Share

บทที่ 617

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
หน้ากากอันเดิมของเฟิ่งจิ่วเหยียนแตกแล้ว จำต้องใช้หน้ากากของคนอื่นมาแทน ทว่าไม่ค่อยพอดีกับใบหน้า แลดูเล็กไปหน่อย

สีหน้าเซียวอวี้เต็มไปด้วยไอสังหาร มองดูคนตรงกลางอย่างเยือกเย็นชา

เขาลงมือทันที โดยไม่มีการทักทายใด ๆ

หยางเหลียนซั่วยังคงอยู่ในท่านั่งสมาธิไม่ขยับเขยื้อน

ยังไงข้างกายเขา ยังมีห้าราชาคอยปกป้อง

ทว่าหลังจากนั้น เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด

เฟิ่งจิ่วเหยียนลอบโจมตีข้างหลัง เข็มเงินเล่มหนึ่งแทงตรงท้ายทอยเซียวอวี้

ท่าทีถือกระบี่เคลื่อนไหวของเขาหยุดชะงัก ทันใดนั้นก็หันมามองอย่างไม่คาดคิด ราวกับถูกหักหลังอย่างรุนแรง

“ทำไมเจ้า...”

พูดยังไม่ทันจบ เขาก็หมดสติล้มลงบนพื้น พร้อมทั้งกระบี่เล่มนั้นก็ลงตกพื้นเสียงดัง “ตัง” จากกรงเล็บเฉียบคมกลายเป็นเหล็กไร้ค่า

ห้าราชาพรรคเทียนหลง ต่างมองสบตากัน

นี่เกิดอะไรขึ้น?

หยางเหลียนซั่วมองฮ่องเต้ที่ล้มกองบนพื้นแวบหนึ่ง แล้วก็หันไปมองเฟิ่งจิ่วเหยียน

เฟิ่งจิ่วเหยียนมองข้ามเซียวอวี้ ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว พร้อมยกมือประสาน

“ข้าน้อยซูฮ่วน”

ราชามังกรม่วงหัวเราะเย้ยอย่างโกรธจัด

“ซูฮ่วน? ยังกล้ามาจริง ๆ ! เจ้ารู้หรือไม่ พวกเราเป็นใคร?”

ในระหว่า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 618

    ให้นางฆ่าเซียวอวี้?ฝ่ามือเฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็นนางย้อนถามหยางเหลียนซั่ว ด้วยท่าทีเป็นปกติ“พวกเจ้ามีวิธีออกจากเจดีย์?”ความหมายในคำพูด แสดงว่าฮ่องเต้รู้ทว่า หยางเหลียนซั่วไม่หลงเชื่อ ดวงตาของเขาเฉียบคมเหมือนกริช“ฆ่าเขา”เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินมาข้างหน้า ปกป้องเซียวอวี้“ข้าเอาขุมทรัพย์ คน ข้าก็เอา”ราชามังกรม่วงลุกขึ้นมาใหม่ หันไปพูดกับหยางเหลียนซั่ว “ประมุขพรรค มีกลอุบาย ! ซูฮ่วนเชื่อถือไม่ได้ ! ”หยางเหลียนซั่วจ้องมองเฟิ่งจิ่วเหยียนเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาตามตรง“ซูฮ่วนชอบผู้ชาย คนนี้ ข้ายังไม่เบื่อ“ฆ่าเขา พวกเจ้าใครสามารถชดเชยให้ข้าที่ดีกว่านี้?”พูดเสร็จ นางกวาดสายตาหันไปมองห้าราชา เหมือนกำลังคัดเลือกของ แววตากำเริบเสิบสาน แฝงไปด้วยความหยอกล้อ พร้อมพูดเพิ่มเติมขึ้นมา “ใช่แล้ว ข้าชอบเล่นแบบตื่นเต้น หากพวกเจ้าทนได้ ต่อให้อายุมากหน่อย ข้าก็ไม่ถือสา...”เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ ราชามังกรม่วงถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัวแววตาหยางเหลียนซั่วเยือกเย็น“นำทาง”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองห้าราชา อย่างค่อนข้างเสียดายทว่า มิมีใครสบตานางสักคนหยางเหลียนซั่วไม่ได้ไปจากชั้นเก้า สั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 619

    หลังจากราชามังกรม่วงกับราชามังกรแดงตาย เฟิ่งจิ่วเหยียนชี้ไปยังสองคนท่ามกลางฝูงคนชั่วร้าย “พวกเจ้า สวมเสื้อผ้า ปลอมตัวเป็นพวกเขา”คนพวกนั้นไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของเฟิ่งจิ่วเหยียน ทว่า เพื่อรักษาชีวิตตนเองให้รอด และเพื่อขุมทรัพย์อะไรนั่น จึงยอมฟังนางชั่วขณะพวกเขาเหล่านี้ หากไม่มีความสามารถบ้าง ก็คงจะไม่ถูกกักขังอยู่ในเจดีย์เก้าชั้น ดังนั้นการปลอมตัวเป็นอีกคนหนึ่ง เป็นเรื่องง่ายมากเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า สวมหน้ากาก ก็เหมือนขึ้นมาจริง ๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เฟิ่งจิ่วเหยียนพาพวกเขา กลับไปชั้นบนสูงสุดหยางเหลียนซั่วนั่งขัดสมาธิฝึกพลังลมปราณ ได้ยินพวกเขากลับมา ก็ลืมตาขึ้นราชามังกรม่วงเดินหน้ามาทำความเคารพ“ประมุขพรรค สำรวจดูแล้ว เป็นสถานที่พวกเราคาดคิดไม่ถึงจริง ๆ อยู่ใต้ดินเจดีย์ชั้นห้า ถึงว่ามันค่อนข้างหนากว่าชั้นอื่น”หยางเหลียนซั่วมองดูรอยเลือดบนตัวพวกเขาอย่างเย็นชาเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาตามตรง“พวกเขาคิดสังหารข้า ทว่าไม่สำเร็จ หากข้าเป็นเจ้า จะไม่รีบฆ่าปิดปาก ยังไง ใครจะไปรู้ว่าตำแหน่งที่ข้าบอกเป็นจริงหรือเท็จ”คำพูดของนางแฝงไปด้วยความข่มขู่หยางเหลียนซั่วมองดูนางอย่างเคร่ง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 620

    เซียวอวี้วิ่งขึ้นไปข้างบน วิ่งมาจนถึงชั้นบนสุดเขารู้ว่าไปข้างล่างนั้นมีโอกาสรอดมากกว่า ทว่าหากเขาเลือกลงไปข้างล่าง เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่มีทางรอดแล้วอย่างแรก เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ร่างกายของนางผอมเล็กกว่า วิชาตัวเบาก็ดีกว่า สามารถผ่านประตูข้างในไปได้ไวกว่า มีโอกาสออกไปจากเจดีย์ได้มากกว่าอย่างที่สอง เมื่อออกไปจากเจดีย์แล้ว ก็ต้องพูดกล่อมให้หนานซานอ๋องทำลายเจดีย์ หากคนที่ยังอยู่ในเจดีย์คือนาง หนานซานอ๋องไม่มีทางสนใจความเป็นความตายของนาง ทว่าหาก...คนที่ติดอยู่ข้างในคือเขาที่เป็นฮ่องเต้ หนานซานอ๋องอาจจะมีความกังวลบ้างจะว่าไปแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้คิดวางแผนเรื่องออกจากเจดีย์เลยนางคิดเพียงให้เขามีชีวิตอยู่ กระทั่ง นางเตรียมพร้อมที่จะตายไปพร้อมกับต้วนไหวซวี่เขาจะให้นาง “สมปรารถนา” ได้อย่างไร !……เฟิ่งจิ่วเหยียนวิ่งมาถึงชั้นหนึ่งแล้วสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เวลาคับขัน นางจะลังเลไม่ได้เจดีย์เก้าชั้นเข้าได้ออกไม่ได้ ทางเข้าก็คือทางออกนางอยากออกไป ก็ต้องรอประตูเปิดเซียวอวี้เข้ามาแล้ว ยังไงพวกเฉินจี๋ก็จะต้องหาทางเข้ามาคุ้มกันประตูนี้ ยังไงก็จะต้องเปิดนางพยายามอย่างที่สุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 621

    “ซูฮ่วน? ! เจ้าออกมาได้อย่างไรกัน! ฝ่าบาทเล่า!” เฉินจี๋มองไปที่ด้านหลังของนางทันที กลับมองเห็นเพียงประตูที่ปิดอยู่ ไม่มีเงาร่างของฮ่องเต้หนานซานอ๋องถามอย่างรีบร้อน“คุณชายซู! ฝ่าบาทเล่า!”ยามนี้เขากลับไม่เรียกว่าฮ่องเต้ทรราชแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันกล่าว “ขอท่านอ๋องโปรดรีบออกคำสั่งให้ระเบิดทำลายเจดีย์เก้าชั้นเดี๋ยวนี้!”สีหน้าของหนานซานอ๋องกลายเป็นสีเขียวทันที“เจ้าว่าอะไรนะ”ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตรงนี้คือตำแหน่งโลหิตหงส์ ฝ่าบาทเองก็ยังอยู่ข้างในนะ!ซูฮ่วนผู้นี้คิดจะยืมมือเขาปลงพระชนม์รึ!“ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาด!”เฟิ่งจิ่วเหยียนอธิบายให้เขาฟัง “ฝ่าบาททรงอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ประมุขพรรคเทียนหลงบุกโจมตีขึ้นไปได้ทุกเมื่อ ดังนั้นจึงต้องรีบทำลายมันทิ้ง เร็วเข้า!”ถึงจะเป็นเช่นนี้ หนานซานอ๋องก็ยังคงส่ายหน้าท่าทางของเขาหนักแน่นมาก“ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้! พอเจดีย์เก้าชั้นถูกทำลาย โลหิตหงส์ก็จะถูกตัดขาด ข้าไม่อาจทำลายโลหิตหงส์นี้ได้! นี่เกี่ยวพันถึงชะตาของแคว้นหนานฉี เรื่องนี้อย่าว่าแต่ข้ารับผิดชอบไม่ไหว ฝ่าบาทเองก็รับผิดชอบไม่ไหวเช่นกัน!”เฉินจี๋โมโหขึ้นบ้างแล้ว“หนานซานอ๋อง!

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 622

    ด้านนอกเจดีย์เก้าชั้น หนานซานอ๋องยังคงไม่ยอมตกลงเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เคยพบคนที่ดื้อรั้นถึงเพียงนี้มาก่อนเลยตงฟางซื่อกล่าว“บรรพบุรุษของข้าใช้เจดีย์เก้าชั้นทับศิลาหยกเอาไว้ คิดดูแล้วปฐมจักรพรรดิคงไม่ต้องการให้ศิลาหยกได้ต้องแสงอีก”เฉินจี๋ลงไปคุกเข่าเบื้องหน้าหนานซานอ๋อง ดวงตาแดงก่ำ“ท่านอ๋อง! ท่านก็ได้ยินแล้วนี่พ่ะย่ะค่ะ! หากปฐมจักรพรรดิต้องการศิลาหยก เหตุใดพระองค์จึงฝังมันไว้ใต้ดินเล่า ควรจะนำมันมาเซ่นไหว้จึงจะถูก!”“ดังนั้นท่านอย่าได้ลังเลอีกเลย! รีบทำลายเจดีย์เก้าชั้นทิ้งเถิดพ่ะย่ะค่ะ! !”แววตาของหนานซานอ๋องเปลี่ยนไปมา ทว่าสุดท้ายก็ยังหันหลังไปอย่างไร้น้ำใจ“โลหิตหงส์จะขาดไม่ได้”หน้าที่ของเขาและเหล่าทหารคือการคุ้มครองโลหิตหงส์เมื่อโลหิตหงส์ขาด พวกเขาก็ต้องตายแสงจันทร์ส่องสว่างลงบนใบหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียน ทำให้ดูเย็นชาและแฝงรังสีสังหารนางพูดกับหนานซานอ๋องด้วยท่าทางที่เอาจริงเอาจังเป็นอย่างมาก“ในเมื่อหยางเหลียนซั่วกล้าที่จะเข้าไปในเจดีย์เก้าชั้น เขาต้องมีวิธีออกมาแน่ หากตอนนี้ยังไม่ทำลายเจดีย์เก้าชั้นอีก จะช้าจะเร็วย่อมต้องถูกทำลายลงด้วยมือของหยางเหลียนซั่วอยู่ดี ไม่ต้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 623

    กองทหารนับหมื่นเคลื่อนพลขนย้ายดินระเบิดและอัสนีบาตฟ้าเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วภายในเจดีย์เก้าชั้นหยางเหลียนซั่วไล่ฆ่ามาตลอดทางจนถึงชั้นแปด พลังเจินชี่ทำให้เส้นผมของเขากระเจิดกระเจิงเขาฆ่าทุกคนที่อยู่ชั้นห้าขึ้นไปจนหมดสิ้น ก็ยังหาซูฮ่วนและฮ่องเต้ไม่เจอทันใดนั้นสายตาของเขาก็เคลื่อนไปมองด้านบน เท้าก็ก้าวขึ้นไปบนบันไดหินยอดเจดีย์...พวกมันจะต้องซ่อนอยู่ที่ยอดเจดีย์เป็นแน่!หลังจากหยางเหลียนซั่วขึ้นมาที่ชั้นเก้า สายตาคมกริบก็กวาดตามองทั้งชั้นทันใดนั้นเขาก็เห็นอะไรบางอย่างเป็นชายเสื้อผืนหนึ่งทว่าเมื่อเขาส่งพลังฝ่ามือไปทางนั้น กลับพบว่าเป็นเพียงชุดคลุมตัวหนึ่งเท่านั้น...กลยุทธ์ตบตารึ?แววตาของหยางเหลียนซั่วดำทะมึนและเย็นเยียบ“ออกมาซะ!!”เขาเงยหน้าตะโกนขึ้นฟ้าอย่างโมโหด้วยท่าทางคุ้มคลั่งแล้วใช้พลังเจินชี่ก่อให้เป็นพลังรูปกระสวยแล้วส่งพลังโจมตีออกไปทั่วทุกทิศทันใดนั้นด้านนอกก็เกิดเสียงดังกึกก้องขึ้น!ภายในพื้นที่ปลอดภัย เซียวอวี้เองก็ได้ยินเสียงนี้เช่นกันแสดงว่ากำลังระเบิดภูเขาหว่างคิ้วของเขาคลายออกเล็กน้อยอย่างผ่อนคลายในที่สุดก็จะจบลงซักที...ตู้ม!!!โครม!ภูเขา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 624

    เพียงไม่นาน ในนอกร่วมมือกัน ในที่สุดก็ช่วยต้วนไหวซวี่ออกมาได้สำเร็จชั่วพริบตาที่เห็นเขา เฟิ่งจิ่วเหยียนก็รู้สึกใจสั่นเขาผอมลงมาก แขนข้างหนึ่งขาด ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าที่หล่อเหลางดงามไร้ชีวิตชีวา ราวกับเป็นศพ ริมฝีปากซีดเผือดแห้งผาก“ท่านพี่!” ต้วนเจิ้งตื่นตระหนกจนน้ำตาไหล “ในที่สุด ในที่สุดก็หาท่านจนพบ!”ลูกตาของต้วนไหวซวี่ขยับมองไปทางเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลนักฝ่ายหลังรีบเข้ามาหา แทบจะลงไปคุกเข่าด้านหน้าเขาทันที “ไหวซวี่”ต้วนไหวซวี่เผยรอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยน ราวกับพระอาทิตย์ที่อบอุ่นสาดส่องลงมา“อาเหยียน...”“ฝ่าบาท!” เฉินจี๋ร้องอย่างตื่นตระหนกเฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปดูทันที ร่างกายวิ่งไปอย่างไม่อาจควบคุม“ฝ่าบาทเป็นอะไรไปรึ!” นางถามอย่างร้อนรน ทว่าเพื่อความปลอดภัยของเซียวอวี้แล้วจึงไม่อาจเข้าไปใกล้เกินไปได้เฉินจี๋กัดฟันกรอด “พื้นที่ปลอดภัยเกิดรูโหว่ขึ้น ฝ่าบาทถูกเศษหินกระแทกเข้าที่แขน!”ยามนี้เองด้านล่างก็มีเสียงแหบสายหนึ่งดังขึ้น“เราไม่เป็นไร...”หนานซานอ๋องตะโกนเสียงดังอย่างร้อนใจ “รีบช่วยคนเร็วเข้า หากเสียสมดุลเมื่อไหร่ พื้นที่ปลอดภัยก็จะทรุดลงไปได้เช่น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 625

    ณ ห้องด้านข้างต้วนไหวซวี่กระอักเลือดดำออกมาเป็นจำนวนมากเขานอนเอนกายอย่างอ่อนแรง ร่างกายส่วนบนพิงอยู่ที่ไหล่ของต้วนเจิ้ง จนดูคล้ายกับหญิงงามเอนอิงกิ่งหลิว ใบหน้าซีดเผือด ดวงตาคู่งามราวกับหยกกลายเป็นสีขุ่นมัวเมื่อเห็นเขาแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็นึกถึงเรื่องราวมากมายในอดีตครั้งแรกที่เจอเขา นางรู้สึกว่าคนผู้นี้อบอุ่นอ่อนโยนไปถึงกระดูกเมื่อเผชิญหน้ากับการหยอกล้อยั่วเย้าของเหล่าทหาร เขาไม่หน้าแดงเลยแม้แต่น้อย และมักจะตอบสนองอย่างอ่อนโยนอยู่เสมอด้วยฐานะหมอทหาร เขาจึงมีความอดทนเป็นอย่างยิ่งยามนั้นนางชอบกลิ่นอายที่สุขสงบบนตัวเขา เมื่ออยู่กับเขา นางก็จะรู้สึกสบายใจอยู่เสมอดังนั้นต่อให้นางรู้ว่าเขาเป็นคนของพรรคเทียนหลง นางก็ไม่เคยสงสัยในความเมตตากรุณาของเขาเลยบางสิ่งบางอย่าง ไม่อาจปลอมแปลงออกมาได้สถานะกับอดีต เขาไม่อาจเลือกเองได้แต่ไหนแต่ไรมาเมื่อนางชอบใคร ก็มักจะมองแต่ปัจจุบันเท่านั้นเรื่องที่นางเคยชอบเขามาก่อน นางไม่เคยเสียใจและไม่เคยแค้นเคืองเลยเฟิ่งจิ่วเหยียนยกเก้าอี้กลมมาตัวหนึ่งแล้วนั่งอยู่ข้างเตียงก่อนหน้านี้มักจะคิดว่าอยากจะพบกันอีกครั้ง ยามนี้เมื่อได้พบกัน ถ้อยคำ

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1030

    ณ ตำหนักฉือหนิงสายตาที่ไทเฮามองมายังฮ่องเต้ ดูไม่สบายใจและไม่มั่นใจอยู่บ้างนางไม่คิดว่า ฝ่าบาทเป็นห่วงนาง เลยแวะมาเยี่ยมนางเซียวอวี้พูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการถามสารทุกข์สุกดิบใด ๆ“ถวายบังคมเสด็จแม่“เราจะไม่อยู่วัง วันกลับยังไม่แน่ชัด เรื่องภายในวังหลัง เรากังวลว่าหนิงเฟยคนเดียวจะตัดสินใจไม่ได้ จึงอยากฝากให้ท่านดูแลชั่วคราว”ไทเฮางุนงงยิ่งกว่าเดิมเขาจะออกจากวังไปทำอะไรอีก?ไม่ใช่ว่าเพิ่งกลับมาเมื่อไม่กี่วันก่อนหรือ?เซียวอวี้ส่งสายตา หลิวซื่อเหลียงจึงนำตราประทับทองวางลงบนโต๊ะมีตราประทับทอง ก็จะสามารถควบคุมเรื่องทุกอย่างในวังหลังได้นานแล้วที่ไทเฮาไม่ได้จับตราประทับทองแต่บางเรื่อง นางเองก็เข้าใจเป็นอย่างดี“ฮ่องเต้ เจ้าไม่อยู่วังอีกแล้วหรือ ครั้งนี้เพราะอะไรล่ะ? อีกอย่าง ตอนนั้นฮองเฮาใส่ชุดสามัญชนออกตรวจแต่ละเมืองกับเจ้า ทำไมมีแต่เจ้ากลับมาคนเดียว ฮองเฮาล่ะ?”แววตาของเซียวอวี้ราบเรียบ คำโป้ปดพูดออกมาโดยไม่ต้องคิด“เราต้องกลับมาจัดการเรื่องสำคัญในราชสำนัก ฮองเฮายังออกตรวจอยู่ ครั้งนี้ เราจึงต้องไปตามหานาง”ไม่รู้ไทเฮาเชื่อหรือไม่ เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างขณะที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1029

    เซียวอวี้ไม่ทันได้รอให้เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับมา แต่กลับได้ยินข่าวลือที่นางจะขึ้นบัลลังก์ในแคว้นซีหนี่ว์เขาไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็อดที่จะคิดไปต่าง ๆ นานาไม่ได้จากนิสัยของจิ่วเหยียน มีความเป็นไปได้ว่าเพื่อปกป้องแคว้นซีหนี่ว์แล้ว นางจะปล่อยไปตามสถานการณ์ รับช่วงแก้ปัญหาต่อของแคว้นซีหนี่ว์ นัยน์ตาของเซียวอวี้เจือแววหม่นหมองเขาสั่งเฉินจี๋ “ไปสืบมาให้ชัดเจน ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่!”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”เฉินจี่เองก็ไม่อยากจะเชื่อ ฮองเฮาจะทิ้งฝ่าบาท และหันหลังให้แคว้นหนานฉีทั้งอย่างนี้วันต่อมาณ ตำหนักฉือหนิง หลายวันนี้ไทเฮารู้สึกอ่อนเพลีย มักจะนอนไม่หลับสนิทหมอหลวงตรวจชีพจรให้นาง หนิงเฟยเฝ้าอยู่ข้าง ๆ “หมอหลวง ร่างกายของท่านป้าเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรหรือไม่?”หมอหลวงโค้งคำนับ “ทูลพระนาง เส้นลมปราณจุดเริ่นของไทเฮาอ่อนแรง เส้นลมปราณไท่ชงก็น้อยลง  ชีพจรเทียนขุยหดหาย อุโมงค์อุดตัน ระดูหมด”เขาอธิบายจบ สีหน้าของไทเฮาพลันแข็งค้าง หัวใจเหมือนถูกอะไรทับไว้ จนหายใจไม่ออกระดูหมด นั่นหมายความว่านางเข้าสู่วัยชราอย่างสมบูรณ์นี่เป็นเรื่องที่สตรีต้องประสบพบเจอในชีวิตแต่นางไม่คิดเลยว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1028

