แชร์

บทที่ 411

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 18:44:59
ช่วงนี้เจียงหลินค่อนข้างว่าง

วันนี้เขาทานข้าวอยู่ใน‌โรงเตี๊ยม‌ ได้ยินโต๊ะด้านข้างปรึกษากันว่าจะสังหารฮ่องเต้สุนัข จึงรีบขยับไปนั่งใกล้ๆ

ได้ยินว่าวีรสตรีอย่างแม่ทัพน้อยเมิ่งถูกสังหาร เขาแค้นเคืองในความไม่เป็นธรรมขึ้นมาทันที

ที่สำคัญนั้นเป็นเพราะ เคยได้ยินพวกเหล่าฝานพูดว่า แม่ทัพน้อยเมิ่งกับซูฮ่วนเป็นสหายสนิทกัน

งั้นเขาก็ต้องมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ!

เจียงหลินคิดว่าตนเองมีน้ำใจไมตรี รักใครก็รักคนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเขาด้วย

กลับไม่รู้ว่า ในสายตาเฟิ่งจิ่วเหยียนนั้น เป็นการกระทำที่โง่เขลาที่สุด

เขาคิดทุกอย่างราบรื่นเกินไป อยากรู้ว่าศีรษะตรึงไว้บนสายคาดเอวนั้นมีความรู้สึกอย่างไรหรือ!

เห็นว่าเจียงหลินพุ่งเข้ามาแล้ว ไม่รอให้เซียวอวี้ “เป็นบันได” ให้นาง เฟิ่งจิ่วเหยียนยันฝ่ามือข้างหนึ่งไว้บนไหล่ของเขา แล้วก็กระโดดลอยขึ้น...

ปัง!

เจียงหลินล้มลงอย่างไม่ทันตั้งตัว

เดิมคิดว่าเป็นแบบนี้แล้วเขาจะหยุด

คิดไม่ถึงว่าเขาจะคลานลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ชูมีดหันผักที่ไม่รู้เอามาจากในมือใคร พร้อมแยกเขี้ยวฟัน

“ฆ่า!”

เฟิ่งจิ่วเหยียน:…

เจียงหลิน เจ้าคนโง่

เขาอยากให้ตระกูลเจียงถูกประหารเก้าชั่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 412

    องค์หญิงใหญ่มองดูคนตรงหน้าอย่างนิ่งอึ้งฮองเฮา...เป็นแม่ทัพน้อยเมิ่งที่ช่วยชีวิตนางไว้ในปีนั้น!โอ้พระเจ้า ที่ผ่านมานี้ นางทำอะไรลงไปบ้าง!นางหลงเชื่อเมิ่งเฉียวม่อ วางแผนทำร้ายฮองเฮากระทั่งเปิดเผยเรื่องที่ฮองเฮาอภิเษกสมรสแทน...นางทำเพื่อเมิ่งเฉียวม่อ ที่เป็นตัวปลอมนั้น เกือบจะฆ่าคนที่มีบุญคุณช่วยชีวิตตนเองไว้ที่แท้จริง ! !ตอนนี้เวลานี้ องค์หญิงใหญ่เสียใจอย่างมาก สำนึกผิดอย่างที่สุดเฟิ่งจิ่วเหยียนก้มมองดูกำไลบนข้อมือ แล้วก็คิดอะไรขึ้นมาได้ทันใดนั้นดวงตาทั้งสี่ก็มองสบตากันแววตาขององค์หญิงใหญ่ แฝงไปด้วยความซับซ้อน น้ำเสียงสั่นเทา“เจ้า...”นางมีคำพูดมากมาย กลับไม่รู้จะเริ่มพูดขึ้นมาอย่างไรดี“แม่ทัพน้อย ขนาดข้อมือของเจ้า ข้าวัดด้วยตนเอง ตอนนี้ เจ้ายังจะปฏิเสธอีกหรือไม่?” องค์หญิงใหญ่จ้องมองดูนางเฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย“องค์หญิง...”องค์หญิงใหญ่พูดขัดนางขึ้นมา“ข้าช่างโง่ยิ่งนัก ข้า...ข้าร่วมวางแผนกับมิ่งเฉียวม่อ คอยทำร้ายเจ้า เจ้าถือโทษข้า ไม่เชื่อข้า ก็สมควรแล้ว“ข้า ข้าเนรคุณ! ไม่มีหน้าสู้หน้าเจ้า”ใบหน้าองค์หญิงใหญ่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ราวกับก่อกรรมทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 413

    องค์หญิงใหญ่กินปูนร้อนท้องเมิ่งเฉียวม่อสามารถแหกคุกได้ ก็เพราะฝากป้ายคำสั่งอินทรีเหินไว้กับนางนางก็รู้ว่าความจริงเป็นสิ่งที่ไม่อาจปิดบังได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะไวขนาดนี้ยิ่งคิดไม่ถึงก็คือ คำพูดของฝ่าบาทที่ดูเหมือนเป็นการสอบสวนสิ้นสุดลงอย่างกะทันหันเขาเปลี่ยนเรื่องพูดขึ้นมา ตักเตือนนางอย่างเคร่งขรึม“เซียวฉี เรื่องนี้เราไม่ทำโทษเจ้าได้ แต่นับจากนี้ไป ตำหนักหย่งเหอ เจ้าอย่ามาบ่อยนัก”องค์หญิงใหญ่กำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัวนางจับจ้องมองดูเซียวอวี้ ยิ้มหัวเราะพูดขึ้นมาอย่างไม่ยอมพ่าย“ฝ่าบาท ท่านครองบัลลังก์มาเจ็ดปีแล้วใช่หรือไม่? จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรัชทายาท ไม่สมเหตุสมผลเสียเลย“ได้ยินเสด็จย่าตรัสว่า ท่านวางแผนไว้ ตราบที่ฮองเฮาไม่มีรัชทายาท ท่านก็จะไม่โปรดปรานสนมวังหลัง?”“อย่าหาว่าข้าพูดมาก หลายปีมานี้ เคยโปรดปรานเฉพาะหรงเฟยกับหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ แต่ก็เคยโปรดปรานจิ้งเฟย สตรีพวกนี้ล้วนไม่ได้ตั้งครรภ์ ทำไมข้าถึงรู้สึกว่า สิ่งสำคัญนี้ไม่ได้อยู่ที่ฮองเฮา?”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเข้มองค์หญิงใหญ่ยิ้มหัวเราะอย่างมีเจตนาแอบแฝง แสดงออกด้วยเจตนาดี“ในฐานะที่ข้าเป็นเสด็จพี่หญิง จึงกล้าพูดคำพูด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 414

    เป็นครั้งแรกที่เซียวอวี้ มองเห็นดวงตาของนางเปล่งแสงประกายเช่นนี้รอบด้านเงียบสงบ ดูเหมือนขอเพียงนางมองดูเขาเช่นนี้ เขาจะตอบสนองนางได้ทุกอย่างแต่เขาก็ใช่ว่าจะไม่ได้เรื่องขนาดนั้นหลังจากขาดสติไปชั่วขณะ เขาก็กลับมาเคร่งขรึมเย็นชาเหมือนปกติ พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉย“ปีที่สองที่เราขึ้นครองราชย์ กองกำลังทหารทั้งสี่แคว้นร่วมมือกันโจมตีแคว้นหนานฉี เราออกไปทำศึกด้วยตนเอง หลังจากการศึกครั้งใหญ่จบสิ้นลงแล้วกลับแคว้น เดินทางผ่านป่าหมอกหนาทึบ“ในป่าทึบนั่น มีนักฆ่าซุ่มอยู่กลุ่มหนึ่ง”“ตอนที่เราต่อสู้กับนักฆ่า พลางมีคนคลุมหน้าผู้หนึ่ง ปล่อยสิ่งมีชีวิตที่คล้ายมังกรพสุธาออกมา เราถูกมันกัด ทำให้ถูกพิษ ภายหลังค่อยรู้ว่า นั่นคือพิษวารีสวรรค์”เฟิ่งจิ่วเหยียนก็รู้ พิษวารีสวรรค์นั้น เป็นการเลี้ยงผ่านมังกรพสุธา แต่ละวันนั้นจะให้มันกินยาพิษชนิดพิเศษ ไม่นาน มันก็จะสะสมเป็นพิษชนิดรุนแรง “วารีสวรรค์” ในตัวการเลี้ยงวารีสวรรค์ตัวหนึ่ง ต้องใช้เวลาสิบปีและใช่ว่ามังกรพสุธาทุกตัว ล้วนดูดซึมยาพิษพวกนั้น มีชีวิตรอดมาอย่างราบรื่น จนกลายเป็นวารีสวรรค์ดังนั้น พิษวารีสวรรค์นั้นพบเห็นได้ยากนางฟังเซียวอวี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 415

    เฟิ่งจิ่วเหยียนเสนอให้เปิดเผยความจริงต่อสาธารณชน เพื่อไม่ให้ราษำรเข้าใจผิดต่อไปทว่าแววตาเซียวอวี้ เยือกเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง“ไม่จำเป็น”คราวนี้กลายเป็นนางที่ไม่เข้าใจหลักการเปรียบเทียบประโยชน์สองสิ่งแล้วเลือกสิ่งที่ให้ประโยชน์มากกกว่า ในฐานะที่เขาเป็นจักรพรรดิ ไม่เข้าใจหรือ?เซียวอวี้ค่อนข้างจริงจัง“หากเปิดเผยความจริงว่าเมิ่งเฉียวม่อเป็นตัวปลอม ตระกูลเมิ่งนั้นยากที่จะหลุดพ้นความผิด ตลอดจนค่ายทหารเหนือนับพันหมื่น”ต่อให้ทหารเหล่านั้นไม่รู้ความจริง หากอยากลงโทษ ย่อมมีเหตุผลหรือหาข้ออ้างได้เสมอหากผู้ใดมีเจตนาฉวยประโยชน์ ทั่วทั้งค่ายเป่ยต้าก็จะวุ่นวายเก็บความลับนี้ไว้ เขายังสามารถปกป้องตระกูลเมิ่งกับทหารเหล่านั้นหากเปิดสู่สาธารณชน เขาจะต้องดำเนินการอย่างยุติธรรม มิฉะนั้นจะควบคุมได้ยากเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่พูดอะไรในความรู้สึกส่วนตัวของนาง ยอมเข้าข้างพวกอาจารย์เพียงประหลาดใจไม่น้อย เพื่อพวกเขาแล้ว เซียวอวี้ยอมให้คนเข้าใจตนเองผิดแน่นอนว่า สิ่งที่เซียวอวี้คำนึงถึง ไม่ได้มีเพียงเท่านี้เขาพูดต่อไปอีก“เมิ่งสิงโจวเป็น ‘เทพสงคราม’ ของค่ายเป่ยต้า การตายของเขา จะก่อให้เกิดคลื่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 416

    ตำหนักซินฮุ่ยจิ้งเฟยนั่งอยู่ตรงหน้าคันฉ่อง แววตาค่อนข้างล่องลอยสาวใช้ชิวหงอดเห็นใจไม่ได้“พระนาง ดึกแล้วเจ้าค่ะ”ฝ่าบาทไม่เสด็จ พระนางก็จะไม่นอนไม่ได้จิ้งเฟยพึมพำด้วยเสียงเบา“ใช่ ดึกแล้ว”เวลานี้ ฮองเฮากำลังร่วมบรรทมหรือไม่?เดิมนางยังสามารถปลอบโยนตนเอง บางทีฮองเฮาอาจจะเหมือนกับนาง เป็นกลลวงที่ฝ่าบาทใช้หลอกคนอื่น ไม่ได้ร่วมบรรทมจริง ๆ ทว่า หากเป็นความเท็จ ฝ่าบาทมีความจำเป็นต้องรับสั่งให้เข้าไปอยู่ในตำหนักจื้อเฉินหรือ?ที่นั่นเป็นสถานที่ แม้แต่หรงเฟยก็เหยียบย่ำเข้าไปน้อยครั้งมากสามารถเห็นได้ว่า ฝ่าบาทรักใคร่โปรดปรานฮองเฮาจากใจจริงแล้วนางถือว่าเป็นอะไรกัน?นางใช้ทุกวิถีทาง ก็ไม่สามารถทำให้ฝ่าบาทหันมามองนางค่ำคืนนี้ ถูกกำหนดให้ยากที่จะข่มตาหลับเช้าวันรุ่งขึ้นในที่ว่าราชการเช้าเหล่าขุนนางยังถกเถียงกันเรื่องการตายของเมิ่งเฉียวม่อ“ฝ่าบาท แม่ทัพน้อยเมิ่งมีสถานะอันสูงส่งอยู่ในใจประชาชน นางตายไป ชื่อเสียงของท่านในหมู่ประชาชนไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน เรื่องนี้จะมองข้ามไม่ได้!”“ฝ่าบาท แม้แต่ญาติพี่น้องของกองทัพมังกรพยัคฆ์ ยังล้วนออกมาพูดว่า แม่ทัพน้อยเมิ่งไม่สมควรตาย”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 417

    “กระหม่อมเพียงได้ยินมาว่า แม่ทัพน้อยเมิ่งกับหมอทหารคนหนึ่งมีมิตรภาพอันลึกซึ้ง ถูกเล่าขานกันว่าเป็นชายรักชาย”รุ่ยอ๋องพูดถึงตรงนี้ ก็ครุ่นคิดแล้วพูดขึ้นมา “แต่กระหม่อมคิดว่า น่าจะเป็นเพียงเรื่องเล่าขาน ความจริงเป็นเพียงสหายที่ทำงานร่วมกัน”สีหน้าเซียวอวี้เคร่งขรึมขึ้นมา“หมอทหารผู้นั้นมีชื่อเรียกว่าอะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน”“กระหม่อมจำได้เพียงว่า ดูเหมือนเขาจะสกุลต้วน”สกุลต้วน?เซียวอวี้คิดถึงเข็มเชียนอวี่ขึ้นมาทันทีหมอทหารผู้นั้น เป็นไปได้อย่างมากที่จะเป็นผู้สืบทอดตระกูลต้วน!รุ่ยอ๋องไม่รู้ว่าฝ่าบาทถามเรื่องเหล่านี้ทำไม เขากลับมาพูดเข้าเรื่องจริงจัง“ฝ่าบาท ในเมื่อเมิ่งเฉียวม่อไม่ใช่แม่ทัพน้อยเมิ่งตัวจริง แล้วทำไมท่านถึงไม่นำเรื่องนี้เปิดเผยต่อสาธารณะ?”แววตาเซียวอวี้มืดมน“เรามีแผนของเราเอง”สิ่งที่เขาคิดในตอนนี้ก็คือ หมอทหารสกุลต้วนคนนั้น……ด้านนอกห้องทรงพระอักษรเฉินจี๋เห็นรุ่ยอ๋องออกมา ก็ถวายความเคารพอย่างนอบน้อมบนใบหน้าของเขาไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใด แลดูเรียบร้อย กลับมีคำพูดมากมายอยู่ในใจคิดไม่ถึงว่า คนจิตใจดีมีน้ำใจอย่างรุ่ยอ๋อง เป็นคนที่สตรีนับพันหมื่นหลงรัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 418

    ภายในตำหนักมีเสียงกรีดร้องขึ้นมาราวกับหมูถูกเชือด“สารเลว! ผู้ใดป่วย? เจ้าว่าผู้ใดสติฟั่นเฟือน? ข้าสบายดีมาก! อ้าก! พวกเจ้าจะทำอะไร!”อาจเป็นเพราะองค์หญิงใหญ่มีปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรง ไทเฮาจึงสั่งคนมัดไว้ผ่านไปสักพัก องค์หญิงใหญ่ถูกมัดไว้บนเตียง นางดิ้นรน บิดเคลื่อนไหวไปมา ตะโกนพูดกับไทเฮาที่อยู่ข้างประตู“เสด็จแม่! ช่วยข้าด้วย!”ไทเฮาก็ทำใจไม่ได้“ฉีเอ๋อร์ เสด็จแม่กำลังช่วยเจ้า”องค์หญิงใหญ่รู้สึกงงงวยนางเย็บปักถุงหอมอยู่ดี ๆ เสด็จแม่กลับคิดว่านางป่วย“ฮองเฮา...ไปตามฮองเฮา!” องค์หญิงใหญ่ตะโกนสั่งสาวใช้เวลานี้หนิงเฟยยืนอยู่ด้านข้างไทเฮาอย่างหวาดกลัวตามฮองเฮาทำไม?พี่หญิงคงไม่ได้บ้าไปแล้วจริง ๆ มั้ง?……ตำหนักหย่งเหอเฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังพลิกอ่านตำราโบราณ เพื่อหาภาพงูเก้าหางนั่นซุนหมัวมัววิ่งเข้ามาในตำหนักอย่างกะทันหัน พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงหายใจหอบ“ฮองเฮา! แย่แล้ว! ทางด้านตำหนักฉือหนิง...องค์หญิงใหญ่นาง นางอาละวาดขึ้นมาแล้ว...”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วขึ้นมา“มีเรื่องอันใด”“เห็นพูดว่าเพราะการตายของแม่ทัพน้อยเมิ่ง องค์หญิงเสียใจสิ้นหวัง มีพฤติกรรมผิดปกติ ไทเฮาจึงให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 419

    ตำหนักจื้อเฉิน ยามกลางคืนเซียวอวี้เตรียมจะบรรทมแล้ว กลับเห็นฮองเฮากำลังอ่านตำราอยู่เขาเดินไปถาม “ตำรานี้มีอะไรน่าดูขนาดนั้นเชียวหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบอย่างไม่เงยหน้าขึ้นมา“ข้าได้สั่งคนไปสืบรายการซื้อขายผ้าไหมหัวหลัวในหลายปีมานี้แล้ว มีเวลาว่าง จึงค้นหาดูเบาะแสของภาพงูเก้าหาง” เซียวอวี้เดินไปแย่งตำราเล่มนั้นมา ทำให้นางต้องเงยศีรษะขึ้นมามองดูเขา“อาจจะเป็นเพียงภาพสัญลักษณ์ธรรมดา”“อาจจะใช่” เฟิ่งจิ่วเหยียนอยากเอาตำรากลับคืนมา กลับได้ยินเขาเอ่ยถาม“ค่ายเป่ยต้ามีหมอทหารสกุลต้วน วิชาเข็มเชียนอวี่ เขาเป็นคนสอนเจ้าใช่หรือไม่?”แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเซียวอวี้ถามต่ออย่างหมดความอดทน“เราต้องการฟังความจริง เป็นเขาใช่ไหม”เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบด้วยแววตาเยือกเย็นชา “ใช่เพคะ”ในใจเซียวอวี้อัดอั้นเข็มเชียนอวี่ของตระกูลต้วน ไม่สืบทอดให้กับคนนอก นอกเสียจากเป็นคนกันเองในตระกูลกันเองความสัมพันธ์ระหว่างนางกับหมอทหารคนนั้น จะต้องไม่ธรรมดาแน่เมื่อคิดได้เช่นนี้ เซียวอวี้ลองถามขึ้นมา“เจ้ารู้ไหม ตระกูลต้วนสมรู้ร่วมคิดก่อกบฏ ถูกประหารเก้าชั่วโคตร? คนนั้นเป็นคนของตระกูลต้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 446

    เซียวอวี้ที่เกือบจะเดินไปถึงประตูหน้าตำหนักแล้วนั้น พลันได้ยินเฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยเรียกเขาขึ้นมา“กษัตริย์ของแผ่นดินควรจักมีความใจเย็นและควบคุมสติอารมณ์ของตนเอง ยามนี้ท่านกำลังทำอันใดอยู่กัน?”เมื่อเซียวอวี้หันกายกลับมานั้น พลันเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนยกฉากกั้นขึ้นมาแล้วฉากกั้นที่หนักเช่นนั้น นางกลับ “ยก” มันขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย เซียวอวี้จึงเอ่ยเยาะเย้ยออกมาด้วยความเย็นชา“หากเรายังไม่ใจเย็นพอ นั่นก็เป็นเพราะถูกความเย็นชาของเจ้าบีบบังคับมัน”ผู้ใดจักทนความเฉยเมยของนางได้กัน?เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูเขาด้วยท่าทีสงบนิ่ง“หากว่าข้าเอ่ยคำโกหกออกไป ท่านจักชอบฟังมันเช่นนั้นหรือ?”เซียวอวี้พลันตวาดออกมาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์“ใช่ เราชอบฟังเรื่องโกหก!”“ได้ ข้าสนใจเรื่องนั้นเป็นอย่างมาก หากท่านไปโปรดปรานมู่หรงฉานแล้วไซร้ ข้าจะรู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์นางตั้งใจที่จะทำให้เขารู้ว่า คำโกหกนั้นหาได้ฟังดูดีเสมอไปไม่เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือการทำให้เขาใจเย็นลง แล้วมานั่งหารือเรื่องจักทำเช่นไรถึงจะจัดการจับตัวผู้วางยาพิษให้ได้ไวที่สุดเซีย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 445

    เซียวจั๋วที่ขาดแคลนเงินทอง แต่ก็ยังคงพาเฟิ่งจิ่วเหยียนมาที่ร้านอาหารเฟิ่งจิ่วเหยียนนึกสงสัยยิ่งนัก เขามิคิดจะมีท่าทีระวังตัวจากผู้อื่นเลยหรือ?“อาหารพวกนี้พอหรือไม่?” เซียวจั๋วแสดงท่าทีเป็นมิตรต่อนาง ราวกับว่าเขาหาได้มีท่าทีสงสัยที่นางพยายามจะบุกรุกเข้าไปในบ้านของชาวบ้านไม่ ทั้งยังเห็นนางราวกับเป็นสหายที่พามากินข้าวก็ไม่ปาน ทั้งยังมิคิดเอ่ยถามนามของนางอีกเฟิ่งจิ่วเหยียนกวาดสายตามองเขาเซียวจั๋วแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดา ทั้งยังมีรอยปะชุนอยู่บนเสื้อผ้าอีกหากใครได้พบะเจอคนผู้นี้ละก็ คงคิดไม่ถึงแน่ ๆ ว่าครั้งหนึ่งเขาจักเคยเป็นองค์รัชทายาทแห่งแคว้นหนานฉีมาก่อนเซียวจั๋วและเซียวอวี้มีความคล้ายกันยิ่งนัก หากแต่ลักษณะนิสัยของพวกเขากลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเซียวอวี้มีท่าทีโหดเหี้ยวอำมหิต ทั้งยังเต็มไปด้วยพละกำลังที่แข็งแกร่งและทรงอำนาจเซียวจั๋วกลับมีท่าทีคล้ายกับบัณฑิตที่มีความอ่อนโยนสง่างาม ทำให้ผู้คนอยากจะเข้าใกล้เขาลักษณะเด่นตรงจุดนี้คล้ายกับรุ่ยอ๋องยิ่งนักเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยเข้าประเด็นในทันที“เมื่อครู่ คุณชายรู้จักคนในครอบครัวนั้นงั้นหรือ?”เซียวจั๋วหาได้ตอบนางไม่ พ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 444

