ห้องทรงพระอักษรเซียวอวี้ถามขึ้นมาด้วยเสียงเย็นชาว่า“ในเมื่อมีหลักฐานแล้ว ไยไม่ลงมือจับตัว หรือเป็นเพราะว่านางสนมเจียสนิทสนมกับเจ้า เจ้าจึงคิดอยากปกป้อง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เคยนำเรื่องส่วนตัว มาส่งผลกระทบทำให้สูญเสียการคิดวิเคราะห์นางพูดขึ้นมาว่า“ต้องสอบสวนนางสนมเจีย แต่ที่สำคัญที่สุด ต้องสอบสวนเส้นทางการนำยาพิษเข้ามา”“ยาพิษนี้มาจากข้างนอกวัง หม่อมฉันสงสัยว่า ภายในวังมีสายลับ ทำการขายสิ่งของต้องห้ามโดยเฉพาะ หม่อมฉันจึงอยากฉวยโอกาสนี้ กวาดล้างพวกเขาให้เรียบ จึงมาขออนุญาตฝ่าบาท”เซียวอวี้เห็นนางจัดการเรื่องราวอย่างเฉียบขาดกระจ่างชัดเจน ก็ค่อนข้างชื่นชมนางแน่นอนว่า ดูจากเรื่องที่นางจัดการหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ นางย่อมไม่เหมือนหญิงสาวเรียบร้อยธรรมดาทั่วไปดังนั้นแม้ว่าเขาไม่ชอบนาง และนางไม่ใช่หญิงสาวบริสุทธิ์ เขาก็ยินดีที่จะให้นางเป็นฮองเฮาต่อไป ช่วยเขาดูแลจัดการวังหลัง“ทำตามที่เจ้าพูด”เฟิ่งจิ่วเหยียนถวายความเคารพ พร้อมพูดตอบว่า“น้อมรับพระบัญชา”แล้วนางก็กลับออกไปจู่ ๆ เซียวอวี้ก็รู้สึกขึ้นมาว่า ท่าทีของนาง...ไม่เหมือนเป็นฮองเฮาของเขา กลับเหมือนลูกน้องของเขามากกว่าหวนคิด
ผงเหมาเกิ้นล่อมดและแมลง เป็นคำโกหกที่เฟิ่งจิ่วเหยียนแต่งขึ้นมา ทว่าก็เพียงพอที่จะหลอกล่อให้คนที่หวาดกลัวคนหนึ่งเผยพิรุธออกมามู่หรงฉานพูดยอมรับขึ้นมาเองว่า“ฮองเฮา ล้วนเป็นความผิดของหม่อมฉัน หม่อมฉันเป็นคนทำ...”หลิวซวี่มองดูนางอย่างไม่อยากเชื่อ คิดไม่ถึงว่า กุ้ยเหรินจะปกป้องตนเองขนาดนี้นางรีบโขกศีรษะลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ฮองเฮาโปรดทรงเมตตา ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกุ้ยหริน บ่าวเป็นคนทำเอง! บ่าวอยากจะกำจัดศัตรูแข็งแกร่งให้กับนาย จึงใส่ร้ายนางสนมเจียง...กุ้ยเหรินไม่รู้เรื่อง!”จิ้งกุ้ยเหรินหันไปมองหลิวซวี่ น้ำตาร่วงไหลพร้อมพูดขึ้นมาว่า“ไม่ ไม่ใช่หลิวซวี่…”“ใช่บ่าว ฮองเฮา ท่านจะลงโทษก็ลงโทษบ่าวเถอะ!”เป็นบ่าวจงรักภักดีคนหนึ่งแววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนลึกล้ำมู่หรงฉานโอบกอดหลิวซวี่ ร้องไห้ขอความเมตตา“ฮองเฮา ถึงแม้หลิวซวี่จะมีความผิด แต่นางก็เป็นสาวใช้ที่ติดตามหม่อมฉันมา ผูกพันกับหม่อมฉันเหมือนพี่น้อง ขอฮองเฮาทรงโปรดเมตตา เป็นหม่อมฉันบกพร่องในการตรวจสอบ หม่อมฉันยินดีรับผิดแทนนาง”“ไม่ กุ้ยเหริน ไม่เอา! ล้วนเป็นความผิดของบ่าว...” หลิวซวี่ตื้นตันใจอย่างมาก ต่อให้ตายแทนกุ้ยเหริน นางก็ยอม!
เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างเชื่องช้าว่า“กำจัดสองคนในคราเดียวเช่นนั้น ทั้งสองคนนี้ต้องมีสิ่งบางอย่างเหมือนกัน”“มีเหมือนกัน?” เหลียนซวงสงสัย ทันใดนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้ พร้อมพูดขึ้นมาอย่างตกใจว่า “ฮองเฮา หรือว่า...บุคคลลึกลับคนนั้น ต้องการตำแหน่งฮองเฮา!”คุณหนูเวยเฉียงเป็นฮองเฮาที่ฮ่องเต้องค์ก่อนเป็นคนกำหนดไว้ตอนนั้นหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ เป็นที่โปรดปรานผู้เดียว มีตำแหน่งเหมือนฮองเฮา ยังมีข่าวลือว่า ฝ่าบาทตั้งใจจะแต่งตั้งให้นางเป็นฮองเฮานานแล้วดังนั้น ไม่ผิดแน่นอน!คิดถึงเมื่อครู่ที่ฮองเฮาพูดถึงรุ่ยอ๋องกับจิ้งกุ้ยเหริน เหลียนซวงเข้าใจขึ้นมาทันที“ฮองเฮา ท่านสงสัยว่า บุคคลลึกลับกับจิ้งกุ้ยเหรินมีความเกี่ยวข้องกัน! หากไม่มีคุณหนูเวยเฉียงกับหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ เช่นนั้น ด้วยรูปลักษณ์ชาติตระกูลของจิ้งกุ้ยเหริน จะต้องได้เป็นฮองเฮาอย่างไม่ต้องสงสัย!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ออกความเห็นใด“นำความไปให้รุ่ยอ๋อง ข้าต้องการพบเขา”“เพคะ...”เหลียนซวงเงยหน้าขึ้นมา แล้วก็เห็นในมือของนางมีกริชเพิ่มขึ้นมาเฉียบคมอย่างมาก!นางอดขนหัวลุกไม่ได้สนามม้าหลวงภายในป่าทั้งสองคน “พบกันโดยบังเอิญ”รอบด้า
กริชตกลงที่พื้น หกเนตรจ้องมองกันไปมารุ่ยอ๋องปริปากเล็กน้อยทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนชิงพูดก่อนนางถอยหลังมาหนึ่งก้าว โน้มกายทำความเคารพให้กับเซียวอวี้“ฝ่าบาท หม่อมฉันหลงทางอยู่ในป่า ดังนั้นจึงลงจากม้า เดิมทีคิดว่าจะใช้กริชทำเครื่องหมายบนต้นไม้ ป้องกันไม่ให้ตนเองเดินกลับมาทางเดิม“เห็นมีเงาที่เข้าใกล้มาอย่างไม่ทันตั้งตัว และคิดถึงเรื่องที่ช่วงก่อนในวังมีนักฆ่าปรากฏตัว ยังไม่สามารถจับตัวได้ จึงคิดว่าเป็นนักฆ่า จึง...”รุ่ยอ๋องช่วยกลบเกลื่อนคำโกหก“ที่แท้พระนางเข้าใจผิดว่ากระหม่อมเป็นนักฆ่า มิน่าล่ะ”เขาเก็บกริชขึ้นมา ส่งคืนให้เฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยความเคารพแววตาของเซียวอวี้เย็นยะเยือกมองร่างสองคนสลับไปมาคำพูดของฮองเฮา เขาไม่หลงเชื่อทว่ารุ่ยอ๋องเป็นพี่น้องที่ดีของเขามาตั้งแต่ยังเยาว์วัย...“ฝ่าบาท พระนาง กระหม่อมกราบบังคมลา”รุ่ยอ๋องจูงม้าจากไป สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงมองไปที่ร่างของเขาเซียวอวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น“ออกไป ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่สตรีนางหนึ่งเยี่ยงเจ้าควรจะอยู่”“เพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบด้วยความเคารพเพิ่งจะเดินไปได้ไม่กี่ก้าว นางก็หันกายกลับมาอีกครั
การเป็นองครักษ์ลับของฮ่องเต้ เป็นสิ่งหลายคนใฝ่ฝันที่จะทำเฟิ่งจิ่วเหยียนกลับเพิกเฉยต่อตัวเลือกนี้ไปเสียอย่างนั้นเซียวอวี้มองนางอย่างพินิจพิเคราะห์“เจ้าไม่ยินยอมรับใช้เรา มีนายแล้วงั้นหรือ”หากนางไม่ใช้พลังภายในถอนพิษให้เขา นักฆ่าที่ลักลอบเข้าวังเช่นนาง คงจะตายนับครั้งไม่ถ้วนไปนานแล้วเขากำลังให้โอกาสนางกลับตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายหน้า“ในยุทธภพข้าเป็นอิสระไร้นาย”เซียวอวี้กล่าวต่อ: “เราให้เจ้าเลือกที่สองคือ——ไปรับใช้ชาติที่ค่ายเป่ยต้า”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างไม่รีบร้อน“ทราบข่าวว่าค่ายเป่ยต้ามีกองกำลังหญิงอยู่กลุ่มหนึ่ง”เซียวอวี้กดคางลงเล็กน้อย“ใช่”เห็นนางสนใจในกองกำลังหญิง เขากล่าวเตือนด้วยเสียงเย็นยะเยือก“กองกำลังหญิงเป็นเมิ่งสิ่งโจวจัดตั้งขึ้นมา เขาอารมณ์ดุร้าย กฎค่ายทหารเข้มงวด จะไม่จัดการอย่างเบามือกับเจ้าเพราะเจ้าเป็นสตรีหรอก”นางที่เป็นอิสระจนเคยชิน จะรับไหวได้อย่างไร?หารู้ไม่ว่าคนที่เขาบรรยายว่า “อารมณ์ดุร้าย” นั้น ยืนอยู่ด้านหน้าเขาแล้วนางกล่าวอย่างไม่ต้องคิด“เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง โปรดอนุญาตข้าได้พิจารณา”พิจารณา?ไม่มีอยู่จริงทั้งสองเส้
เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ว่ามีคนสะกดรอยตามนาง คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะเป็นรุ่ยอ๋องและคาดไม่ถึงว่า นางแต่งกายเป็นชาย ใบหน้าสวมหน้ากาก เขายังจำได้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ยอมรับ ใช้กริซขู่เขาให้ออกไปจากตรอกอย่างนิ่งเงียบรุ่ยอ๋องก็แต่งกายอำพรางเช่นกัน ดวงตาคู่นั้นอบอุ่นเป็นพิเศษ ดั่งเติมเต็มไปด้วยสายน้ำวสันตฤดูโมงยามนี้เป็นเวลาห้ามออกเรือนแล้วถนนการค้าไร้ซึ่งผู้คนเขาถอยหลังไปพลางพูดไปพลาง“คาดไม่ถึงว่า ไม่เพียงแต่ศิลปะการขี่ม้าของท่านจะเลิศล้ำ วิชาตัวเบาก็ยอดเยี่ยมเพียงนี้เช่นกัน“ท่านพี่รู้หรือไม่ว่าท่านแอบลอบออกจากวัง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนกดเสียงต่ำลง เปลี่ยนเส้นเสียงในการพูด“ใครเป็นพี่สะใภ้เจ้ากัน! รนหาที่ตาย!”กล่าวจบ นางก็ยกเท้าถีบไปทางเขาทันทีรุ่ยอ๋องปฏิกิรยาว่องไวอย่างมาก หมุนกายเพื่อหลบเลี่ยงเมื่อเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง คนก็หายไปแล้วแววตาของรุ่ยอ๋องนั้นมีนัยนะเล็กน้อยหนีไปเช่นนี้งั้นหรือ?ทว่า ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ.........หลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนสะบัดรุ่ยอ๋องหลุดแล้ว ความสงสัยในหัวก็วนเวียนไม่หายรุ่ยอ๋องตามนางออกมาตั้งแต่ในวังแล้วเขาสวมชุดอำพรางทำอันใดในวัง?และช่วง
หลิงเยี่ยนเอ๋อร์มองเฟิ่งจิ่วเหยียนราวคนเสียสติ“เจ้าไม่มีทางเลือกอื่น! นางสารเลว ส่งข้ากลับวัง ข้าต้องการพบฝ่าบาท!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สะทกสะท้าน“ข้าทำได้มากที่สุดคือให้เจ้าจากที่แห่งนี้ไป”“ข้าต้องการพบฝ่าบาท!” ท่าทีหลิงเยี่ยนเอ๋อร์แน่วแน่เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างสุขุม“เจ้าก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ ให้เจ้าไปพบฝ่าบาท ข้ายังจะมีชีวิตรอดงั้นรึ?”หลิงเยี่ยนเอ๋อร์พยายามทำให้สถานการณ์แย่ลงอีก แสยะยิ้ม “เช่นนั้นก็ไปตายให้หมด ตายให้หมด——”นางคิดที่จะแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ทว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนมองออก สายตาเย็นยะเยือกทันที“เจ้ารักฝ่าบาทเพียงนั้น จะปล่อยให้เขาตายได้จริงหรือ?“ทว่าข้าทำได้“เพราะข้าไม่มีความรู้สึกอันใดกับฝ่าบาท และไม่สนใจว่าจะเขาจะอยู่หรือตาย“ข้าเข้าวัง เพื่อแก้แค้นเท่านั้น“ขอเพียงแค่จับบุคคลลึกลับนั้นได้อีก ข้าก็สมความปรารถนาแล้ว“ด้วยเหตุนี้ ข้าสามารถแสร้งทำเป็นเชื่อฟัง สังหารฝ่าบาทก่อน ดังนั้น คนที่จะตายคือพวกเจ้า และข้าจะมีชีวิตอยู่จนวาระสุดท้าย”พูดจบ นางแสร้งว่าจะจากไปหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ตกใจอย่างมาก“ไม่! เจ้ามิกล้า!“หรือว่าเจ้าไม่ต้องการจดหมายสองฉบับนั้น
เจียงหลินไม่ได้ล้อเล่น กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างมาก“เหล่าฝานส่งจดหมายมาหาข้า เมื่อครึ่งเดือนก่อน คนของเจ้าไปหาพันธมิตรอู่หลิน ขอให้พวกเขาทำธุระเรื่องหนึ่งให้เจ้า ทว่าไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเป็นเรื่องอันใด เพียงให้พวกเขามุ่งขึ้นเหนือไป“ตามหลักแล้ว การเดินทางไปกลับต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนกว่า เจ้าทำธุระเสร็จแล้ว หรือว่ากลับมาก่อนกำหนดรึ?” เฟิ่งจิ่วเหยียนสายตาเคร่งขรึม ไม่ได้อธิบายอันใดมากมายในตอนนี้เรื่องที่นางอยู่ในวังหลวง เจียงหลินและซ่งหลีไม่รู้เสียหน่อยควรจะไม่ทำให้พวกเขาตกใจเสียดีกว่า หลีกเลี่ยงการทำให้เรื่องใหญ่โตก่อนที่จะกลับวัง เฟิ่งจิ่วเหยียนแวะไปหาอู๋ไป๋อู๋ไป๋ได้ฟังเรื่องนี้แล้ว รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก“แม่ทัพน้อยท่านอยู่ในวังมาโดยตลอด ข้างกายก็มีแค่ข้าน้อยผู้เดียว จะส่งผู้ใดไปพันธมิตรอู่หลินได้? จะต้องมีผู้แอบอ้างท่านเป็นแน่!”เฟิ่งจิ่วเหยียนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไปสืบสอบมาให้กระจ่าง”“พ่ะย่ะค่ะ!” ......หลังจากกลับไปที่วังแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนกินยาบำรุงเม็ดนั้น และฝึกพลังลมปราณภายในอีกครั้ง พลังภายในฟื้นฟูกลับมารวดเร็วดังคาดเพื่อหลีกเล
เรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ปิดบังแล้วนางพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา“ท่านดูไม่ออกหรือ ข้าไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องนั้น?”ตลก ผู้ลี้ภัย ลิงผอมตัวดำ! ตอนกลางวันเขาพูดว่านางเช่นนี้ !นางอยากยอมรับสิแปลก!เวลานี้ เซียวอวี้ก็คิดขึ้นมาได้ นางกำลังไม่พอใจอะไรที่แท้ก็อยากรักษาภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่อยากยอมรับว่านางคือลิงน้อยคนนั้นเขาเสียใจอย่างมาก รีบพูดขอโทษขึ้นมา“เราผิดไปแล้ว ตอนนั้น...เรากลัวว่าเจ้าจะเข้าใจผิด จึงตั้งใจพูดแบบนั้น ความจริงแล้ว เราจดจำเจ้ามาตลอด วีรชนน้อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอียงศีรษะเล็กน้อย มองดูเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเซียวอวี้จูบบนหน้าผากของนาง จากนั้นก็หยิบผ้าแห้งผืนนั้นมา เช็ดผมที่เปียกให้กับนางด้วยตนเอง กระทำอยู่อย่างอ่อนโยน ราวกับในมือถือสิ่งของล้ำค่าเอาไว้“ปีนั้นเมืองซีซิ่นเกิดทุพภิกขภัย เราเพิ่งเข้าเมืองมาก็ถูกปล้นแล้ว ไม่สามารถที่จะลงมือทำร้ายประชาชน โชคดีที่เจ้ามาปรากฏ เวลานี้เราพูดความจริง เจ้าในตอนนั้นถึงแม้ยังเด็ก ทว่าท่าทีขี่ม้า ดูสง่างามยิ่งกว่าบุรุษจริงๆ”“ไม่ใช่ตลกหรอกหรือ?” นางยังคงไม่ยิ้มแย้ม คำพูดแฝงไปด้วยความเหน็บแ
เซียวอวี้จำได้ดี ตอนนั้น ขนมเกาลัดที่ยัยเด็กคนนั้นให้เขา ก็ละเอียดแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ กระทั่งละเอียดเป็นเศษกลับอร่อยมากเขารู้สึกหัวใจเต้นราวกับตีกลอง พร้อมลองถามฮูหยินเมิ่ง“มีเพียงนางที่กินแบบนี้?”ฮูหยินเมิ่งผงกหัวอย่างยิ้มแย้ม“ก็ใช่นะสิ มีแค่นางคนเดียว เพราะตอนอายุห้าขวบเคยสำลัก ทั้งรักทั้งเกลียดขนมเกาลัด คิดว่าทุบแล้วค่อยกิน เหมือนอย่างกับมันจะเชื่อฟังขึ้น ภายหลังจึงเคยชิน กินแบบนี้มาตลอด”คิดถึงจิ่วเหยียนตอนเด็กที่น่ารักดื้อรั้น และยังมีท่าทีดุร้าย บนใบหน้าฮูหยินเมิ่งปรากฏความอ่อนโยนของความเป็นแม่ “เด็กคนนั้น พริบตาเดียวก็โตขนาดนี้แล้ว...”เมื่อพูดเสร็จ แววตาฮูหยินเมิ่งก็กลายเป็นเฉียบคมขึ้นมาทันที ทุบฝ่ามือลงไป ผ่านบนไม้กระดาน ขนมเกาลัดชิ้นหนึ่งถูกทุบจนแบนเฉินจี๋ : ! ! !ฝ่ามือของฮูหยินเมิ่ง ดุเดือดมากเวลานี้ สีหน้าเซียวอวี้แข็งทื่อใช่ !อยู่ดี ๆ ใครจะทุบขนมเกาลัดที่เป็นชิ้นสมบูรณ์ให้แหลก !และปีนั้น ยัยเด็กคนนั้นอายุเพียงสิบขวบ เมื่อนับดูแล้ว ก็อายุไม่ต่างอะไรกับเฟิ่งจิ่วเหยียนบังเอิญบวกกับบังเอิญ นั่นก็จะไม่ใช่ความบังเอิญแล้ว !แล้วก็คิดถึงความผิดปกติของนาง
เมื่อครู่เซียวอวี้วู่ว่ามไปหน่อย เวลานี้สงบสติลง ก็รู้ตัวว่าตนเองตื่นตระหนกตื่นตูมไปแล้วพวกนางปรึกษาเรื่องตั้งกองกำลังหญิง คำนึงถึงแผ่นดินราษฎรเขากลับใจแคบ ยอมรับไม่ได้ ช่างเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีเอาเสียเลยเมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาดับความขุ่นเคืองในใจด้วยตนเองหลังจากนั้นก็ล้วงเอาขนมเกาลัดออกมาหลายชิ้น พวกมันถูกกระดาษมันห่อเป็นชั้น ๆ ยังร้อนอยู่เลย“ขนมเกาลัดที่ฮูหยินเมิ่งเพิ่งทำวันนี้ ข้าเอามาให้เจ้ากิน”สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ยังยืนยันคำพูดเดิม “ข้าไม่ชอบกิน”เซียวอวี้ดึงมือของนางมา วางขนมเกาลัดไว้บนฝ่ามือของนาง“ยังคิดจะโกหกข้า?“อาจารย์กับอาจารย์หญิงของเจ้าก็พูดแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตเจ้าชอบทานขนมเกาลัดที่สุด“เรารู้ ทำไมเจ้าถึงโกหกเรา”เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นมาเขารู้?หลังจากนั้น เซียวอวี้ก็พูดขึ้นมาอย่างมั่นใจในตนเอง“เจ้าถือสาเรื่องที่เราพูดถึง รู้สึกไม่พอใจ ใช่หรือไม่”เฟิ่งจิ่วเหยียน : ...เซียวอวี้อธิบายให้นางฟังอย่างจริงจัง“เราจำได้จนถึงตอนนี้ แค่ขนมเกาลัดชิ้นเดียว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคนที่ให้ขนมเกาลัดเลย“เจ้าไม่รู้ ยัยเด็กคนนั้นป่าเถื่อนมาก
เห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนอึ้ง เซียวอวี้ถามขึ้นมาด้วยเสียงเบา“ทำไมหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนได้สติกลับมา สายตาจ้องบนใบหน้าของเขา “ไม่เป็นไร"เซียวอวี้นึกว่านางยังเข้าใจผิดอยู่ จึงพูดขึ้นมาอีก“ไม่ได้โกหกเจ้า เป็นยัยเด็กคนนั้นจริง ๆ “ตัวผอม ๆ บนใบหน้าเปื้อนไปด้วยฝุ่น ไม่รู้ว่าลี้ภัยมาจากไหน...”“ตลกมากใช่ไหม” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขัดจังหวะเขา พร้อมถามขึ้นมาด้วยเสียงต่ำเซียวอวี้ผงกหัว“อืม”เฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปมองข้างนอกรถม้า ไม่พูดอะไรอีกทว่า แอบกำหมัดแน่นไม่นาน เฉินจี๋ซื้อขนมเกาลัดกลับมาแล้วเซียวอวี้ยื่นมาให้เฟิ่งจิ่วเหยียนหนึ่งชิ้น นางส่ายหัวพร้อมพูดขึ้นมา “ขอบพระทัย ทว่าข้าไม่ชอบทานสิ่งนี้”ตอนที่พูดประโยคนี้ นางไม่ได้มองดูเขาแต่ละคนชอบทานไม่เหมือนกัน เซียวอวี้ไม่สงสัยว่ามีอะไรระหว่างทาง เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นร้านขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป จึงสั่งให้หยุดรถม้าอาจารย์หญิงพูดไม่ผิด จะแต่งตัวเป็นชายอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ ควรที่จะซื้อชุดสตรีบ้างแล้ว“ข้าขอทำธุระส่วนตัว ท่านกลับไปก่อน”พูดเสร็จ นางก็กระโดดลงจากรถม้าเซียวอวี้เปิดม่าน มองเงาแผ่นหลังของนาง แล้วก็ย้อนครุ่นคิดเขาทำอะไรผิด พ
“พี่สาว...”เฟิ่งเวยเฉียงเพิ่งวิ่งมาหา ก็เห็นบุรุษด้านข้างพี่สาวคนผู้นั้นสวมชุดผ้าแพรสีม่วง ดูออกว่าเขาพยายามที่จะไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ ทว่าก็ยังคงไม่สามารถปกปิด ความสูงศักดิ์อย่างไม่ธรรมดารอบตัวเขาโดยเฉพาะใบหน้าเผด็จการน่าเกรงขาม ดูก็รู้ว่ามีสถานะสูงส่ง ไม่ให้มีการฝ่าฝืน“ข้าน้อยถวายบังคมฝ่าบาท” เฟิ่งเวยเฉียงก้มศีรษะลงทันที ไม่กล้ามองอีกฝ่ายสาวใช้ไฉ่เยว่ ก็รีบถวายความเคารพตามได้เห็นพระพักตร์จักรพรรดิ พูดว่าไม่ตื่นเต้นนั้นเป็นความเท็จ ฝ่ามือของนางเหงื่อไหลชุ่มฝ่าบาทแตกต่างจากที่นางคิดไว้ไม่มาก...สูงส่งเย็นชา ยากที่จะคาดเดาว่ารู้สึกอย่างไรไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า คุณหนูจิ่วเหยียนเคยชินกับการอยู่ข้างกายเขาได้อย่างไรเมื่อเซียวอวี้เห็นเฟิ่งเวยเฉียง ก็รู้ว่านางกับเฟิ่งจิ่วเหยียน สมกับที่เป็นฝาแฝดกัน ใบหน้าเหมือนกันเลยทว่าลักษณะนิสัย ดูก็รู้ว่าไม่เหมือนกันนางเพียงยืนอยู่ไม่พูดอะไร เขาก็สามารถมองทะลุถึงใจนาง เป็นคนไร้เดียงสา เป็นสตรีที่ไม่หวั่นไหวกับเรื่องทางโลกคนหนึ่ง“ครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องมากพิธี” เซียวอวี้พยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทว่า เฟิ่งเวยเฉียงยังคงรู้สึกว่าเขาเยือ
ในมุ้งบนเตียง บนผ้าห่ม มือสองข้างใหญ่ข้างหนึ่งเล็กข้างหนึ่ง นิ้วทั้งสิบนิ้วประสานกัน พัวพันแนบแน่นเซียวอวี้ยิ่งจูบยิ่งร้อนแรงเฟิ่งจิ่วเหยียนแทบทนไม่ไหว พยายามดิ้นรนหาช่องว่างเพื่อหายใจเวลาต่อมา เขาล้มทับบนตัวนาง หายใจอย่างหนัก ลมหายใจร้อนผ่าวรดข้างหู แก้มด้านข้างของนางนางถูก “ย่าง” จนเหงื่อไหลชุ่ม เอียงศีรษะไปฝ่ายชายยกตัวขึ้นมาเล็กน้อย จับปลายคางของนาง ดวงตาแดงสลัว จ้องริมฝีปากแดงระเรื่อสดใสของนางอย่างลึกซึ้งริมฝีปากแดง ทำให้สีหน้าขาวใสมากขึ้นสายตาของเขามองเลื่อนขึ้น มองความเร่าร้อนในดวงตาของนางที่กำลังจะจางหายไป อยากจดจำภาพนี้ไว้ตลอดกาลจดจำภาพที่นางหวั่นไหวเพื่อเขาจดจำภาพที่ในสายตานางมีเพียงเขา ในกระแสเลือด ในร่างกายก็มีเพียงเขาเจิดจ้ายิ่งกว่าดอกไม้ไฟ สว่างไสวยิ่งกว่าดวงดาว ลานตายิ่งกว่าแสงอาทิตย์...งดงามจริงๆ !ทุกครั้งในเวลานี้ แม้นางต้องการชีวิตเขา เขาก็จะให้เขาคิดว่า เขารักนางอย่างที่สุดจริง ๆหากชั่วชีวิตที่เหลือนี้ไม่สามารถได้ครอบครองนาง เขาจะเสียใจขนาดไหนมือของเขาเลื่อนมาถึงด้านหน้าลำตัวของนาง ลูบไล้รอยสักรูปเปลวเพลิงสีแดง“รอยสักของเจ้านี้ เพื่อปกปิด
สีหน้าเซียวอวี้จากดำกลายเป็นขาวสิ่งของที่อยู่ในกล่อง...เขาเคยเห็นในตำรานี่คือถุงยาง ใช้สำหรับผู้ชายทว่า จักรพรรดิไม่จำเป็นต้องสวมสิ่งนี้ หากไม่อยากให้นางสนมตั้งครรภ์ ประทานน้ำแกงป้องกันการมีบุตรก็พอดังนั้น ในวังไม่เคยมีสิ่งนี้ เขาก็ไม่เคยเห็นของจริงมาก่อนยิ่งคิดไม่ถึง เฟิ่งจิ่วเหยียนจะมอบสิ่งนี้ให้กับเขาจนเขาไม่รู้จะพูดนางว่าอะไรดีพัฟ !เขาปิดกล่องไม้ ท่าทีราวกับตาไม่เห็นไม่กวนใจ“สิ่งนี้ เราไม่ชอบ”เขาปฏิเสธทันทีเขาอยากที่จะมีลูกกับนางมากมาย จะใช้สิ่งนี้ได้อย่างไรเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง“ข้าเห็นว่า มีบุตรก่อนแต่งงาน ไร้ชื่อไร้สถานะ ไม่แตกต่างอะไรกับบุตรนอกสมรส”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเข้มนางหมายความว่า ก่อนแต่งงานสามารถ...บอกตั้งแต่แรกสิ ! เวลาต่อมา เซียวอวี้ไม่พูดอะไร ลุกขึ้นมาอุ้มนางทันที“เจ้าพูดถูก คืนนี้ลองใช้สิ่งนี้เลย” เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้ว “แขนของท่าน...”“ไม่เป็นไร” ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม อารมณ์ดี ยังจะสนใจบาดแผลที่ไหนกันยิ่งไปกว่านั้น ก็แค่บาดแผลภายนอกในมุ้งบนเตียงเสื้อผ้าหลุดออกส่งเสียงกรอบแกรบ ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ราวกับสองค
ภายในเรือนหลักคืนนี้แม่ทัพเมิ่งต้องออกไปลาดตระเวน หากไม่ใช่เพราะฝ่าบาทอยู่ในจวน เขาก็คงหาอะไรทานอยู่ในค่ายทหารแล้วเวลานี้เขาจึงกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อกลับไปยังค่ายทหารเฟิ่งจิ่วเหยียนกับอาจารย์หญิงมาด้วยกัน เห็นไฟในห้องสว่างอยู่ “อาจารย์อยู่ข้างใน ข้าไม่เข้าไปแล้ว”ฮูหยินเมิ่งอมยิ้มแย้ม “รออยู่ที่นี่ ข้าไปเอามาให้เจ้า"เมื่อนางเข้าไปในห้อง ก็เห็นสามีนั่งอยู่ข้างโต๊ะ สีหน้าประหลาด บอกไม่ถูกว่าดีใจ และก็ไม่ถือว่าโกรธ ทว่าดูเหมือนคับข้องใจเมิ่งฉวีลุกขึ้นยืน ถามขึ้นมาอย่างหยั่งเชิง“ฮูหยิน ช่วงนี้ข้ายุ่งกับงานในค่ายทหาร เพิกเฉยต่อเจ้า เจ้าโกรธข้าหรือไม่?”ฮูหยินเมิ่งตอบตามความจริง“ท่านต้องทำตามหน้าที่ ข้าไม่มีทางโกรธเพราะสาเหตุนี้”ทันใดนั้น สีหน้าเมิ่งฉวีบูดบึ้งลงเขายกมือขึ้นมาอย่างสั่นเทา ชี้ไปยังกล่องไม้บนหัวเตียง“นั่น...ข้างในนั้นคืออะไร?”สีหน้าฮูหยินเมิ่งเคร่งขรึมขึ้นมา“ท่านได้เปิดดูหรือ? ! ”เมิ่งฉวีเห็นนางตื่นเต้นขนาดนี้ ก็โกรธขึ้นมาทันที“ฮูหยิน ! ต่อให้เจ้าโกรธ ก็ไม่ควรทำกับข้าเช่นนี้ ! บอกมา ! คนนั้นคือใคร ! ”ของสิ่งนั้นทำไม่ง่าย ฮูหยินไม่ได้ทำมา
ทันทีที่เจินเจินก้าวเข้ามาในจวนแม่ทัพ ก็ได้เห็นชายหนุ่มรูปงามที่ยืนอยู่ข้างฮูหยินเมิ่ง บางทีอาจเป็นเพราะกลับจากค่ายทหาร และเห็นผู้ชายหยาบกระด้างเหล่านั้นจนชินตา คุณชายท่านนี้จึงทำให้ดวงตาของนางเป็นประกาย ปากแดงฟันขาว กลับมิสูญเสียบุคลิกองอาจผึ่งผาย สายตาเช่นนั้นที่จ้องมองมา มิได้ให้ความรู้สึกหยาบคาย ดูเหมือนจะมีเพียงความชื่นชม หาได้มีความคิดชั่วร้ายใด ๆ ไม่ ช่างเป็นดวงตาคู่หนึ่งที่สะอาด และซื่อตรง หัวใจของเจินเจินสั่นไหวอย่างไม่รู้ตัว ถึงแม้จะอยู่ต่อหน้าบุรุษผู้สูงศักดิ์และหล่อเหลาเช่นฝ่าบาท นางยังไม่เคยมีความรู้สึกแปลก ๆ เช่นนี้มาก่อน ราวกับในจุดหนึ่งของหัวใจกำลังมีดอกท้อผลิบาน... ครั้นฮูหยินเมิ่งได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในดวงตาของเจินเจิน ย่อมตระหนักถึงบางสิ่งได้ทันที เพื่อป้องกันมิให้จิ่วเหยียนก่อหนี้รักขึ้นอีก นางจึงออกหน้า แกล้งทำเป็นตำหนิเฟิ่งจิ่วเหยียน “บอกกี่ครั้งแล้ว เป็นผู้หญิงดี ๆ ก็ควรสวมอาภรณ์ของสตรี ดูสิ ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดอีกแล้วมิใช่หรือ?” เจินเจินได้ยินเช่นนั้น หัวใจที่เต้นรัวพลันแตกสลายทันที ผู้หญิง?!! แม้เฟิ่งจ