ฉู่เสวี่ยเยี่ยนได้คำนวณแล้วว่า หากต้องการจะผลักดันไก่ฟีนิกซ์ให้เป็นเมนูเด่นจริงๆแต่ละเดือนจะต้องมีไก่ฟีนิกซ์อย่างน้อยสี่ร้อยตัวขึ้นไป!เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ วิธีเดียวคือต้องช่วยจางหยวนสร้างฟาร์มเลี้ยงไก่!“คนเจ้าเล่ห์! ถือว่านายได้เปรียบเลยนะเนี่ย!” ฉู่เสวี่ยเยี่ยนริมฝีปากแดงอ้าเล็กน้อย พ่นลมหายใจออกมาเบาๆพูดจบ เธอก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าประโยคนี้ดูคลุมเครือ เหมือนว่าได้ให้ร่างกายของเธอเป็นของขวัญแก่จางหยวนเสียอย่างนั้น!ประธานหญิงที่ดูเย็นชา ใบหน้าขาวผ่องก็แดงก่ำขึ้นมาทันทีเธอโล่งอกที่ในห้องทำงานมีเพียงเธอคนเดียว หากคนอื่นได้ยินคำพูดของเธอเมื่อครู่ ฉู่เสวี่ยเยี่ยนคงจะอายจนหน้าแดงและไม่อยากสู้หน้าใครอีกดังเป็นพลุแตกในค่ำคืนเดียว!การใช้คำนี้มาอธิบายเมนูใหม่ของร้านอาหารเทียนเหออย่างไก่ฟีนิกซ์ตุ๋นเห็ดหอมนั้น เหมาะสมที่สุดแล้วเพียงแค่ข้ามคืน เหล่าเจ้าของกิจการและผู้มีอำนาจที่มักจะไปกินอาหารตามร้านอาหารทั้งสามแห่ง ก็ได้ยินข่าวเมนูใหม่ของร้านอาหารเทียนเหอแล้วและทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณลูกค้าเมื่อคืนที่ช่วยกันประชาสัมพันธ์หลังจากได้ลิ้มลองรสชาติของไก่ฟีนิกซ์แล้ว พวกเขาทุกคนต่างปร
สองคนไม่รอช้า ต่างคนต่างตักซุปมาชิมทันทีหลังจากได้ชิมเนื้อไก่ไปเพียงสองคำ สีหน้าของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดไม่ใช่ว่าเนื้อไก่ไม่อร่อย แต่อร่อยมาก!ถึงแม้ก่อนหน้านี้ทั้งคู่จะเตรียมใจมาแล้วแต่ก็ไม่คิดว่าเนื้อไก่ฟีนิกซ์จะมีรสชาติที่นุ่มละมุนลิ้นและหอมหวานขนาดนี้เมื่อร้านอาหารเทียนเหอมีอาวุธลับเช่นนี้ ร้านอาหารของพวกเขาจะแข่งขันกับร้านอาหารเทียนเหอได้อย่างไรพอคิดว่าฉู่เสวี่ยเยี่ยนจะใช้ไก่ฟีนิกซ์วิเศษนี้ ดึงลูกค้าของร้านอาหารตนไปทีละน้อย ตู้เหิงเซิงก็อดเหงื่อตกไม่ได้ส่วนซ่งเวยก็ไม่ต่างกันมากทั้งสองสบตากัน แล้วเห็นความหวาดกลัวในแววตาของกันและกัน“ประธานซ่ง จะทำอย่างไรต่อไปดี?” ตู้เหิงเซิงถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าซ่งเหว่ยหัวเราะอย่างขมขื่น “จะทำอย่างไรได้ ฉู่เสวี่ยเยี่ยนหาผู้จัดจำหน่ายที่ยอดเยี่ยมมาได้! วัตถุดิบชั้นเลิศแบบนี้หาไม่ได้ในท้องตลาด!”ตู้เหิงเซิงเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วโบกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟออกไปเมื่อเหลือเพียงแค่สองคนในห้องส่วนตัว ตู้เหิงเซิงจึงพูดเสียงทุ้มต่ำ“ตอนนี้ทางเดียวที่เราจะทำได้ คือแย่งผู้จัดจำหน่ายคนนั้นมาจากฉู่เสวี่ยเยี่ยน! ถึงแย่งมาไม่ได้ ก็ต
“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ อย่าดูดนะ มันเจ็บ!”“อาหยวน พี่อดทนอีกนิดนึงนะ อีกเดี๋ยวพี่สะใภ้ก็จะดูดมันออกมาได้แล้ว!”“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ เจ็บมากเลย... ซี๊ด…”“เอาล่ะเอาล่ะ ออกมาแล้ว!”ตอนบ่าย ณ ทุ่งข้าวโพดหน้าหมู่บ้านเซี่ยวานจางหยวนผู้มีใบหน้าที่โง่เขลา มองไปที่หญิงสาวที่กำลังนั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าด้วยหน้าตาที่บูดบึ้งหญิงสาวชื่อหลี่ชิวจวี๋ อยู่ในวัยที่บรรลุนิติภาวะแล้วไม่เพียงแต่หน้าตาสะสวยผิวขาวผุดผ่องแล้ว รูปร่างก็โค้งเว้าสมส่วน เป็นที่สะดุดตาเป็นอย่างมากเธอสวมเสื้อกั๊กคอวีสีชมพูหลวม ๆ ตัวหนึ่งเนื่องจากกำลังนั่งยอง ๆ แค่จางหยวนก้มศีรษะลงไปเล็กน้อย ก็จะสามารถเห็นผิวขาวกระจ่างใสที่คอเสื้อของหลี่ชิวจวี๋ได้แล้วถ้าเปลี่ยนไปเป็นกุ๊ยเหล่านั้นในหมู่บ้าน เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ก็คงจะกลืนน้ำลายไปหลายอึกแล้วแต่นอกจากจางหยวนจะไม่แยแสแล้ว ยังกล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหดหู่ใจว่า:“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ พี่ดูดจนผมเจ็บไปหมดแล้ว!”เมื่อได้ยินดังนี้ หลี่ชิวจวี๋ที่กำลังเช็ดเลือดออกจากมุมปากก็กลอกตาใส่:“พี่นี่มันโง่จริง ๆ ! พี่รู้ไหมว่าเมื่อกี้มันอันตรายมากแค่ไหน? ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สะใภ้ดูดเลือดพิษออก
ร้อนแรงจนควบคุมตนเองไม่ได้ หลี่ชิวจวี๋ยื่นมือออกไป แล้วแตะไปที่เอวของจางหยวน...แต่ในเวลานี้ จางหยวนรู้สึกราวกับว่าถูกคนเหยียบหางของเขา"โอ๊ย……"เขากรีดร้องแล้วกระโดดขึ้น จากนั้นก็วิ่งไปที่สระน้ำโดยไม่หันกลับมามองอีกเลยสีหน้าของหลี่ชิวจวี๋เปลี่ยนไปเป็นอย่างมากน้ำที่อยู่ตรงขอบสระ ไม่ได้ลึกมาก แต่ส่วนที่ลึกที่สุดกลับลึกจนไม่เห็นก้นสระ"พี่หยวน อย่าวิ่ง รีบกลับมา…""พี่หยวน..."หลี่ชิวจวี๋ตะโกน แต่จางหยวนกลับวิ่งเข้าใกล้ส่วนที่ลึกของสระน้ำมากขึ้นเรื่อย ๆหลี่ชิวจวี๋จึงรีบไล่ตามเขาไปแต่หลังจากวิ่งไล่ตามไปได้ไม่นาน น้ำก็ขึ้นมาจนถึงคอของเธอเธอมองดูจางหยวนที่วิ่งไปที่ส่วนลึกของสระน้ำด้วยความจนใจ คนทั้งคนกระพือแขนในน้ำอยู่ครู่หนึ่ง กลืนน้ำเข้าไปหลายอึก แล้วก็จมลงไป"พี่หยวน..."หลี่ชิวจวี๋ตกใจทันทีเธอรีบกลับเข้าฝั่ง แล้วตะโกนว่า "ใครก็ได้ ช่วยฉันด้วย...""ใครก็ได้ช่วยด้วย..."หลี่ชิวจวี๋พลางตะโกน พลางหาท่อนไม้ยาวท่อนหนึ่งมาช้อนตัวจางหยวนแต่กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย"ฮือฮือ..."“พี่หยวน พี่สะใภ้ขอโทษ!”“ใครก็ได้ช่วยด้วย...”หลี่ชิวจวี๋ร้องไห้ฟูมฟายในขณะนี้“เอ๊ะ นี่หลี
“พี่หยวน ฮือฮือ...”“หากพี่มาช้าไปกว่านี้ ฉันจะต้องสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วแน่ ๆ” หลี่ชิวจวี๋ร่ำไห้จางหยวนโอบกอดหลี่ชิวจวี๋เอาไว้ ก้มหน้าลงเพื่อจะพูดปลอบใจสักสองสามคำคิดไม่ถึงว่าทันทีที่สายตาโฟกัสลงไปด้านล่าง ก็เห็นว่าเสื้อผ้าของหลี่ชิวจวี๋ยุ่งเหยิงหน้าอกที่ขาวราวหิมะ เผยให้เห็นครึ่งหนึ่ง และกำลังแนบชิดกับหน้าอกของจางหยวน...พอเขาได้สัมผัสถึงความนุ่มนวลของหลี่ชิวจวี๋ สูดดมกลิ่นหอมจากร่างกายของ เธอ จางหยวนที่เพิ่งจะมีสติสัมปชัญญะก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกฟุ้งซ่านเล็กน้อย และรู้สึกคันจมูกขึ้นมาทันทีโดยเฉพาะตอนที่เขานึกถึงการกระทำก่อนหน้านี้ของหลี่ชิวจวี๋ จางหยวนรู้สึกได้ถึงแรงกระตุ้นอันแผ่วเบาในใจผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่เช่นนี้ แถมยังเป็นม่ายมาหลายปี หรือว่า จะทำกิจที่ยังทำกับหลี่ชิวจวี๋ไม่เสร็จต่อไป...แต่พอจางหยวนสังเกตเห็นว่า เสื้อผ้าที่หลี่ชิวจวี๋ใส่ ดูเหมือนจะเป็นเสื้อผ้าแบบเดียวกับตอนที่เธอใส่ตอนแต่งงานเข้ามาในหมู่บ้านเซี่ยวาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะลังเลเฮ้อ!พี่ชิวจวี๋ก็เป็นคนที่น่าสงสารเหมือนกันแถมยังเป็นผู้มีพระคุณของจางหยวนด้วยครอบครัวของหลี่ชิวจวี๋และครอบครัวของจางหย
เมื่อจางหยวนเห็นสีหน้าของหลี่ชิวจวี๋เปลี่ยนเป็นสีแดง ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: "พี่ชิวจวี๋ ผมทำให้พี่เจ็บหรือเปล่า"ขณะที่พูด เขาก็ปล่อยมือหลี่ชิวจวี๋จับมือเขาเอาไว้โดยที่ไม่รู้ตัว“พี่หยวน อย่า! ทำแบบนี้แหละ…”“พี่สะใภ้รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว พี่เก่งมากจริง ๆ !”พูดจบ หลี่ชิวจวี๋ไม่รู้คิดอะไรอยู่ สีหน้าจึงแดงก่ำด้วยความเขินอาย จากนั้นก็รีบหยิบหมอนขึ้นมาปิดศีรษะเอาไว้หลังจากที่จางหยวนตอบสนองได้ ก็พูดไม่ออกเล็กน้อยเขาเม้มริมฝีปาก และจะบอกว่าตนเองจะกลับบ้านแล้ว แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นกลับเห็นเอวอันเรียวบางของหลี่ชิวจวี๋บิดเล็กน้อยราวกับว่าเป็นงูน้ำตัวหนึ่งอึก ๆเขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายเหงื่อบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนหน้าผากส่วนหนึ่งเป็นเพราะเหนื่อยล้าจากการรักษา อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะถูกทรมานจากภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าสักพัก ในห้องก็เงียบลงท้องฟ้าด้านนอกก็ค่อย ๆ มืดลงแสงสว่างในห้องก็มืดสลัวลงเช่นกันตามคำร้องขอของหลี่ชิวจวี๋ จางหยวนจึงนวดให้หลี่ชิวจวี๋อยู่ตลอดเวลาเมื่อเห็นว่าดึกแล้ว และจางหยวนก็เห็นว่าหลี่ชิวจวี๋ไม่ได้ขยับตัว จึงคิดว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้วเมื่อเห็นดังนี้ จางหยวนก็