    หัวหน้าแม่ทัพของแคว้นเจิ้งมีสีหน้าอดกลั้น“ผู้หญิงคนนั้นพูดถูก ควรถอยทัพ เพื่อปกป้องกองกำลังของแค้นให้คงอยู่!”หัวหน้าแม่ทัพแคว้นเสี่ยวโจวหงุดหงิดอย่างยิ่ง“สุดท้ายสวรรค์ก็ไม่เข้าข้างข้า! ตอนนี้แคว้นซีหนี่ว์และแคว้นหนานฉี ผูกมัดรวมกันแล้ว!”หากพวกเขาเคลื่อนทัพเมื่อใด กองทัพชายแดนตะวันตกของแคว้นหนานฉีก็จะเคลื่อนไหวทันทีพอถึงเวลานั้น พวกเขาก็จะถูกโจมตีทั้งสองทางอันตรายนี้ จะเข้าไปเสี่ยงไม่ได้แคว้นหนานฉีในปัจจุบัน เปรียบเสมือนปีศาจจอมตะกละที่กินอย่างไรก็ไม่อิ่มท้องหากถูกพวกเขาโจมตียึดครอง  ก็ไม่ใช่แค่ตกเป็นแคว้นอาณานิคม แต่แคว้นจะล่มสลายอย่างสมบูรณ์ ไม่มีวันได้ฟื้นคืนชีพกลับมาอีก……บริเวณขอบชายแดนเฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่ไปไหนลมค่อย ๆ แรงขึ้น หูย่วนเอ๋อร์นำผ้าคลุมกันลม มาคลุมให้นางอย่างนอบน้อมสายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนทอดมองยังเบื้องหน้า กล่าวอย่างลุ่มลึก“แม่ทัพหู ข้าอยากให้เจ้าบอกมาตามตรง“เรื่องที่สองแม่ลูกหลิวอิ๋งกลับมาที่แคว้นซีหนี่ว์ ท่านป้ารู้หรือไม่?”หูย่วนเอ๋อร์บอกอย่างงุนงง“ยามที่ประมุขแคว้นรักษาตัวอยู่ที่ชานเมือง นางรู้อะไร หรือไม่รู้อะไรนั้น  ข้าไม่รู้เรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1027

    เมื่อเห็นว่าขอร้องไปก็ไร้ความหวัง เจิ้งจีก็ตะโกนสาปแช่งไล่หลังเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ค่อย ๆ เดินออกไปไกล“เฟิ่งจิ่วเหยียนเจ้าไม่ได้ตายดีแน่ เจ้าสร้างบาปกรรมเช่นนี้  ชั่วชีวิตนี้เจ้ามีลูกอีกไม่ได้แน่นอน!”เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยิน ในใจกลับไม่สะทกสะท้านด้านหลัง มีเสียงยกดาบและลงดาบดังตามมาติด ๆหลิวอิ๋งพูดถูก  ถูกประหารศีรษะก็แค่หลุดล่วงบนพื้นวันนี้ ศีรษะของนางหลุดในวังหลวงแคว้นซีหนี่ว์หัวกลิ้งหลุน ๆ ดึงดันหันไปทางตำหนักหลัก จ้องบัลลังก์ที่นางยังไม่ได้ครอบครอง อย่างตายตาไม่หลับเจิ้งจีเห็นภาพนี้ พลันนิ่งอึ้ง“ไม่นะ! ไม่——ท่านแม่!”เมื่อเห็นดาบกำลังจะฟันลงที่นาง นางก็เบิกตากว้างนางเสียใจนางไม่น่าตามมารดาไปที่เมืองหลวง ไม่น่าไปฝันลม ๆ แล้ง ๆ อยากเป็นนางสนม ไม่น่ากลับมาที่แคว้นซีหนี่ว์อีกครั้งหากนางอยู่ที่เจียงโจว ก็คงไม่ตายต่อมา เลือดสด ๆ ก็สาดกระเซ็นออกมา…ศีรษะหลุดออกจากบ่าหล่นบนพื้นตายตาไม่หลับเหมือนกัน……นอกชายแดนแคว้นซีหนี่ว์กองทัพของแคว้นเสี่ยวโจวและแคว้นเจิ้งโจวเตรียมบุกโจมตีเวลากลางคืน ทหารสอดแนมมารายงาน“ท่านแม่ทัพ! ประมุขแคว้นซีหนี่ว์สิ้นพระชนม์แล้ว! แต่ซู่ย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1026

    ความผูกพันที่เฟิ่งจิ่วเหยียนมีต่อแคว้นซีหนี่ว์ ไม่ลึกซึ้งเท่าความผูกพันที่มีต่อแคว้นหนานฉีเนื่องจากนางเติบโตในแคว้นหนานฉีตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเคยเป็นทหารของแคว้นหนานฉีญาติสนิทมิตรสหายของนาง ล้วนอยู่ในแคว้นหนานฉีทั้งนั้นตอนนี้ นางยังเป็นฮองเฮาของแคว้นหนานฉีอีกด้วยหากนางตัวคนเดียว บางทีนางอาจจะสามารถอยู่ได้แบบไม่ต้องลังเล แต่ว่าตอนนี้ หากให้นางทิ้งทุกอย่างในแคว้นหนานฉี อยู่เป็นฮ่องเต้ที่แคว้นซีหนี่ว์ นางทำไม่ได้นางมีหลายเรื่องที่ปล่อยวางไม่ได้และยังอาลัยอาวรณ์อยู่สามีของนาง ท่านอาจารย์และอาจารย์หญิง แล้วไหนจะเวยเฉียง…ทว่า แคว้นซีหนี่ว์เองก็ต้องปกป้องในด้านส่วนตัว นี่คือสายเลือดตระกูลบรรพบุรุษของนางในด้านส่วนรวม จำเป็นต้องมีแคว้นเฉกเช่นแคว้นซีหนี่ว์ เพื่อสังคมโลกที่ไม่ยุติธรรมต่อสตรี อีกอย่าง แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งก็สนิทชิดเชื้อกับเป่ยเยี่ยน หากพวกเขาแบ่งแยกแคว้นซีหนี่ว์ ก็จะสร้างความกดดันต่อชายแดนทางตะวันตกของแคว้นหนานฉี หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด“ข้าจะช่วยแคว้นซีหนี่ว์ปราบปรามศัตรูให้ล่าถอย แต่ตำแหน่งฮ่องเต้ คงต้องให้ผู้ปรา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1025

    ณ แคว้นหนานฉีภายในพระราชวังความรู้สึกไม่สบายใจของเซียวอวี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆเขาฝืนอ่านฎีกาจนจบ แล้วขึ้นราชรถไปตำหนักหย่งเหอด้วยจิตใจที่ล่องลอยหลิวซื่อเหลียงรีบตามมาด้านหลัง เขามองออกว่าฝ่าบาทกำลังวิตกกังวล ก็นึกว่าฝ่าบาททรงกังวลเรื่องของแคว้น จึงให้ข้าหลวงถอยออกไปด้วยสายตาที่เฉียบแหลมเซียวอวี้นั่งเหม่อลอยอยู่ที่เก้าอี้ในตำหนักชั้นในเป็นเวลานานหากไม่ติดเรื่องฐานะฮ่องเต้ ยามนี้เขาอยากจะไปแคว้นซีหนี่ว์ ตามจิ่วเหยียนของเขากลับมาแล้วแคว้นซีหนี่ว์ในเวลาเดียวกันเฟิ่งจิ่วเหยียนตกอยู่ในสองสถานการณ์ที่ยากลำบากด้านหนึ่ง นางรู้ดีว่าด้วยฐานะฮองเฮาแคว้นหนานฉีของนาง ไม่อาจอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ได้อีกด้านหนึ่ง แคว้นซีหนี่ว์ถูกคุกคามจากแคว้นศัตรู หากนางพาท่านแม่จากไปโดยไม่สนใจความอยู่รอดของแคว้นซีหนี่ว์ ย่อมทำใจได้ยากภายในตำหนัก โอวหยางเหลียนและหูย่วนเอ๋อร์ต่างคุกเข่าให้นางอยู่บนพื้น ขอร้องให้นางอยู่ต่อด้านนอกตำหนัก เหล่าขุนนางที่เดิมยังอยู่ที่ท้องพระโรงหน้า ไม่รู้ว่าได้ข่าวมาจากที่ใด ยามนี้ต่างก็มาคุกเข่าอยู่ด้านนอก ขอให้นางขึ้นครองราชย์แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนหนักอึ้ง“ลุกข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1024

    หลิวอิ๋งไม่สนใจว่าคนอื่นเป็นอย่างไรบ้าง นางถามเจิ้งจีเป็นอย่างแรก“ท่านป้าของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง!”“ท่านแม่ ท่านป้าสวรรคตแล้วเจ้าค่ะ...”ความทรงจำของเจิ้งจีเลือนราง จึงนึกว่าท่านแม่เองก็จำได้ไม่ชัดเจนเช่นกันหญิงผู้นั้นตายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ใช่หรือยามนี้นางจึงรีบพูดเรื่องสำคัญ “ท่านแม่ มีคนบุกเข้าไปในตำหนักบรรทม พวกเขาตีข้าจนสลบ ท่านรีบส่งทหารรักษาพระองค์ไปจับพวกเขาเร็วเข้า!”หลังจากเจิ้งจีที่อยู่นอกตำหนักฟื้นขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมาก ยังมีเสียงเลือนรางที่ดังมาจากด้านในตำหนักอีก ปฏิกิริยาแรกของนางก็คือหนีเพื่อไปขอความช่วยเหลือ ดังนั้นนางจึงไม่รู้ว่าใครเป็นคนตีนางจนสลบ และไม่รู้ว่าในตำหนักเกิดอะไรขึ้นเมื่อหลิวอิ๋งได้ยินคำพูดของลูกสาว ก็คิดว่าประมุขแคว้นตายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่ได้มีเรื่องอย่างการฟื้นคืนชีพ ก็รู้สึกยินดียิ่งตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ที่ว่าประมุขแคว้นยังเหลือลมหายใจอยู่อะไรนั่น ที่แท้ก็เป็นการหลอกนาง!เฮ้อ! โชคดีที่นางไม่ติดกับ!พอซู่เฉียนเสวี่ยตายแล้ว ทีนี้นางอยากรู้นัก ใครจะพิสูจน์ได้เล่าว่านางไม่ใช่ซู่ยวน?......ตอนที่นายหญิงเฟิ่งมาถึงพระราชว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1023

    “ท่านประมุข แคว้นเสี่ยวโจวและแคว้นเจิ้งต่างจ้องแคว้นเราตาเป็นมัน ท่านทำใจทิ้งพวกเราลงได้หรือเพคะ!”“ท่านประมุข ท่านจะต้องอายุยืนเป็นร้อยปี! ได้โปรดทำใจให้ฮึกเหิมเพื่อแคว้นซีหนี่ว์ จะต้องทรงดีขึ้นนะเพคะ!”“ท่านประมุข หม่อมฉันไร้ความสามารถ หม่อมฉันมาช่วยพระองค์ช้าเกินไป! แท้ที่จริงแล้วหลิวอิ๋งผู้นั้น ใช่ใต้เท้าซู่ยวนหรือไม่เพคะ? ขอท่านเผยความจริงด้วยเถิด!”ประมุขแคว้นที่อยู่บนเตียง เบ้าตาจมลึก ริมฝีปากซีดขาว ผอมจนเห็นกระดูก อาภรณ์ขาวบนร่างดูราวกับผ้าห่อศพ แผ่กลิ่นอายความตายออกมาลมหายใจของนางแผ่วเบา ทว่าเสียงที่ออกมาจากปากกลับชัดเจนยิ่ง “หลิวอิ๋ง...ไม่ใช่ซู่ยวน จะให้นางทำให้แคว้นซีหนีว์วุ่นวายไม่ได้!”เมื่อซู่เฉียนเสวี่ยพูดคำสุดท้ายจบ ก็ราวกับว่านางได้ใช้เรี่ยวแรงไปจนหมดแล้ว นางหายใจรุนแรงราวกับว่าวิญญาณในร่างกำลังล่องลอยออกไป นางเงยหน้าขึ้นด้วยความทรมานอย่างที่สุด เพื่อให้ลมหายใจเคลื่อนผ่านสะดวกเหล่าขุนนางคนสนิทต่างก่นด่าถึงความไม่เป็นธรรม“ท่านประมุข ท่านวางใจเถิดเพคะ! หม่อมฉันจะไม่ยอมให้ซู่ยวนตัวปลอมนั่นขึ้นครองราชย์เด็ดขาด!”“ใช่ ฆ่านางซะ! นางหลอกลวงเบื้องสูง ทั้งยังทำร้ายท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1022

    หลิวอิ๋งดิ้นรนเหมือนคนบ้า“ปล่อยข้า! ข้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของท่านประมุขนะ! ข้าจะไปพบท่านพี่! พวกเจ้าจะทำร้ายท่านพี่ของข้า!”“ขุนนางรัก รีบหยุดพวกเขาเร็ว!“พวกเขาต้องมีเจตนาร้ายแน่!”ยามนี้เหล่าขุนนางต่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ต่อให้พวกนางอยากจะช่วย ก็ยังต้องดูด้วยว่าตนมีความสามารถที่จะช่วยหรือไม่แม่ทัพใหญ่ทั้งสี่มีอำนาจคุมกองทัพ รวมกับฮองเฮาแคว้นหนานฉีเองก็อยู่ที่นี่ จะให้สู้อย่างไรเล่า?อีกทั้งประมุขคนใหม่นี้มีเหตุผลชอบธรรมจริงหรือไม่ ก็ยังต้องพิจารณากันอีกที!หากนางไม่ใช่ซู่ยวนจริง ๆ พวกนางจะไม่กลายเป็นประสงค์ดีแต่ดันทำเรื่องไม่ดีลงไป แล้วช่วยคนชั่วทำความผิดหรอกหรือ?เสียงโวยวายของหลิวอิ๋ง เฟิ่งจิ่วเหยียนทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่นางสั่งทุกคนอย่างหนักแน่น“แม่ทัพหู ท่านดูแลท้องพระโรงให้ดี“แม่ทัพอีกสามท่านแยกกันเฝ้าประตูวัง ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออกทั้งสิ้น ป้องกันไม่ให้สายลับของแคว้นอื่นฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวาย“มั่วซินหมัวมัว พาขุนนางคนสนิทสองสามคนตามข้าไปพบท่านประมุข”“เพคะ!” หูย่วนเอ๋อร์และมั่วซินหมัวมัวตอบรับคำสั่งขุนนางบุ๋นบู๊ที่เหลือเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกสั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status