Share

บทที่ 278

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
ฮองเฮาตั้งครรภ์แล้ว!

คนที่ดีใจที่สุดเห็นจะเป็นนายท่านเฟิ่ง

รอมาเนิ่นนาน คาดหวังมาโดยตลอด ในที่สุดฮองเฮาก็ตั้งครรภ์เสียที!

เขาแทบลืมเลือนสิ่งที่เขาเผชิญอยู่ในตอนนี้ไปหมดสิ้น ทั้งยังยิ้มอย่างซื่อบื้อ ปากแทบหุบเข้าหากันไม่ได้

มู่หรงฉานยืนแข็งค้างอยู่กับที่ คำพูดที่ฝ่าบาททรงตรัสเมื่อครู่สะท้อนในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่หยุด

นางไม่คาดคิดเลยว่า ฮองเฮาจะตั้งครรค์!

ไทฮองไทเฮารับแรงกระตุ้นนี้ไม่ไหว พลันทรุดฮวบลงบนเก้าอี้

บ่าวรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ รีบเข้ามาพยุงนาง

“ไทฮองไทเฮาเพคะ!”

ไทฮองไทเฮากลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โบกมือ บอกให้บ่าวรับใช้ถอยออกไป

จากนั้น นางก็จี้ถามเซียวอวี้

“เรื่องตั้งแต่ยามใดกัน  เจ้าอย่าคิดที่จะหลอกข้าเชียวนะ หลายวันที่ผ่านมา เจ้ามิเคยโปรดปรานฮองเฮา แล้วนางจะไปตั้งครรภ์ได้อย่างไร?”

เซียวอวี้กล่าวอย่างไม่ร้อนตัว

“ตั้งครรภ์ในวิหารบรรพบุรุษ ในบันทึกราชกิจและพระราชดำรัสไม่มีบันทึกไว้”

“วิหารบรรพบุรษ?!” ไทฮองไทเฮาแน่นหน้าอกอย่างมาก แทบหายใจไม่ออก

นางยกมือชี้หน้าเซียวอวี้

“เจ้า…เจ้าเป็นกษัตริย์ของแคว้นนะ! เหตุใดพวกเจ้าถึงได้ทำเรื่องเช่นนั้นในวิหารบรรพบุรุษของ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (3)
goodnovel comment avatar
Watunya “ยายแอ๊ด” Buntongkaew
สนุกมีลุ้นทุกตอนชอบฮ่องเต้ไม่งี่เง่า
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
ในที่สุดไทฮองไทเฮาก็ใจอ่อน เล่นกับใครไม่เล่น เล่นกับฉ่องเต้และฮองเฉ่เป็นไงหล่ะ
goodnovel comment avatar
ลัดดา อินทนะ
สนุกมากอยากอ่านทุกตอนนางเอกฉลาดและยังเก่ออีกด้วยดำเนินเรื่องได้รวดเร็ว
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 279

    ไทฮองไทเฮาถูกเซียวอวี้กระตุ้นต่อมโมโหจนพูดไม่ออกแก้ไขหนังสือแห่งโชคชะตาเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ฮ่องเต้ปล่อยผ่านไปได้หรือ?เขาไม่ใช่คนจิตใจดีถึงเพียงนั้นเสียหน่อย!เฟิ่งจิ่วเหยียนเม้มริมฝีปากนางเข้าใจ การที่เซียวอวี้ทำเช่นนี้ ก็เพื่อศักดิ์ศรีของเชื้อพระวงศ์ฮ่องเต้ถูกขุนนางผู้หนึ่งปั่นหัวอลหม่าน ซึ่งดูหมดรัศมีจริง ๆ เซียวอวี้กล่าวขึ้นมาอีก“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เรากับฮ่องเต้องค์ก่อนไม่เหมือนกัน เราไม่เคยเชื่อหนังสือแห่งโชคชะตาสักครั้ง”ไทฮองไทเฮาเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจฝั่งเซียวอวี้พูดจบไม่ทันไร นางก็เป็นลมล้มพับไปถือคติไม่เห็นหน้าย่อมไม่เสียอารมณ์……จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็สลบไป จึงถูกนำตัวไปตรวจอาการภายในตำหนักยังดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมากหมอหลวงกล่าวว่า แค่ได้รับผลกระทบทางจิตใจในชั่วขณะหลังจากที่นางฟื้นขึ้นมา เซียวอวี้ก็ไปหาไทฮองไทเฮาในตอนนั้นเชื่องซึมผิดปกติ เพียงพูดว่า“เจ้าเป็นฮ่องเต้ อยากทำอะไร ก็ทำเถอะ”หลังจากที่เซียวอวี้ทูลลา มู่หรงฉานก็เข้ามาในตำหนักนางเฝ้าอยู่ข้างแท่นบรรทมของไทฮองไทเฮา ขอบตาแดงก่ำเล็กน้อยไทฮองไทเฮารู้ว่านางกตัญญูรู้คุณ และรู้ว่า นางต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 280

