공유

บทที่ 489

작가: อี้ซัวเยียนอวี่
เซียวอวี้มั่นใจว่า เรื่องที่ตนเองเคยทำ จะไม่มีวันลืมอย่างเด็ดขาด

เขาไม่เคยแตะต้องหรงเฟย!

ถึงแม้จะเมาสุรา เขาก็ไม่ถึงกับทำเรื่องต่ำทรามเช่นนั้น

ทว่าหรงเฟยก็ดูเหมือนไม่มีเหตุผลที่จะโกหก

พวกเขาเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่วัยเยาว์ และยังเป็นสหายร่วมเรียนมาด้วยกัน ในตอนแรกที่เขาขึ้นครองบัลลังก์ นางก็ช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ นางจะโกหกเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ได้อย่างไร

หรงเฟยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และฝืนยิ้ม ทว่านัยน์ตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าที่แตกสลาย

“ท่านจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

“เรื่องในคืนนั้น เดิมทีแล้วก็เป็นความผิดพลาด

“หม่อมฉันจะลืมมันไป และหวังว่าท่านก็จะลืมเช่นกัน อย่าปล่อยให้มันกลายเป็นหนามยอกอกระหว่างท่านกับฮองเฮาเลยเพคะ”

เซียวอวี้ลุกขึ้นอย่างกะทันหัน และจ้องนางด้วยสายตาเคี่ยวเข็ญ

“มู่หรงหลัน อาศัยว่าที่ผ่านมาพวกเรามีความผูกพันกันมายาวนานหลายสิบปี อย่าโกหกเรา เด็กคนนั้นเป็นบุตรของเราจริงหรือ”

หรงเฟยกัดเนื้อนุ่ม ๆ ในริมฝีปาก และพยักหน้าอย่างยากเย็น

เซียวอวี้รู้สึกหายใจไม่ทัน มือกำหมัดไว้แน่น จนกระดูกข้อต่อนิ้วถูกบีบ

เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!

หลังจากเงียบไปนาน เขาก็พูดเพียงประโยคเดียว

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
댓글 (3)
goodnovel comment avatar
Rukchanaporn Nui
ตัวละครน่าจะยังมาเพิ่มอีกประมาณร้อยคน เรื่องราวก็จะยืดเยื้อไปตามตัวละคร คิดอะไรไม่ออกก็เพิ่มตัวละคร เพิ่ม 1คนได้อีกร้อยกว่าตอน
goodnovel comment avatar
Jongkhon Limjumroen
นึกว่าจะจบกับเพิ่มมาอีกอิกยังวะคนเขียนแล้วชายชุดดำคงไม่ใช่ต้วนชวี้นะ
goodnovel comment avatar
WLFJ
ยัยหรงเฟยโกหกแน่
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 490

    ณ ตำหนักฉางเล่อหรงเฟยนำหลักฐานการติดต่อระหว่างเฉินอ๋องกับเสนาบดีเหล่านั้นมาถวาย“นี่คือสิ่งที่บิดาสืบสวนจนพบเพคะ เขาสงสัยแต่แรกว่าเฉินอ๋องมีเจตนาแอบแฝง จึงแสร้งผูกมิตรกับเขา เพื่อสืบหารายชื่อผู้สมรู้ร่วมคิดเหล่านั้น”หรงเฟยนำหลักฐานเหล่านี้มาแสดง ลดความยุ่งยากให้กับเซียวอวี้ได้ไม่น้อยหลังจากเขาดูแล้ว ก็เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง“บิดาของเจ้ามีความดีความชอบ”แววตาของหรงเฟยดูแน่วแน่และภักดี“ความจงรักภักดีต่อกษัตริย์คือหน้าที่ของบิดาอยู่แล้ว การช่วยให้ฝ่าบาททรงคลายความกังวลในพระทัยได้นั้นถือว่าดี สองวันที่ผ่านมา เพราะเรื่องของเฉินอ๋อง ท่านทรงงานยุ่งจนดึกทุกวัน ตอนนี้ก็ได้หยุดพักหายใจหายคอเสียที”วันนี้เซียวอวี้มาที่ตำหนักฉางเล่อ ก็เพราะหลักฐานในมือของหรงเฟยเหล่านี้เมื่อก่อนพวกเขาก็เป็นเช่นนี้ เขาปกครองราชสำนัก หรงเฟยก็อาศัยกำลังของคนในตระกูลช่วยเหลือเขานางไม่เหมือนสตรีทั่วไป แค่มองดูนุ่มนวลอ่อนหวาน แท้จริงแล้วลงมืออย่างเฉียบขาด และมักจะคิดหาวิธีการใหม่ ๆ อยู่เสมอเขาให้นางคอยเป็นผู้ช่วยอยู่หลายเรื่อง ดังนั้นที่ว่าวังหลังไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการปกครอง แต่ไหนแต่ไรมานางจะได้รับการยก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 491

