แชร์

บทที่ 213

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
ประตูเมืองเปิดกว้าง คนทุกบ้านพากันออกมาจากตรอกซอย ต้อนรับกองทัพกลับมาอย่างมีชัยชนะ

พวกชาวบ้านยืนอยู่ข้างทาง เงยหน้าขึ้นมองดู

“แม่ทัพน้อยเมิ่งล่ะ? เขาคือคนไหน?”

“คือคนที่ขี่ม้าอยู่ข้างหน้าสุดคนนั้น!”

“ทำไมถึงสวมหน้ากากไว้? ดูไม่เห็นว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร!”

“เจ้าไม่รู้เสียแล้ว แม่ทัพน้อยเมิ่งหน้าตาหล่อเหลาสง่าเกินไป จึงสวมหน้ากากบดบังไว้ เพื่อเสริมความทรงพลัง”

“ไม่ถูก เพราะบนใบหน้าของเขามีรอยแผลเป็น อัปลักษณ์อย่างมาก จึงไม่กล้าเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงต่อสาธารณะ!”

ความเห็นที่แตกต่าง จมอยู่ในเสียงคำรามของผู้คนทั้งหมด

แม่ทัพน้อยเมิ่งที่ทุกคนต่างสงสัยนั้น เวลานี้คือเฉียวม่อปลอมตัวมา

นางมองดูชาวบ้านพวกนั้นอยู่บนที่สูง ตลอดการเดินทางนี้ ทุกหนแห่งที่ไปถึง ล้วนมีชาวบ้านต่างออกมายืนรอต้อนรับตามถนน

อยู่ตรงชายแดน บางคนถึงขั้นคุกเข่าอยู่บนข้างถนน โขกศีรษะขอบคุณนาง

“ชายแดนเหนือ ไม่มีแม่ทัพน้อยเมิ่งไม่ได้!”

“แม่ทัพน้อยเมิ่ง สมกับที่เป็นเทพสงครามจริงๆ !”

ความกระตือรือร้นของประชาชน มาถึงเมืองหลวงก็ยังไม่ลดน้อยลง

พวกเขานำผลไม้ ผักสดให้กับทหาร ยังมีพวกพ่อค้าผู้มั่งคั่ง นำจี้หยก อัญมณีล้ำ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
สรุปอีชั่วซุนเต๋อคิดจะฆ่าเฉียวม่อหรอ ก็ดี อย่างน้อยมารผจญจะได้หมดไปหนึ่งตน
goodnovel comment avatar
Apatcha YJ
แม่ทัพน้อยตัวจริงไม่ยิ้มง่ายๆนะ นางโคฟยังไม่เป๊ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 214

    วันต่อมา เหล่าขุนนางมารวมตัวกันอยู่ในวัง มาร่วมงานเลี้ยงรับรองแม่ทัพจักรพรรดิหฮองเฮานั่งอยู่บนตำแหน่งสูง เหล่านางสนมนั่งตามลำดับตำแหน่งทว่าการปรากฏตัวของแม่ทัพทั้งหลาย จึงจะเป็นสิ่งสำคัญในงานเลี้ยงรับรองแม่ทัพนี้เฉียวม่อเดินอยู่ข้างหน้าสุด พาพวกแม่ทัพถวายความเคารพ“ฮ่องเต้อายุยืนหมื่นปี!”เซียวอวี้ยกมือขึ้นมา อาภรณ์ยาวคลุมอยู่กับพื้น“ทุกท่าน ไม่ต้องมากพิธี!”ทุกคนล้วนดูออก ความชื่นชมที่ฝ่าบาทมีต่อเมิ่งสิงโจวนั้น ไม่มีการปกปิดหลังจากเฉียวม่อยืนตรงแล้ว สายตาสบกับเฟิ่งจิ่วเหยียน ที่นั่งบนตำแหน่งฮองเฮาเฟิ่งจิ่วเหยียนก็จำนางได้ทั้งสองคนไม่ได้สื่อสารผ่านสายตาอะไรกันมาก แล้วก็หลบเลี่ยงกันไปงานเลี้ยงรับรองแม่ทัพนี้ หนิงเฟยเป็นคนรับผิดชอบจัดงาน ตามกฎตามจรรยาบรรณ ทว่าก็ไม่เป็นที่พอใจมากระหว่างงานเลี้ยงมีการเต้นรำเพิ่มความสนุกสนาน และมีเพลงบรรเลงประกอบการดื่มสุราสาวงามสุราดี สามารถชะล้างความเหนื่อยล้าของทหารที่ได้รับชัยชนะกลับมาพวกเขากินดื่มอย่างอิสระรื่นรมย์ ไม่ยึดติดกับกฎหนิงเฟยยังไตร่ตรองถึงนิสัยการกินของแม่ทัพแต่ละคนด้วย มีการเตรียมของว่างต่าง ๆ ไว้สำหรับพวกเขาโดยเฉ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 215

    สีหน้านางสนมเจียงขาวซีด เมื่อได้ยินเสียงฮองเฮาดังขึ้นมา แววตาเต็มไปด้วยความรอคอยหนิงเฟยก็หันไปมองเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างมุ่งร้ายเวลานี้ หากฮองเฮาปฏิเสธการถวายการเต้นรำของนางสนมเจียง ถือเป็นการทำร้ายจิตใจของพวกทหารนางพูดขึ้นมาอย่างท้าทายว่า “ฮองเฮา หรือท่านคิดว่า เหล่าทหารไม่คู่ควรที่จะชมการรำกลองของนางสนมเจียง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจหนิงเฟย เพียงพูดขึ้นมาอย่างนอบน้อมว่า“ฝ่าบาท ใช้กลองทงเทียน[1]ไหม?”กลองทงเทียนมักจะใช้ในการเซ่นไหว้ดังชื่อที่บ่งบอก ใช้สื่อสารกับเทพเจ้าผ่านเสียงกลอง ไม่ว่าจะอธิษฐานหรือแก้บนกลองทงเทียนนี้แลดูไม่ได้แตกต่างอะไรกับกลองปกติธรรมดา แต่หน้ากลองที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ สามารถทำให้เสียงกลองดังก้องขึ้กว่ากลองธรรมดาพวกทหารรักษาการณ์อยู่ชายแดน ไม่เคยเห็นกลองทงเทียน ล้วนรู้สึกแปลกใหม่เซียวอวี้ขมวดคิ้วเข้ม“ฮองเฮาหมายความว่าอย่างไร”เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงอธิบายขึ้นมาว่า“หม่อมฉันได้อธิฐานขอพรให้กับเหล่าทหาร ยามนี้ได้ชัยชนะกลับมา เดิมควรที่จะแก้บน แต่ด้วยสุขภาพไร้เรี่ยวแรง”“พอดีที่จะได้ใช้โอกาสในวันนี้ พวกทหารล้วนก็อยู่ด้วย ให้นางสนมเจียงตีกลองทงเทียนแทนหม่อม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 216

    สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่ง“เมื่อวาสนามาถึง ทุกอย่างก็มีความเป็นไปได้”กลับกัน หากไม่มีวาสนา เรื่องนี้ก็จะประสบความสำเร็จไม่ได้แต่เหล่าขุนนางคิดเพียงว่าได้คำรับประกันแล้ว ต่างยิ้มแย้มอย่างพอใจเซียวอวี้เอียงศีรษะมองดูนาง มุมปากกระตุกขึ้นมาเล็กน้อยหนิงเฟยกำผ้าเช็ดหน้าไว้แน่น แววตาแทบจะพ่นเป็นไฟออกไปนางจัดงานเลี้ยงรับรองแม่ทัพ ความโดดเด่นกลับถูกฮองเฮากับนางสนมเจียงแย่งชิงไป!มู่หรงฉานมองดูทุกอย่างนี้ราวกับไม่ใส่ใจ แววตาสงบเรียบเฉยบรรยากาศแลดูกำลังดี ทว่าไม่มีทางรู้ว่า มีการต่อสู้แย่งชิงกันต่างๆ อยู่อย่างลับๆหลังจากดื่มสุราวนไปหลายรอบ นายพลคนหนึ่งลุกขึ้นมา ท้าต่อสู้กับเฉียวม่อต่อหน้าทุกคน“แม่ทัพน้อยเมิ่งมีฝีมือการต่อสู้เยี่ยมยอด กล้าที่จะประลองกับข้าสักรอบไหม!”ทุกคนต่างร้องโห่ขึ้นมา“จะได้เห็นถึงความหาญกล้าของแม่ทัพน้อยเมิ่ง ถือเป็นบุญตาของพวกเรา!”“ฝ่าบาท ขออนุญาตตั้งเวทีประลองขึ้นมา เพื่อให้คนที่ต้องการท้าประลองกับแม่ทัพน้อยเมิ่ง ได้ขึ้นเวทีประลองอย่างต่อเนื่อง! เช่นนี้ให้พวกเราได้เห็นถึง ความสามารถของเทพสงครามแคว้นหนานฉีอย่างแท้จริง!”เซียวอวี้รู้ว่าเมิ่งสิงโจวได

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 217

    พัฟ!หน้ากากตกลงบนพื้นเสียเช่นนี้ในขณะเดียวกัน แม่ทัพน้อยเมิ่งที่ลึกลับ โฉมหน้าที่แท้จริงของเขาปรากฏต่อหน้าทุกคน...ในฝูงชนเกิดความโกลาหลรุนแรง ตกตะลึงอย่างไม่อยากเชื่อ“รีบดู! นางเป็นผู้หญิง!”ต่อให้เฉียวม่อแต่งตัวเป็นชาย และก็ได้รวบผมขึ้นมา แต่ใบหน้าเป็นชายหรือหญิงนั้น ดูแล้วรู้ทันทีเทพสงครามแคว้นหนานฉีที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ที่แท้เป็นสตรีคนหนึ่ง?!!เหล่าบุรุษต่างรู้สึกถึงความอัปยศเหมือนถูกหักหลังขึ้นมาทันทีคนที่พวกเขาเคารพนับถือ ชื่นชมมาตลอด เป็นผู้หญิง!ไม่เพียงผู้คนที่มองดูอยู่ แม้แต่ซุนเต๋อฟางก็ตกตะลึงอย่างยิ่งเมิ่งสิงโจว...เป็นผู้หญิง!สีหน้ารุ่ยอ๋องที่นั่งอยู่เปลี่ยนไป เขาก็ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนเองมองเห็นแม่ทัพหนุ่มคนนั้น กลายเป็นผู้หญิงได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอึ้งอยู่บนที่นั่ง สายตาจับจ้องมองดูเฉียวม่อหน้ากาก ถูกกระชากลงเสียแบบนี้แล้ว...ความตื่นตระหนกแวบผ่านบนใบหน้าของเฉียวม่อ จากนั้นสิ่งแรกที่คิดจะทำก็คือเก็บหน้ากากขึ้นมาซุนเต๋อฟางรู้ตัวอย่างรวดเร็ว ใช้เท้าเตะหน้ากากทิ้งไปจากนั้นเขาก็หันไปฟ้องฮ่องเต้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มันก่อนว่า“ฝ่าบาท คนผ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 218

    ไม่นาน หมัวมัวที่รับผิดชอบตรวจร่างกายก็มารายงานในท้องพระโรงว่า“ฝ่าบาท ตรงท้องของผู้หญิงคนนั้นมีบาดแผลจากมีด ซึ่งเป็นแผลเพิ่งเกิดขึ้น ยังมีร่องรอยพิษด้วย อีกอย่าง ได้ค้นเจอคำสั่งทหารในตัวนาง”คำสั่งทหาร โดยเฉพาะป้ายคำสั่งอินทรีเหินนั่น เพียงพอที่จะยืนยันสถานะของเฉียวม่อหากเมิ่งสิงโจวตัวจริงยังอยู่ หรือเมิ่งฉวีสั่งให้ผู้คนปลอมตัวเป็นลูกชายตนเอง ก็ไม่มีทางที่จะนำคำสั่งทหารอันเป็นสิ่งของที่สำคัญเช่นนี้ให้กับเฉียวม่อผลที่ออกมาเป็นแบบนี้ ต่อให้ผู้คนไม่อยากยอมรับก็ต้องยอมรับเหลียนซวงยืนคอยปรนนิบัติอยู่ข้างหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนนางเป็นหนึ่งในคนจำนวนน้อยที่รู้เรื่อง เวลานี้ก็ค่อนข้างแปลกประหลาดใจแม่นางเฉียวม่อคนนั้น ทำได้เด็ดขาดจริงๆ แม้แต่บาดแผลก็สามารถปลอมขึ้นมาได้แต่หากเรื่องเป็นเช่นนี้ ฝ่าบาทก็จะไม่เอาเรื่องต่อไป ฮองเฮาก็จะปลอดภัยแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม สีหน้าของฮองเฮาแลดูค่อนข้างย่ำแย่เฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นเหมือนเพียงผู้ชมตั้งแต่ต้นจนจบ มองดูหน้ากากเฉียวม่อตกลงพื้น แล้วก็มองดูผลการตรวจร่างกายของเฉียวม่อมีเพียงตัวนางเองที่รู้ดี มีความจริงบางอย่าง กำลังจะเปิดเผยออกมาแต่นั่นก็เป็น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 219

    เฉียวม่อรับพระราชทานคุณของจักรพรรดิมา แล้วก็ยังถามขึ้นมาอย่างไม่วางใจว่า“ฝ่าบาท อาจารย์กับอาจารย์หญิง จะไม่ได้รับการลงโทษใช่ไหม?”สีหน้าเซียวอวี้เย็นชาเล็กน้อยเฉียวม่อปลอมตัวเป็นเมิ่งสิงโจว ไม่มีทางที่สองสามีภรรยาตระกูลเมิ่งจะไม่รู้เรื่องเลยเพราะนั่นคือลูกชายของพวกเขาแต่ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิ บางครั้งก็ต้องเรียนรู้ที่จะเลอะเลือน“เราประทานให้เจ้าใช้นามสกุลเมิ่ง นับจากนี้เมิ่งเฉียวม่อ เป็นบุตรสาวบุญธรรมของเมิ่งฉวี สืบทอดสายเลือดตระกูลเมิ่ง”ได้ยินเช่นนี้ เฉียวม่อน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อยนางแสดงท่าทีได้รับความกรุณาอย่างไม่คาดฝัน จนรู้สึกประหลาดใจ“ฝ่าบาท ข้าน้อยจักจงรักภักดีตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”เหล่าขุนนางค่อยคิดขึ้นมาได้ ฝ่าบาทประธานนามสกุลเมิ่ง เพื่อรักษาชื่อเสียงของ “แม่ทัพน้อยเมิ่ง” เป็นการพระราชทานแก่ตระกูลเมิ่ง เพียงแต่ว่าคนที่คิดอยากแต่งงานกับเมิ่งเฉียวม่อนั้น จะต้องไปเป็นเขยของตระกูลเมิ่ง ยากยิ่งนักเหล่านางสนมเห็นการมีแม่ทัพหญิงคนหนึ่งกำเนิดขึ้นมาด้วยตาตนเอง ความรู้สึกนึกคิดในใจล้นหลามมีบางคนคิดว่าไม่มีอะไรแปลกประหลาดและก็มีบางคนรู้สึกอิจฉาในฐานะที่เป็นผู้หญิง ส

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 220

    เฉียวม่อแสดงสีหน้าไร้เดียงสา ดวงตาเปล่งประกายไปด้วยน้ำตา“ศิษย์พี่ ข้าไม่ได้...”มือของเฟิ่งจิ่วเหยียนออกแรงมากขึ้น ทำให้เฉียวม่อค่อนข้างหายใจไม่ออก“เจ้ารู้หรือไม่ว่า หากท่านย่าตระกูลเมิ่งรู้เรื่องนี้ จะเป็นยังไง! เฉียวม่อ อาจารย์กับอาจารย์หญิงเลี้ยงดูเจ้ามาสิบกว่าปี จิตใต้สำนึกของเจ้าล่ะ!”“ศิษย์พี่...ข้า ข้าไม่ได้...ไม่ได้ตั้งใจทำให้หน้ากาก...แค่กๆ...”เห็นว่านางกำลังจะขาดอากาศหายใจตาย เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงปล่อยมือเฉียวม่อเอนพิงบนกำแพง หายใจหอบพร้อมหัวใจเต้นแรง มองดูนางด้วยน้ำตาคลอเบ้า“ศิษย์พี่ ข้ารู้ เจ้าโกรธที่ข้าแย่งความดีความชอบที่ควรเป็นของเจ้าไป แต่เจ้าเชื่อข้า ข้า...ข้าทำเพื่อปกป้องทุกคนจริงๆ !”เฟิ่งจิ่วเหยียนหันหลังให้กับเฉียวม่อ กลัวว่าตนเองจะใจอ่อน“ไสหัวกลับไปยังชายแดนเหนือ ไปขอโทษอาจารย์กับอาจารย์แม่ด้วยตนเอง!”ตำแหน่งแม่ทัพน้อย นางไม่เคยสนใจมาก่อนตั้งแต่แรกที่นางปลอมตัวเป็นศิษย์พี่เมิ่ง ก็เพียงเพื่อท่านย่าตระกูลเมิ่งเฉียวม่อไม่ควรที่จะ เอาเรื่องของศิษย์พี่เมิ่งขึ้นมาพูด!เห็นนางโกรธโมโหขนาดนี้ เฉียวม่อคว้าจับมือของนาง พร้อมพูดร้องขอว่า“ศิษย์พี่...เจ้ารั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 221

    ดวงตาทั้งสองของเฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งสงบไร้ระลอก ลึกล้ำดุจทะเลลึกภายในระยะเวลาสั้น ๆ นางไม่อาจเชื่อได้ลงว่าศิษย์น้องที่เรียบร้อยเชื่อฟังทั้งยังขี้กลัว จะถึงกับทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนบรรลุเป้าหมายเช่นนี้“ฮองเฮา”เซียวอวี้พลันเรียกขัดจังหวะความคิดของนางเมื่อนางหันหน้ากลับมา ยังไม่ทันปรับอารมณ์ให้เรียบร้อย สีหน้าจึงยังคงเผยให้เห็นถึงความเคร่งขรึมและหงุดหงิด“มีเรื่องใดหรือเพคะ”เซียวอวี้เห็นนางในสภาพตึงเครียดเช่นนี้ คิ้วขมวดเข้าหากันจู่ ๆ เขามาที่นี่ ทำให้นางวิตกกังวลมากหรือยังไง สีหน้าถึงได้แปลกประหลาดเช่นนี้เซียวอวี้วางบัญชีวังหลังเล่มนั้นลงแล้วคุยกับนางด้วยท่าทางจริงจัง“เรื่องทายาท...”เฟิ่งจิ่วเหยียน: ทายาท? เกี่ยวอันใดกับนางกัน?ทว่าภายนอกนางทำเป็นตั้งอกตั้งใจฟังด้วยท่าทางเคารพนบนอบ“ท่านพูดต่อเลยเพคะ”“หากในบรรดาราชนิกูลมีคนใดพอใช้ได้...”เขาคิดอยากจะรับหลานซักคนมาเป็นโอรสบุญธรรมรึ?เฟิ่งจิ่วเหยียนมองเขาจากหัวจรดเท้าตอนนี้มาคิดดูอีกทีเขาไม่เคยสนใจเหล่าพระสนมในทั้งหกตำหนักเลย ก่อนหน้านี้ก็ใช้หลิงเยี่ยนเอ๋อร์เป็นข้ออ้าง มันผิดปกติทว่าครานั้นที่เขาถูกซูกุ้ยเหรินวา

