Share

บทที่ 487

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
last update Last Updated: 2024-12-16 17:00:00
ณ ตำหนักวั่นโซ่ว

ไทฮองไทเฮาทรงเอ็นดูหรงเฟยเป็นพิเศษโดยไม่ปิดบัง

นางตั้งใจให้หรงเฟยนั่งอยู่ในตำแหน่งถัดจากตน พร้อมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

“เมื่อคืนเจ้านอนหลับดีหรือไม่?”

หรงเฟยพยักหน้าตอบ ลำพังแค่นั่งอยู่ตรงนั้น ก็ดูสง่างามแสนเรียบง่าย

พระสนมคนอื่น ๆ ทั้งอิจฉาทั้งริษยา ต่างก็ไม่มีกะจิตกะใจจะชมการแสดงงิ้วเลย

ไทเฮาก็ทรงรู้สึกกระวนกระวายเช่นกัน

ก่อนที่การแสดงงิ้วจะเริ่มขึ้น ไทฮองไทเฮาทรงตรัสกับทุกคนว่า

“เรื่องที่หรงเฟยกลับเข้าวัง พวกเจ้าก็คงรู้กันหมดแล้ว

“สิ่งที่ข้าอยากพูดในวันนี้ ก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น”

เมื่อเอ่ยมาถึงตอนนี้ นางก็หันไปมองไทเฮา

“ในตอนนั้นหรงเฟยป่วยหนัก ไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที ทั้งยังถูกฝังอย่างเร่งรีบ จนเกือบถึงแก่ชีวิตทั้งที่อายุยังน้อย

“ข้าสงสัยว่านางอาจจะถูกคนลอบทำร้าย จึงสั่งคนไปสับเปลี่ยนร่างที่อยู่ในโลง

“สิ่งที่โชคดีคือ สวรรค์เมตตา หรงเฟยยังไม่ตาย เพียงแต่เพราะนางอ่อนแออย่างหนัก จึงทำให้อวัยวะในร่างกายหยุดทำงานชั่วคราว”

เหล่าพระสนมได้ยิน ถึงแม้จะตระหนกตกใจ ทว่าก็ยอมรับได้

อย่างไรเสียเรื่องของคนผู้นี้ที่ “ฟื้นคืนชีพ” ก็ไม่ถึงกับน่าอัศจ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Ramai Thonganan
วกมาทำการสืบอีกล่ะ
goodnovel comment avatar
eclair_t
เออ! ต้องให้ได้อย่างนี้สิเต้ ค่อยสมกับที่เอาใจช่วยหน่อย เหยียบหน้าไทฮองไทเฮา อิแก่ปสด ไปบ้าง จะได้รู้ตัวซะที
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 488

    เซียวอวี้ขมวดคิ้ว คำพูดของไทฮองไทเฮาเมื่อครู่ ทำให้เขาตั้งตัวไม่ทัน และตกใจอย่างคาดไม่ถึงหรงเฟยแท้งบุตรเมื่อใด!?นางสนมเจียปากไวเอ่ยขึ้นทันที“ไทฮองไทเฮา หรงเฟยเคยแท้งบุตรหรือ? เหตุใดหม่อมฉันถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน?”คนอื่น ๆ ก็มีสีหน้าประหลาดใจเช่นกันไทฮองไทเฮาทรงจับมือของหรงเฟย พร้อมกับรู้สึกเสียใจ“นั่นเป็นเรื่องหลังจากที่ฝ่าบาททรงออกไปทำศึกแล้ว “ตอนนั้นหรงเฟยก็มีอาการป่วยอยู่ เดิมทีแล้วจึงไม่ได้สนใจเรื่องนั้น และไม่รู้ว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ด้วย“จนกระทั่ง...”เอ่ยมาถึงตอนนี้ นางเจตนามองไปทางไทเฮาแวบหนึ่งไทเฮาทรงจดจำเรื่องราวในอดีตได้เช่นกัน กลางฝ่ามือมีเหงื่อซึมออกมานางหลบเลี่ยงสายตาเชิงตำหนิของไทฮองไทเฮา ในใจรู้สึกกระวนกระวายเรื่องการตั้งครรภ์ของหรงเฟย นางเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ความจริง อีกทั้งยังเป็นคนทำร้ายโดยทางอ้อมอีกด้วยหากมิใช่นางขัดขวางหมอหลวงเหล่านั้นไว้ หรงเฟยในตอนนั้นคงไม่ถึงกับ “สองชีวิตในหนึ่งร่าง” เช่นนี้เรื่องนี้นางไม่เคยกล้าบอกกับผู้ใดเลย กลัวว่าหลังจากฮ่องเต้ทรงทราบ จะยิ่งเกลียดนางที่มีฐานะเป็นไทเฮาผู้นี้ทว่าท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ไม่มีทางป

    Last Updated : 2024-12-16
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 489

    เซียวอวี้มั่นใจว่า เรื่องที่ตนเองเคยทำ จะไม่มีวันลืมอย่างเด็ดขาดเขาไม่เคยแตะต้องหรงเฟย!ถึงแม้จะเมาสุรา เขาก็ไม่ถึงกับทำเรื่องต่ำทรามเช่นนั้นทว่าหรงเฟยก็ดูเหมือนไม่มีเหตุผลที่จะโกหกพวกเขาเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่วัยเยาว์ และยังเป็นสหายร่วมเรียนมาด้วยกัน ในตอนแรกที่เขาขึ้นครองบัลลังก์ นางก็ช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ นางจะโกหกเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ได้อย่างไรหรงเฟยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และฝืนยิ้ม ทว่านัยน์ตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าที่แตกสลาย“ท่านจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร“เรื่องในคืนนั้น เดิมทีแล้วก็เป็นความผิดพลาด“หม่อมฉันจะลืมมันไป และหวังว่าท่านก็จะลืมเช่นกัน อย่าปล่อยให้มันกลายเป็นหนามยอกอกระหว่างท่านกับฮองเฮาเลยเพคะ”เซียวอวี้ลุกขึ้นอย่างกะทันหัน และจ้องนางด้วยสายตาเคี่ยวเข็ญ“มู่หรงหลัน อาศัยว่าที่ผ่านมาพวกเรามีความผูกพันกันมายาวนานหลายสิบปี อย่าโกหกเรา เด็กคนนั้นเป็นบุตรของเราจริงหรือ”หรงเฟยกัดเนื้อนุ่ม ๆ ในริมฝีปาก และพยักหน้าอย่างยากเย็น เซียวอวี้รู้สึกหายใจไม่ทัน มือกำหมัดไว้แน่น จนกระดูกข้อต่อนิ้วถูกบีบเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!หลังจากเงียบไปนาน เขาก็พูดเพียงประโยคเดียว“

    Last Updated : 2024-12-17
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 490

    ณ ตำหนักฉางเล่อหรงเฟยนำหลักฐานการติดต่อระหว่างเฉินอ๋องกับเสนาบดีเหล่านั้นมาถวาย“นี่คือสิ่งที่บิดาสืบสวนจนพบเพคะ เขาสงสัยแต่แรกว่าเฉินอ๋องมีเจตนาแอบแฝง จึงแสร้งผูกมิตรกับเขา เพื่อสืบหารายชื่อผู้สมรู้ร่วมคิดเหล่านั้น”หรงเฟยนำหลักฐานเหล่านี้มาแสดง ลดความยุ่งยากให้กับเซียวอวี้ได้ไม่น้อยหลังจากเขาดูแล้ว ก็เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง“บิดาของเจ้ามีความดีความชอบ”แววตาของหรงเฟยดูแน่วแน่และภักดี“ความจงรักภักดีต่อกษัตริย์คือหน้าที่ของบิดาอยู่แล้ว การช่วยให้ฝ่าบาททรงคลายความกังวลในพระทัยได้นั้นถือว่าดี สองวันที่ผ่านมา เพราะเรื่องของเฉินอ๋อง ท่านทรงงานยุ่งจนดึกทุกวัน ตอนนี้ก็ได้หยุดพักหายใจหายคอเสียที”วันนี้เซียวอวี้มาที่ตำหนักฉางเล่อ ก็เพราะหลักฐานในมือของหรงเฟยเหล่านี้เมื่อก่อนพวกเขาก็เป็นเช่นนี้ เขาปกครองราชสำนัก หรงเฟยก็อาศัยกำลังของคนในตระกูลช่วยเหลือเขานางไม่เหมือนสตรีทั่วไป แค่มองดูนุ่มนวลอ่อนหวาน แท้จริงแล้วลงมืออย่างเฉียบขาด และมักจะคิดหาวิธีการใหม่ ๆ อยู่เสมอเขาให้นางคอยเป็นผู้ช่วยอยู่หลายเรื่อง ดังนั้นที่ว่าวังหลังไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการปกครอง แต่ไหนแต่ไรมานางจะได้รับการยก

    Last Updated : 2024-12-17
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 491

