เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ลู่หลีก็ยิ่งรู้สึกอับอายไปยิ่งกว่าเดิมมาก และตะโกนสาปแช่งอย่างหาได้อยากไปมาว่า "ไสหัวออกไปนะ ออกไป!"หลังจากได้รับการรักษาจากหลินเฟยแล้ว ตอนนี้เธอก็ดูดีเป็นอย่างมาก"นี่คือคลินิกของผมนะ ผมมีสิทธิ์ที่จะอยู่ที่นี่อยู่แล้ว""ต่อให้คุณจะเป็นตำรวจสายตรวจ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไล่ผมออกไปหรอกนะ"หลินเฟยพูดออกไปอย่างไม่แยแส เขาแทบจะอยากให้ลู่หลีโกรธเขาขึ้นมาจริงๆ เพราะแบบนี้เขาก็ไม่ต้องตกไปเป็นแฟนของเธอแล้ว"โอเค ฉันใส่ ฉันใส่ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้ และต่อไปจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกแล้ว!"ลู่หลีร้องไห้เพราะโกรธจัด และน้ำตาก็ร่วงลงมาทีละหยดๆและในขณะที่เธอกำลังเตรียมจะสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น หลินเฟยก็ยืนอยู่ตรงนั้น โดยไม่ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด"ฉันกำลังจะใส่เสื้อผ้านะ คุณจะไม่เลี่ยงออกไปสักหน่อยเหรอ?"ลู่หลีถลึงตากลมโตของเธอแล้วถามออกมาหลินเฟยเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ยังไงเสียสิ่งที่ควรมองผมก็ได้มองหมดแล้ว ผมจะออกไปหรือไม่ มันแตกต่างกันตรงไหน?""โอเค คุณดูเถอะ ฉันจะให้คุณดูให้พอ สักวันคุณจะนึกเสียใจขึ้นมาทีหลัง!"ลู่หลีกัดฟันด้วยความโกรธ หยุดร้องไห้ ยกผ้าห่มขึ้น และ
หลินเฟยโผเข้ากอดจ้าวลู่ลู่เอาไว้แน่นโดยตรง"หลินเฟยอย่าใจร้อนขนาดนั้น ที่นี่คือคลินิกนะ หากเขามาเห็นเข้ามันจะดูไม่ดี..."ใบหน้าของจ้าวลู่ลู่แดงก่ำราวกับลูกตำลึง"ไม่เป็นไรหรอกพี่ลู่ลู่ ผมล็อกกลอนเอาไว้แน่นหนาแล้ว ไม่มีใครเข้ามาได้หรอกนะ!""พี่ลู่ลู่ คุณหันกลับและก้มตัวลงนิดหน่อยนะ…"หลินเฟยไม่ได้ยินด้วยซ้ำว่าจ้าวลู่ลู่กำลังพูดอะไรอยู่ด้วยความตื่นเต้น จ้าวลู่ลู่ก็หันกลับ ค้ำขอบเตียงด้วยมือทั้งสองข้าง และโก่งตัวไปหาเขาครึ่งหนึ่ง"พี่ลู่ลู่ คุณช่างสวยจริงๆ มองอย่างไรก็ไม่เบื่อเลย!"ดวงตาของหลินเฟยเบิกกว้างจ้าวลู่ลู่รู้สึกเขินอายเอาเสียมากๆ พร้อมกับพูดด้วยความเคอะเขินปะปนกับความโกรธออกมาว่า"หลินเฟย คุณอย่าทำอะไรที่นี่เลยนะ? เอาอย่างนี้ดีไหม คืนนี้ฉันจะไปหาคุณเอง"ท้ายที่สุด จ้าวลู่ลู่เป็นคนที่หน้าบางจนเกินไป ประกอบกับเป็นครั้งแรกด้วย ดังนั้นเธอจึงรู้สึกประหม่า และไม่มีที่ไปอย่างไงอย่างงั้น"พี่ลู่ลู่ คุณสวยเกินไป ผมอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว!""ต่อไปผมจะทุ่มเทหัวใจให้กับพี่อย่างแน่นอน!"ไฟแห่งความปรารถนาได้คุกรุ่นขึ้นมานานแล้ว และหลินเฟยจะรอให้ถึงคืนนี้ได้อย่างไรกัน……สองชั่วโม
"ผมจะมีธุระของตัวเองจนทำให้ล่าช้าไปบ้างไม่ได้หรือไง ท่าทางแบบนี้ คุณจะมาตรวจรักษาอาการป่วย หรือจะมามีเรื่องกับใครเขากันแน่?"หลินเฟยพูดอย่างไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก"อะไรที่เรียกว่ามีเรื่อง?""คุณรู้ไหมว่าคุณหนูของเราเป็นใคร? แค่เพียงผมเส้นเดียวของเธอก็มีค่ามากกว่าชีวิตของคุณเสียอีก!"ชายกลางคนหนวดเคราเฟิ้มได้ตะโกนออกมา พร้อมกับดวงตาที่ถลึงจนทำให้คนลนลาน"ในสายตาของคุณ ชีวิตของผมมันด้อยค่าขนาดนั้นเชียวเหรอ?""เหอะๆ ในเมื่อพวกคุณดูถูกผมแบบนี้แล้ว ก็คงไม่จำเป็นต้องมาขอให้ผมรักษาโรคให้หรอกนะ รีบไปเชิญหมอที่มีวิชามากกว่าผมเถอะ!"ผู้ชายคนนี้ได้เผยความดูถูกดูแคลนคนอื่นออกมาอย่างโจ่งแจ้ง โดยที่หลินเฟยก็ไม่ยอมลดราวาศอกให้เช่นกัน เขาหันกลับและเดินเข้าไปในคลินิกอย่างเย็นชา"พ่อหนุ่ม การที่เรามาหาเพื่อให้คุณรักษาโรคให้นั้น ก็นับว่าเป็นเกียรตินักหนาแล้ว อย่ามาได้คืบจะเอาศอกแบบนี้นะ!"อาฝูก้าวเท้าเข้าไปขวางหลินเฟยเอาไว้!"อาฝู คุณรีบถอยออกไปเถอะ ห้ามเสียมารยาทกับหมอเทวดาแบบนี้!"หญิงสาวขมวดคิ้วและดุออกไป จากนั้นก็โค้งคำนับให้หลินเฟยเล็กน้อยเพื่อขอโทษ"ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะหมอเทวดา ฉันอบรมค
เขาจำเป็นต้องเอาคืนอย่างเด็ดขาด"ชกต่อยกับคุณ? ช่างมันเถอะ ต่อให้ผมจะยอมอ่อนข้อให้แค่ไหน คุณก็ไม่ใช่คู่ตัวสู้ของผมหรอกนะ"หลินเฟยยักไหล่พูดขึ้นมาทุกวันนี้ หลินเฟยได้นอนกับผู้หญิงมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว โดยที่คนธรรมดาเปรียบไม่ได้เลยกับร่างกายแบบนั้นของเขาโดยไม่ต้องโอ้อวด ต่อให้จะเป็นการบดหินด้วยมือเปล่า เขาก็ทำได้อย่างง่ายดาย"ไม่ต้องมาเล่นลิ้น วันนี้ฉันจะกระทืบนายจนต้องควานหาฟันอย่างแน่นอน!"การที่เขาต้องถูกเด็กบ้านนอกจนๆ มาดูถูกดูแคลนแบบนี้ อาฝูรู้สึกเดือดดาลแบบสุดๆ ตะคอกเสียงดังและกระโจนเข้าไปหาทันทีตุ้บตั้บ!และหลินเฟยก็ไม่ได้ยอมอ่อนข้อให้แต่อย่างใด เขาได้เตะผู้ชายคนนั้นลอยออกไปไกลหลายเมตร!ด้วยร่างกายแบบนี้ของอาฝู เขากลับไม่สามารถลุกขึ้นมาได้เป็นเวลานาน!"เอาชนะไม่ได้ก็คือเอาชนะไม่ได้ ทำไมจะต้องมาเป็นหมาลอบกัดแบบนี้ด้วย"หลินเฟยพูดอย่างเมินเฉย"แก...ฉันจะสู้กับแกจนถึงที่สุด!" อาฝูเดือดดาลจนแทบจะกระอักเลือดออกมาในขณะที่เขากำลังจะแบกความเจ็บและกระโจนเข้าไปนั้น เหลิ่งหนิงซวงก็ตะโกนดุๆ ออกมาว่า"พอได้แล้ว ยังไม่อายพออีกเหรอ?""คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมอเทวดาเลยนะ รีบถอยอ
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งหนิงซวง หลินเฟยก็ตกตะลึงไปด้วยเช่นกันนายกเทศมนตรีมีหน้าที่ดูแลหมู่บ้าน เมือง และแม้แต่ส่วนสำคัญของเมืองที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมดและจ้าวฟู่กุ้ยที่เป็นผู้ใหญ่บ้านคนนั้นก็เทียบไม่ได้แต่อย่างใดสำหรับหลินเฟย ซึ่งเป็นคนธรรมดาสามัญ สถานะของนายกเทศมนตรีนั้นอยู่ไกลเกินเอื้อมจริงๆหลินเฟยคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่า เหลิ่งหนิงซวงที่เป็นถึงลูกสาวของนายกเทศมนตรีจะมาคุกเข่าขอร้องเขาแบบนี้ได้"คุณครับ คุณเป็นถึงคุณหนูผู้สูงศักดิ์ แล้วจะมาคุกเข่าให้กับคนบ้านนอกอย่างผมได้อย่างไรกัน?""คุณลุกขึ้นเถอะนะ!"เมื่อเห็นเหลิ่งหนิงซวงได้คุกเข่าให้กับหลินเฟย อาฝูก็หวาดกลัวเอาเสียมากๆ จนต้องรีบเข้ามาดึงเธอให้ลุกขึ้นทันที"เขาสามารถช่วยชีวิตพ่อของฉันได้ ฉันสมควรที่จะต้องคุกเข่าให้กับเขานะ""หรือว่าการเป็นลูกสาวของนายกเทศมนตรีจะสามารถอยู่เหนือคนอื่น และมองไม่เห็นหัวใครอย่างนั้นเหรอ?""ต่อให้วันนี้หมอเทวดาจะไม่ไปตรวจรักษาให้ฉัน การคุกเข่านี้ก็ถือว่าเป็นการขอโทษ และมันก็ไม่ได้น่าอับอายอะไรด้วย"เหลิ่งหนิงซวงถามกลับ และพูดอย่างมีหลักคุณธรรมอาฝูถูกต่อว่า และพูดไม่ออกอยู่เป็นเวลานาน"คุ
มันก็แค่ฝันเฟื่องไปเท่านั้นแหละ!"ไม่เห็นจะต้องยุ่งยากอะไรเลย หากคุณหมอเทวดาสามารถรักษาพ่อของฉันให้หายดีได้ วิลล่านี้ฉันสามารถถือเป็นของขวัญยกให้คุณได้เลยนะ"หลังจากเหลิ่งหนิงซวงที่อยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดของหลินเฟยแบบนี้แล้ว เธอก็รีบเอ่ยออกมาทันที"คุณหนูครับ ตอนนั้นคุณหนูได้จ่ายเงินยี่สิบห้าล้านเพื่อซื้อวิลล่าหลังนี้นะครับ!""ค่ารักษาพยาบาลแบบนี้มันจะมากเกินไปหรือเปล่าครับ!"อาฝูขมวดคิ้วแน่นและพูดอย่างไม่พอใจ"ไม่ต้องหรอกครับคุณเหลิ่ง เงินที่จะสร้างวิลล่าผมยังพอมีอยู่ คุณรีบนำทางผมไปตรวจรักษาจะดีกว่านะครับ""ใกล้จะมืดแล้ว ผมยังต้องกลับไปนอนที่หมู่บ้านนะครับ"หลินเฟยเหลือบมองอาฝูเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบเหลิ่งหนิงซวงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หลินเฟยปฏิเสธวิลล่ามูลค่าหลายล้านหลังโดยไม่สะทกสะท้านอะไรเลยงั้นเหรอ?ดูเหมือนว่าคุณธรรมของเขาค่อนข้างที่จะสูงเลยทีเดียวเหลิ่งหนิงซวงเหลือบมองหลินเฟยอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว"ก็ได้ค่ะ หมอเทวดาตามฉันเข้ามานะคะ"เธอจะรู้ได้อย่างไรว่า หลินเฟยได้มีทรัพย์สินกว่าหลายร้อยล้านแล้ว และในสายตาของเขา เงินจำนวนหลายล้านบาทนี้ มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องเ
