แชร์

บทที่ 276

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
“กุ้ยเหริน ท่านเป็นอะไรไปหรือเพคะ?” สาวใช้ชิวหงถามอย่างเป็นห่วง

มู่หรงฉานรีบเก็บจดหมายฉบับนั้นไว้ ใบหน้าโอบอ้อมอารีเหมือนปกติ ทว่าเลือดในกายกลับไหลเวียนเร็วขึ้น แอบให้กำลังใจตัวเองลับ ๆ

“ไม่มีอะไร”

สองวันต่อมา

ณ ตำหนักหวั่นโซ่ว

ไทฮองไทเฮาฟังที่มู่หรงฉานพูดจบ พลันระเบิดอารมณ์ออกมาทันที

“ได้เยี่ยงไรกัน! พวกตระกูลเฟิ่ง…พวกเขากล้าดีอย่างไร!”

นางโกรธไม่เบา ความบริสุทธิ์ผุดผ่องจากการกินมังสวิรัติปฏิบัติธรรม พลันพังทลายลงในชั่ววินาทีนี้

จากนั้นนางก็ถามมู่หรงฉานว่า

“ฉานเอ๋อร์ เรื่องนี้ เจ้าตรวจสอบมาดีแล้วจริง ๆ หรือ?”

มู่หรงฉานพูดความจริงกับนาง

“ยามได้รับจดหมายลับนั้นครั้งแรก หม่อมฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันเพคะ

“แต่เมื่อคิดว่าหากเรื่องนี้เป็นความจริง เช่นนั้นหม่อมฉันก็ไม่สามารถทนมองท่านกับฝ่าบาทถูกหลอกได้

“ด้วยเหตุนี้ หม่อมฉันจึงไหว้วานให้ท่านพ่อส่งคนไปที่วัดหลงหัว ทันทีที่สืบเจอว่าเป็นเรื่องจริง ถึงได้รีบมาทูลรายงานท่านในทันที”

ไทฮองไทเฮามีความน่าเกรงขามล้นเหลือ แม้นดวงตาจะเริ่มฝ้าฟาง แต่ความคิดความอ่านมิได้มืดบอด

“จะยังไม่กล่าวถึงผู้ส่งจดหมายลับให้เจ้า ในเมื่อเรื่องที่ตร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
พ่อนางเอกเลวได้ใจจริง สงสารสองพี่น้องคู่นี้มาก ต้องมารับกรรมที่พ่อของตัวเงก่อเอาไว้
goodnovel comment avatar
คุณลักษ ท่าช้าง
น่าติดตามมากเลย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 277

    นายท่านเฟิ่งสารภาพออกมาโดยที่ไม่ต้องบังคับใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเซียวอวี้พลันปกคลุมไปด้วยไอทะมึนไทฮองไทเฮาพิโรธหนักกว่าเดิม“เจ้ามันเลวทราม! หลอกปั่นหัวฮ่องเต้องค์ก่อน ทำทุกวิถีทางให้บุตรสาวได้เป็นฮองเฮา เจ้า…เจ้าสมควรถูกประหาร!”ใบหน้าอ่อนโยนมีเมตตาของมู่หรงฉาน เผยรอยยิ้มออกมาอย่างรวดเร็วนายท่านเฟิ่งผู้นี้ช่างขี้ขลาดยิ่งนักในเมื่อกลัวตายถึงเพียงนี้ ก็ไม่ควรทำเรื่องหลอกลวงเช่นนั้นออกมาตั้งแต่แรกนายท่านเฟิ่งหมอบลงกับพื้น กล่าวอย่างสั่นเทิ้ม“ฝ่าบาท กระหม่อมทำแต่เพียงผู้เดียวพ่ะย่ะค่ะ“นอกจากกระหม่อมแล้ว ก็มิมีผู้ใดรู้เรื่องนี้…โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮองเฮา ฮองเฮาไม่รู้อะไรด้วยเลยพ่ะย่ะค่ะ”ไทฮองไทเฮามิอาจปล่อยผ่านได้“ฝ่าบาท อย่าไปฟังเขาพูดมากความ! เรื่องนี้ ฮองเฮาต้องรู้ด้วยแน่ ๆ! ถึงจะไม่รู้จริง ๆ ก็สมควรรับโทษร่วมด้วย!”นายท่านเฟิ่งได้ยินประโยคนี้ ก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างเดือดพล่าน“ไม่ใช่! ฮองเฮาไม่ผิด!“ตั้งแต่นางเป็นเด็ก กระหม่อมอบรมสั่งสอนนางด้วยชีวิตจิตใจ กระหม่อมเพียงอยากให้นางมีชีวิตแต่งงานที่ดีที่สุดในใต้หล้านี้!“ตอนนั้นสตรีจากตระกูลเหล่านั้น ไม่มีผู้ใดเทียบเทียมบ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 278

    ฮองเฮาตั้งครรภ์แล้ว!คนที่ดีใจที่สุดเห็นจะเป็นนายท่านเฟิ่งรอมาเนิ่นนาน คาดหวังมาโดยตลอด ในที่สุดฮองเฮาก็ตั้งครรภ์เสียที!เขาแทบลืมเลือนสิ่งที่เขาเผชิญอยู่ในตอนนี้ไปหมดสิ้น ทั้งยังยิ้มอย่างซื่อบื้อ ปากแทบหุบเข้าหากันไม่ได้มู่หรงฉานยืนแข็งค้างอยู่กับที่ คำพูดที่ฝ่าบาททรงตรัสเมื่อครู่สะท้อนในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่หยุดนางไม่คาดคิดเลยว่า ฮองเฮาจะตั้งครรค์!ไทฮองไทเฮารับแรงกระตุ้นนี้ไม่ไหว พลันทรุดฮวบลงบนเก้าอี้บ่าวรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ รีบเข้ามาพยุงนาง“ไทฮองไทเฮาเพคะ!”ไทฮองไทเฮากลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โบกมือ บอกให้บ่าวรับใช้ถอยออกไปจากนั้น นางก็จี้ถามเซียวอวี้“เรื่องตั้งแต่ยามใดกัน  เจ้าอย่าคิดที่จะหลอกข้าเชียวนะ หลายวันที่ผ่านมา เจ้ามิเคยโปรดปรานฮองเฮา แล้วนางจะไปตั้งครรภ์ได้อย่างไร?”เซียวอวี้กล่าวอย่างไม่ร้อนตัว“ตั้งครรภ์ในวิหารบรรพบุรุษ ในบันทึกราชกิจและพระราชดำรัสไม่มีบันทึกไว้”“วิหารบรรพบุรษ?!” ไทฮองไทเฮาแน่นหน้าอกอย่างมาก แทบหายใจไม่ออกนางยกมือชี้หน้าเซียวอวี้“เจ้า…เจ้าเป็นกษัตริย์ของแคว้นนะ! เหตุใดพวกเจ้าถึงได้ทำเรื่องเช่นนั้นในวิหารบรรพบุรุษของ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 279

    ไทฮองไทเฮาถูกเซียวอวี้กระตุ้นต่อมโมโหจนพูดไม่ออกแก้ไขหนังสือแห่งโชคชะตาเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ฮ่องเต้ปล่อยผ่านไปได้หรือ?เขาไม่ใช่คนจิตใจดีถึงเพียงนั้นเสียหน่อย!เฟิ่งจิ่วเหยียนเม้มริมฝีปากนางเข้าใจ การที่เซียวอวี้ทำเช่นนี้ ก็เพื่อศักดิ์ศรีของเชื้อพระวงศ์ฮ่องเต้ถูกขุนนางผู้หนึ่งปั่นหัวอลหม่าน ซึ่งดูหมดรัศมีจริง ๆ เซียวอวี้กล่าวขึ้นมาอีก“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เรากับฮ่องเต้องค์ก่อนไม่เหมือนกัน เราไม่เคยเชื่อหนังสือแห่งโชคชะตาสักครั้ง”ไทฮองไทเฮาเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจฝั่งเซียวอวี้พูดจบไม่ทันไร นางก็เป็นลมล้มพับไปถือคติไม่เห็นหน้าย่อมไม่เสียอารมณ์……จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็สลบไป จึงถูกนำตัวไปตรวจอาการภายในตำหนักยังดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมากหมอหลวงกล่าวว่า แค่ได้รับผลกระทบทางจิตใจในชั่วขณะหลังจากที่นางฟื้นขึ้นมา เซียวอวี้ก็ไปหาไทฮองไทเฮาในตอนนั้นเชื่องซึมผิดปกติ เพียงพูดว่า“เจ้าเป็นฮ่องเต้ อยากทำอะไร ก็ทำเถอะ”หลังจากที่เซียวอวี้ทูลลา มู่หรงฉานก็เข้ามาในตำหนักนางเฝ้าอยู่ข้างแท่นบรรทมของไทฮองไทเฮา ขอบตาแดงก่ำเล็กน้อยไทฮองไทเฮารู้ว่านางกตัญญูรู้คุณ และรู้ว่า นางต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 280

    ม่านไข่มุกกระทบกันจนเกิดเสียงเซียวอวี้โยนอีกฝ่ายลงบนเตียง โถมตัวเข้าใส่อย่างไม่ทะนุถนอม ทั้งยังจับแขนทั้งสองข้างของนาง กดไว้เหนือศีรษะทั้งสองด้านเขาขึ้นคร่อม มองทุกอย่างของนางราวกับว่าในสายตาของเขา นางเป็นเพียงเหยื่อที่เขาสามารถใช้มือจับมาได้ง่าย ๆ เห็นนางออกแรงดิ้น แต่กลับไม่กล้าเผยวรยุทธ์ออกมา เห็นสีหน้าของนางเดี๋ยวซีดเดี๋ยวคล้ำเขียว เห็นลมหายใจของนางแปรปรวน กลายเป็นถี่กระชั้น…เฟิ่งจิ่วเหยียนออกแรง แต่ไม่กล้าออกแรงทั้งหมดนางไม่เคยอับจนหนทางเท่านี้มาก่อนถูกบุรุษกดทับไว้ใต้ร่าง ขยับไปไหนไม่ได้มือทั้งสองข้างยังถูกกดเอาไว้ จนร่างกายท่อนบนออกแรงไม่ได้ไม่นานหลังจากนั้น หน้าผากของนางก็มีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นมาดวงตาของเซียวอวี้ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ รุกลามเป็นกองเพลิงในชั่ววินาที แล้วไปกระจุกรวมตัวอยู่บริเวณเอวสอบของเขาแววตาที่มองนาง เหมือนหมาป่านักล่าที่กำลังหิวโหยสุดขีดลูกกระเดือกขยับขึ้นลง ลำคอแห้งผากขึ้นเรื่อย ๆ …เขาไม่ให้โอกาสคนใต้ร่างได้หายใจหายคอ ริมฝีปากบางเฉียบก็ประทับลงมาแรงนั้นทำให้ปากของนางแง้มเปิดออกหลังจากนั้นก็พุ่งจู่โจม ตรงดิ่งไปยังส่วนลึกดูดกล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 281

    ภายในตำหนักจื้อเฉิน ฉากบังตาอันสูงใหญ่แข็งแรง ถูกฮ่องเต้ทำลายด้วยมือในชั่วพริบตา จนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆหลิวซื่อเหลียงยืนอยู่ด้านนอกประตู เดิมทีแล้วเขาไม่กล้าเข้าไปและไม่รู้ว่าฮ่องเต้ทรงกริ้วเรื่องใดเขาได้ยินว่า ฮองเฮาทรงตั้งครรภ์แล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีหรอกหรือ?ทว่าดูจากท่าทางของฮ่องเต้แล้ว เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่า---เด็กในท้องของฮองเฮา หรือว่าไม่ใช่ลูกของฮ่องเต้?มิเช่นนั้นแล้วเขาก็คิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ฮ่องเต้ทรงมีเหตุผลใดถึงโมโหได้เพียงนี้ณ ตำหนักเซี่ยวเสียนสิ่งของในมือของหนิงเฟยพลันร่วงลงพื้น ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตกใจและเสียใจ“ฮองเฮาทรงตั้งครรภ์?”สาวใช้พยักหน้าอย่างลนลาน“เพคะพระนาง อีกสักพักในวังหลวงก็ต้องทราบเรื่องกันหมด”หนิงเฟยกัดริมฝีปากตนจนเกือบเป็นแผล“นึกไม่ถึงว่าจะเร็วเพียงนี้ เหตุใดถึงเร็วเพียงนี้! ฝ่าบาท...ทรงมิเคยโปรดปรานฮองเฮามิใช่หรือ!”“ไม่มีผู้ใดกล้าถกเถียงกันในเรื่องนี้ แต่บ่าวเดาว่า น่าจะตอนอยู่ที่วิหารบรรพบุรุษ...”“หุบปาก!” ความริษยาในดวงตาของหนิงเฟยร้อนแรงราวกับเปลวเพลิง ที่สามารถเผาไหม้กลืนกินทุกสิ่งวิหารบรรพบุรุษ จะเป็นไปได้อย่างไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 282

    เฉียวม่อนั่งอยู่ในห้อง ใบหน้าของนางที่ถูกแสงเทียนสาดส่อง เผยให้เห็นถึงความร้ายกาจศิษย์พี่กับฮ่องเต้มีความรักต่อกัน นางก็รู้สึกประหลาดใจแล้วนึกไม่ถึงว่าศิษย์พี่จะตั้งครรภ์อีก!มู่หรงฉานผู้นั้นก็เป็นคนไร้ประโยชน์!ตนอุตส่าห์นำจุดอ่อนที่สำคัญมอบให้มู่หรงฉาน เพื่อหวังจะใช้นางเล่นงานศิษย์พี่ เหตุใดนางถึงไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย?หรือยังสงสัยว่าเรื่องนั้นเป็นจริงหรือไม่?หารู้ไม่ว่า มู่หรงฉานทูลให้ไทฮองไทเฮาทราบแต่แรกแล้ว เหตุเพราะฮองเฮาทรงตั้งครรภ์ เรื่องทั้งหมดจึงจำเป็นต้องระงับไว้ก่อนณ ตำหนักฟางเฟยในขณะนี้มู่หรงฉานรู้สึกหม่นหมอง นางแน่นในอกความเชื่อมั่นก่อนจะเข้าวังถูกทำลายสิ้น เหลือเพียงความพ่ายแพ้อับจนหนทางชิวหงยืนหลบอยู่ด้านข้าง นางไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดทว่านางก็ไม่เข้าใจ ฮ่องเต้ทรงมิเคยลืมหรงเฟย แล้วเหตุใดถึงสนพระทัยฮองเฮา?ในยามราตรี เมฆหมอกเหนือตำหนักฟางเฟยยังไม่จางหาย ทว่ากลับยิ่งหนาขึ้นขันทีเข้ามาถ่ายทอดคำสั่ง“กุ้ยเหริน ฮองเฮาทรงรับสั่งให้ท่านเข้าเฝ้า”ชิวหงรู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที“กุ้ยเหริน หรือฮองเฮาจะทรงสืบรู้ว่า ท่านนำเรื่องนั้นไปกราบทูลไทฮองไทเฮา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 283

    เฟิ่งจิ่วเหยียนหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมามู่หรงฉานมองตามจดหมายฉบับนั้นโดยไม่คลาดสายตา“เจ้าดูเองเถอะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชามู่หรงฉานค่อย ๆ ก้าวมาข้างหน้า นางเปิดจดหมายออกดู ในนั้นเป็นหลักฐานความผิดของบิดาจริง ๆ ในใจของนางรู้สึกว้าวุ่น แต่สีหน้ายังคงสงบนิ่งนางรีบพับจดหมายฉบับนั้นเก็บ และวางกลับคืนที่เดิม พร้อมกลับมานั่งลงตามเดิมนางกระวนกระวายใจจดหมายฉบับนี้ บางทีอาจจะเป็นของปลอมก็ได้ทว่านางเคยทำผิดพลาดมาครั้งหนึ่ง ทำให้พี่ชายของนางต้องตาย นางจึงไม่อาจเห็นบิดาต้องมาเกิดเรื่องขึ้นอีก...มู่หรงฉานกำลังจะเอ่ยขึ้น ทว่ากลับเห็นฮองเฮานำจดหมายฉบับนั้นจ่อที่ตะเกียงน้ำมันทันทีที่มุมจดหมายข้างหนึ่งติดไฟ เปลวไฟก็ลุกลามอย่างเร็ว จดหมายทั้งฉบับถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านมู่หรงฉานตกใจอย่างมากนางลุกขึ้นพรวดพราดโดยไม่รู้ตัว“ฮองเฮา!”นางไม่เข้าใจว่า ฮองเฮาทำเช่นนี้มีจุดประสงค์ใด เฟิ่งจิ่วเหยียนเผาจดหมายฉบับนั้นเสร็จ นางเหลือบดูมู่หรงฉานอย่างใจเย็น“ข้าบอกเจ้าตามตรง ตอนแรกข้าจัดการกับหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ได้ ข้าก็ไหว้วานบุคคลลึกลับผู้นั้น“เขาเป็นคนนำหลักฐานความผิดทั้งหมด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 284

    คนที่เดินออกมาจากในเตียงผู้นั้นก็คือเฟิ่งจิ่วเหยียนนางรออยู่นานแล้วดาบในมือของนางพาดอยู่ที่คอด้านหน้าของบุคคลลึกลับผู้นั้นอย่างฉับพลัน มันแฝงไว้ด้วยเจตนาสังหารบุคคลลึกลับผู้นั้นนึกไม่ถึงว่าจะมีการซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่ ร่างกายของเขากลับแข็งทื่อภายในห้องมืดสนิท ไม่มีการจุดไฟเฟิ่งจิ่วเหยียนถือตะบันไฟด้วยมือข้างเดียว หลังจากเป่าจนเกิดเปลวไฟ ก็โยนมันไปจุดตะเกียงน้ำมันบนกำแพงอย่างแม่นยำในที่สุดภายในห้องก็มีแสงสว่างในตอนนั้นบุคคลลึกลับผู้นั้นคิดจะต่อสู้ คมดาบของเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงขยับเข้าใกล้ ทำให้มีคราบเลือดจากรอยขีดตื้น ๆ บนคอของคนผู้นั้น นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก ศิษย์น้อง”ใต้หน้ากากสีดำ เฉียวม่อเม้มริมฝีปากแน่นเฟิ่งจิ่วเหยียนหวังว่าตนเองจะคาดเดาผิดนับครั้งไม่ถ้วนทว่านางมองเห็นดวงตาของบุคคลลึกลับผู้นี้ที่โผล่พ้นหน้ากากออกมา ในใจของนางรู้สึกหนาวเหน็บจนสุดขั้วแม้เฉียวม่อจะเชี่ยวชาญในการปลอมตัว ทว่าก็ไม่อาจเปลี่ยนรูปร่างของดวงตาได้ดวงตาคู่นั้นนางเห็นก็รู้ได้ทันทีแววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเต็มไปด้วยความแค้น “จะให้ข้าฉีกหน้ากากของเจ้าด้วยมือข้าเ

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 950

    ราชทูตจากเป่ยเยี่ยนที่รักตัวกลัวตายนั้น เขาย่อมรู้ดีว่านิสัยของอดีตฮ่องเต้เป็นคนเช่นไร จึงมิคิดหาเรื่องเดือดร้อนให้กับตนเองเขารีบพาทหารทั้งหลายที่ถูกถอดชุดเกราะปลดอาวุธกลับเป่ยเยี่ยนไปในทันที มิคิดรั้งอยู่หนานฉีเลยแม้แต่วินาทีเดียวเมื่ออดีตฮ่องเต้เห็นทุกคนออกไปกันหมดแล้วนั้น เขาถึงรู้สึกตัวขึ้นมาได้ว่า เขาถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่แล้วจริง ๆ วินาทีนั้น เขาโกรธโมโหยิ่งนัก พร้อมทั้งไอสังหารที่แผ่ไปทั่วทุกที่“อ๊าก! ตาเฒ่า! ข้าเป็นบุตรแท้ ๆ ของท่าน ท่านกล้าทำเช่นนี้กับข้าเลยหรือ!”เขาทั้งสองข้างพลันคุกลงบนพื้น ก่อนจะร้องคำรามไปมามิต่างอันใดกับสุนัขที่บ้าคลั่ง……แคว้นตงซานที่อยู่ห่างออกไปพันลี้นั้นหลังจากที่ราชทูตทั้งสองกลับมาแล้วนั้น พลางนำข่าวที่ตนเองถูกพวกหนานฉีบังคับให้ทำการค้าขายด้วยมารายงานในทันทีฮ่องเต้แคว้นตงซานที่ได้ยินเช่นนั้น พลันหัวเราะออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว“เรารู้ดีว่า หนานฉีจักไม่ยอมหยุดเพียงเท่านี้แน่!”ราชทูตหลี่หลิงที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นนั้น“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมิอาจช่วยราชครูกลับมาได้ ทว่า พวกกระหม่อมได้ทิ้งสายลับเพื่อติดตามหาเบาะแสของตงฟางซื่อเอาไว้แ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 949

    การที่พวกเขาขอเข้าพบยามมืดค่ำเช่นนี้ เกรงว่าราชทูตเป่ยเยี่ยนเองคงมีเรื่องร้อนใจมากกระมังจางฉี่หยางนำกองทัพที่แข็งแกร่งบุกเข้าโจมตีเป่ยเยี่ยนสงครามในครานี้จึงต้องรีบระงับโดยไว แว่นแคว้นภายในถึงจักสามารถฟื้นตัวได้เสียที……เมืองเซวียนภายในเรือนจำฮ่องเต้เยี่ยนและเหล่าทหารมากมายถูกคุมขังเอาไว้ที่นี่เขามิคิดเลยว่า ตนเองจักถูกพวกหนานฉีจับได้ ทั้งยังถูกคนของตนเองทรยศหักหลังอีก!เขาโกรธเกลียดยิ่งนักเมื่อฮ่องเต้ถูกจับตัวเอาไว้ได้เช่นนี้ กองทัพเยี่ยนที่เหลืออยู่บนภูเขาจิ่วเหลียนย่อมไร้ความสามารถเป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิงทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนหาได้แสดงออกท่าทีว่าตนเองพ่ายแพ้ไม่ หากแต่ยังคงทำตัวหยิ่งจองหอง ยโสโอหังไม่เลิก“เราจักไม่ตาย! พวกเจ้ามิกล้าสังหารเราหรอก!“กองทัพเยี่ยนที่มีทหารนับหมื่นนายนั้น พวกเขาจักยังคงทยอยโจมตีหนานฉีต่อไป จนกระทั่งหนานฉีพ่ายแพ้ราบคาบเป็นหน้ากอง!”นี่คือพระราชโองการที่เขาออกสั่งด้วยตนเอง ก่อนที่เขาจะทยานเข้าสู่ศึกสงครามไม่ว่าอย่างไร เป่ยเยี่ยนกับหนานฉีก็จักรบกันจนตัวตายไปข้างหนึ่ง!ทหารที่เฝ้าห้องขังนั้น ต่างพากันหัวเราะออกมาเสียฉากใหญ่“ทยอยโจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 948

    ในวังหลวงหลังจากรับสำรับมื้อค่ำแล้วนั้น เซียวอวี้ก็มอบของขวัญให้กับตระกูลเฟิ่งมากมาย ทุกคนต่างก็ได้รับกันถ้วนหน้า รวมไปถึงเด็กน้อยวัยสองขวบด้วยเฟิ่งเหยียนเฉินพลันลุกขึ้นยืน“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท กระหม่อมนึกละอายใจยิ่งนัก!”โจวซื่ออุ้มบุตรสาวของตนเองขึ้นมา ก่อนจะโค้งกายคำนับตามสามีของตนเองเซียวอวี้ที่มีงานราชกิจมากมายรออยู่นั้น หลังจากรับสำรับมื้อค่ำเสร็จเขาก็ต้องกลับไปที่ห้องทรงพระอักษร ก่อนจะสั่งการให้หลิวซื่อเหลียงส่งตระกูลเฟิ่งออกจากวังไปหลิวซื่อเหลียงที่เป็นข้ารับใช้คนสนิทของฮ่องเต้ การที่ได้เขาช่วยนำออกจากวังหลวงนั้น ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่า ฝ่าบาทให้ความสำคัญกับตระกูลเฟิ่งมากเพียงใดเฟิ่งจิ่วเหยียนเหลือบมองหลานสาวตัวน้อยของนาง ก่อนจะหันกลับไปมองแผ่นหลังของฮ่องเต้ที่เดินจากไปทันใดนั้น แววตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกมากมายจึงฉายชัดขึ้นมาในทันทีตลอดการรับสำรับมื้อค่ำในครานี้ เซียวอวี้ลอบมองดูเด็กน้อยอยู่หลายครั้ง พร้อมรอยยิ้มที่ฉายขึ้นในดวงตาของเขาเสมอสายตานั้น มิต่างอันใดกับเฟิ่งเหยียนเฉินที่มอบให้กับบุตรสาวของตนเองเลยแม้แต่น้อยหากจะกล่าวว่าเฟิ่งจิ่วเหยียน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 947

    สีหน้าของนายท่านเฟิ่งเต็มไปด้วยการต่อต้านถึงแม้ว่าเขาจะแต่งงานใหม่อีกครั้ง แต่ก็ยังมีบุปผางามสาวสะพรั่งอีกมากมายให้เลือกสรร อย่างน้อย เขาก็สามารถแต่งกับสตรีที่รู้ความแตกฉานด้านอักษร หรือมีภูมิหลังที่สะอาดสะอ้านบริสุทธิ์ผุดผ่องได้หลิวอิ๋งผู้นี้ หาได้มีคุณสมบัติที่จักมาเป็นนายหญิงของตระกูลเฟิ่งไม่!หากแต่ สตรีที่อยู่ตรงหน้าเขาหาได้มีท่าทีล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปที่ใบหน้าของเขาราวกับเต็มไปด้วยความรักใคร่“นายท่าน สามีของข้าเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ข้ามิเคยลืมท่านเลยสักวันเดียว“ในเมื่อพี่สาวข้าหย่าขาดกับท่านเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเรากลับมาอยู่ด้วยกันดีหรือไม่ ในครานี้ มิมีผู้ใดขัดขวางพวกเราได้อีกแล้ว”ทั่วร่างของนายท่านเฟิ่งพลันเหงื่อแตกไปในทันที ก่อนจะผลักนางออกไป“ใครเคยอยู่กับเจ้ากัน! เจ้าออกไปให้ห่างจากข้าเดี๋ยวนี้!”หลิวอิ๋งในยามนี้ จัดการยากกว่าในปีนั้นยิ่งนัก!เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ที่มารดาของเขามิยินยอมให้นางแต่งเข้าจวนมา!ดวงตาของหลิวอิ๋งพลันหรี่ลงเล็กน้อย คล้ายกับท่าทีที่พร้อมจะทุบหม้อข้าวหม้อแกงทุกอย่างทิ้งไป“ท่านไม่อยากแต่งกับข้างั้นหรือ?“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 946

    ด้านนอกประตูวังนั้นหลิวอิ๋งและบุตรสาวของนางถูกไล่ออกไปทันทีไม่ว่าพวกนางจะเอ่ยย้ำว่าเป็นเครือญาติของฮองเฮามากเท่าไหร่เหล่าองครักษ์พลางกล่าวออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ว่า: “ฮองเฮามีรับสั่งว่า ไม่พบ!”สาวใช้ของพวกนางพลันก้าวเข้าไปข้างหน้า ก่อนจะซักถามพวกเขาว่า“มีตาหามีแววไม่! พวกเจ้ามิได้ไปแจ้งให้ฮองเฮาทราบอย่างแน่นอนเลย!”องครักษ์ที่ทำหน้ารักษาประตูวังจึงชักอาวุธออกมา“หากกล้าก่อเรื่องที่หน้าประตูวัง คงมิอยากจะมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่!”เมื่อหลิวอิ๋งและอีกสองคนเห็นสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า พวกนางจึงค่อย ๆ ล่าถอยออกไปแต่โดยดีทว่า พวกนางหาได้คิดยอมแพ้ไม่!เจิ้งจีบุตรสาวของนางพลันเป็นเดือดเป็นร้อนไปในทันที ก่อนจะจับแขนมารดาของตน พลางเอ่ยถาม“ท่านแม่ ฮองเฮามิให้พวกเราเข้าพบเช่นนี้ พวกเราจักทำเช่นไรกันดีเจ้าคะ? แคว้นพันธมิตรต่างก็เปิดเส้นทางการค้าขายมากมาย โดยเฉพาะแคว้นตงซาน จำนวนพ่อค้าหลวงเองก็มีจำกัด พวกเรามิอาจปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นได้นะเจ้าคะ”สายตาอของหลิวอิ๋งพลันเจือไปด้วยความเย็นชาเล็กน้อย เผยให้เห็นท่าทีสงบและฉลาดหลักแหลม“ไม่ต้องรีบร้อนไป ในเมื่อคนเป็นลูกมิยอมใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 945

    เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับการปรากฏตัวของท่านน้าหญิงของตนเองเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงสั่งให้คนไปตรวจสอบตัวตนของนางมาเสียก่อนการสืบหาในครานี้ กินเวลาไปเกือบทั้งวันด้านนอกประตูวัง ยังมีแม่ลูกคู่หนึ่งยืนอยู่ พร้อมด้วยสาวใช้ของนางเมื่อเหล่าองครักษ์เห็นว่านางเรียกตนเองว่าเป็นเครือญาติของฮองเฮานั้น พวกเขาก็หาได้กล้าทำอะไรไม่ พลางพาพวกนางไปพักที่ศาลาเพื่อรอฮองเฮาเรียกตัวเข้าพบใกล้พลบค่ำหว่านชิวพลันเดินเข้ามาภายในตำหนักในขณะเดียวกัน เฟิ่งจิ่วเหยียนที่กำลังอ่านจดหมายจากท่านอาจารย์ของนาง เนื้อหาพลันระบุเอาไว้ ชายแดนเหนือได้ทำการวางแนวป้องกันแบบใหม่ลงไปแล้ว มิกลัวว่าฝั่งเป่ยเยี่ยนจะลอบเข้ามาโจมตีอีกต่อไปหว่านชิวพลางโค้งกายคำนับ“ฮองเฮาเพคะ สืบพบแล้วเพคะ สตรีผู้นี้มีนามว่า ‘หลิวอิ๋ง’ เป็นท่านน้าหญิงของพระองค์จริง ๆ เพคะ ทว่า...” หว่านชิวพลันเปลี่ยนหัวเรื่อง “องครักษ์ยังสืบพบอีกว่า มารดาของท่านได้ทำการตัดสายสัมพันธ์กับตระกูลเดิมไปเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ท่านน้าหญิงของฮองเฮาผู้นี้ มิทราบว่าสมควรจักให้พบหรือไม่ให้พบดีเพคะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนวางจดหมายในมือของนางลง ก่อนจะสั่งการว่า“เจ้าไปที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 944

    เจียงหลินจึงเอ่ยอธิบายก่อน: “สำหรับเส้นทางการค้าลับนั้น ตระกูลเจียงเองก็เคยใช้งานเช่นเดียวกัน ทว่า เรื่องมนุษย์โอสถนั้น หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับตระกูลเจียงไม่”เรียวนิ้วของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเขี่ยไปที่รอบปากจอกสุรา สายตาของนางหาได้สนใจสิ่งใดไม่“เล่าต่อเถิด ว่าเรื่องเป็นมาเช่นไร”เจียงหลินพลันกัดฟันเอ่ยออกมา“ข้ากลัวว่าท่านจักเป็นกังวล จึงมิกล้าเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาให้ท่านฟัง”“เส้นทางการค้าลับนั้นมีมานานนับหลายสิบปีแล้ว การค้าของตระกูลเจียงนั้นมีบางครั้งก็จำเป็นต้องใช้งานพวกเขาบ้าง“สิ่งที่ข้าสืบพบก็คือ ไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นการค้าของพวกมนุษย์โอสถรุ่งเรืองยิ่งนัก ทว่า มิรู้เพราะเหตุใดช่วงนี้ราวกับพวกเขาได้ยินข่าวลืออะไรบางอย่าง จึงไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ มานานแล้ว“ข้าเองก็ได้ส่งคนไปซุ่มรอตรวจสอบอยู่ หากพบว่ามีการค้าขายเกี่ยวกับมนุษย์โอสถเมื่อใดนั้น ย่อมต้องแจ้งให้ท่านทราบอย่างแน่นอน“ทว่า ในยามนี้หาได้พบสิ่งใดไม่”หลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ฟังจนจบแล้วนั้น อย่างน้อยนางก็มั่นใจได้เรื่องหนึ่งว่า มนุษย์โอสถไปมาระหว่างแคว้นตงซานกับหนานฉีจริง ๆ ……ช่วงนี้ นับตั้งแต่ฮ่องเต้จนไปถึงขุนน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 943

    ปั้ง!ถานไถเหยี่ยนยกมือขึ้นข้างหนึ่ง หยวนจั้นที่ตกใจจนมิทันได้ป้องกันตนเองนั้น ก็ถูกกำลังภายในอันแข็งแกร่งกระแทกออกไปในทันทีหยวนจั้นที่ได้สติกลับมานั้น จึงปรับสมดุลกำลังภายในในร่างกายของตนเองให้มั่นคง ทว่า ก็ยังไม่อาจยืนหยัดได้อย่างมั่นคงนักร่างกายของหยวนจั้นซวนเซถอยหลังไปสองสามก้าว พร้อมทั้งแผ่นหลังที่ไปกระแทกเข้ากับประตูห้องขังที่อยู่ด้านหลังเขาเมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองนั้น พลันเห็นว่าถานไถเหยี่ยนได้ทำลายกุญแจประตูห้องขัง ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเขา...หยวนจั้นเอามือกุมหน้าอกของตนเองเอาไว้ ดวงตาค่อย ๆ หรี่ลง พร้อมด้วยเปลือกตาของเขาที่สั่นไหวไปเล็กน้อยคนผู้นี้ มีความสามารถล้ำลึกถึงเพียงนี้เลยหรือ?เพียงไม่กี่อึดใจเดียว ถานไถเหยี่ยนก็เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของเขา พลางยกมือขึ้นมาวางบนไหล่ของหยวนจั้นหยวนจั้นที่คิดว่าถานไถเหยี่ยนจะลงมือกับตนเองนั้น กลับเห็นว่าเขาเพียงแค่ปัดฝุ่นออกจากหัวไหล่ให้ตนเองเท่านั้นเสมือนกับว่า เขายังคงเป็นอาจารย์ที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนในความทรงจำของเขาอยู่จากนั้น ถานไถเหยี่ยนพลันจัดแจงอาภรณ์ที่เต็มไปด้วยรอยยับให้เรียบร้อย พวกเขาราวกับศิษย์อาจารย์ที

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 942

    หลังจากจับกุมพัศดีได้นั้น เขาหาได้มีท่าทีสำนึกผิดไม่“ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยทำสิ่งใดผิดไปงั้นหรือ…”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดมองเขาไม่ นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาพลางกล่าวออกมาว่า“ในฐานะพัศดีนั้น กลับกระทำการรับสินบน ติดต่อกับศัตรูต่างแคว้น ย่อมต้องถูกโทษประหาร!”พัศดีพลันมีสีหน้าซีดเผือดไปในทันทีเหตุใดถึง?ฮองเฮาทรงทราบว่าเขาลอบทำสิ่งใดเช่นนั้นหรือ?ผู้ใดเป็นคนทรยศเขากัน!พัศดีพลันรีบก้มลง พร้อมโขกหัวลงบนพื้นเพื่อ ร้องขอความเมตตา“ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยมิกล้าอีกแล้ว! ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิด ได้โปรด...”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดฟังเรื่องไร้สาระจากเขาไม่ พลางหันไปสั่งการกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคุกเทียนเหลาว่า“ข้าจักให้เวลาพวกเจ้าสามวัน ไปทำการสืบค้นเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าเสีย”“พ่ะย่ะค่ะ!” เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้รับผิดชอบนั้นพลันก้มหน้าลงด้วยความละอายใจเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงหันไปกล่าวกับพัศดีคนอื่น ๆ ที่ยืนเนื้อตัวสั่นเทาว่า“ภายในสามวันนี้ หากผู้ใดยอมสารภาพออกมาแต่โดยดี จักได้รับโทษสถานเบา หากว่าทำการสืบหาตัวมาได้เมื่อใดนั

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status