Share

บทที่ 242

Penulis: อี้ซัวเยียนอวี่
เหลียนซวงมิรู้ว่า นางควรจักรายงานเรื่องที่ฮองเฮาฟื้นขึ้นมาแล้วดีหรือไม่

นับว่าโชคดีที่ คนภายในฉากกั้นด้านในเอ่ยขึ้นมาพอดี “ฝ่าบาทเพคะ... หม่อมฉันเพิ่งฟื้นเพคะ”

หลังจากที่เซียวอวี้ได้ยินเสียงนั้น เขาก็ยกมือขึ้นแหวกม่านฉากกั้นขึ้นมา

เรียวนิ้วที่จับม่านนั้น ทำให้เกิดรอยยับอย่างชัดเจน

ดวงตาทั้งคู่พลันสบตากัน เมื่อเห็นสตรีที่อ่อนแออยู่ตรงหน้านั้น นิ้วมือจึงเผลอลงแรงเข้าไปอีก

“พักผ่อนเสีย”

นอกจากน้ำเสียงเย็นชาที่เอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วงนั้น เขาหาได้มีคำพูดอื่นไม่

เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงทำลายสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจนี้ พร้อมทั้งพยายามที่จะลุกขึ้นมานั่ง

เซียวอวี้ขมวดคิ้วเป็นปมเล็กน้อย ก่อนจะก้าวไปข้างหน้า ทั้งยังยื่นมือเข้ามาช่วยประคองที่เอวของนางอีก

เซียวอวี้จึงมิรู้ว่าตนเองเผลอไปสัมผัสโดนแผลเก่าของนางเข้าแล้ว

เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงสูดลมหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ พร้อมหยุดอยู่ที่เดิม

เซียวอวี้ที่สังเกตเห็นท่าทีผิดปกติของนางนั้น จึงเอ่ยถามออกมา “เป็นอะไรไป?”

ท่าทีของเซียวอวี้ที่มีต่อนาง มิค่อยมีความอดทนเท่าใดเช่นตอนนี้นัก

“ไม่มีอันใดเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายหัวไปมาเบา ๆ ภายในใจได้แต่ลอบกลอกตามอง
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (5)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
หนิงเฟยโง่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วยังอวดฉลาด
goodnovel comment avatar
พัดชา เกรียงศรี
สนุกมากเลย
goodnovel comment avatar
Jum
กี่ตอนจบ ยังอัพเดทอยู่ไม่
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 243

    ไทเฮาที่มักจะเอ็นดูและมีเมตตานั้น หากนางมิถูกหนิงเฟยบีบบังคับเช่นนี้ นางย่อมมิมาทางลงมืออย่างแน่นอนนางจ้องมองไปที่หนิงเฟย ฝ่ามือพลันเกิดอาการด้านชา ภายในใจนึกรู้สึกอึดอัดยิ่งนัก“เจ้า...ซิ่วหว่าน! ข้าสั่งให้เจ้าระมัดระวังวาจากิริยามารยาทบัดเดี๋ยวนี้ เจ้าในยามนี้ช่าง...ช่างทำให้ข้านึกผิดหวังยิ่งนัก!”“คำพูดไม่กี่คำของจิ้งกุ้ยเหรินนั้น กลับทำให้เจ้าสิ้นสติไปเช่นนี้ เจ้าคิดว่านางหวังดีกับเจ้ามากงั้นหรือ?”“นางมองออกว่าเจ้าหาได้เหมือนหรงเฟยไม่ มิมีทางได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ทั้งยังสามารถบีบบังคับได้ง่าย ถึงได้พยายามประคองเจ้าขึ้นสู่บัลลังก์นั้น”“หากนางให้กำเนิดพระโอรสออกมาเมื่อใด แม้เจ้าจักได้ตำแหน่งนั้น เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าก็จักต้องถูกเตะลงมาอยู่ดี! เจ้าเข้าใจหรือไม่!”เมื่อถูกไทเฮากระชากสติกลับมาเช่นนี้ หนิงเฟยจึงค่อย ๆ ได้สติกลับมานางเอามือกุมใบหน้าอีกข้างเอาไว้ ทั้งพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเอง“ท่านป้าพูดถูก เป็นความผิดของข้าเอง”หลังจากออกจากตำหนักฉือหนิงแล้ว ภายในใจของหนิงเฟยก็ยังรู้สึกว้าวุ่นไม่หายยามที่ฝ่าบาทยังเป็นเพียงองค์ชายนั้น ฮ่องเต้องค์ก่อนก็มีความคิดจะมอบนาง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 244

    ไทฮองไทเฮาเสด็จมาถึงตำหนักหย่งเหอด้วยขบวนอลังการสง่างามเป็นอย่างยิ่งผู้ดูแลซุนหมัวมัวเป็นผู้รับผิดชอบพาพระนางเดินเข้ามายังตำหนักในเมื่อเข้ามานั้น พลันเห็นฮ่องเต้นั่งอยู่ข้างโต๊ะ สายตาเอาแต่จับจ้องไปที่เตียงนอน ยามที่นางกำนัลสาวใช้กำลังป้อนยาให้กับฮองเฮาพระองค์เอาแต่มุ่งความสนใจไปที่ฮองเฮามากจนเกินไป แม้แต่พระนางที่มีศักดิ์เป็นถึงเสด็จย่ามาเยือนเช่นนี้ เขาหาได้รู้สึกถึงการมาของนางไม่จนกระทั่งหลิวซื่อเหลียงเอ่ยทำความเคารพขึ้นมา“บ่าวเข้าเฝ้าไทฮองไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวอวี้ถึงได้รู้สึกตัว พร้อมทั้งลุกขึ้นให้การต้อนรับ“เสด็จย่า”น้ำเสียงของเขาแหบแห้ง เสมือนกับว่าเป็นไข้เจ็บคอไทฮองไทเฮารู้สึกเป็นห่วงหลายชายของตนเองยิ่งนัก“ฝ่าบาท เมื่อคืนเจ้าจัดการเรื่องนักฆ่าแล้ว คงมิได้พักผ่อนเลยกระมัง”“ฮองเฮามีคนคอยดูแลมากมายเช่นนี้ เจ้าก็กลับไปพักผ่อนเสียหน่อยเถิด”สีหน้าเซียวอวี้เฉยเมย ราวกับว่าเขามิได้สนใจสิ่งใด“เราเพียงแค่แวะมาดูเท่านั้น กำลังจะออกไปพอดี”ไทฮองไทเฮาพยักหน้าลงเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองดูผู้ที่นอนอยู่บนเตียง“หมอหลวงกล่าวเช่นไร?”“เพียงตกใจ”“แค่ตกใจจริงหรือ?” น้ำเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 245

    “ช่วย”กลับกันหากมีบุคคลที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่ตกอยู่ในอันตรายละก็ นางจักต้องยื่นมือออกไปช่วยแน่นอนจากนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยขึ้นมาอีกว่า “ช่วยในขอบเขตที่หม่อมฉันพอจะช่วยเหลือได้เพคะ”อาจารย์หญิงมักจะกล่าวกับนางเสมอว่า ชีวิตของนางย่อมเป็นของตัวเองก่อนเซียวอวี้เพียงสนใจคำของนางว่า “ช่วย” เขามิอาจบอกได้เลยว่าเขารู้สึกอย่างไรในยามนี้หลิงเยี่ยนเอ๋อร์เองก็เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขาเช่นกัน ทั้งยังยินยอมมอบทั้งหัวใจและวิญญาณให้กับเขา และยังยอมลดอายุขัยเพื่อเขาอีกหากเปรียบเทียบกันแล้ว สิ่งที่ฮองเฮาทำมีเพียงแค่ช่วยแก้พิษวารีสวรรค์และเอาตัวมาบังลูกธนูเท่านั้น หาได้มากเท่ากับสิ่งที่หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ทำให้เขาตลอดสี่ปีที่ผ่านมาไม่ทว่า หัวใจของเขา กลับสั่นไหวเพราะฮองเฮาอาจเป็นเพราะหลิงเยี่ยนเอ๋อร์มอบทุกอย่างให้กับเขา แต่ก็ได้รับหลาย ๆ อย่างจากเขาเช่นกันแต่ ฮองเฮาไม่เคย...ทว่าความอ่อนโยนในนัยน์ตาของเซียวอวี้กลับถูกความเย็นชาเข้ามาบดบังอีกครั้งผู้ใดจักไปรู้กัน ว่าฮองเฮามิมีสิ่งที่ตัวเองต้องการ มิใช่การถอยเพื่อรับหลายวันที่ผ่านมานั้นเขาเอาแต่คิดมากทุกครั้งที่เขานึกถึงงานเลี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 246

    เซียวอวี้ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้ามืดมน ใบหน้าราวกับถูกปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์ยามเหมันตฤดูที่หนาวเหน็บ ทั้งยังคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความผิดของฮองเฮาทันใดนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนที่มีกำลังภายในอันเข้มข้นจึงได้รับรู้การมีอยู่ของเซียวอวี้ได้ในทันทีทั้งคู่พลันสบตากัน เฟิ่งจิ่วเหยียนคล้ายกับเห็นความรังเกียจฉายอยู่ในดวงตาของเขา...เหลียนซวงเองก็มองตามสายตาของฮองเฮาไป เมื่อเห็นว่าเป็นฮ่องเต้นั้น นางจึงรีบร้อนหยิบเสื้อตัวนอกที่วางเอาไว้บนเตียงขึ้นมาคลุมร่างของฮองเฮาในทันทีเหลียนซวงราวกับลืมไปว่า การที่ฝ่าบาทมองสตรีของตนเองนั้นเป็นเรื่องที่สมควรกระทำนับว่าโชคดีที่ในยามนี้แผลมีผ้าพันเอาไว้อยู่“เข้าเฝ้าฝ่าบาทเพคะ”เหลียนซวงรีบออกมาทำความเคารพในทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงได้แต่แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยตนเอง นั่นจึงทำให้นางหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บที่หลังไปอย่างเสียไม่ได้ แต่นางก็ได้แต่ต้องอดทนเอาไว้เซียวอวี้เอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“วันนี้ฮองเฮายังคงมีไข้สูงอยู่หรือไม่”เหลียนซวงก้มหน้าตอบกลับ “เพ เพคะ”เหลียนซวงมีท่าทีตื่นเต้นเล็กน้อยมิรู้เลยว่าฝ่าบาทมาถึงเมื่อใดนับ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 247

    “ทั้งสำนักหมอหลวงไปตรวจโรค?” ไทเฮาทรงตกตะลึงไปครู่หนึ่งโดยปกติแล้ว หากในวังหลวงมีคนป่วยนั้น มักจะใช้หมองหลวงประมาณสองคนผลัดกันเข้าเวรมาตรวจดูอาการเท่านั้น หากว่าให้หมอหลวงทั้งสำนักมาทำการตรวจนั้น ถือเป็นโอกาสที่หาได้ยากเป็นอย่างยิ่งอาการป่วยของฮองเฮาสาหัสเพียงนั้นเลยหรือ?กุ้ยหมัวมัวพลันโค้งกายคำนับ “ไทเฮาเพคะ หม่อมฉันเดาว่าฝ่าบาทคงคาดเดาได้ว่าฮองเฮาแสร้งประชวรเพคะ”ไทเฮาพลันเลิกคิ้วขึ้น“หากเป็นเช่นนั้น ก็อาจจะเป็นไปได้”ทว่า ค่ายกลล้อมจับนี้นับว่าใหญ่นักหากฮองเฮาแสร้งป่วยจริง ๆ แล้วไซร้ เรื่องราวทุกอย่างย่อมกระจ่างแจ้งขึ้น เช่นนั้นนางจะเอาหน้าไปไว้ที่ใดกัน?ตำหนักฟางเฟยน้ำเสียงของชิวหงเผยให้เห็นท่าทีสะใจขึ้นมา“กุ้ยเหรินเพคะ หากหมอหลวงในสำนักหมอหลวงมาวินิจฉัยเช่นนี้ ฮองเฮาแสร้งป่วยหรือไม่นั้น อีกไม่นานคงได้รู้กันแล้ว”มู่หรงฉานที่กำลังเป็นกังวลเกี่ยวกับข่าวคราวของพี่ชายตนเองนั้น ใบหน้าพลันเจือไปด้วยความวิตกกังวล ทว่า หลังจากที่ได้ยินชิวหงเอ่ยขึ้นมานั้น ใบหน้าของนางจึงเจือไปด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า หากฮองเฮาหลอกลวงฝ่าบาทขึ้นมาจริง ๆ ละก็ เช่นนั้นนางต้องโทษอย่างรุนแรง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 248

    ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันฉายแววความห่างเหินออกมาแม้ว่าหมอหลวงจักมิได้กล่าวความจริงออกมา ทว่า เซียวอวี้ก็คงมองออกว่านางแสร้งป่วยเช่นนี้นางคงมิอาจแสร้งป่วยต่อไปได้อีก ทั้งยังมิอาจใช้โอกาสนี้หาข้ออ้างหลบออกจากวังหลวงไปได้อีกแล้วในยามนี้ นางคงต้องคิดหาทางอื่นอย่างแรกต้องติดต่ออู้ไป๋ให้ได้เสียก่อน ต้องนำยาแสร้งตายมาให้ได้ทว่า การคุ้มกันภายในวังหลวงแน่นหนายิ่งนัก นี่ถือว่าเป็นปัญหาอันใหญ่หลวงอีกด้านหนึ่งเซียวอวี้มองออกว่าอาการไข้สูงของฮองเฮานั้นเป็นนางที่เสแสร้งออกมา ทว่า ก็มิมีหมอหลวงคนใดสักคนออกมากล่าวความจริงในเรื่องนี้หากแต่ยามนี้ภารกิจของแว่นแคว้นมีมากมายนัก เขามิอาจหาเวลามาคิดเรื่องเล็กเรื่องน้อยเช่นนี้กับนางได้การแสร้งป่วยเช่นนี้นับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ว่าจะคิดเช่นไรนางก็แค่หาวิธีเรียกร้องความสนใจจากเขาเท่านั้นเห็นแก่ที่นางเอาตัวรับลูกธนูให้เขานั้น เขาจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ ทว่า ก็มิคิดให้อภัยนางในเรื่องนี้เช่นเดียวกันหลังจากวันนั้น เซียวอวี้ก็มิได้มาเยือนที่ตำหนักหย่งเหออีกนางสนมเจียและนางสนมเจียงทั้งสองคนที่มักจะมาเยี่ยมเยียนบ่อย ๆนางสนมเจียพลันกล่าวว่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 249

    ภายในห้องทรงพระอักษรนั้น กลิ่นอายขององค์จักรพรรดิที่แผ่กระจายออกมา ย่อมทำให้ข้าราชบริพารใต้ล่างต้องยอมจำนนมู่หรงฉานยังคงท่วงท่าสง่างามของตนเองเอาไว้ ก่อนจะก้มหน้าลงหลุบสายตาลงไปมองบนพื้นภายในห้องโถงที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบ คล้ายกับว่าจะได้ยินเสียงหัวใจของตนเองที่เต้นรัวออกมาบุรุษที่นั่งอยู่บนบัลลังก์พลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก“พี่ชายของเจ้ายักยอกเงินจากค่ายทหาร ทั้งยังกระทำการแย่งชิงเกียรติยศของพลทหารคนอื่น ใช้การรุมประชาทัณฑ์เพื่อกำจัดคนที่รู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งยังส่งคนไปไล่ล่าจนมาถึงเมืองหลวง เจ้าเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้างหรือไม่?”มู่หรงฉานขบกัดริมฝีปากล่างของตนเองเบา ๆ“แต่แรกจนโตหม่อมฉันเติบโตขึ้นภายในอารามเพคะ ในความทรงจำของหม่อมฉัน พี่ชายเป็นบุคคลที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาจิตใจดี หม่อมฉันรู้ว่าเขา...”“งานเลี้ยงวันเทศกาลไหว้พระจันทร์ของขวัญ”เซียวอวี้กลับเอ่ยตัดบทสนทนา ทำเอามู่หรงฉานตื่นตระหนกไปในทันทีเขาค่อย ๆ เปิดฎีกาขึ้นมาช้า ๆ พลางมองเนื้อหาในฎีกาไปด้วย ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาด้วยท่าทีไม่รีบไม่ร้อน“มิเกี่ยวอันใดกับเจ้าเลยหรือ?”มู่หรงฉานไม่คาดคิดเลยว่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 250

    ภายในตำหนักหย่งเหอยามที่เซียวอวี้มาถึงนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังดื่มยาอยู่นางสวมใส่อาภรณ์ที่เรียบง่าย นั่นจึงทำให้ทั่วร่างของนางเจือไปด้วยกลิ่นอายความเย็นชาราวกับแสงจันทร์ยานั้นแค่ได้กลิ่นก็นึกขมยิ่งนัก มิต้องคิดไปถึงยามที่กินเข้าไปเลยเฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นยืนโค้งกายทำความเคารพด้วยท่าทีเฉยเมย“เข้าเฝ้าฝ่าบาทเพคะ”“ข้าบอกแล้วว่า อาการบาดเจ็บเจ้ายังไม่หายดี มิจำเป็นต้องทำความเคารพ”“เพคะ”หลังจากที่เซียวอวี้นั่งลงแล้วนั้น ยามที่เขาคิดจะเอ่ยถามถึงเรื่องหนังสือร้องเรียน ก็พลันเห็นสีหน้าที่ซีดเผือดไร้สีของนางเข้าเสียก่อนเพียงมิได้พบหน้านางไม่กี่วัน นางกลับดูซูบเซียวไปได้มากถึงเพียงนี้เลยหรือข้ารับใช้ในตำหนักหย่งเหอไปทำอะไรกันหมด แม้แต่เจ้านายของตนเองก็ยังมิอาจปรนนิบัติรับใช้ให้ดีได้!“เชิญหมอหลวงมาแล้วหรือยัง?” เซียวอวี้เอ่ยถามออกมาด้วยท่าทีสบาย ๆเฟิ่งจิ่วเหยียนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา ใบหน้าดูเศร้าโศกยิ่งนัก“มาแล้วเพคะ สุขภาพร่างกายของหม่อมฉันหาได้เป็นอันใดมากไม่”เหลียนซวงพลันเข้ามาได้ทันเวลาพอดี“ฝ่าบาทเพคะ ฮองเฮามีความคิดอยากกลับไปเยี่ยมตระกูลของตนเอง ทำให้พระนางในยาม

Bab terbaru

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1186

    หนานฉีทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน มิใช่การกระทำที่ชาญฉลาดสงครามที่แคว้นต่าง ๆ ล้อมโจมตีหนานฉี ต้องสูญเสียกำลังทหารจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายต่างจำเป็นต้องพักฟื้นและฟื้นฟูเป่ยเยี่ยนกล้าเคลื่อนทัพไปทางใต้ เป็นเพราะไม่มีอุปสรรค สามารถยึดครองแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้โดยไม่สูญเสียกำลังทหารแม้แต่นายเดียวแม้ว่าหนานฉีจะไม่พอใจเป่ยเยี่ยนมากเพียงใด ก็ไม่อาจประกาศสงครามโดยไม่ไตร่ตรองถึงแม้คืนที่ผ่านมารุ่ยอ๋องจะหลับไม่เต็มที่ สมองก็ยังคงตื่นอยู่เขาคัดค้านการส่งกองทัพออกไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยนอย่างเด็ดขาดแม่ทัพอาวุโสหลี่ไม่พอใจ“ท่านอ๋อง ขอบังอาจถามว่าตอนนี้ฮ่องเต้ทรงประทับอยู่ที่ใด?”รุ่ยอ๋องมีท่าทีลังเล เรื่องเช่นนี้ คงต้องมอบให้ฮ่องเต้ตัดสินพระทัยในที่ประชุม รุ่ยอ๋องเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน“ท่านแม่ทัพอาวุโสหลี่ ข้ารู้ว่าท่านปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อต้านเป่ยเยี่ยน ทว่าเรื่องนี้สุดท้ายแล้วมิใช่หนานฉีควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว“การส่งกองทัพไปช่วยแคว้นซีหนี่ว์เพื่อขัดขวางแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง เป็นเพราะเรากับแคว้นซีหนี่ว์เป็นพันธมิตรกัน หากส่งกองทัพไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน พวกเราจะใช้เหตุผลใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1185

    หร่วนฝูอวี้สวมอาภรณ์ผ้าโปร่งบางเบา เดินออกมาจากด้านหลังฉากกั้นทันทีรุ่ยอ๋องจ้องมองนางตาไม่กะพริบ เหงื่อในฝ่ามือก็ยิ่งออกมาก“ข้า ข้ายังมีเอกสารทางการ...”เขาไม่มีประสบการณ์เลย จำต้องดูจากสมุดภาพทว่าคำพูดนี้ เขาไม่อาจเอ่ยออกมาได้ดวงตาของหร่วนฝูอวี้หรี่ลงทันที สายตาราวกับสัตว์ป่าที่ออกล่าเหยื่อ“เอกสารทางการ? ข้าว่า เจ้าคงคิดจะหนีกระมัง!”นางก้าวเท้ายาวมาข้างหน้า พร้อมกับข่มขู่: “มาถึงสถานที่ของข้าแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะออกไปได้!”พูดจบ นางก็ตรงไปแบกคนขึ้นมาทันทีรุ่ยอ๋องไม่คาดคิดเลยว่า จะเป็นเหตุการณ์เช่นนี้!ศีรษะของเขาคว่ำลง เมื่อเลือดสูบเข้า ก็มีแต่ความว่างเปล่าไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้?อย่างน้อยเขาก็เป็นบุรุษ!ตึง!หร่วนฝูอวี้โยนเขาลงบนเตียง ไม่ทะนุถนอมแม้แต่น้อยจากนั้นด้วยความรวดเร็วและง่ายดาย นางก็ถอดเข็มขัดบนตัวของรุ่ยอ๋องออกมาในที่สุดรุ่ยอ๋องก็ได้สติกลับมา รีบคว้าปกคอเสื้อของตนเองไว้“เจ้าช้าก่อน...”นางร้อนใจจนไม่อาจทนไหว!หร่วนฝูอวี้นั่งอยู่บนเอวของเขา กดมือทั้งสองข้างของเขาวางไว้ข้างศีรษะทั้งสองด้านมองเห็นบุรุษที่ยามปกติมีระเบียบแบบแผน เยือกเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1184

    “เจ้าคิดจะ...มีลูกกับข้า?” คิ้วของรุ่ยอ๋องขมวดปมแน่น จ้องมองหร่วนฝูอวี้ที่อยู่ตรงหน้า ดูเหมือนจะทำตัวไม่ถูกเหตุใดจู่ ๆ นางถึงมีความคิดเช่นนี้ได้?เพียงเพื่อจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับฮองเฮาหรือ? หร่วนฝูอวี้ยังคงจับปกเสื้อของเขาอยู่ พร้อมกับมองสำรวจเขาด้วยท่าทางของผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า“พวกเราเป็นสามีภรรยากัน มีลูกแล้วจะอย่างไร?“เจ้ายังจะเรื่องมากอีกรึ?”รุ่ยอ๋องส่ายศีรษะอย่างแข็งเกร็ง“ข้าเพียงรู้สึกว่า...”นี่ไม่ปกติเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีคนขัดขวางการกระทำที่ขาดสติของหร่วนฝูอวี้ได้นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่า การจะมีลูกนั้น มีความหมายอย่างไร“ข้าไม่ใช่คนใจง่ายเช่นนั้น” รุ่ยอ๋องผลักนางออกไปโดยแสร้งทำเป็นสุขุมเยือกเย็น พร้อมกับหันหลังให้นาง สายตามองไปยังที่ไกล ๆ“ใจง่ายรึ?” หร่วนฝูอวี้หัวเราะด้วยความโมโห เช่นนั้นก็เท่ากับว่านางเป็นคนใจง่ายรึ?บุรุษสุนัขผู้นี้ ปากช่างร้ายกาจนัก!“ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะไปหาคนอื่น!”หร่วนฝูอวี้พูดได้ทำได้ รุ่ยอ๋องจึงรีบคว้าแขนของนางไว้“เจ้าเสียสติไปแล้วรึ?!”นางเป็นพระชายาของเขา จะมีสัมพันธ์กับชายอื่นได้อย่างไร?หร่วนฝูอวี้เกลียดท่าทางลั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1183

    ด้านนอกห้องทรงพระอักษรเซียวอวี้ยืนอยู่ด้วยสีหน้าคร่ำเคร่งได้ยินว่าเสนาบดีที่ช่วยปกครองเหล่านี้ต้องการทำตามโอวหยางเหลียน ใช้ความตายมาข่มขู่จิ่วเหยียนวิธีนี้ช่างชั่วร้ายยิ่งนักจนกระทั่งตอนที่เห็นพวกนางเดินออกมา และไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย เซียวอวี้ถึงค่อยโล่งใจเหล่าเสนาบดีทำเป็นมองไม่เห็นเขา มีเพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่มองเขาด้วยแววตาที่แฝงความรู้สึกซับซ้อนฮ่องเต้ฉีเสด็จมาที่แคว้นซีหนี่ว์ด้วยพระองค์เอง คิดดูแล้วก็คงกังวลพระทัยว่าประมุขแคว้นจะทรงหวั่นไหว ไม่เสด็จกลับไปหนานฉีอีกเห็นได้ชัดว่า พวกเขาเป็นเช่นเดียวกัน ไม่อาจคาดเดาจิตใจของประมุขแคว้นได้ช่างน่าเศร้าจริง ๆเมื่อเปรียบเทียบเช่นนี้ หูย่วนเอ๋อร์ก็รู้สึกสบายใจโดยไม่รู้ตัวยิ่งไปกว่านั้นคำพูดแต่ละคำของประมุขแคว้นนั้นมีความหมายอันลึกซึ้ง สิ่งที่พวกนางพยายามจะรักษาไว้ อย่างมากเพียงชั่วชีวิตเดียวนี่เหมือนกับการที่หมอรักษาโรค รักษาที่ปลายเหตุมิได้รักษาที่ต้นเหตุเมื่อครู่ประมุขแคว้นเอ่ยกับพวกนางมากมาย ทำให้พวกนางเข้าใจว่า ต้นเหตุที่แคว้นซีหนี่ว์ไม่อาจสร้างความยิ่งใหญ่ได้ ก็คือ “บาดแผลภายใน”การกดขี่บุรุษภายในแคว้นมากเกินไป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1182

    เสนาบดีที่ช่วยปกครองต่างก็เป็นคนสนิทของอดีตประมุข แต่ละคนล้วนเป็นเสาหลักสำคัญของราชสำนักพวกนางยืนอยู่นอกห้องทรงพระอักษร ถึงอายุจะต่างกัน ทว่าล้วนมีความจงรักภักดีและกล้าหาญ“พวกหม่อมฉันขอเข้าเฝ้าประมุขแคว้น!”เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรในห้องทรงพระอักษร ด้วยสายตาที่แน่วแน่นางจ้องมองเงาร่างของแต่ละคนที่อยู่ด้านนอกตำหนัก ความแน่วแน่ในดวงตาเจือความหม่นหมอง“ให้พวกนางเข้ามา”ไม่นาน เหล่าเสนาบดีก็ทยอยกันเข้ามาด้านใน หูย่วนเอ๋อร์ที่บาดเจ็บหนักนอนอยู่บนแคร่หามนั้นเห็นเด่นชัดที่สุดเฟิ่งจิ่วเหยียนวางฎีกาที่อยู่ในมือลง กวาดตามองพวกนางแวบหนึ่ง“ต้องการจะพูดสิ่งใด?”“ท่านประมุขแคว้น พวกหม่อมฉันทราบแล้ว เหตุใดใต้เท้าโอวหยางถึงสิ้นใจ” ลมหายใจของหูย่วนเอ๋อร์สงบนิ่ง ทว่ามองเห็นบาดแผลภายในไม่รุนแรงเสนาบดีคนอื่น ๆ จึงเอ่ยต่อ“ใต้เท้าโอวหยางทำเพื่อความมั่นคงของแผ่นดินแคว้นซีหนี่ว์ นางอาศัยความตาย ขอร้องให้ประมุขแคว้นทรงอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ต่อไป!”สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูสงบนิ่ง มิได้เอ่ยขัดจังหวะคำพูดของพวกนางหูย่วนเอ๋อร์ลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก หันไปโน้มศีรษะให้เฟิ่งจิ่วเห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1181

    การตายของโอวหยางเหลียน สำหรับหูย่วนเอ๋อแล้ว เป็นการสูญเสียที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง ในบรรดาขุนนางใหญ่ของราชสำนัก พวกนางทั้งสองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันที่สุด ที่สำคัญกว่านั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป หูย่วนเอ๋อร์มิได้เตรียมใจไว้เลย สาวใช้ตอบอย่างระมัดระวัง “บ่าวรู้เพียงว่า ใต้เท้าโอวหยางกินยาพิษฆ่าตัวตายเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์ไม่เชื่อ ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ไฉนใต้เท้าโอวหยางกลับมาฆ่าตัวตาย? “ต้องมีคนวางแผนสังหารนางเป็นแน่! เรื่องนี้ ท่านประมุขแคว้นทราบหรือไม่!” สาวใช้ผงกศีรษะ “ตอนที่ใต้เท้าโอวหยางเกิดเรื่อง ท่านประมุขแคว้นก็อยู่ที่จวนโอวหยางเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์มีน้ำตาคลอหน่วย รู้สึกเสียใจที่ตนเองบาดเจ็บ จึงไม่สามารถออกไปสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง การตายของโอวหยางเหลียน มิใช่เพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่ตกตะลึงสงสัย ยังสร้างความวุ่นวายในราชสำนักด้วย ในการประชุมราชสำนักวันรุ่งขึ้น หัวข้อที่เหล่าขุนนางเอ่ยถึง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของโอวหยางเหลียน เสนาบดีสามรัชสมัยผู้นี้ ไม่มีผลงานอะไรยิ่งใหญ่แต่ก็ทำงานอย่างหนักหน่วง ควรได้รับการเชิดชูหลังสิ้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1180

    เมื่อหมอหลวงมาถึง โอวหยางเหลียนก็เสียชีวิตจากพิษแล้ว เหล่าคนรับใช้ในจวนต่างคุกเข่าลงกับพื้น ส่งเสียงร้องไห้ดังระงมไม่ขาดสาย “ใต้เท้า——” สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนจดจ้องไปบนเตียง ที่มีโอวหยางเหลียนนอนอยู่บนนั้น ที่จากไปอย่างเด็ดเดี่ยว ยอมตายเพื่อตักเตือน โอวหยางเหลียนทำเช่นนี้ ทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องรับภาระที่หนักหน่วง “ฝังศพอย่างสมเกียรติ” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยสั้น ๆ จบ พลันลุกขึ้นและเดินออกไป เสียงร้องไห้ทางด้านหลังนั้น ราวกับลอยเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของนาง เซียวอวี้ยืนอยู่ที่ข้างประตู ยื่นมือให้นางจับไว้อย่างมั่นคง การตายของโอวหยางเหลียน เปรียบเหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถูกโยนลงทะเลสาบ สร้างแรงกระเพื่อม แต่ก็สงบลงในที่สุด เขาหาได้สนใจความเป็นหรือตายของโอวหยางเหลียนไม่ สนใจเพียงสุขภาพของจิ่วเหยียนเท่านั้น สีหน้าของนางดูมิสู้ดีเลย “กลับวังก่อนเถิด” เขาตัดสินใจแทนนาง ในรถม้า เฟิ่งจิ่วเหยียนเงียบจนน่าใจหาย เซียวอวี้ไม่ได้รบกวนนาง เพียงอยู่เคียงข้างนาง และคอยเป็นที่พึ่งพิงให้นางเสมอ หลังจากกลับมาถึงวัง คนทั้งสองนั่งอยู่ข้างเตียง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1179

    โอวหยางเหลียนมองเห็นความหวั่นไหวในใจของเฟิ่งจิ่วเหยียน นี่คือสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น “ตั้งแต่เยาว์วัยท่านก็แตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปในหนานฉี “ท่านกำเนิดมาเพื่อแคว้นซีหนี่ว์เพคะ “ท่านก็คงจะคิดด้วยว่า หนานฉีกดขี่สตรีที่มีความสามารถเกินไป “แต่ท่านมิอาจเปลี่ยนแปลงมันได้ “ท่านประมุขแคว้น ท่านเคยคิดหรือไม่ หากท่านให้กำเนิดองค์หญิงรัชทายาท ในแคว้นซีหนี่ว์แห่งนี้ นางจะกลายเป็นประมุขแคว้น ทว่าในหนานฉี นางจะเป็นเพียงองค์หญิง แม้จะได้รับความโปรดปราน แต่ไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมของการช่วยเหลือสามีและดูแลบุตรได้ “ในหนานฉี ผู้หญิงทุกคนไม่สามารถเป็นแม่ทัพหญิงเช่นท่านได้ ฮ่องเต้ฉีองค์ปัจจุบันหลักแหลมกว่าใครอย่างมิต้องสงสัย แต่ทายาทรุ่นหลังเล่า? ท่านประมุขแคว้น ท่านไม่คิดเพื่อตัวเอง ก็ต้องคิดถึงลูก ๆ ของท่านด้วยเพคะ!” เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้ตกอยู่ในกับดักชั่วร้ายที่โอวหยางเหลียนสร้างขึ้น ใบหน้าของนางแน่วแน่ “สิ่งที่เจ้าพูด ล้วนอ้างแต่มุมมองของผู้หญิง “ลองคิดอีกมุม หากเราให้กำเนิดองค์ชาย สถานการณ์ของเขาในแคว้นซีหนี่ว์ ก็ไม่ต่างกับสถานการณ์ขององค์หญิงในหนานฉี”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1178

    หูย่วนเอ๋อร์ถูกลอบสังหาร โอวหยางเหลียนจึงเสนอให้เซียวอวี้เป็นผู้นำทัพ นี่ยิ่งทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนเกิดความสงสัยอย่างเลี่ยงมิได้ นางหันกลับไปมองที่โอวหยางเหลียน “เราคิดว่า เจ้าเหมาะที่จะปกป้องเมืองมากกว่าพระสวามี” มีความแปลกประหลาดในแววตาของโอวหยางเหลียน “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยินดีจะไปเพคะ!” นางรับคำสั่งอย่างง่ายดาย หาได้มีพิรุธไม่ เฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้ต้องการให้โอวหยางเหลียนเป็นผู้นำทัพจริง ๆ ดวงตาของนางมืดมน กล่าวอย่างสื่อความนัย “ท่านป้าอายุมากแล้ว จะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร “เมื่อผ่านพ้นวันเกิดปีที่แปดสิบแล้ว มิลองเกษียณแล้วกลับบ้านเกิด มีชีวิตบั้นปลายที่ดีเล่า” ตามกฎระเบียบของแคว้นซีหนี่ว์ เมื่อขุนนางมีอายุครบเจ็ดสิบห้าปี ก็สมควรเกษียณและกลับบ้านเกิด ม่านตาของโอวหยางเหลียนเบิกกว้าง “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยังทำได้...” เฟิ่งจิ่วเหยียนลดเสียงลง “นี่คือเกียรติยศสุดท้ายที่เราจะมอบให้ท่าน” ทั้งเรื่องซูถงและการลอบสังหารหูย่วนเอ๋อร์คืนนี้ หากจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับโอวหยางเหลียน นางหาได้เชื่อไม่ นางได้จัดสาย

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status