Share

บทที่ 557

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
เฟิ่งจิ่วเหยียนดื่มสุราไม่เก่ง และยังกลัวจะมีปัญหาหลังดื่ม

เมื่อเห็นเซียวอวี้ยกสุราขึ้นดื่มจอกแล้วจอกเล่า นางจึงดื่มด้วยสักสองจอกอย่างไม่เต็มใจ

“ครั้นเรายังเยาว์วัย ก็ปรารถนาจะกวัดแกว่งกระบี่ท่องไปสุดหล้า เป็นคนที่เอ้อระเหยและอิสระเสรีคนหนึ่ง

“หลังจากที่เสด็จแม่สิ้นพระชนม์ ฮ่องเต้พระองค์ก่อนจึงส่งเราไปเล่าเรียนวิทยายุทธที่นอกวัง

“ครั้นได้ออกจากวังแล้ว จึงได้รู้ว่าแผ่นดินกว้างใหญ่เพียงใด แม้ว่าจะมีสถานะสูงศักดิ์ ในพระราชวัง ก็ไม่ต่างจากกบก้นบ่อ

“เรารู้ เจ้าซูฮ่วนออกเดินทางท่องยุทธภพตั้งแต่ยังอายุน้อย ย่อมจะต้องรู้สึกว่า เรากับเจ้าไม่เหมือนกันเลย

“เจ้าถูกบังคับโดยสถานะของเรา จึงทำแบบขอไปทีกับเรา...”

เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างใจเย็น

“ฝ่าบาท ท่านมิควรดื่มมากกว่านี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“เรามีสตินัก”

เขาจดจ้องมองนางอย่างลึกซึ้ง

“ตั้งแต่เรานั่งบนบัลลังก์นี้ ก็ไม่มีสหายที่ดีเลย

“ซูฮ่วน เจ้าเป็นคนแรก

“ในการศึกที่เมืองเซวียน เราชื่นชมความสามารถที่สูงส่งของเจ้า

“ยุทธภพ จักปราศจากผู้มีคุณธรรมเช่นเจ้าไม่ได้

“สุราจอกนี้ เราขอดื่มคารวะใ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
WLFJ
หรงเฟยนี่คิดวางแผนร้ายอะไร
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 558

    ฝานจิ้นบาดเจ็บสาหัส เฉินจี๋รีบไปเชิญหมอทันที ครั้นหมอได้เห็นอาการบาดเจ็บของเขาแล้ว พลันมีสีหน้าลำบากใจ “บาดแผลภายนอกไม่ร้ายแรง ทว่า...” “ทว่าอะไร” เฟิ่งจิ่วเหยียนถามอย่างเยือกเย็น “ข้าก็มิอาจระบุได้ชัดเจน ทว่ามันคล้ายกับยาอู๋ตู๋สานนั้นยิ่งนัก” หว่างคิ้วของเซียวอวี้สะท้อนความเฉียบคม “ใช่ยาอู๋ตู๋สานซึ่งเป็นยาต้องห้ามในแดนเหนือหรือไม่” หมอพยักหน้างึก ๆ “ถูกต้อง ตำนานเล่าว่ายาอู๋ตู๋สานนั้นทำให้อยู่มิสู้ตาย และยังทำให้ผู้คนเคลิ้มดั่งเซียนหรือสิ้นหวังจนอยากตายอีกด้วย มันได้รับความนิยมในแดนเหนือระยะหนึ่งแล้ว ทว่ามันก็ทำให้แดนเหนือเต็มไปด้วยศพ แคว้นต่าง ๆ จึงระบุว่ามันเป็นยาต้องห้าม ครั้นเมื่อได้สัมผัสกับยาอู๋ตู๋สานนั้นแล้ว จักอยู่โดยขาดมันไม่ได้อีก ถึงแม้จะไม่ใช่ยาพิษ ก็น่ากลัวไม่ด้อยไปกว่ายาพิษเลย” เฟิ่งจิ่วเหยียนกำหมัดแน่น นางก็เคยได้ยินเรื่องของ ยาอู๋ตู๋สานเช่นกัน เมื่อพิษนี้กำเริบแล้ว จักทำให้คนเจ็บปวดรวดร้าวใจแทบอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอดไป สูญเสียสติ และทำเรื่องบ้า ๆ นางยังรู้อีกว่า พิษนี้ไม่มีทางรักษาได้ ได้แต่ต้องทานต่อไปเรื่อย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 559

    เซียวอวี้ถ่ายทอดคำสั่ง “จงเร่งรุดไปที่หมู่บ้านเสิ่นเจียอู่ และลอบสืบหา ผู้ที่คิดต่อต้านราชสำนัก” “น้อมรับพระบัญชา!” ในขณะนี้ เมืองตงซิ่น ณ หมู่บ้านเสิ่นเจียอู่ เหล่าศิษย์จากสำนักต่าง ๆ ได้เข้าปิดล้อมแน่นขนัดจนแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ผ่านไปไม่ได้ ในหมู่พวกเขามีคนที่ยืนอยู่บนตำแหน่งสูง ปากก็ร้องตะโกน “ท่านทั้งหลาย ครั้งนี้พวกเราจะต้องมีใจเด็ดเดี่ยว ร่วมแรงร่วมใจกัน! ผู้นำพันธมิตรจะต้องให้คำอธิบายแก่พวกเรา! “สหายชาวยุทธ มีหลายคนถูกราชสำนักบีบบังคับถึงขั้นจนตรอก เหตุผลในการก่อตั้งพันธมิตรอู่หลิน คือการต่อสู้กับความอยุติธรรมทุกรูปแบบของราชสำนัก! ยุทธภพคือแดนแห่งความผาสุกของพวกเรา มิควรถูกแปดเปื้อน! “พวกเราฝึกฝนวิทยายุทธ เพื่อปล้นคนรวยช่วยคนจน กระทำการกล้าหาญชอบธรรม อย่าลดศักดิ์ศรีเพื่อไปเป็นสุนัขรับใช้ของราชสำนัก!” ทุกคนที่อยู่ด้านล่างพลันขานรับเสียงดังลั่น “ถูกต้องอย่างที่ว่า! อย่าเป็นสุนัขรับใช้ของราชสำนัก!” “บรรดาเจ้าสำนักได้เข้าไปหารือกับผู้นำพันธมิตรอีกครั้ง และนี่เป็นโอกาสสุดท้ายของพันธมิตรอู่หลิน หากพวกเขายังต้องการจะเป็นขุนน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 560

    เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เคยคิดเลยว่า หมู่บ้านเสิ่นเจียอู่ที่ก่อนหน้านี้ยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ตอนนี้จะถูกทำลายจนกลายเป็นสภาพเช่นนี้ได้ พืชผลในทุ่งนาถูกถอนรากถอนโคนออกจนสิ้น เมล็ดธัญพืชที่ชาวบ้านตากแห้งไว้ก็ถูกเทกระจาดเกลื่อนพื้น บ้านเรือนบางหลังถูกเผาทำลาย เหลือเพียงโครงร่างเท่านั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนเจอชาวบ้านคนหนึ่ง และซักถามรายละเอียด ชาวบ้านคนนั้นเอ่ยอย่างทอดถอนใจ “ท่านมาสายไปแล้ว คงจะไม่ได้ยินกระมัง เมื่อครู่นี้เหล่าศิษย์ของพรรคชิงอวี่มาชี้ตัว พวกเขาได้เห็นกับตาของตนเอง ว่าผู้นำพันธมิตรสังหารประมุขพรรคชิงอวี่ “ยังมีคนในพรรคอีกหลายคนที่มาชี้ตัวด้วย กล่าวว่าในปีนั้นพรรคเทียนหลงถูกผู้นำพันธมิตรใส่ร้าย และนำหลักฐานมายืนยันอีกมากมายด้วย “ในขณะนี้ผู้นำพันธมิตรได้เรียกศิษย์ของสำนักต่าง ๆ ทั้งหมด ไปลงคะแนนเสียงว่าเขาต้องลงจากตำแหน่งหรือไม่! เฮ้อ! หมู่บ้านเสิ่นเจียอู่ไม่เหมือนเดิมแล้ว...” เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินดังนั้น พลันรีบวิ่งไปที่หอประชุมทันที ทุกคนอยู่กันที่นั่นจริง ๆ สำนักต่าง ๆ ทั้งหมดในยุทธภพมารวมตัวกันที่นี่ ปิดล้อมชั้นหนึ่งต่อด้วยอีกช

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 561

    “ถวายบังคมฝ่าบาท” สีหน้าตงฟางซื่อสงบอย่างผิดปกติ ปกติแววตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ยามนี้เป็นเหมือนดั่งน้ำตายเซียวอวี้ถามด้วยเสียงเย็นชา“ผู้นำพันธมิตรตงฟาง นี่คือไม่สามารถจัดการปัญหาเหล่านั้นหรือ”ตงฟางซื่ออมยิ้ม พูดขึ้นมาอย่างเยาะเย้ยตนเอง“มิใช่เช่นนั้น ข้าไม่ได้เป็นผู้นำพันธมิตรอะไรแล้ว”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ว่าในใจเขารู้สึกไม่ดี จึงให้เขาไปพักในห้องก่อนจากนั้นนางก็ถามเซียวอวี้“ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่?”เซียวอวี้จ้องมองดูเงาหลังของตงฟางซื่อ พร้อมถามขึ้นมาด้วยเสียงเคร่งขรึม“คืนนี้เขานอนที่นี่หรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพาตงฟางซื่อกลับมา ให้เขาอาศัยอยู่ในจวนที่ตนเองเช่าไว้ชั่วคราว ไม่มีอะไรไม่เหมาะสมทว่า เซียวอวี้ไม่เห็นด้วยยังไงชายหญิงมีความแตกต่างกันเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้ปฏิเสธ เพียงพูดขึ้นมา “ดึกมากแล้ว ฝ่าบาท”นี่ไม่แตกต่างอะไรกับการไล่แขกเซียวอวี้คว้าจับแขนของนางไว้อย่างกะทันหัน พร้อมพูดขึ้นมาด้วยเสียงเคร่งขรึม“ให้เขาไปพักที่อื่น”เฟิ่งจิ่วเหยียนคิดเพียงว่าเขาไม่มีเหตุผลเซียวอวี้พูดขึ้นมาอีก “เราจะช่วยเช่าเรือนพักให้กับเขา ยังไงเขาก็เคยช่วยเรา เราจะละเล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 562

    เฟิ่งจิ่วเหยียนรินน้ำชาให้ตงฟางซื่อ“สีหน้าโศกเศร้า ทำใจสละตำแหน่งผู้นำพันธมิตรไม่ได้หรือ”สายตาตงฟางซื่อ กลับมายิ้มแย้มบ้าง“เป็นไปได้อย่างไร เจ้าก็รู้ ข้าไม่เคยอยากที่จะเป็นผู้นำพันธมิตรอะไร“ก็เหมือนอย่างที่เจ้าพูด ยามนั้นข้าถูกคนบีบบังคับไปอยู่ตำแหน่งนั้น“ยามนี้เป็นเช่นนี้ก็ดี ถือว่าได้อิสระกลับมาอีกครั้งแล้ว“ข้าคิดถึงยามที่พวกเราหลายคนบุกยุทธภพมาตลอด“เรื่องของพรรคเทียนหลง เราสืบกันเอง”เฟิ่งจิ่วเหยียนผงกศีรษะ“สืบเองนั้นถูกต้องแล้ว คนพวกนั้นพึ่งพาไม่ได้”ตงฟางซื่อพูดขึ้นมาอย่างอ่อนโยน “พวกเขาถูกปิดบังความจริงไปชั่วขณะ อย่าโทษพวกเขา”แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนเมินเฉย“ข้าก็รู้อยู่แล้ว เมื่อเรื่องบานปลายถึงขนาดนี้ จะต้องเป็นพรรคเทียนหลง คอยขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน“ทว่าหากพวกเขาไม่มีความคิดส่วนตัว ก็จะไม่ถูกยุแหย่“พรรคจำนวนมากในยุทธภพ ส่วนมากจะมิชอบถูกผูกมัดด้วยระเบียบวินัย“พรรคเทียนหลง เพียงแค่ฉีกเปิดช่องว่างนี้ และขยายให้กว้างขึ้น“ข้าไม่มีความเมตตาเหมือนอย่างเจ้า สำหรับข้า พวกเขาไม่น่าสงสาร”ตงฟางซื่อหรี่ตายิ้ม กลับคืนมามีพลังอีกครั้ง“ซูฮ่วน ยังไงเจ้า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 563

    ในวังหลวงในห้องทรงพระอักษร เฉินจี๋ยยกมือประสานถวายบังคม รายงานอย่างชัดถ้อยชัดคำ“ฝ่าบาท เทียบกับรายชื่อแล้ว วันนี้จับคนยุทธภพที่ต่อต้านราชสำนักได้อีกสองคน ขังไว้ในคุกหลวงแล้ว ตามที่สารภาพ พวกเขาเป็นคนของสำนักชางโกว สืบรู้มาว่าตงฟางซื่อกับซูฮ่วนอยู่ในเมืองหลวง จึงเสี่ยงเข้ามาตามหา”เซียวอวี้อ่านสาส์นกราบทูล หว่างคิ้วปกคลุมไปด้วยความเฉียบขาด พูดขึ้นมาอย่างลอย ๆ“รู้จักรนหาที่ตายจริง ๆ ”เฉินจี๋พูดขึ้นมา“ปกติพวกเขาไม่กล้ามามีเรื่องในเมืองหลวง ทว่าช่วงนี้ มีคำสั่งไล่ล่า ให้รางวัลอย่างงาม จึงมีผู้กล้าเข้ามา”เซียวอวี้วางสาส์นกราบทูล ดวงตาเฉียบคมแฝงไปด้วยไอสังหาร“เราไม่สนว่าเจ้าจะใช้วิธีอะไร ใครที่เข้ามาในเมืองหลวง คิดต้องการเอาชีวิตของซูฮ่วน ล้วนจัดการให้หมดจน”“พ่ะย่ะค่ะ ! ”เฉินจี๋น้อมรับพระบัญชา กลับยังมีข้อสงสัยเพียงแค่ซูฮ่วนหรือ? คนพวกนั้นยังต้องการฆ่าตงฟางซื่อด้วยนี่พระอาทิตย์ตกดิน ถึงเวลารับประทานอาหารเย็นแล้วหลิวซื่อเหลียงถามอย่างระมัดระวัง“ฝ่าบาท จะให้ตั้งสำรับหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ช่วงหลายวันมานี้ แม้แต่อาหารเย็นฝ่าบาทก็ไม่ได้ทานอยู่ในวังแล้วไม่รู้จริง ๆ เลยว่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 564

    หลังเที่ยงเฉินจี๋กราบทูลรายงานฮ่องเต้“ฝ่าบาท จ้าวเฉิงคนนั้นไม่ยอมสารภาพอะไร กัดลิ้นฆ่าตัวตายไปแล้ว”ดวงตาเซียวอวี้ปรากฏความโหดร้ายฆ่าตัวตาย ไม่เท่ากับหวาดกลัวในความผิดหรือ“ตรวจสอบยึดจวนตระกูลจ้าว”“พ่ะย่ะค่ะ ! ”หลังจากนั้น เฉินจี๋ก็กราบทูลรายงานอีก“ฝ่าบาท ช่วงนี้คนของพรรคเทียนหลงได้แสดงตัวอย่างเปิดเผย รวบรวมคนในอู่หลิน ปรึกษาหารือเรื่องจับกุมตัวตงฟางซื่อกับซูฮ่วน ยังกำจัดปีศาจชั่วร้ายมากมาย น่าสงสัยว่ากำลังดึงดูดใจผู้คน”ท่าทีเซียวอวี้เยือกเย็นชายามค่ำเขามาหาเฟิ่งจิ่วเหยียน เล่าเรื่องนี้ให้กับนางฟัง“ยามนี้พรรคเทียนหลงปรากฏตัวแล้ว เจ้ามีแผนการอย่างไร”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างสงบ “ฆ่าพวกเขาให้หมด”เซียวอวี้ก็คิดเช่นนี้“หากเจ้าต้องการคน บอกกับเราได้เลย”“ขอบพระทัยฝ่าบาท” เฟิ่งจิ่วเหยียนถวายความเคารพอย่างนอบน้อมเซียวอวี้ประคองแขนของนางไว้ทันที “เราเห็นเจ้าเป็นเพื่อนที่ดี ไม่ต้องมากพิธีเช่นนี้”วินาทีที่ถูกเขาสัมผัส เฟิ่งจิ่วเหยียนชักแขนกลับทันที ปฏิกิริยาอึดอัดเล็กน้อย“พ่ะย่ะค่ะ”……ก่อนหน้านี้ พรรคเทียนหลงล้วนซ่อนอยู่ในที่ลับนับจากที่ตงฟางซื่อกับซูฮ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 565

    ผู้คนที่ถูกส่งมาร่วมหารือที่พรรคเทียนหลง ล้วนเป็น “คนสำคัญ” ของแต่ละสำนัก ต่างก็ไม่ได้โง่จางซวีกล้ากล่าวหาพรรคเทียนหลง จะต้องมีหลักฐานความจริงแล้วดังนั้น พวกเขาจึงล้วนหันไปมองผู้พิทักษ์พรรคเทียนหลง“ที่จางซวีพูดมา เป็นความจริงหรือ ! ”ผู้พิทักษ์คนนั้นยังคงไม่พูดไม่จาจางซวีชี้ไปหาเขา พร้อมพูดต่อ“อีกอย่างช่วงนี้มีมารชั่วช้าเพิ่มมากขึ้น ก็ล้วนเป็นพรรคเทียนหลง...”เขายังพูดไม่จบ ดาบใบหลิวเล่มหนึ่งก็ลอยมา ปาดคอของเขาโดยตรง พริบตาเดียว เลือดสดกระเซ็นออกมาคนหนุ่มที่ชื่อจางซวี ตายไปเสียแบบนี้แล้วคนอื่นเห็นดังนี้ ก็ตกตะลึงวินาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียง “ตูม” ดังขึ้นมาเมื่อหันไปมองดู กลไกตรงประตูหินทางเข้าปิดลงเวลานี้ พวกเขาค่อยรู้สึกได้ถึงความอันตรายกำลังมาเยือนผู้พิทักษ์พรรคเทียนหลงบนที่นั่งสูงศักดิ์ลุกขึ้นมา พูดขึ้นมาเพียงคำเดียว“ฆ่า”ไม่ช้า กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วรอเมื่อประตูหินเปิดอีกครั้ง ยอดฝีมือแต่ละพรรคก็กลายเป็นศพไปแล้วหลังจากนั้น ศพพวกนี้ถูกขนย้ายออกไปจากพรรคเทียนหลงรอเมื่อแต่ละพรรคพบเจอศพ ทั่วทั้งยุทธภพก็สั่นสะเทือนแล้วมีคนดูรู้บาดแผลถึงแก่ชีวิตของพว

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 966

    คนเฝ้าประตูยื่นจดหมายให้กับหลิวอิ๋ง“นี่คือจดหมายที่ฮูหยินผู้เฒ่าฝากไว้ให้ท่าน”หลิวอิ๋งรีบรับจดหมายมา และเปิดอ่านในทันที---[อาอิ๋ง เหตุการณ์กะทันหันนัก เช้านี้ข้าต้องเดินทางไปจางโจว เพื่อไปร่วมฉลองวันไหว้พระจันทร์กับเวยเฉียง เนื่องด้วยระยะทางไกล จึงมิอาจรอช้าได้แม้แต่วินาทีเดียว ดังนั้นจึงมิได้บอกลากับเจ้า วันข้างหน้าหากพบเจอปัญหาใด เพียงเข้าไปในวังเพื่อพบฮองเฮา นางจักดูแลเจ้ากับเจิ้งจีเป็นอย่างดีแน่นอน]หลิวอิ๋งอ่านจดหมายจบแล้ว ในใจรู้สึกเป็นกังวลรีบไปกะทันหันเช่นนี้ ช่างดูมีลับลมคมในจริง ๆ!ดูเหมือนจงใจจะหลบเลี่ยงนาง!นางถึงขั้นสงสัยว่าจดหมายนี้เป็นความจริงหรือไม่หลิวอิ๋งยิ้มพร้อมเอ่ยกับคนเฝ้าประตู: “พวกเจ้าน่าจะรู้ว่าข้าเป็นใคร ถึงท่านพี่หญิงไม่อยู่แล้ว แต่ข้าทำของบางอย่างหล่นอยู่ในห้องนาง ดังนั้นจึงต้องเข้าไปหาดู”ท่าทีของบ่าวรับใช้ที่เฝ้าประตูดูแข็งกร้าว“หากมิได้รับอนุญาตจากเจ้านาย พวกเรามิอาจให้ท่านเข้าไปในจวนได้ ท่านโปรดรอสักครู่ ให้พวกเราเข้าไปถามฮูหยินก่อน”หลิวอิ๋งพยักหน้า“ได้ ข้าจะรอ”ในรอยยิ้มของนางแฝงความร้ายกาจดุจคมมีดรออยู่สักครู่ คนที่ไปรายงานก็ออกม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 965

    เมื่อเห็นท่านพี่หญิงออกมา หลิวอิ๋งพลันเปลี่ยนสีหน้าอย่างฉับพลัน ยิ้มพร้อมก้าวไปข้างหน้า“ท่านพี่หญิง”นายหญิงเฟิ่งก้าวอย่างกระฉับกระเฉง และขึ้นรถม้าไปพร้อมกับหลิวอิ๋งภายในรถม้า นายหญิงเฟิ่งสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม“อาอิ๋ง ฮองเฮาก็แค่ปากร้ายใจดี พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน ฮองเฮาย่อมต้องดูแลพวกเจ้าสองคนแม่ลูกเป็นอย่างดี”หลิวอิ๋งได้ยินเช่นนี้ ในใจเกิดความรู้สึกสงสัยอยู่บ้างฮองเฮาเชื่อน้าหญิงเยี่ยงนางจริง ๆ หรือจะเป็นแผนถ่วงเวลา?หากเป็นอย่างหลัง เช่นนั้นแล้ว นับว่าฮองเฮาผู้นี้มีความคิดลึกล้ำมากกว่าที่นางคาดการณ์ไว้หลิวอิ๋งหมกมุ่นครุ่นคิด มิได้ตั้งใจฟังว่าต่อจากนั้นนายหญิงเฟิ่งเอ่ยสิ่งใดสำหรับนางแล้ว ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องไร้แก่นสาร......ณ จวนพลทหารเฟิ่งเหยียนเฉินเพิ่งจะเลิกจากปฏิบัติงาน ภรรยาโจวซื่อก็ดึงเขาเข้าไปในห้อง ด้วยความปีติยินดีที่ยากจะระงับได้“ท่านพี่ วันนี้ท่านแม่บอกข้าว่า นางจะออกเดินทางไปจางโจวแล้ว”“เหตุใดถึงกะทันหันเช่นนี้?” เฟิ่งเหยียนเฉินรู้สึกสงสัยโจวซื่อในแววตาแฝงรอยยิ้ม “เป็นเจตนาของฮองเฮา”ถึงแม้จะมิรู้ว่า ฮองเฮาทรงทำเช่นนี้ มีจุดประสงค์อื่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 964

    เจิ้งจีร้อนใจดั่งไฟสุม“ท่านแม่ เช่นนั้นทำอย่างไรดี! เป็นผู้ใดกันแน่ เป็นผู้ใดที่คิดร้ายพวกเรา!“จักต้องเป็นคนที่อิจฉาพวกเรา ถึงวิ่งโร่ไปพูดให้ร้ายต่อหน้าท่านป้า!”สีหน้าของหลิวอิ๋งดูเย็นชา เผยให้เห็นความมีไหวพริบของคนทำการค้าการขาย“มิใช่ผู้ใด เป็นฮองเฮา”“ฮองเฮา?” เจิ้งจีประหลาดใจยิ่งนักนางซักถามมารดา “เหตุใดฮองเฮาต้องการสืบเรื่องของพวกเรา? พวกเราก็มิเคยล่วงเกินนาง?”หลิวอิ๋งก็แค่คาดเดาเท่านั้น ทว่าก็มีความเป็นไปได้อย่างมาก“หลังจากท่านป้าเจ้าออกมาจากในวัง ก็มาซักถามข้าเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต จักต้องเป็นฮองเฮาที่บอกเรื่องนี้กับนางเป็นแน่”เจิ้งจีตระหนักขึ้นมาในทันทีใช่แน่!นอกจากฮองเฮา ก็ไม่มีผู้ใดอีกแล้ว!“ท่านแม่ ท่านป้าว่าอย่างไรบ้าง? ท่านป้าก็มิสนใจพวกเราอีกแล้วหรือ?”หลิวอิ๋งแค่นเสียงเย็นชา“ข้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของนาง เป็นญาติเพียงคนเดียวของครอบครัวมารดานาง ความสัมพันธ์ของพวกเรา มิใช่ผู้ใดจะสามารถยุยงได้อย่างง่ายดาย“ไม่มีผู้ใดเข้าใจนางดีไปกว่าข้า นางเป็นคนใจอ่อน”วันนี้คุกเข่าต่อหน้าท่านพี่ ซ้ำยังหลั่งน้ำตาออกมามากมายเช่นนั้น คงเพียงพอที่จะกระทบจิตใจนางแล้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 963

    จวนพลทหารหลิวอิ๋งคุกเข่าลงกับพื้น ร่ำไห้สะอึกสะอื้น“ท่านพี่หญิง ตอนนั้นข้าวู่วามเกินไป และเอาแต่ใจเกินไป“ข้าอิจฉาที่ท่านมีโอกาสได้แต่งเข้าจวนตระกูลเฟิ่ง ข้ามิอาจยอมรับได้ เห็นกันอยู่ว่าข้ารู้จักกับเฟิ่งหลินมาก่อน และเห็นกันอยู่ว่าข้ากับเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ขาดก็แต่เพียงการแต่งงาน แต่ในวันที่เขามาทาบทามสู่ขอ จู่ ๆ กลับเปลี่ยนใจ และหันไปขอแต่งงานกับท่าน“ท่านจะให้ข้ายอมรับเหตุการณ์พลิกผันใหญ่โตเช่นนี้ได้อย่างไร?“ในตอนนั้นข้าเพิ่งเข้าสู่วัยสาว ยังเป็นที่รักใคร่หวงแหนของคนในครอบครัวอย่างท่านพ่อท่านแม่และพี่หญิง ย่อมมิอาจยอมรับเรื่องทำนองนี้ได้เลย!“และข้าก็ชอบเขาจริง ๆ ดังนั้น...ดังนั้น ข้าจึงทำเรื่องเช่นนั้นด้วยความขาดสติ”นายหญิงเฟิ่งฟังอย่างนิ่งเงียบ หัวใจคล้ายกับถูกมีดกรีดตอนอาอิ๋งยังเล็ก ก็เป็นเด็กที่ได้รับความเอ็นดูจากครอบครัวเป็นที่สุด ปรารถนาสิ่งใดก็จะได้สิ่งนั้น ทุกคนต่างก็รักใคร่นางคนประเภทนี้ อยู่ ๆ ก็ถูกทอดทิ้งและถูกหักหลัง ย่อมต้องทำเรื่องโง่เขลาอย่างเลี่ยงไม่ได้นางไม่ผิด อาอิ๋งก็ไม่ผิดเช่นกันคนที่ผิดคือเฟิ่งหลินเป็นเฟิ่งหลินที่ทำร้ายพวกนางสองพี่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 962

    จวนพลทหารนายหญิงเฟิ่งฟื้นเมื่อหนึ่งชั่วยามก่อนหน้า นางปฏิเสธข้อเสนอของฝ่าบาทและฮองเฮา——เรื่องพักฟื้นในวังเพราะว่า มีบางเรื่อง นางต้องพูดกับอาอิ๋งให้ชัดเจนนายหญิงเฟิ่งถูกหมัวมัวในวังพามาส่ง สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไรนักโจวซื่อผู้เป็นลูกสะใภ้ประคองนางนั่งลงบนเตียง ใบหน้าแสดงความห่วงใยไม่น้อย“ท่านแม่ ร่างกายของท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ยังเจ็บอยู่หรือไม่?”นางได้ยินองครักษ์พูดว่า ท่านแม่เป็นลมหมดสติไปในวังการเข้าวังในครั้งนี้ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? นายหญิงเฟิ่งตบหลังมือของลูกสะใภ้ “ไม่มีอะไร ประเดี๋ยวจะมีแขกมาหา เจ้าพานางเข้ามาได้เลยนะ”“เจ้าค่ะ”ไม่นาน หลิวอิ๋งก็มาถึงโจวซื่อโค้งให้หลิวอิ๋งเล็กน้อย จากนั้นก็พูดกับนายหญิงเฟิ่งอย่างเหมาะเจาะ “ท่านแม่ ข้าขอไปดูเฉียวเอ๋อร์ก่อนนะ”เฉียวเอ๋อร์คือลูกสาวของนางกับเฟิ่งเหยียนเฉิน อายุสองขวบ อยู่ในช่วงวัยที่กำลังติดคนนายหญิงเฟิ่งพยักหน้าให้โจวซื่อ “อืม ไปเถอะ ฝากปิดประตูด้วยนะ”หลังจากปิดประตู ภายในห้องก็เหลือแค่สองพี่น้องหลิวอิ๋งนั่งลงข้างนายหญิงเฟิ่ง ถามอย่างร้อนใจ“ท่านพี่ ฮองเฮาทรงว่าอย่างไรบ้าง?”ถึงแม้จะถามออกไปเช่นนี้ แ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 961

    อารมณ์ของนายหญิงเฟิ่งซับซ้อนอย่างมาก พลันน้ำตาไหลพรากออกมากลับได้ยิน หยวนเส่ากล่าวต่อ“แม้นหลิวอิ๋งจะตั้งท้องลูกของคุณชาย ฮูหยินเฒ่ายังไม่ยอมดังเดิม“นางให้เงินตระกูลหลิวไปก้อนหนึ่ง เพื่อให้พวกเขาได้กินอยู่อย่างสุขสบาย แต่มีข้อแม้อยู่สองอย่าง อย่างแรกคือให้หลิวอิ๋งเอาเด็กออก และอย่าได้คิดที่จะเข้ามาในจวนตระกูลเฟิ่ง ส่วนอีกอย่างคือ…”นางมองนายหญิงเฟิ่ง “ต้องตัดความสัมพันธ์กับท่าน”นายหญิงเฟิ่งไม่คิดเลยว่า เรื่องมันจะเป็นเช่นนี้คำพูดต่อมา เฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นคนเล่าเอง“เงินเหล่านั้น เดิมทีมากพอให้ตระกูลหลิวมีกินมีใช้ แต่น่าเสียดายที่บุตรชายของพวกเขาไม่เอาไหน เอาแต่เที่ยวกินติดพนัน จนกิจการตระกูลล่มจมหมดตัว“ส่วนน้าหญิง นางไม่ได้ทำแท้งตามที่ตระกูลเฟิ่งบอกในตอนนั้น แต่พาลูก พร้อมสินสมรสมากมาย ไปแต่งงานกับพ่อค้าผู้หนึ่ง ณ ที่ห่างไกล“ยามที่ตระกูลหลิวอับจนหนทาง เพราะหนี้สิน เคยไปขอความช่วยเหลือที่เจียงโจว แต่กลับถูกปฏิเสธไล่ตะเพิดออกมานอกประตู”นี่คือเรื่องที่นางส่งคนไปสืบที่เจียงโจวเมื่อนายหญิงเฟิ่งรู้ต้นสายปลายเหตุทั้งหมด บริเวณหน้าอกพลันบีบรัด ในหูมีเสียงอื้ออึงดังขึ้นมาไม่หย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 960

    นายหญิงเฟิ่งไม่สามารถยอมรับได้ในขณะนั้น น้องสาวแท้ ๆ ของตัวเอง แอบตั้งท้องกับเฟิ่งหลิน!นางรับได้ที่น้องสาวจะแต่งงานกับเฟิ่งหลินในตอนนี้ แต่กลับรับไม่ได้ที่พวกเขาโกหกนาง และทรยศนาง!เจิ้งจีอายุเท่าเหยียนเฉินหากสิ่งที่จิ่วเหยียนพูดมาคือความจริง เช่นนั้น ช่วงที่นางกับเฟิ่งหลินเพิ่งแต่งงานกันใหม่ ๆ อาอิ๋งก็คง…นายหญิงเฟิ่งหายใจอย่างเจ็บปวด ออกแรงจับกุมมือของเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้ มองบุตรสาวอย่างมีความหวัง“จิ่วเหยียน มันคือเรื่องจริงหรือ? พวกเขา…”ความเจ็บปวดระยะยาวไม่เท่าความเจ็บปวดระยะสั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างจริงจัง“ใช่ ข้าไม่เอาเรื่องแบบนี้มาโกหกท่านหรอก”การฟังความเพียงข้างเดียว อาจทำให้ท่านแม่เชื่อได้ยากนางจึงหาพยานหลักฐานมาด้วยหนึ่งชั่วยามต่อมา อู๋ไป๋ก็พาหญิงชราคนหนึ่ง มาที่ตำหนักหย่งเหอหญิงชราผู้นั้นผมหงอก ก้าวเดินอย่างโซเซอู๋ไป๋ยืนอยู่นอกตำหนัก ปล่อยให้นางเข้าไปเองคนเดียวหญิงชราโค้งคำนับให้เฟิ่งจิ่วเหยียน การสั่งสอนที่ฝังลึกอยู่ในร่างกาย ทำให้นางทำความเคารพได้อย่างถูกต้อง“ข้าน้อย ถวายบังคมฮองเฮา”หญิงชราอายุราว ๆ เจ็ดสิบแปดสิบ ฟันหลุดไปแล้วหลายซี่ทว่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 959

    นายหญิงเฟิ่งรู้สึกผิดต่อน้องสาวมาก หลายปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่อาอิ๋งมาขอความช่วยเหลือจากนาง นางอยากเข้าร่วมงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในวัง นางคิดว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำให้อาอิ๋งสมปรารถนาให้ได้วันรุ่งขึ้น นางเข้าวังขอเข้าพบฮองเฮาภายในตำหนักหย่งเหอสองแม่ลูกนั่งอยู่ด้วยกัน มีเพียงหว่านซิวอยู่รับใช้เพียงคนเดียว ไม่มีเรื่องต้องห้ามอะไรนายหญิงเฟิ่งพูดอย่างจริงจัง“ฮองเฮา ทางบ้านของแม่เหลือเพียงท่านน้าของเจ้าแล้ว“นางเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของข้า หลายปีมานี้ ข้าไม่ได้ดูแลนางให้ดี“สามีของนางจากไปเร็ว เด็กกำพร้ากับหญิงหม้าย ใช้ชีวิตอย่างลำบาก...”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้สึกสงสาร ถามนางอย่างตรงไปตรงมา“ท่านอยากจะพูดอะไร?”คำพูดของนายหญิงเฟิ่งถูกขัดจังหวะ จึงยิ่งอ้ำ ๆ อึ้ง ๆนี่เป็นบุตรสาวแท้ ๆ ของนางก็จริง ทว่าด้วยเหตุที่ไม่ได้เลี้ยงจนโตด้วยตนเอง หรืออาจเป็นเพราะบุตรสาวคนนี้อยู่ในค่ายทหารมาหลายปี บนร่างจึงเจือด้วยรังสีฆ่าฟัน มีนิสัยทำอะไรเด็ดขาด ตนจึงรู้สึกกลัวนางอยู่บ้างนายหญิงเฟิ่งหลุบตาลงและค่อย ๆ พูดว่า“ข้า...ข้าได้ยินว่าใกล้จะถึงงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในวังแล้ว ท่านน้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 958

    เฟิ่งจิ่วเหยียนกวาดตามองเหล่าทหารใหม่หลายร้อยนายนั้น แล้วหันไปสั่งการอู๋ไป๋“คะแนนสอบกลศึกของทหารเหล่านี้ ไม่ให้แต้มแม้แต่แต้มเดียว”อู๋ไป๋ยืดคอตั้งตรง เผยให้เห็นความหยิ่งยโสอยู่หลายส่วน“พ่ะย่ะค่ะ!”ทหารหลายร้อยนายเหล่านั้นเบิกตากว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมการสอบประเมินทหารใหม่ที่เพิ่งเข้าค่ายทหารนั้น ครอบคลุมไปถึงกลศึก การขี่ม้ายิงธนู และการวาดแผนที่เป็นต้นคะแนนสอบที่สูงหรือต่ำนั้น ใช้ตัดสินว่าพวกเขาจะได้เป็นทหารทัพไหนทัพกลางดีที่สุดทัพซ้ายและขวา สองทัพนี้รองลงมาที่แย่ที่สุดคือกองเสบียง กองดูแลอาวุธ ที่อนาคตไม่มีโอกาสได้เข้าสู่สนามรบยามนี้แค่คำพูดเดียวของฮองเฮา ก็ทำให้คะแนนกลศึกของพวกเขากลายเป็นศูนย์ ใช้อำนาจรังแกคนชัด ๆ!“ฮองเฮา เพราะเหตุใดพ่ะย่ะค่ะ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้อธิบายให้มากความ“ในเมื่อรู้ว่าสตรีเป็นทหารไม่ง่าย ก็ต้องเห็นคุณค่าของโอกาสในตอนนี้ของพวกเจ้าให้ดี“พอถูกสตรีนำหน้า ก็อับอายจนโมโห ทำไม อยากให้ข้าชมพวกเจ้าว่ามีอนาคตยาวไกล จะต้องเอาชนะกองทัพสตรีได้แน่อย่างนั้นรึ?“ทหารทุกนาย วิ่งรอบค่ายร้อยรอบ!”เหล่าทหารใหม่ที่ถูกกดขี่บีบบังคับได้แต่ทำ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status