    ม่านไข่มุกกระทบกันจนเกิดเสียงเซียวอวี้โยนอีกฝ่ายลงบนเตียง โถมตัวเข้าใส่อย่างไม่ทะนุถนอม ทั้งยังจับแขนทั้งสองข้างของนาง กดไว้เหนือศีรษะทั้งสองด้านเขาขึ้นคร่อม มองทุกอย่างของนางราวกับว่าในสายตาของเขา นางเป็นเพียงเหยื่อที่เขาสามารถใช้มือจับมาได้ง่าย ๆ เห็นนางออกแรงดิ้น แต่กลับไม่กล้าเผยวรยุทธ์ออกมา เห็นสีหน้าของนางเดี๋ยวซีดเดี๋ยวคล้ำเขียว เห็นลมหายใจของนางแปรปรวน กลายเป็นถี่กระชั้น…เฟิ่งจิ่วเหยียนออกแรง แต่ไม่กล้าออกแรงทั้งหมดนางไม่เคยอับจนหนทางเท่านี้มาก่อนถูกบุรุษกดทับไว้ใต้ร่าง ขยับไปไหนไม่ได้มือทั้งสองข้างยังถูกกดเอาไว้ จนร่างกายท่อนบนออกแรงไม่ได้ไม่นานหลังจากนั้น หน้าผากของนางก็มีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นมาดวงตาของเซียวอวี้ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ รุกลามเป็นกองเพลิงในชั่ววินาที แล้วไปกระจุกรวมตัวอยู่บริเวณเอวสอบของเขาแววตาที่มองนาง เหมือนหมาป่านักล่าที่กำลังหิวโหยสุดขีดลูกกระเดือกขยับขึ้นลง ลำคอแห้งผากขึ้นเรื่อย ๆ …เขาไม่ให้โอกาสคนใต้ร่างได้หายใจหายคอ ริมฝีปากบางเฉียบก็ประทับลงมาแรงนั้นทำให้ปากของนางแง้มเปิดออกหลังจากนั้นก็พุ่งจู่โจม ตรงดิ่งไปยังส่วนลึกดูดกล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 281

    ภายในตำหนักจื้อเฉิน ฉากบังตาอันสูงใหญ่แข็งแรง ถูกฮ่องเต้ทำลายด้วยมือในชั่วพริบตา จนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆหลิวซื่อเหลียงยืนอยู่ด้านนอกประตู เดิมทีแล้วเขาไม่กล้าเข้าไปและไม่รู้ว่าฮ่องเต้ทรงกริ้วเรื่องใดเขาได้ยินว่า ฮองเฮาทรงตั้งครรภ์แล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีหรอกหรือ?ทว่าดูจากท่าทางของฮ่องเต้แล้ว เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่า---เด็กในท้องของฮองเฮา หรือว่าไม่ใช่ลูกของฮ่องเต้?มิเช่นนั้นแล้วเขาก็คิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ฮ่องเต้ทรงมีเหตุผลใดถึงโมโหได้เพียงนี้ณ ตำหนักเซี่ยวเสียนสิ่งของในมือของหนิงเฟยพลันร่วงลงพื้น ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตกใจและเสียใจ“ฮองเฮาทรงตั้งครรภ์?”สาวใช้พยักหน้าอย่างลนลาน“เพคะพระนาง อีกสักพักในวังหลวงก็ต้องทราบเรื่องกันหมด”หนิงเฟยกัดริมฝีปากตนจนเกือบเป็นแผล“นึกไม่ถึงว่าจะเร็วเพียงนี้ เหตุใดถึงเร็วเพียงนี้! ฝ่าบาท...ทรงมิเคยโปรดปรานฮองเฮามิใช่หรือ!”“ไม่มีผู้ใดกล้าถกเถียงกันในเรื่องนี้ แต่บ่าวเดาว่า น่าจะตอนอยู่ที่วิหารบรรพบุรุษ...”“หุบปาก!” ความริษยาในดวงตาของหนิงเฟยร้อนแรงราวกับเปลวเพลิง ที่สามารถเผาไหม้กลืนกินทุกสิ่งวิหารบรรพบุรุษ จะเป็นไปได้อย่างไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 282

    เฉียวม่อนั่งอยู่ในห้อง ใบหน้าของนางที่ถูกแสงเทียนสาดส่อง เผยให้เห็นถึงความร้ายกาจศิษย์พี่กับฮ่องเต้มีความรักต่อกัน นางก็รู้สึกประหลาดใจแล้วนึกไม่ถึงว่าศิษย์พี่จะตั้งครรภ์อีก!มู่หรงฉานผู้นั้นก็เป็นคนไร้ประโยชน์!ตนอุตส่าห์นำจุดอ่อนที่สำคัญมอบให้มู่หรงฉาน เพื่อหวังจะใช้นางเล่นงานศิษย์พี่ เหตุใดนางถึงไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย?หรือยังสงสัยว่าเรื่องนั้นเป็นจริงหรือไม่?หารู้ไม่ว่า มู่หรงฉานทูลให้ไทฮองไทเฮาทราบแต่แรกแล้ว เหตุเพราะฮองเฮาทรงตั้งครรภ์ เรื่องทั้งหมดจึงจำเป็นต้องระงับไว้ก่อนณ ตำหนักฟางเฟยในขณะนี้มู่หรงฉานรู้สึกหม่นหมอง นางแน่นในอกความเชื่อมั่นก่อนจะเข้าวังถูกทำลายสิ้น เหลือเพียงความพ่ายแพ้อับจนหนทางชิวหงยืนหลบอยู่ด้านข้าง นางไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดทว่านางก็ไม่เข้าใจ ฮ่องเต้ทรงมิเคยลืมหรงเฟย แล้วเหตุใดถึงสนพระทัยฮองเฮา?ในยามราตรี เมฆหมอกเหนือตำหนักฟางเฟยยังไม่จางหาย ทว่ากลับยิ่งหนาขึ้นขันทีเข้ามาถ่ายทอดคำสั่ง“กุ้ยเหริน ฮองเฮาทรงรับสั่งให้ท่านเข้าเฝ้า”ชิวหงรู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที“กุ้ยเหริน หรือฮองเฮาจะทรงสืบรู้ว่า ท่านนำเรื่องนั้นไปกราบทูลไทฮองไทเฮา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 283

    เฟิ่งจิ่วเหยียนหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมามู่หรงฉานมองตามจดหมายฉบับนั้นโดยไม่คลาดสายตา“เจ้าดูเองเถอะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชามู่หรงฉานค่อย ๆ ก้าวมาข้างหน้า นางเปิดจดหมายออกดู ในนั้นเป็นหลักฐานความผิดของบิดาจริง ๆ ในใจของนางรู้สึกว้าวุ่น แต่สีหน้ายังคงสงบนิ่งนางรีบพับจดหมายฉบับนั้นเก็บ และวางกลับคืนที่เดิม พร้อมกลับมานั่งลงตามเดิมนางกระวนกระวายใจจดหมายฉบับนี้ บางทีอาจจะเป็นของปลอมก็ได้ทว่านางเคยทำผิดพลาดมาครั้งหนึ่ง ทำให้พี่ชายของนางต้องตาย นางจึงไม่อาจเห็นบิดาต้องมาเกิดเรื่องขึ้นอีก...มู่หรงฉานกำลังจะเอ่ยขึ้น ทว่ากลับเห็นฮองเฮานำจดหมายฉบับนั้นจ่อที่ตะเกียงน้ำมันทันทีที่มุมจดหมายข้างหนึ่งติดไฟ เปลวไฟก็ลุกลามอย่างเร็ว จดหมายทั้งฉบับถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านมู่หรงฉานตกใจอย่างมากนางลุกขึ้นพรวดพราดโดยไม่รู้ตัว“ฮองเฮา!”นางไม่เข้าใจว่า ฮองเฮาทำเช่นนี้มีจุดประสงค์ใด เฟิ่งจิ่วเหยียนเผาจดหมายฉบับนั้นเสร็จ นางเหลือบดูมู่หรงฉานอย่างใจเย็น“ข้าบอกเจ้าตามตรง ตอนแรกข้าจัดการกับหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ได้ ข้าก็ไหว้วานบุคคลลึกลับผู้นั้น“เขาเป็นคนนำหลักฐานความผิดทั้งหมด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 284

    คนที่เดินออกมาจากในเตียงผู้นั้นก็คือเฟิ่งจิ่วเหยียนนางรออยู่นานแล้วดาบในมือของนางพาดอยู่ที่คอด้านหน้าของบุคคลลึกลับผู้นั้นอย่างฉับพลัน มันแฝงไว้ด้วยเจตนาสังหารบุคคลลึกลับผู้นั้นนึกไม่ถึงว่าจะมีการซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่ ร่างกายของเขากลับแข็งทื่อภายในห้องมืดสนิท ไม่มีการจุดไฟเฟิ่งจิ่วเหยียนถือตะบันไฟด้วยมือข้างเดียว หลังจากเป่าจนเกิดเปลวไฟ ก็โยนมันไปจุดตะเกียงน้ำมันบนกำแพงอย่างแม่นยำในที่สุดภายในห้องก็มีแสงสว่างในตอนนั้นบุคคลลึกลับผู้นั้นคิดจะต่อสู้ คมดาบของเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงขยับเข้าใกล้ ทำให้มีคราบเลือดจากรอยขีดตื้น ๆ บนคอของคนผู้นั้น นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก ศิษย์น้อง”ใต้หน้ากากสีดำ เฉียวม่อเม้มริมฝีปากแน่นเฟิ่งจิ่วเหยียนหวังว่าตนเองจะคาดเดาผิดนับครั้งไม่ถ้วนทว่านางมองเห็นดวงตาของบุคคลลึกลับผู้นี้ที่โผล่พ้นหน้ากากออกมา ในใจของนางรู้สึกหนาวเหน็บจนสุดขั้วแม้เฉียวม่อจะเชี่ยวชาญในการปลอมตัว ทว่าก็ไม่อาจเปลี่ยนรูปร่างของดวงตาได้ดวงตาคู่นั้นนางเห็นก็รู้ได้ทันทีแววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเต็มไปด้วยความแค้น “จะให้ข้าฉีกหน้ากากของเจ้าด้วยมือข้าเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 285

    แววตาที่เฉียวม่อจ้องมองเฟิ่งจิ่วเหยียนนั้น เต็มเปี่ยมด้วยความสุขจากการแก้แค้น“ข้าไม่เสียใจที่ทำเช่นนี้ ตั้งแต่เยาว์วัยจนเติบใหญ่ ท่านช่วงชิงสิ่งที่เป็นของข้าน้อยเสียเมื่อไหร่?“ตอนนั้นข้าเป็นลมเพราะความหิวอยู่ที่จวนตระกูลเมิ่ง ด้วยนิสัยว่านอนสอนง่ายและรู้ความของข้า แน่นอนว่าย่อมอาศัยอยู่ในจวนตระกูลเมิ่งได้ พร้อมกับทำให้พวกเขายอมรับข้าเป็นบุตรสาว ทว่าศิษย์พี่อย่างท่านยังจะเข้ามายุ่งเกี่ยว ทำให้พวกเขารับข้าเป็นลูกศิษย์! ส่วนท่านได้กลายเป็นลูกบุญธรรมของพวกเขา! ตำแหน่งคุณหนูใหญ่ของตระกูลเมิ่ง ท่านก็แย่งชิงไปจากข้า! เราถูกพ่อแม่แท้ ๆ ทอดทิ้ง และต้องอยู่ในจวนตระกูลเมิ่งเหมือนกัน ทว่าท่านคิดจะแข่งขันเป็นที่หนึ่งกับข้าตลอด!”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกแปลกใจ เฉียวม่อโกรธเกลียดนางนับตั้งแต่ตอนนั้น ในความผิดหวังยังเผยถึงความเย็นชาเฉียวม่อคิดว่าหากไม่มีตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้ว นางจะอยู่ในตระกูลเมิ่งได้อย่างนั้นหรือ!นางหารู้ไม่ว่า แม้แต่โอกาสที่นางจะได้รับการยอมรับเป็นศิษย์ก็จะไม่มี!เฉียวม่อกลับโกรธเกลียดนางเพราะเรื่องนี้...เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ต้องการอธิบายนางรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นข้อแก้ตัวของ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 286

    “หากแม่ทัพน้อยเมิ่งตายไป ทางเหนือจะเกิดความโกลาหล“ท่านรู้หรือไม่ว่ามีชนเผ่ามากมายที่จ้องเขมือบหนานฉีราวกับดวงตาพยัคฆ์?”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงขรึม“เจ้าคิดว่าตนเองคือเมิ่งสิงโจวจริง ๆ รึ”เฉียวม่อใช้มือจับตรงคมดาบ เพื่อกันไม่ให้เฟิ่งจิ่วเหยียนแทงลึกลงไปอีก ฝ่ามือของนางถูกบาดเป็นแผล นางพ่นเลือดออกจากปากและเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้าน“ใช่ ข้าปลอมตัวเป็นเมิ่งสิงโจว ทว่าท่านก็ปลอมตัวเป็นฮองเฮาและอภิเษกสมรสเข้าวัง!“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อแม่พี่น้อง ส่วนท่าน? เบื้องหลังท่านมีตระกูลเฟิ่ง และยังมีตระกูลเมิ่งที่ท่านห่วงใย“พวกเราทั้งคู่ ผู้ใดมีความผิดมากกว่า? ผู้ใดมีคนพัวพันมากกว่า?”บาดแผลของเฉียวม่อยิ่งมีเลือดไหลออกมามาก นางมองเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างเวทนา และฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับเอ่ยว่า“ศิษย์พี่ ท่านคิดดูให้ดี สังหารข้าแล้ว จะมีคนอีกไม่น้อยที่ถูกฝังไปพร้อมกับข้า“ข้ามีคนของข้ารออยู่ภายนอก หากข้าตาย ความลับที่ท่านเข้าอภิเษกสมรสแทนจะถูกเปิดเผยให้ทุกคนรู้ เมื่อถึงตอนนั้น ทั้งตระกูลเฟิ่งและตระกูลเมิ่งจะต้องถูกลงโทษ“ศิษย์พี่ ข้าไม่เสียหาย”คำพูดของเฉียวม่อแต่ละค

Pinakabagong kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1186

    หนานฉีทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน มิใช่การกระทำที่ชาญฉลาดสงครามที่แคว้นต่าง ๆ ล้อมโจมตีหนานฉี ต้องสูญเสียกำลังทหารจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายต่างจำเป็นต้องพักฟื้นและฟื้นฟูเป่ยเยี่ยนกล้าเคลื่อนทัพไปทางใต้ เป็นเพราะไม่มีอุปสรรค สามารถยึดครองแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้โดยไม่สูญเสียกำลังทหารแม้แต่นายเดียวแม้ว่าหนานฉีจะไม่พอใจเป่ยเยี่ยนมากเพียงใด ก็ไม่อาจประกาศสงครามโดยไม่ไตร่ตรองถึงแม้คืนที่ผ่านมารุ่ยอ๋องจะหลับไม่เต็มที่ สมองก็ยังคงตื่นอยู่เขาคัดค้านการส่งกองทัพออกไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยนอย่างเด็ดขาดแม่ทัพอาวุโสหลี่ไม่พอใจ“ท่านอ๋อง ขอบังอาจถามว่าตอนนี้ฮ่องเต้ทรงประทับอยู่ที่ใด?”รุ่ยอ๋องมีท่าทีลังเล เรื่องเช่นนี้ คงต้องมอบให้ฮ่องเต้ตัดสินพระทัยในที่ประชุม รุ่ยอ๋องเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน“ท่านแม่ทัพอาวุโสหลี่ ข้ารู้ว่าท่านปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อต้านเป่ยเยี่ยน ทว่าเรื่องนี้สุดท้ายแล้วมิใช่หนานฉีควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว“การส่งกองทัพไปช่วยแคว้นซีหนี่ว์เพื่อขัดขวางแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง เป็นเพราะเรากับแคว้นซีหนี่ว์เป็นพันธมิตรกัน หากส่งกองทัพไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน พวกเราจะใช้เหตุผลใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1185

    หร่วนฝูอวี้สวมอาภรณ์ผ้าโปร่งบางเบา เดินออกมาจากด้านหลังฉากกั้นทันทีรุ่ยอ๋องจ้องมองนางตาไม่กะพริบ เหงื่อในฝ่ามือก็ยิ่งออกมาก“ข้า ข้ายังมีเอกสารทางการ...”เขาไม่มีประสบการณ์เลย จำต้องดูจากสมุดภาพทว่าคำพูดนี้ เขาไม่อาจเอ่ยออกมาได้ดวงตาของหร่วนฝูอวี้หรี่ลงทันที สายตาราวกับสัตว์ป่าที่ออกล่าเหยื่อ“เอกสารทางการ? ข้าว่า เจ้าคงคิดจะหนีกระมัง!”นางก้าวเท้ายาวมาข้างหน้า พร้อมกับข่มขู่: “มาถึงสถานที่ของข้าแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะออกไปได้!”พูดจบ นางก็ตรงไปแบกคนขึ้นมาทันทีรุ่ยอ๋องไม่คาดคิดเลยว่า จะเป็นเหตุการณ์เช่นนี้!ศีรษะของเขาคว่ำลง เมื่อเลือดสูบเข้า ก็มีแต่ความว่างเปล่าไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้?อย่างน้อยเขาก็เป็นบุรุษ!ตึง!หร่วนฝูอวี้โยนเขาลงบนเตียง ไม่ทะนุถนอมแม้แต่น้อยจากนั้นด้วยความรวดเร็วและง่ายดาย นางก็ถอดเข็มขัดบนตัวของรุ่ยอ๋องออกมาในที่สุดรุ่ยอ๋องก็ได้สติกลับมา รีบคว้าปกคอเสื้อของตนเองไว้“เจ้าช้าก่อน...”นางร้อนใจจนไม่อาจทนไหว!หร่วนฝูอวี้นั่งอยู่บนเอวของเขา กดมือทั้งสองข้างของเขาวางไว้ข้างศีรษะทั้งสองด้านมองเห็นบุรุษที่ยามปกติมีระเบียบแบบแผน เยือกเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1184

    “เจ้าคิดจะ...มีลูกกับข้า?” คิ้วของรุ่ยอ๋องขมวดปมแน่น จ้องมองหร่วนฝูอวี้ที่อยู่ตรงหน้า ดูเหมือนจะทำตัวไม่ถูกเหตุใดจู่ ๆ นางถึงมีความคิดเช่นนี้ได้?เพียงเพื่อจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับฮองเฮาหรือ? หร่วนฝูอวี้ยังคงจับปกเสื้อของเขาอยู่ พร้อมกับมองสำรวจเขาด้วยท่าทางของผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า“พวกเราเป็นสามีภรรยากัน มีลูกแล้วจะอย่างไร?“เจ้ายังจะเรื่องมากอีกรึ?”รุ่ยอ๋องส่ายศีรษะอย่างแข็งเกร็ง“ข้าเพียงรู้สึกว่า...”นี่ไม่ปกติเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีคนขัดขวางการกระทำที่ขาดสติของหร่วนฝูอวี้ได้นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่า การจะมีลูกนั้น มีความหมายอย่างไร“ข้าไม่ใช่คนใจง่ายเช่นนั้น” รุ่ยอ๋องผลักนางออกไปโดยแสร้งทำเป็นสุขุมเยือกเย็น พร้อมกับหันหลังให้นาง สายตามองไปยังที่ไกล ๆ“ใจง่ายรึ?” หร่วนฝูอวี้หัวเราะด้วยความโมโห เช่นนั้นก็เท่ากับว่านางเป็นคนใจง่ายรึ?บุรุษสุนัขผู้นี้ ปากช่างร้ายกาจนัก!“ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะไปหาคนอื่น!”หร่วนฝูอวี้พูดได้ทำได้ รุ่ยอ๋องจึงรีบคว้าแขนของนางไว้“เจ้าเสียสติไปแล้วรึ?!”นางเป็นพระชายาของเขา จะมีสัมพันธ์กับชายอื่นได้อย่างไร?หร่วนฝูอวี้เกลียดท่าทางลั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1183

    ด้านนอกห้องทรงพระอักษรเซียวอวี้ยืนอยู่ด้วยสีหน้าคร่ำเคร่งได้ยินว่าเสนาบดีที่ช่วยปกครองเหล่านี้ต้องการทำตามโอวหยางเหลียน ใช้ความตายมาข่มขู่จิ่วเหยียนวิธีนี้ช่างชั่วร้ายยิ่งนักจนกระทั่งตอนที่เห็นพวกนางเดินออกมา และไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย เซียวอวี้ถึงค่อยโล่งใจเหล่าเสนาบดีทำเป็นมองไม่เห็นเขา มีเพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่มองเขาด้วยแววตาที่แฝงความรู้สึกซับซ้อนฮ่องเต้ฉีเสด็จมาที่แคว้นซีหนี่ว์ด้วยพระองค์เอง คิดดูแล้วก็คงกังวลพระทัยว่าประมุขแคว้นจะทรงหวั่นไหว ไม่เสด็จกลับไปหนานฉีอีกเห็นได้ชัดว่า พวกเขาเป็นเช่นเดียวกัน ไม่อาจคาดเดาจิตใจของประมุขแคว้นได้ช่างน่าเศร้าจริง ๆเมื่อเปรียบเทียบเช่นนี้ หูย่วนเอ๋อร์ก็รู้สึกสบายใจโดยไม่รู้ตัวยิ่งไปกว่านั้นคำพูดแต่ละคำของประมุขแคว้นนั้นมีความหมายอันลึกซึ้ง สิ่งที่พวกนางพยายามจะรักษาไว้ อย่างมากเพียงชั่วชีวิตเดียวนี่เหมือนกับการที่หมอรักษาโรค รักษาที่ปลายเหตุมิได้รักษาที่ต้นเหตุเมื่อครู่ประมุขแคว้นเอ่ยกับพวกนางมากมาย ทำให้พวกนางเข้าใจว่า ต้นเหตุที่แคว้นซีหนี่ว์ไม่อาจสร้างความยิ่งใหญ่ได้ ก็คือ “บาดแผลภายใน”การกดขี่บุรุษภายในแคว้นมากเกินไป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1182

    เสนาบดีที่ช่วยปกครองต่างก็เป็นคนสนิทของอดีตประมุข แต่ละคนล้วนเป็นเสาหลักสำคัญของราชสำนักพวกนางยืนอยู่นอกห้องทรงพระอักษร ถึงอายุจะต่างกัน ทว่าล้วนมีความจงรักภักดีและกล้าหาญ“พวกหม่อมฉันขอเข้าเฝ้าประมุขแคว้น!”เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรในห้องทรงพระอักษร ด้วยสายตาที่แน่วแน่นางจ้องมองเงาร่างของแต่ละคนที่อยู่ด้านนอกตำหนัก ความแน่วแน่ในดวงตาเจือความหม่นหมอง“ให้พวกนางเข้ามา”ไม่นาน เหล่าเสนาบดีก็ทยอยกันเข้ามาด้านใน หูย่วนเอ๋อร์ที่บาดเจ็บหนักนอนอยู่บนแคร่หามนั้นเห็นเด่นชัดที่สุดเฟิ่งจิ่วเหยียนวางฎีกาที่อยู่ในมือลง กวาดตามองพวกนางแวบหนึ่ง“ต้องการจะพูดสิ่งใด?”“ท่านประมุขแคว้น พวกหม่อมฉันทราบแล้ว เหตุใดใต้เท้าโอวหยางถึงสิ้นใจ” ลมหายใจของหูย่วนเอ๋อร์สงบนิ่ง ทว่ามองเห็นบาดแผลภายในไม่รุนแรงเสนาบดีคนอื่น ๆ จึงเอ่ยต่อ“ใต้เท้าโอวหยางทำเพื่อความมั่นคงของแผ่นดินแคว้นซีหนี่ว์ นางอาศัยความตาย ขอร้องให้ประมุขแคว้นทรงอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ต่อไป!”สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูสงบนิ่ง มิได้เอ่ยขัดจังหวะคำพูดของพวกนางหูย่วนเอ๋อร์ลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก หันไปโน้มศีรษะให้เฟิ่งจิ่วเห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1181

    การตายของโอวหยางเหลียน สำหรับหูย่วนเอ๋อแล้ว เป็นการสูญเสียที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง ในบรรดาขุนนางใหญ่ของราชสำนัก พวกนางทั้งสองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันที่สุด ที่สำคัญกว่านั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป หูย่วนเอ๋อร์มิได้เตรียมใจไว้เลย สาวใช้ตอบอย่างระมัดระวัง “บ่าวรู้เพียงว่า ใต้เท้าโอวหยางกินยาพิษฆ่าตัวตายเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์ไม่เชื่อ ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ไฉนใต้เท้าโอวหยางกลับมาฆ่าตัวตาย? “ต้องมีคนวางแผนสังหารนางเป็นแน่! เรื่องนี้ ท่านประมุขแคว้นทราบหรือไม่!” สาวใช้ผงกศีรษะ “ตอนที่ใต้เท้าโอวหยางเกิดเรื่อง ท่านประมุขแคว้นก็อยู่ที่จวนโอวหยางเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์มีน้ำตาคลอหน่วย รู้สึกเสียใจที่ตนเองบาดเจ็บ จึงไม่สามารถออกไปสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง การตายของโอวหยางเหลียน มิใช่เพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่ตกตะลึงสงสัย ยังสร้างความวุ่นวายในราชสำนักด้วย ในการประชุมราชสำนักวันรุ่งขึ้น หัวข้อที่เหล่าขุนนางเอ่ยถึง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของโอวหยางเหลียน เสนาบดีสามรัชสมัยผู้นี้ ไม่มีผลงานอะไรยิ่งใหญ่แต่ก็ทำงานอย่างหนักหน่วง ควรได้รับการเชิดชูหลังสิ้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1180

    เมื่อหมอหลวงมาถึง โอวหยางเหลียนก็เสียชีวิตจากพิษแล้ว เหล่าคนรับใช้ในจวนต่างคุกเข่าลงกับพื้น ส่งเสียงร้องไห้ดังระงมไม่ขาดสาย “ใต้เท้า——” สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนจดจ้องไปบนเตียง ที่มีโอวหยางเหลียนนอนอยู่บนนั้น ที่จากไปอย่างเด็ดเดี่ยว ยอมตายเพื่อตักเตือน โอวหยางเหลียนทำเช่นนี้ ทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องรับภาระที่หนักหน่วง “ฝังศพอย่างสมเกียรติ” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยสั้น ๆ จบ พลันลุกขึ้นและเดินออกไป เสียงร้องไห้ทางด้านหลังนั้น ราวกับลอยเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของนาง เซียวอวี้ยืนอยู่ที่ข้างประตู ยื่นมือให้นางจับไว้อย่างมั่นคง การตายของโอวหยางเหลียน เปรียบเหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถูกโยนลงทะเลสาบ สร้างแรงกระเพื่อม แต่ก็สงบลงในที่สุด เขาหาได้สนใจความเป็นหรือตายของโอวหยางเหลียนไม่ สนใจเพียงสุขภาพของจิ่วเหยียนเท่านั้น สีหน้าของนางดูมิสู้ดีเลย “กลับวังก่อนเถิด” เขาตัดสินใจแทนนาง ในรถม้า เฟิ่งจิ่วเหยียนเงียบจนน่าใจหาย เซียวอวี้ไม่ได้รบกวนนาง เพียงอยู่เคียงข้างนาง และคอยเป็นที่พึ่งพิงให้นางเสมอ หลังจากกลับมาถึงวัง คนทั้งสองนั่งอยู่ข้างเตียง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1179

    โอวหยางเหลียนมองเห็นความหวั่นไหวในใจของเฟิ่งจิ่วเหยียน นี่คือสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น “ตั้งแต่เยาว์วัยท่านก็แตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปในหนานฉี “ท่านกำเนิดมาเพื่อแคว้นซีหนี่ว์เพคะ “ท่านก็คงจะคิดด้วยว่า หนานฉีกดขี่สตรีที่มีความสามารถเกินไป “แต่ท่านมิอาจเปลี่ยนแปลงมันได้ “ท่านประมุขแคว้น ท่านเคยคิดหรือไม่ หากท่านให้กำเนิดองค์หญิงรัชทายาท ในแคว้นซีหนี่ว์แห่งนี้ นางจะกลายเป็นประมุขแคว้น ทว่าในหนานฉี นางจะเป็นเพียงองค์หญิง แม้จะได้รับความโปรดปราน แต่ไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมของการช่วยเหลือสามีและดูแลบุตรได้ “ในหนานฉี ผู้หญิงทุกคนไม่สามารถเป็นแม่ทัพหญิงเช่นท่านได้ ฮ่องเต้ฉีองค์ปัจจุบันหลักแหลมกว่าใครอย่างมิต้องสงสัย แต่ทายาทรุ่นหลังเล่า? ท่านประมุขแคว้น ท่านไม่คิดเพื่อตัวเอง ก็ต้องคิดถึงลูก ๆ ของท่านด้วยเพคะ!” เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้ตกอยู่ในกับดักชั่วร้ายที่โอวหยางเหลียนสร้างขึ้น ใบหน้าของนางแน่วแน่ “สิ่งที่เจ้าพูด ล้วนอ้างแต่มุมมองของผู้หญิง “ลองคิดอีกมุม หากเราให้กำเนิดองค์ชาย สถานการณ์ของเขาในแคว้นซีหนี่ว์ ก็ไม่ต่างกับสถานการณ์ขององค์หญิงในหนานฉี”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1178

    หูย่วนเอ๋อร์ถูกลอบสังหาร โอวหยางเหลียนจึงเสนอให้เซียวอวี้เป็นผู้นำทัพ นี่ยิ่งทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนเกิดความสงสัยอย่างเลี่ยงมิได้ นางหันกลับไปมองที่โอวหยางเหลียน “เราคิดว่า เจ้าเหมาะที่จะปกป้องเมืองมากกว่าพระสวามี” มีความแปลกประหลาดในแววตาของโอวหยางเหลียน “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยินดีจะไปเพคะ!” นางรับคำสั่งอย่างง่ายดาย หาได้มีพิรุธไม่ เฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้ต้องการให้โอวหยางเหลียนเป็นผู้นำทัพจริง ๆ ดวงตาของนางมืดมน กล่าวอย่างสื่อความนัย “ท่านป้าอายุมากแล้ว จะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร “เมื่อผ่านพ้นวันเกิดปีที่แปดสิบแล้ว มิลองเกษียณแล้วกลับบ้านเกิด มีชีวิตบั้นปลายที่ดีเล่า” ตามกฎระเบียบของแคว้นซีหนี่ว์ เมื่อขุนนางมีอายุครบเจ็ดสิบห้าปี ก็สมควรเกษียณและกลับบ้านเกิด ม่านตาของโอวหยางเหลียนเบิกกว้าง “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยังทำได้...” เฟิ่งจิ่วเหยียนลดเสียงลง “นี่คือเกียรติยศสุดท้ายที่เราจะมอบให้ท่าน” ทั้งเรื่องซูถงและการลอบสังหารหูย่วนเอ๋อร์คืนนี้ หากจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับโอวหยางเหลียน นางหาได้เชื่อไม่ นางได้จัดสาย

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status