จางหยวนเผยรอยยิ้มออกมา: "พ่อครับ แม่ครับ ผมหายแล้ว ผมจำเรื่องในอดีต ได้ทั้งหมด"เพล้งชามที่อยู่ในมือของหวังฮุ่ยหล่นลงบนพื้นเธอร้องไห้ด้วยความดีใจสุดขีด: "ดีเหลือเกิน ดีเหลือเกิน ในที่สุดลูกหยวนก็หายดีแล้ว"จางต้าซานไม่ได้พูดอะไร แต่นัยน์ตาของเขากลับเปล่งประกายแวววาวอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นภาพฉากนี้ จางหยวนก็สะอื้นไห้พร้อมพูดว่า "พ่อครับแม่ครับ ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ พ่อกับแม่ลำบากแล้ว"“ไม่ลำบาก เลี้ยงลูกชายของตนเอง มันจะไปลำบากอะไร!” จางต้าซานเผยรอยยิ้มที่หาได้ยากออกมาจางหยวนกล่าวต่อว่า: "พ่อครับ จริง ๆ แล้ว ผมไม่เพียงแต่หายดีเท่านั้น แต่ผมยังได้เรียนรู้ศาสตร์ทางการแพทย์บางอย่างด้วย ให้ผมดูอาการพ่อหน่อย บางทีผมอาจจะมีวิธีรักษาขอของพ่อก็ได้""ลูกหยวน ไม่ต้องพยายามแล้ว ขาทั้งสองข้างของพ่อ ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย แม้แต่หมอประจำหมู่บ้านก็ยังบอกว่ามันใช้การไม่ได้แล้ว... ลูกหายก็ดีแล้ว พรุ่งนี้พ่อจะขายที่ดินติดถนนของบ้านเราซะ แล้วหาเมียให้ลูกสักคนหนึ่ง ต่อไปจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข…"จางต้าซานโบกไม่โบกมือเมื่อได้ยินดังนี้ นัยน์ตาของจางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะแดงก่ำอีกครั้
ถ้าไม่ใช่เพราะเสื้อผ้ารัดรูปเป็นแนวป้องกันสุดท้าย จางหลินคงจะเปลือยกายล่อนจ้อนต่อหน้าจางหยวนไปแล้ว!ภาพเหตุการณ์ที่กะทันหันนี้ ทำให้ทั้งจางหยวนและจางหลินตกตะลึงเมื่อเห็นภาพอันขาวละมุนที่อยู่ตรงหน้า จางหยวนก็กลืนน้ำลายไปตามสัญชาตญาณหากหลี่ชิวจวี๋เป็นลูกพีชสุกขนาดใหญ่ งั้นจางหลินก็คือแอปเปิ้ลน้อยที่ฝาดเล็กน้อยลูกพีชลูกใหญ่ก็ดีแบบลูกพีชลูกใหญ่ แอปเปิ้ลเขียวก็ดีแบบแอปเปิ้ลเขียวกล่าวโดยสรุป จมูกของจางหยวนเริ่มคันขึ้นมาอีกครั้งในเวลาเดียวกัน จางหลินที่ตกตะลึงไปหลายวินาที ภายใต้การจ้องมองของจางหยวน ในที่สุดก็ตั้งสติได้เธอกรีดร้องเสียงดังทันที และยังไม่ลืมที่จะใช้แขนปกป้องส่วนที่สำคัญปฏิกิริยาของจางหลิน ทำให้จางหยวนอยากจะพูดว่า มีอะไรให้ต้องปกป้องเหรอ?มันไม่ได้ใหญ่อยู่แล้ว!แต่เขาไม่กล้าพูดคำเหล่านี้ออกไป ถ้าพูดออกไป มันจะเป็นการทำร้ายจิตใจคน!จางหยวนถอนสายกลับมาด้วยความร้อนตัว หันกลับมา แล้วเริ่มถอดเสื้อของตนเองออกเมื่อเห็นการกระทำของเขา จางหลินก็กรีดร้องหนักเข้าไปอีก“จางหยวน นาย...นายกำลังจะทำอะไร!” จางหลินพลางตะโกน พลางซักถามเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ จางหยวนก็แสดงท่าทา