แชร์

บทที่ 106

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
ครั้งแรกของทุกสิบวันที่พิษกำเริบก็มาเยือนเช่นนี้

ทว่าฝั่งซ่งหลี่นั้นยังไม่มีข่าวคราวเลย

เฟิ่งจิ่วเหยียนรวบรวมพลังภายในเพื่อระงับพิษกำเริบอย่างเงียบเชียบ ทว่านี้ทำได้เพียงทุเลาลงเท่านั้น ไม่สามารถระงับได้ทั้งหมด

ดูแล้ว นางจำเป็นต้องไปขอยาถอนพิษจากเซียวอวี้

ย่างเข้ายามค่ำคืน

เฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนโฉมหน้า รุดหน้าไปที่ตำหนักฉางซิ่นเพื่อขอยา

ครั้งนี้ นางระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม

ในตำหนักฉางซิ่นไร้ผู้คนซุ่มโจมตี

ในตำหนักมีเพียงองครักษ์เฉินจี๋ผู้เดียว

“ฮ่องเต้รับสั่ง ใช้พิษนี้ก็สามารถควบคุมเจ้าได้แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจับกุมเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องระแวดระวังตัวเช่นนี้”

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ปักใจเชื่อ

ฮ่องเต้ทรราชย์นั้นพูดจากลับกลอกหลายคราแล้ว

นางได้ยาแล้ว รุดหน้าหลบหนีไปก่อน

เฉินจี๋ไม่ได้ไล่ตามนางไป มุ่งหน้ากลับตำหนักจื้อเฉินเพื่อไปรายงาน

เซียวอวี้นั่งอยู่ริมโต๊ะยาว ข้าง ๆ มือได้วางแส้เก้าท่อนของนักฆ่าผู้นั้นไว้

เฉินจี๋ฉงนอยู่ในใจ ผ่านไปนมนานแล้ว เหตุใดฮ่องเต้ยังเก็บไว้อีก?

“ฝ่าบาท ไม่จำเป็นต้องจับกุมนักฆ่าผู้นั้นจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

เซียวอวี้สีหน้าเย็นยะเยือก

“จับไว้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Som Jeed
มีกี่ตอนค่ะ
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
ไรท?พิมพ์ชื่อผิดค่ะ เฟิ่งเหยียนเฉินพิมพ์ชื่อว่า เฟิ่งเจิ่นเหยียนและเฟิ่งเซวียนหมิง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 107

    กุ้ยเฟยฉลองพระองค์สีชาดที่เป็นสีของภรรยาหลวงสวมใส่ได้เท่านั้น ความมุ่งมาดปรารถนาเด่นเห็นได้ชัดนางงดงามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผนวกกับการแต่งแต้มของเครื่องประทินโฉม สะกดทุกสายตาของเหล่าฝูงชน บดบังรัศมีนางสนมทั้งหมด ย่อมไม่ใช่เรื่องยากอันใดไม่คิดว่า เมื่อฮองเฮาปรากฏกาย สายตาที่จับจ้องนางมลายสิ้นแล้วนางผินสายตามองตามฝูงชนไป ดวงตาเบิกกว้างทันที...เฟิ่งจิ่วเหยียนฉลองพระองค์อาภรณ์พิธีการสีเหลือง สวมมงกุฎราชินี งดงามสง่า ดูดีมีชาติตระกูลหากกล่าวว่ากุ้ยเฟยงดงามเย้ายวนใจ ฮองเฮาสง่างามยากจะหาสิ่งใดเปรียบได้กุ้ยเฟยคือบุปผาท่ามกลางชลาศัย ความงามที่เย้ายวนใจทำให้คนปรารถนานำมาเชยชมฮองเฮาคือจันทราบนท้องนภา ทำให้คนใฝ่หาทว่าเอื้อมไม่ถึง รู้อยู่แก่ใจว่าไม่คู่ควร และมิกล้าคิดสกปรกโสมม ทำได้เพียง“เคารพบูชา”นางอย่างระมัดระวัง นี่เป็นความงามชนิดหนึ่งที่ทำให้คนยอมสวามิภักดิ์ไทเฮานั่งอยู่ที่ตำแหน่ง มองไปที่ฮองเฮา อดไม่ได้ที่เหม่อลอยมังกรคู่หงส์ ดุจคู่สร้างคู่สมฮองเฮาอยู่ในลักษณะที่ควรจะเป็นสตรีตระกูลเฟิ่งชื่อเสียงสมคำร่ำลือรังสีที่ทำให้คนสวามิภักดิ์เช่นนั้น แผ่ซ่านออกจากเนื้อใน สวยงามอ่อน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 108

    “ฮองเฮา!” ราชทูตรัฐเหลียงทุกคนกล่าวพร้อมกันเฟิ่งจิ่วเหยียนสุขุมอย่างมาก เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ข่าวลือเหล่านี้ ข้ามิเคยหลงเชื่อ”เหล่าราชทูตมองหน้ากันไปมา รู้สึกอึดอัดใจทันทีนางพูดสุภาพเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถชักสีหน้าได้!เกรงว่าฮองเฮาแคว้นหนานฉีผู้นี้จะพูด “ข่าวลือ” ไปมากกว่านี้หูเอ่อร์ต๋ากัดฟันกรอด“ถูกต้องแล้ว ล้วนเป็นข่าวลือ!“ข้าไม่มีกลิ่นกายแม้แต่น้อย!”ส่วนพวกอัครเสนาบดีจะเป็นเยี่ยงไรนั้น เขาขอไม่แสดงความคิดเห็นผ่านการตื่นตระหนกครั้งนี้ เหล่าราชทูตไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวถึงเรื่องที่ฮองเฮาถูกโจรภูเขาลักพาตัวไปอีกเหล่าเสนาบดีแคว้นหนานฉีกลับต่างออกไปพวกเขาอยากได้ยินสิ่งที่ฮองเฮาพูดต่อไปที่พูดไปเมื่อครู่ยังไม่สาแก่ใจ!กุ้ยเฟยยังคงกัดฟันกรอดหูเอ่อร์ต๋ามิพูดอันใดแล้วงั้นรึ?เพียงข่าวลือไม่กี่เรื่อง ก็ทำให้พวกเขาสะอึกจนพูดไม่ออกแล้วหรือ?ความจริงแล้ว สิ่งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวนั้นล้วนเป็นความจริงทั้งหมดเป็นเพียง“ข่าวลือ”เท่านั้น สิ่งที่นางทราบยังมีอีกมากมาย เกรงว่านางกล้าพูด พวกเขาก็ไม่กล้าฟัง!เซียวอวี้สายตาเรียบนิ่งมองไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียนโดยไม่ตั้งใจส

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 109

    ความจริงแล้ว ในเมื่อราชทูตขานชื่อพี่น้องตระกูลเฟิ่ง พวกเขาทำได้เพียงยอมรับแม้กระทั่งเซียวอวี้ที่เป็นฮ่องเต้ ก็ปฏิเสธแทนพวกเขาไม่ได้ตามที่เขาทราบมา สองพี่น้องตระกูลเฟิ่งนี้น้องรองเป็นแค่น้องชายที่ทำตัวเสเพลคนหนึ่งสำหรับเฟิ่งเหยียนเฉินนั้น เมื่อเป็นชายหนุ่มมีผลงานล้ำเลิศจริง ทว่าไม่นานนักก็สูญสิ้นความสามารถ และถูกผู้คนลืมเลือน อย่างไรก็ตาม จอหงวนฝ่ายบู๊ก็มีทุกปี ต่อให้ความสามารถทางการต่อสู้จะเก่งกาจเพียงใด ทำคุณูปการอันใดไม่ได้ ก็จะถูกทิ้งขว้างดั่งสิ่งของไร้ค่าการต่อสู้กับขวยโต่วครั้งนี้ เซียวอวี้ไม่ได้คาดหวังให้พวกเขาชนะอยู่แล้วในทางตรงกันข้าม การประลองสองรอบแรกยอมอ่อนข้อให้รัฐเหลียงไม่ใช่เรื่องเสียหายอันใดเพียงแค่คนที่จะประลองต่อจากสองพี่น้อง สามารถประลองโจมตีให้ขวยโต่วพ่ายแพ้ เอาชนะรอบสุดท้ายมา แคว้นหนานฉีก็สามารถรักษาความมีน้ำใจของเจ้าบ้านและไม่อับอายขายหน้าเขารับสั่งกับข้าหลวง“พาพวกเขาไปเตรียมตัว”“น้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!”เฟิ่งหมิงเซวียนได้ยินดังนั้น ตกใจจนขาอ่อนแทบจะเดินไม่ไหวทันทีนี่ ๆ ...นี่จะต้องเข้าสู่สนามประลองหรือ?ไม่!เขาไม่อยากตาย!เขาคิดที่จะปฏ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 110

    เมื่อวานเฟิ่งเหยียนเฉินได้รับบาดเจ็บจากพวกเซวียฉือ แขนขวาออกแรงไม่ได้ชั่วคราวหากเขาขึ้นเวทีประลองด้วยสภาพเช่นนี้ จะต้องถูกขวยโต่วโต้กลับอย่างแน่นอนเฟิ่งจิ่วเหยียนแววตาเย็นยะเยือกเวลานี้ บนเวทีประลอง เฟิ่งหมิงเซวียนยังคงถูกขวยโต่วต่อยตีอย่างทารุณผู้ใดชนะผู้ใดพ่ายแพ้ มองปราดเดียวก็ทราบชัดเหล่าเสนาบดีแคว้นหนานฉีต่างรู้สึกอับอายอย่างไรก็ตามคุณชายรองตระกูลเฟิ่งนี้ก็ฝึกจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ไยถูกต่อยตีจนไร้ทางสู้กลับเช่นนี้?ช่างน่าอายเหลือเกิน!นายท่านเฟิ่งก้มหน้า พยายามทำตัวไม่ให้โดดเด่นอย่างเต็มกำลังขวยโต่วนั้นเก่งกาจเช่นนี้ วันนี้ตระกูลเฟิ่งของเขาอับอายเป็นอย่างมาก!อยากจะขุดหลุมหมุดผืนพสุธาเสียจริงตุ้บ!เฟิ่งหมิงเซวียนถูกโยนลงจากเวที ท้ายที่สุดก็หมดสติไปหน้ากากยังคงอยู่บนหน้าเขาอย่างสมบูรณ์ไร้ความเสียหายข้าหลวงรีบพาตัวเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็วถึงแม้นายท่านเฟิ่งจะเป็นห่วง ทว่าก็ไม่กล้ารุดหน้าเข้าไปถามตอนนี้ขวยโต่วที่อยู่บนเวทีฮึกเหิมดวงตาแดงก่ำ ใช้กำปั้นทุบอกตนเองดั่งชะนีแขนยาว คำรามด้วยความเดือดดาล“ยังไม่พอ! มีผู้ใดอีก!”เขาราวกับผู้ล่า สายตามองไปที่เหล่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 111

    แววตาเฟิ่งเหยียนเฉินมัวหมองลง ราวกับตกลงสู่เหวลึกอันไร้ขอบเขต บ่นพึมพำกับตัวเอง“ล้วนเป็นเพราะข้า...ข้าไม่ระมัดระวัง ไม่มีความอดทนเพียงพอ”“เมื่อวาน ข้าควรจะอดทนไว้“ไม่อย่างนั้นก็คงไม่...”เฟิ่งจิ่วเหยียนมุ่งเน้นสนใจการแก้ปัญหา“มีคนตั้งใจอยากให้เจ้าแพ้ ต่อให้เจ้าไม่ทำอะไร พวกเขาก็จะทำให้เจ้าบาดเจ็บ”ยังไงเฟิ่งเหยียนเฉินก็เป็นจอหงวนฝ่ายบู๊[1] มีความสามารถไม่ด้อย เพื่อการประลองในวันนี้ กุ้ยเฟยต้องเตรียมการอย่างเพียบพร้อมและเป็นเพราะนางประมาท ไม่ได้คำนึงถึงด้านนอกวังในขณะเดียวกันก็ประเมินแผนการของกุ้ยเฟยต่ำไปหลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาว่า“เอาหน้ากากมาให้ข้า ข้าหาคนประลองแทนเจ้า”ได้ยินคำพูดเช่นนี้ เฟิ่งเหยียนเฉินชักสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที“ไม่ได้ แบบนี้คือเป็นการโกง”ต่อให้เขาไม่ได้เรื่องแค่ไหน ก็จะเอาชนะด้วยวิธีต่ำทรามแบบนี้ไม่ได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสงบเคร่งขรึมว่า“โอกาสมีเพียงครั้งเดียว จะเอา หรือไม่เอา”เฟิ่งเหยียนเฉินคอแหบแห้ง“เจ้าสืบรู้ความจริงของเรื่องนั้นในตอนนั้นได้แล้ว จริงๆ หรือ?”แววตาเฟิ่งจิ่วเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 112

    ทุกคนล้วนหันไปมองดูบนเวทีประลองนั้น ภาพดุเดือดรุนแรงที่คาดคิดไว้ ไม่ได้เกิดขึ้น มีคนต้านทานไว้แล้ว!?แต่ คนนั้นคือใคร?กลุ่มคนที่มองดูอยู่ มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า“เหมือนจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลเฟิ่ง!”จากนั้นก็มีคนพูดขึ้นมาอีกว่า “ใช่ น่าจะเป็นเขา! สวมหน้ากาก!”นอกจากคุณชายสองท่านของตระกูลเฟิ่ง เหล่าขุนพลที่ขึ้นมาประลองเป็นการชั่วคราวในช่วงกลาง พวกเขาล้วนเพียงสวมหน้ากากอย่างเร่งรีบ ไม่ได้ผูกอุปกรณ์ป้องกันดังนั้นแม้ว่าจะอยู่ห่างไกล มองเห็นไม่ชัดเจน ก็สามารถมองผ่านข้อศอก อุปกรณ์ป้องกันที่มีสีสัน ยืนยันสถานะ“สามารถต้านทานหมัดนั้นของขวยโต่วไว้ได้ น่าทึ่งอย่างมาก!”หูเอ๋อร์ต๋าได้ยินเช่นนี้ ก็พ่นลมหายใจเย็นออกมารับไว้ได้หมัดเดียวเท่านั้นเองขวยโต่วยังมีอีกหลายหมัดรออยู่!บนเวทีประลองขวยโต่วชักหมัดนั้นกลับคืน ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว แววตาจับจ้องมองคู่ต่อสู้ที่ปรากฎตัวมาอย่างกะทันหันบุคลิกบนตัวคนนี้ ไม่เหมือนกับพวกคนก่อนหน้านี้แต่...ขอเพียงไม่ใช่เมิ่งสิงโจว เขาก็จะไม่มีทางแพ้!“มา!” ขวยโต่วแกว่งแขน พร้อมพูดขึ้นมาว่า “มาสิ ต่อยตรงนี้!”ทุกคนล้วนคิดว่าคนที่สวมหน้ากากทาสคุนหล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 113

    แม่ทัพเฉินเป็นคนแรกที่เข้าใจสถานการณ์บนเวที เบิกตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ“เฟิ่งเหยียนเฉินไม่ได้คิดอยากทำให้ขวยโต่วเหนื่อย ยิ่งไม่ได้เป็นการป้องกัน ในทางกลับกัน เขากำลังโจมตี!”“เป็นไปได้อย่างไร? เขาหลบเลี่ยงอยู่ตลอดไม่ใช่หรือ?”“แม่ทัพเฉิน เจ้าดูจนโง่ไปแล้วหรือเปล่า?”แม่ทัพเฉินส่ายหัว จับจ้องมองดูบนเวทีไปด้วย พูดตอบอย่างแน่วแน่ไปด้วยว่า“ไม่ ไม่ผิดแน่นอน เฟิ่งเหยียนเฉินกำลังโจมตีด้วยวิธีเร้นลับอย่างหนึ่ง!”อีกสองคนรีบพูดขึ้นมาอย่างร้อนใจว่า“ทำการโจมตีอย่างไร?”แม่ทัพเฉินพูดอย่างรวดเร็ว อธิบายให้พวกเขาฟังว่า“เฟิ่งเหยียนเฉินกำลังหมุนวนเพื่อหลบเลี่ยง แต่พวกเจ้าดู เขาไม่ได้หลบเลี่ยงอย่างไร้ทิศทาง แต่กำลังหลบเลี่ยงไปทางด้านหนึ่งอยู่ตลอด...ข้างซ้ายของเขา ซึ่งก็คือข้างขวาของขวยโต่ว”“นี่บ่งบอกถึงอะไร? เฟิ่งเหยียนเฉินหมุนวนทิศทางเดียว คิดอยากทำให้ขวยโต่วเวียนหัว? ใช่! ทำให้เวียนหัว! ดังนั้นตอนนี้ขวยโต่วเสียสมดุลแล้ว...”แม่ทัพเฉินพูดปฏิเสธคำพูดนี้ว่า“ไม่ใช่!”ทำให้คู่ต่อสู้เวียนหัว? จะมีวิธีโง่เขลาเช่นนี้ได้อย่างไรแม่ทัพเฉินพูดขึ้นมาว่า“พวกเจ้าดู ทุกครั้งที่ขวยโต่วเคลื่อนไหว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 114

    ขวยโต่วล้มลงในทันใด เหมือนดั่งภูเขาที่ตั้งตระหง่าน พังทลายลงอย่างกะทันหันทุกคนล้วนตกตะลึงอย่างมากมีเกิดอะไรขึ้น?ยังไม่ทันมองดูอย่างชัดเจน คนนี้ก็...บนเวทีประลองเฟิ่งจิ่วเหยียนกวาดขาไปข้างหลัง กระแทกตรงหน้าอกขวยโต่วอย่างจังขวยโต่วอยากลุกขึ้นมา กลับทำไม่ได้เข่าขวา...เหมือนแตกหักแล้ว เจ็บปวดอย่างที่สุด!ขวยโต่วกัดฟัน อดกลั้นไว้ ลองที่จะลุกขึ้นมาเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ให้เขาได้มีโอกาสนี้ กระโดดลอยไป เน้นพลังทั้งหมดไปที่หัวเข่า โจมตีคอของขวยโต่วขวยโต่วสูญเสียความสมดุลไปทั้งร่างกาย พร้อมล้มไปข้างหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนงอเข่า คุกเข่ากดทับตรงลูกกระเดือก...ขวยโต่วมองผ่านหน้ากากทาสคุนหลุน มองเห็นดวงตาข้างหลังหน้ากากดวงนั้นเป็นเหมือนแอ่งน้ำนิ่งลึกล้ำ ดึงดูดเขาไว้อย่างจัง“ไม่ เป็นไปไม่ได้...เป็นเจ้าได้อย่างไร...”เขาเพียงแค่เตะตรงเข่าของขวยโต่วหนึ่งที ทำไมถึงได้มีอานุภาพรุนแรงขนาดนี้ภายใต้หน้ากาก เฟิ่งจิ่วเหยียนเม้นริมฝีปากเล็กน้อยขวยโต่วค่อยเข้าใจขึ้นมาว่า นับตั้งแต่เริ่มประลอง คนคนนี้ก็ทำให้ตนเองหมุนวนเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า เข่าขวาของตนเองบาดเจ็บ!นี่ยิ่งเป็นไปไม่ได้เล

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 942

    หลังจากจับกุมพัศดีได้นั้น เขาหาได้มีท่าทีสำนึกผิดไม่“ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยทำสิ่งใดผิดไปงั้นหรือ…”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดมองเขาไม่ นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาพลางกล่าวออกมาว่า“ในฐานะพัศดีนั้น กลับกระทำการรับสินบน ติดต่อกับศัตรูต่างแคว้น ย่อมต้องถูกโทษประหาร!”พัศดีพลันมีสีหน้าซีดเผือดไปในทันทีเหตุใดถึง?ฮองเฮาทรงทราบว่าเขาลอบทำสิ่งใดเช่นนั้นหรือ?ผู้ใดเป็นคนทรยศเขากัน!พัศดีพลันรีบก้มลง พร้อมโขกหัวลงบนพื้นเพื่อ ร้องขอความเมตตา“ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยมิกล้าอีกแล้ว! ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิด ได้โปรด...”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดฟังเรื่องไร้สาระจากเขาไม่ พลางหันไปสั่งการกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคุกเทียนเหลาว่า“ข้าจักให้เวลาพวกเจ้าสามวัน ไปทำการสืบค้นเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าเสีย”“พ่ะย่ะค่ะ!” เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้รับผิดชอบนั้นพลันก้มหน้าลงด้วยความละอายใจเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงหันไปกล่าวกับพัศดีคนอื่น ๆ ที่ยืนเนื้อตัวสั่นเทาว่า“ภายในสามวันนี้ หากผู้ใดยอมสารภาพออกมาแต่โดยดี จักได้รับโทษสถานเบา หากว่าทำการสืบหาตัวมาได้เมื่อใดนั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 941

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมาพบกับถานไถเหยี่ยนอีกครั้ง แววตาของเขายังคงสงบเงียบดังเดิม ทว่า มิได้ไร้ชีวิตชีวาเหมือนดังแต่ก่อนอีกด้วย“ถานไถเหยี่ยน เจ้ารู้หรือไม่ว่า แคว้นตงซานได้ส่งราชทูตมาขอพาตัวเจ้ากลับไปจัดการด้วย?”ถานไถเหยี่ยนพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉยเมย“คิดไว้แล้วว่าจักต้องเป็นเช่นนี้“พวกเขาหาได้มาเพื่อข้าไม่ แต่มาเพื่อ ‘ใยแมงมุม’ ของตระกูลถานไถต่างหาก”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีท่าเคร่งขรึมไปในทันที“เจ้าจึงคิดใช้ประโยชน์จากคนทุกคน รวมไปถึงแคว้นตงซานด้วยหรือ”ถานไถเหยี่ยนพลันหัวเราะเยาะตนเองออกมา“ดังนั้น ชีวิตนั้นแสนสั้น อย่างไรย่อมต้องถูกผู้อื่นสังหารตามอำเภอใจ”เขารู้ดีว่า หากตนเองกลับไปถึงแคว้นตงซานเมื่อใดนั้น จุดจบคงมิได้ดีนักทว่า เขาหาได้กลัวตายไม่ ทั้งยังมองดูความตายอย่างไม่ยี่หระอีกด้วยเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยตรงเข้าประเด็นในทันที“เจ้าคิดดีแล้วหรือ”เรียวคิ้วดวงตาที่งดงามของถานไถเหยี่ยน พลันเผยให้เห็นท่าทีเด็ดขาดออกมาหากเขายังตัดสินใจไม่ได้ เขาคงมิมาขอพบนางเช่นนี้“กระหม่อมเต็มใจที่จะช่วยให้หนานฉีรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ” พูดจบ เขาพลันโค้งกายคำนับเฟิ่งจิ่วเหยียนในทันที

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 940

    ราชทูตหลี่หลิงแสดงสีหน้าประหลาดใจทันทีทำการค้า?นี่เป็นการบังคับฝืนใจกันโดยแท้แคว้นตงซานพวกเขาไม่เคยทำการค้ากับแคว้นอื่นมาก่อนทว่าหากไม่ยินยอม เกรงว่าฮ่องเต้ฉีจักต้องให้พวกเขาชดเชยด้วยการยกดินแดนให้เป็นแน่!ต้องโทษที่เขาผิดพลาดเพราะคำพูด จนสร้างปัญหาเช่นนี้!หลี่หลิงรู้สึกเสียใจอย่างมาก พร้อมกับมองไปทางหยวนจั้นที่อยู่ข้างกันหยวนจั้นพยักหน้าเบา ๆหลังจากหลี่หลิงได้รับอนุญาต ถึงได้ก้าวไปข้างหน้า“เรื่องทำการค้า ถือเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองแคว้น กระหม่อมจะนำเจตนารมณ์นี้กราบทูลต่อกษัตริย์ของกระหม่อม!”เวลายิ่งนานอุปสรรคยิ่งมาก เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีทางให้โอกาสพวกเขาได้กลับคำ“ฝ่าบาท แม้จริงอยู่ที่ว่าเรื่องดี ๆ มักจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่หม่อมฉันกลัวว่าเวลาจะไม่คอยท่า มิสู้ให้คนร่างหนังสือข้อตกลงขึ้นมา แล้วให้ราชทูตลงนาม จากนั้นค่อยนำกลับไปยังแคว้นตงซาน พร้อมกับออกสาส์นตราตั้งอย่างเป็นทางการ?”ราชทูตถูกส่งมา ก็ถือเป็นตัวแทนของฮ่องเต้นั่นเอง ทันทีที่ลงนาม ก็จะไม่มีทางกลับคำเซียวอวี้ยิ้มน้อย ๆ และกุมมือเฟิ่งจิ่วเหยียนต่อหน้าฝูงชน“นับว่าฮองเฮาวิเคราะห์ได้รอบคอบ“ใครก็ได้ ไปร่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 939

    แคว้นตงซานมีราชทูตสองคนหลี่หลิงผู้นั้นตกหลุมพรางกับคำพูด เมื่อเห็นว่าทำให้แคว้นตนกำลังตกอยู่ในอันตราย เหงื่อก็เริ่มผุดออกมาเต็มใบหน้าเขามองไปทางราชทูตอีกผู้หนึ่ง---หยวนจั้นชายหนุ่มรูปร่างซูบผอม ท่าทางดูเหมือนใจเย็น ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ แทบจะมิได้เอ่ยสิ่งใดเลยในยามนี้ เขาเอ่ยอย่างช้า ๆ “กระหม่อมได้ยินว่า ครั้งนี้หนานฉีเอาชนะแต่ละแคว้นได้ เป็นเพราะมีตัวช่วยอย่าง ‘ใยแมงมุม’ ที่ดัดแปลงโดยตระกูลตงฟาง ทว่าการค้นพบ ‘ใยแมงมุม’ ก็เป็นความดีความชอบของถานไถเหยี่ยนเช่นกัน“ดังนั้น กระหม่อมสงสัยว่า ถานไถเหยี่ยนยุยงให้เกิดข้อพิพาท ก็เพื่อล่อลวงกองกำลังของแต่ละแคว้นมาที่หนานฉี ทำให้ง่ายต่อการที่จะทำลายแต่ละแคว้น“มิเช่นนั้นจะทำไปเพื่อเหตุใด ตามหลักเหตุผล แคว้นท่านจักต้องเกลียดชังถานไถเหยี่ยนจนเข้ากระดูก ทว่าตอนนี้แค่เพียงจับเขาคุมขังไว้?“หากมองจากสิ่งนี้ แคว้นท่านไม่ยินยอมที่จะมอบถานไถเหยี่ยนให้ในตอนนี้ ก็เพื่อต้องการจะปกป้องชีวิตถานไถเหยี่ยน”ขุนนางหนานฉีเริ่มโมโห“ช่างพูดจาใส่ร้ายอย่างชั่วช้า! คนเลวนั้นกล่าวโทษคนอื่นเพื่อปกปิดความผิดตน!”“เมื่อครู่ยังพูดว่าถานไถเหยี่ยนเป็นคนของแคว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 938

    ราชทูตแคว้นตงซานมาพร้อมกับผ้าทอและอาชา เริ่มจากปฏิบัติด้วยความสุภาพก่อน“แคว้นตงซานเราไม่เคยเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างแคว้น ครั้งนี้แต่ละแคว้นมาล้อมโจมตีหนานฉี ฮ่องเต้พวกเราก็ได้ยินข่าวลือเหล่านี้เช่นกัน ต่างพูดกันว่า ข้อพิพาทนี้ ต้นเหตุมาจากการยุยงของแคว้นตงซาน”ราชทูตแคว้นอื่นต่างมองหน้ากันราชทูตแคว้นตงซานผู้นี้หมายความว่าอย่างไร? คำนึงแต่ตนเองไม่สนใจผู้อื่นรึ?ในตอนแรก มิใช่แคว้นตงซานพวกเขาส่งคนมาพูดหว่านล้อมว่า หากร่วมมือกับพวกเขาโจมตีหนานฉี จะแบ่งดินแดนหนานฉีให้หรอกหรือ!หลี่หลิงราชทูตแคว้นตงซานกล่าวต่อ“หลังจากสืบสวนอยู่หลายทาง พวกเราถึงสืบพบว่า เดิมทีแล้ว ทั้งหมดนี้ถานไถเหยี่ยนเป็นคนทำ“เขาหลอกลวงอวดอ้าง จนได้รับความไว้วางพระทัยจากฝ่าบาทของเรา ถูกยกย่องให้เป็นราชครู และถือเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของแคว้นตงซานด้วย “นึกไม่ถึงว่า เขายังไม่พึงพอใจกับสิ่งนี้ เจตนาจะหลอกล่อกษัตริย์ของเรา ให้กษัตริย์ของเราโจมตีหนานฉี เพื่อจะได้เป็นมหาอำนาจ กษัตริย์ของเรามีสติ จึงไม่หลงกลการยั่วยุ“นึกไม่ถึงว่าเขายังไม่ยอมหยุดความคิดชั่วร้าย ยังแอบตระเวนไปยังแต่ละแคว้น เพื่อยุยงให้แต่ละแคว้นล้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 937

    เรื่องส่งคืนกองทัพอินทรีเหินให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียน ตอนที่นางเสร็จสิ้นจากการไปเป็นราชทูตที่แคว้นซีหนี่ว์ เซียวอวี้ก็เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ทว่าภายหลังเจอกับสงครามครั้งใหญ่ เรื่องนี้จึงถูกพักไว้ก่อนเซียวอวี้เป็นฝ่ายเริ่มพูดเรื่องนี้ ซ้ำยังเตรียมการทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี ถือว่ามีความจริงใจเต็มเปี่ยมโดยมิต้องสงสัยทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับเป็นกังวล“เรื่องนี้ ราชสำนักรู้หรือไม่เพคะ?”เซียวอวี้สวมกอดนางจากทางด้านหลัง ราวกับได้ครอบครองทั้งใต้หล้า“เราเคยเรียกพบขุนนางคนสำคัญหลายคนในราชสำนักตั้งแต่แรก เพื่อบอกเรื่องนี้กับพวกเขา พวกเขาต่างก็คิดว่า เราสมควรทำเช่นนี้“วันนี้ประชุมราชกิจ เราก็ประกาศกับเหล่าขุนนางอย่างเป็นทางการแล้ว ทว่าก็มีบางคนคัดค้านเช่นกัน แต่เราพูดเพียงว่า ‘ตอนนี้หนานฉีต้องโจมตีกับแคว้นอื่น ผู้ใดที่คัดค้าน เราจะให้ออกไปสนามรบ’ ดังนั้น พวกเขาก็พากันเงียบกริบ“เจ้าเห็นหรือไม่ เรื่องนี้มิได้ยากเย็น”ถึงแม้เขาเอ่ยออกมาดูเหมือนจะง่ายดาย เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับรู้ว่า เพื่อตราคำสั่งทหาร เขาต้องทุ่มเทความพยายามอย่างมากขุนนางใหญ่ในราชสำนักเหล่านั้น โดยเฉพาะขุนนางอาวุโส แต่ละคนมีฝีปา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 936

    เซียวอวี้กับเซียวฉีเริ่มจะขัดแย้งกันเขานึกไม่ถึงว่า เซียวฉีจะใส่ร้ายเขาต่อหน้าจิ่วเหยียนเช่นนี้“วาดภาพ” อะไรกัน เขาจำสิ่งใดมิได้เลย!เซียวฉีเล่าออกมาเป็นเรื่องเป็นราว“ตอนที่เขาออกไปเที่ยวเล่นกับเหล่าเสด็จพี่ อาภรณ์ของทุกคนเรียบร้อยกันหมด ทว่าของเขามักจะทำขาดอยู่เสมอ ซ้ำยังขาดตรงส่วนก้นด้านหลัง จนเห็นกางเกงลายดอกไม้ยามเหมันต์ และเพราะกลัวเสด็จพ่อจะทรงดุ จึงต้องเดินถอยหลัง“พอโตขึ้นมาหน่อย เขาก็ชอบไปเล่นกับสาวน้อยนางกำนัล...”“พูดจาเพ้อเจ้อ! เราเคยทำเรื่องแบบนั้นที่ไหนกัน!” เซียวอวี้ไม่ยอมรับ จึงตะโกนเรียกเฉินจี๋ให้เข้ามาทันที เพื่อใช้กำลังขับไล่เซียวฉีออกจากตำหนักหย่งเหอองค์หญิงใหญ่มิยอมให้เซียวอวี้อยู่อย่างสงบ ขณะถูกพาตัวไป นางยังพยายามจะหันกลับมา พร้อมตะโกน“สาวน้อยนางกำนัลไม่ยอมเล่นกับท่าน ท่านยังแกล้งนอนคว่ำอยู่บนพื้น ฮองเฮา เขายังชักดิ้นชักงอด้วย!”สีหน้าของเซียวอวี้หม่นคล้ำราวกับน้ำหมึก“ปิดปากนางไว้!”ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน เฉินจี๋ตื่นตระหนกจนมิรู้จะใช้วิธีใด จึงรีบทำให้ตัวคนหมดสติทันทีก่อนองค์หญิงใหญ่จะหมดสติ ก็ยังเหลือกตาขาวในตำหนักชั้นในขณะที่เซียว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 935

    ราชทูตจากแคว้นต่าง ๆ มาโดยพร้อมเพรียง และเข้าพักในโรงพักแรมเหล่าราษฎรได้ยินเรื่องนี้ ภายใต้แรงผลักดันจากความโกรธแค้น จึงรวมตัวกันไปก่อจลาจลที่โรงพักแรม เพื่อต้องการจะสั่งสอนกลุ่มราชทูตเหล่านั้นยังมีชาวยุทธภพบางส่วน อาศัยวิทยายุทธ์อันแข็งแกร่ง พยายามบุกเข้าไปในโรงพักแรมพวกเขาจับราชทูตมัดไว้ และพาออกไปด้านนอก เพื่อให้เหล่าราษฎรได้ขว้างปาผักเน่า และด่าประณามเหล่าราชทูตมิกล้าต่อต้าน และมิอาจต่อต้านได้ด้วยราชทูตของต้าเซี่ยมิอาจทนต่อความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้“ราษฎรเลวทราม! ราษฎรเลวทราม!! ข้าเป็นราชทูต พวกเจ้าทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้!”สิ่งที่เขาได้รับจากการขัดขืน คือฝ่ามือของเหล่าราษฎรเป็นเพราะคนเหล่านี้ ที่เกือบจะทำให้หนานฉีต้องล่มสลายพวกเขายังมีหน้ามาหนานฉีอีกหรือ?เหล่าราษฎรระบายความโกรธอยู่พักหนึ่ง ไม่นานก็ถูกทางการปราบปราม เหล่าราชทูตจึงได้รับการช่วยเหลือ แต่ละคนใบหน้าปูดบวมเขียวช้ำ สติมึนงงณ หอสุราใกล้เคียง ภายในห้องส่วนตัวบนชั้นสองราชทูตสองคนของแคว้นตงซานยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้านนอกโรงพักแรมหนึ่งในนั้นรู้สึกโชคดี“ท่านแม่ทัพหยวน โชค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 934

    เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเซียวอวี้ตื่นขึ้นมา ก็ไม่เห็นเงาของเฟิ่งจิ่วเหยียนแล้วคงจะตื่นเช้าไปฝึกยุทธ์อีกเป็นแน่เซียวอวี้เปลี่ยนอาภรณ์ด้วยตนเอง มิได้ให้ผู้ใดมารับใช้หลิวซื่อเหลียงยกอ่างน้ำร้อนเข้ามา “ฝ่าบาท ฮองเฮาทรงเสด็จไปที่คุกเทียนเหลาตั้งแต่เช้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้ขมวดคิ้วมุ่นนางไปคุกเทียนเหลาด้วยเหตุใด?ณ คุกเทียนเหลาระหว่างเฟิ่งจิ่วเหยียนกับถานไถเหยี่ยน มีเพียงประตูคุกคั่นอยู่หนึ่งบานถานไถเหยี่ยนนั่งสงบนิ่งอยู่ข้างกำแพง บนกำแพงที่อยู่ด้านหลังยังสลักภาพ “ใยแมงมุม” ไว้ ภายใต้แสงเงา ยิ่งขับเน้นให้เขาดูเยือกเย็นเป็นพิเศษ“ฮองเฮาเสด็จมาเอง คิดว่าคงมิได้มาเพื่อพูดคุยความหลังกับข้ากระมัง”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูดุดัน“แคว้นตงซานส่งราชทูตมาที่หนานฉี ก็เพื่อช่วยเหลือเจ้า”สีหน้าของถานไถเหยี่ยนดูเป็นปกติ“จะช่วยข้า หรือจะสังหารข้า ก็ไม่ต่างกัน”ดูเหมือนเขาจะถอดใจแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนถามขึ้นในทันที “อาจารย์เต็มใจจะอยู่ที่หนานฉีหรือไม่”ถานไถเหยี่ยนรู้สึกประหลาดใจ หลังจากตะลึงงันอยู่ชั่วขณะ ก็เงยหน้าขึ้นมองนางเห็นนางมีสีหน้าจริงจัง ไม่เหมือนพูดหยอกล้อ“ฮองเฮา ทรงมิอ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status