    มู่หรงฉานตกตะลึงไปในทันที“ร่วมบรรทม? กงกงมิได้ประกาศผิดไปใช่หรือไม่? ไทฮองไทเฮาประชวรหนักเช่นนี้ เหตุใดฝ่าบาทถึง…”หลิวซื่อเหลียงพลันพยักหน้าลงด้วยท่าทีนอบน้อม“กุ้ยเหรินได้ยินไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ บ่าวก็มิได้ประกาศผิดไปเช่นกัน ท่านเสด็จกลับไปก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”มู่หรงฉานมองยังประตูหน้าตำหนักด้วยท่าทีเป็นกังวล“กงกง ไทฮองไทเฮาในยามนี้เป็นเช่นไรบ้างเพคะ? หากข้ามิได้เข้าไปเยี่ยมคงมิอาจวางใจได้ ได้โปรด ท่านช่วยไปทูลขอเข้าเฝ้าให้ข้าที”มู่หรงฉานทำทีว่าตนเองหาได้สนใจเรื่องการร่วมบรรทมไม่ ทั้งยังเอาแต่สนใจเรื่องอาการป่วยของไทฮองไทเฮาเท่านั้นหลิวซื่อเหลียงจึงตอบกลับไปด้วยความพอดีว่า“เนื่องจากฝ่าบาทมีรับสั่งว่ามิให้ผู้ใดเข้าพบ กุ้ยเหรินรั้งรอก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ บ่าวทูลกล่าวมากไปย่อมไร้ความหมาย”มู่หรงฉานจึงได้ยอมแพ้หลังจากออกจากตำหนักวั่นโซ่วแล้วนั้น นางกำนัลรับใช้ชิวหงก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป“กุ้ยเหรินเพคะ อีกไม่นานฝ่าบาทก็จะกลับมาโปรดปรานท่านเช่นเดิมแล้ว ทำเอาบ่าวนึกตกใจยิ่งนัก!”นางครุ่นคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ไทฮองไทเฮาประชวรหนักถึงเพียงนี้ เหตุใดฝ่าบาทถึงมีกระจิตกระใจทำเช่นนั้นได้?ทว่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 443

    ภายในตำหนักวั่นโซ่ว หมอหลวงคล้ายกับมีดาบจ่ออยู่ที่ลำคอ พลางเอ่ยรายงานออกมาด้วยท่าทีระมัดระวัง“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ไทฮองไทเฮามีอาการเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง นับว่าอันตรายเป็นอย่างยิ่ง!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวอวี้จึงรีบก้าวเดินเข้าไปด้านในใบหน้าของเขาพลันมืดมนไปในทันทีถึงอย่างไร ญาติที่ยังหลงเหลืออยู่ในโลกนี้ของเขาก็หาได้มีมากไม่ด้านในตำหนัก ไทฮองไทเฮานอนอยู่บนเตียงด้วยความอ่อนแรง พลางมองเซียวอวี้ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและมิอยากจาก“ฝ่าบาท……”เซียวอวี้ก้าวขึ้นไปข้างหน้า พลางจับมือนางเอาไว้“เสด็จย่า” เซียวอวี้พยายามกดน้ำเสียงของตัวเองเอาไว้จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็ล้มป่วยลงเช่นนี้ ทำให้พระนางเอ่ยพูดออกมาได้อย่างติดติดขัดขัด ทั้งยังใช้เรี่ยวแรงเป็นอย่างมากพระนางพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงของตนเองออกมา ทำเอาเส้นเลือดบนลำคอถึงกับปูดบวมขึ้น พลางเอ่ยออกมาว่า“ข้า...แก่มากแล้ว ไร้ประโยชน์ยิ่งนัก“เจ้าที่มีชะตากรรมชีวิตลำบากมาตั้งแต่เด็ก… ข้าที่คอยมองดูอยู่ตรงนี้ ก็หวังว่าข้างกายของเจ้าจักมีคนรู้ใจ มี... มีลูก...“ฝ่าบาทก็เป็นมนุษย์เช่นกัน เจ้าจักต้องมีครอบครัว อย่าได้ตำหนิข้าเลย.

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 442

    คุกเทียนเหลาภายในห้องทรมาน พลันมีเสียงกรีดร้องดังออกมา“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมหาได้...หาได้ทรยศต่อแว่นแคว้นไม่! มิได้มีผู้ใดมาชี้นำกระหม่อม กระหม่อมทำทั้งหมดก็เพื่อยุทธภพของแคว้นหนานฉี...อ๊าก! กระหม่อมรู้สึกจากใจว่าท่านแม่ทัพน้อยเมิ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ในเรื่องนี้!”“ฝ่าบาท กระหม่อมก็เป็นผู้บริสุทธิ์เช่นกัน...”ผู้ที่ถูกมัดติดเก้าอี้ไม้นั้น ล้วนแต่เป็นผู้ที่คอยกระทำการปลุกปั่นผู้คนหลังจากที่เมิ่งเฉียวม่อตายไปบรรดาเหล่าขุนนางที่กระทำกล่าวหาว่าฮ่องเต้ทำร้ายขุนนางผู้ภักดีนั้น ล้วนแต่เป็นขุนนางที่โง่เง่าหูเบา ทว่า ผู้ที่ชักใยคอยปลุกปั่นอยู่เบื้องหลังที่แท้จริง ทั้งยังเป็นผู้ที่กระจ่ายข่าวลือออกไปนั้น คือผู้กระทำผิดที่แท้จริงต่างหากในเมื่อตามหาพวกมันพบแล้ว ย่อมไม่มีทางปล่อยคนเหล่านี้ไปง่าย ๆ อย่างแน่นอนทำให้ข้าราชบริพารราษฎรมากมายในหนานฉีต้องเกิดความโกลาหลเช่นนี้ มีความเป็นไปได้ว่าพวกมันจักต้องร่วมมือกับคนนอกแคว้นอย่างแน่นอนทว่า ถึงแม้จะทรมานเพื่อเค้นถามความจริงออกมาหลายวันแล้วก็ตาม พวกมันก็ยังคงปากแข็งอยู่วันนี้ เซียวอวี้จึงเดินทางมาที่นี่ด้วยตนเองเฉินจี๋โค้งกายคำนับมือ พล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 441

    “ฮองเฮาเพคะ...” เหลียนซวงกลับมาแล้วภายในใจของเหลียนซวงรู้สึกซับซ้อนยิ่งนักนางที่มิอาจทำตามแผนการหลบหนีที่ฮองเฮาสั่งการไว้ได้ กลัวว่าตนเองจักเป็นตัวถ่วงให้กับฮองเฮาทว่า นางยังอยากรั้งอยู่คอยรับใช้ข้างกายฮองเฮา ทั้งยังอยากจะอยู่เผชิญหน้าปัญหามากมายกับฮองเฮาเช่นนี้“ฮองเฮาเพคะ ฝ่าบาทท่าน…” เหลียนซวงที่อยากจะพูดถึงเรื่องขององครักษ์เงาขึ้นมานั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า: “ข้ารู้แล้ว”เซียวอวี้ย่อมไม่มีทางนำความโกรธของตนเองไปลงที่เหลียนซวงเพียงเพราะเรื่องที่นางปกปิดสถานะตัวตนของตนเองอย่างแน่นอน ฉะนั้นแล้ว หากให้เหลียนซวงอยู่ในวังหลวงต่อไปก็คงจะมิเป็นปัญหาอันใดนักเหลียนซวงรู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์ยิ่งนักนางได้แต่ก้มหน้าก้มตาลง “หากว่าบ่าววิ่งไวกว่านี้...”“นี่หาใช่ความผิดของเจ้าไม่” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉนเมย ก่อนจะมองไปยังองครักษ์ที่อยู่ด้านนอกตำหนักนั่นคือคนของเซียวอวี้ และยังเป็นคนที่ส่งตัวเหลียนซวงกลับมาอีกด้วยหลังจากที่ซุนหมัวมัวรู้ว่าเหลียนซวงกลับมาที่วังแล้วนั้น ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนักหากแม่นางผู้นี้กลับมา เช่นนี้ฮองเฮาก็ม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 440

    ในช่วงบ่ายขันทีได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ ให้ไปตำหนักซินฮุ่ยเพื่อประกาศราชโองการชิวหงตามจิ้งเฟยไปรับราชโองการด้วย โดยคิดว่าจะต้องมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นทว่าไม่นานนัก สีหน้าของทั้งสองคนก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึงและตื่นตระหนก “...จิ้งเฟยถูกถอดถอนจากตำแหน่ง ยกเลิกอำนาจในการช่วยควบคุมวังหลังทั้งหกตำหนัก ลดลงมาเป็นกุ้ยเหริน นับแต่วันพรุ่งนี้ให้ย้ายออกจากตำหนัก!”“เป็นไปไม่ได้!” ชิวหงตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว “ฝ่าบาททรงไม่มีทางทำเช่นนี้กับพระนาง!”พระสนมไม่ได้ทำผิดอันใด เหตุใดจึงถูกถอดถอน!จิ้งเฟยยังคงวางตัวเหมาะสมตามชาติตระกูลสูงศักดิ์ ฝืนยิ้มพร้อมกับรับราชโองการ และขอบพระทัยฝ่าบาทอย่างนอบน้อมหลังจากขันทีที่มาประกาศราชโองการผู้นั้นกลับไป นางถึงได้นั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างโดยทันที ทั้งจ้องมองบนพื้นด้วยแววตาหม่นหมอง และในมือยังกุมราชโองการนั้นไว้แน่น ชิวหงจิตใจว้าวุ่น“พระนาง นี่เกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่?“เห็นชัดว่าฝ่าบาททรงโปรดปรานท่าน...เขาจะถอดถอนตำแหน่งเฟยของท่านได้อย่างไร!”เจ้านายรุ่งเรืองก็รุ่งเรืองกันหมด เจ้านายตกต่ำก็ตกต่ำกันหมด นางยิ่งร้อนใจกว่าจิ้งเฟยเสียอีกจิ้งเฟยยังคงนิ่ง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 439

    ณ ตำหนักซินฮุ่ยจิ้งเฟยสีหน้าดูคร่ำเคร่ง ไม่อ่อนโยนและสุขุมเหมือนที่ผ่านมานางขยี้ดอกไม้ตูมในมือจนป่นปี้“ได้ยินข่าวแล้วหรือไม่”ชิวหงก้มหน้าก้มตา รับรู้ถึงความโกรธของพระสนม พร้อมเอ่ยอย่างระวังตัว“แม้ชาวบ้านจะตีกลองร้องทุกข์ เพื่อให้ถอดถอนฮองเฮา ทว่าฝ่าบาท...”นางแอบเงยหน้าขึ้น เหลือบมองดูสีหน้าของจิ้งเฟย “ฝ่าบาททรงคัดค้านความเห็นของฝูงชน ไม่ทำตามใจราษฎร”จู่ ๆ จิ้งเฟยก็ยิ้มขึ้นมาทันทีรอยยิ้มของนางดูอ่อนโยนเป็นที่สุด“ฝ่าบาททรงต้องการจะปกป้องฮองเฮาจริง ๆ”“พระนาง พวกเราควรทำอย่างไรดี?”จิ้งเฟยมองออกไปด้านนอก พระอาทิตย์ตกแล้ว ราตรีกำลังมาเยือน“ฝ่าบาททรงคิดจะปกป้องฮองเฮา ก็ต้องดูว่าชาวบ้านกับเหล่าทหารจำนวนมหาศาลจะเห็นด้วยหรือไม่”นางรอได้ การตายของแม่ทัพน้อยเมิ่ง ยังไม่กระจายเป็นวงกว้างอย่างเต็มที่อย่างน้อย ชายแดนเหนือและค่ายทหารเป่ยต้าทางนั้นก็ยังไม่ได้รับรู้ข่าวนั่นคือทหารทั้งหมดของเมิ่งเฉียวม่อทันทีที่พวกเขาก่อความวุ่นวาย ชายแดนเหนือจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมฮ่องเต้ทรงไม่มีทางนิ่งเฉยโดยไม่แยแส......ณ ตำหนักหย่งเหอประมาณยามจื่อ เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงได้กล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 438

    สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนชะงักงัน สันหลังเหยียดตรง และไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆมือข้างหนึ่งของนางถูกเซียวอวี้กุมเอาไว้เมื่อรู้ว่าเขาคิดจะทำสิ่งใด นางจึงรีบแกะมือของเขาออกทันทีเซียวอวี้พลันเปลี่ยนเป็นจับคางของนาง ทำท่าเหมือนต้องการจะจูบนางนางรีบถอยหลบทันที ทว่ากลับเห็นเขาหยุดนิ่ง และส่งยิ้มมาให้นางในรอยยิ้มนั้นแฝงทั้งการหยอกล้อและการเย้าแหย่“เราคิดว่าเจ้าไร้ยางอายถึงขั้นว่าไม่หวาดกลัวสิ่งใดเลย ทำไม ก็เข้าใจเป็นอย่างดีมิใช่หรือ? แม่ทัพน้อย...ไม่ใช่ประสบการณ์โชกโชนหรอกรึ”นิ้วเรียวยาวของเขาเกี่ยวคางของนางให้ยกขึ้นเบา ๆ เผยให้เห็นส่วนโค้งของลำคอ เขาจูบลงไปเบา ๆ บนคอของนางโดยไม่ทันตั้งตัวแผ่นหลังของเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกชาขึ้นมาทันที“ปล่อย...”เซียวอวี้คว้าเอวของนางไว้ ทันใดนั้นพลันก้มศีรษะลงไปที่ซอกคอของนาง“มันทรมานมาก ขอเราพักหน่อยเถอะ” ดูเหมือนคนที่เหนื่อยล้าอย่างเต็มที่ผู้นี้ พบเจอสถานที่ที่ได้พักผ่อนอย่างสงบ ทั้งตัวรู้สึกผ่อนคลายทั้งดูเหมือนสัตว์ป่าที่ก่อนหน้ายังดุร้าย ตอนนี้กลับเชื่องลง และขดตัวหมอบอยู่ข้าง ๆ ขาเจ้านาย ดูสงบนิ่งกระทั่งว่านอนสอนง่าย ผ่านไปไม่นา

DMCA.com Protection Status