เซียวอวี้จับจ้องมองตรงไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียน และเอ่ยอีกครั้งอย่างเคร่งขรึม “เหตุใดจึงไม่ถามเราว่า เคยโปรดปรานหลิงเยี่ยนเอ๋อร์บ้างหรือไม่” สตรีที่ช่องคลอดตีบตันไม่อาจมีความสัมพันธ์ทางเพศกับบุรุษได้ อย่าบอกว่านางไม่รู้ เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างชัดเจน “ฝ่าบาท อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับหม่อมฉันเลยเพคะ” เมื่อเห็นสีหน้าของเขาพลันเย็นชาอย่างกะทันหัน นางจึงรีบกล่าวเสริม “ถึงแม้จะเป็นสตรีที่ช่องคลอดตีบตัน ก็ถูกโปรดปรานได้ ดังนั้นหม่อมฉันจึงไม่สงสัยอันใดเพคะ” อย่างเช่น เขาทำเรื่องแบบนั้นไม่ได้ ในฉับพลัน สายตาของเซียวอวี้ก็พุ่งเข้าใส่นาง เสมือนเข็มที่แหลมคม “แม่ทัพน้อยเมิ่งแสร้งเป็นบุรุษมานานแล้ว ทว่าเข้าใจความรักระหว่างชายหญิงดียิ่งนัก” เฟิ่งจิ่วเหยียนหลุบตาลงอย่างนิ่งสงบ “ฝ่าบาททรงยกย่องเกินไปแล้วเพคะ” เซียวอวี้ : … นางคิดว่าเขากล่าวชมนางจริง ๆ หรือ? หลังจากความเงียบอันน่าประหลาดชั่วครู่นั้น เซียวอวี้ไม่เอ่ยอย่างอ้อมค้อม “หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ไม่เคยร่วมบรรทม ที่เราให้ความโปรดปรานแก่นาง ทั้งหมดเป็นเพราะในช่วงสี่ปีที่
เฉินจี๋หยุดชะงักอยู่ตรงนั้นด้วยความงุนงง และไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองมองเห็นเลย ภาพที่เห็นคือ ฮองเฮากำลังนั่งคร่อมอยู่บนเอวของฝ่าบาท พลางจับตรึงข้อมือทั้งสองข้างของฝ่าบาท กดคนเอาไว้ชิดกับผนังของรถม้า และกัดลำคอของฝ่าบาท... ท่าทางเช่นนี้ ดูเหมือนว่าฝ่าบาทกำลังถูก...บีบบังคับ?!! ปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณของเฉินจี๋คือ——ช่วยฝ่าบาท! ทว่า ฮองเฮาพลันหันกลับมา และแววตาที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารคู่นั้น ทำให้เขาอดรู้สึกหวาดกลัวมิได้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้น ร่างกายของเขาได้ตัดสินใจเลือกก่อนที่สมองจะคำนวณเสร็จสิ้น ซึ่งมันเป็นทางเลือกที่มีประโยชน์กับความอยู่รอดของเขาเอง ฟึบ! เฉินจี๋ลดม่านรถม้าลงอย่างเด็ดขาด เขาปลอบใจตนเองว่า ฝ่าบาทก็ควรจะรื่นเริงไปด้วยกระมัง ถูกต้อง จักต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน อย่าว่าแต่เฉินจี๋แล้ว แม้แต่เซียวอวี้ก็มิเคยคาดคิดว่า ตนเองจะถูกสตรีนางหนึ่งควบคุมเอาไว้ มิหนำซ้ำยังอยู่ในท่าทางเช่นนี้... เขาจ้องมองสตรีที่อยู่ตรงหน้าอย่างเย็นชา ผมเผ้าของนางยุ่งเหยิง ริมฝีปากแดงก่ำ และบวมนิด ๆ บนลำคอ ยังมีรอยฟันที่ช
ช่วงนี้เจียงหลินค่อนข้างว่างวันนี้เขาทานข้าวอยู่ในโรงเตี๊ยม ได้ยินโต๊ะด้านข้างปรึกษากันว่าจะสังหารฮ่องเต้สุนัข จึงรีบขยับไปนั่งใกล้ๆได้ยินว่าวีรสตรีอย่างแม่ทัพน้อยเมิ่งถูกสังหาร เขาแค้นเคืองในความไม่เป็นธรรมขึ้นมาทันทีที่สำคัญนั้นเป็นเพราะ เคยได้ยินพวกเหล่าฝานพูดว่า แม่ทัพน้อยเมิ่งกับซูฮ่วนเป็นสหายสนิทกันงั้นเขาก็ต้องมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ!เจียงหลินคิดว่าตนเองมีน้ำใจไมตรี รักใครก็รักคนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเขาด้วยกลับไม่รู้ว่า ในสายตาเฟิ่งจิ่วเหยียนนั้น เป็นการกระทำที่โง่เขลาที่สุดเขาคิดทุกอย่างราบรื่นเกินไป อยากรู้ว่าศีรษะตรึงไว้บนสายคาดเอวนั้นมีความรู้สึกอย่างไรหรือ!เห็นว่าเจียงหลินพุ่งเข้ามาแล้ว ไม่รอให้เซียวอวี้ “เป็นบันได” ให้นาง เฟิ่งจิ่วเหยียนยันฝ่ามือข้างหนึ่งไว้บนไหล่ของเขา แล้วก็กระโดดลอยขึ้น...ปัง!เจียงหลินล้มลงอย่างไม่ทันตั้งตัวเดิมคิดว่าเป็นแบบนี้แล้วเขาจะหยุดคิดไม่ถึงว่าเขาจะคลานลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ชูมีดหันผักที่ไม่รู้เอามาจากในมือใคร พร้อมแยกเขี้ยวฟัน“ฆ่า!”เฟิ่งจิ่วเหยียน:…เจียงหลิน เจ้าคนโง่เขาอยากให้ตระกูลเจียงถูกประหารเก้าชั่
องค์หญิงใหญ่มองดูคนตรงหน้าอย่างนิ่งอึ้งฮองเฮา...เป็นแม่ทัพน้อยเมิ่งที่ช่วยชีวิตนางไว้ในปีนั้น!โอ้พระเจ้า ที่ผ่านมานี้ นางทำอะไรลงไปบ้าง!นางหลงเชื่อเมิ่งเฉียวม่อ วางแผนทำร้ายฮองเฮากระทั่งเปิดเผยเรื่องที่ฮองเฮาอภิเษกสมรสแทน...นางทำเพื่อเมิ่งเฉียวม่อ ที่เป็นตัวปลอมนั้น เกือบจะฆ่าคนที่มีบุญคุณช่วยชีวิตตนเองไว้ที่แท้จริง ! !ตอนนี้เวลานี้ องค์หญิงใหญ่เสียใจอย่างมาก สำนึกผิดอย่างที่สุดเฟิ่งจิ่วเหยียนก้มมองดูกำไลบนข้อมือ แล้วก็คิดอะไรขึ้นมาได้ทันใดนั้นดวงตาทั้งสี่ก็มองสบตากันแววตาขององค์หญิงใหญ่ แฝงไปด้วยความซับซ้อน น้ำเสียงสั่นเทา“เจ้า...”นางมีคำพูดมากมาย กลับไม่รู้จะเริ่มพูดขึ้นมาอย่างไรดี“แม่ทัพน้อย ขนาดข้อมือของเจ้า ข้าวัดด้วยตนเอง ตอนนี้ เจ้ายังจะปฏิเสธอีกหรือไม่?” องค์หญิงใหญ่จ้องมองดูนางเฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย“องค์หญิง...”องค์หญิงใหญ่พูดขัดนางขึ้นมา“ข้าช่างโง่ยิ่งนัก ข้า...ข้าร่วมวางแผนกับมิ่งเฉียวม่อ คอยทำร้ายเจ้า เจ้าถือโทษข้า ไม่เชื่อข้า ก็สมควรแล้ว“ข้า ข้าเนรคุณ! ไม่มีหน้าสู้หน้าเจ้า”ใบหน้าองค์หญิงใหญ่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ราวกับก่อกรรมทำ
องค์หญิงใหญ่กินปูนร้อนท้องเมิ่งเฉียวม่อสามารถแหกคุกได้ ก็เพราะฝากป้ายคำสั่งอินทรีเหินไว้กับนางนางก็รู้ว่าความจริงเป็นสิ่งที่ไม่อาจปิดบังได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะไวขนาดนี้ยิ่งคิดไม่ถึงก็คือ คำพูดของฝ่าบาทที่ดูเหมือนเป็นการสอบสวนสิ้นสุดลงอย่างกะทันหันเขาเปลี่ยนเรื่องพูดขึ้นมา ตักเตือนนางอย่างเคร่งขรึม“เซียวฉี เรื่องนี้เราไม่ทำโทษเจ้าได้ แต่นับจากนี้ไป ตำหนักหย่งเหอ เจ้าอย่ามาบ่อยนัก”องค์หญิงใหญ่กำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัวนางจับจ้องมองดูเซียวอวี้ ยิ้มหัวเราะพูดขึ้นมาอย่างไม่ยอมพ่าย“ฝ่าบาท ท่านครองบัลลังก์มาเจ็ดปีแล้วใช่หรือไม่? จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรัชทายาท ไม่สมเหตุสมผลเสียเลย“ได้ยินเสด็จย่าตรัสว่า ท่านวางแผนไว้ ตราบที่ฮองเฮาไม่มีรัชทายาท ท่านก็จะไม่โปรดปรานสนมวังหลัง?”“อย่าหาว่าข้าพูดมาก หลายปีมานี้ เคยโปรดปรานเฉพาะหรงเฟยกับหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ แต่ก็เคยโปรดปรานจิ้งเฟย สตรีพวกนี้ล้วนไม่ได้ตั้งครรภ์ ทำไมข้าถึงรู้สึกว่า สิ่งสำคัญนี้ไม่ได้อยู่ที่ฮองเฮา?”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเข้มองค์หญิงใหญ่ยิ้มหัวเราะอย่างมีเจตนาแอบแฝง แสดงออกด้วยเจตนาดี“ในฐานะที่ข้าเป็นเสด็จพี่หญิง จึงกล้าพูดคำพูด
เป็นครั้งแรกที่เซียวอวี้ มองเห็นดวงตาของนางเปล่งแสงประกายเช่นนี้รอบด้านเงียบสงบ ดูเหมือนขอเพียงนางมองดูเขาเช่นนี้ เขาจะตอบสนองนางได้ทุกอย่างแต่เขาก็ใช่ว่าจะไม่ได้เรื่องขนาดนั้นหลังจากขาดสติไปชั่วขณะ เขาก็กลับมาเคร่งขรึมเย็นชาเหมือนปกติ พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉย“ปีที่สองที่เราขึ้นครองราชย์ กองกำลังทหารทั้งสี่แคว้นร่วมมือกันโจมตีแคว้นหนานฉี เราออกไปทำศึกด้วยตนเอง หลังจากการศึกครั้งใหญ่จบสิ้นลงแล้วกลับแคว้น เดินทางผ่านป่าหมอกหนาทึบ“ในป่าทึบนั่น มีนักฆ่าซุ่มอยู่กลุ่มหนึ่ง”“ตอนที่เราต่อสู้กับนักฆ่า พลางมีคนคลุมหน้าผู้หนึ่ง ปล่อยสิ่งมีชีวิตที่คล้ายมังกรพสุธาออกมา เราถูกมันกัด ทำให้ถูกพิษ ภายหลังค่อยรู้ว่า นั่นคือพิษวารีสวรรค์”เฟิ่งจิ่วเหยียนก็รู้ พิษวารีสวรรค์นั้น เป็นการเลี้ยงผ่านมังกรพสุธา แต่ละวันนั้นจะให้มันกินยาพิษชนิดพิเศษ ไม่นาน มันก็จะสะสมเป็นพิษชนิดรุนแรง “วารีสวรรค์” ในตัวการเลี้ยงวารีสวรรค์ตัวหนึ่ง ต้องใช้เวลาสิบปีและใช่ว่ามังกรพสุธาทุกตัว ล้วนดูดซึมยาพิษพวกนั้น มีชีวิตรอดมาอย่างราบรื่น จนกลายเป็นวารีสวรรค์ดังนั้น พิษวารีสวรรค์นั้นพบเห็นได้ยากนางฟังเซียวอวี
เฟิ่งจิ่วเหยียนเสนอให้เปิดเผยความจริงต่อสาธารณชน เพื่อไม่ให้ราษำรเข้าใจผิดต่อไปทว่าแววตาเซียวอวี้ เยือกเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง“ไม่จำเป็น”คราวนี้กลายเป็นนางที่ไม่เข้าใจหลักการเปรียบเทียบประโยชน์สองสิ่งแล้วเลือกสิ่งที่ให้ประโยชน์มากกกว่า ในฐานะที่เขาเป็นจักรพรรดิ ไม่เข้าใจหรือ?เซียวอวี้ค่อนข้างจริงจัง“หากเปิดเผยความจริงว่าเมิ่งเฉียวม่อเป็นตัวปลอม ตระกูลเมิ่งนั้นยากที่จะหลุดพ้นความผิด ตลอดจนค่ายทหารเหนือนับพันหมื่น”ต่อให้ทหารเหล่านั้นไม่รู้ความจริง หากอยากลงโทษ ย่อมมีเหตุผลหรือหาข้ออ้างได้เสมอหากผู้ใดมีเจตนาฉวยประโยชน์ ทั่วทั้งค่ายเป่ยต้าก็จะวุ่นวายเก็บความลับนี้ไว้ เขายังสามารถปกป้องตระกูลเมิ่งกับทหารเหล่านั้นหากเปิดสู่สาธารณชน เขาจะต้องดำเนินการอย่างยุติธรรม มิฉะนั้นจะควบคุมได้ยากเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่พูดอะไรในความรู้สึกส่วนตัวของนาง ยอมเข้าข้างพวกอาจารย์เพียงประหลาดใจไม่น้อย เพื่อพวกเขาแล้ว เซียวอวี้ยอมให้คนเข้าใจตนเองผิดแน่นอนว่า สิ่งที่เซียวอวี้คำนึงถึง ไม่ได้มีเพียงเท่านี้เขาพูดต่อไปอีก“เมิ่งสิงโจวเป็น ‘เทพสงคราม’ ของค่ายเป่ยต้า การตายของเขา จะก่อให้เกิดคลื่น
ตำหนักซินฮุ่ยจิ้งเฟยนั่งอยู่ตรงหน้าคันฉ่อง แววตาค่อนข้างล่องลอยสาวใช้ชิวหงอดเห็นใจไม่ได้“พระนาง ดึกแล้วเจ้าค่ะ”ฝ่าบาทไม่เสด็จ พระนางก็จะไม่นอนไม่ได้จิ้งเฟยพึมพำด้วยเสียงเบา“ใช่ ดึกแล้ว”เวลานี้ ฮองเฮากำลังร่วมบรรทมหรือไม่?เดิมนางยังสามารถปลอบโยนตนเอง บางทีฮองเฮาอาจจะเหมือนกับนาง เป็นกลลวงที่ฝ่าบาทใช้หลอกคนอื่น ไม่ได้ร่วมบรรทมจริง ๆ ทว่า หากเป็นความเท็จ ฝ่าบาทมีความจำเป็นต้องรับสั่งให้เข้าไปอยู่ในตำหนักจื้อเฉินหรือ?ที่นั่นเป็นสถานที่ แม้แต่หรงเฟยก็เหยียบย่ำเข้าไปน้อยครั้งมากสามารถเห็นได้ว่า ฝ่าบาทรักใคร่โปรดปรานฮองเฮาจากใจจริงแล้วนางถือว่าเป็นอะไรกัน?นางใช้ทุกวิถีทาง ก็ไม่สามารถทำให้ฝ่าบาทหันมามองนางค่ำคืนนี้ ถูกกำหนดให้ยากที่จะข่มตาหลับเช้าวันรุ่งขึ้นในที่ว่าราชการเช้าเหล่าขุนนางยังถกเถียงกันเรื่องการตายของเมิ่งเฉียวม่อ“ฝ่าบาท แม่ทัพน้อยเมิ่งมีสถานะอันสูงส่งอยู่ในใจประชาชน นางตายไป ชื่อเสียงของท่านในหมู่ประชาชนไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน เรื่องนี้จะมองข้ามไม่ได้!”“ฝ่าบาท แม้แต่ญาติพี่น้องของกองทัพมังกรพยัคฆ์ ยังล้วนออกมาพูดว่า แม่ทัพน้อยเมิ่งไม่สมควรตาย”
เฟิ่งจิ่วดหยียนถลึงตาใส่เจียงหลินอย่างเย็นชา “พูดเหลวไหลอะไร?”เจียงหลินกลัวว่านางจะลงไม้ลงมือ จึงเดินอ้อมไปอยู่ข้าง ๆ เซียวอวี้ล่วงหน้า“มีอะไรให้ปฏิเสธ? เรื่องราวรัก ๆ ใคร่ ๆ ของชายหนึ่งหญิงสองอย่างเหลิ่งเซียนเอ๋อร์กับหร่วนฝูอวี้ มีใครไม่รู้บ้าง?“หากไม่ใช่เพราะหร่วนฝูอวี้เอาเรื่องที่อยู่ของเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ไปบอกเจ้าสำนักเฉวียนเจิน จนนางถูกเจ้าสำนักจับตัวกลับไป เจ้าก็คงได้สุขสำราญพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว!“คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ นางอายุน้อยขนาดนี้ ก็ได้เป็นรองเจ้าสำนักแล้ว!”เซียวอวี้หน้าอึมครึม มือกำหมัดแน่นชายหนึ่งหญิงสองงั้นหรือแม่ทัพน้อยของเขา ช่างเนื้อหอมจริง ๆหากนางเป็นบุรุษจริง คงเป็นของคนอื่นไปนานแล้วไม่สิ…หากนางเป็นผู้ชาย เขาก็คงไม่ใส่ใจแล้ว!เกือบจะเคลิ้มไปด้วย เซียวอวี้จึงตั้งสติเฟิ่งจิ่วเหยียนกระแอมไอแล้วเอ่ยเสียงต่ำ“เจียงหลิน ชื่อเสียงของคนอื่นเสียหายเพราะเจ้าหมดแล้ว ถ้าเจ้ายังปากมากอีก ข้าจะฉีกมันทิ้งซะ”เจียงหลินรีบหุบปากทันทีแต่ในใจก็ยังไม่ยอมเขาไม่ได้พูดอะไรผิดเสียหน่อยตอนนั้นเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ คิดจะหนีออกมาจากสำนักเฉวียนเจินเพราะซูฮ่วนด้วยซ้ำ นางใ
ขณะที่หนึ่งก้านธูปกำลังจะดับ ลูกศิษย์สำนักเฉวียนเจินคนหนึ่งชักกระบี่ที่เสียบอยู่ข้างเอวออก แล้วขึ้นไปบนเวทีนี่อยู่ในความคาดหมายของทุกคนเจียงหลินพอจะรู้จัก จึงพูดแนะนำว่า“นั่นคือหนึ่งในศิษย์ทั้งหกของสำนักเฉวียนเจิน ผู้มีวิชา ‘กระบี่ล่าชีวิต’——ฟางหมิ่น วิชากระบี่ของนางไร้เงาไร้รูปร่าง รวดเร็วดั่งสายลม”เฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็เคยได้ยิน ‘วิชากระบี่ล่าชีวิต” นี้มาเหมือนกันจุดเด่นคือการโจมตีอย่างว่องไว รูปร่างและพรสวรรค์ของนักกระบี่ล้วนเป็นตัวกำหนดในการฝึกฝนวิชานี้เซียวอวี้ไม่เห็นด้วยกับฟางหมิ่น พูดเสียงเย็นชา“ไม่สามารถนำอาวุธขึ้นประลองได้อยู่ดี ต่อให้กระบี่เร็วแค่ไหนแล้วจะมีประโยชน์อะไร”เจียงหลินหมดหนทางจะช่วย“คงได้แต่หวังว่า เกาหยวนจะเป็นคนทะนุถนอมผู้หญิงล่ะนะ”ฟางหมิ่นก้าวเดินอย่างมั่นคงไม่เร่งรีบ ยามที่เข้ามาในกรง ศิษย์คนอื่นในสำนักเฉวียนเจินก็ข่มขวัญคู่ต่อสู้แทนนาง“ศิษย์พี่ ฆ่าไอ้โจรระยำนั่นซะ!”“ศิษย์น้อง ตั้งรับเป็นหลัก โจมตีเป็นรอง!”ฟางหมิ่นใส่ผ้าคลุมหน้า แม้นไม่มีกระบี่คู่ใจอยู่ในมือ ดวงตาทั้งสองข้างก็ยังทอแววเด็ดเดี่ยวมีพลังภายในกรงเหล็ก เกาหยวนมองประเมินนางด้
เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นกับตา ในกรงนั้น คนตัวผอมกัดหน้าของคู่ต่อสู้จนเนื้อหลุด ไม่ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นอย่างไร เขาก็ขี่อยู่บนตัวของอีกฝ่ายไม่รามือกัดหน้าไม่พอ ยังกัดหู จมูก รวมถึงควักลูกตาของอีกฝ่ายเป็น ๆ อย่างต่อเนื่อง…ภาพเหตุการณ์นองเลือด ดำเนินในเวลาสั้น ๆ เพียงสองถ้วยชาทว่า เสียงโห่ร้องข้างสนามกลับดังขึ้นมาไม่ขาดสาย เหมือนคลื่นทะเล กลบพวกเฟิ่งจิ่วเหยียนจนมิดนางพลันหูชาในชั่ววินาทีนั้น ไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้างได้ยินเพียงเสียงปรบมือและโห่แซวอย่างบ้าคลั่งเซียวอวี้เคยเห็นความโหดร้ายนองเลือดของสนามรบ และเคยเห็นภัยอดยากขายลูกกิน ทั้งยังเคยเห็นเหล่าคนร้ายในเจดีย์เก้าชั้นกินศพซึ่งคนเหล่านั้นทำเพื่อความอยู่รอด สามารถพูดได้ว่า ถูกบีบจนไร้ทางเลือกแต่ในตอนนี้ คนตัวผอมกัดคู่ต่อสู้สด ๆ เพียงเพื่ออยากชนะสิ่งที่ทำให้เขาทำตัวไม่ถูก คือผู้ชมเหล่านั้นพวกเขาหล่อหลอมให้คนชอบฆ่าแกงเป็นชีวิตจิตใจเซียวอวี้จับมือเฟิ่งจิ่วเหยียนแน่นกว่าเดิมไม่ว่าอย่างไร ก็ทนมองนางเข้าไปเสี่ยงในสถานการณ์อันตรายต่อหน้าต่อตาไม่ได้ติงหยวนเอ๋อร์ พวกเขาจะไม่ช่วยแล้ว!หยางเหลียนซั่ว อยากไปไหนก็ไปเถิด!เซียวอวี้อ
บนเวทีประลอง ชายหนุ่มรูปร่างเตี้ยตะโกนเสียงดัง“ทุกท่าน ก่อนที่การประลองในค่ำคืนนี้จะเริ่มขึ้น มีข้อกำหนดอยู่ไม่กี่ข้อ ข้อแรก เมื่อใดที่ขึ้นมาบนเวทีประลอง ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย เรารู้จักแค่แพ้กับชนะ กฎที่นี่ ไม่มีถอนตัวกลางคัน!“ข้อสอง การประลองเป็นแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ห้ามพกพาอาวุธลงสนาม อาศัยความสามารถจริง ๆ เท่านั้น“ส่วนข้อสาม…”เสียงพูดมาถึงตรงนี้ ชายหนุ่มก็ส่งสัญญาณไปทางข้างบนต่อมา ก็มีเสียงต่อสู้ดังขึ้นมาจากชั้นเจ็ดทว่าครู่ต่อมา บุรุษชุดดำก็ถูกผลักลงมาจากที่สูง หล่นลงบนพื้นเวทีประลองอย่างรุนแรง จนเลือดกระเด็น!ชายหนุ่มรูปร่างเตี้ยไม่สะทกสะท้าน พูดกับทุกคนต่อว่า“ส่วนข้อสาม คนของทางการ ห้ามเข้ามาภายในเด็ดขาด หากถูกจับได้ ตายสถานเดียว! ผู้ใดแจ้งเบาะแส จะได้รับรางวัลตอบแทน!“พวกเจ้า มาลากเจ้าหน้าที่ทางการผู้นี้ออกไปให้หมาจรจัดกิน!”เขาชี้ไปยัง บุรุษชุดดำที่ถูกโยนตกลงมาเมื่อครู่ผู้ชมต่างโห่ร้อง“ดี!”“ดี!”สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันอึมครึม ทอดมองไปยังศพของเจ้าหน้าที่ทางการผู้นั้นแม้แต่เจ้าหน้าที่ทางการยังกล้าฆ่า! เซียวอวี้ขมวดคิ้วแน่น เมืองไท่ชางที่ขึ้นชื่อเรื่องความ
เจ็ดวันต่อมาณ เมืองไท่ชางกลุ่มของเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าพักในโรงพักแรมทันทีที่เข้ามาในโรงพักแรม นางก็เห็นคนคุ้นตาคนผู้นั้นอยู่ในชุดไหมสีแดง กำลังพูดคุยกับคนที่นั่งร่วมโต๊ะอย่างสนุกสนาน ขณะที่อีกฝ่ายบังเอิญเงยหน้าขึ้นมา ก็จำหน้ากากเงินของนางได้ เจียงหลินสวมใส่ชุดแดง ดูสะดุดตาท่ามกลางผู้คนอย่างมากเฟิ่งจิ่วเหยียนก้าวถอยหลังโดยพลันทำไมถึงมาเจอเจ้านี้อีกแล้ว นี่มันบุพเพอาละวาดชัด ๆ ให้ตายสิ…ชั่วขณะนั้น เหมือนเจียงหลินจะเห็นคนไร้หัวใจที่ทอดทิ้งตัวเอง พลันลุกขึ้นมา ตะโกนท่ามกลางผู้คนว่า “ซูฮ่วน! ข้าเห็นเจ้าแล้ว! เจ้าไม่ต้องหลบ!”เฟิ่งจิ่วเหยียน: นางไม่ได้หลบเสียหน่อยเจียงหลินเดินพรดพราดเข้ามา จับแขนของนางเอาไว้ “เจ้ากับซ่งหลีนี่แน่จริง ๆ ไปไหนก็ไม่คิดจะบอกกล่าว รู้ไหมว่าข้าตามหาพวกเจ้านานแค่ไหน!”น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความน้อยใจ ความจริงแล้ว เขาเองก็ไม่ได้มุ่งมั่นตามหาพวกเขาเหมือนกันเขามีฐานะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเจียง จึงมีเรื่องให้จัดการมากมายในชีวิตประจำวัน ที่กล่าวถ้อยคำนี้ออกมา ก็แค่อยากให้ซูฮ่วนรู้สึกผิด และช่วยเบิกทางค้าขายให้เขาขณะที่กำลังพูด เขาพลันรู้สึกได้ถึงไ
เฟิ่งจิ่วเหยียนหันหน้ามา ใบหน้านิ่งเฉยมองไปทางเซียวอวี้จู่ ๆ เขาก็บอกว่าตนเองจะกลับวังหลวง ไม่อธิบายล่วงหน้า กลับมาพูดเอาวันที่จะต้องจากไป ไม่ใช่เพราะตั้งใจ อยากเห็นนางลนลานหรอกหรือ“ไม่มีอะไรจะพูด” แววตาของนางสงบดั่งน้ำนิ่งสีหน้าของเซียวอวี้ตอนนี้ไม่น่าดูนักนางไร้น้ำใจเพียงนี้เชียวหรือ?เขาเริ่มสงสัยจริง ๆ แล้วว่านางเพียงต้องการร่างกายของเขาเท่านั้น!ระหว่างที่เซียวอวี้กำลังโศกเศร้านี้เอง เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ถามกลับว่า“ไม่ใช่ว่าพวกเราไปทางเดียวกันหรือ?”เขากลับเมืองหลวง นางไปเมืองโบ๋วโจว ล้วนต้องลงใต้ทั้งคู่แบบนี้แล้วหากจะบอกลากันตอนนี้ ออกจะเร็วไปเสียหน่อยเซียวอวี้จึงได้สติกลับมา “เจ้าจะออกเดินทางไปกับเราหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าตอบ“แน่นอน การเดินทางไปเมืองโบ๋วโจวเป็นเรื่องด่วน”......เมื่อรู้ว่าจิ่วเหยียนจะไปแล้ว แม้ฮูหยินเมิ่งจะไม่อาจทำใจได้ ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรแต่ไหนแต่ไรมาเด็กคนนี้ก็ไปมาดุจลม อยู่ได้เพียงไม่นานคำพูดพร่ำบ่น นางก็ไม่คิดจะพูดแล้ว จึงส่งเค้กเกาลัดถุงหนึ่งให้เฟิ่งจิ่วเหยียนนำไปกินระหว่างทางเพื่อให้ง่ายต่อการเดินทาง เฟิ่งจิ่วเหย
สิ่งที่อยู่ในกล่องไม้หาใช่ถุงยางที่เฟิ่งจิ่วเหยียนคุ้นเคยไม่ แต่เป็นยาขวดหนึ่งยานี้...เป็นสิ่งที่อาจารย์หญิงทำเองเช่นกันนางชัดเจนในเรื่องนี้ดีนี่คือยาคุมกำเนิดสำหรับบุรุษ ที่หายากอย่างยิ่งเท่าที่นางรู้ อาจารย์หญิงทำขึ้นมาเพียงหนึ่งขวดเท่านั้นเมื่อบุรุษกินยานี้เข้าไปหนึ่งเม็ด ภายในหนึ่งวันไม่ว่าจะทำอย่างไร สตรีจะไม่มีทางตั้งครรภ์เด็ดขาด...ปฏิกิริยาตอบโต้แรกของเฟิ่งจิ่วเหยียนคือ...รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง!ทว่าในชั่วพริบตาที่นางกำลังจะเคลื่อนตัวหนี เซียวอวี้ก็คาดการณ์ได้ถึงความเคลื่อนไหวของนาง แขนเสื้อยาวโบกสะบัด พลังภายในกลายเป็นแรงผลักโครม!โครม!ประตูและหน้าต่างถูกปิดลงทั้งหมดแล้ว!ขณะเดียวกัน แขนของเขาก็ยื่นออกไปโอบเอวของนางเอาไว้“คิดจะหนีรึ?”สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนดูหงุดหงิดอยู่มากจากนั้นเซียวอวี้ก็ยกนางขึ้นไปพาดบนบ่า แล้วเดินอย่างมั่นคงไปยังเตียงตั่ง“ปล่อยข้านะ!”เซียวอวี้ตอบ “เจ้าพูดเอง การทหารไม่หน่ายกลอุบาย”เดิมทีเขาอยากให้เมิ่งฉวีออกหน้า ให้ฮูหยินเมิ่งทำถุงยางออกมาเพิ่มอีกหน่อยทว่าเมิ่งฉวีทำไม่สำเร็จฮูหยินเมิ่งกล่าวว่าคนหนุ่มสาวต้องรู้จักควบคุ
เฟิ่งเหยียนเฉินตกตะลึงอยู่นาน เขาไม่อาจทำใจเชื่อสิ่งที่ได้ยินเลยแม่เฟิ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง“เป็นจิ่วเหยียน หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามท่านพ่อของเจ้า“เมิ่งสิงโจวตัวจริงตายจากไปนานแล้ว หลายปีที่ผ่านมาเป็นจิ่วเหยียนที่เสี่ยงชีวิตปลอมตัวเป็นเขา ทว่าผู้ที่สร้างความชอบทางการทหารตลอดมาล้วนเป็นจิ่วเหยียน น้องสาวของเจ้า”เมื่อเห็นท่านแม่สงบนิ่งเพียงนี้ มั่นใจถึงเพียงนี้ ลมหายใจของเฟิ่งเหยียนเฉินก็ช้าลง“ท่านแม่ จิ่วเหยียนมีความสามารถเพียงนี้จริงหรือ?”ปกป้องรักษาชายแดนเหนือเป็นเวลาเพียงสามปี นางก็กลายเป็นแม่ทัพน้อยเมิ่งที่ทำให้ศัตรูหวาดกลัวจนตัวสั่นผลงานการรบอันเลื่องลือที่นางสร้าง แม้แต่บุรุษยังยากที่จะทัดเทียมได้เขายังคิดว่าจากนี้จะต้องปกป้องน้องสาวทั้งสองคนให้ดีทว่าตอนนี้ดูไปแล้ว...เป็นน้องสาวที่ปกป้องเขา ปกป้องราษฎรของหนานฉีต่างหาก!ไม่นึกเลยว่าเขาจะมีน้องสาวที่เก่งกาจดุจเทพเช่นนี้!ชั่วขณะหนึ่งเขาก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมิน่าเล่าคราแรกที่เห็นฮองเฮาในวัง ถึงได้รู้สึกว่านางแผ่บรรยากาศที่แข็งแกร่งออกมา ไม่เหมือนเวยเฉียงที่เขาคุ้นเคยยามนั้นเขายังนึกว่าเป็นลักษณะอันน่าเกรง
“ท่านแม่! ท่านว่าอะไรนะ ข้ายังมีน้องสาวอีกคนรึ?!”เฟิ่งเหยียนเฉินไม่อยากจะเชื่อน้องสาวอีกคนนึงของเขา เพิ่งเกิดได้ไม่นานก็ถูกส่งตัวออกไปแล้วที่ฮูหยินเฟิ่งบอกเขาก็เพราะหวังว่าบุตรชายจะได้รู้ว่าเขายังมีน้องสาวที่ต้องปกป้องอีกคนหนึ่งเฟิ่งเหยียนเฉินอึ้งไปครู่หนึ่ง“ท่านแม่ เดี๋ยวนะ เหตุใดคนที่แต่งกับฮ่องเต้แต่แรกถึงเป็นจิ่วเหยียน ไม่ใช่เวยเฉียงเล่า?“เช่นนั้นเวยเฉียงล่ะ? เวยเฉียงไปไหนแล้ว?”แววตาของฮูหยินเฟิ่งแฝงไปด้วยความโกรธแค้น“เป็นท่านพ่อของเจ้า สามีชั่วนั่น! เขาคิดว่าหลังจากเวยเฉียงถูกลักพาตัวไปก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่อาจเข้าวังไปเป็นฮองเฮาได้ จึงส่งเวยเฉียงออกไปเสีย ทั้งยังโกหกว่านางตายแล้ว! เขาหลอกพวกเราทุกคน!”“หากไม่ใช่เพราะจิ่วเหยียน ยามนี้เวยเฉียงจะเป็นหรือตายอยู่ข้างนอกก็ไม่รู้!”เฟิ่งเหยียนเฉินที่น่าสงสารถูกปกปิดจนไม่รู้อะไรเลย แม้แต่เรื่องที่เวยเฉียงถูกลักพาตัวไป สูญเสียความบริสุทธิ์ เขาก็เพิ่งได้รู้ความจริงเอาตอนนี้เขารู้สึกว่าในหัวมีแต่เสียงดังหึ่งหึ่งสวรรค์!ในช่วงที่เขาตกอยู่ในความกลัดกลุ้มนั่น ที่แท้ตระกูลเฟิ่งกลับเกิดเรื่องมากมายเพียงนี้เขาที่เป็นพี่ชาย ช่