที่เมืองเซวียนด้านเป่ยเยี่ยนและหนานฉี ก็กำลังจะมีสงครามภายในห้องฌานเสบียงส่งมาถึงมือของเหล่านางสนม เพื่อป้องกันไม่ให้วุ่นวาย ไทเฮาจึงมีหน้าที่แจกจ่ายตามหลักแล้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 729

    เมื่อเผชิญหน้ากับฮ่องเต้องค์ใหม่ที่โผล่มาอย่างกะทันหัน หม่ากงกงก็ตัดสินใจเดินหน้าให้ถึงที่สุดเขาไม่เสแสร้งอีกต่อไป พูดออกไปตามตรงว่า“ไท่ซ่างหวงอยู่ในมือของพวกข้า! หากอยากได้ชีวิตของเขาคืน ก็ต้องคัดราชโองการ ส่งต่อบัลลังก์ให้รัชทายาทที่แท้จริง!”เขาให้ลูกน้องอุ้มเด็กคนนั้นออกมา แล้วพูดกับทุกคนว่า“บุคคลนี้ต่างหากคือบุตรชายแท้ ๆ ของไท่ซ่างหวง ไม่กี่วันได้เปิดเผยตัวตนทำความรู้จักกับไท่ซ่างหวง…”ไม่รอให้เขาพูดจบ รุ่ยอ๋องก็เอ่ยขึ้น“สามหาว!​ จะสลับสับเปลี่ยนบัลลังก์ เหมือนการเล่นสนุกได้อย่างไร?”แม่ทัพอาวุโสหลี่ผสมโรงด่าอย่างโมโห“หมารับใช้เช่นเจ้ากล้าดีอย่างไร! ถึงได้เอาเด็กที่ไหนไม่รู้มาสวมรอยเป็นโอรสรัชทายาท คิดว่าคนอื่นโง่หรือไง!”เหล่าทหารคนอื่น ๆ ต่างหัวเราะเยาะ“เจ้าโจรขันที นั่นคือลูกชายของเจ้าล่ะสิไม่ว่า!”สีหน้าของหม่ากงกงมืดลงเรื่อย ๆ“พวกเจ้าไม่เชื่อใช่ไหม! ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะส่งไท่ซ่างหวงกลับสวรรค์! รุ่ยอ๋อง แม่ทัพอาวุโสหลี่ยังไม่บอกท่านสินะ ว่าในวิหารแห่งนี้มีระเบิดฟ้าคำรณ…”ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ฮ่องเต้องค์ใหม่ก็คุกเข่าลง ก้มคำนับไปทางวิหาร“เสด็จพ่อ! ก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 728

    ทันทีที่เสียงระเบิดฟ้าคำรณดังขึ้นมา องค์ชายทั้งหลายก็วุ่นวายกันไปหมด“ทำไมจู่ ๆ ก็ระเบิดล่ะ?”“ต้องเป็นฝ่าบาทแน่ ๆ! อย่าลืมสิ ฝ่าบาทตรอมใจเพราะความรัก เขาต้องการให้เราลงสุสานไปด้วย!”“โถ่โว๊ย!​ ไม่ว่าจะเป็นใคร ปล่อยข้าออกไปเดี๋ยวนี้! ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด!”เหล่านางสนมเองก็กรูเข้ามากอดกันไว้ ทั้งยังจ้องบานประตูอย่างไม่สบายใจขณะนี้ ด้านบอกประตูวิหารบรรพบุรุษหม่ากงกงตะโกนไปทางป่าแห่งนั้นเสียงดัง “ออกมาเถอะ! ข้าเห็นพวกเจ้าแล้ว!”เหล่าทหารที่อยู่ในป่านิ่งงันไม่ไหวติงหม่ากงกงข่มขู่ “เสียงเมื่อครู่ พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่? หากยังไม่ออกมา ข้าจะพังข้างในให้ราบเป็นหน้ากลอง!”สิ้นเสียงของเขา แม่ทัพอาวุโสหลี่ก็ลุกออกมา“โจรขันที! เจ้ากล้าหรือ!ภายใต้แสงจันทร์ หม่ากงกงยิ้มอย่างโอหัง“ที่แท้ก็เป็นแม่ทัพอาวุโสหลี่นี่เอง!“ข้าขอคารวะอยู่ตรงนี้แล้วกันนะ!“ท่านแม่ทัพ ฝ่าบาทกับองค์ชายทั้งหลายกำลังปรึกษาหารือเรื่องแคว้นกันอยู่ ข้าได้รับคำสั่งจากไทฮองไทเฮา ให้เฝ้าอยู่ตรงนี้ ห้ามให้คนร้ายเข้าไปรบกวนวาระอันศักดิ์สิทธิ์“ท่านระดมกำลังคนมามากมายขนาดนี้ คิดจะก่อกบฏหรือ!”เมื่อได้ยินเขาร้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 727

