แชร์

บทที่ 414

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 18:44:59
เป็นครั้งแรกที่เซียวอวี้ มองเห็นดวงตาของนางเปล่งแสงประกายเช่นนี้

รอบด้านเงียบสงบ ดูเหมือนขอเพียงนางมองดูเขาเช่นนี้ เขาจะตอบสนองนางได้ทุกอย่าง

แต่เขาก็ใช่ว่าจะไม่ได้เรื่องขนาดนั้น

หลังจากขาดสติไปชั่วขณะ เขาก็กลับมาเคร่งขรึมเย็นชาเหมือนปกติ พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉย

“ปีที่สองที่เราขึ้นครองราชย์ กองกำลังทหารทั้งสี่แคว้นร่วมมือกันโจมตีแคว้นหนานฉี เราออกไปทำศึกด้วยตนเอง หลังจากการศึกครั้งใหญ่จบสิ้นลงแล้วกลับแคว้น เดินทางผ่านป่าหมอกหนาทึบ

“ในป่าทึบนั่น มีนักฆ่าซุ่มอยู่กลุ่มหนึ่ง”

“ตอนที่เราต่อสู้กับนักฆ่า พลางมีคนคลุมหน้าผู้หนึ่ง ปล่อยสิ่งมีชีวิตที่คล้ายมังกรพสุธาออกมา เราถูกมันกัด ทำให้ถูกพิษ ภายหลังค่อยรู้ว่า นั่นคือพิษวารีสวรรค์”

เฟิ่งจิ่วเหยียนก็รู้ พิษวารีสวรรค์นั้น เป็นการเลี้ยงผ่านมังกรพสุธา แต่ละวันนั้นจะให้มันกินยาพิษชนิดพิเศษ ไม่นาน มันก็จะสะสมเป็นพิษชนิดรุนแรง “วารีสวรรค์” ในตัว

การเลี้ยงวารีสวรรค์ตัวหนึ่ง ต้องใช้เวลาสิบปี

และใช่ว่ามังกรพสุธาทุกตัว ล้วนดูดซึมยาพิษพวกนั้น มีชีวิตรอดมาอย่างราบรื่น จนกลายเป็นวารีสวรรค์

ดังนั้น พิษวารีสวรรค์นั้นพบเห็นได้ยาก

นางฟังเซียวอวี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
WLFJ
หรือว่าพี่ต้วน จริงๆ ยังไม่ตาย แต่เป็นคนทำพิษวารีย์แก้แค้นฝ่าบาท ?
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 415

    เฟิ่งจิ่วเหยียนเสนอให้เปิดเผยความจริงต่อสาธารณชน เพื่อไม่ให้ราษำรเข้าใจผิดต่อไปทว่าแววตาเซียวอวี้ เยือกเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง“ไม่จำเป็น”คราวนี้กลายเป็นนางที่ไม่เข้าใจหลักการเปรียบเทียบประโยชน์สองสิ่งแล้วเลือกสิ่งที่ให้ประโยชน์มากกกว่า ในฐานะที่เขาเป็นจักรพรรดิ ไม่เข้าใจหรือ?เซียวอวี้ค่อนข้างจริงจัง“หากเปิดเผยความจริงว่าเมิ่งเฉียวม่อเป็นตัวปลอม ตระกูลเมิ่งนั้นยากที่จะหลุดพ้นความผิด ตลอดจนค่ายทหารเหนือนับพันหมื่น”ต่อให้ทหารเหล่านั้นไม่รู้ความจริง หากอยากลงโทษ ย่อมมีเหตุผลหรือหาข้ออ้างได้เสมอหากผู้ใดมีเจตนาฉวยประโยชน์ ทั่วทั้งค่ายเป่ยต้าก็จะวุ่นวายเก็บความลับนี้ไว้ เขายังสามารถปกป้องตระกูลเมิ่งกับทหารเหล่านั้นหากเปิดสู่สาธารณชน เขาจะต้องดำเนินการอย่างยุติธรรม มิฉะนั้นจะควบคุมได้ยากเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่พูดอะไรในความรู้สึกส่วนตัวของนาง ยอมเข้าข้างพวกอาจารย์เพียงประหลาดใจไม่น้อย เพื่อพวกเขาแล้ว เซียวอวี้ยอมให้คนเข้าใจตนเองผิดแน่นอนว่า สิ่งที่เซียวอวี้คำนึงถึง ไม่ได้มีเพียงเท่านี้เขาพูดต่อไปอีก“เมิ่งสิงโจวเป็น ‘เทพสงคราม’ ของค่ายเป่ยต้า การตายของเขา จะก่อให้เกิดคลื่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 416

    ตำหนักซินฮุ่ยจิ้งเฟยนั่งอยู่ตรงหน้าคันฉ่อง แววตาค่อนข้างล่องลอยสาวใช้ชิวหงอดเห็นใจไม่ได้“พระนาง ดึกแล้วเจ้าค่ะ”ฝ่าบาทไม่เสด็จ พระนางก็จะไม่นอนไม่ได้จิ้งเฟยพึมพำด้วยเสียงเบา“ใช่ ดึกแล้ว”เวลานี้ ฮองเฮากำลังร่วมบรรทมหรือไม่?เดิมนางยังสามารถปลอบโยนตนเอง บางทีฮองเฮาอาจจะเหมือนกับนาง เป็นกลลวงที่ฝ่าบาทใช้หลอกคนอื่น ไม่ได้ร่วมบรรทมจริง ๆ ทว่า หากเป็นความเท็จ ฝ่าบาทมีความจำเป็นต้องรับสั่งให้เข้าไปอยู่ในตำหนักจื้อเฉินหรือ?ที่นั่นเป็นสถานที่ แม้แต่หรงเฟยก็เหยียบย่ำเข้าไปน้อยครั้งมากสามารถเห็นได้ว่า ฝ่าบาทรักใคร่โปรดปรานฮองเฮาจากใจจริงแล้วนางถือว่าเป็นอะไรกัน?นางใช้ทุกวิถีทาง ก็ไม่สามารถทำให้ฝ่าบาทหันมามองนางค่ำคืนนี้ ถูกกำหนดให้ยากที่จะข่มตาหลับเช้าวันรุ่งขึ้นในที่ว่าราชการเช้าเหล่าขุนนางยังถกเถียงกันเรื่องการตายของเมิ่งเฉียวม่อ“ฝ่าบาท แม่ทัพน้อยเมิ่งมีสถานะอันสูงส่งอยู่ในใจประชาชน นางตายไป ชื่อเสียงของท่านในหมู่ประชาชนไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน เรื่องนี้จะมองข้ามไม่ได้!”“ฝ่าบาท แม้แต่ญาติพี่น้องของกองทัพมังกรพยัคฆ์ ยังล้วนออกมาพูดว่า แม่ทัพน้อยเมิ่งไม่สมควรตาย”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 417

    “กระหม่อมเพียงได้ยินมาว่า แม่ทัพน้อยเมิ่งกับหมอทหารคนหนึ่งมีมิตรภาพอันลึกซึ้ง ถูกเล่าขานกันว่าเป็นชายรักชาย”รุ่ยอ๋องพูดถึงตรงนี้ ก็ครุ่นคิดแล้วพูดขึ้นมา “แต่กระหม่อมคิดว่า น่าจะเป็นเพียงเรื่องเล่าขาน ความจริงเป็นเพียงสหายที่ทำงานร่วมกัน”สีหน้าเซียวอวี้เคร่งขรึมขึ้นมา“หมอทหารผู้นั้นมีชื่อเรียกว่าอะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน”“กระหม่อมจำได้เพียงว่า ดูเหมือนเขาจะสกุลต้วน”สกุลต้วน?เซียวอวี้คิดถึงเข็มเชียนอวี่ขึ้นมาทันทีหมอทหารผู้นั้น เป็นไปได้อย่างมากที่จะเป็นผู้สืบทอดตระกูลต้วน!รุ่ยอ๋องไม่รู้ว่าฝ่าบาทถามเรื่องเหล่านี้ทำไม เขากลับมาพูดเข้าเรื่องจริงจัง“ฝ่าบาท ในเมื่อเมิ่งเฉียวม่อไม่ใช่แม่ทัพน้อยเมิ่งตัวจริง แล้วทำไมท่านถึงไม่นำเรื่องนี้เปิดเผยต่อสาธารณะ?”แววตาเซียวอวี้มืดมน“เรามีแผนของเราเอง”สิ่งที่เขาคิดในตอนนี้ก็คือ หมอทหารสกุลต้วนคนนั้น……ด้านนอกห้องทรงพระอักษรเฉินจี๋เห็นรุ่ยอ๋องออกมา ก็ถวายความเคารพอย่างนอบน้อมบนใบหน้าของเขาไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใด แลดูเรียบร้อย กลับมีคำพูดมากมายอยู่ในใจคิดไม่ถึงว่า คนจิตใจดีมีน้ำใจอย่างรุ่ยอ๋อง เป็นคนที่สตรีนับพันหมื่นหลงรัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 418

    ภายในตำหนักมีเสียงกรีดร้องขึ้นมาราวกับหมูถูกเชือด“สารเลว! ผู้ใดป่วย? เจ้าว่าผู้ใดสติฟั่นเฟือน? ข้าสบายดีมาก! อ้าก! พวกเจ้าจะทำอะไร!”อาจเป็นเพราะองค์หญิงใหญ่มีปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรง ไทเฮาจึงสั่งคนมัดไว้ผ่านไปสักพัก องค์หญิงใหญ่ถูกมัดไว้บนเตียง นางดิ้นรน บิดเคลื่อนไหวไปมา ตะโกนพูดกับไทเฮาที่อยู่ข้างประตู“เสด็จแม่! ช่วยข้าด้วย!”ไทเฮาก็ทำใจไม่ได้“ฉีเอ๋อร์ เสด็จแม่กำลังช่วยเจ้า”องค์หญิงใหญ่รู้สึกงงงวยนางเย็บปักถุงหอมอยู่ดี ๆ เสด็จแม่กลับคิดว่านางป่วย“ฮองเฮา...ไปตามฮองเฮา!” องค์หญิงใหญ่ตะโกนสั่งสาวใช้เวลานี้หนิงเฟยยืนอยู่ด้านข้างไทเฮาอย่างหวาดกลัวตามฮองเฮาทำไม?พี่หญิงคงไม่ได้บ้าไปแล้วจริง ๆ มั้ง?……ตำหนักหย่งเหอเฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังพลิกอ่านตำราโบราณ เพื่อหาภาพงูเก้าหางนั่นซุนหมัวมัววิ่งเข้ามาในตำหนักอย่างกะทันหัน พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงหายใจหอบ“ฮองเฮา! แย่แล้ว! ทางด้านตำหนักฉือหนิง...องค์หญิงใหญ่นาง นางอาละวาดขึ้นมาแล้ว...”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วขึ้นมา“มีเรื่องอันใด”“เห็นพูดว่าเพราะการตายของแม่ทัพน้อยเมิ่ง องค์หญิงเสียใจสิ้นหวัง มีพฤติกรรมผิดปกติ ไทเฮาจึงให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 419

    ตำหนักจื้อเฉิน ยามกลางคืนเซียวอวี้เตรียมจะบรรทมแล้ว กลับเห็นฮองเฮากำลังอ่านตำราอยู่เขาเดินไปถาม “ตำรานี้มีอะไรน่าดูขนาดนั้นเชียวหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบอย่างไม่เงยหน้าขึ้นมา“ข้าได้สั่งคนไปสืบรายการซื้อขายผ้าไหมหัวหลัวในหลายปีมานี้แล้ว มีเวลาว่าง จึงค้นหาดูเบาะแสของภาพงูเก้าหาง” เซียวอวี้เดินไปแย่งตำราเล่มนั้นมา ทำให้นางต้องเงยศีรษะขึ้นมามองดูเขา“อาจจะเป็นเพียงภาพสัญลักษณ์ธรรมดา”“อาจจะใช่” เฟิ่งจิ่วเหยียนอยากเอาตำรากลับคืนมา กลับได้ยินเขาเอ่ยถาม“ค่ายเป่ยต้ามีหมอทหารสกุลต้วน วิชาเข็มเชียนอวี่ เขาเป็นคนสอนเจ้าใช่หรือไม่?”แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเซียวอวี้ถามต่ออย่างหมดความอดทน“เราต้องการฟังความจริง เป็นเขาใช่ไหม”เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบด้วยแววตาเยือกเย็นชา “ใช่เพคะ”ในใจเซียวอวี้อัดอั้นเข็มเชียนอวี่ของตระกูลต้วน ไม่สืบทอดให้กับคนนอก นอกเสียจากเป็นคนกันเองในตระกูลกันเองความสัมพันธ์ระหว่างนางกับหมอทหารคนนั้น จะต้องไม่ธรรมดาแน่เมื่อคิดได้เช่นนี้ เซียวอวี้ลองถามขึ้นมา“เจ้ารู้ไหม ตระกูลต้วนสมรู้ร่วมคิดก่อกบฏ ถูกประหารเก้าชั่วโคตร? คนนั้นเป็นคนของตระกูลต้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 420

    สิ่งที่ฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้บอกเซียวอวี้ก็คือ ต้วนไหวซวี่ตายเพราะช่วยนางพิษวารีสวรรค์นั่น เดิมนั้นพุ่งเป้ามาที่นาง ต้วนไหวซวี่ช่วยรับแทนนางนางก็ไม่ได้บอกเซียวอวี้ ต้วนไหวซวี่ถ่ายทอดเคล็ดวิชาเข็มเชียนอวี่ให้นางแล้ว แต่นางมัวแต่ทำศึก เรียนรู้ได้ครึ่งเดียวดังนั้นหลังจากที่เขาถูกพิษ ต่อให้นางรีบเรียนรู้อีกครึ่งหนึ่ง ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาไว้ได้...ด้วยเหตุนี้ ทำให้นางไม่สามารถให้อภัยตนเองไปตลอดค่ำคืนนี้ คนมากมายไม่อาจข่มตานอนเซียวอวี้ฝึกวิชามวยกับเหล่าองครักษ์ทั้งคืนเหล่าองครักษ์ลำบากรันทดจนไม่รู้จะพูดยังไงจิ้งเฟยรอคอยวันพรุ่งนี้ ที่จะได้ออกจากวัง ร่วมเดินทางไปกับฝ่าบาท ไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้ ลืมตาจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นยามเช้าตรู่ จิ้งเฟยก็เก็บของเสร็จเรียบร้อย พร้อมกับของเซ่นไหว้องครักษ์ที่รับผิดชอบรับส่ง เตรียมรถม้าเสร็จเรียบร้อยนางสนมออกจากวัง ออกทางประตูด้านข้างจิ้งเฟยไม่ยอมขึ้นรถม้า พร้อมถามองครักษ์“ฝ่าบาทยังว่าราชการเช้าไม่เสร็จหรือ?” ชิวหงก็มองดูเส้นทางเดินทอดยาวในวัง รอคอยเงาร่างของจักรพรรดิเหล่าองครักษ์ต่างมองหน้ากันจากนั้นก็มีคนหนึ่งเดินออกมาเอ่ย “จิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 421

    การที่ฝ่าบาททรงมาเยือนจวนตระกูลเฟิ่งด้วยพระองค์เองนี้ เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ตระกูลเฟิ่งทุกคนตั้งแต่ระดับบนไปจนถึงระดับล่างต่างตื่นตระหนก“ถวายบังคมฝ่าบาทและฮองเฮา!”นายท่านเฟิ่งยืนอยู่ด้านหน้าสุด ด้านหลังคือฮูหยินเฟิ่ง อี๋เหนียงหลินที่เป็นอนุ ยังมีลูกสะใภ้สกุลโจว ไปจนถึงน้องชายต่างมารดาผู้ไม่เอาไหน เฟิ่งหมิงเซวียนเฟิ่งหมิงเซวียนกลัวฮ่องเต้อย่างที่สุดเขาทำตัวราวกับเต่าหัวหดที่ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ายามนั้นเขากระทำความผิดค้าขายตำแหน่งขุนนาง ได้รับลงโทษหนักจนถึงยามนี้เขายังคงจำได้ว่า ยามนั้นที่ขอร้องฝ่าบาทให้ยกโทษให้เขา ตอนที่เขาตะโกนเรียกฝ่าบาทว่าพี่เขย สายตาของฝ่าบาทเต็มไปด้วยรังสีอาฆาตและความเกลียดชังนี่เป็นครั้งแรกที่อี๋เหนียงหลินได้พบโอรสสวรรค์ จึงเกิดความรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจแม้วันนี้เซียวอวี้จะไม่ได้สวมชุดมังกร ทว่าก็ยังน่าเกรงขามจนผู้คนไม่กล้าที่จะสบตา“ลุกขึ้น”“ฝ่าบาททรงมาเยือน นับเป็นเกียรติของจวนกระหม่อมยิ่งนัก!” นายท่านเฟิ่งเองก็เป็นผู้มีความสามารถโดดเด่นทางด้านวรรณกรรมเช่นกัน ทว่าด้วยสถานการณ์เบื้องหน้าเขานึกคำไม่ออกแล้วจริง ๆเซียวอวี้ตอบอย่างเคร่งขรึม“เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 422

    ดูเหมือนว่าเฟิ่งหมิงเซวียนจะเสพติดการตะโกนเรียก ’ ‘พี่เขย’ เสียแล้วเซียวอวี้ไม่ถือสาเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังรับสุราคารวะจากเขาทั้งหมดอีกด้วยเฟิ่งจิ่วเหยียนกลับไม่มีรอยยิ้มเลยซักนิด สายตาที่นางมองเฟิ่งหมิงเซวียนราวกับมีมีดดาบอยู่ในนั้นดวงจันทร์ปรากฏขึ้นบนฟ้าเหนือยอดต้นหลิว จวนตระกูลเฟิ่งกลับยังคงคึกคักเป็นอย่างมากเฟิ่งเหยียนเฉินที่เลิกงานกลับมา ได้ยินเสียงเฟิ่งหมิงเซวียนร่ายกลอนดังมาแต่ไกล“มีแขกหรือ?” เขาถามข้ารับใช้ที่กำลังยกอาหารเดินผ่านมาข้ารับใช้ผู้นั้นรีบตอยเขาทันที “เป็นฝ่าบาทกลับบ้านมาเยี่ยมญาติเป็นเพื่อนฮองเฮาขอรับ!”เฟิ่งเหยียนเฉินตกตะลึงเป็นอย่างมากฮองเฮาทรงมาเยี่ยมญาติ เหตุใดจึงไม่แจ้งจวนตระกูลเฟิ่งล่วงหน้า?ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ฝ่าบาททรงเสด็จมาเองด้วยเขาไม่ได้ฟังผิดใช่หรือไม่?เมื่อเฟิ่งเหยียนเฉินเดินไปที่โถงหลักก็พบฝ่าบาทเข้าจริง ๆเขารีบถวายคำนับทันที“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาทและฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้ที่ดื่มไปแก้วแล้วแก้วเหล้า สายตาเริ่มเยิ้มด้วยความมึนเมาทว่าเขายังคงรักษาความน่าเกรงขามของผู้เป็นฮ่องเต้เอาไว้ได้ราวกับไม่ได้เมาแต่อย่างใด“ไม่ต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 446

    เซียวอวี้ที่เกือบจะเดินไปถึงประตูหน้าตำหนักแล้วนั้น พลันได้ยินเฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยเรียกเขาขึ้นมา“กษัตริย์ของแผ่นดินควรจักมีความใจเย็นและควบคุมสติอารมณ์ของตนเอง ยามนี้ท่านกำลังทำอันใดอยู่กัน?”เมื่อเซียวอวี้หันกายกลับมานั้น พลันเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนยกฉากกั้นขึ้นมาแล้วฉากกั้นที่หนักเช่นนั้น นางกลับ “ยก” มันขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย เซียวอวี้จึงเอ่ยเยาะเย้ยออกมาด้วยความเย็นชา“หากเรายังไม่ใจเย็นพอ นั่นก็เป็นเพราะถูกความเย็นชาของเจ้าบีบบังคับมัน”ผู้ใดจักทนความเฉยเมยของนางได้กัน?เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูเขาด้วยท่าทีสงบนิ่ง“หากว่าข้าเอ่ยคำโกหกออกไป ท่านจักชอบฟังมันเช่นนั้นหรือ?”เซียวอวี้พลันตวาดออกมาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์“ใช่ เราชอบฟังเรื่องโกหก!”“ได้ ข้าสนใจเรื่องนั้นเป็นอย่างมาก หากท่านไปโปรดปรานมู่หรงฉานแล้วไซร้ ข้าจะรู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์นางตั้งใจที่จะทำให้เขารู้ว่า คำโกหกนั้นหาได้ฟังดูดีเสมอไปไม่เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือการทำให้เขาใจเย็นลง แล้วมานั่งหารือเรื่องจักทำเช่นไรถึงจะจัดการจับตัวผู้วางยาพิษให้ได้ไวที่สุดเซีย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 445

    เซียวจั๋วที่ขาดแคลนเงินทอง แต่ก็ยังคงพาเฟิ่งจิ่วเหยียนมาที่ร้านอาหารเฟิ่งจิ่วเหยียนนึกสงสัยยิ่งนัก เขามิคิดจะมีท่าทีระวังตัวจากผู้อื่นเลยหรือ?“อาหารพวกนี้พอหรือไม่?” เซียวจั๋วแสดงท่าทีเป็นมิตรต่อนาง ราวกับว่าเขาหาได้มีท่าทีสงสัยที่นางพยายามจะบุกรุกเข้าไปในบ้านของชาวบ้านไม่ ทั้งยังเห็นนางราวกับเป็นสหายที่พามากินข้าวก็ไม่ปาน ทั้งยังมิคิดเอ่ยถามนามของนางอีกเฟิ่งจิ่วเหยียนกวาดสายตามองเขาเซียวจั๋วแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดา ทั้งยังมีรอยปะชุนอยู่บนเสื้อผ้าอีกหากใครได้พบะเจอคนผู้นี้ละก็ คงคิดไม่ถึงแน่ ๆ ว่าครั้งหนึ่งเขาจักเคยเป็นองค์รัชทายาทแห่งแคว้นหนานฉีมาก่อนเซียวจั๋วและเซียวอวี้มีความคล้ายกันยิ่งนัก หากแต่ลักษณะนิสัยของพวกเขากลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเซียวอวี้มีท่าทีโหดเหี้ยวอำมหิต ทั้งยังเต็มไปด้วยพละกำลังที่แข็งแกร่งและทรงอำนาจเซียวจั๋วกลับมีท่าทีคล้ายกับบัณฑิตที่มีความอ่อนโยนสง่างาม ทำให้ผู้คนอยากจะเข้าใกล้เขาลักษณะเด่นตรงจุดนี้คล้ายกับรุ่ยอ๋องยิ่งนักเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยเข้าประเด็นในทันที“เมื่อครู่ คุณชายรู้จักคนในครอบครัวนั้นงั้นหรือ?”เซียวจั๋วหาได้ตอบนางไม่ พ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 444

    มู่หรงฉานตกตะลึงไปในทันที“ร่วมบรรทม? กงกงมิได้ประกาศผิดไปใช่หรือไม่? ไทฮองไทเฮาประชวรหนักเช่นนี้ เหตุใดฝ่าบาทถึง…”หลิวซื่อเหลียงพลันพยักหน้าลงด้วยท่าทีนอบน้อม“กุ้ยเหรินได้ยินไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ บ่าวก็มิได้ประกาศผิดไปเช่นกัน ท่านเสด็จกลับไปก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”มู่หรงฉานมองยังประตูหน้าตำหนักด้วยท่าทีเป็นกังวล“กงกง ไทฮองไทเฮาในยามนี้เป็นเช่นไรบ้างเพคะ? หากข้ามิได้เข้าไปเยี่ยมคงมิอาจวางใจได้ ได้โปรด ท่านช่วยไปทูลขอเข้าเฝ้าให้ข้าที”มู่หรงฉานทำทีว่าตนเองหาได้สนใจเรื่องการร่วมบรรทมไม่ ทั้งยังเอาแต่สนใจเรื่องอาการป่วยของไทฮองไทเฮาเท่านั้นหลิวซื่อเหลียงจึงตอบกลับไปด้วยความพอดีว่า“เนื่องจากฝ่าบาทมีรับสั่งว่ามิให้ผู้ใดเข้าพบ กุ้ยเหรินรั้งรอก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ บ่าวทูลกล่าวมากไปย่อมไร้ความหมาย”มู่หรงฉานจึงได้ยอมแพ้หลังจากออกจากตำหนักวั่นโซ่วแล้วนั้น นางกำนัลรับใช้ชิวหงก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป“กุ้ยเหรินเพคะ อีกไม่นานฝ่าบาทก็จะกลับมาโปรดปรานท่านเช่นเดิมแล้ว ทำเอาบ่าวนึกตกใจยิ่งนัก!”นางครุ่นคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ไทฮองไทเฮาประชวรหนักถึงเพียงนี้ เหตุใดฝ่าบาทถึงมีกระจิตกระใจทำเช่นนั้นได้?ทว่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 443

    ภายในตำหนักวั่นโซ่ว หมอหลวงคล้ายกับมีดาบจ่ออยู่ที่ลำคอ พลางเอ่ยรายงานออกมาด้วยท่าทีระมัดระวัง“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ไทฮองไทเฮามีอาการเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง นับว่าอันตรายเป็นอย่างยิ่ง!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวอวี้จึงรีบก้าวเดินเข้าไปด้านในใบหน้าของเขาพลันมืดมนไปในทันทีถึงอย่างไร ญาติที่ยังหลงเหลืออยู่ในโลกนี้ของเขาก็หาได้มีมากไม่ด้านในตำหนัก ไทฮองไทเฮานอนอยู่บนเตียงด้วยความอ่อนแรง พลางมองเซียวอวี้ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและมิอยากจาก“ฝ่าบาท……”เซียวอวี้ก้าวขึ้นไปข้างหน้า พลางจับมือนางเอาไว้“เสด็จย่า” เซียวอวี้พยายามกดน้ำเสียงของตัวเองเอาไว้จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็ล้มป่วยลงเช่นนี้ ทำให้พระนางเอ่ยพูดออกมาได้อย่างติดติดขัดขัด ทั้งยังใช้เรี่ยวแรงเป็นอย่างมากพระนางพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงของตนเองออกมา ทำเอาเส้นเลือดบนลำคอถึงกับปูดบวมขึ้น พลางเอ่ยออกมาว่า“ข้า...แก่มากแล้ว ไร้ประโยชน์ยิ่งนัก“เจ้าที่มีชะตากรรมชีวิตลำบากมาตั้งแต่เด็ก… ข้าที่คอยมองดูอยู่ตรงนี้ ก็หวังว่าข้างกายของเจ้าจักมีคนรู้ใจ มี... มีลูก...“ฝ่าบาทก็เป็นมนุษย์เช่นกัน เจ้าจักต้องมีครอบครัว อย่าได้ตำหนิข้าเลย.

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 442

    คุกเทียนเหลาภายในห้องทรมาน พลันมีเสียงกรีดร้องดังออกมา“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมหาได้...หาได้ทรยศต่อแว่นแคว้นไม่! มิได้มีผู้ใดมาชี้นำกระหม่อม กระหม่อมทำทั้งหมดก็เพื่อยุทธภพของแคว้นหนานฉี...อ๊าก! กระหม่อมรู้สึกจากใจว่าท่านแม่ทัพน้อยเมิ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ในเรื่องนี้!”“ฝ่าบาท กระหม่อมก็เป็นผู้บริสุทธิ์เช่นกัน...”ผู้ที่ถูกมัดติดเก้าอี้ไม้นั้น ล้วนแต่เป็นผู้ที่คอยกระทำการปลุกปั่นผู้คนหลังจากที่เมิ่งเฉียวม่อตายไปบรรดาเหล่าขุนนางที่กระทำกล่าวหาว่าฮ่องเต้ทำร้ายขุนนางผู้ภักดีนั้น ล้วนแต่เป็นขุนนางที่โง่เง่าหูเบา ทว่า ผู้ที่ชักใยคอยปลุกปั่นอยู่เบื้องหลังที่แท้จริง ทั้งยังเป็นผู้ที่กระจ่ายข่าวลือออกไปนั้น คือผู้กระทำผิดที่แท้จริงต่างหากในเมื่อตามหาพวกมันพบแล้ว ย่อมไม่มีทางปล่อยคนเหล่านี้ไปง่าย ๆ อย่างแน่นอนทำให้ข้าราชบริพารราษฎรมากมายในหนานฉีต้องเกิดความโกลาหลเช่นนี้ มีความเป็นไปได้ว่าพวกมันจักต้องร่วมมือกับคนนอกแคว้นอย่างแน่นอนทว่า ถึงแม้จะทรมานเพื่อเค้นถามความจริงออกมาหลายวันแล้วก็ตาม พวกมันก็ยังคงปากแข็งอยู่วันนี้ เซียวอวี้จึงเดินทางมาที่นี่ด้วยตนเองเฉินจี๋โค้งกายคำนับมือ พล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 441

    “ฮองเฮาเพคะ...” เหลียนซวงกลับมาแล้วภายในใจของเหลียนซวงรู้สึกซับซ้อนยิ่งนักนางที่มิอาจทำตามแผนการหลบหนีที่ฮองเฮาสั่งการไว้ได้ กลัวว่าตนเองจักเป็นตัวถ่วงให้กับฮองเฮาทว่า นางยังอยากรั้งอยู่คอยรับใช้ข้างกายฮองเฮา ทั้งยังอยากจะอยู่เผชิญหน้าปัญหามากมายกับฮองเฮาเช่นนี้“ฮองเฮาเพคะ ฝ่าบาทท่าน…” เหลียนซวงที่อยากจะพูดถึงเรื่องขององครักษ์เงาขึ้นมานั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า: “ข้ารู้แล้ว”เซียวอวี้ย่อมไม่มีทางนำความโกรธของตนเองไปลงที่เหลียนซวงเพียงเพราะเรื่องที่นางปกปิดสถานะตัวตนของตนเองอย่างแน่นอน ฉะนั้นแล้ว หากให้เหลียนซวงอยู่ในวังหลวงต่อไปก็คงจะมิเป็นปัญหาอันใดนักเหลียนซวงรู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์ยิ่งนักนางได้แต่ก้มหน้าก้มตาลง “หากว่าบ่าววิ่งไวกว่านี้...”“นี่หาใช่ความผิดของเจ้าไม่” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉนเมย ก่อนจะมองไปยังองครักษ์ที่อยู่ด้านนอกตำหนักนั่นคือคนของเซียวอวี้ และยังเป็นคนที่ส่งตัวเหลียนซวงกลับมาอีกด้วยหลังจากที่ซุนหมัวมัวรู้ว่าเหลียนซวงกลับมาที่วังแล้วนั้น ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนักหากแม่นางผู้นี้กลับมา เช่นนี้ฮองเฮาก็ม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 440

    ในช่วงบ่ายขันทีได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ ให้ไปตำหนักซินฮุ่ยเพื่อประกาศราชโองการชิวหงตามจิ้งเฟยไปรับราชโองการด้วย โดยคิดว่าจะต้องมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นทว่าไม่นานนัก สีหน้าของทั้งสองคนก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึงและตื่นตระหนก “...จิ้งเฟยถูกถอดถอนจากตำแหน่ง ยกเลิกอำนาจในการช่วยควบคุมวังหลังทั้งหกตำหนัก ลดลงมาเป็นกุ้ยเหริน นับแต่วันพรุ่งนี้ให้ย้ายออกจากตำหนัก!”“เป็นไปไม่ได้!” ชิวหงตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว “ฝ่าบาททรงไม่มีทางทำเช่นนี้กับพระนาง!”พระสนมไม่ได้ทำผิดอันใด เหตุใดจึงถูกถอดถอน!จิ้งเฟยยังคงวางตัวเหมาะสมตามชาติตระกูลสูงศักดิ์ ฝืนยิ้มพร้อมกับรับราชโองการ และขอบพระทัยฝ่าบาทอย่างนอบน้อมหลังจากขันทีที่มาประกาศราชโองการผู้นั้นกลับไป นางถึงได้นั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างโดยทันที ทั้งจ้องมองบนพื้นด้วยแววตาหม่นหมอง และในมือยังกุมราชโองการนั้นไว้แน่น ชิวหงจิตใจว้าวุ่น“พระนาง นี่เกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่?“เห็นชัดว่าฝ่าบาททรงโปรดปรานท่าน...เขาจะถอดถอนตำแหน่งเฟยของท่านได้อย่างไร!”เจ้านายรุ่งเรืองก็รุ่งเรืองกันหมด เจ้านายตกต่ำก็ตกต่ำกันหมด นางยิ่งร้อนใจกว่าจิ้งเฟยเสียอีกจิ้งเฟยยังคงนิ่ง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 439

    ณ ตำหนักซินฮุ่ยจิ้งเฟยสีหน้าดูคร่ำเคร่ง ไม่อ่อนโยนและสุขุมเหมือนที่ผ่านมานางขยี้ดอกไม้ตูมในมือจนป่นปี้“ได้ยินข่าวแล้วหรือไม่”ชิวหงก้มหน้าก้มตา รับรู้ถึงความโกรธของพระสนม พร้อมเอ่ยอย่างระวังตัว“แม้ชาวบ้านจะตีกลองร้องทุกข์ เพื่อให้ถอดถอนฮองเฮา ทว่าฝ่าบาท...”นางแอบเงยหน้าขึ้น เหลือบมองดูสีหน้าของจิ้งเฟย “ฝ่าบาททรงคัดค้านความเห็นของฝูงชน ไม่ทำตามใจราษฎร”จู่ ๆ จิ้งเฟยก็ยิ้มขึ้นมาทันทีรอยยิ้มของนางดูอ่อนโยนเป็นที่สุด“ฝ่าบาททรงต้องการจะปกป้องฮองเฮาจริง ๆ”“พระนาง พวกเราควรทำอย่างไรดี?”จิ้งเฟยมองออกไปด้านนอก พระอาทิตย์ตกแล้ว ราตรีกำลังมาเยือน“ฝ่าบาททรงคิดจะปกป้องฮองเฮา ก็ต้องดูว่าชาวบ้านกับเหล่าทหารจำนวนมหาศาลจะเห็นด้วยหรือไม่”นางรอได้ การตายของแม่ทัพน้อยเมิ่ง ยังไม่กระจายเป็นวงกว้างอย่างเต็มที่อย่างน้อย ชายแดนเหนือและค่ายทหารเป่ยต้าทางนั้นก็ยังไม่ได้รับรู้ข่าวนั่นคือทหารทั้งหมดของเมิ่งเฉียวม่อทันทีที่พวกเขาก่อความวุ่นวาย ชายแดนเหนือจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมฮ่องเต้ทรงไม่มีทางนิ่งเฉยโดยไม่แยแส......ณ ตำหนักหย่งเหอประมาณยามจื่อ เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงได้กล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 438

    สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนชะงักงัน สันหลังเหยียดตรง และไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆมือข้างหนึ่งของนางถูกเซียวอวี้กุมเอาไว้เมื่อรู้ว่าเขาคิดจะทำสิ่งใด นางจึงรีบแกะมือของเขาออกทันทีเซียวอวี้พลันเปลี่ยนเป็นจับคางของนาง ทำท่าเหมือนต้องการจะจูบนางนางรีบถอยหลบทันที ทว่ากลับเห็นเขาหยุดนิ่ง และส่งยิ้มมาให้นางในรอยยิ้มนั้นแฝงทั้งการหยอกล้อและการเย้าแหย่“เราคิดว่าเจ้าไร้ยางอายถึงขั้นว่าไม่หวาดกลัวสิ่งใดเลย ทำไม ก็เข้าใจเป็นอย่างดีมิใช่หรือ? แม่ทัพน้อย...ไม่ใช่ประสบการณ์โชกโชนหรอกรึ”นิ้วเรียวยาวของเขาเกี่ยวคางของนางให้ยกขึ้นเบา ๆ เผยให้เห็นส่วนโค้งของลำคอ เขาจูบลงไปเบา ๆ บนคอของนางโดยไม่ทันตั้งตัวแผ่นหลังของเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกชาขึ้นมาทันที“ปล่อย...”เซียวอวี้คว้าเอวของนางไว้ ทันใดนั้นพลันก้มศีรษะลงไปที่ซอกคอของนาง“มันทรมานมาก ขอเราพักหน่อยเถอะ” ดูเหมือนคนที่เหนื่อยล้าอย่างเต็มที่ผู้นี้ พบเจอสถานที่ที่ได้พักผ่อนอย่างสงบ ทั้งตัวรู้สึกผ่อนคลายทั้งดูเหมือนสัตว์ป่าที่ก่อนหน้ายังดุร้าย ตอนนี้กลับเชื่องลง และขดตัวหมอบอยู่ข้าง ๆ ขาเจ้านาย ดูสงบนิ่งกระทั่งว่านอนสอนง่าย ผ่านไปไม่นา

DMCA.com Protection Status