Share

บทที่ 287

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
last update Last Updated: 2024-11-13 18:46:46
ภายในท้องพระโรงของพระราชวัง ในงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าทุกคนดูกลมเกลียวกัน

เหล่าพระสนมต่างลืมความบาดหมางที่เคยมีไปชั่วขณะ พวกนางหัวเราะพูดคุยกันสนุกสนาน และขอพรให้สมปรารถนาในปีใหม่ที่จะมาเยือน บรรยากาศที่ครึกครื้นเช่นนี้ มีเพียงที่นั่งของฮองเฮาที่ยังคงว่างเปล่า

เซียวอวี้มองไปยังที่นั่งว่างเปล่านั้นอยู่บ่อยครั้ง

ไทเฮาทรงสังเกตเห็นจึงเอ่ยถามว่า “ฮองเฮาร่างกายไม่ค่อยดี หรือจะให้หมอหลวงไปตรวจดู?”

มู่หรงฉานลุกขึ้นเอ่ยว่า

“ไทเฮา เมื่อครู่หม่อมฉันเพิ่งจะออกไปเยี่ยมนาง ฮองเฮาทรงอ่อนเพลียมาก ตอนนี้นางบรรทมไปแล้วเพคะ”

จิ้งกุ้ยเหรินเป็นคนจิตใจประเสริฐมาแต่ไหนแต่ไร ทั้งรู้จักเอาใจใส่ นางคิดจะไปเยี่ยมฮองเฮาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

ไม่มีผู้ใดสงสัยนาง

ไทเฮาทรงยิ้มอย่างเมตตา

“สตรีที่ตั้งครรภ์มักจะง่วงนอนอยู่ตลอด ฝ่าบาท ท่านควรเอาใจใส่นางมากกว่านี้”

แววตาของเซียวอวี้เยือกเย็น เขายกจอกสุราขึ้นมาและดื่มจนหมด

ทุกคนคิดว่าฮ่องเต้ไม่รับฟังคำพูดของไทเฮา

ทว่าหลังจากวางจอกสุรานั้นลง เขาพลันยืนขึ้น

“เสด็จย่า เสด็จแม่ ลูกจะไปดูฮองเฮา”

ไทฮองไทเฮาพยักหน้า

ไทเฮารู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง

น้อยครั้งที่ฮ่องเต้จะฟัง
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 288

    ภายในวัดร้าง บุรุษผลัดเปลี่ยนกันคนแล้วคนเล่าตอนแรกเฉียวม่อยังร้องตะโกน ตอนหลังนางไม่มีเสียงแล้วนางนอนอยู่บนกองฟาง ดวงตาทั้งคู่เบิกโพลง และจ้องมองที่ประตูนางเหมือนตุ๊กตาดินเหนียวที่ไร้วิญญาณ ทั้งเนื้อทั้งตัวหนาวเหน็บนางคาดไม่ถึง คาดไม่ถึงจริง ๆศิษย์พี่จะใช้วิธีการเช่นนี้เล่นงานนางจริง ๆ!เจ็บปวดเหลือเกิน...ศิษย์พี่เคยพูดไว้ชัดเจนว่าจะปกป้องนางตลอดชีวิตศิษย์พี่โกหก!ในเวลาเดียวกันนั้นที่ตำหนักหย่งเหอนอกประตูห้องด้านในเดิมทีเหลียนซวงคิดจะนำชาแก้เมาค้างเข้าไปส่งให้ ทว่ากลับได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวแปลก ๆ นางจึงรู้ทันทีว่าเกิดสิ่งใดขึ้นนางถึงกับอ้าปากค้าง ทั้งร้อนใจและหวาดกลัวทันใดนั้น หลิวซื่อเหลียงไม่รู้โผล่ออกมาจากที่ใด เขาลากตัวนางออกไปสีหน้าของเหลียนซวงกลับซีดเผือดนางคิดจะพุ่งเข้าไปในห้องเพื่อขัดขวางทว่านางทำไม่สำเร็จนางไร้ประโยชน์สิ้นดี ไม่สามารถปกป้องฮองเฮาได้......ณ ท้องพระโรงจัดงานเลี้ยงหลังจากฮ่องเต้เสด็จออกไป เหล่าพระสนมก็หมดอารมณ์สนุกพวกนางต่างมองไปที่บัลลังก์เป็นระยะ ๆ และผลัดกันถามตอบ“ฮ่องเต้ไม่เสด็จกลับมาแล้วหรือ?”“ไม่มีทาง คืนนี้เป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 289

    บุรุษผู้นั้นลุกขึ้นนั่ง ชุดคลุมของเขาคลายออกอย่างหลวม ๆ เผยให้เห็นหน้าท้องที่มีมัดกล้ามแน่น ๆ ช่วงบนยังมีรอยข่วนของนางจากคืนที่ผ่านมา และเห็นเป็นขีดชัดเจนเขาจับคางของเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้แน่น และหันหน้านางกลับมา ให้นางหันมามองเขา เขาเหมือนสัตว์ป่าที่อิ่มแล้วจึงเชื่องไม่ดุร้าย แววตาดูเซื่องซึมและเฉยชา ทั้งยังมีความอ่อนโยนที่ไม่เคยมีมาก่อน“คืนที่ผ่านมา...”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่งราวกับน้ำนิ่ง“หม่อมฉันดื่มจนเมา หากล่วงเกิน ท่านโปรดอภัยให้หม่อมฉันด้วย เรื่องแบบนี้...จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก”คิ้วเรียวของเขาขมวดขึ้น ความอบอุ่นในแววตาจางหายไปในทันที“เมื่อคืนฮองเฮารับปากว่า จะรีบตั้งครรภ์โอรสรัชทายาท แค่ครั้งนี้พอแล้วหรือ”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วนางจะรับปากเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้อย่างไร!“คำพูดขณะเมาอย่าถือจริงจังเพคะ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเซียวอวี้เยือกเย็นขึ้นมาทันที“เมาแล้วก็ไม่ถือจริงจังรึ ฮองเฮา คืนที่ผ่านมาเจ้าเป็นคนเริ่มก่อน เจ้ากอดเรา และขอร้องว่าต้องการเรา! สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ถือจริงจังอย่างนั้นหรือ!”คำพูดของเขาฟังดูเกินจริงไปบ้าง ทว่านางเป็นคนเริ่มก่อนก็ถูกต้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 290

    ยาคุมกำเนิด หากไปขอรับอย่างเปิดเผยได้ ไม่มีทางได้มาอย่างแน่นอนเฟิ่งจิ่วเหยียนกำชับกับเหลียนซวง ให้นางอ้างว่านำรางวัลมามอบให้กับหมอหลวงทุกคนเพราะมีผลงานดี จากนั้นก็แอบขโมยยามาเหลียนซวงจัดการเรื่องนี้ได้อย่างคล่องแคล่ว และนำยามาได้อย่างราบรื่น พร้อมแอบนำไปต้มที่ห้องครัวทว่าผู้ดูแลซุนหมัวมัวกลับมาเห็นเข้าระยะนี้ซุนหมัวมัวสีหน้าดูดีขึ้น ฮองเฮาทรงตั้งครรภ์แล้ว นางในฐานะผู้ดูแลก็ย่อมมีชีวิตที่ต่างจากเดิมตอนนี้นางต้องคอยเฝ้าระวังคนที่คิดจะทำร้ายครรภ์ของฮองเฮา ทุกวันจะคอยจับตาดูผู้คนในตำหนักหย่งเหอนึกไม่ถึงว่าจะถูกนางจับได้จริง ๆเหลียนซวงผู้นี้ท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ทั้งยังต้มยาที่หมอหลวงไม่ได้สั่ง ดูท่าทางไม่ชอบมาพากล!นางใช้ให้คนล่อเหลียนซวงออกไปก่อน จากนั้นรีบเปิดฝาเพื่อตรวจดูด้วยประสบการณ์ช่ำชองของนาง จึงวินิจฉัยออกมาได้ทันที ในนี้มียาฤทธิ์รุนแรงอย่างชะมดเช็ด!เช่นนั้นก็แย่แล้ว?!หากทองคำล้ำค่าในครรภ์ฮองเฮาหายไป ตำหนักหย่งเหอทั้งหมดก็จบสิ้น!ซุนหมัวมัวเอ่ยพึมพำ“เหลียนซวงผู้นี้ ปกติดูเหมือนเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ ที่แท้ก็เสแสร้ง! ข้าต้องจัดการนางให้ได้!”เดิมทีนางคิดจะทูล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 291