    วิหารบรรพบุรุษถูกกลุ่มกบฏล้อมเอาไว้ กอปรกับระเบิดฟ้าคำรณเหล่านั้น จึงไม่มีผู้ใดกล้าก้าวผ่านดงระเบิดนั้นไป เหล่าท่านอ๋องบ่นกันไม่หยุด“ข้าบอกแล้วว่าไม่เข้าร่วม ไม่เข้าร่วม! ก็ยังจะให้ข้ามาให้ได้!”“นั่นสิ!  หากรู้ตั้งแต่แรกว่าเสด็จย่าจะแต่งตั้งรัชทายาท พวกเราจะมายุ่งวุ่นวายไปทำอะไร! ตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ ต้องมาถูกกลุ่มกบฏจับขัง น่าขายหน้าจริง ๆ!”พวกเขาล้วนเป็นคนสูงศักดิ์ในราชวงศ์ อาหารการกินและข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันล้วนเป็นของที่ดีที่สุด พอคราวนี้ต้องมาเบียดเสียดรวมกันอยู่ในห้องฌานห้องเดียว ซึ่งเตียงที่มีเพียงหลังเดียว ถูกผู้มีอำนาจสูงสุดอย่างซู่อ๋องยึดครองไปแล้ว คนอื่น ๆ จำต้องนอนบนพื้นข่าวที่ฝ่าบาทถูกขังถูกส่งต่ออย่างรวดเร็ว จนรุ่ยอ๋องรู้เรื่องในวันนั้นรุ่ยอ๋องรับคำสั่ง กำจัดกลุ่มลับในราชวัง และส่งตัวแม่ทัพอาวุโสหลี่นำกองกำลังไปช่วยเหลือแม่ทัพอาวุโสหลี่นำทัพทหารรักษาพระองค์เข้าบุกวิหารบรรพบุรุษเขาไม่ได้รีบร้อนช่วยคนออกมา สังเกตสถานการณ์ของศัตรูก่อนเป็นอย่างแรกซึ่งก็พบสิ่งผิดปกติอย่างที่คิดไว้ตามหลักแล้ว ราชองครักษ์ของไทฮองไทเฮากับองค์ชายทั้งหลาย มีจำนวนมากกว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 726

    แม้นจะบอกว่าช้าแต่กลับเร็วกว่าที่คิด หม่ากงกงถีบระเบิดสายฟ้าจนปลิว ไม่ให้องครักษ์จุดมันเขาอ้าปากตะคอก“ไสหัวเข้าไปในวิหารบรรพบุรุษให้หมด!! อยากตาย มันไม่ง่ายขนาดนั้น!”พวกเขาบ้าไปแล้ว!ทุกคน แม้แต่ฮ่องเต้ ต่างถูกขังไว้ในวิหารบรรพบุรุษไทฮองไทเฮาและเหล่าสตรีในวังหลังถูกขังไว้ด้วยกันสีหน้าของผู้อาวุโสเช่นนางไม่ค่อยดีนัก รู้สึกคิดผิดและรู้สึกโทษตัวเองที่เผลอไปเชื่อมู่หรงหลัน“ข้าไม่คิดเลยว่า หลันเอ๋อร์จะร่วมมือกับกลุ่มกบฏพวกนั้น…”นางเอาแต่พร่ำบ่น แต่กลับไม่ฟังคำพูดเข้าอกเข้าใจของคนอื่น จนทำให้หนิงเฟยหงุดหงิดหนิงเฟยทนไม่ไหว จึงดุด่านางไป“ยายแก่น่ารำคาญ! พอได้แล้ว!”“จะแสร้งทำเป็นไม่มีความผิดไปทำไม! หากไม่ใช่เพราะท่านช่วยเหลือพวกเผด็จการ พวกเราจะตกอยู่ในสถานการณ์นี้หรือ? ท่านป่วยมาตั้งนาน ทำไมไม่ตาย ๆ ไปซะ!”ไทฮองไทเฮาไม่อยากจะเชื่อ หนิงเฟยที่เคยเคารพนางในยามปกติ จะกล้าตะคอกใส่นางเช่นนี้“เจ้า…บังอาจ!”ไทเฮาโอบไหล่ของหนิงเฟย ปกป้องนางไว้ในอ้อมกอด “ไทฮองไทเฮา หนิงเฟยคงตกใจกลัว ถึงได้หลุดวาจาไม่สุภาพ…”“ฮือ ๆ…” ในมุมหนึ่งมีนางสนมร้องไห้สะอึกสะอื้น “ข้าอยากกลับบ้าน หากรู้เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status