ในขณะที่องค์ชายอิ๋งเฟิ่งถึงกับนิ่งงันไปทันที ครั้นทอดพระเนตรพบบุรุษร่างสูงใหญ่กำยำในเครื่องแบบราชองครักษ์ของพระเชษฐารัชทายาท หลายสิ่งหลายอย่างทำให้อนุชาโฉดชะงักงันไปชั่วขณะ ด้วยรูปร่างที่ใหญ่โต หากแต่องอาจ ผึ่งผาย มิหนำซ้ำรูปโฉมงดงามหล่อเหลาอย่างยิ่งยวดไม่เคยพานพบบุรุษที่มีลักษณะเช่นนี้มาก่อน ทว่ากลับทรงมีความรู้สึกคุ้นเสียงของราชองครักษ์ตรงพระพักตร์เสียนี่กระไร แลดูเส้นเสียงคล้ายพระเชษฐาปีศาจของพระองค์เสียเหลือเกิน “สะ... เสียง... เสียงของเจ้า... เสียงเจ้า!” องค์ชายโฉดได้แต่รับสั่งแต่ถ้อยประโยคเดิม “เสียงของกระหม่อมเป็นเยี่ยงไรกระนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายปีศาจรับสั่งถามกลับไป พระเนตรคู่สวยจับจ้องอนุชาต่างพระมารดาอยู่เช่นนั้น ด้วยล่วงรู้ดีว่าอิ๋งเฟิ่งไม่สามารถจดจำพระสุรเสียงของพระองค์ได้อย่างแน่นอน เพราะอีกฝ่ายมีโอกาสได้พานพบพระเชษฐาสองครั้งเท่านั้นและสนทนาเพียงไม่กี่ถ้อยประโยค “เหตุใดคนผู้นี้แลดูคล้ายอิ๋งหยางเสียนี่กระไร รูปร่างสูงใหญ่กำยำใกล้เคียงกันมาก อีกทั้งเส้นเสียงฟังคราแรกก็เหมือนจะใกล้เคียงกันเลยทีเดียว หากแต่จะเป็นไปได้เยี่ยงไรกัน ในเมื่อคนผู้นั้นต้องสวมหน้ากากปิดบังใ
บริเวณตำหนักชั้นในภายในห้องพัก ร่างระหงประคองพระวรกายใหญ่ลงมาประทับนั่งลงบนตั่งภายในตำหนักชั้นใน ซึ่งจัดเตรียมเป็นสถานที่พักให้กับเธอและพี่หยางหยาง บนโต๊ะกลางตัวเตี้ยเต็มไปด้วยอาหารมากมาย ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเล่นเอาแม่สาวน้อยทิ้งพี่ชายตัวโตให้นั่งลงเองทันที พร้อมพาตัวเองไปนั่งลงไปนั่งบนตั่งมองอาหารเลิศรสนานาชนิดๆ วางอยู่ตรงหน้าดาษดื่น “โอ้โฮ! อาหารตั้งมากมายจะกินหมดไหมเนี่ย” หญิงสาวเอ่ยออกมาทันที “เจ้ากินไม่หมดแต่ข้ากินหมดเพราะตอนนี้ข้าหิวมากรู้ไหม!” องค์ชายปีศาจรับสั่งออกไปตามความรู้สึกของพระองค์ พร้อมทอดพระเนตรเหล่านางกำนัลกำลังยกเหยือกเหล้าทยอยเข้ามาถึงห้าเหยือกเลยทีเดียว “ที่ตำหนักขององค์ชายมีเหล้าเลิศรสสะสมอยู่มิใช่น้อย ทรงมีรับสั่งเอาไว้ว่าให้จัดหาให้ทั้งสองท่านอย่าให้ขาดและต้องครบครัน เหล้าทั้งห้าเหยือกนี้ผ่านการหมักบ่มมานานกว่าห้าสิบปี บางเหยือกถูกตักออกมาจากไหเหล้าใบใหญ่ที่หมักเอาไว้นับร้อยปีก็มีเจ้าค่ะ” นางกำนัลผู้นั้นรายงานละเอียดยิบ ท่ามกลางความพึงพอพระทัยขององค์ชายปีศาจ “เข้า
ในขณะที่คนเป็นพี่ชายทั้งดีใจและห่วงคนเป็นน้องมากยิ่งไปกว่าเดิมหลายเท่า ด้วยตอนนี้น้องน้อยหาใช่น้องชายหน้าหวานอีกต่อไปแล้วแต่กลับกลายเป็นสตรีสาวแสนสวยและหน้าหวานกลับมาแทนที่ เสียงอ้อแอ้ของน้องนางก็เริ่มดังทวีขึ้นทุกขณะ ด้วยเพราะเสียงนั้นเป็นเสียงสตรีพลางทอดพระเนตรเหล้าดอกท้อหมื่นลี้ที่เหลืออยู่ก้นเหยือก“ดื่มเข้าไปได้ยังไงเกือบหมดเหยือกเช่นนี้ แถมอันอันมิเคยลิ้มลองเหล้าเลยสักครา เมามายขนาดหนักเข้าให้แล้ว” รับสั่งพร้อมรีบคว้าห่อผ้าของพระองค์และน้องน้อยรวมไปถึงล่วมยา รีบนำมาผูกยึดติดไว้กับด้านหลังก่อนจะตรงเข้าอุ้มน้องน้อยจนลอยละลิ่วขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักของเจ้าตัวเป็นการใหญ่“ไปเล่นกันเถอะเจี๋ยเจี๋ย! เล่นซ่อนหากันดีกว่า” หญิงสาวเอ่ยถึงพี่สาวฝาแฝดที่สิ้นชีพไปอย่างน่าเวทนา ก่อนที่จู่ๆ ก็ตะโกนออกมาอีก“จางเจี๋ยอี้ จ้างให้ก็จับข้าไม่ได้! มาไล่จับข้าสิ! มา! มา! ท่านพี่มาจับข้า” หญิงสาวละเมอเรียกชื่อพี่สาวฝาแฝดไม่ขาดสายในขณะที่คนกำลังอุ้มอยู่ในขณะนั้นได้ยินเสียงละเมอดังกล่าวทุกอย่าง พระองค์ทรงคลับคล้ายว่าจ
รุ่งอรุณเช้าวันใหม่ห้องพักองค์ชายปีศาจแสงแห่งดวงตะวันเริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ เหล่านกกาเริ่มโผบินสู่เวหาแหวกว่ายไปทั่วพื้นผิวพสุธา พร้อมเสียงร้องแผดกึกก้องดังไปทั่วบริเวณในยามนี้องค์ชายอิ๋งหยางทรงรู้สึกพระองค์และตื่นบรรทมขึ้นมาลุกประทับนั่ง พร้อมทอดพระเนตรน้องสาวคนสวยที่นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่แต่เพียงผู้เดียว ดีที่ทรงกอดนางเอาไว้ทั้งคืนจึงทำให้ได้ไออุ่นจากกายสาวช่วยบรรเทาความหนาวเย็นในเวลาค่ำคืนที่ผ่านมาได้“โอ้โฮ!เพิ่งรู้ว่าเจ้านอนดิ้นแรงถึงเพียงนี้ ทำเอาข้าจุกไปหลายคราเลยทีเดียว” รับสั่งพลางทอดพระเนตรดวงหน้างามหมดจดที่กำลังหลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวขนตางามงอนยาวเป็นแพสวยกระเพื่อมขึ้นและลงอยู่บ่อยครั้ง เป็นสัญญาณบ่งบอกให้ล่วงรู้ว่าน้องนางกำลังเริ่มรู้สึกตัว ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ครั้นทรงทอดพระเนตรตัวชุดของนางกำนัลส่วนที่เหลือ ถูกคนงามดึงออกจากร่างไปตอนไหนก็มิอาจรู้ได้ ทำให้ทั่วร่างเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มพันไว้รอบกายเท่านั้น ครั้นหันกลับมาสำรวจพระองค์เอง ยังทรงอยู่
ท่ามกลางความเข้าใจที่ต่างคนล่วงรู้หัวใจของกันและกัน ด้านนอกตำหนักชั้นในขบวนของนางกำนัลจากตำหนักองค์ชายสามกำลังเดินตรงมาที่ห้องพักทางทิศตะวันออก ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องพักซึ่งถูกจัดเตรียมไว้ให้กับขันทีหน้าหวานนั่นเองปัง... ปัง... ปัง เสียงเคาะประตูดังขึ้นอยู่ที่ห้องข้างเคียง“ท่านขันทีน้อยตื่นหรือยังองค์ชายทรงตื่นบรรทมแล้ว มีรับสั่งให้ท่านเข้าเฝ้าด่วน” นางกำนัลประจำพระตำหนักเรียกอยู่ตรงหน้าห้องข้างเคียงในขณะที่เจ้าตัวกำลังถูกองค์ชายปีศาจสวมกอดเอาไว้แนบอกอยู่ในขณะนั้น ทั่วกายมีเพียงผ้าห่มพันเอาไว้“แย่แล้วพี่หยางเสียงบุรุษของข้ามลายหายไปสิ้น จะทำเช่นไรต่อไปดีองค์ชายสามก็ให้คนมาตามแล้ว”ครั้นองค์ชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้นทรงไม่เข้าพระทัยที่คนงามของพระองค์กล่าวออกมาแต่อย่างใด“เหตุใดเจ้าจึงเป็นกังวล ท่านตาเตรียมยาเอาไว้ให้มากมายมิใช่หรอกรึ สามารถกินได้อีกนานนับปีแล้วเหตุใดใยไม่รีบนำมากินเสีย” รับสั่งถามกลับไป“เอามากินไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะทันทีที่ข้าดื่มเหล้าเข้าไปเส้นเสียงของบุรุษก็ถูกทำลายไปหมดสิ้น ตัวยา
ดวงพิฆาตในรอบสามพันปีจะปรากฏเพียงหนึ่งและจะเกิดขึ้นเฉพาะบุรุษพิฆาตทุกชีวิตทันทีที่พานพบหน้าพิฆาตดวงเมืองล่มแคว้นจนถึงกาลล่มสลายอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อสามพันปีต่อมาดวงพิฆาตกำหนดให้เป็นอิสตรีคราใดเมื่อดวงพิฆาตทั้งสองได้โคจรมาพานพบกันจากดวงพิฆาตจบทุกชีวิตรอบข้างให้สูญสิ้นกลับแปรเปลี่ยนกลายเป็นดวงจักรพรรดิและรักนี้ไม่มีวันตายเกิดขึ้นกับคนทั้งคู่คริสต์ศักราช 2018มณฑลส่านซี ณ นครซีอานเมืองซีอาน ตั้งอยู่ในมณฑลส่านซีเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เรียกได้ว่าเป็นเมืองประวัติศาสตร์โลกอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีชื่อเสียงระดับโลก ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศที่ต้องการอยากจะสัมผัสอารยธรรมในอดีตของจีน ต่างเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองซีอานด้วยกันทั้งสิ้น อีกทั้งยังเป็นเมืองซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดในตะวันตกเฉียงเหนือของจีนอีกด้วย และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เมืองซีอานเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกท่ามกลางตึกสูงระฟ้าในเขตนครซีอาน ยังปรากฏกำแพงเมืองโบราณซึ่งถือได้ว่าสมบูรณ์ที่สุดของจีน มีความยาวโดยรวมถึง 13.7 กิโลเมตร และมีทางเด
ในขณะเดียวกันยุคอดีต ยุคชุนชิวหรือยุควสันตสารท เป็นยุคสมัยหนึ่งในประวัติศาสตร์ของจีน โดยอยู่ในช่วง 770 จนถึงราว 400 ปีก่อนคริสตกาล ยุคชุนชิว คือช่วงเวลาที่แผ่นดินจีนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ละแคว้นและหัวเมืองต่าง ๆ ต่างเปิดศึกและแย่งชิงอำนาจกันเพื่อหมายที่จะเป็นใหญ่ในแผ่นดินโดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสงครามในยุคชุนชิวนั้น เกิดขึ้นจากการปกครองแผ่นดินภายใต้กษัตริย์ของราชวงศ์โจว ซึ่งปกครองในระหว่าง 1,046 จนถึง 256 ปีก่อนคริสตกาล ที่มีความอ่อนแอและไร้อำนาจ ทำให้ไม่สามารถควบคุมบรรดาหัวเมืองและแคว้นต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้การนำของราชวงศ์โจวได้ ท้ายที่สุด บรรดาหัวเมืองและแว่นแคว้นต่าง ๆ ก็ประกาศแยกตัวจากราชวงศ์โจว และเปิดศึกต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจกัน โดยที่ไม่เกรงกลัวต่อราชวงศ์โจวอีกต่อไป แผ่นดินจีนในขณะนั้น จึงแตกแยกออกเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อย 200กว่าแคว้น ถึงขั้นที่ว่าผู้นำของบางแคว้น ประกาศตั้งตัวเองเป็น "อ๋อง" หรือกษัตริย์ซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากับกษัตริย์ของราชวงศ์โจว กันเลยทีเดียวบริเวณเขตชายแดนแคว้นต้าเหลียงภายในเทือกเขาสูงเสียดฟ้า เต็มไปด้วยซากศพของชายฉกรรจ์นอนตายกลาดเกลื่อนไปทั่วพื้นที่ราบส
คริสต์ศักราช 2018พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มณฑลส่านซีพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเจดีย์ห่าน Giant Wild ในเมืองโบราณซีอานในมณฑลส่านซีประเทศจีนเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ของรัฐขนาดใหญ่ ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด ภายในพิพิธภัณฑ์มีสิ่งของกว่าสามแสนเจ็ดหมื่นชิ้น รวมทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนังภาพวาดเครื่องปั้นดินเผาเหรียญตลอดจนวัตถุที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ทองคำและเงิน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1983 ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2001 และมีลักษณะของการสร้างรูปแบบสถาปัตยกรรมของราชวงศ์ถังพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ส่านซีแห่งนี้มีพื้นที่หกหมื่นห้าพันตารางเมตร มีพื้นที่อาคารห้าหมื่นห้าพันหกร้อยตารางเมตร ห้องเก็บพระธาตุทางวัฒนธรรมแปดพันตารางเมตร ห้องโถงนิทรรศการของหนึ่งหมื่นหนึ่งพันตารางเมตร และคอลเลกชันสามแสนเจ็ดหมื่นวัตถุ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ Tang โดยมี “ห้องโถงอยู่ตรงกลางอาคารที่มีชั้นในหลายมุม” มีความสง่างามและใหญ่โต โออ่าด้วยการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ซึ่งแสดงถึงประเพณีพื้นบ้านและลักษณะเฉพาะของท
ท่ามกลางความเข้าใจที่ต่างคนล่วงรู้หัวใจของกันและกัน ด้านนอกตำหนักชั้นในขบวนของนางกำนัลจากตำหนักองค์ชายสามกำลังเดินตรงมาที่ห้องพักทางทิศตะวันออก ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องพักซึ่งถูกจัดเตรียมไว้ให้กับขันทีหน้าหวานนั่นเองปัง... ปัง... ปัง เสียงเคาะประตูดังขึ้นอยู่ที่ห้องข้างเคียง“ท่านขันทีน้อยตื่นหรือยังองค์ชายทรงตื่นบรรทมแล้ว มีรับสั่งให้ท่านเข้าเฝ้าด่วน” นางกำนัลประจำพระตำหนักเรียกอยู่ตรงหน้าห้องข้างเคียงในขณะที่เจ้าตัวกำลังถูกองค์ชายปีศาจสวมกอดเอาไว้แนบอกอยู่ในขณะนั้น ทั่วกายมีเพียงผ้าห่มพันเอาไว้“แย่แล้วพี่หยางเสียงบุรุษของข้ามลายหายไปสิ้น จะทำเช่นไรต่อไปดีองค์ชายสามก็ให้คนมาตามแล้ว”ครั้นองค์ชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้นทรงไม่เข้าพระทัยที่คนงามของพระองค์กล่าวออกมาแต่อย่างใด“เหตุใดเจ้าจึงเป็นกังวล ท่านตาเตรียมยาเอาไว้ให้มากมายมิใช่หรอกรึ สามารถกินได้อีกนานนับปีแล้วเหตุใดใยไม่รีบนำมากินเสีย” รับสั่งถามกลับไป“เอามากินไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะทันทีที่ข้าดื่มเหล้าเข้าไปเส้นเสียงของบุรุษก็ถูกทำลายไปหมดสิ้น ตัวยา
รุ่งอรุณเช้าวันใหม่ห้องพักองค์ชายปีศาจแสงแห่งดวงตะวันเริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ เหล่านกกาเริ่มโผบินสู่เวหาแหวกว่ายไปทั่วพื้นผิวพสุธา พร้อมเสียงร้องแผดกึกก้องดังไปทั่วบริเวณในยามนี้องค์ชายอิ๋งหยางทรงรู้สึกพระองค์และตื่นบรรทมขึ้นมาลุกประทับนั่ง พร้อมทอดพระเนตรน้องสาวคนสวยที่นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่แต่เพียงผู้เดียว ดีที่ทรงกอดนางเอาไว้ทั้งคืนจึงทำให้ได้ไออุ่นจากกายสาวช่วยบรรเทาความหนาวเย็นในเวลาค่ำคืนที่ผ่านมาได้“โอ้โฮ!เพิ่งรู้ว่าเจ้านอนดิ้นแรงถึงเพียงนี้ ทำเอาข้าจุกไปหลายคราเลยทีเดียว” รับสั่งพลางทอดพระเนตรดวงหน้างามหมดจดที่กำลังหลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวขนตางามงอนยาวเป็นแพสวยกระเพื่อมขึ้นและลงอยู่บ่อยครั้ง เป็นสัญญาณบ่งบอกให้ล่วงรู้ว่าน้องนางกำลังเริ่มรู้สึกตัว ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ครั้นทรงทอดพระเนตรตัวชุดของนางกำนัลส่วนที่เหลือ ถูกคนงามดึงออกจากร่างไปตอนไหนก็มิอาจรู้ได้ ทำให้ทั่วร่างเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มพันไว้รอบกายเท่านั้น ครั้นหันกลับมาสำรวจพระองค์เอง ยังทรงอยู่
ในขณะที่คนเป็นพี่ชายทั้งดีใจและห่วงคนเป็นน้องมากยิ่งไปกว่าเดิมหลายเท่า ด้วยตอนนี้น้องน้อยหาใช่น้องชายหน้าหวานอีกต่อไปแล้วแต่กลับกลายเป็นสตรีสาวแสนสวยและหน้าหวานกลับมาแทนที่ เสียงอ้อแอ้ของน้องนางก็เริ่มดังทวีขึ้นทุกขณะ ด้วยเพราะเสียงนั้นเป็นเสียงสตรีพลางทอดพระเนตรเหล้าดอกท้อหมื่นลี้ที่เหลืออยู่ก้นเหยือก“ดื่มเข้าไปได้ยังไงเกือบหมดเหยือกเช่นนี้ แถมอันอันมิเคยลิ้มลองเหล้าเลยสักครา เมามายขนาดหนักเข้าให้แล้ว” รับสั่งพร้อมรีบคว้าห่อผ้าของพระองค์และน้องน้อยรวมไปถึงล่วมยา รีบนำมาผูกยึดติดไว้กับด้านหลังก่อนจะตรงเข้าอุ้มน้องน้อยจนลอยละลิ่วขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักของเจ้าตัวเป็นการใหญ่“ไปเล่นกันเถอะเจี๋ยเจี๋ย! เล่นซ่อนหากันดีกว่า” หญิงสาวเอ่ยถึงพี่สาวฝาแฝดที่สิ้นชีพไปอย่างน่าเวทนา ก่อนที่จู่ๆ ก็ตะโกนออกมาอีก“จางเจี๋ยอี้ จ้างให้ก็จับข้าไม่ได้! มาไล่จับข้าสิ! มา! มา! ท่านพี่มาจับข้า” หญิงสาวละเมอเรียกชื่อพี่สาวฝาแฝดไม่ขาดสายในขณะที่คนกำลังอุ้มอยู่ในขณะนั้นได้ยินเสียงละเมอดังกล่าวทุกอย่าง พระองค์ทรงคลับคล้ายว่าจ
บริเวณตำหนักชั้นในภายในห้องพัก ร่างระหงประคองพระวรกายใหญ่ลงมาประทับนั่งลงบนตั่งภายในตำหนักชั้นใน ซึ่งจัดเตรียมเป็นสถานที่พักให้กับเธอและพี่หยางหยาง บนโต๊ะกลางตัวเตี้ยเต็มไปด้วยอาหารมากมาย ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเล่นเอาแม่สาวน้อยทิ้งพี่ชายตัวโตให้นั่งลงเองทันที พร้อมพาตัวเองไปนั่งลงไปนั่งบนตั่งมองอาหารเลิศรสนานาชนิดๆ วางอยู่ตรงหน้าดาษดื่น “โอ้โฮ! อาหารตั้งมากมายจะกินหมดไหมเนี่ย” หญิงสาวเอ่ยออกมาทันที “เจ้ากินไม่หมดแต่ข้ากินหมดเพราะตอนนี้ข้าหิวมากรู้ไหม!” องค์ชายปีศาจรับสั่งออกไปตามความรู้สึกของพระองค์ พร้อมทอดพระเนตรเหล่านางกำนัลกำลังยกเหยือกเหล้าทยอยเข้ามาถึงห้าเหยือกเลยทีเดียว “ที่ตำหนักขององค์ชายมีเหล้าเลิศรสสะสมอยู่มิใช่น้อย ทรงมีรับสั่งเอาไว้ว่าให้จัดหาให้ทั้งสองท่านอย่าให้ขาดและต้องครบครัน เหล้าทั้งห้าเหยือกนี้ผ่านการหมักบ่มมานานกว่าห้าสิบปี บางเหยือกถูกตักออกมาจากไหเหล้าใบใหญ่ที่หมักเอาไว้นับร้อยปีก็มีเจ้าค่ะ” นางกำนัลผู้นั้นรายงานละเอียดยิบ ท่ามกลางความพึงพอพระทัยขององค์ชายปีศาจ “เข้า
ในขณะที่องค์ชายอิ๋งเฟิ่งถึงกับนิ่งงันไปทันที ครั้นทอดพระเนตรพบบุรุษร่างสูงใหญ่กำยำในเครื่องแบบราชองครักษ์ของพระเชษฐารัชทายาท หลายสิ่งหลายอย่างทำให้อนุชาโฉดชะงักงันไปชั่วขณะ ด้วยรูปร่างที่ใหญ่โต หากแต่องอาจ ผึ่งผาย มิหนำซ้ำรูปโฉมงดงามหล่อเหลาอย่างยิ่งยวดไม่เคยพานพบบุรุษที่มีลักษณะเช่นนี้มาก่อน ทว่ากลับทรงมีความรู้สึกคุ้นเสียงของราชองครักษ์ตรงพระพักตร์เสียนี่กระไร แลดูเส้นเสียงคล้ายพระเชษฐาปีศาจของพระองค์เสียเหลือเกิน “สะ... เสียง... เสียงของเจ้า... เสียงเจ้า!” องค์ชายโฉดได้แต่รับสั่งแต่ถ้อยประโยคเดิม “เสียงของกระหม่อมเป็นเยี่ยงไรกระนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายปีศาจรับสั่งถามกลับไป พระเนตรคู่สวยจับจ้องอนุชาต่างพระมารดาอยู่เช่นนั้น ด้วยล่วงรู้ดีว่าอิ๋งเฟิ่งไม่สามารถจดจำพระสุรเสียงของพระองค์ได้อย่างแน่นอน เพราะอีกฝ่ายมีโอกาสได้พานพบพระเชษฐาสองครั้งเท่านั้นและสนทนาเพียงไม่กี่ถ้อยประโยค “เหตุใดคนผู้นี้แลดูคล้ายอิ๋งหยางเสียนี่กระไร รูปร่างสูงใหญ่กำยำใกล้เคียงกันมาก อีกทั้งเส้นเสียงฟังคราแรกก็เหมือนจะใกล้เคียงกันเลยทีเดียว หากแต่จะเป็นไปได้เยี่ยงไรกัน ในเมื่อคนผู้นั้นต้องสวมหน้ากากปิดบังใ
พระตำหนักหรดี สองมือเรียวสวยกำลังจับจุดชี่หยางบนพระวรกายขององค์ชายอิ๋งเฟิ่งไปทั่วแผ่นหลังกว้างใหญ่อันเปลือยเปล่า ในขณะเจ้าของร่างนั้นไร้สิ้นความเจ็บปวดไปนานกว่าครึ่งชั่วยามแล้ว จึงเริ่มชะล่าใจว่าอาการดีขึ้นกว่าที่เคยเป็น “เจ้าจับจุดชี่หยางของข้ามานานกว่าครึ่งก้านธูปแล้วนะ ความรู้สึกที่เคยเจ็บปวดได้มลายหายไปหมดสิ้น เมื่อใดเล่าจะสามารถพลิกเปลี่ยนท่าได้บ้าง ข้าอยู่ในท่านี้มานานตั้งแต่เช้าจนนี่พระอาทิตย์ตกดินลงแล้วนะเจ้าหนุ่มหน้าสวย” รับสั่งเรียกขันทีหนุ่มน้อยในเครื่องแบบของนางกำนัลหลวง “กระหม่อมกราบทูลแล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะว่าจะต้องอยู่ในท่านี้สองชั่วยาม ห้ามพลิกเปลี่ยนเป็นอันขาด หาไม่แล้วต่อให้ล่วมยาของกระหม่อมมาถึงก็มิอาจทำให้พระองค์กลับมาพระดำเนินได้ดั่งเดิม จงเชื่อฟังคนรักษาเป็นการดี หาไม่แล้วจะต้องพิการหมดอนาคตไปในบัดดล” หญิงสาวขู่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง องค์ชายโฉดหันกลับมาทอดพระเนตรขันทีหน้าหวานทันทีที่ทรงได้ยินเช่นนั้น “เจ้าช่างหาญกล้าเจรจาตีฝีปากกับข้ายิ่งนักหนุ่มน้อย ดูจากใบหน้างดงามแล้วคะเนว่าอายุยังไม่ถึงยี่สิบปีเสียด้วยกระมัง ไม่คิดบ้างหรือไรว่าปากดีเช่นนี้จะตายก่อนที่จะมีโอ
ตำหนักข้าง เพียงชั่วอึดใจพระวรกายขององค์ชายปีศาจหมุนคว้างดั่งลูกข่างมาปรากฏอยู่ภายในตำหนักข้าง โดยใช้เวลาเพียงหนึ่งก้านธูปเท่านั้น วรองค์สูงใหญ่พระดำเนินเข้าไปภายในห้องนอนที่มีห่อผ้าของพระองค์และของน้องน้อยวางตั้งเคียงคู่เอาไว้ด้วยกันอยู่ในขณะนั้น สองพระกรรีบคว้าห่อผ้าทั้งสองเอาไว้อย่างรวดเร็ว พลางสำรวจหาหีบล่วมยาซึ่งภายในนั้นมีตัวยาและอุปกรณ์ในการรักษาพยาบาลของยุคปัจจุบัน “อันอันเอาล่วมยาไปรวมไว้ในหีบใหญ่หรือเปล่านะ ถึงไม่เห็นอยู่แถวนี้” รับสั่งพลางเปิดหีบใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องซึ่งโม่โฉวและหรงซิ่วช่วยขนมาไว้ในห้องดังกล่าวตั้งแต่เช้าแล้ว ทันทีที่เปิดหีบใบใหญ่ออกหีบล่วมยาของน้องน้อยปรากฏอยู่ภายในนั้นจริงๆ ก่อนจะถูกยกขึ้นมาอย่างรวดเร็วพร้อมปิดหีบลงตามเดิม “เดี๋ยวค่อยให้โม่โฉวและหรงซิ่วเอาหีบใหญ่ขนตามไปให้ที่ตำหนักหรดีวันหลัง ของสำคัญอะไรก็อยู่เต็มสองแขนนี้แล้ว” รับสั่งพร้อมทอดพระเนตรข้าวของในอ้อมพระกร ก่อนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะครั้นทรงคิดบางอย่างขึ้นมาได้ ข้าวของต่างๆ ในวงแขนถูกวางลงอย่างรวดเร็วเหลือเพียงห่อผ้าส่วนตัวของจางเพ่ยอัน องค์ชายปีศาจยกขึ้นทอดพระเนตรพร้อมภาพเหตุการณ์ที่น้องน
ในเวลาต่อมาเพียงชั่วอึดใจพระวรกายใหญ่ขององค์ชายปีศาจ ลอยละลิ่วลงมาจากขื่อคานของพระตำหนักก่อนจะหมุนคว้างไปมาดั่งลูกข่างเร้นพระวรกายไปทรงหยุดยืนอยู่ด้านนอก ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาให้ความร่มเย็นพร้อมทำทียืนจับกิ่งไม้ที่ใกล้พระหัตถ์ที่สุดพลางทอดพระเนตรจับจ้องอยู่แต่ทางเข้า เฝ้ารอคอยน้องชายหน้าหวานออกมาพบกับพระองค์และดวงเนตรสีนิลกาฬขององค์ชายปีศาจต้องสั่นไหวระริกขึ้นมาทันใด เมื่อร่างงามอรชรกำลังก้าวเดินออกมาจากพระตำหนักด้วยความเร่งรีบ ใบหน้าหวานของน้องชายเมื่อยู่ในเครื่องแต่งกายของสตรีเช่นนี้ แลดูมิใช่บุรุษแม้แต่น้อยแต่นางคือผู้หญิงชัดๆ “เหมือนมาก! น้องของข้าดั่งเช่นอิสตรีมิมีผิด!” รับสั่งพึมพำออกมาทันทีที่ทอดพระเนตรน้องน้อยข้างฝ่ายจางเพ่ยอันในขณะนั้นกำลังกวาดสายตามองหาร่างใหญ่ของพี่หยางหยางไปทั่วบริเวณ ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ร่างสูงใหญ่กำลังยืนอยู่ใต้ต้นไม้เกาะเกี่ยวกิ่งไม้เล่นอยู่ในขณะนั้น“พี่หยาง! พี่หยาง!” เธอตะโกนก้องด้วยเสียงของบุรุษจนสุดเส้นเสียงพร้อมกระโดดขึ้นลงโบกมือไปมา ก่อนจะวิ่งหน้าตั้งตรงดิ่งมาหาพี่ชายอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายพระเนตรขององค์ชายปีศาจ“เฮ้อ! พอได้ยิน
พระพักตร์รีบหันกลับไปทอดพระเนตรคนที่มาทำการรักษาพระองค์ พร้อมทำท่าจะลุกขึ้นประทับนั่ง “อย่าลุกขึ้นองค์ชาย! ยังไม่ถึงเวลา… พระองค์จะต้องบรรทมในท่านี้ต่อไปอีกสองชั่วยาม หลังจากนั่นจึงจะลุกประทับนั่งได้ หากลุกนั่งก่อนเวลาอันควรจะทำให้อาการเจ็บปวดรุนแรงกลับมาอีก กระหม่อมเพียงแค่ทำให้ทรงบรรเทาจากอาการเจ็บปวดชั่วคราวเท่านั้น หากต้องการหายจากโรคนี้เป็นปลิดทิ้งจะต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องพ่ะย่ะค่ะ” จางเพ่ยอันอธิบายกลับไปอย่างละเอียด ถ้อยกราบทูลของขันทีหน้าหวานทำให้องค์ชายอิ๋งเฟิ่งทรงดีพระทัยอย่างยิ่งยวดเมื่อล่วงรู้ว่ามีหนทางรักษาอาการปวดหลังของพระองค์ได้อย่างเด็ดขาด ในขณะที่ไม่เคยมีผู้ใดสามารถกราบทูลให้พระองค์ทรงทราบว่าพระอาการที่เป็นอยู่ในขณะนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่ “นี่เจ้าหมายความว่าอาการปวดหลังของข้ารักษาให้หายขาดได้ใช่หรือไม่” รับสั่งถามกลับไปเพื่อความแน่พระทัย “รักษาได้พ่ะย่ะค่ะ... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะหายขาดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพระองค์ด้วยว่าทำตามขั้นตอนการรักษาของกระหม่อมได้อย่างเคร่งครัดเยี่ยงไร หากเพิกเฉยมินำพาแล้วไซร้ ภายภาคหน้าพระองค์จะมีพระอาการ