แชร์

บทที่ 165

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
จวนตระกูลมู่หรง

มู่หรงฉานได้รับจดหมายจากพี่ชายมู่หรงเจี๋ย รอยยิ้มอ่อนหวานมีเมตตา

สาวใช้หลิวซวี่ พูดขึ้นมาอย่างใส่ใจว่า

“คุณหนู มีเรื่องอะไรทำให้ดีใจขนาดนี้หรือ?”

ท่าทีมู่หรงฉานเงียบสงบ พูดขึ้นมาด้วยเสียงอ่อนหวานว่า

“พี่ชายทำศึกได้ชัยชนะ”

หลิวซวี่พูดขึ้นมาอย่างดีใจว่า “ดีมากเลย!”

แต่ไม่ช้า มู่หรงฉานก็เริ่มโศกเศร้าบ้าง

“ท่านอ๋องยังคงไม่ตอบจดหมายหรือ?”

หลิวซวี่ก้มศีรษะ พร้อมพูดขึ้นมาว่า

“คุณหนู ท่านอย่าคิดมาก ท่านอ๋องมีงานราชการมาก...”

มู่หรงฉานพูดแทรกขึ้นมาว่า

“เจ้าไม่ต้องโกหกข้า ข้ารู้ การเข้าวังเพื่อร่วมการคัดเลือกโดยพลการ ท่านอ๋องไม่มีทางพอใจ ดังนั้นตอนแรกที่เข้าร่วมการคัดเลือก ข้าจึงปิดบังเขา ไม่กล้าบอกกับเขา”

“ยังไงความจริงก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจปิดบังได้

“แต่ข้าไม่เสียใจ”

หลิวซวี่พูดขึ้นมาว่า “คุณหนูเกิดมาพร้อมกับความโชคลาภ วัดเล็กๆ ย่อมไม่เพียงพอสำหรับท่าน”

มู่หรงฉานมองดูใบหน้าในคันฉ่อง ที่คล้ายคลึงกับพี่สาวลูกพี่ลูกน้องใบนั้น ท่าทีจริงจังแน่วแน่

“ท่านอ๋องไม่ได้บอกข้าเพียงครั้งเดียวว่า ให้อยู่ในวัดอย่างสงบ ข้าถึงจะปลอดภัยราบรื่น เขากำลังกลัวอะไรกันแน่?

“ข้ารู้ว่าเขาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
เกิดอะไรขึ้น
goodnovel comment avatar
Jintana Saeng-uthai
สนุกมากค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 166

    เซียวอวี้เห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ขยับ จึงเร่งเร้าอย่างหมดความอดทน“ของประทานจากเรา ฮองเฮาไม่ยอมดื่ม?”“มิใช่เพคะ เพียงแค่กำลังคิดว่า ในวังมีนกพิราบสื่อสารได้อย่างไร”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สะทกสะท้าน ไม่ได้ถูกเซียวอวี้หลอกให้พูดความจริงออกมาเซียวอวี้จับจ้องมองดูนางด้วยแววตาเยือกเย็น“นกพิราบสื่อสารตัวนั้น บินออกมาจากตำหนักหย่งเหอ ฮองเฮา เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือ?”นอกจากนาง ภายในวังยังจะมีใครใจกล้าหาญเช่นนี้!เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นมา จ้องมองดูเขาด้วยแววตาแน่วแน่“หม่อมฉันไม่ทราบเพคะ”นกพิราบสื่อสารบินออกมาจากตำหนักหย่งเหอ ก็อาจเป็นไปได้ที่ถูกคนอื่นปล่อยมาและในเมื่อถูกจับตอนที่บินออกไป ก็ไม่มีจดหมายลับใดตกอยู่ในมือของเซียวอวี้แสดงว่าเซียวอวี้ ก็ไม่มีหลักฐานอย่างแน่นอนแววตาเซียวอวี้เฉยเมย“ดื่มน้ำแกงถ้วยนี้ลงไปก่อน”เฟิ่งจิ่วเหยียนยกถ้วยน้ำแกงนั้นขึ้นมา แล้วก็ดื่มลงไปอย่างไม่พูดไม่จาเหลียนซวงมองดูแล้วยังรู้สึกปวดใจนกพิราบสื่อสารขนดำตัวนั้น ถูกฮ่องเต้ทรราชต้มเสียแบบนี้แล้ว!นี่ก็ว่าไปอย่าง ทำไมเขายังบีบบังคับให้พระนางดื่มอีก!เฟิ่งจิ่วเหยียนมีนิสัยสงบสุขุมแม้ว่าในใจมีควา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 167

    มู่หรงฉานถูกพิษกะทันหัน เซียวอวี้รีบไปยังตำหนักฟางเฟยทันทีหมอหลวงขับให้นางอาเจียน จึงไม่อันตรายถึงชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน ในฐานะที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นฮองเฮาก็มาถึงเช่นกันเซียวอวี้นั่งอยู่ตรงนั้น พร้อมพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าบูดบึ้งว่า“เกิดเรื่องวางยาพิษขึ้นในวัง ฮองเฮา เจ้าต้องสืบให้กระจ่างว่าเป็นฝีมือผู้ใด!”“เพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปมองบนเตียง สายตานั้นสงบนิ่งมู่หรงฉานอาเจียนอยู่นาน ร่างกายอ่อนแออย่างมากเซียวอวี้อยู่เฝ้านางหนึ่งช่วยยาม แล้วค่อยกลับตำหนักจื้อเฉิน……ตำหนักฉือหนิง“จิ้งกุ้ยเหรินถูกวางยาพิษ? ตอนนี้นางเป็นอย่างไรบ้าง?” ไทเฮาตกตะลึงอย่างมากใช่ว่านางเป็นห่วงมู่หรงฉาน หากเป็นเพราะไทฮองไทเฮาอาศัยที่ตนเองเป็นผู้อาวุโสวางอำนาจ เขียนจดหมายมาบอกว่า ให้นางดูแลจิ้งกุ้ยเหรินให้ดีหากเกิดอะไรขึ้นกับจิ้งกุ้ยเหริน ไทฮองไทเฮาไม่ยอมเลิกราง่ายๆ แน่นอนกุ้ยหมัวมัวตอบอย่างนอบน้อมว่า“หมอหลวงได้ทำการรักษาแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ฝ่าบาทก็อยู่เฝ้าครู่หนึ่ง นับจากที่จิ้งกุ้ยเหรินเข้าวังมา ยังไม่เคยได้รับความโปรดปราน ครั้งนี้ถือว่าในความโชคร้าย ก็ยังมีความโชคดีแฝงอยู่”พูดเสร็

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 168

    ห้องทรงพระอักษรเซียวอวี้ถามขึ้นมาด้วยเสียงเย็นชาว่า“ในเมื่อมีหลักฐานแล้ว ไยไม่ลงมือจับตัว หรือเป็นเพราะว่านางสนมเจียสนิทสนมกับเจ้า เจ้าจึงคิดอยากปกป้อง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เคยนำเรื่องส่วนตัว มาส่งผลกระทบทำให้สูญเสียการคิดวิเคราะห์นางพูดขึ้นมาว่า“ต้องสอบสวนนางสนมเจีย แต่ที่สำคัญที่สุด ต้องสอบสวนเส้นทางการนำยาพิษเข้ามา”“ยาพิษนี้มาจากข้างนอกวัง หม่อมฉันสงสัยว่า ภายในวังมีสายลับ ทำการขายสิ่งของต้องห้ามโดยเฉพาะ หม่อมฉันจึงอยากฉวยโอกาสนี้ กวาดล้างพวกเขาให้เรียบ จึงมาขออนุญาตฝ่าบาท”เซียวอวี้เห็นนางจัดการเรื่องราวอย่างเฉียบขาดกระจ่างชัดเจน ก็ค่อนข้างชื่นชมนางแน่นอนว่า ดูจากเรื่องที่นางจัดการหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ นางย่อมไม่เหมือนหญิงสาวเรียบร้อยธรรมดาทั่วไปดังนั้นแม้ว่าเขาไม่ชอบนาง และนางไม่ใช่หญิงสาวบริสุทธิ์ เขาก็ยินดีที่จะให้นางเป็นฮองเฮาต่อไป ช่วยเขาดูแลจัดการวังหลัง“ทำตามที่เจ้าพูด”เฟิ่งจิ่วเหยียนถวายความเคารพ พร้อมพูดตอบว่า“น้อมรับพระบัญชา”แล้วนางก็กลับออกไปจู่ ๆ เซียวอวี้ก็รู้สึกขึ้นมาว่า ท่าทีของนาง...ไม่เหมือนเป็นฮองเฮาของเขา กลับเหมือนลูกน้องของเขามากกว่าหวนคิด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 169

    ผงเหมาเกิ้นล่อมดและแมลง เป็นคำโกหกที่เฟิ่งจิ่วเหยียนแต่งขึ้นมา ทว่าก็เพียงพอที่จะหลอกล่อให้คนที่หวาดกลัวคนหนึ่งเผยพิรุธออกมามู่หรงฉานพูดยอมรับขึ้นมาเองว่า“ฮองเฮา ล้วนเป็นความผิดของหม่อมฉัน หม่อมฉันเป็นคนทำ...”หลิวซวี่มองดูนางอย่างไม่อยากเชื่อ คิดไม่ถึงว่า กุ้ยเหรินจะปกป้องตนเองขนาดนี้นางรีบโขกศีรษะลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ฮองเฮาโปรดทรงเมตตา ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกุ้ยหริน บ่าวเป็นคนทำเอง! บ่าวอยากจะกำจัดศัตรูแข็งแกร่งให้กับนาย จึงใส่ร้ายนางสนมเจียง...กุ้ยเหรินไม่รู้เรื่อง!”จิ้งกุ้ยเหรินหันไปมองหลิวซวี่ น้ำตาร่วงไหลพร้อมพูดขึ้นมาว่า“ไม่ ไม่ใช่หลิวซวี่…”“ใช่บ่าว ฮองเฮา ท่านจะลงโทษก็ลงโทษบ่าวเถอะ!”เป็นบ่าวจงรักภักดีคนหนึ่งแววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนลึกล้ำมู่หรงฉานโอบกอดหลิวซวี่ ร้องไห้ขอความเมตตา“ฮองเฮา ถึงแม้หลิวซวี่จะมีความผิด แต่นางก็เป็นสาวใช้ที่ติดตามหม่อมฉันมา ผูกพันกับหม่อมฉันเหมือนพี่น้อง ขอฮองเฮาทรงโปรดเมตตา เป็นหม่อมฉันบกพร่องในการตรวจสอบ หม่อมฉันยินดีรับผิดแทนนาง”“ไม่ กุ้ยเหริน ไม่เอา! ล้วนเป็นความผิดของบ่าว...” หลิวซวี่ตื้นตันใจอย่างมาก ต่อให้ตายแทนกุ้ยเหริน นางก็ยอม!

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 170

    เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างเชื่องช้าว่า“กำจัดสองคนในคราเดียวเช่นนั้น ทั้งสองคนนี้ต้องมีสิ่งบางอย่างเหมือนกัน”“มีเหมือนกัน?” เหลียนซวงสงสัย ทันใดนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้ พร้อมพูดขึ้นมาอย่างตกใจว่า “ฮองเฮา หรือว่า...บุคคลลึกลับคนนั้น ต้องการตำแหน่งฮองเฮา!”คุณหนูเวยเฉียงเป็นฮองเฮาที่ฮ่องเต้องค์ก่อนเป็นคนกำหนดไว้ตอนนั้นหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ เป็นที่โปรดปรานผู้เดียว มีตำแหน่งเหมือนฮองเฮา ยังมีข่าวลือว่า ฝ่าบาทตั้งใจจะแต่งตั้งให้นางเป็นฮองเฮานานแล้วดังนั้น ไม่ผิดแน่นอน!คิดถึงเมื่อครู่ที่ฮองเฮาพูดถึงรุ่ยอ๋องกับจิ้งกุ้ยเหริน เหลียนซวงเข้าใจขึ้นมาทันที“ฮองเฮา ท่านสงสัยว่า บุคคลลึกลับกับจิ้งกุ้ยเหรินมีความเกี่ยวข้องกัน! หากไม่มีคุณหนูเวยเฉียงกับหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ เช่นนั้น ด้วยรูปลักษณ์ชาติตระกูลของจิ้งกุ้ยเหริน จะต้องได้เป็นฮองเฮาอย่างไม่ต้องสงสัย!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ออกความเห็นใด“นำความไปให้รุ่ยอ๋อง ข้าต้องการพบเขา”“เพคะ...”เหลียนซวงเงยหน้าขึ้นมา แล้วก็เห็นในมือของนางมีกริชเพิ่มขึ้นมาเฉียบคมอย่างมาก!นางอดขนหัวลุกไม่ได้สนามม้าหลวงภายในป่าทั้งสองคน “พบกันโดยบังเอิญ”รอบด้า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 171

    กริชตกลงที่พื้น หกเนตรจ้องมองกันไปมารุ่ยอ๋องปริปากเล็กน้อยทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนชิงพูดก่อนนางถอยหลังมาหนึ่งก้าว โน้มกายทำความเคารพให้กับเซียวอวี้“ฝ่าบาท หม่อมฉันหลงทางอยู่ในป่า ดังนั้นจึงลงจากม้า เดิมทีคิดว่าจะใช้กริชทำเครื่องหมายบนต้นไม้ ป้องกันไม่ให้ตนเองเดินกลับมาทางเดิม“เห็นมีเงาที่เข้าใกล้มาอย่างไม่ทันตั้งตัว และคิดถึงเรื่องที่ช่วงก่อนในวังมีนักฆ่าปรากฏตัว ยังไม่สามารถจับตัวได้ จึงคิดว่าเป็นนักฆ่า จึง...”รุ่ยอ๋องช่วยกลบเกลื่อนคำโกหก“ที่แท้พระนางเข้าใจผิดว่ากระหม่อมเป็นนักฆ่า มิน่าล่ะ”เขาเก็บกริชขึ้นมา ส่งคืนให้เฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยความเคารพแววตาของเซียวอวี้เย็นยะเยือกมองร่างสองคนสลับไปมาคำพูดของฮองเฮา เขาไม่หลงเชื่อทว่ารุ่ยอ๋องเป็นพี่น้องที่ดีของเขามาตั้งแต่ยังเยาว์วัย...“ฝ่าบาท พระนาง กระหม่อมกราบบังคมลา”รุ่ยอ๋องจูงม้าจากไป สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงมองไปที่ร่างของเขาเซียวอวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น“ออกไป ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่สตรีนางหนึ่งเยี่ยงเจ้าควรจะอยู่”“เพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบด้วยความเคารพเพิ่งจะเดินไปได้ไม่กี่ก้าว นางก็หันกายกลับมาอีกครั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 172