หลังจากที่โจวเหวินฉิงพูดจบประโยคนี้แล้ว จู่ๆ ห้องโถงก็เงียบไปในทันทีสีหน้าของทุกคนดูไม่ค่อยจะสู้ดีนักและแน่นอนว่า รวมไปถึงหลินเฟยด้วย"พี่สาวท่านนี้ ขอถามคุณหน่อยนะว่า การที่คุณมาพูดว่าผมไม่ใช่หมอและจะทำให้คนไข้ตาย คุณมีหลักฐานอะไรอย่างนั้นเหรอ?"ผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้หน้าตาดีใช้ได้ แต่หากเธอได้สาดสิ่งสกปรกมาที่เขาตลอดเวลาแบบนี้ หลินเฟยก็ทนไม่ไหวหรอกนะเขาจึงรีบเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้มกึ่งๆ แล้วถามขึ้นมา"ไอ้คนบ้านนอก เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าอะไรนะ?"โจวเหวินฉิงไม่ได้ตั้งใจจะตอบ แต่กลับตะโกนเสียงดังออกมาแทนเพราะคำว่าพี่สาวนั้น มันดูเชยและล้าสมัยเอาเสียมากๆ เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จะมีใครมาเรียกเธอแบบนี้ได้!"คุณอายุมากกว่าผมจะครึ่งรอบแล้ว ผมเรียกคุณว่าพี่สาว มันจะมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?""หรือจะให้ผมเรียกคุณว่าคุณป้าแทน?"หลินเฟยเกาใบหู และจงใจพูดเกินจริงออกมา"นายรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร? นายกล้าปั่นหัวฉันอย่างนั้นเหรอ น่ากลัวว่านายคงสำคัญตัวผิดไปแล้วใช่ไหม!"โจวเหวินฉิงตัวสั่นด้วยความโกรธ และคำพูดของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำเสียงคุกคาม!"ผมรู้ว่าตัวเองเป็นใคร"หลินเฟยพูดอย่างใจเย
โจวเหวินฉิงไม่เชื่อว่าหลินเฟยจะเก่งกาจได้ขนาดนี้แต่เธอมีความผิดอยู่ในใจ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เธอก็ไม่ยอมให้หลินเฟยทำการตรวจสอบอย่างแน่นอน"คุณไม่กล้างั้นเหรอ?"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ และรีบก้าวเข้าไปหาโจวเหวินฉิงทันที ก่อนที่เธอจะตอบสนองกลับมาได้ เข็มนั้นก็ได้แทงไปที่จุดฝังเข็มที่บริเวณศีรษะแล้วทันใดนั้น โจวเหวินฉิงก็อยู่ในสถานที่เหมือนหุ่นเชิดเหลิ่งชิงซงเดือดดาลเป็นอย่างมาก เพราะเขาคิดว่าหลินเฟยได้ฝังเข็มจนโจวเหวินฉิงได้กลายเป็นคนปัญญาอ่อนไปแล้ว!และเขาก็ได้ตะคอกใส่เหลิ่งหนิงซวงอย่างบ้าคลั่งทันที"นังสารเลว ดูสิว่าเธอเอาเรื่องไร้สาระอะไรเข้ามาในบ้าน!""เธอรีบจับตัวมันส่งเข้าคุกเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นแล้ว ฉันจะคิดว่าไม่มีลูกสาวอย่างเธออยู่!""ท่านนายกเทศมนตรีเหลิ่งครับ ท่านให้เวลาผมอีกสักครู่ได้หรือเปล่าครับ?"หลินเฟยดูสงบจากนั้นเขาก็ถามโจวเหวินฉิงขึ้นมา โดยไม่รอคำตอบจากเหลิ่งชิงซงแต่อย่างใด"บอกมาสิ คุณไปแอบกินขโมยกินข้างนอกหรือเปล่า?"โจวเหวินฉิงตอบอย่างทื่อออกมาว่า "ฉันแอบกินจริงๆ มีเวลาฉันก็จะออกไปตลอด""คนหนึ่งเป็นโค้ชของยิม และอีกคนเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่หน้
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได