แชร์

บทที่ 689

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
การให้หยิ่นลิ่วแอบไปขอกองกำลังเสริมนั้น เป็นความคิดของเซียวอวี้

ประการแรกเพื่อเฟิ่งจิ่วเหยียน เขาเป็นห่วงว่า ด้วยวิธีการสกปรกของสนามประลองยุทธ์ ถึงแม้เฟิ่งจิ่วเหยียนจะชนะ ก็คงไม่มีทางออกมาได้อย่างง่ายดาย

ประการที่สองเพื่อราษฎร หลังจากเห็นความโหดเหี้ยมอำมหิตของสนามประลองยุทธ์แห่งนี้ เขาก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทำลายมัน

กระแสนิยมความชั่วร้ายเช่นนี้ ปล่อยตามอำเภอใจก็จะเป็นการส่งเสริม

ทหารรักษาการณ์ไท่ชางก็ไม่รู้จักฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ทว่ายอมรับป้ายห้อยเอวเทพยุทธ์พระราชทานของหยิ่นลิ่ว

ผู้ที่มีป้ายห้อยเอวเทพยุทธ์ จะมีอำนาจตรวจสอบขุนนางท้องถิ่น และระดมกำลังทหารรักษาการณ์ในท้องที่

ทหารรักษาการณ์ที่หยิ่นลิ่วนำมามีสามหมื่นคน

ไป๋เซี่ยวฉือแม่ทัพทหารกองรักษาการณ์ในมือถือหอกยาว ตวาดด้วยความโกรธ

“ทุกคนวางอาวุธลง สองมือกุมหัวไว้!

“คนที่กล้าขัดขืน ฆ่าเลย!”

จากนั้น ทหารครึ่งหนึ่งโอบล้อมกลุ่มคนในสถานที่นั้น

ส่วนอีกครึ่งหนึ่งไปปิดล้อมสนามประลองยุทธ์และจับกุมผู้คนในนั้น

เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ความตึงเครียดก็คลายลง

หยิ่นลิ่วผู้ที่พกป้ายห้อยเอวเทพยุทธ์ ก่อนอื่นพาเซียวอวี้พร้อมคณะออกจากฝ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
Sakon Jindanin
สามี กริ้ว มากกกกก เค้าก็รักของเค้าเนาะ
goodnovel comment avatar
Double Rainbow
ตำแหน่งหลัวแห่งชาติต้องยกให้เจ้าแล้วล่ะ อาเหยียน
goodnovel comment avatar
Heart
แล้วเฟิ่งจิาวเหยียนก็มีเสน่ห์กับสาวๆมากกก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 690

    คืนวานเซียวอวี้สืบสวนคดีตลอดทั้งคืน จึงเหนื่อยล้าอย่างมากทว่าแค่นึกถึงว่าจะได้กลับมาเจอเฟิ่งจิ่วเหยียน ก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าใครจะคิดว่า ทันทีที่มาถึงห้องนาง ก็เห็น...เห็นนางกับเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ผู้นั้นพลอดรักกัน!เฟิ่งจิ่วเหยียนผลักเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ออกไป และอธิบายกับเขา“เข้าใจผิด”ที่จริงแล้วมิใช่เข้าใจผิดทว่า เรื่องยังไม่ได้เกิด แต่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น นางจึงพูดได้เพียงเท่านั้นเซียวอวี้มิใช่คนหลอกง่ายเช่นนั้นเขาเดินไปอยู่ข้างกายเฟิ่งจิ่วเหยียน แววตาเยือกเย็นและน่าเกรงขาม พร้อมกับถามเหลิ่งเซียนเอ๋อร์“เมื่อครู่เจ้าคิดจะทำสิ่งใด”คำถามที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้ ไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายเลยสักนิด และไม่คำนึงถึงความเหนียมอายของหญิงสาวบ้างเลยหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าคงจะอับอายและโมโหจนไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วทว่า เหลิ่งเซียนเอ๋อร์มิใช่คนทั่วไปนางไม่หลบเลี่ยง ไม่หลบหนี กล้าทำก็กล้ารับทว่าก็ไม่จำเป็นจักต้องอธิบายให้คนนอกฟัง“นี่เป็นเรื่องระหว่างข้ากับซูฮ่วน”มีความหมายเป็นนัย ๆ ว่า---เกี่ยวอะไรกับเจ้า?เซียวอวี้เกือบจะหัวเราะออกมาด้วยความโกรธคนอื่นเขายุ่งเกี่ยวไม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 691

    โรงพักแรมเวี่ยหลัยเฟิ่งจิ่วเหยียนมาหาติงหยวนเอ๋อร์ผู้ป่วยพลางนอนอ่อนแรงอยู่บนเตียง พร้อมด้วยลูกศิษย์ร่วมสำนักสองคนคอยดูแลอยู่“รองเจ้าสำนัก…” ติงหยวนเอ๋อร์พยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงเหลิ่งเซียนเอ๋อร์รีบก้าวไปข้างหน้า พลางกล่าวว่า “นอนลงดี ๆ เถิด”สายตาของติงหยวนเอ๋อร์มองผ่านคนอื่น ๆ ไปจนหยุดที่ร่างของเฟิ่งจิ่วเหยียน“เป็นท่านที่ช่วยข้าเอาไว้”ถึงแม้เมื่อวานร่างกายของนางจักอ่อนแรง ทว่า จดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดีหากมิใช่เพราะคุณชายท่านนี้ละก็ นางก็มิรู้ว่าตนเองจักต้องพบเจอกับอะไรบ้างภายในห้องมิอาจมีพื้นที่ให้คนรั้งอยู่ได้มากมายนัก ดังนั้น ทั้งเซียวอวี้และเจียงหลินจึงออกมาอยู่ด้านนอกห้องแทนเจียงหลินยกสองแขนขึ้นมากอดอก ก่อนจะประเมินดูเซียวอวี้ พลางเอ่ยถามว่า“สหายเซียว ตกลงเจ้าเป็นใครกันแน่?”ผู้ที่สามารถเชิญกองทัพพิทักษ์เมืองไท่ชางมาได้นั้น ย่อมมิใช่คนยุทธภพธรรมดาอย่างแน่นอนเซียวอวี้มิตอบอันใดกลับไป เขาเอาแต่จดจ่อมองเข้าไปภายในห้องด้วยความเหม่อลอยเฉินจี๋ที่อยู่ด้านข้างนั้น นึกเป็นกังวลเกี่ยวกับวรกายมังกรยิ่งนักเมื่อคืนวานฝ่าบาทพิจารณาคดีทั้งคืน ในยาม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 692

    ภายในรถม้า ยามที่จะกลับไปที่อี้จ้านนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยถามเซียวอวี้ว่า“เหตุใดท่านถึงคิดได้ ไปจับกุมเจ้าของสนามประลองยุทธ์กัน?”ใบหน้าของเซียวอวี้จึงเผยท่าทีเคร่งครัดออกมา“กลยุทธ์จับโจรต้องเอาหัวโจกก่อน เราเองก็เคยออกรบมาก่อน”ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเจือไปด้วยความเย็นชาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามลองเชิงออกไปด้วยท่าทีสงสัยว่า“ท่านมิกลัวว่าข้าจักแพ้ให้กับอู๋เซียงหรือ?”เซียวอวี้พลันขมวดคิ้วเป็นปมไปในทันที เขามิเข้าใจว่าเหตุใดนางจึงถามคำถามเช่นนี้ออกมาทว่า บทเรียนจากขนมเกาลัดในคราก่อนนับจากนั้นเป็นต้นมา เขาถึงตระหนักได้ว่า ยามที่สตรีเอ่ยถามอันใดออกมานั้น ห้ามตอบกลับแบบมิคิดอันใดอีก จักต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อนค่อยตอบนางกลับไป“เราย่อมต้องรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง ในสถานการณ์เช่นนั้น เรามีแต่จักต้องเชื่อใจเจ้าเท่านั้น สิ่งที่เราทำได้ มีเพียงจัดการทางหนีทีไล่ให้กับเจ้า เพิ่มเติมแผนการที่ขาดไปของเจ้าให้ครบสมบูรณ์”พูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเงียบอยู่นานทำเอาเซียวอวี้คิดว่าตนเองเอ่ยอันใดผิดไป ก่อนที่นางจะค่อย ๆ เอ่ยออกมาว่า“ในปีนั้น หลังจากที่ข้าพบเจอร่องรอยของอู๋เซียงแล้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 693

    ช่วงหัวค่ำนั้นเมฆฝนค่อย ๆ หยุดลงแล้วเซียวอวี้ยังคงกอดคนในอ้อมแขนเอาไว้ พลางเชยคางขึ้นมาจุมพิตไปที่หน้าผากในยามนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนหลับสลบไสลไปแล้วเมื่อครู่เซียวอวี้หาได้สุขสมไม่เนื่องจากเป็นห่วงนางได้รับบาดเจ็บจากการประลองเมื่อคืนนี้นั้น เขาจึงมิกล้ากระทำนางมากเกินไปเมื่อมองดูรอยฟกช้ำขนาดใหญ่บนไหล่ซ้ายของนางแล้ว แววตาของเซียวอวี้พลันเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟันในทันทีอู๋เซียงสมควรตายยิ่งนัก...สายตาของเขาจับจ้องไปที่ข้อมือของเฟิ่งจิ่วเหยียนอีกครั้งโดยเฉพาะง่ามมือที่มีผ้าเช็ดหน้าของเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ผูกเอาไว้ทำเอาคิ้วของเซียวอวี้ขมวดไปในทันทีเมื่อคิดอีกที เขากลับรู้สึกว่าตนเองโง่เง่ายิ่งนัก เขาจักต้องไปแข่งกับสตรีเหล่านั้นทำไมกันจิ่วเหยียนมิได้บอกแล้วหรือ ว่านางชอบบุรุษหล่อเหลาไม่ พูดให้ถูกก็คือชอบเขาเท่านั้นเซียวอวี้เม้มริมฝีปากด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากของเฟิ่งจิ่วเหยียนอีกครั้งครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดก็ปลุกเฟิ่งจิ่วเหยียนให้ตื่นขึ้นมาจนได้นางค่อย ๆ ผลักเขาออกไป พลางเอ่ยถามด้วยท่าทีสะลึมสะลือว่า“ยังไม่นอนอีกหรือ?”เมื่อคืนเขาไม่ได้นอน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 694

    ไม่แปลกใจเลยที่ตงฟางซื่อจักเป็นผู้สืบทอดตระกูลตงฟาง แม้ว่าจักเป็นภาพวาดเสมือนที่ปลอมตัวมา เขาก็ยังคาดเดาถึงรูปลักษณ์ที่แท้จริงออกมาได้เขาพลางยิ้มตาหยีออกมา แววตาพลันเผยให้เห็นความเฉลียวฉลาดออกมาในทันที“ที่ข้าเอ่ยถามติงหยวนเอ๋อร์นั้น หาได้เอ่ยถามไปเรื่อยเปื่อยไม่“วาดมังกรวาดพยัคฆ์ยากที่จะวาดถึงกระดูก“คนธรรมดาทั่วไปมักจะวาดแค่ภายนอกออกมา แต่ข้าเริ่มวาดที่ภายในก่อนแล้วจึงค่อย ๆ แต่งเติมเนื้อหนังเข้าไป ทว่า กลับกัน…”ตงฟางซื่อชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะมองไปยังภาพวาดที่อยู่บนโต๊ะ “เป็นนางจริง ๆ ”ด้านในภาพวาดนั้นเป็นสตรีวัยละอ่อนที่งดงามที่ดูอย่างไรก็เป็นหร่านชิว!เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม“เดิมทีคนผู้นี้ก็เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยของพวกเรามาก่อน ทว่า ยามนี้ความจริงกระจ่างออกมาแล้ว”ตงฟางซื่อพยักหน้าลงก่อนที่เขาจะหันไปเตือนเฟิ่งจิ่วเหยียนอีกครั้ง“เรื่องนี้ ยิ่งมีคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น“เจ้าบุกเข้าไปในสนามประลองยุทธ์ด้วยความโมโห ประหนึ่งวีรบุรุษช่วยเหลือสาวงาม เรื่องใหญ่โตถึงเพียงนี้ เกรงว่าหร่านชิวที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดมิดคงจะตื่นตระหนกไม่น้อย“ที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 695

    หลังจากที่เซียวอวี้จัดการกับคดีสนามประลองยุทธ์ภายในเมืองไท่ชางเสร็จนั้น เขาก็เร่งเดินทางกลับไปยังเมืองหลวงในทันทีเจียงหลินรับสินค้าผิดพลาด จึงทำให้การค้าเกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ ดังนั้น เขาจึงต้องพยายามหาช่องทางอุดช่องโหว่เหล่านี้ทว่า เส้นทางการค้าของเขานั้น เริ่มแรกยังพอไปได้อยู่ หากในยามนี้เขากลับรู้สึกว่ามันน่าเบื่อหน่ายยิ่งนักยิ่งเขาเห็นการผจญภัยท่องไปในโลกยุทธภพของซูฮ่วนแล้ว ทั้งเต็มไปด้วยความตื่นตาและน่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งทำให้หัวใจของเขารู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมาอีกครั้งทำเอาเขาหวนคิดไปถึงตนเองในวัยเด็กที่มิต้องมาเป็นกังวลกับการค้าของตระกูล เช่นนี้เขาก็จะสามารถร่วมผจญภัยท่องไปในใต้หล้ากับพวกเขาได้……สิบวันต่อมาเมื่อเซียวอวี้มาถึงเมืองหลวงแล้วนั้นรุ่ยอ๋องจึงมารับเสด็จอยู่ที่ด้านหน้าประตูวังพิธีการชุดนี้ ยามนี้รุ่ยอ๋องทำได้อย่างเชี่ยวชาญมากเซียวอวี้ที่จากไปนานกว่าสองเดือน ราชกิจในราชสำนักจึงมีรุ่ยอ๋องและขุนนางหลายคนคอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้ จึงมิได้เกิดความวุ่นวายอันใดมากวังหลังสูญเสียนางสนมไปมากกว่าครึ่ง จึงเงียบสงบยิ่งนักเรื่องใหญ่เพียงอย่างเดียวก็คือ ไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 696

    “ในยามนี้นางเป็นเช่นไรบ้าง” เซียวอวี้รีบร้อนเอ่ยถามในทันที สายตาที่เย็นชาและเจือไปด้วยความเฉียบคมพลางเต็มไปด้วยความกังวลมากมายเฉินจี๋จึงตอบกลับ“หยิ่นลิ่วส่งจดหมายมาเล่าว่า คุณชายซูได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ หาได้อันตรายถึงชีวิตไม่ อีกทั้ง สามารถจับตัวนักฆ่าเหล่านั้นได้แล้ว จึงขอความเห็นจากฝ่าบาทจัก ให้จัดการหรือมีพระประสงค์เช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้เป็นอันตรายมากนั้น เซียวอวี้จึงรู้สึกโล่งอกไปในทันทีส่วนนักฆ่าพวกนั้น แน่นอนว่าพวกมันต้องถูกประหารทั้งหมด!ทว่า……“เป็นผู้ใดที่อยู่บงการเบื้องหลัง!”เฉินจี๋ทูลตอบตามความจริง: “หยิ่นลิ่วยังมิอาจเค้นปากพวกมันออกมาได้ในยามนี้พ่ะย่ะค่ะ”ดวงตาของเซียวอวี้เต็มไปด้วยความเฉียบคม เขาเอามือไพล่ไปที่ด้านหลัง ร่างสูงใหญ่ของเขาราวกับก้อนหินขนาดใหญ่ ราวกับว่า หากตกลงไปบนพระราชวัง จักต้องทำให้ผู้คนตัวสั่นไปด้วยความกลัว“นำนักฆ่าเหล่านั้นกลับมาสอบสวนพวกเขาดี ๆ เสีย!”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวอวี้มองไปยังพระราชโองการแต่งตั้งฮองเฮาที่อยู่บนโต๊ะ สายตาเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟันเขาอยากจะรู้นัก ว่ามันผู้ใดขว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 697

    หากมิมีหลักฐาน เซียวอวี้มิมีทางมาถามกับไทฮองไทเฮาโดยตรงเช่นนี้แน่“เราได้สอบปากคำนักฆ่าเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว”ฝ่ามือของไทฮองไทเฮาพลันสั่นเทาไปในทันทีสอบปากคำ?คนที่นางส่งออกไปนั้น ถูกจับหมดแล้วหรือ?แล้วซูฮ่วนล่ะ?ซูฮ่วนตายแล้วหรือยัง?ไทฮองไทเฮาอยากที่จะรู้เรื่องนี้ยิ่งนักเซียวอวี้ที่มิรู้ว่าแรงจูงใจอันใดทำให้เสด็จย่าของเขาทำเช่นนี้เขาพลางเอ่ยถามออกมาด้วยความเย็นชาว่า“ซูฮ่วนหาได้มีความแค้นอันใดกับท่านไม่ เหตุใดท่านต้องการสังหารนางด้วย!”ไทฮองไทเฮาเม้มปากไปด้วยความโกรธเกรี้ยวในเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว นางก็มิมีเหตุผลอันใดที่จะไม่ยอมรับคำพูดที่เก็บเอาไว้มานาน ในที่สุดก็จะได้เอ่ยออกไปเสียที!“ทำไมนะหรือ?“ฝ่าบาท ท่านรู้เรื่องนี้แก่ใจดี!“ทั้งท่านและเขา ต่างทำอันใดลงไป!”ใบหน้าของไทฮองไทเฮาพลันซีดขาว ราวกับว่าลูกปัดพุทธมงคลที่พระนางชื่นชอบตกลงไปในบ่อส้วม ยามที่นึกหยิบขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดนั้น เมื่อคิดถึงวิบากกรรมที่มันต้องพบเจอนั้น พลันรู้สึกร่างกายหนาวสั่นขึ้นมาในทันทีหลานชายสุดที่รักของนาง เดิมทีก็เป็นเพียงบุรุษปกติ ตอนนี้กลับกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว!เซีย

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 734

    ไทฮองไทเฮาทรงถูกส่งเข้ามาในคุกเทียนเหลา แต่ยังรักษาความน่าเกรงขามเอาไว้อย่างเต็มที่เหล่าท่านอ๋องมองเห็นนาง ทุกคนถึงกับตาค้างแม้แต่เสด็จย่าก็ถูกส่งเข้ามาในคุกเทียนเหลาด้วยหรือ?ถ้าเช่นนั้นพวกเขา...ดูเหมือนจะไม่ถูกปรักปรำแล้วช้าก่อน!หรือว่าพวกเขาจะก่อกบฏตามไทฮองไทเฮาจริง ๆ?สวรรค์!หญิงชราผู้นี้ ไม่เพียงทำร้ายคนอื่นก็ยังทำร้ายตนเองด้วย!เหล่าท่านอ๋องพลันนิ่งเงียบไม่ส่งเสียง แอบขบเขี้ยวเคี้ยวฟันในเวลานี้ พลุดอกไม้ไฟนอกคุกเทียนเหลาอยู่ ๆ ก็ดังขึ้น พวกเขารู้สึกถึงความอ้างว้างคืนวันดี ๆ ส่งท้ายปีเก่า พวกเขากลับต้องอยู่ในคุกเทียนเหลา ช่างเป็นกรรมแท้ ๆ!ไทฮองไทเฮาทรงเข้ามาในห้องขังแห่งนี้ ก็เห็นมู่หรงหลันแม่ลูกอยู่ที่นี่ด้วยในใจนางรู้สึกหวาดหวั่นเมื่อหันกลับมา ก็ประสานกับแววตาอันยั่วยุขององครักษ์ลับผู้นั้น และถูกเย้ยหยัน“คนสามรุ่นอยู่ร่วมกัน ไทฮองไทเฮา หญิงชราเช่นท่านช่างโชคดีเหลือเกิน”ขณะที่พูด หญ้าหางจิ้งจอกของคนผู้นั้นก็ขยับขึ้นลง แสดงออกถึงการยั่วยุไทฮองไทเฮาทรงทรมานพระทัยอย่างมากมู่หรงหลันได้รับบาดเจ็บหนัก ถูกโยนไว้ที่มุมห้องอย่างไม่ใส่ใจ เอนพิงอยู่ข้างกำแพง ห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 733

    ขณะเหม่อลอย เซียวอวี้มองเห็นชัดเจนแล้วคนที่วิ่งมาหาเขาจากที่ไกล คือเฟิ่งจิ่วเหยียน!คือคนที่เขาคะนึงถึงทุกคืนวัน!เขาพยายามอย่างเต็มที่ ให้หลุดพ้นจากพื้นหิมะที่กลืนกินคนหลุดพ้นจากตะขอและสิ่งพัวพันที่ไร้ตัวตนเหล่านั้นเขาลุกขึ้นพร้อมกับคำรามเบา ๆ คิดจะวิ่งไปข้างหน้า นาทีเดียวก็ไม่กล้ารีรอ กลัวว่านี่จะเป็นเพียงภาพลวงตาของเขาในเวลาเดียวกันนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ใกล้เขาเข้ามาเรื่อย ๆ เช่นกันสองคนอยู่ท่ามกลางหิมะโปรยปรายเต็มท้องฟ้า ทั้งคู่ต่างวิ่งเข้าหากันในที่สุด ก็โอบกอดกันท่ามกลางหิมะมีเพียงวินาทีที่สวมกอดอีกฝ่าย ถึงได้กลับสู่ความเป็นจริงโดยสิ้นเชิงเซียวอวี้สวมกอดคนที่อยู่ในอ้อมแขนไว้แน่น ปล่อยให้ลมหิมะพัดถาโถมเขาจุมพิตที่หน้าผากและแก้มของนาง รับรู้ถึงความอบอุ่นของนางมือข้างหนึ่งประคองหลังศีรษะนาง หน้าผากชนกัน ลมหายใจรินรดกัน ริมโสตคือเสียงลมหวีดหวิว เขาได้ยินนางเรียกเขาอย่างชัดเจน“ฝ่าบาท...”เซียวอวี้รับรู้เพียงใบหน้าชื้นแฉะ ไม่รู้สึกตัวว่า น้ำตาอุ่น ๆ ที่เอ่อคลอของเขาไหลออกมา นั่นคือความปีติยินดีที่ยากเกินบรรยายจากสิ่งที่สูญเสียได้คืนกลับมาเขาตื้นตันใจอย่างมา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 732

    “จิ่วเหยียนนาง...ยังมีชีวิตอยู่!” นิ้วมือของเซียวอวี้สั่นรัว ความรู้สึกมากมายเกิดขึ้นในจิตใจ ขณะเหม่อลอย รู้สึกเพียงตัวอยู่ในความฝันช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขาราวกับศพเดินได้ก็มิปานถึงแม้วางแผนจะจัดการกลุ่มกบฏเหล่านั้นให้หมดในคราวเดียว ก็มักจะทำแบบขอไปที ความจำก็ถดถอย มิรู้ว่าตนเองเคยเตรียมการเรื่องใดบ้างคนอยู่ที่นี่ ใจกลับล่องลอยไปที่ภูเขาหิมะเทียนฉือบัดนี้ ได้ยินข่าวว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนยังมีชีวิตอยู่ เขาถึงรู้สึกว่าตนเองกลับมามีชีวิตแล้วนางยังมีชีวิตอยู่!เซียวอวี้หันหลังให้ทุกคน ดวงตาแดงก่ำด้วยความตื้นตันใจ น้ำตาพลันเอ่อล้นในทันทีเขารู้อยู่แล้วว่า แม่ทัพน้อยของเขา จะไม่มีทางตาย!องค์หญิงใหญ่ทรงตื่นเต้นอย่างที่สุดเช่นกัน ร่ำไห้ด้วยความปีติ“ดีเหลือเกิน! แม่ทัพน้อยยังมีชีวิตอยู่!!”ก่อนหน้านี้ไทฮองไทเฮาทรงพำนักอยู่ที่ภูเขาอวี้หยางมาตลอด มิรู้ที่มาที่ไป ในเวลานี้ถึงรู้ว่า แม่ทัพน้อยเมิ่งกับซูฮ่วนเป็นคนเดียวกันนี่มิได้หมายความว่า นางเคยส่งคนไปลอบสังหารซูฮ่วน และเกือบจะทำร้ายแม่ทัพน้อยเมิ่ง!?สวรรค์!นางทำสิ่งใดลงไป!นางเกือบจะกลายเป็นคนบาปที่ถูกสาปแช่งไปชั่วลูกชั่วหลาน!

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 731

    หากต้องการจะช่วยฮ่องเต้ จักต้องจัดการกับระเบิดฟ้าคำรณเหล่านั้นก่อน โดยเฉพาะยังมีกระสุนมังกรไฟนั่นอีก...เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ แม่ทัพอาวุโสหลี่พลันมีสีหน้าเคร่งขรึมภายในวิหารบรรพบุรุษหม่ากงกงถีบประตูให้เปิดออกในทันที“ฝ่าบาทหนอฝ่าบาท ท่านหลอกลวงพวกเราทั้งหมดแล้ว! ฮ่องเต้องค์ใหม่อะไรกัน ท่านคงเพื่อให้เปิดเผยพวกพ้องที่อยู่ในราชสำนักออกมากระมัง!”เมื่อครู่เขาได้รับข่าวว่า ขุนนางในเมืองหลายคนถูกจับกุมแล้ว ทั้งหมดคือคนที่เลือกสนับสนุนแต่งตั้งรัชทายาท ยังมีคุกเทียนเหลา เส้นสายลับที่ซ่อนอยู่ในคุกเทียนเหลาก็ถูกจับกุมแล้วเช่นกัน!บางคนก็ถูกตัดศีรษะประจานในวันเดียวกัน!แววตาของเซียวอวี้ดูเย็นชา เพียงมองไปยังที่ไกล ๆหม่ากงกงเย้ยหยัน“ทว่าท่านประเมินพวกเราต่ำเกินไป“คนที่ท่านสังหารเหล่านั้นมีความสำคัญอันใด? อีกไม่นาน ประมุขพรรคก็จะนำกองทัพเยี่ยนมาบุกหนานฉี!“คืนนี้ จะให้ท่านมองดูพี่น้องและสตรีของท่าน ตายไปทีละคน! ให้ท่านรับรู้ ผลที่ตามมาของการวางแผนเล่นงานพวกเรา!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ออกคำสั่ง เหล่าท่านอ๋องกับนางสนมก็ถูกลากออกไปด้านนอกภายใต้แสงรัตติกาล คมดาบสาดส่องประกายอันเยือกเย็น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 730

    “พวกเจ้าเป็นใคร!” มือทั้งสองข้างของมู่หรงหลันมีเลือดไหลอาบ จดจ้องกลุ่มคนสวมหน้ากาก ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแต่ไม่ยอมแพ้บุรุษที่เป็นหัวหน้าเช็ดเลือดบนดาบอย่างไม่รีบร้อน “นายท่านของข้านามสกุลเซียว”เซียว…ทันใดนั้นมู่หรงหลันก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างไม่อยากจะเชื่อ“พวกเจ้าคือ องครักษ์ลับ?!”องครักษ์ลับของฝ่าบาท!ดังนั้น เป็นฝ่าบาทส่งพวกเขามาเพื่อจับนาง!ไม่ควรเป็นแบบนั้นพวกเขาทราบได้อย่างไรว่านางจะผ่านทางนี้หรือว่า ฝ่าบาทได้วางแผนล่วงหน้ามานานแล้วคิดได้เช่นนี้ มู่หรงหลันพลันรู้สึกขนลุกนางอยากส่งสัญญาณให้หม่ากงกง ทว่า นางไม่มีมือแล้ว…ณ วิหารบรรพบุรุษแม่ทัพอาวุโสหลี่มาส่งเสบียงอาหารทุกวัน โดยวางไว้นอกประตูวิหารบรรพบุรุษในระยะสองลี้ หลังจากนั้นก็จะมีกบฏพวกนั้นออกมารับไปตั้งแต่ที่ฝ่าบาทถูกจับขัง เวลาก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้วแนวป้องกันของเมืองเซวียนพังทลาย จู้กั๋วกงจึงแอบลักลอบกลับมาที่เมืองเซวียนด้านเป่ยเยี่ยนและหนานฉี ก็กำลังจะมีสงครามภายในห้องฌานเสบียงส่งมาถึงมือของเหล่านางสนม เพื่อป้องกันไม่ให้วุ่นวาย ไทเฮาจึงมีหน้าที่แจกจ่ายตามหลักแล้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 729

    เมื่อเผชิญหน้ากับฮ่องเต้องค์ใหม่ที่โผล่มาอย่างกะทันหัน หม่ากงกงก็ตัดสินใจเดินหน้าให้ถึงที่สุดเขาไม่เสแสร้งอีกต่อไป พูดออกไปตามตรงว่า“ไท่ซ่างหวงอยู่ในมือของพวกข้า! หากอยากได้ชีวิตของเขาคืน ก็ต้องคัดราชโองการ ส่งต่อบัลลังก์ให้รัชทายาทที่แท้จริง!”เขาให้ลูกน้องอุ้มเด็กคนนั้นออกมา แล้วพูดกับทุกคนว่า“บุคคลนี้ต่างหากคือบุตรชายแท้ ๆ ของไท่ซ่างหวง ไม่กี่วันได้เปิดเผยตัวตนทำความรู้จักกับไท่ซ่างหวง…”ไม่รอให้เขาพูดจบ รุ่ยอ๋องก็เอ่ยขึ้น“สามหาว!​ จะสลับสับเปลี่ยนบัลลังก์ เหมือนการเล่นสนุกได้อย่างไร?”แม่ทัพอาวุโสหลี่ผสมโรงด่าอย่างโมโห“หมารับใช้เช่นเจ้ากล้าดีอย่างไร! ถึงได้เอาเด็กที่ไหนไม่รู้มาสวมรอยเป็นโอรสรัชทายาท คิดว่าคนอื่นโง่หรือไง!”เหล่าทหารคนอื่น ๆ ต่างหัวเราะเยาะ“เจ้าโจรขันที นั่นคือลูกชายของเจ้าล่ะสิไม่ว่า!”สีหน้าของหม่ากงกงมืดลงเรื่อย ๆ“พวกเจ้าไม่เชื่อใช่ไหม! ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะส่งไท่ซ่างหวงกลับสวรรค์! รุ่ยอ๋อง แม่ทัพอาวุโสหลี่ยังไม่บอกท่านสินะ ว่าในวิหารแห่งนี้มีระเบิดฟ้าคำรณ…”ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ฮ่องเต้องค์ใหม่ก็คุกเข่าลง ก้มคำนับไปทางวิหาร“เสด็จพ่อ! ก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 728

    ทันทีที่เสียงระเบิดฟ้าคำรณดังขึ้นมา องค์ชายทั้งหลายก็วุ่นวายกันไปหมด“ทำไมจู่ ๆ ก็ระเบิดล่ะ?”“ต้องเป็นฝ่าบาทแน่ ๆ! อย่าลืมสิ ฝ่าบาทตรอมใจเพราะความรัก เขาต้องการให้เราลงสุสานไปด้วย!”“โถ่โว๊ย!​ ไม่ว่าจะเป็นใคร ปล่อยข้าออกไปเดี๋ยวนี้! ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด!”เหล่านางสนมเองก็กรูเข้ามากอดกันไว้ ทั้งยังจ้องบานประตูอย่างไม่สบายใจขณะนี้ ด้านบอกประตูวิหารบรรพบุรุษหม่ากงกงตะโกนไปทางป่าแห่งนั้นเสียงดัง “ออกมาเถอะ! ข้าเห็นพวกเจ้าแล้ว!”เหล่าทหารที่อยู่ในป่านิ่งงันไม่ไหวติงหม่ากงกงข่มขู่ “เสียงเมื่อครู่ พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่? หากยังไม่ออกมา ข้าจะพังข้างในให้ราบเป็นหน้ากลอง!”สิ้นเสียงของเขา แม่ทัพอาวุโสหลี่ก็ลุกออกมา“โจรขันที! เจ้ากล้าหรือ!ภายใต้แสงจันทร์ หม่ากงกงยิ้มอย่างโอหัง“ที่แท้ก็เป็นแม่ทัพอาวุโสหลี่นี่เอง!“ข้าขอคารวะอยู่ตรงนี้แล้วกันนะ!“ท่านแม่ทัพ ฝ่าบาทกับองค์ชายทั้งหลายกำลังปรึกษาหารือเรื่องแคว้นกันอยู่ ข้าได้รับคำสั่งจากไทฮองไทเฮา ให้เฝ้าอยู่ตรงนี้ ห้ามให้คนร้ายเข้าไปรบกวนวาระอันศักดิ์สิทธิ์“ท่านระดมกำลังคนมามากมายขนาดนี้ คิดจะก่อกบฏหรือ!”เมื่อได้ยินเขาร้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 727

    วิหารบรรพบุรุษถูกกลุ่มกบฏล้อมเอาไว้ กอปรกับระเบิดฟ้าคำรณเหล่านั้น จึงไม่มีผู้ใดกล้าก้าวผ่านดงระเบิดนั้นไป เหล่าท่านอ๋องบ่นกันไม่หยุด“ข้าบอกแล้วว่าไม่เข้าร่วม ไม่เข้าร่วม! ก็ยังจะให้ข้ามาให้ได้!”“นั่นสิ!  หากรู้ตั้งแต่แรกว่าเสด็จย่าจะแต่งตั้งรัชทายาท พวกเราจะมายุ่งวุ่นวายไปทำอะไร! ตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ ต้องมาถูกกลุ่มกบฏจับขัง น่าขายหน้าจริง ๆ!”พวกเขาล้วนเป็นคนสูงศักดิ์ในราชวงศ์ อาหารการกินและข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันล้วนเป็นของที่ดีที่สุด พอคราวนี้ต้องมาเบียดเสียดรวมกันอยู่ในห้องฌานห้องเดียว ซึ่งเตียงที่มีเพียงหลังเดียว ถูกผู้มีอำนาจสูงสุดอย่างซู่อ๋องยึดครองไปแล้ว คนอื่น ๆ จำต้องนอนบนพื้นข่าวที่ฝ่าบาทถูกขังถูกส่งต่ออย่างรวดเร็ว จนรุ่ยอ๋องรู้เรื่องในวันนั้นรุ่ยอ๋องรับคำสั่ง กำจัดกลุ่มลับในราชวัง และส่งตัวแม่ทัพอาวุโสหลี่นำกองกำลังไปช่วยเหลือแม่ทัพอาวุโสหลี่นำทัพทหารรักษาพระองค์เข้าบุกวิหารบรรพบุรุษเขาไม่ได้รีบร้อนช่วยคนออกมา สังเกตสถานการณ์ของศัตรูก่อนเป็นอย่างแรกซึ่งก็พบสิ่งผิดปกติอย่างที่คิดไว้ตามหลักแล้ว ราชองครักษ์ของไทฮองไทเฮากับองค์ชายทั้งหลาย มีจำนวนมากกว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 726

    แม้นจะบอกว่าช้าแต่กลับเร็วกว่าที่คิด หม่ากงกงถีบระเบิดสายฟ้าจนปลิว ไม่ให้องครักษ์จุดมันเขาอ้าปากตะคอก“ไสหัวเข้าไปในวิหารบรรพบุรุษให้หมด!! อยากตาย มันไม่ง่ายขนาดนั้น!”พวกเขาบ้าไปแล้ว!ทุกคน แม้แต่ฮ่องเต้ ต่างถูกขังไว้ในวิหารบรรพบุรุษไทฮองไทเฮาและเหล่าสตรีในวังหลังถูกขังไว้ด้วยกันสีหน้าของผู้อาวุโสเช่นนางไม่ค่อยดีนัก รู้สึกคิดผิดและรู้สึกโทษตัวเองที่เผลอไปเชื่อมู่หรงหลัน“ข้าไม่คิดเลยว่า หลันเอ๋อร์จะร่วมมือกับกลุ่มกบฏพวกนั้น…”นางเอาแต่พร่ำบ่น แต่กลับไม่ฟังคำพูดเข้าอกเข้าใจของคนอื่น จนทำให้หนิงเฟยหงุดหงิดหนิงเฟยทนไม่ไหว จึงดุด่านางไป“ยายแก่น่ารำคาญ! พอได้แล้ว!”“จะแสร้งทำเป็นไม่มีความผิดไปทำไม! หากไม่ใช่เพราะท่านช่วยเหลือพวกเผด็จการ พวกเราจะตกอยู่ในสถานการณ์นี้หรือ? ท่านป่วยมาตั้งนาน ทำไมไม่ตาย ๆ ไปซะ!”ไทฮองไทเฮาไม่อยากจะเชื่อ หนิงเฟยที่เคยเคารพนางในยามปกติ จะกล้าตะคอกใส่นางเช่นนี้“เจ้า…บังอาจ!”ไทเฮาโอบไหล่ของหนิงเฟย ปกป้องนางไว้ในอ้อมกอด “ไทฮองไทเฮา หนิงเฟยคงตกใจกลัว ถึงได้หลุดวาจาไม่สุภาพ…”“ฮือ ๆ…” ในมุมหนึ่งมีนางสนมร้องไห้สะอึกสะอื้น “ข้าอยากกลับบ้าน หากรู้เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status