    ลมหายใจของเซียวอวี้พลันหยุดชะงักไปในทันที พลางหมุนตัวเดินเข้าไปจับแขนของนางเอาไว้“เจ้าจักออกจากวังไปตามหาคนชุดคลุมดำใช่หรือไม่ ได้ เราอนุญาติให้เจ้าออกไปสืบความได้”น้ำเสียงของเซียวอวี้สั่นเครือเล็กน้อย “เจ้าอยากจะไปสืบหา ก็ไปสืบมาได้เลย”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองตรงไปที่เซียวอวี้ด้วยท่าทีสงบ ในแววตาหาได้มีร่องรอยความอาทรณ์ใด ๆ ไม่“มิใช่เพียงแค่ตามหาคนคลุมชุดดำเท่านั้นเพคะ ฝ่าบาท การออกไปในครานี้ หม่อมฉันจักไม่กลับมาอีกแล้ว”ดวงตาเรียวหงส์ของเซียวอวี้พลันหรี่เล็กลงมา แสดงให้เห็นท่าทีไม่สบอารมณ์ของเขาได้ในทันที ทว่า ก็ยังคงท่วงท่าใจเย็นเอาไว้“เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอันใดกัน? ในสัญญาระบุเอาไว้ว่าหนึ่งปี...”“ท่านจำผิดแล้วพคะ เป็นครึ่งปีต่างหาก” เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันยื่นสัญญาในมือให้กับเขาในทันทีเซียวอวี้จึงรีบเปิดสัญญาออกมาโยไว ใบหน้าอันหล่อเหลาเต็มไปด้วยอารมณ์ประหลาดใจ ตกใจ ทั้งยังรู้สึกเสียใจยิ่งนักในใบสัญญาเขียนเอาไว้ว่าครึ่งปีจริง ๆ !หากแต่เขามั่นใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าในคราที่ตกลงกันนั้น สัญญามีระยะเวลาเป็นหนึ่งปี!เช่นนั้น ความเป็นไปได้มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นนั่นคือนางเปล

    Last Updated : 2024-12-17
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 492

    เมื่อเหลียนซวงเดินเข้ามาด้านในตำหนักนั้น พลันเห็นฉากกั้นล้มลงไปอยู่กับพื้นในทันที“ฮองเฮาเพคะ ท่านอยากจะไปจากที่นี่จริง ๆ หรือเพคะ?”น้ำเสียงของเฟิ่งจิ่วเหยียนเต็มไปด้วยความทุ้มลึก“ใช่ ส่วนคดีของตระกูลเฉินนั้น ข้าจักจำเอาไว้”คนชุดคลุมดำผู้นั้นก็มีส่วนร่วมในการสังหารราชครูเฉินเช่นเดียวกันใบหน้าของเหลียนซวงเต็มไปด้วยความกังวลมากมาย“ฮองเฮาเพคะ บ่าวเกรงว่าฝ่าบาท…”“เขาจักเข้าใจมันได้เอง” ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันหม่นแสงลงหากว่ามิอาจหลีกเลี่ยงได้แล้วไซร้ นางก็มิอยากจะก่อเรื่องจนทำให้ทุกคนรับรู้เรื่องราวทั้งหมดเช่นเดียวกันคืนนั้น เซียวอวี้นอนไม่หลับทั้งคืนภายในใจราวกับมีเพลิงสุมอยู่ในอกเขาคิดว่าตัวเองจักสามารถมีเวลาอยู่กับฮองเฮาอีกหนึ่งปีมาโดยตลอดแต่นางกลับลอบเปลี่ยนจากหนึ่งปีเป็นครึ่งปี!เขาที่มั่นใจว่าตนเองจักสามารถค่อย ๆ พิชิตใจนางได้นั้น แต่นางกลับวางแผนที่จะหนีหายไปจากเขามาตั้งแต่แรก!ในใต้หล้า เหตุใดถึงมีสตรีไร้ใจเช่นนางได้กัน!วันรุ่งขึ้นหลังจากที่เซียวอวี้ว่าความยามเช้าเสร็จแล้วนั้น เขาก็เสด็จมาที่ตำหนักหย่งเหอในทันทีเหล่าทหารองครักษ์ต่างพากันเฝ้าเวรยามด

    Last Updated : 2024-12-17
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 493

    ม่านลูกปัดพลันถูกเปิดออก ยามที่เห็นว่าตนเองกำลังถูกอุ้มเข้าไปในมุ้งนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงคว้าผ้าม่านเอาไว้แน่น ทว่า แรงที่จะจับนั้นหาได้มีไม่ขณะที่เซียวอวี้ค่อย ๆ ก้าวเดินไปข้างหน้านั้น ม่านก็ค่อย ๆ หลุดจากมือนางไปเรื่อย ๆ ยามที่เห็นม่านค่อย ๆ ทยอยปิดเข้าหากัน นัยน์ตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเต็มไปด้วยความโกรธเล็กน้อย..เซียวอวี้อุ้มนางมายังข้างเตียง ก่อนจะช่วยนางปลดปิ่นปักผมไม้และผ้าคาดหัวลงมาด้วยความระมัดระวังผมสีดำราวน้ำหมึกจึงค่อย ๆ ล่วงตกลงมา นิ้วเรียวยาวของเซียวอวี้พลันลอดผ่านเส้นผมไปจับที่ท้ายทอยของเฟิ่งจิ่วเหยียน ดวงตาของเซียวอวี้พลันเต็มไปด้วยร่องรอยอารมณ์มากมาย“วันนี้เราตั้งใจจะคุยกับเจ้าดี ๆ“หากว่าเจ้ารักษาสัญญาจะจากเราไปเมื่อครบสัญญาหนึ่งปี เราก็คงมิต้องโมโหเช่นยามนี้“แต่เจ้ากลับไม่ฟังคำเรา ทั้งยังยึดถือในวิถีของตนเองยิ่งนัก“เราจึงได้แต่จำเป็นจักต้องใช้วิธีการของเราเอง เพื่อบังคับให้เจ้ารักษาสัญญา”เฟิ่งจิ่วเหยียนใช้แรงกัดริมฝีปากของตนเองเอาไว้ เพื่อให้ตนเองได้สติอยู่เสมอเซียวอวี้ที่มองออกว่านางจักทำอันใดนั้น จึงเอ่ยเตือนขึ้นมาว่า“เรามิได้บอกแล้วหรือ หากเ

    Last Updated : 2024-12-18
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 494

    เมื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นช่วงบ่ายแล้วเหลียนซวงที่คอยอยู่ข้างกายนาง แววตาเต็มไปด้วยความกังวลใจมากมาย“ฮองเฮาเพคะ ท่านเป็นเช่นไรบ้างเพคะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นนั่ง พร้อมทั้งพยายามรวบรวมพละกำลังของตนเองอีกครั้งกำลังภายในของนางฟื้นคืนมาแล้ว ทว่า ร่างกายกลับอ่อนแอยิ่งนักริมฝีปากของเฟิ่งจิ่งเหยียนซีดเผือด พร้อมแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย“ฮองเฮาเพคะ ฮูหยินเฟิ่งเข้ามาในวังเพคะ”การมาของฮูหยินเฟิ่งในครานี้ เพื่อมาเกลี้ยกล่อมเฟิ่งจิ่วเหยียนฮูหยินในยามนี้ดูจะแก่ลงมากนัก ทั่วร่างของนางคล้ายกับอ่อนแรงเต็มที“สถานะของเจ้า ฝ่าบาททรงล่วงรู้หมดแล้ว“พระองค์ยังเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้ามาในวังอีก ทั้งยังเล่าเรื่องของเจ้าอีกด้วย“เหตุใดลูกถึงสะเพร่าโง่เง่าเช่นนี้“ในเมื่อเจ้าแต่งให้กับฝ่าบาทแล้ว เหตุใดจึงอยากจากไปเล่า?“ฝ่าบาทมีพระเมตตา ไม่คิดถือสาหาความใดกับตระกูลเฟิ่งและตระกูลเมิ่งเรื่องโทษหลอกลวงเบื้องสูง ทั้งยังร่วมเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลาหนึ่งปีกับเจ้าอีก เจ้าลองคิดดู หากเรื่องสัญญาถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อใด ผู้คนหาได้ต่อว่าฝ่าบาทเป็นคนผิดในเรื่องนี้ไม่……”เฟิ่งจิ

    Last Updated : 2024-12-18
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 495

    แววตาของเซียวอวี้พลันเต็มไปด้วยความมืดครึ้ม ก่อนจะกวาดสายตามองไปยังเศษกระเบื้องที่ตกลงบนพื้น ร่างสูงจึงลุกขึ้นยืนในทันทีพร้อมเงาร่างใหญ่ที่พาดผ่านลงมา“เราคือฮ่องเต้“ภายใต้อำนาจขององค์จักรพรรดินั้น หาได้มีอิสรภาพไม่“ไม่ว่าเจ้าจะโกรธก็ดี ไม่พอใจก็ดี เจ้าก็มิอาจฝ่าฝืนมันไปได้“หากเราเป็นเจ้า เราจักไม่มีทางใช้วิธีการที่โง่เง่าเช่นการท้าท้ายขีดจำกัดของฮ่องเต้เช่นนี้”น้ำเสียงที่เรียบนิ่งของเซียวอวี้พลางเจือไปด้วยความองอาจที่มิอาจฝ่าฝืนไปได้ความอ่อนโยนที่เกิดขึ้นยามที่อยู่ชายแดนใต้นั้น เป็นเพียงแค่ภาพลวงตาที่เขาทิ้งสถานะของฮ่องเต้เพียงชั่วครู่ เพื่อให้นางตายใจ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังเป็นฮ่องเต้ผู้เลือดเย็นอยู่เช่นเดิมเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันหัวเราะเยาะเย้ยกับตัวเอง“หม่อมฉินคิดว่า ท่านให้สิทธิ์หม่อมฉันได้เลือกเสียอีก”ที่เขาโกรธนั้น หาใช่เพราะนางปรับเปลี่ยนสัญญาเป็นครึ่งปีไม่ แต่เป็นเพราะเขาไม่คิดที่จะปล่อยนางไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วเซียวอวี้เชยคางของนางขึ้นมา ก่อนจะใช้แววตาเฉียบคมก้มลงไปมอง“มีสิ่งหนึ่งที่เจ้าสามารถวางใจได้“เรื่องระหว่างเรากับเจ้านั้น เราไม่มีทางใช้ตระกูลเฟิ่งแล

    Last Updated : 2024-12-18

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 688

    ก่อนเฟิ่งจิ่วเหยียนจะขึ้นสนามประลอง ก็วางแผนเส้นทางหลบหนีไว้อย่างดีแล้วนางรู้ข้อจำกัดของตนเองดีอาศัยพละกำลังของนางในตอนนี้ มิอาจยืนหยัดจนถึงท้ายที่สุดได้การต่อสู้แบบหลายคนผลัดกันขึ้นสู้กับคนคนเดียวประเภทนี้ไม่ยุติธรรมดังนั้น ตั้งแต่แรกที่เริ่มประลอง นางก็มิได้ตัดสินใจว่าจะปกป้องสังเวียนจนถึงท้ายที่สุดการประลองหลายรอบก่อนหน้านี้ ก็เพื่อให้ผู้ชมเหล่านั้นวางเดิมพันข้างนาง และกดดันให้สนามประลองยุทธ์ปล่อยตัวติงหยวนเอ๋อร์ออกมาจนถึงตอนนี้เจียงหลินก็ยังคงเรียกสติกลับมาไม่ได้ เอาแต่วิ่งตามไปกับคนของสำนักเฉวียนเจินเหล่านั้นซูฮ่วนนี่เหลือเกินจริง ๆ!ก่อนจะทำสิ่งใด จะบอกให้เขารู้บ้างไม่ได้เชียวหรือ!ไม่มีผู้ใดรู้ว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนมิอาจอธิบายให้ผู้ใดฟังได้นางลักพาตัวติงหยวนเอ๋อร์ไปคนเดียว คนของสนามประลองยุทธ์ก็จะไล่ตามนางเท่านั้นทว่าทันทีที่นางมีพรรคพวก พรรคพวกยิ่งมาก ความเป็นไปได้ที่จะหนีรอดไปพร้อมกันก็จะยิ่งน้อยลงสำหรับเรื่องนี้ เหลิ่งเซียนเอ๋อร์เข้าใจเป็นอย่างดีดังนั้น นางจึงชักกระบี่ไล่ตามไป“ไอ้คนไร้ยางอาย! คืนศิษย์สำนักเฉวียนเจินของข้ามา!”เจียงหลินถึงกระจ่างขึ้นมาใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 687

    การตายของอู๋เซียง ไม่มีผู้ใดเสียดายการลาลับของเขา มีแต่ดื่มด่ำอยู่ในห้วงความรื่นเริงของรอบใหม่คนที่เดิมทีกำลังลังเลไม่ตัดสินใจเหล่านั้น ก็ทยอยนำทรัพย์สินมาวางเดิมพันที่ตัวเฟิ่งจิ่งเหยียนในเวลานี้ เจียงหลินเต็มไปด้วยความสับสนเขาได้ยินว่าซูฮ่วนชนะแล้ว ถึงกล้าลืมตาจากนั้นเขาถามด้วยความงงงวย“ทำได้อย่างไร...ซูฮ่วน เมื่อครู่เขามิได้ถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าหรอกหรือ?”เหลิ่งเซียนเอ๋อร์ที่อยู่ไม่ไกลงึมงำ“เส้นไหมสังหาร ซูฮ่วนซ่อนเส้นไหมสังหารของคู่ต่อสู้ไว้”ในเวลานี้ ฟางหมิ่นที่ฟื้นแล้วก็เอ่ยขึ้น“ไม่เพียงเท่านั้น ซูฮ่วนยังเรียนรู้กระบวนท่าหมัดกำไลเหล็กด้วย!”ถูกต้อง!นี่ถึงจะเป็นกุญแจสำคัญเส้นไหมสังหารนั้น มีเพียงหมัดกำไลเหล็กถึงจะสามารถแสดงศักยภาพของมันได้อีกทั้งยังเป็นเส้นไหมสังหารที่ถูกย้อมเป็นสีแดง และถูกเปิดเผยแล้วท่าไม้ตายชุดสุดท้ายของซูฮ่วน มีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!และนางคว้าโอกาสนั้นไว้ได้เหลิ่งเซียนเอ๋อร์รู้สึกละอายใจตัวเองหากเปลี่ยนเป็นนาง คงไม่มีทางสังเกตกระบวนท่าของคู่ต่อสู้ในระหว่างการประลองได้ รวมถึงยังลอกเลียนท่าทางอีกด้วยกลยุทธ์นี้ก็คือ หินจา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 686

    อู๋เซียงทำลายความศรัทธาของเฟิ่งจิ่วเหยียนทีละขั้น เสียงพูดยังคงต่อเนื่อง“ซูฮ่วน เจ้าคิดจะกำจัดคนชั่วในใต้หล้าไปให้หมด ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ“เจ้าคิดว่า สนามประลองยุทธ์ใต้ดินที่มีอยู่แห่งนี้ ราชสำนักมิรู้เลยอย่างนั้นหรือ?“ขุนนางท้องถิ่นคนใดจะไม่แอบอนุญาต? เพราะอะไร? พวกเขาต้องการเงินทอง ต้องการความสำเร็จในหน้าที่“แล้วเจ้าล่ะ? เจ้าทำเพื่ออะไร?“เจ้าเอาพวกเราเป็นใบไม้เขียวที่ตัดให้เจ้าได้โดดเด่นขึ้นมา“หากเอาชนะพวกเรา ก็จะมีผู้คนมากมายยกย่องเจ้าเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่“แต่ข้าจะถามเจ้าว่า สิ่งที่เรียกว่าเที่ยงธรรมคืออะไร? ผู้ใดเป็นคนชั่วกัน? ข้าเป็นคนชั่ว แล้วราชสำนักที่บ่มเพาะความชั่วช้านั้นก็มิใช่อย่างนั้นหรือ?“จริงอยู่ เจ้าฆ่าข้าได้ แต่เจ้าฆ่าความคิดชั่วร้ายในจิตใจคนได้หมดหรือ?“ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ ตราบใดที่ความคิดชั่วร้ายยังอยู่ ความชั่วร้ายก็จะอยู่ตลอดไป“เจ้าเป็นเพียงคนธรรมดา มีสิทธิอะไรจะต่อสู้กับธรรมชาติของมนุษย์ได้ “เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนชั่ว ทว่าข้าก็เคยทำความดี เช่นว่า ข้าเคยช่วยกระต่ายตัวหนึ่งที่บาดเจ็บจากลูกธนู“คนที่เจ้าเข้าใจว่าเป็นคนดีเหล่านั้น ใครบ้างมิเคยทำควา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 685

    อู๋เซียงเดินเข้าไปในกรงเหล็ก ราวกับว่ากำลังเดินเล่นอยู่ในลานบ้านของตนเอง มิได้มองว่านี่เป็นการประลองหลังจากประตูกรงเหล็กปิดลง อู๋เซียงก็ยังไม่รีบร้อนโจมตี แต่มองไปรอบ ๆ และย้อนถามเฟิ่งจิ่วเหยียน“ซูฮ่วน เจ้าดูสิ พวกเขาเชื่อหรือว่าเจ้าจะชนะ?”สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่ง และมิได้ตอบเขาจากนั้น กรงเหล็กก็ค่อย ๆ ถูกยกขึ้น และลอยห่างจากพื้นขณะที่กรงหยุดอยู่กลางอากาศ อู๋เซียงก็ยังคงไม่โจมตีเขาเอามือสองข้างไพล่หลัง เหมือนผู้มีปัญญาและผู้อาวุโส กำลังเอ่ยตักเตือนด้วยความหวังดี“ซูฮ่วน เจ้ายังคงเป็นคนหนุ่มเลือดร้อน“การประลองครั้งนี้มิควรเป็นเช่นนี้“เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือ? สิ่งที่เจ้าต้องการ มิใช่การจูบ แต่คิดจะใช้โอกาสนี้ช่วยเหลือติงหยวนเอ๋อร์”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูเย็นชาพวกเขาพูดคุยกันอยู่ในกรงเหล็ก ผู้คนบนอัฒจันทร์ไม่ได้ยินอู๋เซียงถึงขั้นปลอบใจนาง: “มิต้องกังวล ข้าจะไม่บอกพวกเขา มิเช่นนั้น การประลองครั้งนี้ก็จะไม่สนุก อีกครึ่งชั่วยาม หากเจ้าไม่โค่นล้มข้า ก็จะเป็นข้าที่ทำร้ายเจ้า...จนตาย”หลังจากพูดจบ เขาก็เอียงศีรษะพร้อมกับยิ้มจากนั้นก็รวบรวมพลังในฝ่ามือ และโจมตี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 684

    เจียงหลินจ้องมองอู๋เซียงตาเขม็ง--- บุรุษผู้นั้นที่มองดูแสนธรรมดา หากอยู่ท่ามกลางฝูงชนก็จะหาไม่พบทันที“ในเวลานั้น ครั้งแรกที่ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรอู่หลิน ในยุทธภพปรากฏหัวโจกโฉดชั่วอยู่สามคน อู๋เซียงก็คือลูกพี่ใหญ่ในกลุ่มของพวกเขา“พวกเขาเป็นศิษย์นอกของเส้าหลิน ทำความชั่วสารพัด ทั้งวางเพลิง ฆ่าคน ข่มขืน และปล้นสะดม เพื่อกำจัดทั้งสามคนนี้ กลุ่มพันธมิตรอู่หลินจึงตัดสินใจจะต่อสู้กันที่ภูเขาฉงหัว “ในการต่อสู้ครั้งนั้น ชาวพันธมิตรอู่หลินได้ร่วมมือกัน และสังหารคนโฉดชั่วได้สองคน ทว่าวิทยายุทธ์ของอู๋เซียงนั้นแข็งแกร่ง จึงหลบหนีไปได้“การต่อสู้ครั้งนั้นซูฮ่วนได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งไม่กี่วันต่อมา อู๋เซียงก็ลักพาตัวภรรยาที่เพิ่งแต่งงานของตงฟางซื่อไป...”แม้ผ่านมาหลายปี เมื่อเจียงหลินนึกถึงความทรงจำในช่วงนั้นอีก ก็ยังรู้สึกขนลุกเขาต่างจากคนเหลาะแหละในเวลาปกติ หลังจากกลั้นหายใจไม่กี่อึดใจ ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“เขาแยกร่างฮูหยินตงฟางออกเป็นหลายส่วน ในแต่ละวันจะส่งมาให้หนึ่งชิ้น จนทำให้ตงฟางซื่อแทบจะคลุ้มคลั่ง“ภายหลัง ซูฮ่วนหาอู๋เซียงจนพบ ไม่มีผู้ใดรู้รายละเอียดการต่อสู้ระหว่างซูฮ่วนก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 683

    คนกลุ่มหนึ่งตะโกนเสียงดัง“ให้เขาดู! ให้เขาดู!”“บ้าเอ๊ย พวกเราตั้งหลายคนเดิมพันให้เขาชนะ หากเขายอมแพ้ พวกเราก็ต้องเสียเงินย่อยยับ!”“พาติงหยวนเอ๋อร์ออกมา ข้าก็อยากดูเช่นกัน หญิงสาวผู้นั้นมีชีวิตอยู่หรือตายกันแน่!”คำพูดของเฟิ่งจิ่วเหยียน ทำให้ผู้คนเริ่มกระวนกระวายผู้ประกาศจึงรีบเกลี้ยกล่อมพวกเขา“ทุกท่าน ทุกท่าน! อดทนหน่อยอย่าเพิ่งใจร้อน!“ข้าขอรับรองกับพวกท่าน คนจะต้องมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน...”เฟิ่งจิ่วเหยียนดูนิ่งเฉยและแน่วแน่“หากไม่เห็นติงหยวนเอ๋อร์ ข้าก็ล้มเลิกการประลอง”หลังจากนางประลองจบแล้วสองรอบ คนที่เดิมพันว่านางชนะก็ยิ่งมีมากขึ้น หากตอนนี้นางถอนตัวออกจากการประลอง จะทำให้ผลประโยชน์ของพวกเขาเสียหายพวกเขาจึงตะโกนพร้อมกัน“พาติงหยวนเอ๋อร์ออกมา!”“ใช่ มิเช่นนั้นพวกเราจะขอเงินคืน!!!”เสียงตะโกนของผู้คนเกือบพันคนในสนาม ทำให้สีหน้าท่าทางของผู้ประกาศดูลนลานเขาออกจากสนามอย่างเงียบ ๆ และเข้าไปทางประตูลับ เพื่อไปขอคำชี้แนะผ่านไปไม่นาน เขาก็ออกมา“ได้ นายท่านของเราบอกว่า ให้พาติงหยวนเอ๋อร์ออกมาก่อนได้ เพื่อให้ทุกท่านได้เห็นว่า นางมีชีวิตอยู่หรือตาย! ทว่าทุกท่านต้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 682

    เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เอาแต่หลบเพื่อป้องกันตัวอีกต่อไป และเปลี่ยนมาเป็นโจมตีแบบประชิดทันใดนั้นก็เห็นนางทำเหมือนกับ “ค้างคาวเลือด” ที่ชื่อเกาหยวนก่อนหน้านี้ ปีนขึ้นไปบนกรงเหล็กและพลิกกลับลงมาหมัดของคู่ต่อสู้โจมตีมา ทว่ากลับถูกนางคว้าข้อมือเอาไว้ได้ โดยใช้น้ำหนักของทั้งร่างกายกดลงไปเต็มแรง และทำลายวิชาหมัดมวยของคู่ต่อสู้ ในเวลาเดียวกัน ยังทำให้กระดูกข้อมือของเขาหลุดออก จากนั้นแค่บิดเบา ๆ ก็พลิกเส้นไหมสังหารกลับไปคล้องที่คอของเขา พร้อมกับออกแรงรัดเอาไว้...ในชั่วพริบตา สายตาของผู้ชมที่อยู่ข้างสนามต่างจับจ้องตาไม่กะพริบ รอว่าศีรษะคนจะหล่นลงพื้นไม่ว่าจะเป็นศีรษะของผู้ใดก็ได้ทั้งนั้น!ทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนเหลือบมองผู้คนที่อยู่ข้างสนามแวบหนึ่ง นางแค่รัดคอคู่ต่อสู้ให้หมดสติชั่วคราวเท่านั้นข้างสนามมีเสียงแสดงความไม่พอใจดังขึ้นมา“ฆ่ามันเลย! ฆ่ามันเลย!”“บ้าเอ๊ย! ข้าพนันว่าเจ้าชนะ มิใช่ให้เจ้ามาทำตัวเป็นพระโพธิสัตว์!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจคนพวกนั้น และมองไปทางผู้ประกาศบนสนามประลองยุทธ์อย่างเฉยชา“คนต่อไป”ผู้ประกาศมองดูนาง และเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งเขาประกาศว่า: “ผู้รั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 681

    หลังจากที่เหลิ่งเซียนเอ๋อร์ถูกคนรับตัวไว้ นางก็รีบหันกลับมาในทันทีภายใต้สถานการณ์ที่มิรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูหรือเป็นมิตร นางจึงเตรียมการป้องกันอย่างระแวดระวัง โดยจะใช้มือแทนมีดทว่า วินาทีที่หันกลับมา และเห็นผู้ที่มา มือของนางก็คลายลงทันที...ซูฮ่วน! เป็นเขาได้อย่างไร!เฟิ่งจิ่วเหยียนประคองหลังของนาง และช่วยให้นางลงมายืนบนพื้นอย่างมั่นคงขอบตาของเหลิ่งเซียนเอ๋อร์พลันเปลี่ยนเป็นแดงก่ำนางนึกไม่ถึงว่า ซูฮ่วนจะทะยานลงมาจากฟ้าอย่าว่าแต่นางเลย เซียวอวี้กับเจียงหลินก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่า เดิมทีคนที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา จะหายไปในชั่วพริบตา!เซียวอวี้รีบกระโดดตามลงมา และเดินมาอยู่ด้านข้างของเฟิ่งจิ่วเหยียนธูปบนเวทีเพิ่งจะถูกเผาไหม้ไปเพียงครึ่งเดียวทว่าบรรดาคนที่ท้าประลองเหล่านั้นราวกับมวลน้ำมหาศาล ราวกับตั๊กแตนก็มิปานพวกเขามิอาจถอยหนีได้คนของสำนักเฉวียนเจินเหล่านี้ก็มิอาจขวางทางพวกเขาได้ และคนส่วนใหญ่ก็ได้รับบาดเจ็บแล้วจักต้องยับยั้งทั้งหมดนี้!เฟิ่งจิ่วเหยียนปล่อยเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ และทะยานขึ้นไปบนเวทีโดยมิสนใจการขัดขวางของเซียวอวี้ดวงตาคู่งามของเหลิ่งเซียนเอ๋อร์เบิกกว้าง มิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 680

    เฟิ่งจิ่วดหยียนถลึงตาใส่เจียงหลินอย่างเย็นชา “พูดเหลวไหลอะไร?”เจียงหลินกลัวว่านางจะลงไม้ลงมือ จึงเดินอ้อมไปอยู่ข้าง ๆ เซียวอวี้ล่วงหน้า“มีอะไรให้ปฏิเสธ? เรื่องราวรัก ๆ ใคร่ ๆ ของชายหนึ่งหญิงสองอย่างเหลิ่งเซียนเอ๋อร์กับหร่วนฝูอวี้ มีใครไม่รู้บ้าง?“หากไม่ใช่เพราะหร่วนฝูอวี้เอาเรื่องที่อยู่ของเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ไปบอกเจ้าสำนักเฉวียนเจิน จนนางถูกเจ้าสำนักจับตัวกลับไป เจ้าก็คงได้สุขสำราญพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว!“คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ นางอายุน้อยขนาดนี้ ก็ได้เป็นรองเจ้าสำนักแล้ว!”เซียวอวี้หน้าอึมครึม มือกำหมัดแน่นชายหนึ่งหญิงสองงั้นหรือแม่ทัพน้อยของเขา ช่างเนื้อหอมจริง ๆหากนางเป็นบุรุษจริง คงเป็นของคนอื่นไปนานแล้วไม่สิ…หากนางเป็นผู้ชาย เขาก็คงไม่ใส่ใจแล้ว!เกือบจะเคลิ้มไปด้วย เซียวอวี้จึงตั้งสติเฟิ่งจิ่วเหยียนกระแอมไอแล้วเอ่ยเสียงต่ำ“เจียงหลิน ชื่อเสียงของคนอื่นเสียหายเพราะเจ้าหมดแล้ว ถ้าเจ้ายังปากมากอีก ข้าจะฉีกมันทิ้งซะ”เจียงหลินรีบหุบปากทันทีแต่ในใจก็ยังไม่ยอมเขาไม่ได้พูดอะไรผิดเสียหน่อยตอนนั้นเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ คิดจะหนีออกมาจากสำนักเฉวียนเจินเพราะซูฮ่วนด้วยซ้ำ นางใ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status