    การเป็นองครักษ์ลับของฮ่องเต้ เป็นสิ่งหลายคนใฝ่ฝันที่จะทำเฟิ่งจิ่วเหยียนกลับเพิกเฉยต่อตัวเลือกนี้ไปเสียอย่างนั้นเซียวอวี้มองนางอย่างพินิจพิเคราะห์“เจ้าไม่ยินยอมรับใช้เรา มีนายแล้วงั้นหรือ”หากนางไม่ใช้พลังภายในถอนพิษให้เขา นักฆ่าที่ลักลอบเข้าวังเช่นนาง คงจะตายนับครั้งไม่ถ้วนไปนานแล้วเขากำลังให้โอกาสนางกลับตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายหน้า“ในยุทธภพข้าเป็นอิสระไร้นาย”เซียวอวี้กล่าวต่อ: “เราให้เจ้าเลือกที่สองคือ——ไปรับใช้ชาติที่ค่ายเป่ยต้า”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างไม่รีบร้อน“ทราบข่าวว่าค่ายเป่ยต้ามีกองกำลังหญิงอยู่กลุ่มหนึ่ง”เซียวอวี้กดคางลงเล็กน้อย“ใช่”เห็นนางสนใจในกองกำลังหญิง เขากล่าวเตือนด้วยเสียงเย็นยะเยือก“กองกำลังหญิงเป็นเมิ่งสิ่งโจวจัดตั้งขึ้นมา เขาอารมณ์ดุร้าย กฎค่ายทหารเข้มงวด จะไม่จัดการอย่างเบามือกับเจ้าเพราะเจ้าเป็นสตรีหรอก”นางที่เป็นอิสระจนเคยชิน จะรับไหวได้อย่างไร?หารู้ไม่ว่าคนที่เขาบรรยายว่า “อารมณ์ดุร้าย” นั้น ยืนอยู่ด้านหน้าเขาแล้วนางกล่าวอย่างไม่ต้องคิด“เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง โปรดอนุญาตข้าได้พิจารณา”พิจารณา?ไม่มีอยู่จริงทั้งสองเส้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 173

    เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ว่ามีคนสะกดรอยตามนาง คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะเป็นรุ่ยอ๋องและคาดไม่ถึงว่า นางแต่งกายเป็นชาย ใบหน้าสวมหน้ากาก เขายังจำได้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ยอมรับ ใช้กริซขู่เขาให้ออกไปจากตรอกอย่างนิ่งเงียบรุ่ยอ๋องก็แต่งกายอำพรางเช่นกัน ดวงตาคู่นั้นอบอุ่นเป็นพิเศษ ดั่งเติมเต็มไปด้วยสายน้ำวสันตฤดูโมงยามนี้เป็นเวลาห้ามออกเรือนแล้วถนนการค้าไร้ซึ่งผู้คนเขาถอยหลังไปพลางพูดไปพลาง“คาดไม่ถึงว่า ไม่เพียงแต่ศิลปะการขี่ม้าของท่านจะเลิศล้ำ วิชาตัวเบาก็ยอดเยี่ยมเพียงนี้เช่นกัน“ท่านพี่รู้หรือไม่ว่าท่านแอบลอบออกจากวัง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนกดเสียงต่ำลง เปลี่ยนเส้นเสียงในการพูด“ใครเป็นพี่สะใภ้เจ้ากัน! รนหาที่ตาย!”กล่าวจบ นางก็ยกเท้าถีบไปทางเขาทันทีรุ่ยอ๋องปฏิกิรยาว่องไวอย่างมาก หมุนกายเพื่อหลบเลี่ยงเมื่อเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง คนก็หายไปแล้วแววตาของรุ่ยอ๋องนั้นมีนัยนะเล็กน้อยหนีไปเช่นนี้งั้นหรือ?ทว่า ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ.........หลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนสะบัดรุ่ยอ๋องหลุดแล้ว ความสงสัยในหัวก็วนเวียนไม่หายรุ่ยอ๋องตามนางออกมาตั้งแต่ในวังแล้วเขาสวมชุดอำพรางทำอันใดในวัง?และช่วง

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 942

    หลังจากจับกุมพัศดีได้นั้น เขาหาได้มีท่าทีสำนึกผิดไม่“ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยทำสิ่งใดผิดไปงั้นหรือ…”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดมองเขาไม่ นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาพลางกล่าวออกมาว่า“ในฐานะพัศดีนั้น กลับกระทำการรับสินบน ติดต่อกับศัตรูต่างแคว้น ย่อมต้องถูกโทษประหาร!”พัศดีพลันมีสีหน้าซีดเผือดไปในทันทีเหตุใดถึง?ฮองเฮาทรงทราบว่าเขาลอบทำสิ่งใดเช่นนั้นหรือ?ผู้ใดเป็นคนทรยศเขากัน!พัศดีพลันรีบก้มลง พร้อมโขกหัวลงบนพื้นเพื่อ ร้องขอความเมตตา“ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยมิกล้าอีกแล้ว! ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิด ได้โปรด...”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดฟังเรื่องไร้สาระจากเขาไม่ พลางหันไปสั่งการกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคุกเทียนเหลาว่า“ข้าจักให้เวลาพวกเจ้าสามวัน ไปทำการสืบค้นเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าเสีย”“พ่ะย่ะค่ะ!” เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้รับผิดชอบนั้นพลันก้มหน้าลงด้วยความละอายใจเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงหันไปกล่าวกับพัศดีคนอื่น ๆ ที่ยืนเนื้อตัวสั่นเทาว่า“ภายในสามวันนี้ หากผู้ใดยอมสารภาพออกมาแต่โดยดี จักได้รับโทษสถานเบา หากว่าทำการสืบหาตัวมาได้เมื่อใดนั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 941

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมาพบกับถานไถเหยี่ยนอีกครั้ง แววตาของเขายังคงสงบเงียบดังเดิม ทว่า มิได้ไร้ชีวิตชีวาเหมือนดังแต่ก่อนอีกด้วย“ถานไถเหยี่ยน เจ้ารู้หรือไม่ว่า แคว้นตงซานได้ส่งราชทูตมาขอพาตัวเจ้ากลับไปจัดการด้วย?”ถานไถเหยี่ยนพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉยเมย“คิดไว้แล้วว่าจักต้องเป็นเช่นนี้“พวกเขาหาได้มาเพื่อข้าไม่ แต่มาเพื่อ ‘ใยแมงมุม’ ของตระกูลถานไถต่างหาก”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีท่าเคร่งขรึมไปในทันที“เจ้าจึงคิดใช้ประโยชน์จากคนทุกคน รวมไปถึงแคว้นตงซานด้วยหรือ”ถานไถเหยี่ยนพลันหัวเราะเยาะตนเองออกมา“ดังนั้น ชีวิตนั้นแสนสั้น อย่างไรย่อมต้องถูกผู้อื่นสังหารตามอำเภอใจ”เขารู้ดีว่า หากตนเองกลับไปถึงแคว้นตงซานเมื่อใดนั้น จุดจบคงมิได้ดีนักทว่า เขาหาได้กลัวตายไม่ ทั้งยังมองดูความตายอย่างไม่ยี่หระอีกด้วยเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยตรงเข้าประเด็นในทันที“เจ้าคิดดีแล้วหรือ”เรียวคิ้วดวงตาที่งดงามของถานไถเหยี่ยน พลันเผยให้เห็นท่าทีเด็ดขาดออกมาหากเขายังตัดสินใจไม่ได้ เขาคงมิมาขอพบนางเช่นนี้“กระหม่อมเต็มใจที่จะช่วยให้หนานฉีรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ” พูดจบ เขาพลันโค้งกายคำนับเฟิ่งจิ่วเหยียนในทันที

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 940

    ราชทูตหลี่หลิงแสดงสีหน้าประหลาดใจทันทีทำการค้า?นี่เป็นการบังคับฝืนใจกันโดยแท้แคว้นตงซานพวกเขาไม่เคยทำการค้ากับแคว้นอื่นมาก่อนทว่าหากไม่ยินยอม เกรงว่าฮ่องเต้ฉีจักต้องให้พวกเขาชดเชยด้วยการยกดินแดนให้เป็นแน่!ต้องโทษที่เขาผิดพลาดเพราะคำพูด จนสร้างปัญหาเช่นนี้!หลี่หลิงรู้สึกเสียใจอย่างมาก พร้อมกับมองไปทางหยวนจั้นที่อยู่ข้างกันหยวนจั้นพยักหน้าเบา ๆหลังจากหลี่หลิงได้รับอนุญาต ถึงได้ก้าวไปข้างหน้า“เรื่องทำการค้า ถือเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองแคว้น กระหม่อมจะนำเจตนารมณ์นี้กราบทูลต่อกษัตริย์ของกระหม่อม!”เวลายิ่งนานอุปสรรคยิ่งมาก เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีทางให้โอกาสพวกเขาได้กลับคำ“ฝ่าบาท แม้จริงอยู่ที่ว่าเรื่องดี ๆ มักจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่หม่อมฉันกลัวว่าเวลาจะไม่คอยท่า มิสู้ให้คนร่างหนังสือข้อตกลงขึ้นมา แล้วให้ราชทูตลงนาม จากนั้นค่อยนำกลับไปยังแคว้นตงซาน พร้อมกับออกสาส์นตราตั้งอย่างเป็นทางการ?”ราชทูตถูกส่งมา ก็ถือเป็นตัวแทนของฮ่องเต้นั่นเอง ทันทีที่ลงนาม ก็จะไม่มีทางกลับคำเซียวอวี้ยิ้มน้อย ๆ และกุมมือเฟิ่งจิ่วเหยียนต่อหน้าฝูงชน“นับว่าฮองเฮาวิเคราะห์ได้รอบคอบ“ใครก็ได้ ไปร่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 939

    แคว้นตงซานมีราชทูตสองคนหลี่หลิงผู้นั้นตกหลุมพรางกับคำพูด เมื่อเห็นว่าทำให้แคว้นตนกำลังตกอยู่ในอันตราย เหงื่อก็เริ่มผุดออกมาเต็มใบหน้าเขามองไปทางราชทูตอีกผู้หนึ่ง---หยวนจั้นชายหนุ่มรูปร่างซูบผอม ท่าทางดูเหมือนใจเย็น ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ แทบจะมิได้เอ่ยสิ่งใดเลยในยามนี้ เขาเอ่ยอย่างช้า ๆ “กระหม่อมได้ยินว่า ครั้งนี้หนานฉีเอาชนะแต่ละแคว้นได้ เป็นเพราะมีตัวช่วยอย่าง ‘ใยแมงมุม’ ที่ดัดแปลงโดยตระกูลตงฟาง ทว่าการค้นพบ ‘ใยแมงมุม’ ก็เป็นความดีความชอบของถานไถเหยี่ยนเช่นกัน“ดังนั้น กระหม่อมสงสัยว่า ถานไถเหยี่ยนยุยงให้เกิดข้อพิพาท ก็เพื่อล่อลวงกองกำลังของแต่ละแคว้นมาที่หนานฉี ทำให้ง่ายต่อการที่จะทำลายแต่ละแคว้น“มิเช่นนั้นจะทำไปเพื่อเหตุใด ตามหลักเหตุผล แคว้นท่านจักต้องเกลียดชังถานไถเหยี่ยนจนเข้ากระดูก ทว่าตอนนี้แค่เพียงจับเขาคุมขังไว้?“หากมองจากสิ่งนี้ แคว้นท่านไม่ยินยอมที่จะมอบถานไถเหยี่ยนให้ในตอนนี้ ก็เพื่อต้องการจะปกป้องชีวิตถานไถเหยี่ยน”ขุนนางหนานฉีเริ่มโมโห“ช่างพูดจาใส่ร้ายอย่างชั่วช้า! คนเลวนั้นกล่าวโทษคนอื่นเพื่อปกปิดความผิดตน!”“เมื่อครู่ยังพูดว่าถานไถเหยี่ยนเป็นคนของแคว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 938

    ราชทูตแคว้นตงซานมาพร้อมกับผ้าทอและอาชา เริ่มจากปฏิบัติด้วยความสุภาพก่อน“แคว้นตงซานเราไม่เคยเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างแคว้น ครั้งนี้แต่ละแคว้นมาล้อมโจมตีหนานฉี ฮ่องเต้พวกเราก็ได้ยินข่าวลือเหล่านี้เช่นกัน ต่างพูดกันว่า ข้อพิพาทนี้ ต้นเหตุมาจากการยุยงของแคว้นตงซาน”ราชทูตแคว้นอื่นต่างมองหน้ากันราชทูตแคว้นตงซานผู้นี้หมายความว่าอย่างไร? คำนึงแต่ตนเองไม่สนใจผู้อื่นรึ?ในตอนแรก มิใช่แคว้นตงซานพวกเขาส่งคนมาพูดหว่านล้อมว่า หากร่วมมือกับพวกเขาโจมตีหนานฉี จะแบ่งดินแดนหนานฉีให้หรอกหรือ!หลี่หลิงราชทูตแคว้นตงซานกล่าวต่อ“หลังจากสืบสวนอยู่หลายทาง พวกเราถึงสืบพบว่า เดิมทีแล้ว ทั้งหมดนี้ถานไถเหยี่ยนเป็นคนทำ“เขาหลอกลวงอวดอ้าง จนได้รับความไว้วางพระทัยจากฝ่าบาทของเรา ถูกยกย่องให้เป็นราชครู และถือเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของแคว้นตงซานด้วย “นึกไม่ถึงว่า เขายังไม่พึงพอใจกับสิ่งนี้ เจตนาจะหลอกล่อกษัตริย์ของเรา ให้กษัตริย์ของเราโจมตีหนานฉี เพื่อจะได้เป็นมหาอำนาจ กษัตริย์ของเรามีสติ จึงไม่หลงกลการยั่วยุ“นึกไม่ถึงว่าเขายังไม่ยอมหยุดความคิดชั่วร้าย ยังแอบตระเวนไปยังแต่ละแคว้น เพื่อยุยงให้แต่ละแคว้นล้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 937

    เรื่องส่งคืนกองทัพอินทรีเหินให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียน ตอนที่นางเสร็จสิ้นจากการไปเป็นราชทูตที่แคว้นซีหนี่ว์ เซียวอวี้ก็เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ทว่าภายหลังเจอกับสงครามครั้งใหญ่ เรื่องนี้จึงถูกพักไว้ก่อนเซียวอวี้เป็นฝ่ายเริ่มพูดเรื่องนี้ ซ้ำยังเตรียมการทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี ถือว่ามีความจริงใจเต็มเปี่ยมโดยมิต้องสงสัยทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับเป็นกังวล“เรื่องนี้ ราชสำนักรู้หรือไม่เพคะ?”เซียวอวี้สวมกอดนางจากทางด้านหลัง ราวกับได้ครอบครองทั้งใต้หล้า“เราเคยเรียกพบขุนนางคนสำคัญหลายคนในราชสำนักตั้งแต่แรก เพื่อบอกเรื่องนี้กับพวกเขา พวกเขาต่างก็คิดว่า เราสมควรทำเช่นนี้“วันนี้ประชุมราชกิจ เราก็ประกาศกับเหล่าขุนนางอย่างเป็นทางการแล้ว ทว่าก็มีบางคนคัดค้านเช่นกัน แต่เราพูดเพียงว่า ‘ตอนนี้หนานฉีต้องโจมตีกับแคว้นอื่น ผู้ใดที่คัดค้าน เราจะให้ออกไปสนามรบ’ ดังนั้น พวกเขาก็พากันเงียบกริบ“เจ้าเห็นหรือไม่ เรื่องนี้มิได้ยากเย็น”ถึงแม้เขาเอ่ยออกมาดูเหมือนจะง่ายดาย เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับรู้ว่า เพื่อตราคำสั่งทหาร เขาต้องทุ่มเทความพยายามอย่างมากขุนนางใหญ่ในราชสำนักเหล่านั้น โดยเฉพาะขุนนางอาวุโส แต่ละคนมีฝีปา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 936

    เซียวอวี้กับเซียวฉีเริ่มจะขัดแย้งกันเขานึกไม่ถึงว่า เซียวฉีจะใส่ร้ายเขาต่อหน้าจิ่วเหยียนเช่นนี้“วาดภาพ” อะไรกัน เขาจำสิ่งใดมิได้เลย!เซียวฉีเล่าออกมาเป็นเรื่องเป็นราว“ตอนที่เขาออกไปเที่ยวเล่นกับเหล่าเสด็จพี่ อาภรณ์ของทุกคนเรียบร้อยกันหมด ทว่าของเขามักจะทำขาดอยู่เสมอ ซ้ำยังขาดตรงส่วนก้นด้านหลัง จนเห็นกางเกงลายดอกไม้ยามเหมันต์ และเพราะกลัวเสด็จพ่อจะทรงดุ จึงต้องเดินถอยหลัง“พอโตขึ้นมาหน่อย เขาก็ชอบไปเล่นกับสาวน้อยนางกำนัล...”“พูดจาเพ้อเจ้อ! เราเคยทำเรื่องแบบนั้นที่ไหนกัน!” เซียวอวี้ไม่ยอมรับ จึงตะโกนเรียกเฉินจี๋ให้เข้ามาทันที เพื่อใช้กำลังขับไล่เซียวฉีออกจากตำหนักหย่งเหอองค์หญิงใหญ่มิยอมให้เซียวอวี้อยู่อย่างสงบ ขณะถูกพาตัวไป นางยังพยายามจะหันกลับมา พร้อมตะโกน“สาวน้อยนางกำนัลไม่ยอมเล่นกับท่าน ท่านยังแกล้งนอนคว่ำอยู่บนพื้น ฮองเฮา เขายังชักดิ้นชักงอด้วย!”สีหน้าของเซียวอวี้หม่นคล้ำราวกับน้ำหมึก“ปิดปากนางไว้!”ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน เฉินจี๋ตื่นตระหนกจนมิรู้จะใช้วิธีใด จึงรีบทำให้ตัวคนหมดสติทันทีก่อนองค์หญิงใหญ่จะหมดสติ ก็ยังเหลือกตาขาวในตำหนักชั้นในขณะที่เซียว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 935

    ราชทูตจากแคว้นต่าง ๆ มาโดยพร้อมเพรียง และเข้าพักในโรงพักแรมเหล่าราษฎรได้ยินเรื่องนี้ ภายใต้แรงผลักดันจากความโกรธแค้น จึงรวมตัวกันไปก่อจลาจลที่โรงพักแรม เพื่อต้องการจะสั่งสอนกลุ่มราชทูตเหล่านั้นยังมีชาวยุทธภพบางส่วน อาศัยวิทยายุทธ์อันแข็งแกร่ง พยายามบุกเข้าไปในโรงพักแรมพวกเขาจับราชทูตมัดไว้ และพาออกไปด้านนอก เพื่อให้เหล่าราษฎรได้ขว้างปาผักเน่า และด่าประณามเหล่าราชทูตมิกล้าต่อต้าน และมิอาจต่อต้านได้ด้วยราชทูตของต้าเซี่ยมิอาจทนต่อความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้“ราษฎรเลวทราม! ราษฎรเลวทราม!! ข้าเป็นราชทูต พวกเจ้าทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้!”สิ่งที่เขาได้รับจากการขัดขืน คือฝ่ามือของเหล่าราษฎรเป็นเพราะคนเหล่านี้ ที่เกือบจะทำให้หนานฉีต้องล่มสลายพวกเขายังมีหน้ามาหนานฉีอีกหรือ?เหล่าราษฎรระบายความโกรธอยู่พักหนึ่ง ไม่นานก็ถูกทางการปราบปราม เหล่าราชทูตจึงได้รับการช่วยเหลือ แต่ละคนใบหน้าปูดบวมเขียวช้ำ สติมึนงงณ หอสุราใกล้เคียง ภายในห้องส่วนตัวบนชั้นสองราชทูตสองคนของแคว้นตงซานยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้านนอกโรงพักแรมหนึ่งในนั้นรู้สึกโชคดี“ท่านแม่ทัพหยวน โชค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 934

    เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเซียวอวี้ตื่นขึ้นมา ก็ไม่เห็นเงาของเฟิ่งจิ่วเหยียนแล้วคงจะตื่นเช้าไปฝึกยุทธ์อีกเป็นแน่เซียวอวี้เปลี่ยนอาภรณ์ด้วยตนเอง มิได้ให้ผู้ใดมารับใช้หลิวซื่อเหลียงยกอ่างน้ำร้อนเข้ามา “ฝ่าบาท ฮองเฮาทรงเสด็จไปที่คุกเทียนเหลาตั้งแต่เช้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้ขมวดคิ้วมุ่นนางไปคุกเทียนเหลาด้วยเหตุใด?ณ คุกเทียนเหลาระหว่างเฟิ่งจิ่วเหยียนกับถานไถเหยี่ยน มีเพียงประตูคุกคั่นอยู่หนึ่งบานถานไถเหยี่ยนนั่งสงบนิ่งอยู่ข้างกำแพง บนกำแพงที่อยู่ด้านหลังยังสลักภาพ “ใยแมงมุม” ไว้ ภายใต้แสงเงา ยิ่งขับเน้นให้เขาดูเยือกเย็นเป็นพิเศษ“ฮองเฮาเสด็จมาเอง คิดว่าคงมิได้มาเพื่อพูดคุยความหลังกับข้ากระมัง”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูดุดัน“แคว้นตงซานส่งราชทูตมาที่หนานฉี ก็เพื่อช่วยเหลือเจ้า”สีหน้าของถานไถเหยี่ยนดูเป็นปกติ“จะช่วยข้า หรือจะสังหารข้า ก็ไม่ต่างกัน”ดูเหมือนเขาจะถอดใจแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนถามขึ้นในทันที “อาจารย์เต็มใจจะอยู่ที่หนานฉีหรือไม่”ถานไถเหยี่ยนรู้สึกประหลาดใจ หลังจากตะลึงงันอยู่ชั่วขณะ ก็เงยหน้าขึ้นมองนางเห็นนางมีสีหน้าจริงจัง ไม่เหมือนพูดหยอกล้อ“ฮองเฮา ทรงมิอ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status