    ความโกรธเกรี้ยวของเซียวอวี้พลันปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า ก่อนจะเลื่อนมาปรากฏบนนัยน์ตานางสนมในวังหลังนั้น มีสนมนางใดบ้างที่มิต้องการความโปรดปรานจากเขา มีนาง เฟิ่งเวยเฉียง อยากได้ความโปรดปรานจากเขาหากแต่มิยอมรับ กลับมาเล่นเนื้อเล่นตัวต่อหน้าเขาอีกหากนางมิยินยอม เหตุใดเมื่อคืนวานถึงได้ยั่วยวนเขาเช่นนั้น?หลังจากทุกอย่างจบลงแล้ว นางยังคิดสร้างเรื่องขึ้นมาอีก เหตุใดต้องทำให้เขาลำบากเช่นนี้ด้วย!เช่นนี้จักไม่ให้เขาโกรธโมโหได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบกลับด้วยท่าทีจริงจัง“หม่อมฉันทำให้ฝ่าบาทได้รับความอยุติธรรมแล้ว”ความเยือกเย็นบนร่างของเซียวอวี้มิได้จางหายไป หากแต่น้ำเสียงกลับแผ่วเบาลงเล็กน้อย“ในเมื่อเจ้ารู้ว่าเราได้รับความอยุติธรรมเช่นนี้ เช่นนั้นฮองเฮาก็สมควรชดใช้“หากว่าเจ้าตั้งครรภ์จริง ๆ แล้วไซร้ ย่อมเป็นเรื่องที่ทุกคนปิติยินดีอย่างแน่นอน“ยาคุมกำเนิดนั้น หากเจ้ากล้าแตะต้องละก็ เราจักสังหารสาวใช้ที่จงรักภักดีต่อเจ้า”เขาไม่มีทางบอกนางว่าเมื่อคืนวานนี้ ยามที่เขาเห็นนางเมามายเช่นนั้น เขาหาได้ทำจนไปถึงขั้นตอนสุดท้ายไม่นับว่าหาได้ยากที่เขาจักทำตัวเป็นบัณฑิตเช่นนี้ยามที่คิดได้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 292

    ซุนหมัวมัวที่มิอาจควบคุมความอยากรู้อยากเห็นของตนเองได้นั้น จึงแกะจดหมายประจำตระกูลของฮองเฮาออกมาน่าแปลก เนื้อหาด้านในจดหมายเป็นเพียงเนื้อหาปกติทั่วไปที่สื่อถึงความเป็นห่วงเป็นใยเท่านั้นจดหมายเช่นนี้เหตุใดจึงต้องลอบส่งออกจากวังไปด้วยเล่า?หาได้เป็นเรื่องที่จำเป็นไม่เมื่อกลับมาคิด ๆ ดูแล้วนั้น บางทีอาจจะเป็นแผนการที่ฮองเฮาลอบทดสอบความสามารถของนางดูก็เป็นได้ ว่านางจักสามารถใช้การได้หรือไม่ซุนหมัวมัวจึงรีบทำตามรับสั่ง พลางนำจดหมายลอบส่งไปที่ประตูทิศตะวันออกในทันทีทางด้านประตูทิศตะวันออกนั้นมีคนรอรับจดหมายอยู่แล้วไม่นานนัก อู๋ไป๋จึงได้รับจดหมายในทันทีเนื้อความในจดหมายแม้จักดูธรรมดาไปนัก แต่แท้จริงแล้วเป็นการจัดเรียงข้อความลับท่านแม่ทัพน้อยมักจะชอบใช้ “สามสี่หนึ่งห้า”นั่นก็คือ วงคำที่เกี่ยวข้องในแต่ละประโยคออกมา เมื่อนำความหมายมาเชื่อมโยงกันนั้น ก็จักแปรเปลี่ยนเป็นความหมายแท้จริงที่ต้องการจะสื่อ——[เฉียวม่อมีคนให้ความช่วยเหลือ สืบหา]เมื่ออู๋ไป๋อ่านจบแล้วนั้น เขาก็จัดการเผาจดหมายทิ้งในทันที……ภายในตำหนักหย่งเหอวันแรกของปีเช่นนี้ เหล่าบรรดานางสนมทั้งหลายย่อมมาแสดงควา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 293

    ไทฮองไทเฮาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง“เจ้าแต่งเข้าวังมาก็นานแล้ว หากยังมิได้เข้าร่วมบรรทมกับฝ่าบาทอีกใช้ได้ที่ใดกัน?”เดิมทีพระนางตั้งใจจะเป็นธุระจัดการเรื่องนี้ให้ ทว่า ฝ่าบาทที่มิใส่ใจเรื่องนี้จึงได้แต่พยายามบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดในเมื่อฝ่าบาทสามารถทำให้ฮองเฮาตั้งครรภ์ได้แล้วนั้น เช่นนี้พระองค์ย่อมมิอาจหาเรื่องปฏิเสธไปได้อีกอีกทั้ง เขาที่เคารพรักเสด็จย่าเช่นนางมาโดยตลอดในยามที่เพิ่งจัดพิธีมงคลสมรสไปได้ไม่นานนั้น ฮองเฮาก็ยังเป็นสตรีพรหมจรรย์อยู่ หากแต่เป็นพระนางที่ออกคำสั่ง จึงทำให้ฝ่าบาทและฮองเฮาได้เข้าหอเช่นนี้การถวายตัวของฉานเอ๋อร์นั้น ไทฮองไทเฮาจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งใบหน้าสวยงามของมู่หรงฉานพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย ก่อนจะหลุบตาลงพลางตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า“หม่อมฉันน้อมรับฟังคำของท่านเพคะ”ถึงแม้ท่าทีของมู่หรงฉานจักดูอ่อนโยนเรียบร้อย ทว่า นัยน์ตากลับฉายแววความทะเยอทะยานออกมาแต่งเข้าวังมาในฐานะสนม ประสูติพระโอรส เดิมทีทั้งหมดล้วนแต่เป็นเป้าหมายของนางทว่านางถูกเรื่องราวของตระกูลมารดาฉุดรั้งเอาไว้เท่านั้นในยามนี้ก็ปล่อยให้ฮองเฮามีอำนาจเหนือกว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 294

    เฉียวม่อที่ยืนมาโดยตลอดนั้น เมื่อได้ยินเฟิ่งจิ่วเหยียนออกคำสั่งให้ตนเองคุกเข่าลง นางถึงกับชะงักไปในทันทีแววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนฉายแววเย็นชา“ข้าสั่งให้เจ้าคุกเข่า เจ้าย่อมมิอาจยืนได้ ตนเองเป็นถึงขุนนางของราชสำนัก แม้แต่กฏเช่นนี้ยังมิรู้งั้นหรือ?”เฉียวม่อรู้สึกจุกอกขึ้นมาในทันทีไม่ว่านางจักเอ่ยเล่นลิ้นออกมาอย่างไร ย่อมมิอาจอยู่เหนืออำนาจของราชสำนักไปได้ ก่อนหน้านั้นเป็นเพราะศิษย์พี่เอ็นดูนาง อย่าว่าแต่ให้คุกเข่าเลย แม้แต่ให้ยืนนาน ๆ ศิษย์พี่ก็หาให้นางทำเช่นนั้นไม่ความห่างของระดับชั้นนี้ ทำเอาเฉียวม่อมิอาจรับได้ นางยืนนิ่งมิขยับเช่นนั้นอยู่นานเมื่อได้ยินคำสั่งของเฟิ่งจิ่วเหยียนนั้น องครักษ์ของวังหลวงจึงได้เข้ามาในตำหนักเฉียวม่อที่เห็นสถานการณ์เช่นนั้น พลันนึกไปถึงศิษย์พี่ยามที่อยู่ในค่ายทหาร เพียงแค่ร้องเรียกคำเดียว บรรดาเหล่าทหารก็จะก้าวออกมารับคำสั่งในทันทีนี่คืออำนาจเป็นแม่ทัพนั้นมีอำนาจ ฮองเฮาก็มีอำนาจเช่นกันเฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยออกมาด้วยท่าทีดุดันว่า“เมิ่งเฉียวม่อกระทำตัวต่อเราด้วยความหยาบคาย ลากออกไปคุกเข่าสักหนึ่งชั่วยามเสีย”ทหารองครักษ์รับคำสั่งพวกเขาหาได

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 295

    เฉียวม่อคุกเข่าท่ามกลางลมหนาวที่พัดเข้ากระดูมานานกว่าครึ่‘ชั่วยาม เมื่อเห็นฝ่าบาทเสด็จมานั้น นางจึงรีบหันหน้าไปหาด้วยท่าทีไร้หนทางในทันทีมิคิดเลยว่า ฝ่าบาทหาได้หันมามองนางสักตาเดียวไม่ พลางเดินดุ่ม ๆ เข้าไปด้านในตำหนักแทนเฉียวม่อจ้องมองไปยังแผ่นหลังของฝ่าบาท พลางกำหมัดที่แดงก่ำจากความหนาวเย็นเอาไว้แน่นศิษย์พี่มิได้ชมชอบฝ่าบาท นางรู้ดีแล้วฝ่าบาทเล่า?ฝ่าบาทดูเหมือนจะ...ชอบศิษย์พี่มากทว่า ไม่ว่าจะชมชอบสตรีมากเพียงใดก็ตาม พระองค์ก็คงมิยอมให้สตรียื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องราวในราชสำนักอย่างแน่นอน ทั้งยังมิยินยอมให้นางมารังแกท่านแม่ทัพภายใต้การบังคับบัญชาของตนเองอีกด้วย!ภายในตำหนักในเมื่อเซียวอวี้เข้ามานั้น เขาก็ไล่คนอื่น ๆ ให้ออกไปในทันที ซันหมัวมัวหันกลับไปมองฮองเฮาด้วยท่าทีหมดหนทาง พลางใช้สายตาสื่อออกมาวว่า “ผู้ใดให้ท่านมิฟังคำข้า เกิดเรื่องแล้วใช่หรือไม่” เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ ทว่า บนใบหน้าหาได้มีท่าทีตื่นตระหนกหรือรู้สึกผิดอันใดไม่“ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”เซียวอวี้พลางถามด้วยท่าทีดุดัน“เหตุใดต้องลงโทษแม่ทัพเมิ่งให้นั่งคุกเข่าด้วย?”เซียวอวี้มิได้เอ่ยต่

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 301

    ณ ตำหนักหย่งเหอ การที่จิ้งกุ้ยเหรินได้ร่วมบรรทม ฮองเฮาไร้ซึ่งปฏิกิริยาใด ๆ กลับเป็นซุนหมัวมัวที่ร้อนใจจนอยู่ไม่เป็นสุข หากว่าจิ้งกุ้ยเหรินก็ตั้งครรภ์พระโอรสด้วย ฮองเฮาก็มิใช่ผู้เดียวที่ได้ครอบครองความโปรดปรานจากฝ่าบาท! ยิ่งไปกว่านั้นจิ้งกุ้ยเหรินกับหรงเฟยดูคล้ายกันราวกับแกะ บัดนี้ฝ่าบาทยังแสดงความปรารถนาต่อนาง เกรงว่าในวันข้างหน้าจะต้องเต็มไปด้วยความโปรดปรานนางอย่างแน่นอน เหตุใดฮองเฮายังมีอารมณ์ไปเยือนตำหนักฉือหนิง เพื่อร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของหนิงเฟยอีกเล่า! ตำหนักฉือหนิง ไทเฮา ฮองเฮาและเหล่านางสนมร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของหนิงเฟย ทว่าช่างไร้ความครื้นเครง เนื่องจากหัวใจของใครหลายคนลอยไปอยู่ที่ตำหนักฟางเฟยแล้ว สุราชั้นยอดที่ดื่มนี้ช่างไร้รสชาติ ไทเฮาเคยผ่านการเป็นนางสนมมาก่อน ย่อมทราบความคิดของพวกนาง นางเอ่ยอย่างมีความนัย “ในเมื่อได้เข้าวังกันแล้ว ทุกคนจึงเปรียบเสมือนเป็นพี่น้องกัน สมควรมีความปรารถนาดีต่อกัน จึงจะทำให้วังหลังแห่งนี้เกิดความสามัคคีได้ และเมื่อนั้นฝ่าบาทจึงสามารถทุ่มเทกับราชกิจในพระราชวังส่วนหน้าได้อย่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 300

    ตำหนักเซี่ยวเสียนหนิงเฟยที่กำลังแต่งองค์ทรงเครื่องอยู่นั้น พลันทุบปิ่นปักผมในมือลง ทำเอานางกำนัลที่กำลังทำผมให้อยู่ถึงกับหวาดผวารีบคุกเข่าลงไปในทันที“พระสนมใจเย็น ๆ ก่อนนะเพคะ!”หนิงเฟยมองดูตัวเองในคันฉ่อง ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อนวันนี้เป็นวันเกิดอายุครบยี่สิบปีของนางหลังจากที่ใช้ชีวิตทุกข์ทรมานและเศร้าโศกมานานหลายปี ใบหน้านี้หาได้หลงเหลือความเป็นสตรีในวัยแรกแย้มเอาไว้ไม่ จำเป็นต้องใช้เครื่องประทินโฉมต่าง ๆ มากมาย ถึงได้มองดูมีความเปล่งประกายงดงามออกมานางที่มีตำแหน่งเป็นถึงนางสนม หากแต่หาได้เคยร่วมบรรทมกับฮ่องเต้ไม่ บอกไปผู้ใดจักไปเชื่อฮองเฮาที่มาทีหลังแต่มีสถานะที่มั่นคง นางก็หาได้อันใดไม่ ในยามนี้นางยังมาถูกสตรีเช่นมู่หรงฉานที่เพิ่งแต่งเข้ามาได้ไม่ครบหนึ่งปีแซงหน้าไปอีก!ทั้งยังเป็นในวันเกิดของนางอีก...หนิงเฟยยังคงเอ่ยถามด้วยท่าทีไม่อยากจะเชื่อว่า“ฝ่าบาทเรียกตัวให้จิ้งกุ้ยเหรินมาร่วมบรรทมจริง ๆ หรือ?”สาวใช้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น รีบร้อนพยักหน้าลงในทันที“เพ...เพคะ”นางรู้ดีว่าพระสนมไม่พอใจ แต่ก็มิกล้าเอ่ยโป้ปดออกมาเรื่องที่จิ้งกุ้ยเหรินถูกเรียกให้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 299

    เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ดีกว่าผู้ใด ปืนหอกไฟแบบใหม่นั้นดูเหมือนว่าจะสามารถใช้การได้ดี แต่แท้จริงแล้ว หาได้ง่ายดายเช่นนั้นไม่สิ่งที่เฉียวม่อมองว่าเป็นสมบัติอันล้ำค่าจนนำไปเป็นของตัวเอง แท้จริงแล้วล้วนเป็นสิ่งไร้ค่าสำหรับนางในขณะเดียวกัน ผู้คนภายในกรมศัสตราวุธต่างก็พากันล้อมดูภาพพิมพ์เขียวแผ่นนั้นสายตาของพวกเขาพลันเปล่งประกายออกมา ทั้งยังเอ่ยชมเชยออกมาไม่ขาดปากว่า“เมิ่งเฉียวม่อผู้นี้นับว่าเป็นวีรสตรีจริง ๆ ! นางสามารถวาดพิมพ์เขียวออกมาได้งดงามจริง ๆ !”“กรมศัสตราวุธของพวกเรามิได้มีของดี ๆ แบบนี้มานานแล้ว! แจ้งข่าวแก่ช่างฝีมือทุกนายว่า เรื่องอื่นมิจำเป็นต้องสนใจ รีบสร้างปืนหอกไฟแบบใหม่ขึ้นมาเสียก่อนเถอะ!”“ข้าตั้งหน้าตั้งตารอคอยยิ่งนัก!”หลังจากที่ได้เห็นภาพพิมพ์เขียวนั้น คำชื่นชมสรรเสริญเยินยอที่มีต่อเฉียวม่อก็เพิ่มขึ้นมาในทันทีสตรีที่แปลกประหลาดเช่นนี้ ใต้หล้านับว่าหาได้ยากยิ่งนักนับว่าโชคดีที่นางเกิดและเติบโตในหนานฉีปืนหอกไฟหรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าปืนฉับพลัน ปืนลำสั้นจักยาวประมาณหนึ่งนิ้ว และปืนลำกล้องยาวจักยาวถึงเจ็ดนิ้วรูปร่างภายนอกดูเหมือนท่อยาว ๆ หลังจากที่มีการ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 298

    เมื่อเฉียวม่อเห็นฝ่าบาทเดินออกจากตำหนักหย่งเหอไปนั้น นางจึงรีบติดตามไปในทันทีนางที่เป็นเพียงองครักษ์อารักขาประตูนั้น โดยปกติแล้วหากมิได้มีพระราชโองการเรียกตัวย่อมมิอาจเข้ามาในวังได้ในฐานะที่นางเป็นสตรีนั้น เกรงว่าไม่ว่าจักมียศถาบรรดาศักดิ์ใหญ่โตเพียงใด ก็มิอาจเข้าร่วมการว่าความหรือการประชุมเพื่อพูดคุยเรื่องบ้านเมืองได้หากว่ากันแล้ว นางมีโอกาสน้อยมากนักที่จะได้พบฮ่องเต้ยามที่นางอยากจะเอ่ยเรื่องบางอย่างออกมานั้น กลับเห็นนัยน์ตาที่แดงก่ำทั้งสองข้างของฮ่องเต้เข้าเสียก่อน ราวกับอยากจะสังหารผู้ใดก็ไม่ปานนางพลันรู้สึกหวาดผวาไปในทันที ความประทับใจที่ฝ่าบาทมีให้แก่นางนั้น อย่างมากที่สุดคือท่าทีเข้มงวดหรือใบหน้าที่มีรอยยิ้ม หาได้น่ากลัวเท่ากับวันนี้ไม่“เรื่องใด?” กลิ่นอายที่แผ่ออกมาทั่วร่างของเซียวอวี้ราวกับประติมากรรมน้ำแข็งก็ไม่ปาน สามารถแช่แข็งความอบอุ่นโดยรอบที่หลงเหลืออยู่เฉียวม่อที่ได้สติกลับมานั้น นางจึงรีบยกมือขึ้นคำนับในทันที“หม่อมฉันมีพิมพ์เขียวอาวุธที่หม่อมฉันอยากจะนำมาถวายแด่ฝ่าบาทเพคะ!”ลมหนาวที่พัดผ่านหน้าทำเอารู้สึกความเจ็บปวดขึ้นมาในฐานะฮ่องเต้ของแผ่นดินนั้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 297

    เซียวอวี้หยิบถุงหอมขึ้น เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างในทันทีเขาจ้องมองไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเพื่อมิให้นางคิดทำอะไรบุ่มบ่ามในขณะเดียวกัน ก็ส่งเสียงสั่งการไปยังด้านนอกตำหนักว่า“เชิญหมอหลวง!”ไม่นานนัก หมอหลวงชราที่เป็นผู้ดูแลเรื่องการตั้งครรภ์ของฮองเฮาก็รีบมาในทันทีเขารู้ดีว่าฮองเฮาหาได้ตั้งครรภ์ไม่หมอหลวงเพียงแค่ดมถุงหอมก็สามารถสรุปออกมาได้ว่า“ทูลฝ่าบาท สิ่งนี้คือกลิ่นหลิงหลิงพ่ะย่ะค่ะ มีส่วนช่วยในการส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต”เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้หาได้พบความผิดปกติไม่คำพูดของหมอหลวงหลังจากนั้นกลับขยายความออกมาในทันที“ทว่า ของสิ่งนี้มีกลิ่นเหมือนกับกลิ่นชะมด หากสตรีมีครรภ์สัมผัสได้สูดกลิ่นเข้าไปเป็นเวลานานนั้น ย่อมส่งผลต่อทารกในครรภ์ จนนำไปสู่การตกเลือดหรืออาจทำให้ทารกในครรภ์ตายได้พ่ะย่ะค่ะ! มิต้องเอ่ยถึงสตรีตั้งครรภ์เลย แม้แต่สตรีปกติทั่วไปก็มิเหมาะที่จะพกถุงหอมนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียนลอบกำหมัดแน่นอยู่ในแขนเสื้อของตนเองเจอจนได้...ดวงตาของเซียวอวี้ค่อย ๆ มืดครึ้มลง ราวกับว่าแสงสว่างที่ค่อย ๆ มอดดับไป ทั้งยังเจือไปด้วยความหนาวเย็น ทำเอาผู้คนนึกหวาดกลัวจนตัวสั่นไปในทันทีทว่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 296

    เมื่อได้ยินว่าเฉียวม่อเป็นลม สายตาของเซียวอวี้พลันเปลี่ยนไปในทันทีพลางขมวดคิ้วเป็นปม เพื่ออดกลั้นน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความโมโหเอาไว้ พร้อมเอ่ยตำหนิเฟิ่งจิ่วเหยียนออกมาว่า“เจ้าทำได้ ‘ดี’ ยิ่ง!”เซียวอวี้จึงสั่งให้คนไปอุ้มเฉียวม่อเข้าไปพักที่ตำหนักข้าง ทั้งยังเรียกตัวให้หมอหลวงเข้ามาตรวจดูอาการของนางในขณะเดียวกันก็ออกคำสั่ง ห้ามคนภายในตำหนักหย่งเหอแพร่งพรายเรื่องราวในวันนี้ออกไปไม่นานนัก เฉียวม่อจึงตื่นขึ้นมาภายในตำหนักที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นมีนางกำนัลสาวใช้ที่รอปรนนิบัตินางอยู่ภายในตำหนักนั้น“ใต้เท้าเมิ่ง ท่านรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือไม่เจ้าคะ?” นางกำนัลเอ่ยถามด้วยความเป็นกังวลเฉียวม่อหาได้เป็นลมจริง ๆ ไม่นางเพียงแค่อดทนรอไม่ไหวเท่านั้นในยามนี้นางกำลังนอนอยู่บนเตียง พลางแสดงท่าทีเหนื่อยอ่อนแรงออกมาให้เห็น“พยุงข้า...ขึ้นมา ข้ายังคุกเข่าไม่ครบหนึ่งชั่วยาม...”ตึก!นางทำเหมือนขาทั้งสองข้างได้ถูกแช่แข็งเอาไว้ แม้แต่จะลุกขึ้นยืนยังไม่ไหว เมื่อนางลุกขึ้นมานั้นร่างกายจึงล้มลงไปบนพื้นในทันทีนางกำนัลจึงเข้ามาช่วยพยุงนางลุกขึ้นโดยไว“ใต้เท้าเมิ่ง ท่านมิต้องเป็นกังวลไปเจ้าค่ะ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 295

    เฉียวม่อคุกเข่าท่ามกลางลมหนาวที่พัดเข้ากระดูมานานกว่าครึ่‘ชั่วยาม เมื่อเห็นฝ่าบาทเสด็จมานั้น นางจึงรีบหันหน้าไปหาด้วยท่าทีไร้หนทางในทันทีมิคิดเลยว่า ฝ่าบาทหาได้หันมามองนางสักตาเดียวไม่ พลางเดินดุ่ม ๆ เข้าไปด้านในตำหนักแทนเฉียวม่อจ้องมองไปยังแผ่นหลังของฝ่าบาท พลางกำหมัดที่แดงก่ำจากความหนาวเย็นเอาไว้แน่นศิษย์พี่มิได้ชมชอบฝ่าบาท นางรู้ดีแล้วฝ่าบาทเล่า?ฝ่าบาทดูเหมือนจะ...ชอบศิษย์พี่มากทว่า ไม่ว่าจะชมชอบสตรีมากเพียงใดก็ตาม พระองค์ก็คงมิยอมให้สตรียื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องราวในราชสำนักอย่างแน่นอน ทั้งยังมิยินยอมให้นางมารังแกท่านแม่ทัพภายใต้การบังคับบัญชาของตนเองอีกด้วย!ภายในตำหนักในเมื่อเซียวอวี้เข้ามานั้น เขาก็ไล่คนอื่น ๆ ให้ออกไปในทันที ซันหมัวมัวหันกลับไปมองฮองเฮาด้วยท่าทีหมดหนทาง พลางใช้สายตาสื่อออกมาวว่า “ผู้ใดให้ท่านมิฟังคำข้า เกิดเรื่องแล้วใช่หรือไม่” เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ ทว่า บนใบหน้าหาได้มีท่าทีตื่นตระหนกหรือรู้สึกผิดอันใดไม่“ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”เซียวอวี้พลางถามด้วยท่าทีดุดัน“เหตุใดต้องลงโทษแม่ทัพเมิ่งให้นั่งคุกเข่าด้วย?”เซียวอวี้มิได้เอ่ยต่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 294

    เฉียวม่อที่ยืนมาโดยตลอดนั้น เมื่อได้ยินเฟิ่งจิ่วเหยียนออกคำสั่งให้ตนเองคุกเข่าลง นางถึงกับชะงักไปในทันทีแววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนฉายแววเย็นชา“ข้าสั่งให้เจ้าคุกเข่า เจ้าย่อมมิอาจยืนได้ ตนเองเป็นถึงขุนนางของราชสำนัก แม้แต่กฏเช่นนี้ยังมิรู้งั้นหรือ?”เฉียวม่อรู้สึกจุกอกขึ้นมาในทันทีไม่ว่านางจักเอ่ยเล่นลิ้นออกมาอย่างไร ย่อมมิอาจอยู่เหนืออำนาจของราชสำนักไปได้ ก่อนหน้านั้นเป็นเพราะศิษย์พี่เอ็นดูนาง อย่าว่าแต่ให้คุกเข่าเลย แม้แต่ให้ยืนนาน ๆ ศิษย์พี่ก็หาให้นางทำเช่นนั้นไม่ความห่างของระดับชั้นนี้ ทำเอาเฉียวม่อมิอาจรับได้ นางยืนนิ่งมิขยับเช่นนั้นอยู่นานเมื่อได้ยินคำสั่งของเฟิ่งจิ่วเหยียนนั้น องครักษ์ของวังหลวงจึงได้เข้ามาในตำหนักเฉียวม่อที่เห็นสถานการณ์เช่นนั้น พลันนึกไปถึงศิษย์พี่ยามที่อยู่ในค่ายทหาร เพียงแค่ร้องเรียกคำเดียว บรรดาเหล่าทหารก็จะก้าวออกมารับคำสั่งในทันทีนี่คืออำนาจเป็นแม่ทัพนั้นมีอำนาจ ฮองเฮาก็มีอำนาจเช่นกันเฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยออกมาด้วยท่าทีดุดันว่า“เมิ่งเฉียวม่อกระทำตัวต่อเราด้วยความหยาบคาย ลากออกไปคุกเข่าสักหนึ่งชั่วยามเสีย”ทหารองครักษ์รับคำสั่งพวกเขาหาได

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 293

    ไทฮองไทเฮาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง“เจ้าแต่งเข้าวังมาก็นานแล้ว หากยังมิได้เข้าร่วมบรรทมกับฝ่าบาทอีกใช้ได้ที่ใดกัน?”เดิมทีพระนางตั้งใจจะเป็นธุระจัดการเรื่องนี้ให้ ทว่า ฝ่าบาทที่มิใส่ใจเรื่องนี้จึงได้แต่พยายามบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดในเมื่อฝ่าบาทสามารถทำให้ฮองเฮาตั้งครรภ์ได้แล้วนั้น เช่นนี้พระองค์ย่อมมิอาจหาเรื่องปฏิเสธไปได้อีกอีกทั้ง เขาที่เคารพรักเสด็จย่าเช่นนางมาโดยตลอดในยามที่เพิ่งจัดพิธีมงคลสมรสไปได้ไม่นานนั้น ฮองเฮาก็ยังเป็นสตรีพรหมจรรย์อยู่ หากแต่เป็นพระนางที่ออกคำสั่ง จึงทำให้ฝ่าบาทและฮองเฮาได้เข้าหอเช่นนี้การถวายตัวของฉานเอ๋อร์นั้น ไทฮองไทเฮาจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งใบหน้าสวยงามของมู่หรงฉานพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย ก่อนจะหลุบตาลงพลางตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า“หม่อมฉันน้อมรับฟังคำของท่านเพคะ”ถึงแม้ท่าทีของมู่หรงฉานจักดูอ่อนโยนเรียบร้อย ทว่า นัยน์ตากลับฉายแววความทะเยอทะยานออกมาแต่งเข้าวังมาในฐานะสนม ประสูติพระโอรส เดิมทีทั้งหมดล้วนแต่เป็นเป้าหมายของนางทว่านางถูกเรื่องราวของตระกูลมารดาฉุดรั้งเอาไว้เท่านั้นในยามนี้ก็ปล่อยให้ฮองเฮามีอำนาจเหนือกว

DMCA.com Protection Status