จ้าวฟู่กุ้ยและจางอวี้หลานเดินออกมาจากห้อง เมื่อได้ยินโจวชิงชิงพูดเช่นนั้นแล้วก็รู้สึกเสียหน้า“เธอพูดอะไรน่ะ? “ จ้าวลู่ลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที อีกฝ่ายรู้สึกเหนียมอายแต่ก็ไม่ได้ปิดบังอะไร“แฟนของฉันหาเงินเก่งมากนัก เพียงแค่ช่วงบ่ายก็หาเงินได้ตั้งหลายหมื่น!”“คิดดูสิ ว่าเดือนหนึ่งจะเป็นเท่าไร”“หาเงินหมื่นในที่ทุรกันดารแบบนี้เนี่ยนะ? เธอนอนไม่ตื่นหรือเปล่า?”โจวชิงชิงหัวเราะลั่นขึ้นมาเกาเลี่ยงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็หัวเราะเยาะเย้ย “ขนาดนักศึกษาในเมือง เงินเดือนก็ยังเกินหมื่น”“แฟนของเธอที่หาเงินช่วงบ่ายได้หลายหมื่น ไม่ใช่ว่าไปขโมยมาเหรอ?”“จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ ฉันไม่ได้ขอให้พวกเธอมาเชื่อ!” จ้าวลู่ลู่กล่าวด้วยความโมโห“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว รีบเข้าไปกินข้าวเถอะ เดี๋ยวข้าวจะเย็นหมด”จางอวี้หลานทนดูไม่ไหว อดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นพูด“ได้ ที่รักไปกินข้าวกันเถอะ”“อาหารของชนบทที่นี่เทียบไม่ได้กับในเมืองของคุณ สภาพแวดล้อมก็แย่ แต่ว่าสิ่งเหล่านี้คือญาติของฉัน”“หวังว่าคุณจะเห็นแก่หน้าฉัน และไม่รู้สึกรังเกียจ”โจวชิงชิงกอดแขนเกาเลี่ยงและพูดอย่างง้องอน“ที่รัก คุณมีญาติที่ยากจนขนาดนี
โจวชิงชิงชำเลืองมองแวบหนึ่ง และพูดอย่างไม่เชื่อขึ้นมา"มันก็ต้องเป็นของจริงอยู่แล้ว ฉันว่ามันต้องแพงกว่ากำไลทองที่มือของเธอเป็นไหนๆ เลยล่ะ!"จางอวี้หลานกล่าวอย่างชื่นชม"คุณแม่คะ คุณแม่หยุดพูดเถอะนะคะ รีบคืนหนูมาเถอะนะ" จ้าวลู่ลู่รู้สึกประหม่าเอาเสียมากๆ เพราะเธอกลัวว่าโจวชิงชิงจะมองออกว่านี่คือ 'ของปลอม'"งั้นก็บังเอิญเสียจริงๆ เลยนะ ก่อนหน้านี้เกาเลี่ยงของเราก็เคยค้าขายหยกมาก่อน""ที่รัก คุณรีบมาดูเร็วเข้า นี่มันเป็นหยกจริงหรือปลอมกันแน่?"เมื่อเห็นสีหน้าของจ้าวลู่ลู่ดูแปลกไป โจวชิงชิงก็รีบให้เกาเลี่ยงเข้ามาตรวจสอบในทันที!เพราะหากมันเป็นหยกปลอมแล้วละก็ เธอก็จะหัวเราะเยาะจ้าวลู่ลู่ได้เป็นแน่"คนบ้านนอกคอกนาจะมีเงินถุงเงินถังไปซื้อหยกได้อย่างไรกัน ผมว่าจะต้องเป็นของปลอมอย่างแน่นอน"เกาเลี่ยงกวาดสายตาไปแวบหนึ่ง และพูดปฏิเสธออกมา"ของปลอม? เป็นไปไม่ได้ มันจะต้องเป็นของจริงอย่างแน่นอน!""ลูกรัก ลูกบอกพวกเขาไปสิว่า มันคือหยกจริงใช่หรือเปล่า!" จางอวี้หลานกระตุ้นให้จ้าวลู่ลู่พูด"มัน...มันเป็นของจริงค่ะ" จ้าวลู่ลู่พยายามยืนยัน"ยังจะมาปากแข็งอีก? เกาเลี่ยงคุณรีบมาช่วยฉันดูหน่อย
เพื่อนร่วมงานของเกาเลี่ยงคนนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจปะปนไปด้วยความอิจฉา พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "คิดไม่ถึงเลยนะเกาเลี่ยง ตั้งแต่ที่นายออกจากที่นี่ไป ยิ่งนานวันนายก็ยิ่งจะฟู่ฟ่าขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วนะ""สร้อยหยกราคาห้าล้านกว่า อยากจะซื้อก็ซื้อเลยแบบนี้""บอกหน่อยสิว่านายไปทำอะไรถึงได้ร่ำรวยขนาดนี้ แนะนำพวกเราหน่อยจะได้หรือเปล่า?"สีหน้าของเกาเลี่ยงดูกระอักกระอ่วนเอาเสียมากๆ โดยแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี เพราะเขาไม่มีปัญญาที่จะซื้อหยกชิ้นนี้หรอกนะ หลังจากพูดกลบเกลื่อนไปสองสามคำ เขาก็ได้วางสายไปโดยตรงและสีหน้าของโจวชิงชิงก็แทบจะเหมือนกับการกินขี้หมาเข้าไปอย่างไงอย่างงั้น!สร้อยคอราคาห้าล้านกว่าบาทแบบนี้ เกรงว่าชีวิตนี้เธอคงไม่มีโอกาสได้ใส่มันหรอกนะ!จางอวี้หลานภูมิใจมากจนแทบจะเงยหน้าขึ้นฟ้า แล้วพูดว่า "ก็มีแต่ลู่ลู่ของเรานี่แหละที่ตาถึง""นี่ยังไม่ทันได้หมั้นหมายกันเลยนะ อีกฝ่ายก็มอบหยกราคาห้าล้านกว่าบาทให้แล้ว!""แล้วต่อไปหากแต่งงานกันไปแล้ว ไม่ต้องซื้อวิลล่าในเมือง ขับเบนซ์หรือบีเอ็มดับเบิลยูกันเลยเหรอ?"แน่นอนว่าการที่เธอได้พูดแบบนี้ออกมา มันก็เป็นการคุยโวโอ้อวดให้กับตัวเองด้วยแต่
"เรื่องที่คุณไม่ได้ซื้อหยกให้กับฉัน ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรคุณเลยนะ!""ไม่ได้สิ ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถ้าคุณไม่ซื้อหยกให้กับฉัน เราก็ไม่ต้องแต่งงานกัน!"เกาเลี่ยงเบิกตากว้างทันที พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "ซื้อหยกอะไรกัน คุณอย่าโลภให้มันมากนะ ผมซื้อบ้าน ซื้อรถ และให้สินสอดคุณแล้ว และผมก็เป็นหนี้หลายแสนแล้วด้วย จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อหยกกันล่ะ!"โจวชิงชิงยังคงไม่ยอมลดละ "นั่นมันเรื่องของคุณ ถ้าคุณไม่ซื้อหยกให้กับฉัน ก็อย่าหวังว่าจะได้แต่งงานกับฉันเลย!"เกาเลี่ยงทนไม่ไหวแล้วพูดว่า "ได้! ไม่แต่งก็ไม่ต้องแต่ง!""ผมก็ทนกับความจอมปลอมของคุณไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ผู้หญิงอะไรช่างต่ำทรามเสียจริงๆ!""ตอนนี้คุณคืนสินสอดให้ผม ส่วนบ้านและรถก็รีบโอนกรรมสิทธิ์คืนมาให้ผมด้วย เราจะได้ตัดขาดกันไปเลย!"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว โจวชิงชิงก็เซ่อไปเลยทีเดียว เพราะหากไม่มีเกาเลี่ยงแล้ว เธอก็จะไม่เหลืออะไรเลยในเวลานี้แต่ทว่าในตอนนี้พวกเขากำลังอยู่หน้าประตูบ้านของจ้าวลู่ลู่ เธอจะเสียหน้าไม่ได้ จึงตั้งใจพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบว่า"โอเค คุณไม่อยากจะแต่งใช่ไหม? ฉันก็ไม่อยากจะแต่งกับคุณด้วยเหมือนกัน!""อย่าทำเหมือนว่านอกจ
หลินเฟยหัวเราะคิกคัก จากนั้นก็โอบเอวของพานเสี่ยวเหลียนเอาไว้แน่น แล้วพูดกับเธอว่า "มีพี่สะใภ้นี่แหละที่ดีกับผม""ในโลกนี้ นอกจากอาเล็กแล้ว ก็มีพี่สะใภ้นี่แหละครับ ที่ดีต่อผมอย่างสุดหัวใจ"ทุกครั้งที่เขาและพานเสี่ยวเหลียนทำอาหารด้วยกัน พวกเขาก็จะแอบกินกันสักพัก และมันก็กลายเป็นนิสัยไปเสียตั้งนานแล้วหลินเฟยไม่ได้ถูกจำกัดอีกต่อไป และปล่อยตัวปล่อยใจไปกับพานเสี่ยวเหลียนพานเสี่ยวเหลียนรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "ยอดดวงใจ สุดที่รัก พี่สะใภ้ยอมยกหัวใจให้เธอเลยนะ!""พี่สะใภ้อยู่กับเธอทุกวัน ก็เหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์อย่างไงอย่างงั้น!""หากพี่สะใภ้จะต้องจากเธอไป พี่ก็ไม่รู้จะต้องอยู่อย่างไรเหมือนกันนะ!"ไม่มีผู้หญิงคนใดสามารถต้านทานการโจมตีอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยของหลินเฟยได้พานเสี่ยวเหลียนเปลี่ยนจากผู้หญิงที่อ่อนต่อโลก มาเผชิญหน้ากับยักษ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์โดยตรงอาจกล่าวได้ว่าเธอพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ทุกครั้งที่เธอพ่ายแพ้ เธอก็เต็มใจที่จะถูกหลินเฟยทรมานและฟาดด้วยแส้อยู่อย่างนั้นเมื่อเห็นว่าพานเสี่ยวเหลียนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป หลินเฟยถึงได้หยุดการกระทำนั้นลง
หลังจากที่ลู่หลีถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้ว เธอก็ยังรู้สึกเขินอายอยู่เล็กน้อยนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเปิดเผยเรือนร่างต่อหน้าชายแปลกหน้าแบบนี้ และเรือนร่างที่บอบบางของเธอก็สั่นเทาเล็กน้อยผิวนุ่มๆ ที่ขาวราวกับหยกน้ำนมนั้น ดูเหมือนจะส่องสว่างไปทั่วทั้งคลินิกหลินเฟยเบิกตากว้าง กลืนน้ำลายและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "พี่สาวสายตรวจ กรุณาอย่าสงสัยในคุณธรรมของผมเลยนะ""รบกวนคุณช่วยเอามือออกหน่อยนะ ให้ผมตรวจดูบริเวณที่มีปัญหาหน่อย จะได้รักษาได้อย่างถูกต้อง"ภายใต้การกระตุ้นของหลินเฟย ในที่สุดลู่หลีก็คลายมือที่กุมเอาไว้ออกอย่างไม่เต็มใจ หลับตาและพูดเสียงเบาเหมือนยุงว่า"คุณตรวจดูเถอะ ตรวจแล้วก็รีบรักษาเร็วเข้า…"ขณะที่ลู่หลีได้คลายมือออกมานั้น ลูกพีชที่ไม่ค่อยสมดุลเท่าไหร่นักของเธอ ก็เผยออกมาต่อหน้าของหลินเฟยอย่างอล่างฉ่างหลินเฟยขยับเข้าไปใกล้อีกนิด จู่ๆ ก็ได้กลิ่นของน้ำหอมที่แสนจะชวนให้น่าหลงใหล"พี่สาวสายตรวจครับ ขอถามหน่อยว่าคุณอยากให้มันเล็กเท่ากันด้านซ้าย หรือจะให้ใหญ่เท่ากับด้านขวาหรือครับ?"ลู่หลีโพล่งออกมาแทบจะไม่ต้องลังเลใจ "ฉันก็ต้องอยากจะให้มันใหญ่อยู่แล้วน่ะสิ!"เมื่อมาถึงจุดนี้แล
หลินเฟยพูดอย่างเสียไม่ได้ว่า "พี่สายตรวจ พี่กำลังฝังเข็มอยู่นะ แล้วจะใส่เสื้อผ้าได้อย่างไร เข็มหลุดไปหนึ่งเล่มก็เท่ากับเสียเปล่าไปเลยนะ""พี่อดทนอีกสักนิดจะได้ไหม"เมื่อความรู้สึกได้ถาโถมเข้ามาแล้ว จะให้ลู่หลีอดทนไหวได้อย่างไร แต่หลินเฟยก็พูดแล้วว่า เธอจะสัมผัสไปโดยเข็มไม่ได้หลังจากที่ต้องเสียเวลากันอยู่สักพัก ลู่หลีก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และกางเกงของเธอก็เปียกโชกขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวเธอรู้สึกอับอายแบบสุดๆ แต่การโจมตีร่างกายที่หนักหน่วงนั้นยังคงดำเนินต่อไป หลังจากผ่านไปอีกสองสามนาที เธอก็ไม่สามารถประคองสติเอาไว้ได้ และเป็นลมล้มพับลงไปในที่สุดหลินเฟยถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากผ่านไปอีกสองสามนาที ในที่สุดเขาก็ถอดเข็มเงินออก จากนั้นก็วางลู่หลีที่สะลึมสะลือเอาไว้บนเตียง"ว่ากันว่าผู้หญิงนั้นเกิดมาจากนั้น ดูเหมือนคำพูดนี้จะไม่ผิดไปเลยนะ"เมื่อลู่หลีได้ตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกโกรธและอับอายขึ้นเป็นทวีคูณ โดยที่เธอทำได้เพียงแค่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม และแทบอยากจะตายเลยทีเดียวหลินเฟยคุ้นชินกับการเห็นคนอยู่ท่ามกลางคลื่นลมแรงมากนับครั้งไม่ถ้วน และเขาก็แลดูสงบเอาเสียมากๆ"พี่สายตรวจครับ
"เป็นแฟนของคุณ? หากไม่ตกลงก็จะจับผมเข้าคุก?""พี่สายตรวจ คุณจะเผด็จการแบบนี้เลยเหรอ ผมไม่ได้ไปทำผิดกฎหมายอะไรสักหน่อยนะ"หลินเฟยรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีไม่ใช่ว่าหลินเฟยจะรังเกียจลู่หลี เพราะหากพูดกันตามตรงแล้ว ลู่หลีหน้าตาสะสวย อีกทั้งจุดบกพร่องเพียงอย่างเดียวของเธอก็ได้รับการรักษาจากหลินเฟยแล้ว ซึ่งเธอก็จัดได้ว่าเป็นสาวงามประจำเมืองได้เลยทีเดียวแต่เธอเป็นตำรวจสายตรวจ หลินเฟยไม่อยากจะหาแฟนที่เป็นตำรวจสายตรวจมาหรอกนะเพราะหากเธอพบว่าเขากำลังเหยียบเรือหลายลำอยู่นั้น เธอไม่มาจัดการกับเขาอย่างหนักหน่วงหรอกเหรอ?"นี่ฉันเผด็จการตรงไหนกัน คุณคิดว่าฉันอยากจะให้คุณมาเป็นแฟนของฉันมากนักเหรอ?""ถ้าคุณไม่ได้มาเห็นเรือนร่างของฉัน...""พี่สายตรวจ ผมก็บอกแล้วไงว่า ผมเป็นหมอ เมื่อคุณอยู่ที่นี่ คุณไม่จำเป็นต้องถือความเป็นหญิงเป็นชายให้ชัดเจนขนาดนั้นหรอกนะ""ถ้าไม่ได้จริงๆ งั้นผมถอดเสื้อผ้าให้คุณดู เราจะได้เสมอกันเอาไหมล่ะ?"ขณะที่หลินเฟยพูด เขากำลังจะถอดเสื้อผ้าและเตรียมที่จะพูดคุยกับเธออย่างตรงไปตรงมา"ไม่ได้ คุณรีบใส่เสื้อผ้าเร็วเข้า!""ผู้ชายมองผู้หญิง กับผู้หญิงมองผู้ชาย มันไม่เหมือนกั
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได