แชร์

บทที่ 283

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-13 18:46:45
เฟิ่งจิ่วเหยียนหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมา

มู่หรงฉานมองตามจดหมายฉบับนั้นโดยไม่คลาดสายตา

“เจ้าดูเองเถอะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

มู่หรงฉานค่อย ๆ ก้าวมาข้างหน้า นางเปิดจดหมายออกดู ในนั้นเป็นหลักฐานความผิดของบิดาจริง ๆ

ในใจของนางรู้สึกว้าวุ่น แต่สีหน้ายังคงสงบนิ่ง

นางรีบพับจดหมายฉบับนั้นเก็บ และวางกลับคืนที่เดิม พร้อมกลับมานั่งลงตามเดิม

นางกระวนกระวายใจ

จดหมายฉบับนี้ บางทีอาจจะเป็นของปลอมก็ได้

ทว่านางเคยทำผิดพลาดมาครั้งหนึ่ง ทำให้พี่ชายของนางต้องตาย นางจึงไม่อาจเห็นบิดาต้องมาเกิดเรื่องขึ้นอีก...

มู่หรงฉานกำลังจะเอ่ยขึ้น ทว่ากลับเห็นฮองเฮานำจดหมายฉบับนั้นจ่อที่ตะเกียงน้ำมัน

ทันทีที่มุมจดหมายข้างหนึ่งติดไฟ เปลวไฟก็ลุกลามอย่างเร็ว จดหมายทั้งฉบับถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน

มู่หรงฉานตกใจอย่างมาก

นางลุกขึ้นพรวดพราดโดยไม่รู้ตัว

“ฮองเฮา!”

นางไม่เข้าใจว่า ฮองเฮาทำเช่นนี้มีจุดประสงค์ใด

เฟิ่งจิ่วเหยียนเผาจดหมายฉบับนั้นเสร็จ นางเหลือบดูมู่หรงฉานอย่างใจเย็น

“ข้าบอกเจ้าตามตรง ตอนแรกข้าจัดการกับหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ได้ ข้าก็ไหว้วานบุคคลลึกลับผู้นั้น

“เขาเป็นคนนำหลักฐานความผิดทั้งหมด
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
jitanong thaikan
จะทำอย่างไร
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 284

    คนที่เดินออกมาจากในเตียงผู้นั้นก็คือเฟิ่งจิ่วเหยียนนางรออยู่นานแล้วดาบในมือของนางพาดอยู่ที่คอด้านหน้าของบุคคลลึกลับผู้นั้นอย่างฉับพลัน มันแฝงไว้ด้วยเจตนาสังหารบุคคลลึกลับผู้นั้นนึกไม่ถึงว่าจะมีการซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่ ร่างกายของเขากลับแข็งทื่อภายในห้องมืดสนิท ไม่มีการจุดไฟเฟิ่งจิ่วเหยียนถือตะบันไฟด้วยมือข้างเดียว หลังจากเป่าจนเกิดเปลวไฟ ก็โยนมันไปจุดตะเกียงน้ำมันบนกำแพงอย่างแม่นยำในที่สุดภายในห้องก็มีแสงสว่างในตอนนั้นบุคคลลึกลับผู้นั้นคิดจะต่อสู้ คมดาบของเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงขยับเข้าใกล้ ทำให้มีคราบเลือดจากรอยขีดตื้น ๆ บนคอของคนผู้นั้น นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก ศิษย์น้อง”ใต้หน้ากากสีดำ เฉียวม่อเม้มริมฝีปากแน่นเฟิ่งจิ่วเหยียนหวังว่าตนเองจะคาดเดาผิดนับครั้งไม่ถ้วนทว่านางมองเห็นดวงตาของบุคคลลึกลับผู้นี้ที่โผล่พ้นหน้ากากออกมา ในใจของนางรู้สึกหนาวเหน็บจนสุดขั้วแม้เฉียวม่อจะเชี่ยวชาญในการปลอมตัว ทว่าก็ไม่อาจเปลี่ยนรูปร่างของดวงตาได้ดวงตาคู่นั้นนางเห็นก็รู้ได้ทันทีแววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเต็มไปด้วยความแค้น “จะให้ข้าฉีกหน้ากากของเจ้าด้วยมือข้าเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 285

    แววตาที่เฉียวม่อจ้องมองเฟิ่งจิ่วเหยียนนั้น เต็มเปี่ยมด้วยความสุขจากการแก้แค้น“ข้าไม่เสียใจที่ทำเช่นนี้ ตั้งแต่เยาว์วัยจนเติบใหญ่ ท่านช่วงชิงสิ่งที่เป็นของข้าน้อยเสียเมื่อไหร่?“ตอนนั้นข้าเป็นลมเพราะความหิวอยู่ที่จวนตระกูลเมิ่ง ด้วยนิสัยว่านอนสอนง่ายและรู้ความของข้า แน่นอนว่าย่อมอาศัยอยู่ในจวนตระกูลเมิ่งได้ พร้อมกับทำให้พวกเขายอมรับข้าเป็นบุตรสาว ทว่าศิษย์พี่อย่างท่านยังจะเข้ามายุ่งเกี่ยว ทำให้พวกเขารับข้าเป็นลูกศิษย์! ส่วนท่านได้กลายเป็นลูกบุญธรรมของพวกเขา! ตำแหน่งคุณหนูใหญ่ของตระกูลเมิ่ง ท่านก็แย่งชิงไปจากข้า! เราถูกพ่อแม่แท้ ๆ ทอดทิ้ง และต้องอยู่ในจวนตระกูลเมิ่งเหมือนกัน ทว่าท่านคิดจะแข่งขันเป็นที่หนึ่งกับข้าตลอด!”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกแปลกใจ เฉียวม่อโกรธเกลียดนางนับตั้งแต่ตอนนั้น ในความผิดหวังยังเผยถึงความเย็นชาเฉียวม่อคิดว่าหากไม่มีตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้ว นางจะอยู่ในตระกูลเมิ่งได้อย่างนั้นหรือ!นางหารู้ไม่ว่า แม้แต่โอกาสที่นางจะได้รับการยอมรับเป็นศิษย์ก็จะไม่มี!เฉียวม่อกลับโกรธเกลียดนางเพราะเรื่องนี้...เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ต้องการอธิบายนางรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นข้อแก้ตัวของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 286

    “หากแม่ทัพน้อยเมิ่งตายไป ทางเหนือจะเกิดความโกลาหล“ท่านรู้หรือไม่ว่ามีชนเผ่ามากมายที่จ้องเขมือบหนานฉีราวกับดวงตาพยัคฆ์?”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงขรึม“เจ้าคิดว่าตนเองคือเมิ่งสิงโจวจริง ๆ รึ”เฉียวม่อใช้มือจับตรงคมดาบ เพื่อกันไม่ให้เฟิ่งจิ่วเหยียนแทงลึกลงไปอีก ฝ่ามือของนางถูกบาดเป็นแผล นางพ่นเลือดออกจากปากและเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้าน“ใช่ ข้าปลอมตัวเป็นเมิ่งสิงโจว ทว่าท่านก็ปลอมตัวเป็นฮองเฮาและอภิเษกสมรสเข้าวัง!“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อแม่พี่น้อง ส่วนท่าน? เบื้องหลังท่านมีตระกูลเฟิ่ง และยังมีตระกูลเมิ่งที่ท่านห่วงใย“พวกเราทั้งคู่ ผู้ใดมีความผิดมากกว่า? ผู้ใดมีคนพัวพันมากกว่า?”บาดแผลของเฉียวม่อยิ่งมีเลือดไหลออกมามาก นางมองเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างเวทนา และฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับเอ่ยว่า“ศิษย์พี่ ท่านคิดดูให้ดี สังหารข้าแล้ว จะมีคนอีกไม่น้อยที่ถูกฝังไปพร้อมกับข้า“ข้ามีคนของข้ารออยู่ภายนอก หากข้าตาย ความลับที่ท่านเข้าอภิเษกสมรสแทนจะถูกเปิดเผยให้ทุกคนรู้ เมื่อถึงตอนนั้น ทั้งตระกูลเฟิ่งและตระกูลเมิ่งจะต้องถูกลงโทษ“ศิษย์พี่ ข้าไม่เสียหาย”คำพูดของเฉียวม่อแต่ละค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 287

    ภายในท้องพระโรงของพระราชวัง ในงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าทุกคนดูกลมเกลียวกันเหล่าพระสนมต่างลืมความบาดหมางที่เคยมีไปชั่วขณะ พวกนางหัวเราะพูดคุยกันสนุกสนาน และขอพรให้สมปรารถนาในปีใหม่ที่จะมาเยือน บรรยากาศที่ครึกครื้นเช่นนี้ มีเพียงที่นั่งของฮองเฮาที่ยังคงว่างเปล่าเซียวอวี้มองไปยังที่นั่งว่างเปล่านั้นอยู่บ่อยครั้งไทเฮาทรงสังเกตเห็นจึงเอ่ยถามว่า “ฮองเฮาร่างกายไม่ค่อยดี หรือจะให้หมอหลวงไปตรวจดู?”มู่หรงฉานลุกขึ้นเอ่ยว่า“ไทเฮา เมื่อครู่หม่อมฉันเพิ่งจะออกไปเยี่ยมนาง ฮองเฮาทรงอ่อนเพลียมาก ตอนนี้นางบรรทมไปแล้วเพคะ”จิ้งกุ้ยเหรินเป็นคนจิตใจประเสริฐมาแต่ไหนแต่ไร ทั้งรู้จักเอาใจใส่ นางคิดจะไปเยี่ยมฮองเฮาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกไม่มีผู้ใดสงสัยนางไทเฮาทรงยิ้มอย่างเมตตา“สตรีที่ตั้งครรภ์มักจะง่วงนอนอยู่ตลอด ฝ่าบาท ท่านควรเอาใจใส่นางมากกว่านี้”แววตาของเซียวอวี้เยือกเย็น เขายกจอกสุราขึ้นมาและดื่มจนหมดทุกคนคิดว่าฮ่องเต้ไม่รับฟังคำพูดของไทเฮาทว่าหลังจากวางจอกสุรานั้นลง เขาพลันยืนขึ้น“เสด็จย่า เสด็จแม่ ลูกจะไปดูฮองเฮา”ไทฮองไทเฮาพยักหน้าไทเฮารู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างน้อยครั้งที่ฮ่องเต้จะฟัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 288

    ภายในวัดร้าง บุรุษผลัดเปลี่ยนกันคนแล้วคนเล่าตอนแรกเฉียวม่อยังร้องตะโกน ตอนหลังนางไม่มีเสียงแล้วนางนอนอยู่บนกองฟาง ดวงตาทั้งคู่เบิกโพลง และจ้องมองที่ประตูนางเหมือนตุ๊กตาดินเหนียวที่ไร้วิญญาณ ทั้งเนื้อทั้งตัวหนาวเหน็บนางคาดไม่ถึง คาดไม่ถึงจริง ๆศิษย์พี่จะใช้วิธีการเช่นนี้เล่นงานนางจริง ๆ!เจ็บปวดเหลือเกิน...ศิษย์พี่เคยพูดไว้ชัดเจนว่าจะปกป้องนางตลอดชีวิตศิษย์พี่โกหก!ในเวลาเดียวกันนั้นที่ตำหนักหย่งเหอนอกประตูห้องด้านในเดิมทีเหลียนซวงคิดจะนำชาแก้เมาค้างเข้าไปส่งให้ ทว่ากลับได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวแปลก ๆ นางจึงรู้ทันทีว่าเกิดสิ่งใดขึ้นนางถึงกับอ้าปากค้าง ทั้งร้อนใจและหวาดกลัวทันใดนั้น หลิวซื่อเหลียงไม่รู้โผล่ออกมาจากที่ใด เขาลากตัวนางออกไปสีหน้าของเหลียนซวงกลับซีดเผือดนางคิดจะพุ่งเข้าไปในห้องเพื่อขัดขวางทว่านางทำไม่สำเร็จนางไร้ประโยชน์สิ้นดี ไม่สามารถปกป้องฮองเฮาได้......ณ ท้องพระโรงจัดงานเลี้ยงหลังจากฮ่องเต้เสด็จออกไป เหล่าพระสนมก็หมดอารมณ์สนุกพวกนางต่างมองไปที่บัลลังก์เป็นระยะ ๆ และผลัดกันถามตอบ“ฮ่องเต้ไม่เสด็จกลับมาแล้วหรือ?”“ไม่มีทาง คืนนี้เป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 289

    บุรุษผู้นั้นลุกขึ้นนั่ง ชุดคลุมของเขาคลายออกอย่างหลวม ๆ เผยให้เห็นหน้าท้องที่มีมัดกล้ามแน่น ๆ ช่วงบนยังมีรอยข่วนของนางจากคืนที่ผ่านมา และเห็นเป็นขีดชัดเจนเขาจับคางของเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้แน่น และหันหน้านางกลับมา ให้นางหันมามองเขา เขาเหมือนสัตว์ป่าที่อิ่มแล้วจึงเชื่องไม่ดุร้าย แววตาดูเซื่องซึมและเฉยชา ทั้งยังมีความอ่อนโยนที่ไม่เคยมีมาก่อน“คืนที่ผ่านมา...”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่งราวกับน้ำนิ่ง“หม่อมฉันดื่มจนเมา หากล่วงเกิน ท่านโปรดอภัยให้หม่อมฉันด้วย เรื่องแบบนี้...จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก”คิ้วเรียวของเขาขมวดขึ้น ความอบอุ่นในแววตาจางหายไปในทันที“เมื่อคืนฮองเฮารับปากว่า จะรีบตั้งครรภ์โอรสรัชทายาท แค่ครั้งนี้พอแล้วหรือ”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วนางจะรับปากเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้อย่างไร!“คำพูดขณะเมาอย่าถือจริงจังเพคะ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเซียวอวี้เยือกเย็นขึ้นมาทันที“เมาแล้วก็ไม่ถือจริงจังรึ ฮองเฮา คืนที่ผ่านมาเจ้าเป็นคนเริ่มก่อน เจ้ากอดเรา และขอร้องว่าต้องการเรา! สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ถือจริงจังอย่างนั้นหรือ!”คำพูดของเขาฟังดูเกินจริงไปบ้าง ทว่านางเป็นคนเริ่มก่อนก็ถูกต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 290

    ยาคุมกำเนิด หากไปขอรับอย่างเปิดเผยได้ ไม่มีทางได้มาอย่างแน่นอนเฟิ่งจิ่วเหยียนกำชับกับเหลียนซวง ให้นางอ้างว่านำรางวัลมามอบให้กับหมอหลวงทุกคนเพราะมีผลงานดี จากนั้นก็แอบขโมยยามาเหลียนซวงจัดการเรื่องนี้ได้อย่างคล่องแคล่ว และนำยามาได้อย่างราบรื่น พร้อมแอบนำไปต้มที่ห้องครัวทว่าผู้ดูแลซุนหมัวมัวกลับมาเห็นเข้าระยะนี้ซุนหมัวมัวสีหน้าดูดีขึ้น ฮองเฮาทรงตั้งครรภ์แล้ว นางในฐานะผู้ดูแลก็ย่อมมีชีวิตที่ต่างจากเดิมตอนนี้นางต้องคอยเฝ้าระวังคนที่คิดจะทำร้ายครรภ์ของฮองเฮา ทุกวันจะคอยจับตาดูผู้คนในตำหนักหย่งเหอนึกไม่ถึงว่าจะถูกนางจับได้จริง ๆเหลียนซวงผู้นี้ท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ทั้งยังต้มยาที่หมอหลวงไม่ได้สั่ง ดูท่าทางไม่ชอบมาพากล!นางใช้ให้คนล่อเหลียนซวงออกไปก่อน จากนั้นรีบเปิดฝาเพื่อตรวจดูด้วยประสบการณ์ช่ำชองของนาง จึงวินิจฉัยออกมาได้ทันที ในนี้มียาฤทธิ์รุนแรงอย่างชะมดเช็ด!เช่นนั้นก็แย่แล้ว?!หากทองคำล้ำค่าในครรภ์ฮองเฮาหายไป ตำหนักหย่งเหอทั้งหมดก็จบสิ้น!ซุนหมัวมัวเอ่ยพึมพำ“เหลียนซวงผู้นี้ ปกติดูเหมือนเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ ที่แท้ก็เสแสร้ง! ข้าต้องจัดการนางให้ได้!”เดิมทีนางคิดจะทูล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 291

    ความโกรธเกรี้ยวของเซียวอวี้พลันปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า ก่อนจะเลื่อนมาปรากฏบนนัยน์ตานางสนมในวังหลังนั้น มีสนมนางใดบ้างที่มิต้องการความโปรดปรานจากเขา มีนาง เฟิ่งเวยเฉียง อยากได้ความโปรดปรานจากเขาหากแต่มิยอมรับ กลับมาเล่นเนื้อเล่นตัวต่อหน้าเขาอีกหากนางมิยินยอม เหตุใดเมื่อคืนวานถึงได้ยั่วยวนเขาเช่นนั้น?หลังจากทุกอย่างจบลงแล้ว นางยังคิดสร้างเรื่องขึ้นมาอีก เหตุใดต้องทำให้เขาลำบากเช่นนี้ด้วย!เช่นนี้จักไม่ให้เขาโกรธโมโหได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบกลับด้วยท่าทีจริงจัง“หม่อมฉันทำให้ฝ่าบาทได้รับความอยุติธรรมแล้ว”ความเยือกเย็นบนร่างของเซียวอวี้มิได้จางหายไป หากแต่น้ำเสียงกลับแผ่วเบาลงเล็กน้อย“ในเมื่อเจ้ารู้ว่าเราได้รับความอยุติธรรมเช่นนี้ เช่นนั้นฮองเฮาก็สมควรชดใช้“หากว่าเจ้าตั้งครรภ์จริง ๆ แล้วไซร้ ย่อมเป็นเรื่องที่ทุกคนปิติยินดีอย่างแน่นอน“ยาคุมกำเนิดนั้น หากเจ้ากล้าแตะต้องละก็ เราจักสังหารสาวใช้ที่จงรักภักดีต่อเจ้า”เขาไม่มีทางบอกนางว่าเมื่อคืนวานนี้ ยามที่เขาเห็นนางเมามายเช่นนั้น เขาหาได้ทำจนไปถึงขั้นตอนสุดท้ายไม่นับว่าหาได้ยากที่เขาจักทำตัวเป็นบัณฑิตเช่นนี้ยามที่คิดได้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 672

    “ท่านแม่! ท่านว่าอะไรนะ ข้ายังมีน้องสาวอีกคนรึ?!”เฟิ่งเหยียนเฉินไม่อยากจะเชื่อน้องสาวอีกคนนึงของเขา เพิ่งเกิดได้ไม่นานก็ถูกส่งตัวออกไปแล้วที่ฮูหยินเฟิ่งบอกเขาก็เพราะหวังว่าบุตรชายจะได้รู้ว่าเขายังมีน้องสาวที่ต้องปกป้องอีกคนหนึ่งเฟิ่งเหยียนเฉินอึ้งไปครู่หนึ่ง“ท่านแม่ เดี๋ยวนะ เหตุใดคนที่แต่งกับฮ่องเต้แต่แรกถึงเป็นจิ่วเหยียน ไม่ใช่เวยเฉียงเล่า?“เช่นนั้นเวยเฉียงล่ะ? เวยเฉียงไปไหนแล้ว?”แววตาของฮูหยินเฟิ่งแฝงไปด้วยความโกรธแค้น“เป็นท่านพ่อของเจ้า สามีชั่วนั่น! เขาคิดว่าหลังจากเวยเฉียงถูกลักพาตัวไปก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่อาจเข้าวังไปเป็นฮองเฮาได้ จึงส่งเวยเฉียงออกไปเสีย ทั้งยังโกหกว่านางตายแล้ว! เขาหลอกพวกเราทุกคน!”“หากไม่ใช่เพราะจิ่วเหยียน ยามนี้เวยเฉียงจะเป็นหรือตายอยู่ข้างนอกก็ไม่รู้!”เฟิ่งเหยียนเฉินที่น่าสงสารถูกปกปิดจนไม่รู้อะไรเลย แม้แต่เรื่องที่เวยเฉียงถูกลักพาตัวไป สูญเสียความบริสุทธิ์ เขาก็เพิ่งได้รู้ความจริงเอาตอนนี้เขารู้สึกว่าในหัวมีแต่เสียงดังหึ่งหึ่งสวรรค์!ในช่วงที่เขาตกอยู่ในความกลัดกลุ้มนั่น ที่แท้ตระกูลเฟิ่งกลับเกิดเรื่องมากมายเพียงนี้เขาที่เป็นพี่ชาย ช่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 671

    ณ ค่ายเป่ยต้าสีหน้าของเมิ่งฉวีเขียวคล้ำ เขามองไปที่ฮ่องเต้เบื้องหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ“ฝ่าบาท ท่าน...” ตรัสว่าอะไรนะ ถุงยาง?ยังอยากให้ฮูหยินทำถุงยางให้มากหน่อย?จากที่เขารู้ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะทำให้ไปสิบอันหรอกหรือ?ใช้หมดเร็วขนาดนี้เลยหรือ?!เมิ่งฉวีอดไม่ได้ที่จะคิดว่า...หนุ่มแน่นช่างกำลังวังชาดีเสียจริงเซียวอวี้ไม่สะดวกที่จะพูดเรื่องนี้กับฮูหยินเมิ่ง จึงคิดจะพูดกับเมิ่งฉวีแทนถึงอย่างไรก็เป็นบุรุษด้วยกันเมิ่งฉวีรู้สึกลิ้นจุกปาก “ฝ่าบาท เรื่องนี้ยากนัก กับฮูหยิน กระหม่อมเองก็พูดไม่ออกพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้นั่งดื่มชาอยู่ในกระโจม ท่าทางดูผ่อนคลายสงบนิ่งเขากล่าวอย่างไม่ช้าไม่เร็วว่า“จิ่วเหยียนกับฮูหยินเมิ่งผูกพันดุจมารดาและบุตร นางต้องแต่งงานไปไกลถึงเมืองหลวง เราตัดสินใจว่าจะให้ฮูหยินเมิ่งติดตามไปด้วย”เมิ่งฉวี: !!!ฝ่าบาทจะมาพรากพวกเขาสามีภรรยาออกจากกันได้อย่างไร!นี่กำลังขู่เขาอย่างนั้นหรือ?……ณ จวนแม่ทัพเวยเฉียงกับสาวใช้นามไฉ่เยว่ย้ายมาอยู่ที่นี่ รู้สึกไม่คุ้นเคยอยู่บ้างยังดีที่นางคุ้นเคยกับท่านพี่และฮูหยินเมิ่ง จึงไม่ถึงกับประหม่าฮูหยินเมิ่งสงสารที่เวยเฉี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 670

    วินาทีที่ถอดหน้ากากของนางออก เซียวอวี้เห็นนางยิ้มดั่งดอกไม้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนางยิ้มอย่างปล่อยตัว มีความสุขอาจเป็นเพราะดื่มจนเมา ทิ้งเกราะป้องกันตัว นางล้มสู่อ้อมกอดของเขา เกาะไหล่ของเขา แล้วลุกขึ้นมา“ข้าไม่ได้เมา...”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเดินยังไม่มั่นคง ยังบอกว่าไม่เมา?“ตงฟางซื่อส่งเจ้ากลับมา” เขาไม่ได้ถาม ทว่าเป็นการพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจหยิ่นลิ่วคอยปกป้องนางอยู่ตลอดตอนที่ตงฟางซื่อไปหาถึงเซียวเหยาจวี เซียวอวี้ก็รู้แล้วภายหลังนางตามตงฟางซื่อไปยังหอสุรา ดื่มสุราทานข้าวกับคนเหล่านั้น เขาก็รู้เขาอดกลั้นไม่ไปรบกวนนาง เพราะเขารู้ดี นั่นคือเพื่อนสนิทของนาง เป็นวิถีชีวิตของนางถึงแม้ว่านางกำลังจะแต่งงานกับเขา นั่นก็คือสิ่งที่นางไม่อาจทอดทิ้งทว่า นางเป็นสตรีผู้หนึ่ง ดื่มอยู่ข้างนอกจนดึกขนาดนี้ เหลวไหลเกินไปแล้วเซียวอวี้วางหน้ากาก จับปลายคางของนางไว้“ดื่มไปมากเท่าไหร่? ถึงได้เมาเป็นสภาพเช่นนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียนคลี่มือของเขาออก แววตาเต็มไปด้วยความมัวหมอง ไม่เย็นชาเหินห่างเหมือนทุกวันที่ผ่านมา“ก็บอกแล้ว ข้าไม่ได้เมา”นางลุกขึ้น อยากหาน้ำดื่มทว่าเวลาถัดมา ตรงแขนมีแรง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 669

    ไม่ได้เจอกันหลายเดือน ตงฟางซื่อยิ่งอยู่ยิ่งดำเฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นมาต้อนรับ“เจ้ามาได้อย่างไร?”ตงฟางซื่อหรี่ตายิ้มแย้ม “ข้าได้เจอกับอู๋ไป๋ จึงถามเขาว่าเจ้าอยู่ที่ใด ไม่ใช่ว่าไม่ต้อนรับข้ากระมัง?”สหายเก่ามาพานพบ มิใช่เรื่องน่ายินดีหรือเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างจริงใจ “เป็นไปได้อย่างไร เชิญนั่ง”สายตาของตงฟางซื่อหันไปมองเฟิ่งเวยเฉียง เห็นนางหน้าตาเหมือนกับซูฮ่วน ก็เดารู้ว่าพวกนางเป็นพี่น้องกันเฟิ่งจิ่วเหยียนแนะนำให้เขารู้จัก“คนนี้คือน้องสาวข้า เวยเฉียง”“เวยเฉียง คนนี้คือคุณชายตงฟาง”ทั้งสองคนต่างผงกศีรษะเป็นการทักทายตงฟางซื่อพูดเข้าเรื่องทันที“เรื่องของหยางเหลียนซั่ว ข้าได้บอกพวกเหล่าฝานแล้ว ทุกคนกำลังตามสืบร่องรอยของเขา ข้ามาหาเจ้าในวันนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งจะปรึกษา”เฟิ่งจิ่วเหยียนให้เวยเฉียงกับต้วนเจิ้งกลับห้องไปก่อนเวยเฉียงพูดขึ้นมาด้วยเสียงเบา “ท่านพี่ คุณชายตงฟาง พวกเจ้าคุยกันตามสบาย”ต้วนเจิ้งกลับไม่ยอม“ข้าไม่ไป หยางเหลียนซั่วทำให้พี่ชายข้าตาย เป็นศัตรูของข้า ข้าจะไปตามหาเขาพร้อมกับพวกเจ้า แล้วก็ฆ่าเขา!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจ เพียงเร่งเร้าตงฟางซื่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 668

    เรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ปิดบังแล้วนางพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา“ท่านดูไม่ออกหรือ ข้าไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องนั้น?”ตลก ผู้ลี้ภัย ลิงผอมตัวดำ! ตอนกลางวันเขาพูดว่านางเช่นนี้ !นางอยากยอมรับสิแปลก!เวลานี้ เซียวอวี้ก็คิดขึ้นมาได้ นางกำลังไม่พอใจอะไรที่แท้ก็อยากรักษาภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่อยากยอมรับว่านางคือลิงน้อยคนนั้นเขาเสียใจอย่างมาก รีบพูดขอโทษขึ้นมา“เราผิดไปแล้ว ตอนนั้น...เรากลัวว่าเจ้าจะเข้าใจผิด จึงตั้งใจพูดแบบนั้น ความจริงแล้ว เราจดจำเจ้ามาตลอด วีรชนน้อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอียงศีรษะเล็กน้อย มองดูเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเซียวอวี้จูบบนหน้าผากของนาง จากนั้นก็หยิบผ้าแห้งผืนนั้นมา เช็ดผมที่เปียกให้กับนางด้วยตนเอง กระทำอยู่อย่างอ่อนโยน ราวกับในมือถือสิ่งของล้ำค่าเอาไว้“ปีนั้นเมืองซีซิ่นเกิดทุพภิกขภัย เราเพิ่งเข้าเมืองมาก็ถูกปล้นแล้ว ไม่สามารถที่จะลงมือทำร้ายประชาชน โชคดีที่เจ้ามาปรากฏ เวลานี้เราพูดความจริง เจ้าในตอนนั้นถึงแม้ยังเด็ก ทว่าท่าทีขี่ม้า ดูสง่างามยิ่งกว่าบุรุษจริงๆ”“ไม่ใช่ตลกหรอกหรือ?” นางยังคงไม่ยิ้มแย้ม คำพูดแฝงไปด้วยความเหน็บแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 667

    เซียวอวี้จำได้ดี ตอนนั้น ขนมเกาลัดที่ยัยเด็กคนนั้นให้เขา ก็ละเอียดแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ กระทั่งละเอียดเป็นเศษกลับอร่อยมากเขารู้สึกหัวใจเต้นราวกับตีกลอง พร้อมลองถามฮูหยินเมิ่ง“มีเพียงนางที่กินแบบนี้?”ฮูหยินเมิ่งผงกหัวอย่างยิ้มแย้ม“ก็ใช่นะสิ มีแค่นางคนเดียว เพราะตอนอายุห้าขวบเคยสำลัก ทั้งรักทั้งเกลียดขนมเกาลัด คิดว่าทุบแล้วค่อยกิน เหมือนอย่างกับมันจะเชื่อฟังขึ้น ภายหลังจึงเคยชิน กินแบบนี้มาตลอด”คิดถึงจิ่วเหยียนตอนเด็กที่น่ารักดื้อรั้น และยังมีท่าทีดุร้าย บนใบหน้าฮูหยินเมิ่งปรากฏความอ่อนโยนของความเป็นแม่ “เด็กคนนั้น พริบตาเดียวก็โตขนาดนี้แล้ว...”เมื่อพูดเสร็จ แววตาฮูหยินเมิ่งก็กลายเป็นเฉียบคมขึ้นมาทันที ทุบฝ่ามือลงไป ผ่านบนไม้กระดาน ขนมเกาลัดชิ้นหนึ่งถูกทุบจนแบนเฉินจี๋ : ! ! !ฝ่ามือของฮูหยินเมิ่ง ดุเดือดมากเวลานี้ สีหน้าเซียวอวี้แข็งทื่อใช่ !อยู่ดี ๆ ใครจะทุบขนมเกาลัดที่เป็นชิ้นสมบูรณ์ให้แหลก !และปีนั้น ยัยเด็กคนนั้นอายุเพียงสิบขวบ เมื่อนับดูแล้ว ก็อายุไม่ต่างอะไรกับเฟิ่งจิ่วเหยียนบังเอิญบวกกับบังเอิญ นั่นก็จะไม่ใช่ความบังเอิญแล้ว !แล้วก็คิดถึงความผิดปกติของนาง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 666

    เมื่อครู่เซียวอวี้วู่ว่ามไปหน่อย เวลานี้สงบสติลง ก็รู้ตัวว่าตนเองตื่นตระหนกตื่นตูมไปแล้วพวกนางปรึกษาเรื่องตั้งกองกำลังหญิง คำนึงถึงแผ่นดินราษฎรเขากลับใจแคบ ยอมรับไม่ได้ ช่างเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีเอาเสียเลยเมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาดับความขุ่นเคืองในใจด้วยตนเองหลังจากนั้นก็ล้วงเอาขนมเกาลัดออกมาหลายชิ้น พวกมันถูกกระดาษมันห่อเป็นชั้น ๆ ยังร้อนอยู่เลย“ขนมเกาลัดที่ฮูหยินเมิ่งเพิ่งทำวันนี้ ข้าเอามาให้เจ้ากิน”สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ยังยืนยันคำพูดเดิม “ข้าไม่ชอบกิน”เซียวอวี้ดึงมือของนางมา วางขนมเกาลัดไว้บนฝ่ามือของนาง“ยังคิดจะโกหกข้า?“อาจารย์กับอาจารย์หญิงของเจ้าก็พูดแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตเจ้าชอบทานขนมเกาลัดที่สุด“เรารู้ ทำไมเจ้าถึงโกหกเรา”เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นมาเขารู้?หลังจากนั้น เซียวอวี้ก็พูดขึ้นมาอย่างมั่นใจในตนเอง“เจ้าถือสาเรื่องที่เราพูดถึง รู้สึกไม่พอใจ ใช่หรือไม่”เฟิ่งจิ่วเหยียน : ...เซียวอวี้อธิบายให้นางฟังอย่างจริงจัง“เราจำได้จนถึงตอนนี้ แค่ขนมเกาลัดชิ้นเดียว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคนที่ให้ขนมเกาลัดเลย“เจ้าไม่รู้ ยัยเด็กคนนั้นป่าเถื่อนมาก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 665

    เห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนอึ้ง เซียวอวี้ถามขึ้นมาด้วยเสียงเบา“ทำไมหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนได้สติกลับมา สายตาจ้องบนใบหน้าของเขา “ไม่เป็นไร"เซียวอวี้นึกว่านางยังเข้าใจผิดอยู่ จึงพูดขึ้นมาอีก“ไม่ได้โกหกเจ้า เป็นยัยเด็กคนนั้นจริง ๆ “ตัวผอม ๆ บนใบหน้าเปื้อนไปด้วยฝุ่น ไม่รู้ว่าลี้ภัยมาจากไหน...”“ตลกมากใช่ไหม” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขัดจังหวะเขา พร้อมถามขึ้นมาด้วยเสียงต่ำเซียวอวี้ผงกหัว“อืม”เฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปมองข้างนอกรถม้า ไม่พูดอะไรอีกทว่า แอบกำหมัดแน่นไม่นาน เฉินจี๋ซื้อขนมเกาลัดกลับมาแล้วเซียวอวี้ยื่นมาให้เฟิ่งจิ่วเหยียนหนึ่งชิ้น นางส่ายหัวพร้อมพูดขึ้นมา “ขอบพระทัย ทว่าข้าไม่ชอบทานสิ่งนี้”ตอนที่พูดประโยคนี้ นางไม่ได้มองดูเขาแต่ละคนชอบทานไม่เหมือนกัน เซียวอวี้ไม่สงสัยว่ามีอะไรระหว่างทาง เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นร้านขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป จึงสั่งให้หยุดรถม้าอาจารย์หญิงพูดไม่ผิด จะแต่งตัวเป็นชายอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ ควรที่จะซื้อชุดสตรีบ้างแล้ว“ข้าขอทำธุระส่วนตัว ท่านกลับไปก่อน”พูดเสร็จ นางก็กระโดดลงจากรถม้าเซียวอวี้เปิดม่าน มองเงาแผ่นหลังของนาง แล้วก็ย้อนครุ่นคิดเขาทำอะไรผิด พ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 664

    “พี่สาว...”เฟิ่งเวยเฉียงเพิ่งวิ่งมาหา ก็เห็นบุรุษด้านข้างพี่สาวคนผู้นั้นสวมชุดผ้าแพรสีม่วง ดูออกว่าเขาพยายามที่จะไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ ทว่าก็ยังคงไม่สามารถปกปิด ความสูงศักดิ์อย่างไม่ธรรมดารอบตัวเขาโดยเฉพาะใบหน้าเผด็จการน่าเกรงขาม ดูก็รู้ว่ามีสถานะสูงส่ง ไม่ให้มีการฝ่าฝืน“ข้าน้อยถวายบังคมฝ่าบาท” เฟิ่งเวยเฉียงก้มศีรษะลงทันที ไม่กล้ามองอีกฝ่ายสาวใช้ไฉ่เยว่ ก็รีบถวายความเคารพตามได้เห็นพระพักตร์จักรพรรดิ พูดว่าไม่ตื่นเต้นนั้นเป็นความเท็จ ฝ่ามือของนางเหงื่อไหลชุ่มฝ่าบาทแตกต่างจากที่นางคิดไว้ไม่มาก...สูงส่งเย็นชา ยากที่จะคาดเดาว่ารู้สึกอย่างไรไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า คุณหนูจิ่วเหยียนเคยชินกับการอยู่ข้างกายเขาได้อย่างไรเมื่อเซียวอวี้เห็นเฟิ่งเวยเฉียง ก็รู้ว่านางกับเฟิ่งจิ่วเหยียน สมกับที่เป็นฝาแฝดกัน ใบหน้าเหมือนกันเลยทว่าลักษณะนิสัย ดูก็รู้ว่าไม่เหมือนกันนางเพียงยืนอยู่ไม่พูดอะไร เขาก็สามารถมองทะลุถึงใจนาง เป็นคนไร้เดียงสา เป็นสตรีที่ไม่หวั่นไหวกับเรื่องทางโลกคนหนึ่ง“ครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องมากพิธี” เซียวอวี้พยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทว่า เฟิ่งเวยเฉียงยังคงรู้สึกว่าเขาเยือ

DMCA.com Protection Status