Share

บทที่ 627

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
เฟิ่งจิ่วเหยียนคาดเดา

“หนานซานอ๋องคิดว่า คนร้ายถูกส่งเข้ามาในเจดีย์เก้าชั้น เพื่อนำมาหล่อเลี้ยงโลหิตหงส์ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น

“ตอนนั้นปฐมจักรพรรดิต้องใช้คนมีชีวิตมาบูชายัญ เพื่อสยบความดุร้ายของศิลาหยก

“ด้วยเหตุนี้ จึงนำอาภรณ์ของเชื้อพระวงศ์มาใส่ให้คนร้ายเหล่านี้ แลกกับความสงบสุขของราชวงศ์”

ส่วนเหตุใดต้องเลือกคนร้ายเหล่านั้น ประการแรก ปฐมจักรพรรดิยังพอมีจิตสำนึก คิดว่าคนเหล่านี้กระทำผิดอย่างไร้ขอบเขต ไม่ว่าตายแบบไหนยังนับว่าเบาเกินไปสำหรับพวกเขา

ประการที่สอง เจดีย์เก้าชั้นจองจำผู้กระทำผิดชั่วร้ายไว้ ตัดความคิดของคนที่ต้องการตามหาสมบัติ ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนหลีกห่าง

เซียวอวี้พยักหน้า เห็นด้วยกับการคาดเดาของนาง

“ปฐมจักรพรรดิไม่ได้บอกความจริงกับหนานซานอ๋อง จนหนานซานอ๋องสืบสายเลือดมาถึงปัจจุบัน ก็ยังคิดว่าสิ่งที่พวกเขาเฝ้าปกปักษ์คือโลหิตหงส์”

เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“นี่เป็นเรื่องปกติของมนุษย์

“มีฐานะเป็นถึงฮ่องเต้ คงไม่อยากให้มนุษย์โลกคิดว่า เขาจะกลัวศิลาหยก”

พูดมาถึงตรงนี้ นางก็ต้องเอ่ยถึงอีกเรื่อง

“ไหวซวี่บอกว่า หยางเหลียนซั่วผู้นั้นคือคนรุ่นหลังของแคว
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
มณีรัตน์ สุขสวัสดิ์
เชิณเพื่อนสมัครเสดแล้วไม่ได้รับโบนัสเลย
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 628

    ดูเหมือนการมาเยือนของเซียวอวี้ จะอยู่ในความคาดหมายของต้วนไหวซวี่เขานั่งพิงหัวเตียง สีหน้าซีดขาวตามประสาคนป่วย จากนั้นก็ดุต้วนเจิ้งว่า “อาเจิ้ง อย่าเสียมารยาท เจ้าออกไปก่อน”ต้วนเจิ้งไม่กล้าปล่อยพี่ชายไว้กับฮ่องเต้ทรราชคนหลังอารมณ์ดุร้ายแค่ไหน เขาเคยได้ยินมาเซียวอวี้เดินตรงไปนั่งข้างโต๊ะ พูดอย่างเปิดเผยว่า“ให้เขาอยู่ด้วยก็ได้“สิ่งที่เรากำลังจะพูดกับเจ้าต่อจากนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ให้คนฟังไม่ได้”ต้วนไหวซวี่พยักหน้าอย่างยากลำบาก“พ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้นั่งอยู่ตรงนั้น ท่าทางน่าเกรงขาม“เรารู้ เจ้าเป็นคนรุ่นหลังของตระกูลต้วน“ตระกูลต้วนก่อกบฏจนถูกสังหารชั่วโคตร ที่พวกเจ้าสองพี่น้องโชคดีรอดมาได้ ก็นับว่าเป็นบุญคุณจากสวรรค์แล้ว“เฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นฮองเฮาของเรา…”ต้วนเจิ้งรีบแก้คำพูดให้เขา “อดีตฮองเฮาต่างหาก พวกท่านหย่าร้างกันแล้ว ทั่วใต้หล้าต่างรู้กันหมด”เซียวอวี้ปรายตามองเขาอย่างเย็นชา คร้านจะโต้แย้งอะไรกลับไป“เห็นแก่ความรู้สึกของนาง เราจะละเว้นโทษให้พวกเจ้าสองพี่น้อง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปพวกเจ้าหลุดพ้นจากการเป็นผู้กระทำต่ำช้า กลับมาเป็นผู้บริสุทธิ์อีกครั้ง”ต้วนเจิ้งค่อนข้า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 629

    ตงฟางซื่อตอบกลับยิ้ม ๆ“ได้สิ ลำบากนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร กลัวแต่หยางเหลียนซั่วจะหนีไปได้จริง ๆ”หนึ่งชั่วยามต่อมาเฟิ่งจิ่วเหยียนกลับมาถึงจวนหนานซานอ๋องได้ยินว่าอาการของต้วนไหวซวีแย่ลง นางจึงรีบเข้าไปในห้องของเขาข้างเตียง สีหน้าของต้วนเจิ้งค่อนข้างย่ำแย่“วันนี้ฮ่องเต้มาหาพี่ชายของข้า ทำให้พี่ชายของข้าอาเจียนเลือดออกมา”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยต้วนไหวซวี่อธิบายด้วยสีหน้าอ่อนแรง“อย่าไปฟังที่อาเจิ้งพูด ไม่เกี่ยวอะไรกับฮ่องเต้ ร่างกายของข้าไม่ดีเอง อาเหยียน พวกเจ้าเจอศพประมุขพรรคหรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดอย่างใจเย็น“เพื่อป้องกันไม่ให้คนหนีออกไปได้ ตอนนี้เหล่าทหารทำได้เพียงเฝ้าไว้ยังไม่ขุด จึงยังไม่เจอศพ ไหวซวี่ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลมาก มีคนอยู่มากมาย ไม่มีทางปล่อยให้เขาหนีไปได้หรอก”หัวคิ้วของต้วนไหวซวี่ขมวดเข้าหากัน“ข้ากลัวว่า ประมุขพรรคจะไม่ตายง่าย ๆ …อาเหยียน เจ้าต้องระวัง และป้องกันมากหลายเท่านะ“หากเขาหนีไปได้จริง ๆ เจ้าจงจำไว้ว่า…วิชาดาราโรยหมื่นวิถีควบคุมได้ยาก สิ่งที่กลัวที่สุดคือจิตใจว้าวุ่น ไม่เช่นนั้นอาจหมกมุ่นเหมือนถูกมนต์ดำ…แค่ก ๆ !”ต้วนไหวซวี่ร่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 630

    “ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น!” เฟิ่งจิ่วเหยียนตกใจอย่างมากแม้นหมอจะบอกว่า เวลาของต้วนไหวซวี่เหลือไม่มากแล้ว แต่อย่างน้อยก็ยังเหลือเวลาอยู่อีกหลายวันนางยังไม่ทันได้เตรียมใจ——เขากำลังจะลาจากโลกนี้ไปแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนรีบกลับไปที่จวนหนานซานอ๋องเมื่อเปิดประตูเข้าไป เห็นเพียงต้วนไหวซวี่นอนอยู่บนเตียง ลมหายใจเริ่มโรยรินขึ้นเรื่อย ๆ ความมีชีวิตชีวาบนใบหน้าหล่อเหลานั้นค่อย ๆ เลือนหายไปต้วนเจิ้งคุกเข่าอยู่ข้างเตียง กุมมือของเขาไว้แน่น“ท่านพี่ ท่านพี่! ท่านอย่าหลับนะ! กว่าเราจะช่วยท่านออกมาได้…ท่านพี่!”เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินเข้าไปทีละก้าวอย่างแข็งทื่อ จ้องมองต้วนไหวซวี่แน่นิ่ง นัยน์ตาทอแววเวทนา“ไหวซวี่…”ผ้าปูเตียงเปื้อนไปด้วยเลือดสด ๆ ของเขา เขามองมาที่นาง ด้วยแววตาอ่อนโยน ราวกับว่าไม่อยากให้นางกังวลและกลัว“อาเหยียน ข้าไม่เป็นอะไร” เขาพยายามยิ้มออกมาเฟิ่งจิ่วเหยียนกำหมัดแน่นนางรู้ว่าร่างกายของเขาต้องแบกรับความเจ็บปวดมากแค่ไหนมากถึงขนาดที่ว่า ทุกครั้งที่หายใจ เหมือนถูกลงโทษประหารแล่เนื้อการมีชีวิตอยู่สำหรับเขา ไม่ได้สบายในวินาทีนี้ นางปล่อยวางแล้วดังนั้นนางจึงนั่งลงข้างเต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 631

    ต้วนไหวซวี่ตายแล้วที่จริงชีวิตเขาใกล้จะมอดดับไปนานแล้วหลายปีที่ผ่านมา เขาฝืนทนอยู่ได้ ก็เพื่อรักษาข้อตกลงห้าปีนั้นตอนนี้ เมื่อเห็นว่าอาเหยียนของเขามีความสามารถปกป้องตนเองได้ ข้างกายยังมีสหายและคนรัก รู้ว่านางมิจำเป็นต้องการตนอีกต่อไป เขาก็ปลดปล่อยพลังอย่างหมดสิ้นชีวิตนี้ของเขาไม่เจ็บแค้น และไม่เสียใจเสียงร่ำไห้ของต้วนเจิ้งนั้น ทำลายความเงียบสงัดของรัตติกาลทั่วทั้งจวนอ๋องถูกปกคลุมด้วยความมัวหมองเซียวอวี้ยืนอยู่ที่ลานกว้าง พร้อมแหงนหน้าขึ้น และมองไปยังดวงจันทร์สีขาวนวลดวงนั้นเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกังวลใจหากต้วนไหวซวี่ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะสามารถแย่งชิงมาได้จริง ๆ หรือไม่?พวกเขาอยู่ด้วยกันเพียงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่วัน รวมถึงเคยพูดคุยกันไม่กี่ประโยค เขาก็รู้แล้วว่า เหตุใดตอนแรกเฟิ่งจิ่วเหยียนถึงชอบต้วนไหวซวี่ถึงเพียงนั้นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนเช่นนี้ กระทั่งตายก็ยังนึกถึงคนอื่นเขามิอยากเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนร่ำไห้ให้กับต้วนไหวซวี่ จึงกลับเข้าห้องในทันที ทั้งรู้สึกว้าวุ่นในใจ เหมือนสิ่งของกระจัดกระจายมากมาย กำลังลอยละลิ่ว ทำให้คนคว้าไว้ไม่ได้ จิตใจจึงกระวนกระวาย......หนานซ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 632

    ภูเขาอวี้หลิงหยางเหลียนซั่วราวกับพญาวานร กระโดดออกมาท่ามกลางก้อนหินกระจัดกระจายเหล่าทหารเหมือนเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจตงฟางซื่อพุ่งมาด้านหน้าในทันที และขวางหยางเหลียนซั่วไว้ด้วยพละกำลังของตนเอง เพื่อไม่ให้คนวิ่งหนีไปได้ทันใดนั้น สิบสองเทพชะตาที่คุ้มกันขุนเขาก็ลงมือ ตั้งค่ายกลปิดล้อมหยางเหลียนซั่ว และเปิดฉากโจมตีเขาอย่างต่อเนื่องเฟิ่งจิ่วเหยียนพร้อมคณะรีบตามไป และมองเห็นฉากการประมือของพวกเขาการต่อสู้อันดุเดือดทำให้ก้อนหินภูเขาแตกกระจายเหล่าทหารใช้ลูกธนูยิงออกไป ทว่ายากจะเล็งไปยังหยางเหลียนซั่วได้อย่างแม่นยำเฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้สวมหน้ากาก จึงเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงในเวลานี้ หยางเหลียนซั่วจดจำเซียวอวี้ได้ และยิ่งจดจำ “เมิ่งสิงโจว” ได้อย่างชัดเจน---คนร้ายที่ลอบสังหารเจาเอ๋อร์ของเขา!หากมิใช่เมิ่งสิงโจว เจาเอ๋อร์ก็คงมิอยู่ในสภาพปางตาย! ดวงตาของหยางเหลียนซั่วใต้หน้ากากพลันแดงก่ำเขารีบพุ่งออกมาจากวงล้อมของสิบสองเทพชะตา และมุ่งตรงมายังเซียวอวี้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนเฟิ่งจิ่วเหยียนชักกระบี่ยาวออกจากฝัก และเดินตรงไปด้านหน้าเซียวอวี้กับตงฟางซื่อสองคนก็โจมตีจากด้านข้างทั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 633

    หยางเหลียนซั่วดูดซับพลังภายในของคนจำนวนมาก หาใช่จะควบคุมได้ง่ายเพียงนั้นแรงกระตุ้นจากคำพูดของเฟิ่งจิ่วเหยียน ทำให้พลังเจินชี่ภายในของเขาแปรปรวนเพื่อป้องกันมิให้พลังเจินชี่พลุ่งพล่าน จนทำให้ธาตุไฟเข้าแทรก เขาจึงมิอาจใช้เคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถีได้ ขณะเดียวกันก็ยังต้องใช้พลังภายในควบคุมตนเองให้นิ่งในเสี้ยววินาทีสั้น ๆ นี้ ก็ทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนและตงฟางซื่อมีโอกาสท่าทะลวงพิฆาต---กระบวนท่าโจมตีเป็นคู่ของพวกเขาเฟิ่งจิ่วเหยียนโยนกระบี่ให้ตงฟางซื่อ คนหลังเปลี่ยนมาโจมตีทางตรงก่อน ท่าเคลื่อนไหวกระบี่วกวนจนทำให้ลายตาหยางเหลียนซั่วถอยหลังไปหลายก้าว ทว่ากลับไม่สังเกตเห็นว่า เหนือศีรษะของเขา เฟิ่งจิ่วเหยียนราวกับนกอินทรีโฉบลงมากินเหยื่อ พร้อมกับพลังที่รวบรวมอยู่ในฝ่ามือตูม!ฝ่ามือของนางกระแทกลงมาบนศีรษะของหยางเหลียนซั่ว!ในเสี้ยววินาทีนั้น กะโหลกศีรษะของเขาสั่นไหวเมื่อเห็นเช่นนี้ เซียวอวี้ก็รีบซัดฝ่ามือจากด้านข้างเพิ่มไปอีกหนึ่งฝ่ามือสิบเอ็ดเทพชะตาก็รีบเข้ามาเสริมกำลัง และใช้กระบวนท่าโจมตีหยางเหลียนซั่วโดยพร้อมเพรียงกองกำลังมากกว่าสิบคนก็โจมตีมาในเวลาเดียวกัน หยางเหลียนซั่วขับ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 634

    เพื่อรับมือกับหยางเหลียนซั่ว เซียวอวี้ได้เตรียมการป้องกันไว้แล้วเหล่าองครักษ์จึงตั้งค่ายกล พร้อมปล่อยตาข่ายลงมา เหมือนกับดักจับปลา ทำให้หยางเหลียนซั่วติดอยู่ในตาข่ายจากนั้นคนจำนวนหนึ่งก็รีบล้อมวงเข้ามา และย้ายตำแหน่งกัน ปากตาข่ายจึงรัดแน่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ตามการเคลื่อนไหวของพวกเขาหยางเหลียนซั่วเหวี่ยงมือทั้งสองข้าง และดิ้นรนทว่า การพังทลายของเจดีย์เก้าชั้น เดิมก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นยังต่อสู้กับคนจำนวนมาก โดยเฉพาะการโจมตีของซูฮ่วน บวกกับในเวลานี้เขาธาตุไฟเข้าแทรก พลังเจินชี่กลับรั่วไหลออกมา ตาข่ายนี้ ในยามปกติเขาสามารถทำลายได้อย่างง่ายดาย ทว่าตอนนี้กลับมีกำลังไม่เพียงพอพลังเจินชี่รั่วไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเขาก็ได้รับความทรมานเช่นกัน“ยิงธนู!!” หนานซานอ๋องออกคำสั่งตามมาในขณะที่กำลังจะยิงสังหารราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่นี้ได้ แต่จู่ ๆ หมอกควันสีขาวก็กระจายฟุ้งขึ้นมาโดยรอบตรงกลางหมอกควันนั้น ก็คือหยางเหลียนซั่ว เฟิ่งจิ่วเหยียนหัวใจบีบแรงแย่แล้ว!มีคนช่วยหยางเหลียนซั่ว!หมอกควันหนาทึบ ทุกคนมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ชัด ทั้งยังสำลักควันหนานซานอ๋

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 635

    ณ จวนหนานซานอ๋องวันรุ่งขึ้น เฟิ่งจิ่วเหยียนฟื้นขึ้นมาในห้องของตนเมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นสาวใช้เฝ้าอยู่ที่ข้างเตียง“คุณชายซู ท่านฟื้นแล้ว!” สาวใช้ในจวนมิรู้ตัวตนของนาง เมื่อเห็นบนตัวนางสวมเครื่องแต่งกายบุรุษ จึงเรียกว่าคุณชายมาตลอดเฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นนั่ง เอามือค้ำหน้าผาก ความคิดก็พลุ่งพล่านหยางเหลียนซั่วหนีไปแล้วมิรู้ว่าถูกผู้ใดช่วยไปแล้วดูเหมือนว่า ยังมีคนที่พวกเขามิได้สังเกต และแอบสอดแนมอยู่ตลอดหลังจากนางชำระกายอย่างง่าย ๆ ก็ไปพบกับเซียวอวี้เซียวอวี้เห็นนางตื่นเช้าเช่นนี้ จึงเตือนนางว่า “เจ้าบาดเจ็บภายใน จักต้องพักผ่อนให้มากถึงจะหายดี”เฟิ่งจิ่วเหยียนมิสนใจคำพูดทักทาย กลับเอ่ยถามออกมาตรง ๆ“ส่งคนไปตามหาหยางเหลียนซั่วแล้วหรือไม่? มีข่าวคราวใดบ้าง?”เซียวอวี้ตอบนางว่า “จนบัดนี้ก็ยังไม่มีเบาะแส ในเมื่อตื่นแล้ว ก็ทานอาหารมื้อเช้าก่อนเถอะ หยางเหลียนซั่วร่างกายบาดเจ็บสาหัส มิอาจสร้างความวุ่นวายใหญ่โตได้”ขณะที่พูด เขาก็ส่งสัญญาณทางสายตาให้เฉินจี๋ไปนำอาหารมื้อเช้ามาเมื่อมีเรื่องราวที่ทับถมอยู่ในใจของนาง เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นอาหารเหล่านี้ ก็แทบไม่มีความอยากอาหารในห้องด้

Pinakabagong kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1202

    เฟิ่งจิ่วเหยียนอุ้มลูก ยืนอยู่บนที่สูง แววตาสุขุมแน่วแน่“หากข้าอยากว่าราชการหลังม่าน แล้วเหตุใดจะไม่ได้?”เมื่อคำนี้พูดออกมา ทุกคนต่างส่งเสียงเกรียวกราว“ฮองเฮา ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับให้แม่ไก่มาขันในตอนเช้า นั่นฝ่าฝืนกฎเกณฑ์!”“ขออภัยกระหม่อมขอคัดค้าน!”ไทฮองไทเฮามีสีหน้าโรยรา มองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียน แล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอาฮองเฮาทำเช่นนี้ มันเสี่ยงมากเกินไปพูดตรงขนาดนี้ ขุนนางคนไหนจะยอมรับได้?เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความอดทนมากขนาดนั้น จึงวางองค์ชายลงบนบัลลังก์“ไม่ต้องกล่าวถึงว่าฝ่าบาทยังไม่เสด็จสวรรคต ถึงแม้ว่าท่านเป็นอะไรไปจริง ๆ ก็ยังมีองค์ชายสืบราชบัลลังก์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงเวลาสำหรับทุกท่านหรอก“วันนี้พวกเจ้าต่างพูดกันเซ็นแซ่ ราวกับอยากวางแผนชิงบัลลังก์เลยนะ!”ทหารคนหนึ่งโต้กลับไปอย่างฮึกเหิม“ฮองเฮา พวกกระหม่อมบริสุทธิ์ใจ กลับถูกท่านหยามเกียรติเช่นนี้! พวกกระหม่อมไม่ยอม!”ท่านอ๋องผู้หนึ่งมองไปทางไทฮองไทเฮา“เสด็จย่า ท่านพูดอะไรบ้างสิ!”เด็กทารกจะไปทำอะไรได้? คุ้มครองแผ่นดินไหวหรือ?จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็บอกว่าปวดหัว แล้วให้สาวใช้ประคองตัวเองออกไปเหล่าท่านอ๋องต่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1201

    แคว้นหนานฉีณ เมืองหลวงเรื่องที่ฮองเฮากลับวัง และให้กำเนิดฝาแฝด ใต้หล้าต่างรู้กันถ้วนหน้าอย่างรวดเร็วในวังหลวง ไทเฮาทั้งดีใจที่องค์ชายถือกำเนิดขึ้นมา ทั้งกังวลเรื่องฝาแฝดนางเรียกฮองเฮามาที่ตำหนักฉือหนิง ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดกับอีกฝ่าย“หากราชวงศ์มีฝาแฝด โดยเฉพาะองค์ชาย เช่นนั้นก็ต้องส่งคนหนึ่งออกไปนอกวัง“ฮองเฮา ข้ารู้ ไม่ว่าจะหน้ามือหรือหลังมือล้วนคือเลือดเนื้อ แต่เพื่อราชวงศ์ เจ้าต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด”ขนาดตอนนั้นตระกูลเฟิ่งมีลูกแฝดยังทอดทิ้งหนึ่งคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์ใบหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ กล่าวเหมือนไม่ได้ยิน“เด็กทั้งสองคน จะไม่มีใครถูกส่งออกไปทั้งนั้น”เซียวอวี้เองก็เคยพูด เขาจะปกป้องลูกของตัวเองไทเฮารู้เป็นอย่างดีว่าการเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่กฎก็เป็นเช่นนี้“ฮองเฮา อย่าหาว่าข้าใจร้ายเลย แม้นข้าจะยินยอม ขุนนางใหญ่เหล่านั้นก็คงไม่ยอมอยู่ดี“วันนี้อยากให้เจ้าเตรียมพร้อม“สุดท้ายเจ้าก็ต้องตัดสินใจ”วังหลังเหล่านางสนมรวมตัวกัน ต่างคนต่างมีความคิดแตกต่างกัน“มีคนบอกว่าฝ่าบาทเกิดเรื่อง  จริงหรือไม่?”“มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1200

    เซียวอวี้ที่ยังคงคอพับไร้เรี่ยวแรง ยกยิ้มเย็นที่มุมปากอย่างถากถางเขาไม่พูดอะไร ท่าทางทะนงองอาจคนที่อยู่ตรงหน้าแนะนำตัว “ข้าคือองค์ชายสี่แห่งแคว้นเป่ยเยี่ยน ครั้งนี้มาเป็นตัวแทนของเสด็จพ่อ เพื่อแสดงไมตรีในฐานะเจ้าบ้านต่อฮ่องเต้หนานฉี”เมื่อองค์ชายสี่มองส่งสัญญาณ ข้ารับใช้ก็นำอาหารเข้ามาเซียวอวี้ไม่แม้แต่จะมององค์ชายสี่มีความอดทน เขาพูดด้วยรอยยิ้ม“ฮ่องเต้หนานฉี พวกเราแคว้นเป่ยเยี่ยนเชิญท่านมาเป็นแขกด้วยความจริงใจ“เพียงแต่ข้างนอกอันตรายเกินไป จึงได้แต่จัดให้ท่านอยู่ที่นี่“ท่านวางใจเถิด รอให้แคว้นเป่ยเยี่ยนขับไล่กองทัพแคว้นหนานฉีออกไปจนได้ดินแดนที่สูญเสียไปคืนมา ย่อมปล่อยตัวท่านกลับไป”ริมฝีปากบางของเซียวอวี้ยิ้มเยาะเบา ๆพูดเสียดูดี ที่จริงก็แค่เอาเขาเป็นตัวประกัน ทำให้กองทัพแคว้นหนานฉีต่อต้านไม่ได้ก็เท่านั้นองค์ชายสี่เห็นเขาเยือกเย็นเพียงนี้ จึงขอตัวไปก่อนทว่าเมื่อออกมาด้านนอก องค์ชายสี่ก็พูดอย่างเย้ยหยัน“ตกเป็นเชลยแล้วยังจะโอหังเพียงนี้!”ที่ปรึกษาที่อยู่ข้างกายเขาพูด“องค์ชาย ฝ่าบาททรงมอบหมายเรื่องนี้ให้ท่าน ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป ได้ยินว่าฮ่องเต้หนานฉีผ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1199

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพรวมเป็นสำคัญ จึงต้องกลับแคว้นหนานฉีก่อนอู๋ไป๋วิตกกังวล“ท่านประมุข กระหม่อมกลัวว่านักฆ่าพวกนั้นจะลงมือกับท่านด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าท่านประมุขเพิ่งจะคลอดลูก จะทนรับแรงสั่นสะเทือนจากการเดินทางได้เช่นไร?สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา“กลับแคว้นหนานฉี”ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใดก็ต้องกลับไปกลัวก็กลัวแต่ เป้าหมายของนักฆ่าพวกนั้นคือก่อกวนแคว้นหนานฉี นางจะปล่อยให้พวกเขาสมหวังไม่ได้เด็ดขาดก่อนที่จะตามหาเซียวอวี้เจอ นางจะต้องช่วยเขาปกป้องแคว้นหนานฉีเอาไว้ให้ได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดการเรื่องในแคว้นซีนี่ว์ไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงว่าจะจัดการขับไล่กองทัพแคว้นเป่ยเยี่ยนอย่างไร ไปจนถึงผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นคนใหม่ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ประมุขคนใหม่ใช้อำนาจอย่างเผด็จการ นางจึงจัดตั้งนโยบายสามประมุขขึ้นในบรรดาสามคนนี้ มีคนหนึ่งเป็นบุรุษทำเช่นนี้จะได้ปลอบโยนเหล่าบุรุษในแคว้นซีนี่ว์ ป้องกันไม่ให้พวกเขาสร้างเรื่องวุ่นวายอีกเฟิ่งจิ่วเหยียนออกเดินทางกลับแคว้นหนานฉีอย่างรวดเร็วแม้ว่าหูย่วนเอ๋อร์จะตัดใจไม่ลง ทว่านางก็รู้ดีถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1198

    ประตูตำหนักเปิดออก นางกำนัลเดินออกมาจากด้านในแล้วพูดกับหูย่วนเอ๋อร์: “ท่านแม่ทัพ ท่านประมุขคลอดองค์ชายพระองค์หนึ่งออกมาอย่างปลอดภัยเพคะ”ที่แคว้นซีหนี่ว์ มีเพียงองค์หญิงเท่านั้นที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขได้ ดังนั้นองค์ชายผู้นี้จึงไม่เป็นที่ต้องการทว่าหูย่วนเอ๋อร์ยังคงรู้สึกขอบคุณสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง“องค์ชายก็ดี ปลอดภัยก็ดีแล้ว”ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสายเลือดเชื้อพระวงศ์เพิ่งจะพูดจบ หมอตำแยข้างในก็ร้องตะโกนอย่างตกใจ“ยังมีอีกพระองค์หนึ่ง!”ที่แท้ท่านประมุขก็ทรงตั้งครรภ์ฝาแฝดนี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของทุกคนแววตาหูย่วนเอ๋อร์มีความยินดีและการเฝ้ารอพาดผ่านหวังว่าจะเป็นแฝดชายหญิงหากเป็นองค์หญิง อนาคตย่อมสามารถสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นได้ภายในตำหนักเฟิ่งจิ่วเหยียนนึกไม่ถึงว่าคลอดออกมาแล้วคนหนึ่ง แล้วยังมีอีกคนโชคดีที่นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ยังใช้แรงไปไม่หมดก่อนหน้านี้เป็นเพราะตำแหน่งครรภ์ไม่ตรงจึงคลอดยากคนที่สองนี้กลับคลอดง่ายกว่ามาก ทว่าตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้สึกอะไรแล้ว นางเจ็บปวดจนชาไปหมดแล้ว ร่างกายส่วนล่างบวมเสียจนเหมือนว่าเนื้อส่วนนั้นไม่ใช่ของนางอีกต่อไปจนกร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1197

    เคร้ง!พู่กันในมือเฟิ่งจิ่วเหยียนหล่นลง นางมองอู๋ไป๋ด้วยสีหน้าเย็นชา“พวกเฉินจี๋เล่า!”อู๋ไป๋ส่ายศีรษะ“เฉินจี๋เองก็หายตัวไปพ่ะย่ะค่ะ ไม่ง่ายเลยที่จะส่งข่าวนี้กลับมา! ท่านประมุข พวกเราทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตรายแต่ก็ไม่ตื่นตระหนก หลังจากสงบอารมณ์ลงได้อย่างรวดเร็วก็สั่งอู๋ไป๋“สั่งการลงไปให้ทุกจวนในแคว้นซีหนี่ว์ตามหาพระสวามี“พร้อมทั้งส่งองครักษ์ลับทุกคนออกไป รวมถึงกองทัพอินทรีเหิน“ให้พวกเขาตามหาฝ่าบาทตามแนวชายแดน!”อู๋ไป๋รีบไปจัดการตามคำสั่งหากเกิดอะไรขึ้นกับฝ่าบาทต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่!หลังจากอู๋ไป๋ออกไป เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าฝ่ามือของตนเต็มไปด้วยเหงื่อฎีกาบนโต๊ะนางก็ดูไม่รู้เรื่องแล้วทุกอย่างที่คิด มีแต่เรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของเซียวอวี้เป็นไปได้มากว่าคนที่ลงมือรู้ถึงฐานะของเขาดีเฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าเคร่งขรึม หน้าซีดไร้เลือดไม่นานอู่ไป๋ก็กลับมา“ท่านประมุข จัดการเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ยังมีองครักษ์ที่มาส่งข่าวผู้นั้น ท่านต้องการพบเขาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เขาพูดจบแล้ว ทว่ากลับไม่ได้ยินท่านประมุขตอบอะไรอู่ไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1196

    พรุ่งนี้เซียวอวี้ก็ต้องเดินทางกลับแคว้นหนานฉีแล้ว คืนนี้เขานอนกอดเฟิ่งจิ่วเหยียน ทั้งคืนไม่อาจหลับตาลงได้เขาวางมือข้างหนึ่งไว้บนท้องของนาง สัมผัสกับการเคลื่อนไหวในครรภ์ที่มีอยู่บางเวลาหากเวลาหยุดลงตรงนี้ได้ ก็คงจะดีทว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงเขายังคงเป็นฮ่องเต้แคว้นหนานฉี ไม่อาจเห็นแก่ความรู้สึกส่วนตัว ละเลยความปลอดภัยของแคว้นได้เฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็นอนไม่หลับนางกุมแขนของเขาเบา ๆ พูดด้วยน้ำเสียงสงบและอ่อนโยน“อย่างมากสุดหนึ่งเดือน หม่อมฉันก็จะกลับแคว้นหนานฉีเพคะ”เซียวอวี้จุมพิตซอกคอนาง “ได้ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะไม่ผิดคำพูด”ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใดเขาถึงรู้สึกกระวนกระวายใจเหมือนกับท้องฟ้าที่มืดครึ้มไปด้วยฝน ยากที่ท้องฟ้าจะปลอดโปร่งวันที่สอง ในที่สุดเซียวอี้ก็ต้องออกเดินทางแล้ววันนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ว่าราชการ นางนั่งรถม้าไปส่งเขาออกจากเมืองด้วยตนเองข้างกายเซียวอวี้มีองครักษ์ติดตามมากมาย ส่วนเหล่าองครักษ์เงา เขาล้วนให้อยู่กับเฟิ่งจิ่วเหยียน ให้พวกเขาคอยปกป้องฮองเฮาและเด็กให้ดีส่งกันพันลี้ ก็ต้องจากกันเซียวอวี้กำชับหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการกินข้าวและการนอน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1195

    ในใจเฟิ่งจิ่วเหยียนพลุ่งพล่านด้วยเพลิงอารมณ์อันร้อนแรง นางเม้มริมฝีปาก พูดกับเซียวอวี้“เราเป็นสามีภรรยากัน ข้าย่อมมิอาจทำใจห่างจากท่านได้ “แต่ราชการบ้านเมืองประดุจเพลิงโหมกระหน่ำ จะให้ข้ามีจิตห่วงใยแต่เรื่องรักใคร่ได้อย่างไร? “ฝ่าบาท ท่านก็เช่นกัน อย่าได้พูดสิ่งที่หามีสาระไม่ เร่งจัดการราชกิจให้เป็นกิจจะลักษณะเถิดเพคะ...”นางพลางพูด พลางถอยออกจากอ้อมกอดของเขา บีบคั้นให้เขาจำต้องให้ความสำคัญแก่งานราชกิจก่อนสิ่งอื่นใดเซียวอวี้จ้องนางนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างอดกลั้น“ได้”พูดจบ เขาก็หมุนตัวออกจากห้องทรงพระอักษร เหมือนกลั้นลมหายใจไว้ มิคาดหวังคำปลอบประโลมจากนางอีกต่อไปด้านนอกตำหนัก เซียวอวี้ยืนท่ามกลางลมห้วงราตรี สัมผัสได้ถึงไอสังหารเยือกเย็นของแคว้นซีหนี่ว์สายตาของเขาทอดมองไกลลิบ สั่งเฉินจี๋ด้วยสีหน้าเรียบเฉย“เตรียมรถม้า พรุ่งนี้กลับแคว้นหนานฉี”สีหน้าเฉินจี๋ไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใด ๆ แต่ในใจกลับแอบลิงโลด ในที่สุดก็ได้ออกจากแคว้นซีหนี่ว์แล้วเฉินจี๋ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม “จะให้จัดหมอตำแยติดตามไปด้วยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เผื่อฮองเฮาประสูติกลางทา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1194

    เฟิ่งจิ่วเหยียนจำลายมือในกระดาษนั้นได้แน่ชัด ว่าเป็นลายมือของเลี่ยอู๋ซิน เลี่ยอู๋ซินเป็นสหายสนิทของเมิ่งสิงโจวศิษย์พี่ของนาง ก่อนหน้านี้เพื่อสืบหาความจริงคดีมนุษย์โอสถ นางเคยติดต่อกับเลี่ยอู๋ซิน ได้ข่าวว่าหลังจากความจริงกระจ่าง เลี่ยอู๋ซินก้ไปยังแคว้นตงซาน ไล่ล่าซุนโฉวที่เป็นหัวหน้ากลุ่มมนุษย์โอสถที่หลงเหลือ ครั้งนี้เขาส่งข่าวสารมาโดยมิได้ปรากฏตัว ดูท่าออกจะลึกลับพิกลอยู่เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “หากมีสิ่งใดเคลื่อนไหวผิดแผก ไยไม่เขียนบอกให้ชัดเจนโดยตรง?”นางก้มมองข้อความ เซียวอวี้ผู้ยืนอยู่ข้างตัวนางคาดคะเน “เลี่ยอู๋ซินอาจไม่สะดวกปรากฏตน หรือผู้ที่ส่งข่าวครั้งนี้ มิใช่เขาเองก็เป็นได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนโน้มเอียงไปทางข้อสันนิษฐานประการหลังมากกว่า อาจเป็นเลี่ยอู๋ซินมอบหมายให้คนนำข้อความมา หากมิใช่เช่นนั้น คงไม่จำต้องปิดบังอำพรางถึงเพียงนี้“แคว้นตงซาน…” เฟิ่งจิ่วเหยียนพึมพำในลำคอ ครานั้นแต่ละแคว้นโจมตีแคว้นหนานฉี ก็เพราะแคว้นตงซานเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง เห็นได้ชัดว่าความทะเยอทะยานของพวกเขาไม่ธรรมดา ยามนี้แคว้นตงซานเคลื่อนไหวผิดแผก เกรงว่า

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status