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 946

    ด้านนอกประตูวังนั้นหลิวอิ๋งและบุตรสาวของนางถูกไล่ออกไปทันทีไม่ว่าพวกนางจะเอ่ยย้ำว่าเป็นเครือญาติของฮองเฮามากเท่าไหร่เหล่าองครักษ์พลางกล่าวออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ว่า: “ฮองเฮามีรับสั่งว่า ไม่พบ!”สาวใช้ของพวกนางพลันก้าวเข้าไปข้างหน้า ก่อนจะซักถามพวกเขาว่า“มีตาหามีแววไม่! พวกเจ้ามิได้ไปแจ้งให้ฮองเฮาทราบอย่างแน่นอนเลย!”องครักษ์ที่ทำหน้ารักษาประตูวังจึงชักอาวุธออกมา“หากกล้าก่อเรื่องที่หน้าประตูวัง คงมิอยากจะมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่!”เมื่อหลิวอิ๋งและอีกสองคนเห็นสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า พวกนางจึงค่อย ๆ ล่าถอยออกไปแต่โดยดีทว่า พวกนางหาได้คิดยอมแพ้ไม่!เจิ้งจีบุตรสาวของนางพลันเป็นเดือดเป็นร้อนไปในทันที ก่อนจะจับแขนมารดาของตน พลางเอ่ยถาม“ท่านแม่ ฮองเฮามิให้พวกเราเข้าพบเช่นนี้ พวกเราจักทำเช่นไรกันดีเจ้าคะ? แคว้นพันธมิตรต่างก็เปิดเส้นทางการค้าขายมากมาย โดยเฉพาะแคว้นตงซาน จำนวนพ่อค้าหลวงเองก็มีจำกัด พวกเรามิอาจปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นได้นะเจ้าคะ”สายตาอของหลิวอิ๋งพลันเจือไปด้วยความเย็นชาเล็กน้อย เผยให้เห็นท่าทีสงบและฉลาดหลักแหลม“ไม่ต้องรีบร้อนไป ในเมื่อคนเป็นลูกมิยอมใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 945

    เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับการปรากฏตัวของท่านน้าหญิงของตนเองเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงสั่งให้คนไปตรวจสอบตัวตนของนางมาเสียก่อนการสืบหาในครานี้ กินเวลาไปเกือบทั้งวันด้านนอกประตูวัง ยังมีแม่ลูกคู่หนึ่งยืนอยู่ พร้อมด้วยสาวใช้ของนางเมื่อเหล่าองครักษ์เห็นว่านางเรียกตนเองว่าเป็นเครือญาติของฮองเฮานั้น พวกเขาก็หาได้กล้าทำอะไรไม่ พลางพาพวกนางไปพักที่ศาลาเพื่อรอฮองเฮาเรียกตัวเข้าพบใกล้พลบค่ำหว่านชิวพลันเดินเข้ามาภายในตำหนักในขณะเดียวกัน เฟิ่งจิ่วเหยียนที่กำลังอ่านจดหมายจากท่านอาจารย์ของนาง เนื้อหาพลันระบุเอาไว้ ชายแดนเหนือได้ทำการวางแนวป้องกันแบบใหม่ลงไปแล้ว มิกลัวว่าฝั่งเป่ยเยี่ยนจะลอบเข้ามาโจมตีอีกต่อไปหว่านชิวพลางโค้งกายคำนับ“ฮองเฮาเพคะ สืบพบแล้วเพคะ สตรีผู้นี้มีนามว่า ‘หลิวอิ๋ง’ เป็นท่านน้าหญิงของพระองค์จริง ๆ เพคะ ทว่า...” หว่านชิวพลันเปลี่ยนหัวเรื่อง “องครักษ์ยังสืบพบอีกว่า มารดาของท่านได้ทำการตัดสายสัมพันธ์กับตระกูลเดิมไปเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ท่านน้าหญิงของฮองเฮาผู้นี้ มิทราบว่าสมควรจักให้พบหรือไม่ให้พบดีเพคะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนวางจดหมายในมือของนางลง ก่อนจะสั่งการว่า“เจ้าไปที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 944

    เจียงหลินจึงเอ่ยอธิบายก่อน: “สำหรับเส้นทางการค้าลับนั้น ตระกูลเจียงเองก็เคยใช้งานเช่นเดียวกัน ทว่า เรื่องมนุษย์โอสถนั้น หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับตระกูลเจียงไม่”เรียวนิ้วของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเขี่ยไปที่รอบปากจอกสุรา สายตาของนางหาได้สนใจสิ่งใดไม่“เล่าต่อเถิด ว่าเรื่องเป็นมาเช่นไร”เจียงหลินพลันกัดฟันเอ่ยออกมา“ข้ากลัวว่าท่านจักเป็นกังวล จึงมิกล้าเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาให้ท่านฟัง”“เส้นทางการค้าลับนั้นมีมานานนับหลายสิบปีแล้ว การค้าของตระกูลเจียงนั้นมีบางครั้งก็จำเป็นต้องใช้งานพวกเขาบ้าง“สิ่งที่ข้าสืบพบก็คือ ไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นการค้าของพวกมนุษย์โอสถรุ่งเรืองยิ่งนัก ทว่า มิรู้เพราะเหตุใดช่วงนี้ราวกับพวกเขาได้ยินข่าวลืออะไรบางอย่าง จึงไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ มานานแล้ว“ข้าเองก็ได้ส่งคนไปซุ่มรอตรวจสอบอยู่ หากพบว่ามีการค้าขายเกี่ยวกับมนุษย์โอสถเมื่อใดนั้น ย่อมต้องแจ้งให้ท่านทราบอย่างแน่นอน“ทว่า ในยามนี้หาได้พบสิ่งใดไม่”หลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ฟังจนจบแล้วนั้น อย่างน้อยนางก็มั่นใจได้เรื่องหนึ่งว่า มนุษย์โอสถไปมาระหว่างแคว้นตงซานกับหนานฉีจริง ๆ ……ช่วงนี้ นับตั้งแต่ฮ่องเต้จนไปถึงขุนน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 943

    ปั้ง!ถานไถเหยี่ยนยกมือขึ้นข้างหนึ่ง หยวนจั้นที่ตกใจจนมิทันได้ป้องกันตนเองนั้น ก็ถูกกำลังภายในอันแข็งแกร่งกระแทกออกไปในทันทีหยวนจั้นที่ได้สติกลับมานั้น จึงปรับสมดุลกำลังภายในในร่างกายของตนเองให้มั่นคง ทว่า ก็ยังไม่อาจยืนหยัดได้อย่างมั่นคงนักร่างกายของหยวนจั้นซวนเซถอยหลังไปสองสามก้าว พร้อมทั้งแผ่นหลังที่ไปกระแทกเข้ากับประตูห้องขังที่อยู่ด้านหลังเขาเมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองนั้น พลันเห็นว่าถานไถเหยี่ยนได้ทำลายกุญแจประตูห้องขัง ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเขา...หยวนจั้นเอามือกุมหน้าอกของตนเองเอาไว้ ดวงตาค่อย ๆ หรี่ลง พร้อมด้วยเปลือกตาของเขาที่สั่นไหวไปเล็กน้อยคนผู้นี้ มีความสามารถล้ำลึกถึงเพียงนี้เลยหรือ?เพียงไม่กี่อึดใจเดียว ถานไถเหยี่ยนก็เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของเขา พลางยกมือขึ้นมาวางบนไหล่ของหยวนจั้นหยวนจั้นที่คิดว่าถานไถเหยี่ยนจะลงมือกับตนเองนั้น กลับเห็นว่าเขาเพียงแค่ปัดฝุ่นออกจากหัวไหล่ให้ตนเองเท่านั้นเสมือนกับว่า เขายังคงเป็นอาจารย์ที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนในความทรงจำของเขาอยู่จากนั้น ถานไถเหยี่ยนพลันจัดแจงอาภรณ์ที่เต็มไปด้วยรอยยับให้เรียบร้อย พวกเขาราวกับศิษย์อาจารย์ที

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 942

    หลังจากจับกุมพัศดีได้นั้น เขาหาได้มีท่าทีสำนึกผิดไม่“ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยทำสิ่งใดผิดไปงั้นหรือ…”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดมองเขาไม่ นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาพลางกล่าวออกมาว่า“ในฐานะพัศดีนั้น กลับกระทำการรับสินบน ติดต่อกับศัตรูต่างแคว้น ย่อมต้องถูกโทษประหาร!”พัศดีพลันมีสีหน้าซีดเผือดไปในทันทีเหตุใดถึง?ฮองเฮาทรงทราบว่าเขาลอบทำสิ่งใดเช่นนั้นหรือ?ผู้ใดเป็นคนทรยศเขากัน!พัศดีพลันรีบก้มลง พร้อมโขกหัวลงบนพื้นเพื่อ ร้องขอความเมตตา“ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยมิกล้าอีกแล้ว! ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิด ได้โปรด...”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดฟังเรื่องไร้สาระจากเขาไม่ พลางหันไปสั่งการกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคุกเทียนเหลาว่า“ข้าจักให้เวลาพวกเจ้าสามวัน ไปทำการสืบค้นเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าเสีย”“พ่ะย่ะค่ะ!” เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้รับผิดชอบนั้นพลันก้มหน้าลงด้วยความละอายใจเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงหันไปกล่าวกับพัศดีคนอื่น ๆ ที่ยืนเนื้อตัวสั่นเทาว่า“ภายในสามวันนี้ หากผู้ใดยอมสารภาพออกมาแต่โดยดี จักได้รับโทษสถานเบา หากว่าทำการสืบหาตัวมาได้เมื่อใดนั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 941

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมาพบกับถานไถเหยี่ยนอีกครั้ง แววตาของเขายังคงสงบเงียบดังเดิม ทว่า มิได้ไร้ชีวิตชีวาเหมือนดังแต่ก่อนอีกด้วย“ถานไถเหยี่ยน เจ้ารู้หรือไม่ว่า แคว้นตงซานได้ส่งราชทูตมาขอพาตัวเจ้ากลับไปจัดการด้วย?”ถานไถเหยี่ยนพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉยเมย“คิดไว้แล้วว่าจักต้องเป็นเช่นนี้“พวกเขาหาได้มาเพื่อข้าไม่ แต่มาเพื่อ ‘ใยแมงมุม’ ของตระกูลถานไถต่างหาก”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีท่าเคร่งขรึมไปในทันที“เจ้าจึงคิดใช้ประโยชน์จากคนทุกคน รวมไปถึงแคว้นตงซานด้วยหรือ”ถานไถเหยี่ยนพลันหัวเราะเยาะตนเองออกมา“ดังนั้น ชีวิตนั้นแสนสั้น อย่างไรย่อมต้องถูกผู้อื่นสังหารตามอำเภอใจ”เขารู้ดีว่า หากตนเองกลับไปถึงแคว้นตงซานเมื่อใดนั้น จุดจบคงมิได้ดีนักทว่า เขาหาได้กลัวตายไม่ ทั้งยังมองดูความตายอย่างไม่ยี่หระอีกด้วยเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยตรงเข้าประเด็นในทันที“เจ้าคิดดีแล้วหรือ”เรียวคิ้วดวงตาที่งดงามของถานไถเหยี่ยน พลันเผยให้เห็นท่าทีเด็ดขาดออกมาหากเขายังตัดสินใจไม่ได้ เขาคงมิมาขอพบนางเช่นนี้“กระหม่อมเต็มใจที่จะช่วยให้หนานฉีรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ” พูดจบ เขาพลันโค้งกายคำนับเฟิ่งจิ่วเหยียนในทันที

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 940

    ราชทูตหลี่หลิงแสดงสีหน้าประหลาดใจทันทีทำการค้า?นี่เป็นการบังคับฝืนใจกันโดยแท้แคว้นตงซานพวกเขาไม่เคยทำการค้ากับแคว้นอื่นมาก่อนทว่าหากไม่ยินยอม เกรงว่าฮ่องเต้ฉีจักต้องให้พวกเขาชดเชยด้วยการยกดินแดนให้เป็นแน่!ต้องโทษที่เขาผิดพลาดเพราะคำพูด จนสร้างปัญหาเช่นนี้!หลี่หลิงรู้สึกเสียใจอย่างมาก พร้อมกับมองไปทางหยวนจั้นที่อยู่ข้างกันหยวนจั้นพยักหน้าเบา ๆหลังจากหลี่หลิงได้รับอนุญาต ถึงได้ก้าวไปข้างหน้า“เรื่องทำการค้า ถือเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองแคว้น กระหม่อมจะนำเจตนารมณ์นี้กราบทูลต่อกษัตริย์ของกระหม่อม!”เวลายิ่งนานอุปสรรคยิ่งมาก เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีทางให้โอกาสพวกเขาได้กลับคำ“ฝ่าบาท แม้จริงอยู่ที่ว่าเรื่องดี ๆ มักจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่หม่อมฉันกลัวว่าเวลาจะไม่คอยท่า มิสู้ให้คนร่างหนังสือข้อตกลงขึ้นมา แล้วให้ราชทูตลงนาม จากนั้นค่อยนำกลับไปยังแคว้นตงซาน พร้อมกับออกสาส์นตราตั้งอย่างเป็นทางการ?”ราชทูตถูกส่งมา ก็ถือเป็นตัวแทนของฮ่องเต้นั่นเอง ทันทีที่ลงนาม ก็จะไม่มีทางกลับคำเซียวอวี้ยิ้มน้อย ๆ และกุมมือเฟิ่งจิ่วเหยียนต่อหน้าฝูงชน“นับว่าฮองเฮาวิเคราะห์ได้รอบคอบ“ใครก็ได้ ไปร่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 939

    แคว้นตงซานมีราชทูตสองคนหลี่หลิงผู้นั้นตกหลุมพรางกับคำพูด เมื่อเห็นว่าทำให้แคว้นตนกำลังตกอยู่ในอันตราย เหงื่อก็เริ่มผุดออกมาเต็มใบหน้าเขามองไปทางราชทูตอีกผู้หนึ่ง---หยวนจั้นชายหนุ่มรูปร่างซูบผอม ท่าทางดูเหมือนใจเย็น ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ แทบจะมิได้เอ่ยสิ่งใดเลยในยามนี้ เขาเอ่ยอย่างช้า ๆ “กระหม่อมได้ยินว่า ครั้งนี้หนานฉีเอาชนะแต่ละแคว้นได้ เป็นเพราะมีตัวช่วยอย่าง ‘ใยแมงมุม’ ที่ดัดแปลงโดยตระกูลตงฟาง ทว่าการค้นพบ ‘ใยแมงมุม’ ก็เป็นความดีความชอบของถานไถเหยี่ยนเช่นกัน“ดังนั้น กระหม่อมสงสัยว่า ถานไถเหยี่ยนยุยงให้เกิดข้อพิพาท ก็เพื่อล่อลวงกองกำลังของแต่ละแคว้นมาที่หนานฉี ทำให้ง่ายต่อการที่จะทำลายแต่ละแคว้น“มิเช่นนั้นจะทำไปเพื่อเหตุใด ตามหลักเหตุผล แคว้นท่านจักต้องเกลียดชังถานไถเหยี่ยนจนเข้ากระดูก ทว่าตอนนี้แค่เพียงจับเขาคุมขังไว้?“หากมองจากสิ่งนี้ แคว้นท่านไม่ยินยอมที่จะมอบถานไถเหยี่ยนให้ในตอนนี้ ก็เพื่อต้องการจะปกป้องชีวิตถานไถเหยี่ยน”ขุนนางหนานฉีเริ่มโมโห“ช่างพูดจาใส่ร้ายอย่างชั่วช้า! คนเลวนั้นกล่าวโทษคนอื่นเพื่อปกปิดความผิดตน!”“เมื่อครู่ยังพูดว่าถานไถเหยี่ยนเป็นคนของแคว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 938

    ราชทูตแคว้นตงซานมาพร้อมกับผ้าทอและอาชา เริ่มจากปฏิบัติด้วยความสุภาพก่อน“แคว้นตงซานเราไม่เคยเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างแคว้น ครั้งนี้แต่ละแคว้นมาล้อมโจมตีหนานฉี ฮ่องเต้พวกเราก็ได้ยินข่าวลือเหล่านี้เช่นกัน ต่างพูดกันว่า ข้อพิพาทนี้ ต้นเหตุมาจากการยุยงของแคว้นตงซาน”ราชทูตแคว้นอื่นต่างมองหน้ากันราชทูตแคว้นตงซานผู้นี้หมายความว่าอย่างไร? คำนึงแต่ตนเองไม่สนใจผู้อื่นรึ?ในตอนแรก มิใช่แคว้นตงซานพวกเขาส่งคนมาพูดหว่านล้อมว่า หากร่วมมือกับพวกเขาโจมตีหนานฉี จะแบ่งดินแดนหนานฉีให้หรอกหรือ!หลี่หลิงราชทูตแคว้นตงซานกล่าวต่อ“หลังจากสืบสวนอยู่หลายทาง พวกเราถึงสืบพบว่า เดิมทีแล้ว ทั้งหมดนี้ถานไถเหยี่ยนเป็นคนทำ“เขาหลอกลวงอวดอ้าง จนได้รับความไว้วางพระทัยจากฝ่าบาทของเรา ถูกยกย่องให้เป็นราชครู และถือเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของแคว้นตงซานด้วย “นึกไม่ถึงว่า เขายังไม่พึงพอใจกับสิ่งนี้ เจตนาจะหลอกล่อกษัตริย์ของเรา ให้กษัตริย์ของเราโจมตีหนานฉี เพื่อจะได้เป็นมหาอำนาจ กษัตริย์ของเรามีสติ จึงไม่หลงกลการยั่วยุ“นึกไม่ถึงว่าเขายังไม่ยอมหยุดความคิดชั่วร้าย ยังแอบตระเวนไปยังแต่ละแคว้น เพื่อยุยงให้แต่ละแคว้นล้อ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status