    ลมหายใจของเซียวอวี้พลันหยุดชะงักไปในทันที พลางหมุนตัวเดินเข้าไปจับแขนของนางเอาไว้“เจ้าจักออกจากวังไปตามหาคนชุดคลุมดำใช่หรือไม่ ได้ เราอนุญาติให้เจ้าออกไปสืบความได้”น้ำเสียงของเซียวอวี้สั่นเครือเล็กน้อย “เจ้าอยากจะไปสืบหา ก็ไปสืบมาได้เลย”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองตรงไปที่เซียวอวี้ด้วยท่าทีสงบ ในแววตาหาได้มีร่องรอยความอาทรณ์ใด ๆ ไม่“มิใช่เพียงแค่ตามหาคนคลุมชุดดำเท่านั้นเพคะ ฝ่าบาท การออกไปในครานี้ หม่อมฉันจักไม่กลับมาอีกแล้ว”ดวงตาเรียวหงส์ของเซียวอวี้พลันหรี่เล็กลงมา แสดงให้เห็นท่าทีไม่สบอารมณ์ของเขาได้ในทันที ทว่า ก็ยังคงท่วงท่าใจเย็นเอาไว้“เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอันใดกัน? ในสัญญาระบุเอาไว้ว่าหนึ่งปี...”“ท่านจำผิดแล้วพคะ เป็นครึ่งปีต่างหาก” เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันยื่นสัญญาในมือให้กับเขาในทันทีเซียวอวี้จึงรีบเปิดสัญญาออกมาโยไว ใบหน้าอันหล่อเหลาเต็มไปด้วยอารมณ์ประหลาดใจ ตกใจ ทั้งยังรู้สึกเสียใจยิ่งนักในใบสัญญาเขียนเอาไว้ว่าครึ่งปีจริง ๆ !หากแต่เขามั่นใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าในคราที่ตกลงกันนั้น สัญญามีระยะเวลาเป็นหนึ่งปี!เช่นนั้น ความเป็นไปได้มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นนั่นคือนางเปล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 492

    เมื่อเหลียนซวงเดินเข้ามาด้านในตำหนักนั้น พลันเห็นฉากกั้นล้มลงไปอยู่กับพื้นในทันที“ฮองเฮาเพคะ ท่านอยากจะไปจากที่นี่จริง ๆ หรือเพคะ?”น้ำเสียงของเฟิ่งจิ่วเหยียนเต็มไปด้วยความทุ้มลึก“ใช่ ส่วนคดีของตระกูลเฉินนั้น ข้าจักจำเอาไว้”คนชุดคลุมดำผู้นั้นก็มีส่วนร่วมในการสังหารราชครูเฉินเช่นเดียวกันใบหน้าของเหลียนซวงเต็มไปด้วยความกังวลมากมาย“ฮองเฮาเพคะ บ่าวเกรงว่าฝ่าบาท…”“เขาจักเข้าใจมันได้เอง” ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันหม่นแสงลงหากว่ามิอาจหลีกเลี่ยงได้แล้วไซร้ นางก็มิอยากจะก่อเรื่องจนทำให้ทุกคนรับรู้เรื่องราวทั้งหมดเช่นเดียวกันคืนนั้น เซียวอวี้นอนไม่หลับทั้งคืนภายในใจราวกับมีเพลิงสุมอยู่ในอกเขาคิดว่าตัวเองจักสามารถมีเวลาอยู่กับฮองเฮาอีกหนึ่งปีมาโดยตลอดแต่นางกลับลอบเปลี่ยนจากหนึ่งปีเป็นครึ่งปี!เขาที่มั่นใจว่าตนเองจักสามารถค่อย ๆ พิชิตใจนางได้นั้น แต่นางกลับวางแผนที่จะหนีหายไปจากเขามาตั้งแต่แรก!ในใต้หล้า เหตุใดถึงมีสตรีไร้ใจเช่นนางได้กัน!วันรุ่งขึ้นหลังจากที่เซียวอวี้ว่าความยามเช้าเสร็จแล้วนั้น เขาก็เสด็จมาที่ตำหนักหย่งเหอในทันทีเหล่าทหารองครักษ์ต่างพากันเฝ้าเวรยามด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 493

    ม่านลูกปัดพลันถูกเปิดออก ยามที่เห็นว่าตนเองกำลังถูกอุ้มเข้าไปในมุ้งนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงคว้าผ้าม่านเอาไว้แน่น ทว่า แรงที่จะจับนั้นหาได้มีไม่ขณะที่เซียวอวี้ค่อย ๆ ก้าวเดินไปข้างหน้านั้น ม่านก็ค่อย ๆ หลุดจากมือนางไปเรื่อย ๆ ยามที่เห็นม่านค่อย ๆ ทยอยปิดเข้าหากัน นัยน์ตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเต็มไปด้วยความโกรธเล็กน้อย..เซียวอวี้อุ้มนางมายังข้างเตียง ก่อนจะช่วยนางปลดปิ่นปักผมไม้และผ้าคาดหัวลงมาด้วยความระมัดระวังผมสีดำราวน้ำหมึกจึงค่อย ๆ ล่วงตกลงมา นิ้วเรียวยาวของเซียวอวี้พลันลอดผ่านเส้นผมไปจับที่ท้ายทอยของเฟิ่งจิ่วเหยียน ดวงตาของเซียวอวี้พลันเต็มไปด้วยร่องรอยอารมณ์มากมาย“วันนี้เราตั้งใจจะคุยกับเจ้าดี ๆ“หากว่าเจ้ารักษาสัญญาจะจากเราไปเมื่อครบสัญญาหนึ่งปี เราก็คงมิต้องโมโหเช่นยามนี้“แต่เจ้ากลับไม่ฟังคำเรา ทั้งยังยึดถือในวิถีของตนเองยิ่งนัก“เราจึงได้แต่จำเป็นจักต้องใช้วิธีการของเราเอง เพื่อบังคับให้เจ้ารักษาสัญญา”เฟิ่งจิ่วเหยียนใช้แรงกัดริมฝีปากของตนเองเอาไว้ เพื่อให้ตนเองได้สติอยู่เสมอเซียวอวี้ที่มองออกว่านางจักทำอันใดนั้น จึงเอ่ยเตือนขึ้นมาว่า“เรามิได้บอกแล้วหรือ หากเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 494

    เมื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นช่วงบ่ายแล้วเหลียนซวงที่คอยอยู่ข้างกายนาง แววตาเต็มไปด้วยความกังวลใจมากมาย“ฮองเฮาเพคะ ท่านเป็นเช่นไรบ้างเพคะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นนั่ง พร้อมทั้งพยายามรวบรวมพละกำลังของตนเองอีกครั้งกำลังภายในของนางฟื้นคืนมาแล้ว ทว่า ร่างกายกลับอ่อนแอยิ่งนักริมฝีปากของเฟิ่งจิ่งเหยียนซีดเผือด พร้อมแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย“ฮองเฮาเพคะ ฮูหยินเฟิ่งเข้ามาในวังเพคะ”การมาของฮูหยินเฟิ่งในครานี้ เพื่อมาเกลี้ยกล่อมเฟิ่งจิ่วเหยียนฮูหยินในยามนี้ดูจะแก่ลงมากนัก ทั่วร่างของนางคล้ายกับอ่อนแรงเต็มที“สถานะของเจ้า ฝ่าบาททรงล่วงรู้หมดแล้ว“พระองค์ยังเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้ามาในวังอีก ทั้งยังเล่าเรื่องของเจ้าอีกด้วย“เหตุใดลูกถึงสะเพร่าโง่เง่าเช่นนี้“ในเมื่อเจ้าแต่งให้กับฝ่าบาทแล้ว เหตุใดจึงอยากจากไปเล่า?“ฝ่าบาทมีพระเมตตา ไม่คิดถือสาหาความใดกับตระกูลเฟิ่งและตระกูลเมิ่งเรื่องโทษหลอกลวงเบื้องสูง ทั้งยังร่วมเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลาหนึ่งปีกับเจ้าอีก เจ้าลองคิดดู หากเรื่องสัญญาถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อใด ผู้คนหาได้ต่อว่าฝ่าบาทเป็นคนผิดในเรื่องนี้ไม่……”เฟิ่งจิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 495

    แววตาของเซียวอวี้พลันเต็มไปด้วยความมืดครึ้ม ก่อนจะกวาดสายตามองไปยังเศษกระเบื้องที่ตกลงบนพื้น ร่างสูงจึงลุกขึ้นยืนในทันทีพร้อมเงาร่างใหญ่ที่พาดผ่านลงมา“เราคือฮ่องเต้“ภายใต้อำนาจขององค์จักรพรรดินั้น หาได้มีอิสรภาพไม่“ไม่ว่าเจ้าจะโกรธก็ดี ไม่พอใจก็ดี เจ้าก็มิอาจฝ่าฝืนมันไปได้“หากเราเป็นเจ้า เราจักไม่มีทางใช้วิธีการที่โง่เง่าเช่นการท้าท้ายขีดจำกัดของฮ่องเต้เช่นนี้”น้ำเสียงที่เรียบนิ่งของเซียวอวี้พลางเจือไปด้วยความองอาจที่มิอาจฝ่าฝืนไปได้ความอ่อนโยนที่เกิดขึ้นยามที่อยู่ชายแดนใต้นั้น เป็นเพียงแค่ภาพลวงตาที่เขาทิ้งสถานะของฮ่องเต้เพียงชั่วครู่ เพื่อให้นางตายใจ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังเป็นฮ่องเต้ผู้เลือดเย็นอยู่เช่นเดิมเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันหัวเราะเยาะเย้ยกับตัวเอง“หม่อมฉินคิดว่า ท่านให้สิทธิ์หม่อมฉันได้เลือกเสียอีก”ที่เขาโกรธนั้น หาใช่เพราะนางปรับเปลี่ยนสัญญาเป็นครึ่งปีไม่ แต่เป็นเพราะเขาไม่คิดที่จะปล่อยนางไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วเซียวอวี้เชยคางของนางขึ้นมา ก่อนจะใช้แววตาเฉียบคมก้มลงไปมอง“มีสิ่งหนึ่งที่เจ้าสามารถวางใจได้“เรื่องระหว่างเรากับเจ้านั้น เราไม่มีทางใช้ตระกูลเฟิ่งแล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 496

    ไทฮองไทเฮาพลางมองดูบุคคลตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ“ฮองเฮา เจ้า เมื่อครู่เจ้าเอ่ยอันใดออกมากัน!”เฟิ่งจิ่วเหยียนพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีแน่วแน่ว่า“หม่อมฉันต้องการละทิ้งตำแหน่งฮองเฮาเพคะ”ผู้คนภายในตำหนักต่างก็มีท่าทีตกตะลึงไปในทันทีเกิดอันใดขึ้นกับฮองเฮาเช่นนั้นหรือ?“บังอาจ! เรื่องเช่นนี้ เราหาเคยได้ยินมาก่อนไม่! ฝ่าบาทเล่า? ฝ่าบาทรู้หรือไม่ว่าเจ้า…”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้มีท่าทีสะทกสะท้านอันใดไม่“ฝ่าบาทมิยินยอมเพคะ หม่อมฉันจึงได้มาขอร้องให้พระองค์ช่วยออกพระราชโองการให้กับหม่อมฉัน”ถึงแม้ว่าไทฮองไทเฮาจักมิชื่นชอบหลานสะใภ้คนนี้ทว่า เรื่องนี้กลับตึงมือพระนางอยู่เล็กน้อย“เจ้าต้องการออกจากวังหลวงจริง ๆ หรือ” ไทฮองไทเฮาเอ่ยถามนางเฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าลง“เพคะ”“ได้ เช่นนั้นข้า...”ยังมิทันที่ไทฮองไทเฮาจะพูดจบ ด้านนอกพลันมีน้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาในทันที“เรื่องนี้หาใช่เรื่องที่เสด็จย่าจักต้องมาเป็นกังวลไม่”ไทฮองไทเฮาพลันเงยหน้าขึ้น กลับเห็นใบหน้าที่มืดดำของฝ่าบาทเดินเข้ามา ทั้งยังเต็มไปด้วยท่าทีเป็นปรปักษ์กับเสด็จย่าเช่นนางอีกด้วย “ฝ่าบาท เจ้า...”เซียวอวี้เอามือโอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 497

    ด้านนอกตำหนักหย่งเหอ เหล่านางสนมทั้งหมดต่างพากันมานั่งคุกเข่าลงเป็นแถวพวกนางทั้งหมดล้วนแต่บ่นโอดครวญว่าฝ่าบาทปฏิบัติต่อฮองเฮาหาได้มีความเป็นธรรมไม่หากฝ่าบาทจักใจร้ายกับพวกนางก็พอแล้ว ฮองเฮาที่ดีเลิศเช่นนี้ เพื่อส่งข้าวสารอาหารแห้ง พระนางหาได้กังวลถึงความปลอดภัยของตนเองไม่ ผลลัพธ์ที่ได้เล่า?เพียงแค่หรงเฟยกลับมาที่วัง ฝ่าบาทก็กระทำตัวเย็นชาต่อฮองเฮาไปในทันที ทั้งยังสั่งให้นางปิดตำหนักสำนึกตนอีกมิแปลกใจเลยที่ฮองเฮาจะทรงเหนื่อยใจจนอยากจะสละตำแหน่งของตนเองทิ้ง เพื่อหนีออกไปจากวังหลวงหากแต่ฝ่าบาทกลับยืนกรานที่ขังคนผู้หนึ่งเอาไว้ในวังหลวงเช่นนี้ ช่างทำให้ผู้อื่นนึกโมโหยิ่งนัก!พวกนางทุกคนจึงพากันมารวมตัวเป็นอนึ่งอันเดียวกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเหล่านางสนมโดยส่วนมากล้วนมีพื้นเพมาจากครอบครัวตระกูลขุนนาง พวกนางต่างพากันลอบส่งจดหมายออกไป หวังว่าพวกเขาจักช่วยกดดันกับทางฝ่าบาทยามอยู่ในท้องพระโรงด้วยอีกทางหนึ่งเมื่อเซียวอวี้ได้ยินเช่นนั้น เขาพลันรู้สึกว่ามันไร้สาระยิ่งนักทว่า ฮองเฮาช่างมีความสามารถในการปลุกผู้คนให้ฮึกเหิมขึ้นมาจริง ๆเขายอมทำทุกวิธีทาง เพียงเพื่อต้องการจะรั้งนางเอา

최신 챕터

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1205

    ขณะที่องค์หญิงเซี่ยนอี๋กำลังถือพู่หยกอย่างพึงพอใจ ทันใดนั้นชายหนุ่มก็บีบคอของนาง  จนโซ่ที่ล่ามไว้ส่งเสียง“อึก!” นางพลันเบิกตากว้างไหนเสด็จพี่สี่บอกว่า ฮ่องเต้ฉีสูญเสียพลังภายในไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?เดิมทีเซียวอวี้คิดจะให้ความร่วมมือนาง เพื่อให้นางช่วยตัวเองหนีออกไปจากที่แห่งนี้ทว่า เขาประเมินความอดทนของตัวเองไว้สูงเกินไปเขาทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ!นางกล้าเอาพู่หยกนั้นไป!หลังจากเซียวอวี้บีบคอนาง นางก็พยายามชูพู่หยกไปด้านหลัง ไม่ยอมคืนให้เขาแต่ด้วยแรงมือของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ นางใกล้หมดลม แขนจึงหลุบลงเช่นนี้ เซียวอวี้จึงแย่งพู่หยกกลับมาได้ จากนั้นก็สะบัดนางออก ราวกับเพิ่งจับสิ่งของสกปรกมา ทั้งยังพูดอย่างไม่รักษาน้ำใจ“ไสหัวไป!”องค์หญิงเซี่ยนอี๋ได้รับความรักมาตั้งแต่เด็ก ไฉนเลยจะเคยถูกดูแคลนขนาดนี้นางไม่ยอม จึงจ้องเซียวอวี้ตาเขม็ง“ท่านจะต้องเสียใจ! นอกจากข้า ก็ไม่มีผู้ใดช่วยเจ้าออกไปจากที่นี่ได้!”เซียวอวี้ไม่สนใจนางอีกหากเพื่อหนีออกไป แล้วต้องร่วมเออออห่อหมกไปกับผู้หญิงคนนี้ เขากลัวสกปรกองค์หญิงเซี่ยนอี๋ถูกทำลายศักดิ์ศรี ลุกขึ้น แล้วยิ้มเยาะ“ท่านลำพองใจอะไรนัก? เป็

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1204

    องค์ชายสี่อ่านความคิดขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ออก จึงมีสีหน้าเคร่งขรึม“คนที่ขังอยู่ในนั้นคือใคร เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ต่อให้เสด็จพ่อจะตามใจเจ้าแค่ไหน ก็ไม่มีทางมอบเขาให้เจ้าแน่ เซี่ยนอี๋ เจ้าเลิกคิดเถิด”“หากท่านไม่บอก พรุ่งนี้ข้าจะมาอีก!” องค์หญิงเซี่ยนอี๋กอดอก พูดข่มขู่องค์ชายสี่กลัวเหลือเกินว่านางจะมาสร้างเรื่องวุ่นวายยัยเด็กนี่ดื้อรั้นมาตั้งแต่เด็ก ไม่ถึงเป้าหมายก็จะไม่ยอมหยุดครุ่นคิดอยู่นาน องค์ชายสี่ก็ตัดสินใจบอกนาง“นั่นคือฮ่องเต้ฉี คนที่เสด็จพ่อใช้ความพยายามอย่างมากในการจับตัวมา”ให้นางรู้ถึงตัวตนของคนผู้นั้น นางจะได้หวาดกลัวองค์หญิงเซี่ยนอี๋เบิกตาอ้าปากค้างในทันที จากนั้นใบหน้าก็ก่อเกิดริ้วแดง“เขาคือ…”นางไม่อยากจะเชื่อชื่อเสียงของฮ่องเต้หนุ่มจากหนานฉี นางเคยได้ยินมาเป็นเวลานานแล้วครั้งนี้ได้มาเจอ ช่างหล่อเหลาโดดเด่นอย่างที่ร่ำลือกันไม่มีผิดดูดีกว่าบรรดาราชบุตรเขยที่เสด็จพ่อให้นางเลือกเสียอีกและยังเป็นคนน่าเกรงขามถึงเพียงนั้น…องค์หญิงเซี่ยนอี๋จับชายเสื้อขององค์ชายสี่อย่างตื่นเต้น “เสด็จพี่ เสด็จพี่คนดีของข้า ข้ารับรองว่าจะไม่ทำเรื่องสำคัญของท่านกับเสด็จพ่อเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1203

    วังหลังเหล่าสนมต่างเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับราชสำนักส่วนหน้ามาบ้าง“ฮองเฮาจะให้เด็กเล็กขนาดนั้นขึ้นครองราชย์จริงหรือ? ช่างเละเทะเสียจริง!”“เห็นได้ชัดว่าหวังเพื่อควบคุมโอรสสวรรค์!”“นี่ก็เป็นส่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มิใช่หรือ ในเมื่อเหล่าขุนนางต่างพากันกดดันอย่างหนัก และยังมีทายาทในราชวงศ์ที่ไม่อยู่นิ่งอีกด้วย…”“ใช่สิ หากฮองเฮาไม่ทำเช่นนี้ พวกเราก็จะเดือดร้อนด้วย หากมีฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์  สิ่งแรกที่จะทำต้องเป็นการจัดวังหลังใหม่เป็นแน่”พวกนางกังวลเกี่ยวกับผลสรุปของราชสำนักส่วนหน้าหลังจากรอคอยอยู่หนึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็มีขันทีมารายงาน——องค์ชายน้อยได้ขึ้นครองบัลลังก์มังกรสำเร็จแล้ว แต่ยังมีคนยึดติดเรื่องฝาแฝดไม่ยอมปล่อยวาง บังคับให้ฮองเฮาต้องสังหารองค์ชายอีกองค์ทิ้งเมื่อเหล่านางสนมได้ยิน ก็เริ่มเป็นห่วงฮองเฮาขึ้นมาในฐานะเป็นแม่ จะทำใจทิ้งลูกแท้ ๆ ได้อย่างไร?ขุนนางใหญ่เหล่านั้นทำมากเกินไปแล้ว!ทว่า ฝาแฝดก็เป็นปัญหาจริง ๆ ไม่รู้ว่าฮองเฮาจะรับมืออย่างไรไม่นาน ก็มีขันทีมารายงานอีก“พระนางทุกท่าน เหล่าขุนนางได้สลายตัวแล้ว!”นางสนมทั้งหลายแปลกใจอย่างมากทำไมสลายต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1202

    เฟิ่งจิ่วเหยียนอุ้มลูก ยืนอยู่บนที่สูง แววตาสุขุมแน่วแน่“หากข้าอยากว่าราชการหลังม่าน แล้วเหตุใดจะไม่ได้?”เมื่อคำนี้พูดออกมา ทุกคนต่างส่งเสียงเกรียวกราว“ฮองเฮา ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับให้แม่ไก่มาขันในตอนเช้า นั่นฝ่าฝืนกฎเกณฑ์!”“ขออภัยกระหม่อมขอคัดค้าน!”ไทฮองไทเฮามีสีหน้าโรยรา มองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียน แล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอาฮองเฮาทำเช่นนี้ มันเสี่ยงมากเกินไปพูดตรงขนาดนี้ ขุนนางคนไหนจะยอมรับได้?เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความอดทนมากขนาดนั้น จึงวางองค์ชายลงบนบัลลังก์“ไม่ต้องกล่าวถึงว่าฝ่าบาทยังไม่เสด็จสวรรคต ถึงแม้ว่าท่านเป็นอะไรไปจริง ๆ ก็ยังมีองค์ชายสืบราชบัลลังก์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงเวลาสำหรับทุกท่านหรอก“วันนี้พวกเจ้าต่างพูดกันเซ็นแซ่ ราวกับอยากวางแผนชิงบัลลังก์เลยนะ!”ทหารคนหนึ่งโต้กลับไปอย่างฮึกเหิม“ฮองเฮา พวกกระหม่อมบริสุทธิ์ใจ กลับถูกท่านหยามเกียรติเช่นนี้! พวกกระหม่อมไม่ยอม!”ท่านอ๋องผู้หนึ่งมองไปทางไทฮองไทเฮา“เสด็จย่า ท่านพูดอะไรบ้างสิ!”เด็กทารกจะไปทำอะไรได้? คุ้มครองแผ่นดินไหวหรือ?จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็บอกว่าปวดหัว แล้วให้สาวใช้ประคองตัวเองออกไปเหล่าท่านอ๋องต่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1201

    แคว้นหนานฉีณ เมืองหลวงเรื่องที่ฮองเฮากลับวัง และให้กำเนิดฝาแฝด ใต้หล้าต่างรู้กันถ้วนหน้าอย่างรวดเร็วในวังหลวง ไทเฮาทั้งดีใจที่องค์ชายถือกำเนิดขึ้นมา ทั้งกังวลเรื่องฝาแฝดนางเรียกฮองเฮามาที่ตำหนักฉือหนิง ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดกับอีกฝ่าย“หากราชวงศ์มีฝาแฝด โดยเฉพาะองค์ชาย เช่นนั้นก็ต้องส่งคนหนึ่งออกไปนอกวัง“ฮองเฮา ข้ารู้ ไม่ว่าจะหน้ามือหรือหลังมือล้วนคือเลือดเนื้อ แต่เพื่อราชวงศ์ เจ้าต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด”ขนาดตอนนั้นตระกูลเฟิ่งมีลูกแฝดยังทอดทิ้งหนึ่งคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์ใบหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ กล่าวเหมือนไม่ได้ยิน“เด็กทั้งสองคน จะไม่มีใครถูกส่งออกไปทั้งนั้น”เซียวอวี้เองก็เคยพูด เขาจะปกป้องลูกของตัวเองไทเฮารู้เป็นอย่างดีว่าการเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่กฎก็เป็นเช่นนี้“ฮองเฮา อย่าหาว่าข้าใจร้ายเลย แม้นข้าจะยินยอม ขุนนางใหญ่เหล่านั้นก็คงไม่ยอมอยู่ดี“วันนี้อยากให้เจ้าเตรียมพร้อม“สุดท้ายเจ้าก็ต้องตัดสินใจ”วังหลังเหล่านางสนมรวมตัวกัน ต่างคนต่างมีความคิดแตกต่างกัน“มีคนบอกว่าฝ่าบาทเกิดเรื่อง  จริงหรือไม่?”“มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1200

    เซียวอวี้ที่ยังคงคอพับไร้เรี่ยวแรง ยกยิ้มเย็นที่มุมปากอย่างถากถางเขาไม่พูดอะไร ท่าทางทะนงองอาจคนที่อยู่ตรงหน้าแนะนำตัว “ข้าคือองค์ชายสี่แห่งแคว้นเป่ยเยี่ยน ครั้งนี้มาเป็นตัวแทนของเสด็จพ่อ เพื่อแสดงไมตรีในฐานะเจ้าบ้านต่อฮ่องเต้หนานฉี”เมื่อองค์ชายสี่มองส่งสัญญาณ ข้ารับใช้ก็นำอาหารเข้ามาเซียวอวี้ไม่แม้แต่จะมององค์ชายสี่มีความอดทน เขาพูดด้วยรอยยิ้ม“ฮ่องเต้หนานฉี พวกเราแคว้นเป่ยเยี่ยนเชิญท่านมาเป็นแขกด้วยความจริงใจ“เพียงแต่ข้างนอกอันตรายเกินไป จึงได้แต่จัดให้ท่านอยู่ที่นี่“ท่านวางใจเถิด รอให้แคว้นเป่ยเยี่ยนขับไล่กองทัพแคว้นหนานฉีออกไปจนได้ดินแดนที่สูญเสียไปคืนมา ย่อมปล่อยตัวท่านกลับไป”ริมฝีปากบางของเซียวอวี้ยิ้มเยาะเบา ๆพูดเสียดูดี ที่จริงก็แค่เอาเขาเป็นตัวประกัน ทำให้กองทัพแคว้นหนานฉีต่อต้านไม่ได้ก็เท่านั้นองค์ชายสี่เห็นเขาเยือกเย็นเพียงนี้ จึงขอตัวไปก่อนทว่าเมื่อออกมาด้านนอก องค์ชายสี่ก็พูดอย่างเย้ยหยัน“ตกเป็นเชลยแล้วยังจะโอหังเพียงนี้!”ที่ปรึกษาที่อยู่ข้างกายเขาพูด“องค์ชาย ฝ่าบาททรงมอบหมายเรื่องนี้ให้ท่าน ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป ได้ยินว่าฮ่องเต้หนานฉีผ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1199

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพรวมเป็นสำคัญ จึงต้องกลับแคว้นหนานฉีก่อนอู๋ไป๋วิตกกังวล“ท่านประมุข กระหม่อมกลัวว่านักฆ่าพวกนั้นจะลงมือกับท่านด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าท่านประมุขเพิ่งจะคลอดลูก จะทนรับแรงสั่นสะเทือนจากการเดินทางได้เช่นไร?สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา“กลับแคว้นหนานฉี”ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใดก็ต้องกลับไปกลัวก็กลัวแต่ เป้าหมายของนักฆ่าพวกนั้นคือก่อกวนแคว้นหนานฉี นางจะปล่อยให้พวกเขาสมหวังไม่ได้เด็ดขาดก่อนที่จะตามหาเซียวอวี้เจอ นางจะต้องช่วยเขาปกป้องแคว้นหนานฉีเอาไว้ให้ได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดการเรื่องในแคว้นซีนี่ว์ไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงว่าจะจัดการขับไล่กองทัพแคว้นเป่ยเยี่ยนอย่างไร ไปจนถึงผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นคนใหม่ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ประมุขคนใหม่ใช้อำนาจอย่างเผด็จการ นางจึงจัดตั้งนโยบายสามประมุขขึ้นในบรรดาสามคนนี้ มีคนหนึ่งเป็นบุรุษทำเช่นนี้จะได้ปลอบโยนเหล่าบุรุษในแคว้นซีนี่ว์ ป้องกันไม่ให้พวกเขาสร้างเรื่องวุ่นวายอีกเฟิ่งจิ่วเหยียนออกเดินทางกลับแคว้นหนานฉีอย่างรวดเร็วแม้ว่าหูย่วนเอ๋อร์จะตัดใจไม่ลง ทว่านางก็รู้ดีถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1198

    ประตูตำหนักเปิดออก นางกำนัลเดินออกมาจากด้านในแล้วพูดกับหูย่วนเอ๋อร์: “ท่านแม่ทัพ ท่านประมุขคลอดองค์ชายพระองค์หนึ่งออกมาอย่างปลอดภัยเพคะ”ที่แคว้นซีหนี่ว์ มีเพียงองค์หญิงเท่านั้นที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขได้ ดังนั้นองค์ชายผู้นี้จึงไม่เป็นที่ต้องการทว่าหูย่วนเอ๋อร์ยังคงรู้สึกขอบคุณสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง“องค์ชายก็ดี ปลอดภัยก็ดีแล้ว”ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสายเลือดเชื้อพระวงศ์เพิ่งจะพูดจบ หมอตำแยข้างในก็ร้องตะโกนอย่างตกใจ“ยังมีอีกพระองค์หนึ่ง!”ที่แท้ท่านประมุขก็ทรงตั้งครรภ์ฝาแฝดนี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของทุกคนแววตาหูย่วนเอ๋อร์มีความยินดีและการเฝ้ารอพาดผ่านหวังว่าจะเป็นแฝดชายหญิงหากเป็นองค์หญิง อนาคตย่อมสามารถสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นได้ภายในตำหนักเฟิ่งจิ่วเหยียนนึกไม่ถึงว่าคลอดออกมาแล้วคนหนึ่ง แล้วยังมีอีกคนโชคดีที่นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ยังใช้แรงไปไม่หมดก่อนหน้านี้เป็นเพราะตำแหน่งครรภ์ไม่ตรงจึงคลอดยากคนที่สองนี้กลับคลอดง่ายกว่ามาก ทว่าตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้สึกอะไรแล้ว นางเจ็บปวดจนชาไปหมดแล้ว ร่างกายส่วนล่างบวมเสียจนเหมือนว่าเนื้อส่วนนั้นไม่ใช่ของนางอีกต่อไปจนกร

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status