พละกำลังของหลินเฟยแข็งแกร่งมาก เขาคว้าท่อนไม้เอาไว้ พ่อเฒ่าจางออกแรงอย่างเต็มเหนี่ยวจนหน้าดำหน้าแดงแต่ก็ยังดึงกลับไปไม่ได้"แม่งเอ๊ย ไอ้เด็กเหี้ย แกรีบปล่อยมือเดี๋ยวนี้!""ปล่อยมือ? ฝันไปเถอะ!"เมื่อหลินเฟยเห็นบาดแผลบนตัวของถังรั่วเสวี่ยและสาวๆ คนอื่นรวมไปถึงแม่เฒ่าจางที่ยังกำผมของพานเสี่ยวเหลียนเอาไว้ไม่ปล่อย มันยิ่งทำให้เขาโมโหจนเลือดเดือดปุดๆ!ด้วยแรงดึงทั้งหมด ท่อนไม้ในมือของพ่อเฒ่าจางก็ถูกหลินเฟยคว้าเอาไว้แน่น!จากนั้น เขาก็ยิ่งไม่ลังเลใจที่จะทุบตีไปบนตัวของพ่อเฒ่าจางอย่างดุเดือด!"โอ๊ย..."พ่อเฒ่าจางกรีดร้องอย่างโหยหวน เขาลอยคว้างออกไป พร้อมกับพ่นเลือดสดๆ ออกมา และไม่สามารถขยับตัวได้เป็นเวลานาน!ท่อนไม้ที่ใหญ่เท่ากับแขนคนได้ตีไปที่ตัวของเขาจนหักไปดื้อๆ แบบนั้น!ซึ่งมันก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่า พละกำลังของหลินเฟยนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน!"ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ไอ้แก่อย่างฉันจะสู้กับแกจนตายไปเลย"พ่อเฒ่าจางยิ่งอับอาย ทั้งโกรธทั้งเดือดดาล พยายามลุกขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับหลินเฟยและหลินเฟยก็ฟาดลงไปอีกครั้งอย่างไม่ลังเลใจ กระดูกถูกเขาตีจนหักไปเสียดื้อๆ เจ็บจนเขาต้องกรีดร้องอ
"เสี่ยวเฟย นายไม่รู้หรอกว่า คนพวกนี้แม้จะเป็นคนในครอบครัวของเสี่ยวเหลียน แต่พวกเขาทำตัวเหมือนไม่ใช่คน!""พวกเขากลับไปช่วยตาเฒ่าจางจัดการกับเสี่ยวเหลียน และยังช่วยเปลื้องผ้าเธอ ให้เธอคุกเข่าอยู่หน้าหมู่บ้านตั้งสามวันสามคืนด้วยนะ!""คุณอย่าได้ปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้อย่างเด็ดขาด!"ถังรั่วเสวี่ยรีบพูดด้วยความโกรธขึ้นมาทันทีกลุ่มของพานต้าไห่ก็ถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเพียงแค่สองเฒ่าตระกูลจางคงไม่สามารถกระแทกเปิดประตูเข้ามาได้!ตอนนี้เมื่อหลินเฟยกลับมาแล้ว ถังรั่วเสวี่ยก็คิดที่จะให้หลินเฟยสอนบทเรียนให้คนพวกนี้แทนพานเสี่ยวเหลียนเป็นธรรมดา!"อะไรนะ!" เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว หลินเฟยก็เดือดดาลขึ้นมาทันที!เขาคว้าคอเสื้อของพานต้าไห่ขึ้นสูง แล้วพูดอย่างดุดันขึ้นมา!"เดนคนอย่างพวกแกก็คู่ควรที่จะเป็นคนในครอบครัวของพี่สะใภ้เสี่ยวเหลียนด้วยอย่างนั้นเหรอ?""คุกเข่าขอโทษพี่สะใภ้เสี่ยวเหลียนเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะไม่ปล่อยพวกแกไปอย่างแน่นอน!""พี่ชาย พี่ชาย พวกเราไม่มีทางเลือกจริงๆ เป็นเพราะพ่อเฒ่าจาง..."พานต้าไห่ที่หนักกว่าแปดสิบกิโล แต่เมื่ออยู่ในมือของหลินเฟยกลับเบาราวก
"แก...แกรีบแก้ให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ หากตำรวจสายตรวจมา แกจะต้องเสียใจภายหลังอย่างแน่นอน!"หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลินเฟย ตู้อวี้เจวียนก็รู้สึกโกรธจัดจนชี้นิ้วต่อว่าไปแบบนั้นเมื่อเห็นว่าตู้อวี้เจวียนอยู่อย่างนั้นโดยไม่สามารถขยับได้ พานต้าไห่และลูกชาย รวมไปถึงหลี่เสี่ยวชุ่ยต่างก็งุนงงเอาเสียมากๆพวกเขาทั้งอยากรู้ว่าหลินเฟยทำอย่างไร และทั้งหวาดกลัวการกระทำของหลินเฟยด้วยเพราะหากหลินเฟยแทงไปที่ร่างกายของพวกเขาสองสามที และให้พวกเขาคุกเข่าอยู่อย่างนี้ พวกเขาคงจะอับอายขายหน้าไปตลอดแน่ๆ!แต่ทว่าหลินเฟยกลับเพิกเฉยต่อการตอบสนองของตู้อวี้เจวียน พานต้าไห่และคนอื่นๆ อย่างสิ้นเชิงเขารีบวิ่งไปหาพานเสี่ยวเหลียน เช็ดน้ำตาให้เธอ และโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับตรวจร่องรอยบาดเจ็บบนร่างกายของเธอ"พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน เจ็บหรือเปล่า ให้ผมตรวจดูเร็วเข้า!""มันเป็นความผิดของผมเอง หากผมมาเร็วกว่านี้ พี่ก็ไม่ต้องถูกรังแกแบบนี้ได้!""ไม่เป็นไรหรอกหลินเฟย พี่เห็นนายแล้วก็ไม่รู้สึกเจ็บแล้วล่ะ ดีใจจะตายไป นายไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ"เมื่อเห็นหลินเฟยรู้สึกผิดและโทษตัวเอง พานเสี่ยวเหลียนก็ส่ายหน้าและยิ้มออกมา
"เราต้องรู้จักให้อภัยและมีเมตตานะ เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว ก็ให้มันผ่านไปเถอะ"ถังรั่วเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะพูดเกลี้ยกล่อมออกมา"อาเล็กครับ ผมรู้ว่าอารู้สึกสงสารพวกเขา แต่หากไม่ใช่เพราะผมกลับมาทันเวลา พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียนจะต้องถูกพวกเขารังแกขนาดไหนแล้ว?"หลินเฟยพยายามสงบนิ่งให้ได้มากที่สุด"บางคนรู้สำนึกและกลับตัวกลับใจ ผมสามารถปล่อยไปได้ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้สำนึกแบบนี้ ความเมตตามันก็เท่ากับการทำร้ายตัวเองเสียต่างหากนะครับ!"ขณะที่พูด หลินเฟยก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเจียงเฉินคนคนนั้น ครั้งแรกหลินเฟยไม่ได้ทำอะไรเขา แค่จับเขาขังเอาไว้ เพื่อส่งมอบให้กับตระกูลเจียงจัดการแต่ทว่าเจียงเฉินกลับยิ่งคิดทำร้ายตัวเขาและเจียงเฉินหยู่จนถึงตาย และเขาก็เกือบจะทำสำเร็จแล้วด้วย!และเพราะเหตุการณ์นี้ หลินเฟยจึงตัดสินใจแล้วว่าต่อไปเขาจะไม่ใจอ่อนอีก!"เสี่ยวเฟย…" เมื่อเห็นท่าทีที่แน่วแน่ของหลินเฟย ถังรั่วเสวี่ยก็ไม่ได้พูดอะไรที่มากไปกว่านั้น"อาเล็ก กลับมาก่อนเถอะ เสี่ยวเฟยรู้อะไรถูกอะไรควร ให้เขาจัดการด้วยตัวเองเถอะ"พานเสี่ยวเหลียนดึงถังรั่วเสวี่ยกลับมาอยู่ข้างๆ"แม่งเอ๊ย ไอ้เด็กเวร จิตใจแกมันช่างอำมห
พานต้าไห่อย่างน้อยก็น่าจะสี่ส้าห้าสิบได้แล้ว แต่เขากลับเรียกหลินเฟยที่เป็นแค่เด็กหนุ่มแบบนี้ว่าพี่ชายซึ่งมันเพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่า เขานั้นกลัวหลินเฟยแค่ไหน!"เมื่อไหร่ที่พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียนยกโทษให้พวกแก ฉันก็จะปล่อยพวกแกไปเมื่อนั้น ไม่อย่างนั้นแล้วพวกแกก็คุกเข่าอยู่แบบนี้แหละ!"เมื่อต้องเผชิญกับคำอ้อนวอนของพานต้าไห่หลินเฟยที่กำลังทายาให้กับซูเสี่ยวโหรวก็พูดออกมาโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้า"ใช่ เมื่อเทียบกับสองเฒ่าตระกูลจางนั้นแล้ว ทั้งๆ ที่เป็นคนในครอบครัวของเธอ ไม่ถามไม่ไถ่ก็พอการแล้ว แต่นี่ยังช่วยคนอื่นมารังแกเสี่ยวเหลียนอีก พวกแกยิ่งน่าโมโหไปใหญ่!""เมื่อไหร่ที่เสี่ยวเหลียนยอมคลายความโกรธ พวกแกถึงจะสามารถออกไปได้!"ถังรั่วเสวี่ยพูดออกมาอย่างโกรธเคืองพานต้าไห่และคนอื่นๆ รู้สึกโกรธแต่ไม่กล้าพูดอะไรออกมา และพวกเขาก็ทำได้เพียงเบนความสนใจไปที่ตัวของพานเสี่ยวเหลียนเท่านั้น"ลูกรัก พ่อสำนึกผิดแล้ว พ่อได้คุกเข่ามาครึ่งชั่วโมงแล้ว คิดเสียว่าเห็นแก่ความเป็นพ่อลูกกัน ลูกให้อภัยพวกเราเถอะนะ!"พานต้าไห่เป็นคนแรกที่พูดอ้อนวอนออกมา"อย่ามาเรียกฉันว่าลูกสาว หรือว่าคุณลืมไปแล้วงั้นเ
เมื่อสังเกตท่าทีของหลี่เสี่ยวชุ่ยที่มีต่อพานเสี่ยวฟู่ และมองดูสภาพร่างกายของพานเสี่ยวฟู่แล้วนั้น หลินเฟยก็รู้สาเหตุในทันที!"คุณกำลังพูดเพ้อเจ้ออะไรอยู่น่ะ?!""ผมกับภรรยารักกันออกจะตายไป ลูกคนนี้คือผลึกความรักที่เราพยายามกันมาถึงสามปีกว่าจะมีได้ จะต้องเป็นลูกของผมอย่างแน่นอน!""หากคุณยังกล้าที่จะใส่ร้ายภรรยาของผม ผมก็จะไม่เกรงใจคุณด้วยเช่นกัน!"เมื่อได้ยินหลินเฟยพูดแบบนี้ขึ้นมา พานเสี่ยวฟู่ก็โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขายืนกำหมัดราวกับจะสู้สุดชีวิตอย่างไงอย่างงั้น!แต่ทว่า เขากลับไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัดของหลี่เสี่ยวชุ่ยที่อยู่ข้างหลังแต่อย่างใด"นายเองก็พูดแล้วนี่ นี่คือผลึกความรักที่ตกตะกอนมาถึงสามปี แต่ผลึกความรักนี้ทำไมไม่มีตั้งแต่แรกล่ะ ทำไมจะต้องมีหลังจากนั้นอีกสามปีด้วย?""นายอย่าบอกฉันนะว่า ในช่วงสามปีที่แต่งงานกันมา นายไม่ได้แตะต้องเนื้อตัวของเมียนายเลย""สาเหตุของเรื่องนี้คืออะไร ยังจะต้องให้ฉันบอกละเอียดกว่านี้หรือเปล่า?"หลังจากสิ้นเสียงของหลินเฟย สีหน้าของพานเสี่ยวฟู่ก็ดูซับซ้อนและตื่นตระหนกขึ้นมาทันทีเขาไม่ใช่คนโง่ เมื่อพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว หากเ
พานเสี่ยวฟู่หนักกว่าหนึ่งร้อยกิโลกรัมแม้ว่าตบฉาดนี้จะไม่ได้รุนแรงเท่ากับหลินเฟย แต่มันก็ทำให้หลี่เสี่ยวชุ่ยสะลึมสะลือไปได้เลย!เมื่อเห็นว่าพานเสี่ยวฟู่ที่อ่อนปวกเปียกและโง่เขลาราวกับกระบือนั้นได้โกรธขึ้นมาแล้ว มันก็ดีน่ากลัวจนหลี่เสี่ยวชุ่ยตื่นตระหนกขึ้นมาทันที!"ที่รัก คุณอย่าไปฟังคำพูดใส่ร้ายของเขานะ!""ฉันไม่ได้มีชู้อะไรเลย ชีวิตนี้นอกจากคุณแล้ว ฉันไม่เคยสนใจชายคนไหนอีก แล้วจะทำเรื่องที่ผิดต่อคุณได้อย่างไรกัน?""ในเมื่อมึงบอกว่าไม่ได้ทำอะไรที่ผิดต่อกู งั้นมึงกล้าที่จะไปตรวจร่างกายกับกูไหมล่ะ?""มึงกล้าหรือเปล่าล่ะ?!"ดวงตาของพานเสี่ยวฟู่แดงก่ำด้วยความโกรธจากนั้นก็ได้คว้าคอของหลี่เสี่ยวชุ่ยโดยตรง พร้อมตะคอกออกมาเพราะเขารู้สึกคนอย่างหลี่เสี่ยวชุ่ยดีที่สุดตลอดสามปีของการแต่งงาน ไม่ว่าจะทำผิดในเรื่องใด เธอไม่เคยยอมรับเลยสักครั้ง แต่ยกเว้นครั้งนี้ครั้งเดียว ซึ่งก็คงเป็นเพราะเธอได้ทำเรื่องที่ผิดๆ เอาไว้ไม่ใช่เหรอ?"ที่รัก... ฉันผิดไปแล้ว ฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันแค่ออกไประบายข้างนอกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าแค่ครั้งเดียวจะท้องแบบนี้ได้...""ต่อไปฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว ฉัน
"เป็นเพราะแกคนเดียว เป็นความผิดของแกทั้งหมด ฉันไม่มีความแค้นอะไรกับแก ทำไมแกต้องมาทำร้ายฉันด้วย!"หลี่เสี่ยวชุ่ยผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เสื้อผ้าก็ถูกฉีกออก ใบหน้าบวมเบ่งราวกับหัวหมูเพราะถูกทุบตีเธอจ้องเขม็งไปที่หลินเฟย และตะคอกใส่หลินเฟยไปอย่างเกรี้ยวกราด!ในความเห็นของเธอ การที่เธอต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะหลินเฟยเปิดเผยเรื่องนี้ออกมา!"แม่งเอ๊ย ถ้าไม่ใช่พี่ชายบอกความจริงกับกู กูก็ยังไม่รู้ว่าจะถูกมึงหลอกไปอีกนานแค่ไหน!""แกเป็นคนทำเรื่องเลวๆ นี้เอง กล้าทำแต่ไม่กล้ารับงั้นเหรอ?""หลี่เสี่ยวชุ่ย เสียแรงที่กูทำดีกับมึงมาตลอดสามปี มึงกลับกล้าหักหลังกู มึงยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า…"พานเสี่ยวฟู่ก่นด่าพร้อมกับหลั่งน้ำตาออกมายิ่งคิดเขาก็ยิ่งโกรธ จากนั้นเขาก็ชกไปที่เธออีกสองสามหมัด"พอได้แล้ว พวกแกหยุดได้แล้ว!""ต่อให้กูจะทำผิด แต่พวกมึงก็ไม่มีสิทธิ์มาลงไม้ลงมือกับกู พวกแกมันพวกไร้การศึกษา กูไปปรึกษาผู้รู้มาแล้ว!""ต่อให้กูจะแต่งงานกับพานเสี่ยวฟู่ จะไปนอนกับใคร จะไปนอนกับกี่คน มันก็เป็นอิสรภาพของกู พวกมึงไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับกู อย่างมากมันก็แค่เรื่องศีลธรรม แกไม่ได้ทำผิดกฎ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได