"คุณหนูคะ นี่เป็นเพียงแค่ตำนานมั้งคะ น่าจะไม่ใช่เรื่องจริงนะคะ"ผู้หญิงชาวหมี่สองคนรู้สึกยากที่จะรับได้"สัตว์ประหลาดตัวก่อนหน้านี้ พวกเธอได้เห็นแล้วใช่ไหม? นั่นคือเงือกในตำนานของชาวตะวันออก มันมีชีวิตอยู่ได้ และเรื่องของธิดามังกรนั้น ก็ต้องไม่ใช่ตำนานอย่างแน่นอน!""เพียงแต่ว่า ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า สุสานที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ ยังมีเงือกและงูยักษ์คอยเฝ้าอยู่ หากคิดที่จะตามหาธิดามังกร คาดว่าคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว""ตอนนี้ เราจำเป็นต้องคิดหาวิธีออกไปได้เสียก่อน ต่อไปค่อยคิดหาวิธีตามหาธิดามังกรก็แล้วกัน"อลิซพูดอย่างไม่เต็มใจออกมาหลังจากที่ผู้หญิงชาวหมี่สองคนรับรู้ความจริงในเรื่องนี้แล้วนั้น อารมณ์ของพวกเธอก็ไม่ได้สั่นไหวมากนักเพราะในตอนนี้ พวกเธอคิดแค่เพียงว่า ทำอย่างไรถึงจะค้นหาเครื่องตรวจจับให้พบ และหนีรอดออกไปจากที่นี่ได้น่าเสียดายที่ว่า การไล่ล่าของสัตว์ประหลาดในถ้ำนั้นยาวนานเกินไป ทุกเธอต่างก็เหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าจนถึงขีดสุดมาตั้งนานแล้วทันทีที่ได้นั่งลงพักผ่อน เปลือกตาก็อดไม่ได้ที่จะต่อสู้กันขึ้นมาแต่ก็กังวลเหลือเกินว่า สัตว์ประหลาดที่อยู่ในหลุมนั้นจะกระโจนออกมาได้ตลอดเวลา
"รับทราบค่ะ คุณหนู!"ผู้หญิงชาวหมี่สองคนกระชับปืนในมือทันที พร้อมกับเล็งปืนไปทางหลินเฟยอย่างระแวดระวังโดยที่อลิซก็ได้เดินตามหลังทั้งสองคนไปอย่างติดๆ ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมด้วยเช่นกัน"หากเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเธอจะต้องหาพวกเราเจออย่างแน่นอน""ในเมื่อเธอต้องการจะฆ่าพวกเรา งั้นเราก็ลงมือเสียก่อนดีกว่า จัดการพวกเธอให้สิ้นซาก?"หลินเฟยพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชาผู้หญิงคนนี้ใจคอโหดเหี้ยมมาก ฆ่าคนได้ราวกับผักปลา หลินเฟยไม่กล้าที่จะปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน"ไม่ได้ พวกเธอเป็นอาชญากรคนสุดท้าย จะต้องจับเป็นให้ได้" ลู่หลีพูดออกมาอย่างดื้อรั้น"จับเป็น? หายใจพะงาบๆ น่ะ โอเคไหม? ผมหักมือสองข้างของเธอก่อน แล้วก็ค่อยหักขาสองข้างทีหลัง เป็นไง?""หากมีความเมตตาต่ออาชญากร มันก็เท่ากับเหี้ยมโหดกับตัวเอง!""คุณเป็นสายตรวจนะ ไม่ใช่พระโพธิสัตว์สักหน่อย!"หลินเฟยพูดออกมาอย่างเสียไม่ได้"งั้นก็ทำตามที่คุณว่าเลย ไม่ถึงชีวิตก็พวกเธอก็พอ" ลู่หลีพูดพร้อมกับขมวดคิ้วขณะพูดผู้หญิงชาวหมี่สองคนนั้นที่เดินนำหน้าไป อยู่ห่างจากหลินเฟยและลู่หลีไม่ถึงห้าสิบเมตรเสียด้วยซ้ำและอลิซที่ตามมาข้างหลังก็ขยับออกห่างจากพวกเ
ปังปังปัง!ในการยิงออกไปสามนัดนี้ กระสุนลูกหนึ่งได้เจาะทะลุไปยังไหล่ที่บอบบางของอลิซ!อีกลูกหนึ่งยิงไปโดยขาของอลิซ ส่วนนัดสุดท้าย ก็ไม่ได้ยิงโดนแต่อย่างใดต่อให้จะเป็นแบบนี้ มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้การเคลื่อนไหวของอลิซสูญเสียไปแล้ว!แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือ หลังจากที่ผู้หญิงคนนี้ถูกยิง เธอกลับไม่ได้ส่งเสียงร้องออกมาแต่อย่างใด!"คุณคอยดูผู้หญิงสองคนนี้นะ ผมจะไปตามหาผู้หญิงประเทศหมี่คนนั้น!"หลินเฟยพูดกับลู่หลี และวิ่งตามอลิซไปอย่างรวดเร็ว"ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้ค้นพบตำแหน่งของฉันได้อย่างไรกัน..." อลิซอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก พร้อมกับมีความขุ่นเคืองใจปะปนไปด้วย!เธอถูกยิงที่ขา และการเคลื่อนไหวของเขาก็เท่ากับศูนย์หลินเฟยไล่ตามอลิซไปโดยไม่ได้เปลืองแรงแต่อย่างใด พร้อมกับพูดอย่างเกรี้ยวกราดออกมาว่า "นังพวกบ้า โยนปืนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!"เมื่ออลิซมองเห็นใบหน้าของหลินเฟยได้อย่างชัดเจน ซึ่งเขาเป็นชายหนุ่มอายุสิบเจ็ดสิบแปดเท่านั้น และความรู้สึกหลงใหลก็ได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น!"นี่ฉันต้องแพ้ให้กับเด็กเมื่อวานซืนแล้วอย่างนั้นเหรอ?!""อย่างแรก ฉันไม่ใช่เด็ก อย่างที่สอง ฉันบอกให้แกเอาปืนมาให้ฉ
มีอะไรให้ตามหาผู้ชายของคุณ คำพูดเหล่านี้เปรียบเสมือนค้อนน้ำหนักอันทรงพลัง ที่กระทบต่อจิตใจของลู่หลีครั้งแล้วครั้งเล่า และการมีช่วงเวลาความเป็นความตายกับหลินเฟยในสุสานใต้อ่างเก็บน้ำนี้ ลู่หลีก็เริ่มพึ่งพาหลินเฟยมากขึ้นเรื่อยๆ"โอเค ฉันเข้าใจแล้ว..." ลู่หลีตอบตกลงด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าวแต่จู่ๆ ก็ได้มีเสียงที่ไม่เหมาะสมดังขึ้นมา โดยที่อลิซยังคงมองมาที่หลินเฟยอย่างไม่เข้าใจ พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "บอกฉันที ทำไมแกถูกยิงแล้วไม่เป็นอะไรเลย?""หรือว่าคุณได้สวมชุดเกราะกันกระสุนที่ชาวตะวันออกของพวกคุณได้คิดค้นขึ้นมาใหม่?""มันเกี่ยวอะไรกับแกด้วย จะมาถามทำไม"หลินเฟยตะคอกใส่เธออย่างไม่เกรงใจเขาไม่มีความประทับใจที่ดีกับผู้หญิงคนนี้"แก...แกพูดให้มันดีๆ หน่อยนะ ตั้งใจตอบคำถามฉันหน่อย!"อลิซไม่คิดว่าหลินเฟยจะหยาบคายได้ขนาดนี้ และใบหน้าของเธอก็มืดมนลงในทันที"เพี้ยะ!""ฉันตอบแกไปแล้ว ขืนยังจะมาปากมากอีก เดี๋ยวเจอดีแน่!"หลินเฟยตบหน้าอลิซอย่างเต็มแรง!"แก……"อลิซเกรี้ยวกราดเอาเสียมากๆ และดวงตาสีฟ้าของเธอก็ได้จับจ้องไปที่หลินเฟย ราวกับว่าจะกินเขาให้ได้อย่างไงอย่างงั้นเธอเป็นบุคคลสำคัญของ
“บางทีพวกแกอาจจะตายต่อหน้าฉันตอนเจอสัตว์ประหลาดก็ได้นะ!”“หรือต่อให้โชคดีหาเครื่องตรวจจับวัตถุเจอ ถ้าไม่มีรหัสก็ใช้ไม่ได้หรอก!”สาวชาวต่างชาติจากประเทศหมี่ทั้งสองหัวเราะเยาะพวกเธอคิดเอาไว้แล้วหลายปีมานี้ องค์กรแบล็คโกลฟส์ได้ไล่ล่าปล้นสุสานโบราณเจ้าชายทั่วประเทศ พวกเขาขายต่อและลักลอบนำสมบัติหายากมากมายไป!ข้อหาพวกนี้รวมกันแล้วก็พอกันกับโทษประหารชีวิต จะออกไปก็ต้องตาย อยู่ที่นี่ก็ต้องตายเหมือนกัน!สำหรับพวกเธอ การตายอยู่ที่นี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่ายิ่งไปกว่านั้น พวกเธอยังสามารถลากหลินเฟยกับลู่หลีให้ตายตกไปพร้อมกันได้!“ตอนนี้จะทำยังไงดี...”ทันทีที่ลูหลี่คิดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของเธอก็ดูย่ำแย่ลง“ไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่กลัวตายละก็ งั้นก็คงกลัวการมีชีวิตอยู่ต่อแบบตกระกำลำบากสินะ…”หลินเฟยแตะคางของเขาพร้อมกับคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานนักไอเดียของเขาก็ผุดขึ้นมา“คิดวิธีแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง” ลู่หลี่ถามด้วยความสงสัย“ฉีกเสื้อผ้าของพวกเธอแล้วโยนให้งูยักษ์ ให้งูยักษ์จัดการพวกเธอซะ!”หลินเฟยจงใจแสดงสีหน้าเย็นชาและขู่“หลินเฟย ทำไมนายถึงได้มีความคิดโรคจิตแบบนี้ฮะ? ไม่ได้ ทำแบบนั้นไม่ได
“แกไอ้คนสารเลว...แกยังคิดให้ฉันพูดดี ๆ อะไรอีก?”“ฉันมีแต่อยากจะกระชากแกออกเป็นชิ้น ๆ !”หลินเฟยเตะก้นของอลิซไปสี่ห้าครั้งแล้ว มันทั้งเจ็บแสบและยังให้ความรู้สึกอัปยศอย่างแรงกล้ามันทำให้เธอแทบคลั่ง เธอจึงตะโกนก่นด่าหลินเฟยด้วยความโกรธถ้าไม่ใช่เพราะตัวเธอโดนยิงไปถึงสี่นัด เธอคงต่อสู้กับหลินเฟยจนตายไปแล้ว!“ยัยหญิงโฉดเอ๊ย ช่างเถอะ ผมขี้เกียจเกินกว่าจะคิดเล็กคิดน้อยกับคนแบบคุณแล้ว รีบพาผมไปหาเครื่องตรวจจับซะ”เดิมทีหลินเฟยอยากจะเตะอลิซอีกครั้ง แต่เขาก็ถูกสายตาของลู่หลี่ห้ามปรามเอาไว้“ได้ ฉันจะพาแกไปหาเครื่องตรวจจับ…”อลิซระงับความโกรธและพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลของตัวเองแล้วลุกขึ้นนำทางด้วยท่าทางการเดินกะโผลกกะเผลก“คุณหนูยังบาดเจ็บอยู่ ให้เราช่วยพยุงคุณนะคะ…”หญิงประเทศหมี่สองคนรีบวิ่งไปช่วยเขาโดยไม่สนความเจ็บปวดของบาดแผลแต่สายตาที่มองหลินเฟยกลับเต็มไปด้วยความโกรธ“ปล่อยนะ ฉันเดินเองได้!” อลิซสะบัดทั้งสองคนออกด้วยความโมโหสีหน้าของอลิซทั้งอ่อนแรงและซีดขาวเพราะบาดแผลกระสุนปืนทั่วร่างกาย การลุกขึ้นมาเดินแบบนี้แน่นอนว่ากินแรงเธอมาก“หลินเฟย” เมื่อเห็นดังนั้น ลู่หลี่
“พวกคุณไปยืนอยู่ห่าง ๆ หน่อย อย่าเกะกะผมถอนกระสุน”หลินเฟยเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“จูดี้ ถอยกลับไป ถ้าคุณหนูไม่ได้รักษาคุณหนูอาจจะเลือดออกจนเสียชีวิต”หญิงประเทศหมี่ที่ตัวไม่สูงมากพูดแล้วถอยไปสองก้าว“นี่คือกริช ไม่ใช่มีดผ่าตัด นายจะใช้มันเอากระสุนออกได้ยังไง”“แน่ใจใช่ไหมว่านี่แกไม่ได้กำลังจะทำคุณหนูเราตาย?”ผู้หญิงที่ชื่อว่า จูดี้ กลับไม่ยอมถอยเพราะเธอไม่ไว้ใจหลินเฟยเลย“ฮึ มีดทำครัวผมก็เอากระสุนออกได้ หยุดพูดเรื่องไร้สาระซะ ไม่งั้นผมจะทำให้คุณเป็นเหมือนคุณหนูของคุณซะ”หลังจากที่หลินเฟยพูดจบ เขาก็เมินความคิดเห็นของจูดี้ไปเขาเอื้อมมือออกไปแตะบริเวณใกล้กับหัวไหล่ของอลิซสองสามครั้งจากนั้นก็จับกริชไว้แน่น และเริ่มกรีดผ่าบาดแผลกระสุนบนไหล่ของอลิซอย่างแม่นยำแต่น่าแปลกมากที่กลับไม่มีเลือดไหลออกมาจากปากบาดแผล“ติ๊ง!”หลินเฟยใช้มือของเขาหยิบกระสุนออกมาจากเนื้อก่อนจะทิ้งมันลงบนพื้น“อี๊ มือสกปรกหมดเลย ต้องไปเช็ดเลือดซะแล้วสิ”หลินเฟยท่าทางรังเกียจ เขาเช็ดมือของเขาบนผ้าผืนเดียวที่วางปิดอยู่บนหน้าอกของอลิซเนินเนื้อหยดของเธอก็เปลี่ยนรูปร่างไปมาไม่อยู่ตามการเคลื่อนไหวของหลิน
แต่ไม่ว่าคุณจะพูดยังไง ประโยคนี้มันก็ฟังดูคลุมเครือมาก“หืม? งั้นผมก็ทำจากข้างหลังแล้วกัน…”หลินเฟยไม่เพียงแต่เลิกคิ้วขึ้นเท่านั้น หัวใจของเขาถึงกับเต้นผิดจังหวะก่อนที่เขาจะรับปากเขาทำท่าทางจะถอดกางเกงชั้นในของอลิซที่ติดอยู่กับเนื้อนุ่มสีขาวนวลของเธอออกหลินเฟยถึงก้มลงและจงใจโน้มตัวไปทางอลิซ“แกจะทำอะไรน่ะ? ไอ้เด็กลิงเหลืองเหลือขอน่ารังเกียจ!!”อลิซโกรธมากจนถึงกับพูดไม่คล่อง ใบหน้าที่งดงามของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่ร่างกายของเธอยังชาและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ไม่อย่างนั้น เธอคงได้สู้กับหลินเฟยแน่นอน!เธอเกลียดผู้ชายมากที่สุด ถ้าเป็นเวลาปกติละก็ เธอถูกผู้ชายรังแกขนาดนี้ เธอคงหญิงเขาเป็นชิ้นไปแล้ว“ถุย ๆ ๆ อิตาบ้า ฉันพูดผิดเอง!”“ฉันให้นายรีบเอากระสุนออกจากทางด้านหลัง ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะ!”ลู่หลี่โกรธกับการกระทำของหลินเฟย จึงรีบดึงหลินเฟยออกไป“แกไอ้เปี๊ยก แกคิดจะทำอะไรกับคุณหนูของเราฮะ? เชื่อไหมว่าเราจะสู้กับแกเดี๋ยวนี้เลย!”จูดี้และหญิงประเทศหมี่อีกคนตะโกนใส่หลินเฟย“ผมล้อเล่น ผมไม่สนใจผู้หญิงประเทศหมี่คนนี้หรอก ผมแค่ล้อเล่นเองทำจริงจังไปได้น่า”หลินเฟยเมินจูดี้แ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได