Share

บทที่ 102

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
วันรุ่งขึ้น ฟ้าเพิ่งสว่าง กุ้ยเฟยก็ตื่นบรรทมแล้ว

ในตำหนักไร้ซึ่งร่างเงาของฮ่องเต้ สายตาของนางพลันปรากฎความเศร้าสร้อย

ชุนเหอแขวนม่านมุ้งขึ้น ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม

“ยินดีกับพระนางที่ฮ่องเต้ไม่ตัดขาดความโปรดปราน

“เช้าวันนี้ก่อนฮ่องเต้เสด็จออกไปได้ทรงรับสั่งให้บ่าว ปรุงแกงไก่ใส่โสมบำรุงร่างกายให้ท่าน พระนาง บ่าวบังอาจกล่าวถาม เมื่อคืนท่าน...ได้ปรนนิบัติแล้วงั้นหรือ?”

ฮ่องเต้โปรดปรานพระนางเป็นเรื่องที่ดี ทว่าแผลสาหัสของพระนางยังไม่หายดี ไม่ควรที่จะปรนนิบัติ

ชุนเหอกังวลใจอย่างเลี่ยงไม่ได้

กุ้ยเฟยไม่ได้ตอบกลับ “น้ำ”

ตอนที่ชำระร่างกาย ชุนเหอกล่าวว่า

“ไทฮองไทเฮากลับวังมาไม่ถึงสองวัน ก็จะไปภูเขาอวี้หยางอีกแล้ว พระนาง ท่านจะไปส่งเสด็จหรือไม่เพคะ?”

กุ้ยเฟยยิ้มอย่างเยือกเย็น แววตาเปี่ยมไปด้วยความแค้นเคือง

“ส่งเสด็จ? ไปส่งศพเสียมากกว่า!

“เดิมทีคิดว่านางจะสามารถลงมือจัดการเฟิ่งจิ่วเหยียน แต่นางกลับส่งเสริมให้ฮ่องเต้กับฮองเฮาร่วมเรือนหอ นางอายุมากจนเลอะเลือน อายุขนาดนี้แล้ว ยังจะมีชีวิตอยู่ไปทำไมกัน!”

ชุนเหอมองไปด้านนอกตำหนักด้วยความระแวดระวัง เกรงว่าคำพูดเมื่อครู่จะถูกใครได้ยิน

Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Orrawan Makchoo
สงสารนางเอกดูครอบครัวแล้วปวดหัวแทน แม่ก็หัวอ่อน พี่ไม่สู้คน เต้ ติด.....ไม่สนห่าเห วอะไรเลย
goodnovel comment avatar
Prig Pannasa
สรุปมีพี่ชายจริงๆ ชั้นคิดว่าที่ผ่านมาคนแต่งเบลอ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 103

    ประตูตำหนักป้องกันเข้มงวดกวดขัน ฮูหยินเฟิ่งขอเข้าพบฮองเฮา รอมาหนึ่งวันเต็ม ๆ จึงสามารถย่างก้าวเข้าสู่ประตูวังได้หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ฟังเรื่องของพี่ใหญ่แล้ว ท่าทีนิ่งเฉย“ปราศจากการทำลายล้าง ย่อมไร้การประกอบสร้าง”เรื่องของเฟิ่งเหยียนเฉิน นางก็กำลังสืบสอบเช่นกันทว่า ไม่ว่าในอดีตจะเป็นเยี่ยงไร ในฐานะที่เขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเฟิ่ง เขาไม่สามารถหมดอาลัยตายอยากเช่นนี้ไปได้ตลอดฮูหยินเฟิ่งคิดว่านางไม่สนใจใยดี“นั่นเป็นพี่ชายของเจ้านะ หากตัดอนาคตของเขาจริง ๆ ในภายภาคหน้าตระกูลเฟิ่งจะเป็นเช่นไร? อย่ามาอ้างว่าพวกเจ้าไม่ได้เติบโตสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก เจ้าจึง...”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองนัยน์ตาของมารดา กล่าวขัดคำพูดอย่างเคร่งขรึม“ล้มลงอยู่ที่ใด ก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาที่นั่น“เหตุใดเขาจึงถูกผู้อื่นควบคุม เป็นเพราะเขาพึงพอใจกับสภาพความเป็นอยู่ตอนนี้ เป็นเพียงเจ้านครฝ่ายซ้ายอำนาจน้อยนิด สูญเสียปณิธาน เขาทำลายอนาคตด้วยตัวเขาเอง“เวยเฉียงเกิดเหตุร้าย ในฐานะที่เขาเป็นพี่คนโตยังปกป้องนางไว้ไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องอนาคต เรื่องที่สามารถรับหน้าที่สำคัญของวงศ์ตระกูลได้อีก!”ฮูหยิน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 104

    ภายในตำหนักหย่งเหอ เซียวอวี้สีหน้าเคร่งขรึมประทับนั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาเย็นยะเยือก ถามเฟิ่งจิ่วเหยียนเชิงตำหนิ“หากไม่ใช่ว่าเราบังเอิญเจอวันนี้ ก็ไม่ทราบว่าเจ้าแอบดื่มยานี้ด้วย”เฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าเรียบนิ่ง กล่าวตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน“ยานี้ท่านแม่ของหม่อมฉันส่งมาให้ นางไม่ทราบเรื่องเบื้องลึกการร่วมเรือนหอ หม่อมฉันกำลังจะสั่งให้เหลียนซวงไปจัดการเสียเพคะ” นางปฏิเสธรวดเร็วเช่นนี้ ทำให้คนสังเกตร่องรอยการกล่าวโป้ปดไม่ได้แม้แต่น้อยเซียวอวี้มองนางอย่างพินิจพิเคราะห์ แววตาเย็นยะเยือก“ทางที่ดีเจ้าอย่าได้คิดเป็นอื่น”จากนั้น เขาทรงรับสั่งตามหน้าที่“ราชทูตรัฐเหลียงจวนจะเสด็จมาเยี่ยมเยือน จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองต้อนรับ“ก่อนหน้านั้นกุ้ยเฟยเป็นผู้จัดการ ทว่าเพลานี้นางบาดเจ็บสาหัส เราจึงส่งมอบต่อให้เจ้า“จำไว้ด้วย เรื่องนี้เกี่ยวเนื่องกับสัมพันธภาพระหว่างสองแคว้น อย่าให้เกิดข้อผิดพลาดใด ๆ ได้ทั้งสิ้น!”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยคนของรัฐเหลียงหน้าไหว้หลังหลอก วาจากลับกลอกการเสด็จมาเยือนแคว้นหนานฉีของราชทูตรัฐเหลียงครั้งนี้ จะต้องมีการต่อสู้แก่งแย่งชิงกันอีกเป็นแน่ทว่า เหล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 105

    ณ จวนตระกูลเฟิ่งฮูหยินเฟิ่งมองบุตรชายที่กลับมาด้วยอาภรณ์สภาพดูไม่ได้ เจ็บปวดใจเหลือคณา“เหยียนเฉิน เจ้าเป็นอะไรไป!”เฟิ่งเหยียนเฉินไม่ใยดีความห่วงใยของมารดา มุ่งหน้าเดินตรงเข้าไปที่ลานด้านในตลอดทาง สายตาของเขาว่างเปล่าเคว้งคว้าง ข้างหูล้วนเป็นเสียงการรบราฆ่าฟัน และซากศพที่ตายตาไม่หลับมากมายในปีนั้น เป็นเพราะเขาเป็นผู้ไร้ประโยชน์เช่นนี้ จึงทำให้ทุกคนผิดหวัง“พี่ใหญ่!” เฟิ่งหมิงเซวียนที่เป็นน้องชายขวางทางเขา พินิจพิเคราะห์เขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แววตาเผยความยินดีที่เห็นผู้อื่นมีความทุกข์อย่างซ่อนไม่อยู่“เป็นอะไรเช่นนี้พี่ใหญ่ ขุนนางชั้นผู้น้อยเยี่ยงพี่ เหตุใดแม้กระทั่งอาภรณ์ยังรักษาไว้ไม่ได้กันล่ะ?”เฟิ่งเหยียนเฉินไม่ได้สนใจเฟิ่งหมิงเซวียนหยิบหนังสือแต่งตั้งออกมาหนึ่งใบ โอ้อวดอย่างออกนอกหน้า ยิ้มจนเนื้อปิดตาทั้งสองข้างมิด“เห็นหรือไม่ ข้าเป็นทูตส่งสาสน์แล้ว! ระดับแปดเชียวนะ สู้กว่าเจ้านครฝ่ายซ้ายของพี่ตั้งหนึ่งขั้น!”“ยินดีด้วย” เฟิ่งเหยียนเฉินเดินจากไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เฟิ่งหมิงเซวียนถ่มน้ำลายไปทางร่างเงาของเขา“ถุย! เจ้าคนไร้ประโยชน์!”เป็นถึงจอหงวนฝ่ายบู๊ กลับทำต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 106

    ครั้งแรกของทุกสิบวันที่พิษกำเริบก็มาเยือนเช่นนี้ทว่าฝั่งซ่งหลี่นั้นยังไม่มีข่าวคราวเลยเฟิ่งจิ่วเหยียนรวบรวมพลังภายในเพื่อระงับพิษกำเริบอย่างเงียบเชียบ ทว่านี้ทำได้เพียงทุเลาลงเท่านั้น ไม่สามารถระงับได้ทั้งหมดดูแล้ว นางจำเป็นต้องไปขอยาถอนพิษจากเซียวอวี้ย่างเข้ายามค่ำคืนเฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนโฉมหน้า รุดหน้าไปที่ตำหนักฉางซิ่นเพื่อขอยาครั้งนี้ นางระมัดระวังตัวมากกว่าเดิมในตำหนักฉางซิ่นไร้ผู้คนซุ่มโจมตีในตำหนักมีเพียงองครักษ์เฉินจี๋ผู้เดียว“ฮ่องเต้รับสั่ง ใช้พิษนี้ก็สามารถควบคุมเจ้าได้แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจับกุมเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องระแวดระวังตัวเช่นนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ปักใจเชื่อฮ่องเต้ทรราชย์นั้นพูดจากลับกลอกหลายคราแล้วนางได้ยาแล้ว รุดหน้าหลบหนีไปก่อนเฉินจี๋ไม่ได้ไล่ตามนางไป มุ่งหน้ากลับตำหนักจื้อเฉินเพื่อไปรายงานเซียวอวี้นั่งอยู่ริมโต๊ะยาว ข้าง ๆ มือได้วางแส้เก้าท่อนของนักฆ่าผู้นั้นไว้เฉินจี๋ฉงนอยู่ในใจ ผ่านไปนมนานแล้ว เหตุใดฮ่องเต้ยังเก็บไว้อีก?“ฝ่าบาท ไม่จำเป็นต้องจับกุมนักฆ่าผู้นั้นจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ?”เซียวอวี้สีหน้าเย็นยะเยือก“จับไว้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 107

    กุ้ยเฟยฉลองพระองค์สีชาดที่เป็นสีของภรรยาหลวงสวมใส่ได้เท่านั้น ความมุ่งมาดปรารถนาเด่นเห็นได้ชัดนางงดงามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผนวกกับการแต่งแต้มของเครื่องประทินโฉม สะกดทุกสายตาของเหล่าฝูงชน บดบังรัศมีนางสนมทั้งหมด ย่อมไม่ใช่เรื่องยากอันใดไม่คิดว่า เมื่อฮองเฮาปรากฏกาย สายตาที่จับจ้องนางมลายสิ้นแล้วนางผินสายตามองตามฝูงชนไป ดวงตาเบิกกว้างทันที...เฟิ่งจิ่วเหยียนฉลองพระองค์อาภรณ์พิธีการสีเหลือง สวมมงกุฎราชินี งดงามสง่า ดูดีมีชาติตระกูลหากกล่าวว่ากุ้ยเฟยงดงามเย้ายวนใจ ฮองเฮาสง่างามยากจะหาสิ่งใดเปรียบได้กุ้ยเฟยคือบุปผาท่ามกลางชลาศัย ความงามที่เย้ายวนใจทำให้คนปรารถนานำมาเชยชมฮองเฮาคือจันทราบนท้องนภา ทำให้คนใฝ่หาทว่าเอื้อมไม่ถึง รู้อยู่แก่ใจว่าไม่คู่ควร และมิกล้าคิดสกปรกโสมม ทำได้เพียง“เคารพบูชา”นางอย่างระมัดระวัง นี่เป็นความงามชนิดหนึ่งที่ทำให้คนยอมสวามิภักดิ์ไทเฮานั่งอยู่ที่ตำแหน่ง มองไปที่ฮองเฮา อดไม่ได้ที่เหม่อลอยมังกรคู่หงส์ ดุจคู่สร้างคู่สมฮองเฮาอยู่ในลักษณะที่ควรจะเป็นสตรีตระกูลเฟิ่งชื่อเสียงสมคำร่ำลือรังสีที่ทำให้คนสวามิภักดิ์เช่นนั้น แผ่ซ่านออกจากเนื้อใน สวยงามอ่อน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 108

    “ฮองเฮา!” ราชทูตรัฐเหลียงทุกคนกล่าวพร้อมกันเฟิ่งจิ่วเหยียนสุขุมอย่างมาก เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ข่าวลือเหล่านี้ ข้ามิเคยหลงเชื่อ”เหล่าราชทูตมองหน้ากันไปมา รู้สึกอึดอัดใจทันทีนางพูดสุภาพเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถชักสีหน้าได้!เกรงว่าฮองเฮาแคว้นหนานฉีผู้นี้จะพูด “ข่าวลือ” ไปมากกว่านี้หูเอ่อร์ต๋ากัดฟันกรอด“ถูกต้องแล้ว ล้วนเป็นข่าวลือ!“ข้าไม่มีกลิ่นกายแม้แต่น้อย!”ส่วนพวกอัครเสนาบดีจะเป็นเยี่ยงไรนั้น เขาขอไม่แสดงความคิดเห็นผ่านการตื่นตระหนกครั้งนี้ เหล่าราชทูตไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวถึงเรื่องที่ฮองเฮาถูกโจรภูเขาลักพาตัวไปอีกเหล่าเสนาบดีแคว้นหนานฉีกลับต่างออกไปพวกเขาอยากได้ยินสิ่งที่ฮองเฮาพูดต่อไปที่พูดไปเมื่อครู่ยังไม่สาแก่ใจ!กุ้ยเฟยยังคงกัดฟันกรอดหูเอ่อร์ต๋ามิพูดอันใดแล้วงั้นรึ?เพียงข่าวลือไม่กี่เรื่อง ก็ทำให้พวกเขาสะอึกจนพูดไม่ออกแล้วหรือ?ความจริงแล้ว สิ่งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวนั้นล้วนเป็นความจริงทั้งหมดเป็นเพียง“ข่าวลือ”เท่านั้น สิ่งที่นางทราบยังมีอีกมากมาย เกรงว่านางกล้าพูด พวกเขาก็ไม่กล้าฟัง!เซียวอวี้สายตาเรียบนิ่งมองไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียนโดยไม่ตั้งใจส

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 109

    ความจริงแล้ว ในเมื่อราชทูตขานชื่อพี่น้องตระกูลเฟิ่ง พวกเขาทำได้เพียงยอมรับแม้กระทั่งเซียวอวี้ที่เป็นฮ่องเต้ ก็ปฏิเสธแทนพวกเขาไม่ได้ตามที่เขาทราบมา สองพี่น้องตระกูลเฟิ่งนี้น้องรองเป็นแค่น้องชายที่ทำตัวเสเพลคนหนึ่งสำหรับเฟิ่งเหยียนเฉินนั้น เมื่อเป็นชายหนุ่มมีผลงานล้ำเลิศจริง ทว่าไม่นานนักก็สูญสิ้นความสามารถ และถูกผู้คนลืมเลือน อย่างไรก็ตาม จอหงวนฝ่ายบู๊ก็มีทุกปี ต่อให้ความสามารถทางการต่อสู้จะเก่งกาจเพียงใด ทำคุณูปการอันใดไม่ได้ ก็จะถูกทิ้งขว้างดั่งสิ่งของไร้ค่าการต่อสู้กับขวยโต่วครั้งนี้ เซียวอวี้ไม่ได้คาดหวังให้พวกเขาชนะอยู่แล้วในทางตรงกันข้าม การประลองสองรอบแรกยอมอ่อนข้อให้รัฐเหลียงไม่ใช่เรื่องเสียหายอันใดเพียงแค่คนที่จะประลองต่อจากสองพี่น้อง สามารถประลองโจมตีให้ขวยโต่วพ่ายแพ้ เอาชนะรอบสุดท้ายมา แคว้นหนานฉีก็สามารถรักษาความมีน้ำใจของเจ้าบ้านและไม่อับอายขายหน้าเขารับสั่งกับข้าหลวง“พาพวกเขาไปเตรียมตัว”“น้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!”เฟิ่งหมิงเซวียนได้ยินดังนั้น ตกใจจนขาอ่อนแทบจะเดินไม่ไหวทันทีนี่ ๆ ...นี่จะต้องเข้าสู่สนามประลองหรือ?ไม่!เขาไม่อยากตาย!เขาคิดที่จะปฏ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 110

    เมื่อวานเฟิ่งเหยียนเฉินได้รับบาดเจ็บจากพวกเซวียฉือ แขนขวาออกแรงไม่ได้ชั่วคราวหากเขาขึ้นเวทีประลองด้วยสภาพเช่นนี้ จะต้องถูกขวยโต่วโต้กลับอย่างแน่นอนเฟิ่งจิ่วเหยียนแววตาเย็นยะเยือกเวลานี้ บนเวทีประลอง เฟิ่งหมิงเซวียนยังคงถูกขวยโต่วต่อยตีอย่างทารุณผู้ใดชนะผู้ใดพ่ายแพ้ มองปราดเดียวก็ทราบชัดเหล่าเสนาบดีแคว้นหนานฉีต่างรู้สึกอับอายอย่างไรก็ตามคุณชายรองตระกูลเฟิ่งนี้ก็ฝึกจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ไยถูกต่อยตีจนไร้ทางสู้กลับเช่นนี้?ช่างน่าอายเหลือเกิน!นายท่านเฟิ่งก้มหน้า พยายามทำตัวไม่ให้โดดเด่นอย่างเต็มกำลังขวยโต่วนั้นเก่งกาจเช่นนี้ วันนี้ตระกูลเฟิ่งของเขาอับอายเป็นอย่างมาก!อยากจะขุดหลุมหมุดผืนพสุธาเสียจริงตุ้บ!เฟิ่งหมิงเซวียนถูกโยนลงจากเวที ท้ายที่สุดก็หมดสติไปหน้ากากยังคงอยู่บนหน้าเขาอย่างสมบูรณ์ไร้ความเสียหายข้าหลวงรีบพาตัวเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็วถึงแม้นายท่านเฟิ่งจะเป็นห่วง ทว่าก็ไม่กล้ารุดหน้าเข้าไปถามตอนนี้ขวยโต่วที่อยู่บนเวทีฮึกเหิมดวงตาแดงก่ำ ใช้กำปั้นทุบอกตนเองดั่งชะนีแขนยาว คำรามด้วยความเดือดดาล“ยังไม่พอ! มีผู้ใดอีก!”เขาราวกับผู้ล่า สายตามองไปที่เหล่า

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 942

    หลังจากจับกุมพัศดีได้นั้น เขาหาได้มีท่าทีสำนึกผิดไม่“ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยทำสิ่งใดผิดไปงั้นหรือ…”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดมองเขาไม่ นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาพลางกล่าวออกมาว่า“ในฐานะพัศดีนั้น กลับกระทำการรับสินบน ติดต่อกับศัตรูต่างแคว้น ย่อมต้องถูกโทษประหาร!”พัศดีพลันมีสีหน้าซีดเผือดไปในทันทีเหตุใดถึง?ฮองเฮาทรงทราบว่าเขาลอบทำสิ่งใดเช่นนั้นหรือ?ผู้ใดเป็นคนทรยศเขากัน!พัศดีพลันรีบก้มลง พร้อมโขกหัวลงบนพื้นเพื่อ ร้องขอความเมตตา“ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยมิกล้าอีกแล้ว! ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิด ได้โปรด...”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดฟังเรื่องไร้สาระจากเขาไม่ พลางหันไปสั่งการกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคุกเทียนเหลาว่า“ข้าจักให้เวลาพวกเจ้าสามวัน ไปทำการสืบค้นเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าเสีย”“พ่ะย่ะค่ะ!” เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้รับผิดชอบนั้นพลันก้มหน้าลงด้วยความละอายใจเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงหันไปกล่าวกับพัศดีคนอื่น ๆ ที่ยืนเนื้อตัวสั่นเทาว่า“ภายในสามวันนี้ หากผู้ใดยอมสารภาพออกมาแต่โดยดี จักได้รับโทษสถานเบา หากว่าทำการสืบหาตัวมาได้เมื่อใดนั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 941

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมาพบกับถานไถเหยี่ยนอีกครั้ง แววตาของเขายังคงสงบเงียบดังเดิม ทว่า มิได้ไร้ชีวิตชีวาเหมือนดังแต่ก่อนอีกด้วย“ถานไถเหยี่ยน เจ้ารู้หรือไม่ว่า แคว้นตงซานได้ส่งราชทูตมาขอพาตัวเจ้ากลับไปจัดการด้วย?”ถานไถเหยี่ยนพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉยเมย“คิดไว้แล้วว่าจักต้องเป็นเช่นนี้“พวกเขาหาได้มาเพื่อข้าไม่ แต่มาเพื่อ ‘ใยแมงมุม’ ของตระกูลถานไถต่างหาก”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีท่าเคร่งขรึมไปในทันที“เจ้าจึงคิดใช้ประโยชน์จากคนทุกคน รวมไปถึงแคว้นตงซานด้วยหรือ”ถานไถเหยี่ยนพลันหัวเราะเยาะตนเองออกมา“ดังนั้น ชีวิตนั้นแสนสั้น อย่างไรย่อมต้องถูกผู้อื่นสังหารตามอำเภอใจ”เขารู้ดีว่า หากตนเองกลับไปถึงแคว้นตงซานเมื่อใดนั้น จุดจบคงมิได้ดีนักทว่า เขาหาได้กลัวตายไม่ ทั้งยังมองดูความตายอย่างไม่ยี่หระอีกด้วยเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยตรงเข้าประเด็นในทันที“เจ้าคิดดีแล้วหรือ”เรียวคิ้วดวงตาที่งดงามของถานไถเหยี่ยน พลันเผยให้เห็นท่าทีเด็ดขาดออกมาหากเขายังตัดสินใจไม่ได้ เขาคงมิมาขอพบนางเช่นนี้“กระหม่อมเต็มใจที่จะช่วยให้หนานฉีรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ” พูดจบ เขาพลันโค้งกายคำนับเฟิ่งจิ่วเหยียนในทันที

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 940

    ราชทูตหลี่หลิงแสดงสีหน้าประหลาดใจทันทีทำการค้า?นี่เป็นการบังคับฝืนใจกันโดยแท้แคว้นตงซานพวกเขาไม่เคยทำการค้ากับแคว้นอื่นมาก่อนทว่าหากไม่ยินยอม เกรงว่าฮ่องเต้ฉีจักต้องให้พวกเขาชดเชยด้วยการยกดินแดนให้เป็นแน่!ต้องโทษที่เขาผิดพลาดเพราะคำพูด จนสร้างปัญหาเช่นนี้!หลี่หลิงรู้สึกเสียใจอย่างมาก พร้อมกับมองไปทางหยวนจั้นที่อยู่ข้างกันหยวนจั้นพยักหน้าเบา ๆหลังจากหลี่หลิงได้รับอนุญาต ถึงได้ก้าวไปข้างหน้า“เรื่องทำการค้า ถือเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองแคว้น กระหม่อมจะนำเจตนารมณ์นี้กราบทูลต่อกษัตริย์ของกระหม่อม!”เวลายิ่งนานอุปสรรคยิ่งมาก เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีทางให้โอกาสพวกเขาได้กลับคำ“ฝ่าบาท แม้จริงอยู่ที่ว่าเรื่องดี ๆ มักจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่หม่อมฉันกลัวว่าเวลาจะไม่คอยท่า มิสู้ให้คนร่างหนังสือข้อตกลงขึ้นมา แล้วให้ราชทูตลงนาม จากนั้นค่อยนำกลับไปยังแคว้นตงซาน พร้อมกับออกสาส์นตราตั้งอย่างเป็นทางการ?”ราชทูตถูกส่งมา ก็ถือเป็นตัวแทนของฮ่องเต้นั่นเอง ทันทีที่ลงนาม ก็จะไม่มีทางกลับคำเซียวอวี้ยิ้มน้อย ๆ และกุมมือเฟิ่งจิ่วเหยียนต่อหน้าฝูงชน“นับว่าฮองเฮาวิเคราะห์ได้รอบคอบ“ใครก็ได้ ไปร่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 939

    แคว้นตงซานมีราชทูตสองคนหลี่หลิงผู้นั้นตกหลุมพรางกับคำพูด เมื่อเห็นว่าทำให้แคว้นตนกำลังตกอยู่ในอันตราย เหงื่อก็เริ่มผุดออกมาเต็มใบหน้าเขามองไปทางราชทูตอีกผู้หนึ่ง---หยวนจั้นชายหนุ่มรูปร่างซูบผอม ท่าทางดูเหมือนใจเย็น ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ แทบจะมิได้เอ่ยสิ่งใดเลยในยามนี้ เขาเอ่ยอย่างช้า ๆ “กระหม่อมได้ยินว่า ครั้งนี้หนานฉีเอาชนะแต่ละแคว้นได้ เป็นเพราะมีตัวช่วยอย่าง ‘ใยแมงมุม’ ที่ดัดแปลงโดยตระกูลตงฟาง ทว่าการค้นพบ ‘ใยแมงมุม’ ก็เป็นความดีความชอบของถานไถเหยี่ยนเช่นกัน“ดังนั้น กระหม่อมสงสัยว่า ถานไถเหยี่ยนยุยงให้เกิดข้อพิพาท ก็เพื่อล่อลวงกองกำลังของแต่ละแคว้นมาที่หนานฉี ทำให้ง่ายต่อการที่จะทำลายแต่ละแคว้น“มิเช่นนั้นจะทำไปเพื่อเหตุใด ตามหลักเหตุผล แคว้นท่านจักต้องเกลียดชังถานไถเหยี่ยนจนเข้ากระดูก ทว่าตอนนี้แค่เพียงจับเขาคุมขังไว้?“หากมองจากสิ่งนี้ แคว้นท่านไม่ยินยอมที่จะมอบถานไถเหยี่ยนให้ในตอนนี้ ก็เพื่อต้องการจะปกป้องชีวิตถานไถเหยี่ยน”ขุนนางหนานฉีเริ่มโมโห“ช่างพูดจาใส่ร้ายอย่างชั่วช้า! คนเลวนั้นกล่าวโทษคนอื่นเพื่อปกปิดความผิดตน!”“เมื่อครู่ยังพูดว่าถานไถเหยี่ยนเป็นคนของแคว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 938

    ราชทูตแคว้นตงซานมาพร้อมกับผ้าทอและอาชา เริ่มจากปฏิบัติด้วยความสุภาพก่อน“แคว้นตงซานเราไม่เคยเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างแคว้น ครั้งนี้แต่ละแคว้นมาล้อมโจมตีหนานฉี ฮ่องเต้พวกเราก็ได้ยินข่าวลือเหล่านี้เช่นกัน ต่างพูดกันว่า ข้อพิพาทนี้ ต้นเหตุมาจากการยุยงของแคว้นตงซาน”ราชทูตแคว้นอื่นต่างมองหน้ากันราชทูตแคว้นตงซานผู้นี้หมายความว่าอย่างไร? คำนึงแต่ตนเองไม่สนใจผู้อื่นรึ?ในตอนแรก มิใช่แคว้นตงซานพวกเขาส่งคนมาพูดหว่านล้อมว่า หากร่วมมือกับพวกเขาโจมตีหนานฉี จะแบ่งดินแดนหนานฉีให้หรอกหรือ!หลี่หลิงราชทูตแคว้นตงซานกล่าวต่อ“หลังจากสืบสวนอยู่หลายทาง พวกเราถึงสืบพบว่า เดิมทีแล้ว ทั้งหมดนี้ถานไถเหยี่ยนเป็นคนทำ“เขาหลอกลวงอวดอ้าง จนได้รับความไว้วางพระทัยจากฝ่าบาทของเรา ถูกยกย่องให้เป็นราชครู และถือเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของแคว้นตงซานด้วย “นึกไม่ถึงว่า เขายังไม่พึงพอใจกับสิ่งนี้ เจตนาจะหลอกล่อกษัตริย์ของเรา ให้กษัตริย์ของเราโจมตีหนานฉี เพื่อจะได้เป็นมหาอำนาจ กษัตริย์ของเรามีสติ จึงไม่หลงกลการยั่วยุ“นึกไม่ถึงว่าเขายังไม่ยอมหยุดความคิดชั่วร้าย ยังแอบตระเวนไปยังแต่ละแคว้น เพื่อยุยงให้แต่ละแคว้นล้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 937

    เรื่องส่งคืนกองทัพอินทรีเหินให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียน ตอนที่นางเสร็จสิ้นจากการไปเป็นราชทูตที่แคว้นซีหนี่ว์ เซียวอวี้ก็เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ทว่าภายหลังเจอกับสงครามครั้งใหญ่ เรื่องนี้จึงถูกพักไว้ก่อนเซียวอวี้เป็นฝ่ายเริ่มพูดเรื่องนี้ ซ้ำยังเตรียมการทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี ถือว่ามีความจริงใจเต็มเปี่ยมโดยมิต้องสงสัยทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับเป็นกังวล“เรื่องนี้ ราชสำนักรู้หรือไม่เพคะ?”เซียวอวี้สวมกอดนางจากทางด้านหลัง ราวกับได้ครอบครองทั้งใต้หล้า“เราเคยเรียกพบขุนนางคนสำคัญหลายคนในราชสำนักตั้งแต่แรก เพื่อบอกเรื่องนี้กับพวกเขา พวกเขาต่างก็คิดว่า เราสมควรทำเช่นนี้“วันนี้ประชุมราชกิจ เราก็ประกาศกับเหล่าขุนนางอย่างเป็นทางการแล้ว ทว่าก็มีบางคนคัดค้านเช่นกัน แต่เราพูดเพียงว่า ‘ตอนนี้หนานฉีต้องโจมตีกับแคว้นอื่น ผู้ใดที่คัดค้าน เราจะให้ออกไปสนามรบ’ ดังนั้น พวกเขาก็พากันเงียบกริบ“เจ้าเห็นหรือไม่ เรื่องนี้มิได้ยากเย็น”ถึงแม้เขาเอ่ยออกมาดูเหมือนจะง่ายดาย เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับรู้ว่า เพื่อตราคำสั่งทหาร เขาต้องทุ่มเทความพยายามอย่างมากขุนนางใหญ่ในราชสำนักเหล่านั้น โดยเฉพาะขุนนางอาวุโส แต่ละคนมีฝีปา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 936

    เซียวอวี้กับเซียวฉีเริ่มจะขัดแย้งกันเขานึกไม่ถึงว่า เซียวฉีจะใส่ร้ายเขาต่อหน้าจิ่วเหยียนเช่นนี้“วาดภาพ” อะไรกัน เขาจำสิ่งใดมิได้เลย!เซียวฉีเล่าออกมาเป็นเรื่องเป็นราว“ตอนที่เขาออกไปเที่ยวเล่นกับเหล่าเสด็จพี่ อาภรณ์ของทุกคนเรียบร้อยกันหมด ทว่าของเขามักจะทำขาดอยู่เสมอ ซ้ำยังขาดตรงส่วนก้นด้านหลัง จนเห็นกางเกงลายดอกไม้ยามเหมันต์ และเพราะกลัวเสด็จพ่อจะทรงดุ จึงต้องเดินถอยหลัง“พอโตขึ้นมาหน่อย เขาก็ชอบไปเล่นกับสาวน้อยนางกำนัล...”“พูดจาเพ้อเจ้อ! เราเคยทำเรื่องแบบนั้นที่ไหนกัน!” เซียวอวี้ไม่ยอมรับ จึงตะโกนเรียกเฉินจี๋ให้เข้ามาทันที เพื่อใช้กำลังขับไล่เซียวฉีออกจากตำหนักหย่งเหอองค์หญิงใหญ่มิยอมให้เซียวอวี้อยู่อย่างสงบ ขณะถูกพาตัวไป นางยังพยายามจะหันกลับมา พร้อมตะโกน“สาวน้อยนางกำนัลไม่ยอมเล่นกับท่าน ท่านยังแกล้งนอนคว่ำอยู่บนพื้น ฮองเฮา เขายังชักดิ้นชักงอด้วย!”สีหน้าของเซียวอวี้หม่นคล้ำราวกับน้ำหมึก“ปิดปากนางไว้!”ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน เฉินจี๋ตื่นตระหนกจนมิรู้จะใช้วิธีใด จึงรีบทำให้ตัวคนหมดสติทันทีก่อนองค์หญิงใหญ่จะหมดสติ ก็ยังเหลือกตาขาวในตำหนักชั้นในขณะที่เซียว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 935

    ราชทูตจากแคว้นต่าง ๆ มาโดยพร้อมเพรียง และเข้าพักในโรงพักแรมเหล่าราษฎรได้ยินเรื่องนี้ ภายใต้แรงผลักดันจากความโกรธแค้น จึงรวมตัวกันไปก่อจลาจลที่โรงพักแรม เพื่อต้องการจะสั่งสอนกลุ่มราชทูตเหล่านั้นยังมีชาวยุทธภพบางส่วน อาศัยวิทยายุทธ์อันแข็งแกร่ง พยายามบุกเข้าไปในโรงพักแรมพวกเขาจับราชทูตมัดไว้ และพาออกไปด้านนอก เพื่อให้เหล่าราษฎรได้ขว้างปาผักเน่า และด่าประณามเหล่าราชทูตมิกล้าต่อต้าน และมิอาจต่อต้านได้ด้วยราชทูตของต้าเซี่ยมิอาจทนต่อความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้“ราษฎรเลวทราม! ราษฎรเลวทราม!! ข้าเป็นราชทูต พวกเจ้าทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้!”สิ่งที่เขาได้รับจากการขัดขืน คือฝ่ามือของเหล่าราษฎรเป็นเพราะคนเหล่านี้ ที่เกือบจะทำให้หนานฉีต้องล่มสลายพวกเขายังมีหน้ามาหนานฉีอีกหรือ?เหล่าราษฎรระบายความโกรธอยู่พักหนึ่ง ไม่นานก็ถูกทางการปราบปราม เหล่าราชทูตจึงได้รับการช่วยเหลือ แต่ละคนใบหน้าปูดบวมเขียวช้ำ สติมึนงงณ หอสุราใกล้เคียง ภายในห้องส่วนตัวบนชั้นสองราชทูตสองคนของแคว้นตงซานยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้านนอกโรงพักแรมหนึ่งในนั้นรู้สึกโชคดี“ท่านแม่ทัพหยวน โชค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 934

    เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเซียวอวี้ตื่นขึ้นมา ก็ไม่เห็นเงาของเฟิ่งจิ่วเหยียนแล้วคงจะตื่นเช้าไปฝึกยุทธ์อีกเป็นแน่เซียวอวี้เปลี่ยนอาภรณ์ด้วยตนเอง มิได้ให้ผู้ใดมารับใช้หลิวซื่อเหลียงยกอ่างน้ำร้อนเข้ามา “ฝ่าบาท ฮองเฮาทรงเสด็จไปที่คุกเทียนเหลาตั้งแต่เช้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้ขมวดคิ้วมุ่นนางไปคุกเทียนเหลาด้วยเหตุใด?ณ คุกเทียนเหลาระหว่างเฟิ่งจิ่วเหยียนกับถานไถเหยี่ยน มีเพียงประตูคุกคั่นอยู่หนึ่งบานถานไถเหยี่ยนนั่งสงบนิ่งอยู่ข้างกำแพง บนกำแพงที่อยู่ด้านหลังยังสลักภาพ “ใยแมงมุม” ไว้ ภายใต้แสงเงา ยิ่งขับเน้นให้เขาดูเยือกเย็นเป็นพิเศษ“ฮองเฮาเสด็จมาเอง คิดว่าคงมิได้มาเพื่อพูดคุยความหลังกับข้ากระมัง”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูดุดัน“แคว้นตงซานส่งราชทูตมาที่หนานฉี ก็เพื่อช่วยเหลือเจ้า”สีหน้าของถานไถเหยี่ยนดูเป็นปกติ“จะช่วยข้า หรือจะสังหารข้า ก็ไม่ต่างกัน”ดูเหมือนเขาจะถอดใจแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนถามขึ้นในทันที “อาจารย์เต็มใจจะอยู่ที่หนานฉีหรือไม่”ถานไถเหยี่ยนรู้สึกประหลาดใจ หลังจากตะลึงงันอยู่ชั่วขณะ ก็เงยหน้าขึ้นมองนางเห็นนางมีสีหน้าจริงจัง ไม่เหมือนพูดหยอกล้อ“ฮองเฮา ทรงมิอ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status