แชร์

บทที่ 284

ผู้เขียน: บุหรี่สองมวน
ชั่วพริบตา เขาก็ได้มาอยู่ข้างหน้าลู่หลี พร้อมกับคว้าลำคอที่ขาวนวลของลู่หลีเอาไว้!

ดูเหมือนว่าประโยคนี้จะกระทบจิตใจเขาเอาเสียมากๆ

"เฮ้ ปล่อยฉันนะ ฉันจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว!"

แม้ว่าลู่หลีจะมีปีนอยู่ที่ตัว แต่เธอกลับไม่กล้ายิงไปที่ตัวของหลินเฟยแต่อย่างใด

แต่เธอสามารถยืนยันได้แล้วว่า หลินเฟยในตอนนี้ไม่ใช่หลินเฟยคนเดิมอีกต่อไปแล้ว!

"มดตัวน้อย เวลาพูดกับฉัน คุณควรมีท่าทางที่ดีกว่านี้หน่อยนะ"

"ไม่ก็ยอมก้มหัวให้ฉัน ไม่ก็ต้องตาย!"

จู่ๆ หลินเฟยก็ปล่อยตัวของลู่หลี และพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

"อะแฮ่ม…" ลู่หลีตกใจจนกล้ามเนื้อกระตุก ดูเหมือนว่าเธอจะเดินอยู่ใกล้ประตูนรกเสียแล้ว

ซึ่งเธอก็ไม่รู้เลยว่า เธอจะทำอย่างไรถึงจะนำหลินเฟยคนเดิมกลับมาได้

เธอจึงทำได้เพียงแกล้งทำเป็นพยักหน้า แล้วพูดว่า

"โอเค ฉันจะยอมเชื่อฟังคุณ..."

"กรอบแกรบ!"

งูยักษ์โผล่ออกมาจากใต้แท่นบูชาปลาหยินหยางอีกครั้ง จากนั้นมันก็คลานไปหาหลินเฟย อ้าปาก และพ่นกระดาษสีทองเหลืองอร่ามที่เต็มไปด้วยอักษรแปลกๆ ออกมา

และเมื่อหลินเฟยโบกมือ กระดาษสีทองแผ่นนั้นก็ได้ลอยมาที่มือเขาอย่างอัตโนมัติ จากนั้นก็หายไปในพริบตาเดียว!

ฉากนี้ทำ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 285

    ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์แบบไหน ลู่หลีก็คิดว่ามันต่างก็ไม่เป็นผลดีกับหลินเฟยอย่างแน่นอนเพราะต่อให้หลินเฟยในตอนนี้จะดูมีอำนาจ น่าเกรงขาม หรือเก่งขนาดไหน แม้แต่การควบคุมงูยักษ์ได้ แต่ลู่หลีก็ชอบหลินเฟยที่ดูเจ้าเล่ห์และกะล่อนแบบนั้นเสียมากกว่า"ตามมา"ในขณะที่ลู่หลียังคงจมอยู่ในความคิด เสียงที่เต็มไปด้วยพลังและไม่สามารถปฏิเสธได้ของหลินเฟยก็ได้ดังแว่วมาและเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมามองอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่หลินเฟยได้เดินออกห่างไปเจ็ดแปดเมตรแล้ว"คุณจะฆ่าฉัน หรือจะพาฉันออกไปกันแน่?""คุณจะพาฉันไปที่ไหนกันแน่เนี่ย!"ลู่หลีเดินตามไป พร้อมกับพูดออกมาด้วยความประหม่าและความสับสนที่ยากจะระงับเอาไว้ได้หลินเฟยหยุดฝีเท้าลง ค่อยๆ หันกลับมา พริบตาเดียวก็มาปรากฏตัวต่อหน้าลู่หลีแล้ว"ถ้าฉันจะฆ่าคุณ ฉันคงลงมือไปตั้งนานแล้วล่ะ""คุณพูดมากเสียจริงๆ น่ารำคาญ"หลังจากพูดจบ เขาก็เอื้อมมือออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็มีแสงเงินส่องเข้าไปในคิ้วของลู่หลี"คุณ...คุณทำอะไรกับฉัน?"ทันใดนั้น ลู่หลีก็รู้สึกว่าตัวเองหน้ามืด จากนั้นก็หมดสติไปในทันที!……และก็ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานแค่ไหนเมื่อลู่หลีฟื้นสติ

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 286

    "ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?"ไม่นานหลังจากนั้น หลินเฟยก็ฟื้นสติขึ้นมา แต่บรรยากาศโดยรอบทำให้เขาตื่นตระหนกเอาเสียมากๆในเวลาเดียวกัน หลินเฟยก็รู้สึกว่าตัวเองได้รับพลังที่รุนแรงหาที่เปรียบไม่ได้ด้วยเช่นกันและเมื่อใช้ตาทิพย์มองแล้ว เขาก็ตื่นตระหนกเอาเสียมากๆลูกปัดสีขาวเงินที่มีอยู่ในตัวแต่เดิมที ได้มีร่องรอยของกระแสไฟฟ้าที่มากขึ้นอีกหนึ่งเส้น โดยมีเปลวไฟห่อหุ้มอยู่อีกหนึ่งชั้นอีกต่างหากหลินเฟยไม่สามารถเข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร"ไอ้งูยักษ์นั่นล่ะ?"หลินเฟยมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบร่องรอยของงูยักษ์แต่อย่างใดทันใดนั้น หลินเฟยก็ได้สังเกตเห็นลู่หลีที่นอนหมดสติอยู่ใต้แท่นบูชา เขาตะโกนเรียกสองสามครั้ง เมื่อเห็นเธอไม่ขยับ เขาก็รีบลงมาจากท่านบูชาเพื่อดูสถานการณ์ในทันที"ไม่ได้ถูกพิษ ไม่ได้บาดเจ็บ แค่อ่อนแรงและสลบไปเท่านั้นเอง""ยังดี ยังดี"หลินเฟยกอดลู่หลีเอาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็บีบตัวของเธอแต่ทว่าลู่หลีอ่อนแอจนเกินไป และยังไม่ตื่นขึ้นมา"ที่นี่ไม่มีอะไรให้กินเลย ช่างมันเถอะ ให้เธอดื่มเลือดสักหน่อยก็ได้"หลินเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็กดนิ้ว แล้วสอดเข้าไปในปากของลู่หลีจา

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 287

    "อะแฮ่ม...งั้นเรามาหาวิธีออกไปกันเถอะ"หลินเฟยสบตากับสายตานั้น และกลืนน้ำลายลงไปอย่างไม่รู้ตัวจริงๆ แล้ว หลินเฟยเข้าใจในสายตานั้นของลู่หลี สายตรวจหญิงคนนี้ เธอคงชอบเขาจริงๆ แล้ว!แต่หลินเฟยไม่ต้องการที่จะสร้างปัญหากับผู้หญิงคนนี้ และทำได้เพียงระงับไฟร้อนในใจลงไปเท่านั้น"ที่นี่น่าจะเป็นศูนย์กลางของสุสานนะ พวกเราไปดูรอบๆ กันเถอะ บางทีอาจจะมีทางออกก็เป็นไปได้"ลู่หลีคว้ามือของหลินเฟยและเริ่มค้นหาไปรอบๆ จัตุรัสและไม่รู้ว่าทางที่มาในตอนแรกได้ถูกปิดล็อกลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วเช่นเดียวกับจัตุรัสที่อยู่ด้านนอก ประตูหินแปดบานถูกปิดสนิท โดยไม่มีบานไหนได้เปิดอยู่หลินเฟยพยายามใช้หมัดของเขาพร้อมด้วยกระแสไฟฟ้าสีขาวเงินที่รุนแรงกระแทกเปิดประตูหินแต่มันก็ล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้ว่าประตูหินนี้ทำจากวัสดุอะไร ซึ่งมันดูแข็งแกร่งเอาเสียมากๆและหมัดของหลินเฟยที่สามารถทุบทำลายกระจกกันกระสุนได้นั้น แต่กับประตูหินนี้ พลังของมันทำได้เพียงแค่ทิ้งรอยสีขาวจางๆ เอาไว้เท่านั้น"เฮ้อ สร้างประตูเอาไว้เยอะขนาดนี้จะมีประโยชน์อะไร ไม่มีประตูบานไหนเลยที่สามารถเปิดออกได้"หลินเฟยอดไม่ได้ที่จะท้อแท้ใ

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 288

    และความตื่นตระหนกนั้นก็แพร่กระจายออกมาอย่างต่อเนื่อง"เดม่อน นายใจเย็นๆ ก่อน ขอเพียงมีชีวิตอยู่ก็ยังมีความหวังไม่ใช่เหรอ?""ต่อให้สัตว์ประหลาดตัวนั้นจะมา นายก็ไม่ต้องกลัวไปหรอก นายต้องใจเย็นๆ หยิบปืนขึ้นมา และต่อสู้อย่างกล้าหาญ""ชีวิตของนาย มันควรอยู่ในมือของนายเองนะ""ทุกคนก็เหมือนกัน อย่าได้ยอมแพ้ง่ายๆ!"เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว อลิซก็ลุกขึ้นยืนและพูดเพื่อให้กำลังใจหลินเฟยมองผ่านความมืด และรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้สงบและมีสติมาก ในสถานการณ์ที่ทุกคนกระสับกระส่าย เธอสามารถยืนขึ้นและปลุกใจคนได้แบบนี้แต่หากพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ผู้หญิงคนนั้นดูน่ากลัวเอาเสียมากๆ"คุณหนูพูดถูกค่ะ พวกเราต้องต่อสู้ ไม่สามารถนั่งรอความตายแบบนี้ได้!"และสายตาของผู้หญิงสองคนนั้นแน่วแน่ขึ้นมาทันที!"ใช่ เราต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดนั้นให้ถึงที่สุด หากจะตายก็ต้องให้มันตายไปด้วย!"ส่วนผู้ชายที่เหลือก็หยิบปืนพกขึ้นมา และแสดงความตั้งใจที่จะต่อสู้จนจบ"เดม่อน ปลุกใจขึ้นมา เราจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากนาย"เมื่อเห็นว่าทุกคนสงบลงแล้ว อลิซก็ลดท่าทางและมองไปที่เดม่อน พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า"นังสารเลว แ

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 289

    ใจมนุษย์เป็นสิ่งที่เชื่อไม่ได้อย่างที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนพวกนี้ที่มักจะละเมิดต่อกฎหมายแบบนี้ เมื่อคนเรามาถึงจุดวิกฤติแล้ว ยิ่งไม่มีมโนธรรมสำนึกเข้าไปใหญ่โดยปกติแล้ว มันมักจะขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ บางทีพวกเขาก็อาจจะเชื่อฟังคำพูดของอลิซอยู่บ้างแต่เมื่อต้องมาอยู่ในสุสานใต้น้ำที่โดดเดี่ยวแบบนี้ ภายใต้สถานการณ์ของความเป็นความตาย พวกเขาก็กลายเป็นสัตว์เดรัจฉานในทันทีพวกเขาแค่อยากจะระบายความไม่พอใจหรือความหื่นกระหายออกมาเท่านั้น!เมื่อเห็นว่าผู้ชายทั้งสี่คนกำลังจ่อปืนและค่อยๆ เดินเข้ามา ทำให้สีหน้าของอลิซและผู้หญิงอีกสองคนเข้มขึ้นในทันที"ถอยไป อย่าเข้ามานะ!""ไม่อย่างนั้น ฉันจะระเบิดหัวของแกซะ!" ผู้หญิงชายหมี่สองคนตะโกนออกมา!เดม่อนหัวเราะเยาะอย่างสนุกสนาน "พวกเธอสองคนอย่างพยายามขัดขืนเลย นังสารเลวนี่เห็นพวกเธอเป็นเพียงหนังหน้าไฟเท่านั้นแหละ!""นังนี่สามารถมองเห็นเมอร์ริคและคนอื่นๆ ตายไปต่อหน้าต่อตาได้ ในสายตาของมัน พวกเธอก็เป็นเหมือนๆ กัน!""วางปืนลงซะ แล้วไปสนุกกับทุกคนเถอะ!""ใช่แล้ว จูดี้ องค์กรแบล็คโกลฟส์บ้าบออะไร ไปตายเถอะอลิซ!"ชายชาวหมี่ชื่อเจอร์รี่ยืนขึ้นด้วยส

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 290

    "สำหรับการตายที่ผ่านมา ฉันต้องขอโทษจริงๆ ฉันก็เพิ่งจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เหมือนกัน"คำพูดเหล่านี้ของอลิซ ทำให้ชายชาวหมี่สามคนสงบลง โดยความบ้าคลั่งก็ลดลงเช่นกัน และเขาก็ค่อยๆ วางปืนพกลง"สิ่งที่คุณพูด เป็นความจริงทั้งหมดใช่ไหม?"แน่นอนว่า หากสามารถรอดตายออกไปได้ ใครก็ไม่อยากจะตายอยู่ในสถานที่แบบนี้อยู่แล้ว"ต้องเป็นความจริงอยู่แล้ว ฉันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหลอกพวกนาย เพราะสุดท้ายแล้ว พวกเราเป็นสหายที่ผ่านชีวิตและความตายร่วมกันมาก่อนนะ"อลิซพูดอย่างหนักแน่น"ส่วนเรื่องเมื่อครู่นี้ ฉันก็เข้าใจดี ภายใต้ความคิดที่ว่าตัวเองจะตาย คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะบ้าคลั่งขึ้นมา ฉันไม่ถือสาพวกนายหรอก""โอเค พวกเราเชื่อฟังคุณ คุณต้องพาพวกเราออกไปให้ได้" เจอร์รี่และคนอื่นๆ แลกเปลี่ยนสายตากัน พร้อมกับตัดสินใจ"พวกต่างชาตินี่รู้มากเลยนะ แม้แต่ศาสตร์พยากรณ์จีนโบราณก็รู้ด้วย""ถ้าเธอต้องการเปิดประตูชีวิต พวกเราก็จะออกไปด้วยกัน" หลินเฟยรู้สึกประหลาดใจ พร้อมกับพูดด้วยความดีใจขึ้นมาเล็กน้อยเดม่อนที่ถูกปล่อยให้โดดเดี่ยว ตะคอกอย่างไม่พอใจออกมา"พวกแกมันโง่!""ต่อให้นังนี่จะรู้ทางออก ก็ไม่จำเป็นต้องไ

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 291

    "ประตูชีวิตเป็นเรื่องโกหกหรือนี่ ผู้หญิงคนนั้นก็สวยดีอยู่นะ รูปร่างก็ดี แต่เล่ห์เหลี่ยมก็แพรวพราวด้วยเช่นกัน"ขณะที่หลินเฟยรู้สึกผิดหวัง เขาก็เพิ่มความระมัดระวังต่ออลิซมากยิ่งขึ้น"พวกเธอเป็นอาชญากรนะ คุณยังจะคาดหวังให้เธอพูดความจริงอยู่อีกเหรอ?""อย่าเชื่อผู้หญิงง่ายๆ เพียงเพราะว่าความสวยเท่านั้นนะ" ลู่หลีหยิกหลินเฟยด้วยความไม่พอใจแม้ว่าจะเห็นอลิซฆ่าคนต่อหน้าต่อตา แต่ลู่หลีก็ไม่ได้มีความคิดที่จะลงมือในทันทีแต่คนที่อลิซฆ่านั้นทั้งหมดคือชาวหมี่ และก็เป็นอาชญากรด้วยเช่นกันจากมุมมองของลู่หลี คนเหล่านี้สมควรโดนฆ่าทั้งหมดแต่ถ้าหากว่าคนที่อลิซฆ่าคือชาวตะวันออก ลู่หลีคงไม่สามารถซ่อนตัวต่อไปได้ และต้องเข้าไปจับกุมตัวเธอในทันที"ไม่เป็นไรหรอก ค้นหาเครื่องตรวจจับที่หายไป ตรวจสุสานไปให้ทั่ว พวกเราก็จะตามหาทางออกได้เหมือนกัน"เมื่อเห็นสีหน้าที่สิ้นหวังของผู้หญิงชาวหมี่ทั้งสอง อลิซก็พูดปลอบโยนขึ้นมาว่า"แต่คุณหนูคะ..."สีหน้าของหญิงสาวชาวหมี่สองคนดูไม่สู้ดีนัก และเธอก็พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวว่า "เครื่องตรวจจับอยู่บนตัวของคาร์เตอร์ แต่คาร์เตอร์เสียชีวิตด้วยน้ำมือของสัตว

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 292

    "คุณหนูคะ นี่เป็นเพียงแค่ตำนานมั้งคะ น่าจะไม่ใช่เรื่องจริงนะคะ"ผู้หญิงชาวหมี่สองคนรู้สึกยากที่จะรับได้"สัตว์ประหลาดตัวก่อนหน้านี้ พวกเธอได้เห็นแล้วใช่ไหม? นั่นคือเงือกในตำนานของชาวตะวันออก มันมีชีวิตอยู่ได้ และเรื่องของธิดามังกรนั้น ก็ต้องไม่ใช่ตำนานอย่างแน่นอน!""เพียงแต่ว่า ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า สุสานที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ ยังมีเงือกและงูยักษ์คอยเฝ้าอยู่ หากคิดที่จะตามหาธิดามังกร คาดว่าคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว""ตอนนี้ เราจำเป็นต้องคิดหาวิธีออกไปได้เสียก่อน ต่อไปค่อยคิดหาวิธีตามหาธิดามังกรก็แล้วกัน"อลิซพูดอย่างไม่เต็มใจออกมาหลังจากที่ผู้หญิงชาวหมี่สองคนรับรู้ความจริงในเรื่องนี้แล้วนั้น อารมณ์ของพวกเธอก็ไม่ได้สั่นไหวมากนักเพราะในตอนนี้ พวกเธอคิดแค่เพียงว่า ทำอย่างไรถึงจะค้นหาเครื่องตรวจจับให้พบ และหนีรอดออกไปจากที่นี่ได้น่าเสียดายที่ว่า การไล่ล่าของสัตว์ประหลาดในถ้ำนั้นยาวนานเกินไป ทุกเธอต่างก็เหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าจนถึงขีดสุดมาตั้งนานแล้วทันทีที่ได้นั่งลงพักผ่อน เปลือกตาก็อดไม่ได้ที่จะต่อสู้กันขึ้นมาแต่ก็กังวลเหลือเกินว่า สัตว์ประหลาดที่อยู่ในหลุมนั้นจะกระโจนออกมาได้ตลอดเวลา

บทล่าสุด

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 1150

    ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 1149

    เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 1148

    "ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 1147

    "ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 1146

    "ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 1145

    น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 1144

    กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 1143

    สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา

  • แพทย์เซียนเนตรทะลวงแห่งขุนเขา   บทที่ 1142

    ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status