แชร์

บทที่ 624

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-04 17:00:00
เพียงไม่นาน ในนอกร่วมมือกัน ในที่สุดก็ช่วยต้วนไหวซวี่ออกมาได้สำเร็จ

ชั่วพริบตาที่เห็นเขา เฟิ่งจิ่วเหยียนก็รู้สึกใจสั่น

เขาผอมลงมาก แขนข้างหนึ่งขาด ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าที่หล่อเหลางดงามไร้ชีวิตชีวา ราวกับเป็นศพ ริมฝีปากซีดเผือดแห้งผาก

“ท่านพี่!” ต้วนเจิ้งตื่นตระหนกจนน้ำตาไหล “ในที่สุด ในที่สุดก็หาท่านจนพบ!”

ลูกตาของต้วนไหวซวี่ขยับมองไปทางเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลนัก

ฝ่ายหลังรีบเข้ามาหา แทบจะลงไปคุกเข่าด้านหน้าเขาทันที “ไหวซวี่”

ต้วนไหวซวี่เผยรอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยน ราวกับพระอาทิตย์ที่อบอุ่นสาดส่องลงมา

“อาเหยียน...”

“ฝ่าบาท!” เฉินจี๋ร้องอย่างตื่นตระหนก

เฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปดูทันที ร่างกายวิ่งไปอย่างไม่อาจควบคุม

“ฝ่าบาทเป็นอะไรไปรึ!” นางถามอย่างร้อนรน ทว่าเพื่อความปลอดภัยของเซียวอวี้แล้วจึงไม่อาจเข้าไปใกล้เกินไปได้

เฉินจี๋กัดฟันกรอด “พื้นที่ปลอดภัยเกิดรูโหว่ขึ้น ฝ่าบาทถูกเศษหินกระแทกเข้าที่แขน!”

ยามนี้เองด้านล่างก็มีเสียงแหบสายหนึ่งดังขึ้น

“เราไม่เป็นไร...”

หนานซานอ๋องตะโกนเสียงดังอย่างร้อนใจ “รีบช่วยคนเร็วเข้า หากเสียสมดุลเมื่อไหร่ พื้นที่ปลอดภัยก็จะทรุดลงไปได้เช่น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
Nichaphat
เอ็นดูวววว ภรรยาหลวงใจกว้าง เชียว
goodnovel comment avatar
Heart
มีคนยอมตายเพื่อเทอทั้งสองคน เลือกยากมากกกนะ แต่พี่ต้วนมากจากพรรคเทียนหลง เจตนาแรกคือมาเปนสายสืบ แต่เต้ ร้ายตอนแรก แต่รักนางคนแรก
goodnovel comment avatar
WLFJ
ก็สงสารพี่ต้วนเหมือนกันนะนี่ มาเห็นภาพบาดตา
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 625

    ณ ห้องด้านข้างต้วนไหวซวี่กระอักเลือดดำออกมาเป็นจำนวนมากเขานอนเอนกายอย่างอ่อนแรง ร่างกายส่วนบนพิงอยู่ที่ไหล่ของต้วนเจิ้ง จนดูคล้ายกับหญิงงามเอนอิงกิ่งหลิว ใบหน้าซีดเผือด ดวงตาคู่งามราวกับหยกกลายเป็นสีขุ่นมัวเมื่อเห็นเขาแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็นึกถึงเรื่องราวมากมายในอดีตครั้งแรกที่เจอเขา นางรู้สึกว่าคนผู้นี้อบอุ่นอ่อนโยนไปถึงกระดูกเมื่อเผชิญหน้ากับการหยอกล้อยั่วเย้าของเหล่าทหาร เขาไม่หน้าแดงเลยแม้แต่น้อย และมักจะตอบสนองอย่างอ่อนโยนอยู่เสมอด้วยฐานะหมอทหาร เขาจึงมีความอดทนเป็นอย่างยิ่งยามนั้นนางชอบกลิ่นอายที่สุขสงบบนตัวเขา เมื่ออยู่กับเขา นางก็จะรู้สึกสบายใจอยู่เสมอดังนั้นต่อให้นางรู้ว่าเขาเป็นคนของพรรคเทียนหลง นางก็ไม่เคยสงสัยในความเมตตากรุณาของเขาเลยบางสิ่งบางอย่าง ไม่อาจปลอมแปลงออกมาได้สถานะกับอดีต เขาไม่อาจเลือกเองได้แต่ไหนแต่ไรมาเมื่อนางชอบใคร ก็มักจะมองแต่ปัจจุบันเท่านั้นเรื่องที่นางเคยชอบเขามาก่อน นางไม่เคยเสียใจและไม่เคยแค้นเคืองเลยเฟิ่งจิ่วเหยียนยกเก้าอี้กลมมาตัวหนึ่งแล้วนั่งอยู่ข้างเตียงก่อนหน้านี้มักจะคิดว่าอยากจะพบกันอีกครั้ง ยามนี้เมื่อได้พบกัน ถ้อยคำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 626

    เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นยืน โค้งคำนับท่านอ๋องทั้งสองคนสองคนนั้นกลับหันไปคารวะเซียวอวี้ใบหน้าของอ๋องผู้เฒ่าออบโอ้มอารี เอ่ยอย่างหยอกล้อ“แม่นางเฟิ่ง โลหิตหงส์ขาดแล้ว ช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ หากเจ้าอภิเษกกับฝ่าบาทอีกครั้งได้…”หัวคิ้วของเฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดเล็กน้อยเซียวอวี้รู้ดี ในตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความคิดพิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่ดี ๆ ก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ก็มีแต่จะทำให้นางหงุดหงิดเขาเป็นฝ่ายตัดบทของอ๋องผู้เฒ่า“พูดเรื่องสำคัญได้แล้ว”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ตัวว่าสถานะของตัวเองไม่เหมาะสม จึงจะขอตัวออกมาเซียวอวี้กลับคว้าแขนของนางไว้ “เจ้าไม่ต้องไป”“เพคะ”หนานซานอ๋องกล่าวอย่างนอบน้อม“ฝ่าบาท ที่กระหม่อมกับท่านพ่อมา เพราะอยากขอคำชี้แนะเรื่องขุมทรัพย์กับศิลาหยก เจดีย์เก้าชั้นถูกทำลายแล้ว ต่างถูกฝังไว้ใต้ดินทั้งหมด จำเป็นต้องขุดมาหรือไม่”เซียวอวี้ถามอย่างเรียบนิ่ง“เรื่องศิลาหยก พวกเจ้ารู้มากแค่ไหน?”หนานซานอ๋องหันไปมองอ๋องผู้เฒ่าเขาสงสัยมาตลอด ของศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ เหตุใดปฐมจักรพรรดิต้องครอบงำมันไว้ในเจดีย์เก้าชั้น?คำบอกเล่าของตงฟางซื่อก่อนหน้านี้ ทำให้เขาพะว้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 627

    เฟิ่งจิ่วเหยียนคาดเดา“หนานซานอ๋องคิดว่า คนร้ายถูกส่งเข้ามาในเจดีย์เก้าชั้น เพื่อนำมาหล่อเลี้ยงโลหิตหงส์ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น“ตอนนั้นปฐมจักรพรรดิต้องใช้คนมีชีวิตมาบูชายัญ เพื่อสยบความดุร้ายของศิลาหยก“ด้วยเหตุนี้ จึงนำอาภรณ์ของเชื้อพระวงศ์มาใส่ให้คนร้ายเหล่านี้ แลกกับความสงบสุขของราชวงศ์”ส่วนเหตุใดต้องเลือกคนร้ายเหล่านั้น ประการแรก ปฐมจักรพรรดิยังพอมีจิตสำนึก คิดว่าคนเหล่านี้กระทำผิดอย่างไร้ขอบเขต ไม่ว่าตายแบบไหนยังนับว่าเบาเกินไปสำหรับพวกเขาประการที่สอง เจดีย์เก้าชั้นจองจำผู้กระทำผิดชั่วร้ายไว้ ตัดความคิดของคนที่ต้องการตามหาสมบัติ ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนหลีกห่างเซียวอวี้พยักหน้า เห็นด้วยกับการคาดเดาของนาง“ปฐมจักรพรรดิไม่ได้บอกความจริงกับหนานซานอ๋อง จนหนานซานอ๋องสืบสายเลือดมาถึงปัจจุบัน ก็ยังคิดว่าสิ่งที่พวกเขาเฝ้าปกปักษ์คือโลหิตหงส์”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวน้ำเสียงเรียบนิ่ง“นี่เป็นเรื่องปกติของมนุษย์“มีฐานะเป็นถึงฮ่องเต้ คงไม่อยากให้มนุษย์โลกคิดว่า เขาจะกลัวศิลาหยก”พูดมาถึงตรงนี้ นางก็ต้องเอ่ยถึงอีกเรื่อง“ไหวซวี่บอกว่า หยางเหลียนซั่วผู้นั้นคือคนรุ่นหลังของแคว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 628

    ดูเหมือนการมาเยือนของเซียวอวี้ จะอยู่ในความคาดหมายของต้วนไหวซวี่เขานั่งพิงหัวเตียง สีหน้าซีดขาวตามประสาคนป่วย จากนั้นก็ดุต้วนเจิ้งว่า “อาเจิ้ง อย่าเสียมารยาท เจ้าออกไปก่อน”ต้วนเจิ้งไม่กล้าปล่อยพี่ชายไว้กับฮ่องเต้ทรราชคนหลังอารมณ์ดุร้ายแค่ไหน เขาเคยได้ยินมาเซียวอวี้เดินตรงไปนั่งข้างโต๊ะ พูดอย่างเปิดเผยว่า“ให้เขาอยู่ด้วยก็ได้“สิ่งที่เรากำลังจะพูดกับเจ้าต่อจากนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ให้คนฟังไม่ได้”ต้วนไหวซวี่พยักหน้าอย่างยากลำบาก“พ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้นั่งอยู่ตรงนั้น ท่าทางน่าเกรงขาม“เรารู้ เจ้าเป็นคนรุ่นหลังของตระกูลต้วน“ตระกูลต้วนก่อกบฏจนถูกสังหารชั่วโคตร ที่พวกเจ้าสองพี่น้องโชคดีรอดมาได้ ก็นับว่าเป็นบุญคุณจากสวรรค์แล้ว“เฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นฮองเฮาของเรา…”ต้วนเจิ้งรีบแก้คำพูดให้เขา “อดีตฮองเฮาต่างหาก พวกท่านหย่าร้างกันแล้ว ทั่วใต้หล้าต่างรู้กันหมด”เซียวอวี้ปรายตามองเขาอย่างเย็นชา คร้านจะโต้แย้งอะไรกลับไป“เห็นแก่ความรู้สึกของนาง เราจะละเว้นโทษให้พวกเจ้าสองพี่น้อง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปพวกเจ้าหลุดพ้นจากการเป็นผู้กระทำต่ำช้า กลับมาเป็นผู้บริสุทธิ์อีกครั้ง”ต้วนเจิ้งค่อนข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 629

    ตงฟางซื่อตอบกลับยิ้ม ๆ“ได้สิ ลำบากนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร กลัวแต่หยางเหลียนซั่วจะหนีไปได้จริง ๆ”หนึ่งชั่วยามต่อมาเฟิ่งจิ่วเหยียนกลับมาถึงจวนหนานซานอ๋องได้ยินว่าอาการของต้วนไหวซวีแย่ลง นางจึงรีบเข้าไปในห้องของเขาข้างเตียง สีหน้าของต้วนเจิ้งค่อนข้างย่ำแย่“วันนี้ฮ่องเต้มาหาพี่ชายของข้า ทำให้พี่ชายของข้าอาเจียนเลือดออกมา”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยต้วนไหวซวี่อธิบายด้วยสีหน้าอ่อนแรง“อย่าไปฟังที่อาเจิ้งพูด ไม่เกี่ยวอะไรกับฮ่องเต้ ร่างกายของข้าไม่ดีเอง อาเหยียน พวกเจ้าเจอศพประมุขพรรคหรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดอย่างใจเย็น“เพื่อป้องกันไม่ให้คนหนีออกไปได้ ตอนนี้เหล่าทหารทำได้เพียงเฝ้าไว้ยังไม่ขุด จึงยังไม่เจอศพ ไหวซวี่ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลมาก มีคนอยู่มากมาย ไม่มีทางปล่อยให้เขาหนีไปได้หรอก”หัวคิ้วของต้วนไหวซวี่ขมวดเข้าหากัน“ข้ากลัวว่า ประมุขพรรคจะไม่ตายง่าย ๆ …อาเหยียน เจ้าต้องระวัง และป้องกันมากหลายเท่านะ“หากเขาหนีไปได้จริง ๆ เจ้าจงจำไว้ว่า…วิชาดาราโรยหมื่นวิถีควบคุมได้ยาก สิ่งที่กลัวที่สุดคือจิตใจว้าวุ่น ไม่เช่นนั้นอาจหมกมุ่นเหมือนถูกมนต์ดำ…แค่ก ๆ !”ต้วนไหวซวี่ร่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 630

    “ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น!” เฟิ่งจิ่วเหยียนตกใจอย่างมากแม้นหมอจะบอกว่า เวลาของต้วนไหวซวี่เหลือไม่มากแล้ว แต่อย่างน้อยก็ยังเหลือเวลาอยู่อีกหลายวันนางยังไม่ทันได้เตรียมใจ——เขากำลังจะลาจากโลกนี้ไปแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนรีบกลับไปที่จวนหนานซานอ๋องเมื่อเปิดประตูเข้าไป เห็นเพียงต้วนไหวซวี่นอนอยู่บนเตียง ลมหายใจเริ่มโรยรินขึ้นเรื่อย ๆ ความมีชีวิตชีวาบนใบหน้าหล่อเหลานั้นค่อย ๆ เลือนหายไปต้วนเจิ้งคุกเข่าอยู่ข้างเตียง กุมมือของเขาไว้แน่น“ท่านพี่ ท่านพี่! ท่านอย่าหลับนะ! กว่าเราจะช่วยท่านออกมาได้…ท่านพี่!”เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินเข้าไปทีละก้าวอย่างแข็งทื่อ จ้องมองต้วนไหวซวี่แน่นิ่ง นัยน์ตาทอแววเวทนา“ไหวซวี่…”ผ้าปูเตียงเปื้อนไปด้วยเลือดสด ๆ ของเขา เขามองมาที่นาง ด้วยแววตาอ่อนโยน ราวกับว่าไม่อยากให้นางกังวลและกลัว“อาเหยียน ข้าไม่เป็นอะไร” เขาพยายามยิ้มออกมาเฟิ่งจิ่วเหยียนกำหมัดแน่นนางรู้ว่าร่างกายของเขาต้องแบกรับความเจ็บปวดมากแค่ไหนมากถึงขนาดที่ว่า ทุกครั้งที่หายใจ เหมือนถูกลงโทษประหารแล่เนื้อการมีชีวิตอยู่สำหรับเขา ไม่ได้สบายในวินาทีนี้ นางปล่อยวางแล้วดังนั้นนางจึงนั่งลงข้างเต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 631

    ต้วนไหวซวี่ตายแล้วที่จริงชีวิตเขาใกล้จะมอดดับไปนานแล้วหลายปีที่ผ่านมา เขาฝืนทนอยู่ได้ ก็เพื่อรักษาข้อตกลงห้าปีนั้นตอนนี้ เมื่อเห็นว่าอาเหยียนของเขามีความสามารถปกป้องตนเองได้ ข้างกายยังมีสหายและคนรัก รู้ว่านางมิจำเป็นต้องการตนอีกต่อไป เขาก็ปลดปล่อยพลังอย่างหมดสิ้นชีวิตนี้ของเขาไม่เจ็บแค้น และไม่เสียใจเสียงร่ำไห้ของต้วนเจิ้งนั้น ทำลายความเงียบสงัดของรัตติกาลทั่วทั้งจวนอ๋องถูกปกคลุมด้วยความมัวหมองเซียวอวี้ยืนอยู่ที่ลานกว้าง พร้อมแหงนหน้าขึ้น และมองไปยังดวงจันทร์สีขาวนวลดวงนั้นเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกังวลใจหากต้วนไหวซวี่ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะสามารถแย่งชิงมาได้จริง ๆ หรือไม่?พวกเขาอยู่ด้วยกันเพียงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่วัน รวมถึงเคยพูดคุยกันไม่กี่ประโยค เขาก็รู้แล้วว่า เหตุใดตอนแรกเฟิ่งจิ่วเหยียนถึงชอบต้วนไหวซวี่ถึงเพียงนั้นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนเช่นนี้ กระทั่งตายก็ยังนึกถึงคนอื่นเขามิอยากเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนร่ำไห้ให้กับต้วนไหวซวี่ จึงกลับเข้าห้องในทันที ทั้งรู้สึกว้าวุ่นในใจ เหมือนสิ่งของกระจัดกระจายมากมาย กำลังลอยละลิ่ว ทำให้คนคว้าไว้ไม่ได้ จิตใจจึงกระวนกระวาย......หนานซ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 632

    ภูเขาอวี้หลิงหยางเหลียนซั่วราวกับพญาวานร กระโดดออกมาท่ามกลางก้อนหินกระจัดกระจายเหล่าทหารเหมือนเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจตงฟางซื่อพุ่งมาด้านหน้าในทันที และขวางหยางเหลียนซั่วไว้ด้วยพละกำลังของตนเอง เพื่อไม่ให้คนวิ่งหนีไปได้ทันใดนั้น สิบสองเทพชะตาที่คุ้มกันขุนเขาก็ลงมือ ตั้งค่ายกลปิดล้อมหยางเหลียนซั่ว และเปิดฉากโจมตีเขาอย่างต่อเนื่องเฟิ่งจิ่วเหยียนพร้อมคณะรีบตามไป และมองเห็นฉากการประมือของพวกเขาการต่อสู้อันดุเดือดทำให้ก้อนหินภูเขาแตกกระจายเหล่าทหารใช้ลูกธนูยิงออกไป ทว่ายากจะเล็งไปยังหยางเหลียนซั่วได้อย่างแม่นยำเฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้สวมหน้ากาก จึงเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงในเวลานี้ หยางเหลียนซั่วจดจำเซียวอวี้ได้ และยิ่งจดจำ “เมิ่งสิงโจว” ได้อย่างชัดเจน---คนร้ายที่ลอบสังหารเจาเอ๋อร์ของเขา!หากมิใช่เมิ่งสิงโจว เจาเอ๋อร์ก็คงมิอยู่ในสภาพปางตาย! ดวงตาของหยางเหลียนซั่วใต้หน้ากากพลันแดงก่ำเขารีบพุ่งออกมาจากวงล้อมของสิบสองเทพชะตา และมุ่งตรงมายังเซียวอวี้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนเฟิ่งจิ่วเหยียนชักกระบี่ยาวออกจากฝัก และเดินตรงไปด้านหน้าเซียวอวี้กับตงฟางซื่อสองคนก็โจมตีจากด้านข้างทั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 634

    เพื่อรับมือกับหยางเหลียนซั่ว เซียวอวี้ได้เตรียมการป้องกันไว้แล้วเหล่าองครักษ์จึงตั้งค่ายกล พร้อมปล่อยตาข่ายลงมา เหมือนกับดักจับปลา ทำให้หยางเหลียนซั่วติดอยู่ในตาข่ายจากนั้นคนจำนวนหนึ่งก็รีบล้อมวงเข้ามา และย้ายตำแหน่งกัน ปากตาข่ายจึงรัดแน่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ตามการเคลื่อนไหวของพวกเขาหยางเหลียนซั่วเหวี่ยงมือทั้งสองข้าง และดิ้นรนทว่า การพังทลายของเจดีย์เก้าชั้น เดิมก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นยังต่อสู้กับคนจำนวนมาก โดยเฉพาะการโจมตีของซูฮ่วน บวกกับในเวลานี้เขาธาตุไฟเข้าแทรก พลังเจินชี่กลับรั่วไหลออกมา ตาข่ายนี้ ในยามปกติเขาสามารถทำลายได้อย่างง่ายดาย ทว่าตอนนี้กลับมีกำลังไม่เพียงพอพลังเจินชี่รั่วไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเขาก็ได้รับความทรมานเช่นกัน“ยิงธนู!!” หนานซานอ๋องออกคำสั่งตามมาในขณะที่กำลังจะยิงสังหารราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่นี้ได้ แต่จู่ ๆ หมอกควันสีขาวก็กระจายฟุ้งขึ้นมาโดยรอบตรงกลางหมอกควันนั้น ก็คือหยางเหลียนซั่ว เฟิ่งจิ่วเหยียนหัวใจบีบแรงแย่แล้ว!มีคนช่วยหยางเหลียนซั่ว!หมอกควันหนาทึบ ทุกคนมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ชัด ทั้งยังสำลักควันหนานซานอ๋

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 633

    หยางเหลียนซั่วดูดซับพลังภายในของคนจำนวนมาก หาใช่จะควบคุมได้ง่ายเพียงนั้นแรงกระตุ้นจากคำพูดของเฟิ่งจิ่วเหยียน ทำให้พลังเจินชี่ภายในของเขาแปรปรวนเพื่อป้องกันมิให้พลังเจินชี่พลุ่งพล่าน จนทำให้ธาตุไฟเข้าแทรก เขาจึงมิอาจใช้เคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถีได้ ขณะเดียวกันก็ยังต้องใช้พลังภายในควบคุมตนเองให้นิ่งในเสี้ยววินาทีสั้น ๆ นี้ ก็ทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนและตงฟางซื่อมีโอกาสท่าทะลวงพิฆาต---กระบวนท่าโจมตีเป็นคู่ของพวกเขาเฟิ่งจิ่วเหยียนโยนกระบี่ให้ตงฟางซื่อ คนหลังเปลี่ยนมาโจมตีทางตรงก่อน ท่าเคลื่อนไหวกระบี่วกวนจนทำให้ลายตาหยางเหลียนซั่วถอยหลังไปหลายก้าว ทว่ากลับไม่สังเกตเห็นว่า เหนือศีรษะของเขา เฟิ่งจิ่วเหยียนราวกับนกอินทรีโฉบลงมากินเหยื่อ พร้อมกับพลังที่รวบรวมอยู่ในฝ่ามือตูม!ฝ่ามือของนางกระแทกลงมาบนศีรษะของหยางเหลียนซั่ว!ในเสี้ยววินาทีนั้น กะโหลกศีรษะของเขาสั่นไหวเมื่อเห็นเช่นนี้ เซียวอวี้ก็รีบซัดฝ่ามือจากด้านข้างเพิ่มไปอีกหนึ่งฝ่ามือสิบเอ็ดเทพชะตาก็รีบเข้ามาเสริมกำลัง และใช้กระบวนท่าโจมตีหยางเหลียนซั่วโดยพร้อมเพรียงกองกำลังมากกว่าสิบคนก็โจมตีมาในเวลาเดียวกัน หยางเหลียนซั่วขับ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 632

    ภูเขาอวี้หลิงหยางเหลียนซั่วราวกับพญาวานร กระโดดออกมาท่ามกลางก้อนหินกระจัดกระจายเหล่าทหารเหมือนเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจตงฟางซื่อพุ่งมาด้านหน้าในทันที และขวางหยางเหลียนซั่วไว้ด้วยพละกำลังของตนเอง เพื่อไม่ให้คนวิ่งหนีไปได้ทันใดนั้น สิบสองเทพชะตาที่คุ้มกันขุนเขาก็ลงมือ ตั้งค่ายกลปิดล้อมหยางเหลียนซั่ว และเปิดฉากโจมตีเขาอย่างต่อเนื่องเฟิ่งจิ่วเหยียนพร้อมคณะรีบตามไป และมองเห็นฉากการประมือของพวกเขาการต่อสู้อันดุเดือดทำให้ก้อนหินภูเขาแตกกระจายเหล่าทหารใช้ลูกธนูยิงออกไป ทว่ายากจะเล็งไปยังหยางเหลียนซั่วได้อย่างแม่นยำเฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้สวมหน้ากาก จึงเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงในเวลานี้ หยางเหลียนซั่วจดจำเซียวอวี้ได้ และยิ่งจดจำ “เมิ่งสิงโจว” ได้อย่างชัดเจน---คนร้ายที่ลอบสังหารเจาเอ๋อร์ของเขา!หากมิใช่เมิ่งสิงโจว เจาเอ๋อร์ก็คงมิอยู่ในสภาพปางตาย! ดวงตาของหยางเหลียนซั่วใต้หน้ากากพลันแดงก่ำเขารีบพุ่งออกมาจากวงล้อมของสิบสองเทพชะตา และมุ่งตรงมายังเซียวอวี้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนเฟิ่งจิ่วเหยียนชักกระบี่ยาวออกจากฝัก และเดินตรงไปด้านหน้าเซียวอวี้กับตงฟางซื่อสองคนก็โจมตีจากด้านข้างทั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 631

    ต้วนไหวซวี่ตายแล้วที่จริงชีวิตเขาใกล้จะมอดดับไปนานแล้วหลายปีที่ผ่านมา เขาฝืนทนอยู่ได้ ก็เพื่อรักษาข้อตกลงห้าปีนั้นตอนนี้ เมื่อเห็นว่าอาเหยียนของเขามีความสามารถปกป้องตนเองได้ ข้างกายยังมีสหายและคนรัก รู้ว่านางมิจำเป็นต้องการตนอีกต่อไป เขาก็ปลดปล่อยพลังอย่างหมดสิ้นชีวิตนี้ของเขาไม่เจ็บแค้น และไม่เสียใจเสียงร่ำไห้ของต้วนเจิ้งนั้น ทำลายความเงียบสงัดของรัตติกาลทั่วทั้งจวนอ๋องถูกปกคลุมด้วยความมัวหมองเซียวอวี้ยืนอยู่ที่ลานกว้าง พร้อมแหงนหน้าขึ้น และมองไปยังดวงจันทร์สีขาวนวลดวงนั้นเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกังวลใจหากต้วนไหวซวี่ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะสามารถแย่งชิงมาได้จริง ๆ หรือไม่?พวกเขาอยู่ด้วยกันเพียงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่วัน รวมถึงเคยพูดคุยกันไม่กี่ประโยค เขาก็รู้แล้วว่า เหตุใดตอนแรกเฟิ่งจิ่วเหยียนถึงชอบต้วนไหวซวี่ถึงเพียงนั้นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนเช่นนี้ กระทั่งตายก็ยังนึกถึงคนอื่นเขามิอยากเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนร่ำไห้ให้กับต้วนไหวซวี่ จึงกลับเข้าห้องในทันที ทั้งรู้สึกว้าวุ่นในใจ เหมือนสิ่งของกระจัดกระจายมากมาย กำลังลอยละลิ่ว ทำให้คนคว้าไว้ไม่ได้ จิตใจจึงกระวนกระวาย......หนานซ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 630

    “ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น!” เฟิ่งจิ่วเหยียนตกใจอย่างมากแม้นหมอจะบอกว่า เวลาของต้วนไหวซวี่เหลือไม่มากแล้ว แต่อย่างน้อยก็ยังเหลือเวลาอยู่อีกหลายวันนางยังไม่ทันได้เตรียมใจ——เขากำลังจะลาจากโลกนี้ไปแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนรีบกลับไปที่จวนหนานซานอ๋องเมื่อเปิดประตูเข้าไป เห็นเพียงต้วนไหวซวี่นอนอยู่บนเตียง ลมหายใจเริ่มโรยรินขึ้นเรื่อย ๆ ความมีชีวิตชีวาบนใบหน้าหล่อเหลานั้นค่อย ๆ เลือนหายไปต้วนเจิ้งคุกเข่าอยู่ข้างเตียง กุมมือของเขาไว้แน่น“ท่านพี่ ท่านพี่! ท่านอย่าหลับนะ! กว่าเราจะช่วยท่านออกมาได้…ท่านพี่!”เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินเข้าไปทีละก้าวอย่างแข็งทื่อ จ้องมองต้วนไหวซวี่แน่นิ่ง นัยน์ตาทอแววเวทนา“ไหวซวี่…”ผ้าปูเตียงเปื้อนไปด้วยเลือดสด ๆ ของเขา เขามองมาที่นาง ด้วยแววตาอ่อนโยน ราวกับว่าไม่อยากให้นางกังวลและกลัว“อาเหยียน ข้าไม่เป็นอะไร” เขาพยายามยิ้มออกมาเฟิ่งจิ่วเหยียนกำหมัดแน่นนางรู้ว่าร่างกายของเขาต้องแบกรับความเจ็บปวดมากแค่ไหนมากถึงขนาดที่ว่า ทุกครั้งที่หายใจ เหมือนถูกลงโทษประหารแล่เนื้อการมีชีวิตอยู่สำหรับเขา ไม่ได้สบายในวินาทีนี้ นางปล่อยวางแล้วดังนั้นนางจึงนั่งลงข้างเต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 629

    ตงฟางซื่อตอบกลับยิ้ม ๆ“ได้สิ ลำบากนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร กลัวแต่หยางเหลียนซั่วจะหนีไปได้จริง ๆ”หนึ่งชั่วยามต่อมาเฟิ่งจิ่วเหยียนกลับมาถึงจวนหนานซานอ๋องได้ยินว่าอาการของต้วนไหวซวีแย่ลง นางจึงรีบเข้าไปในห้องของเขาข้างเตียง สีหน้าของต้วนเจิ้งค่อนข้างย่ำแย่“วันนี้ฮ่องเต้มาหาพี่ชายของข้า ทำให้พี่ชายของข้าอาเจียนเลือดออกมา”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยต้วนไหวซวี่อธิบายด้วยสีหน้าอ่อนแรง“อย่าไปฟังที่อาเจิ้งพูด ไม่เกี่ยวอะไรกับฮ่องเต้ ร่างกายของข้าไม่ดีเอง อาเหยียน พวกเจ้าเจอศพประมุขพรรคหรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดอย่างใจเย็น“เพื่อป้องกันไม่ให้คนหนีออกไปได้ ตอนนี้เหล่าทหารทำได้เพียงเฝ้าไว้ยังไม่ขุด จึงยังไม่เจอศพ ไหวซวี่ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลมาก มีคนอยู่มากมาย ไม่มีทางปล่อยให้เขาหนีไปได้หรอก”หัวคิ้วของต้วนไหวซวี่ขมวดเข้าหากัน“ข้ากลัวว่า ประมุขพรรคจะไม่ตายง่าย ๆ …อาเหยียน เจ้าต้องระวัง และป้องกันมากหลายเท่านะ“หากเขาหนีไปได้จริง ๆ เจ้าจงจำไว้ว่า…วิชาดาราโรยหมื่นวิถีควบคุมได้ยาก สิ่งที่กลัวที่สุดคือจิตใจว้าวุ่น ไม่เช่นนั้นอาจหมกมุ่นเหมือนถูกมนต์ดำ…แค่ก ๆ !”ต้วนไหวซวี่ร่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 628

    ดูเหมือนการมาเยือนของเซียวอวี้ จะอยู่ในความคาดหมายของต้วนไหวซวี่เขานั่งพิงหัวเตียง สีหน้าซีดขาวตามประสาคนป่วย จากนั้นก็ดุต้วนเจิ้งว่า “อาเจิ้ง อย่าเสียมารยาท เจ้าออกไปก่อน”ต้วนเจิ้งไม่กล้าปล่อยพี่ชายไว้กับฮ่องเต้ทรราชคนหลังอารมณ์ดุร้ายแค่ไหน เขาเคยได้ยินมาเซียวอวี้เดินตรงไปนั่งข้างโต๊ะ พูดอย่างเปิดเผยว่า“ให้เขาอยู่ด้วยก็ได้“สิ่งที่เรากำลังจะพูดกับเจ้าต่อจากนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ให้คนฟังไม่ได้”ต้วนไหวซวี่พยักหน้าอย่างยากลำบาก“พ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้นั่งอยู่ตรงนั้น ท่าทางน่าเกรงขาม“เรารู้ เจ้าเป็นคนรุ่นหลังของตระกูลต้วน“ตระกูลต้วนก่อกบฏจนถูกสังหารชั่วโคตร ที่พวกเจ้าสองพี่น้องโชคดีรอดมาได้ ก็นับว่าเป็นบุญคุณจากสวรรค์แล้ว“เฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นฮองเฮาของเรา…”ต้วนเจิ้งรีบแก้คำพูดให้เขา “อดีตฮองเฮาต่างหาก พวกท่านหย่าร้างกันแล้ว ทั่วใต้หล้าต่างรู้กันหมด”เซียวอวี้ปรายตามองเขาอย่างเย็นชา คร้านจะโต้แย้งอะไรกลับไป“เห็นแก่ความรู้สึกของนาง เราจะละเว้นโทษให้พวกเจ้าสองพี่น้อง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปพวกเจ้าหลุดพ้นจากการเป็นผู้กระทำต่ำช้า กลับมาเป็นผู้บริสุทธิ์อีกครั้ง”ต้วนเจิ้งค่อนข้า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 627

    เฟิ่งจิ่วเหยียนคาดเดา“หนานซานอ๋องคิดว่า คนร้ายถูกส่งเข้ามาในเจดีย์เก้าชั้น เพื่อนำมาหล่อเลี้ยงโลหิตหงส์ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น“ตอนนั้นปฐมจักรพรรดิต้องใช้คนมีชีวิตมาบูชายัญ เพื่อสยบความดุร้ายของศิลาหยก“ด้วยเหตุนี้ จึงนำอาภรณ์ของเชื้อพระวงศ์มาใส่ให้คนร้ายเหล่านี้ แลกกับความสงบสุขของราชวงศ์”ส่วนเหตุใดต้องเลือกคนร้ายเหล่านั้น ประการแรก ปฐมจักรพรรดิยังพอมีจิตสำนึก คิดว่าคนเหล่านี้กระทำผิดอย่างไร้ขอบเขต ไม่ว่าตายแบบไหนยังนับว่าเบาเกินไปสำหรับพวกเขาประการที่สอง เจดีย์เก้าชั้นจองจำผู้กระทำผิดชั่วร้ายไว้ ตัดความคิดของคนที่ต้องการตามหาสมบัติ ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนหลีกห่างเซียวอวี้พยักหน้า เห็นด้วยกับการคาดเดาของนาง“ปฐมจักรพรรดิไม่ได้บอกความจริงกับหนานซานอ๋อง จนหนานซานอ๋องสืบสายเลือดมาถึงปัจจุบัน ก็ยังคิดว่าสิ่งที่พวกเขาเฝ้าปกปักษ์คือโลหิตหงส์”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวน้ำเสียงเรียบนิ่ง“นี่เป็นเรื่องปกติของมนุษย์“มีฐานะเป็นถึงฮ่องเต้ คงไม่อยากให้มนุษย์โลกคิดว่า เขาจะกลัวศิลาหยก”พูดมาถึงตรงนี้ นางก็ต้องเอ่ยถึงอีกเรื่อง“ไหวซวี่บอกว่า หยางเหลียนซั่วผู้นั้นคือคนรุ่นหลังของแคว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 626

    เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นยืน โค้งคำนับท่านอ๋องทั้งสองคนสองคนนั้นกลับหันไปคารวะเซียวอวี้ใบหน้าของอ๋องผู้เฒ่าออบโอ้มอารี เอ่ยอย่างหยอกล้อ“แม่นางเฟิ่ง โลหิตหงส์ขาดแล้ว ช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ หากเจ้าอภิเษกกับฝ่าบาทอีกครั้งได้…”หัวคิ้วของเฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดเล็กน้อยเซียวอวี้รู้ดี ในตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความคิดพิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่ดี ๆ ก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ก็มีแต่จะทำให้นางหงุดหงิดเขาเป็นฝ่ายตัดบทของอ๋องผู้เฒ่า“พูดเรื่องสำคัญได้แล้ว”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ตัวว่าสถานะของตัวเองไม่เหมาะสม จึงจะขอตัวออกมาเซียวอวี้กลับคว้าแขนของนางไว้ “เจ้าไม่ต้องไป”“เพคะ”หนานซานอ๋องกล่าวอย่างนอบน้อม“ฝ่าบาท ที่กระหม่อมกับท่านพ่อมา เพราะอยากขอคำชี้แนะเรื่องขุมทรัพย์กับศิลาหยก เจดีย์เก้าชั้นถูกทำลายแล้ว ต่างถูกฝังไว้ใต้ดินทั้งหมด จำเป็นต้องขุดมาหรือไม่”เซียวอวี้ถามอย่างเรียบนิ่ง“เรื่องศิลาหยก พวกเจ้ารู้มากแค่ไหน?”หนานซานอ๋องหันไปมองอ๋องผู้เฒ่าเขาสงสัยมาตลอด ของศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ เหตุใดปฐมจักรพรรดิต้องครอบงำมันไว้ในเจดีย์เก้าชั้น?คำบอกเล่าของตงฟางซื่อก่อนหน้านี้ ทำให้เขาพะว้า

DMCA.com Protection Status