ก่อนเข้าประตู เจิ้งปินยังถลึงตาใส่จางหยวนด้วยความดุดันจางหยวนกลับขมวดคิ้วขึ้นมาดูเหมือนว่าชายวัยกลางคนในรถของเจิ้งปิน จะมาจากสถานีปศุสัตว์!นี่คือศัตรูที่เก่งกาจคนหนึ่ง!สัตวแพทย์สัตว์เลี้ยงไม่นับประสาอะไรหรอก พวกเขารักษาแมวและสุนัขพอได้ แต่ไม่สามารถรักษาสัตว์ขนาดใหญ่ได้!แต่คนที่มาจากสถานีปศุสัตว์นั้นไม่เหมือนกัน!ไม่แน่อาจจะเป็นคนที่มีความสามารถ!ในตอนนี้ ยามตะโกนขึ้นมา:"นายน่ะ นายก็เข้าไปเถอะ! ฉันเพิ่งนึกออกเมื่อครู่ ตอนเช้าเจ้านายได้บอกกับฉัน ว่ายังมีหนุ่มน้อยคนหนึ่งมารักษาหมู น่าจะเป็นนายนั่นแหละ!"จางหยวนพยักหน้าและขี่รถสามล้อเข้าไปในฟาร์มหมูแม้ว่าพื้นที่ฟาร์มหมูนั้นจะไม่เล็ก แต่กลับสามารถมองเห็นได้ทั้งหมดนอกจากโรงเลี้ยงหมูแล้ว ยังมีพื้นที่สำนักงานอาคารสองชั้นแถวหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีโกดังใหญ่อีกสองหลังที่หน้าประตูโกดังหลังหนึ่ง ยังมีคนเฝ้าไว้โดยเฉพาะ ไม่รู้ว่าข้างในมีของสำคัญล้ำค่าอะไรไม่นานนัก จางหยวนก็หารถของเจิ้งปินเจอ และจอดรถสามล้อเอาไว้ที่ด้านข้างรถของเขาหลังจากจอดรถแล้ว จางหยวนกำลังคิดว่าใครเป็นคนพาเขาไปดูหมูล่ะ?ประตูสำนักงานที่อยู่ด้านข้างก็เปิดออก
นี่เป็นครั้งแรกที่จางหยวนได้เห็นผู้ชายที่อ้วนขนาดนี้ คนคนนี้น้ำหนักอย่างน้อย 150 กิโลกรัมขึ้นไป!ไม่เพียงแต่ใบหน้าเต็มไปด้วยไขมัน ท้องก็ทั้งใหญ่ทั้งกลมโซฟาเดี่ยวขนาดใหญ่ตั้งนั้น นั่งสองคนได้สบายมากแต่เมื่อชายคนนี้นั่งลงไป แค่หน้าท้องก็แทบจะเติมเต็มทั้งโซฟาแล้ว!เมื่อเห็นรูปร่างของเขา และก็นึกถึงเลขาตัวน้อยที่เล็กกะทัดรัดจางหยวนถึงขั้นที่ไม่กล้านึกภาพที่ผู้ชายตรงหน้าเล่นจ้ำจี้กับเลขาตัวเล็กกะทัดรัดนั้นเป็นอย่างไร!แต่พูดกลับมา หรือว่าอยากจะทำธุรกิจเลี้ยงหมูให้ประสบความสำเร็จ จะต้องเลี้ยงตัวเองจนกลายเป็นหมูด้วยเหรอ?ในตอนนี้ เลขาที่อยู่ข้างกายจางหยวนพูดแนะนำ:"ให้ฉันแนะนำนะคะ! ท่านนี้คือหลี่ตงเซิ่งเจ้านายของเราค่ะ!"จางหยวนพยักหน้าเขาพบว่าตอนที่เขาเข้ามา เจิ้งปินจ้องมองเขาด้วยสีหน้าเกลียดแค้นแต่หลังจากที่เลขาเข้ามา สายตาของเจิ้งปินก็หันมองไปที่ตัวของเลขา ในสายตาเต็มไปด้วยความกระหายของความโลภ"ท่านนี้คือคุณจางหยวน เขาเป็นคนที่ญาติของเจ้านายของเราเชิญมา เป็นสัตวแพทย์ที่เก่งกาจอย่างมาก!" เลขาน้อยพูดต่อสำหรับสายตาที่ร้อนรุ่มของเจิ้งปิน เธอกลับทำเหมือนมองไม่เห็นก้อนเนื้อย
พูดได้ว่า โรคอหิวาต์หมูเป็นโรคที่คนที่เลี้ยงหมูกลัวมากที่สุดอย่างแน่!โรคนี้รักษาได้ยากมาก และล้มป่วยอย่างรวดเร็วที่สำคัญที่สุดคือ โรคแบบนี้นี้ติดต่อได้!ในตอนนี้ แม้แต่ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างเจิ้งปิน ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้หลี่ตงเซิ่งสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง: "เจิ้งปิน ผมบอกกับคุณตามตรงนะ! เหตุที่ผมเรียกคุณมา ก็เป็นเพราะเจิ้งเฟิงเหนียนคุณลุงของคุณ""ลุงของคุณเป็นรองหัวหน้าของสถานีปศุสัตว์ และก็เป็นสัตวแพทย์ที่ระดับฝีมือสูงสุดในสถานีปศุสัตว์อีกด้วย! ที่ผมให้ความสำคัญก็คือฝีมือการแพทย์ของหัวหน้าสถานีเจิ้ง!"ในขณะที่พูด หลี่ตงเซิ่งก็มองไปที่ชายวัยกลางคนที่อยู่ถัดจากเจิ้งปินบุคคลนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือเจิ้งเฟิงเหนียนลุงของเจิ้งปินเจิ้งเฟิงเหนียนเอ่ยปากขึ้นช้า ๆ: "เถ้าแก่หลี่ หมูเหล่านั้นที่ติดเชื้ออหิวาต์ถูกกักกันไว้แล้วใช่ไหม?"“แน่นอนครับ! ผมหลี่ตงเซิ่งก็ไม่ใช่ว่าเลี้ยงหมูวันแรก! หมูที่ป่วยเหล่านั้นทั้งหมดถูกนำไปไว้ในโกดัง!” หลี่ตงเฉิงกล่าวจางหยวนถึงนึกขึ้นมาได้ เมื่อครู่ตอนที่เขาเดินมา ก็เห็นที่หน้าประตูโกดังใหญ่หลังหนึ่งมีคนเฝ้าอยู่ดูท่า นั่นเป็นโกดังที่จัดเก็
ในตอนนี้ หลี่ตงเซิ่งออกคำสั่งเลขาตัวน้อย: "เสี่ยวฉี เตรียมปากกากระดาษให้หัวหน้าสถานีเจิ้ง!"เลขาตัวน้อยรีบส่งสมุดบันทึกและปากกาลูกลื่นให้เจิ้งเฟิงเหนียน แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกเจิ้งปินแย่งรับไปเจิ้งปินยังถือโอกาสสัมผัสมือเล็กๆ ของเลขาอีกด้วยสีหน้าของเลขาไม่ได้เปลี่ยนไป แต่ในดวงตากลับมีความรังเกียจที่มากมายแวบผ่านไปเจิ้งเฟิงเหนียนไม่ได้สังเกตเห็นภาพนี้เขาหยิบปากกาขึ้นมาแล้วเขียนใบสั่งยาลงในสมุดบันทึก“ไปเอายาตามใบสั่งยานี้ ให้ร้านขายยาบดเป็นผงละเอียด แล้วนำไปใส่ในน้ำเอาให้หมูที่ป่วย นี่คือปริมาณสำหรับหมู 1 ตัว รายละเอียดต้องซื้อเท่าไหร่พวกคุณคำนวณเอาเอง!” เจิ้งเฟิงเหนียนกล่าวหลี่ตงเซิ่งรับบสมุดบันทึกขึ้นมาอ่านอย่างละเอียดแต่เขาก็ไม่เข้าใจ เพราะข้างบนนั้นทั้งหมดเป็นยาจีนจางหยวนก็อยากจะเหลือบมอง แต่เจิ้งปินกลับไม่ให้โอกาสเขาเพราะเจิ้งปินลุกขึ้นเดินมาด้านข้างหลี่ตงเซิ่งโดยตรง และบังสายตาของจางหยวนเอาไว้อย่างมิดชิด"ไอ้บ้านนอก! อย่าคิดจะแอบดูใบสั่งยาล้ำค่าของคุณลุงของฉัน!" เจิ้งปินส่งเสียงไม่พอใจจางหยวนยักไหล่ แสดงออกว่าตัวเองไม่ได้สนใจจากนั้นหลี่ตงเซิ่งก็สั่งเลขาตัวน้อย
เมื่อประตูโกดังเปิดออก หมูที่ป่วยออด ๆ แอด ๆ อยู่ข้างในก็ปรากฏต่อหน้าทุกคนหมูเหล่านี้มีอายุมากอายุน้อย แต่พวกมันทั้งหมดกลับนอนอยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงแม้ว่าจะมีมูลหมูอยู่ทุกหนทุกแห่งบนพื้น แต่พวกมันกลับเหมือนว่ามองไม่เห็นแน่นอนว่าอาจเป็นไปได้ด้วยว่าหมูเหล่านี้ไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นยืนจริง ๆเมื่อกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เจิ้งเฟิงเหนียนพูดเสียงเคร่งขรึม:"เทผงยาลงในน้ำ คนให้เข้ากัน แล้วป้อนให้หมูเหล่านี้!"หลี่ตงเซิ่งสั่งให้พนักงานทำตามที่เจิ้งเฟิงเหนียนพูดทันทีผ่านไปครู่หนึ่ง ก็ป้อนยาผงให้หมูป่วยจางหยวนเห็นผงยาที่เหลืออยู่ในถุงพลาสติก เขาจึงหยิบขึ้นมาหนึ่งกำมือ วางไว้หน้าจมูกแล้วดมกลิ่น จากนั้นก็อดขมวดคิ้วไม่ได้เจิ้งปินสังเกตจางหยวนอยู่ตลอดเมื่อเห็นจางหยวนดมยาผงไปด้วยขมวดคิ้วไปด้วย เขาจึงชี้หน้าจางหยวนแล้วเอะอะโวยวายขึ้นมา"ไอ้หนุ่ม นายขมวดคิ้วต่อยาของคุณลุง หมายความว่าอย่างไร?"ชั่วขณะ ทุกคนต่างมองไปทางจางหยวนเมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตาหลายคู่ในเวลาเดียวกัน ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน จางหยวนอาจจะรู้สึกกังวลเล็กน้อยแต่ตั้งแต่ที่จางหยวนรักษาโรคระบาดไก่ในหมู่บ้านจนหาย เหตุการณ์แ
"นี่ไม่ได้เอาให้หมูกิน! ต้นฝอยทอง, ผลไม้ห้ารสชิแซนดร้า, เก๋ากี้ม, ราสเบอร์รี่และยังมีผักกาดน้ำ! นี่มันคือยาจีนอู๋จื่อเหย่นจง ไว้ผลิตอสุจิ! เพียงแต่บดเป็นผงแล้วแค่นั้น!" จางหยวนพูด"โวะ!" เจิ้งเฟิงเหนียนส่งเสียงออกมาอย่างประหลาดใจทันที: "ไม่ผิดเลยสักอย่าง! ไอ้หนุ่ม ดูท่านายมีการรับกลิ่นที่ดีเลิศกว่าคนอื่นจริง ๆ! เพียงแต่มีจุดหนึ่งที่นายผิดแล้ว! นี่เป็นยาที่ไว้ให้แพะจ่าฝูงผู้ที่เลี้ยงอยู่ที่บ้านเกิดของฉันกินเพื่อผสมพันธุ์!""ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง!" จางหยวนเข้าใจในทันทีแพะจ่าฝูงที่ชนบทต้องผสมพันธุ์บ่อยครั้ง เปลืองแรงอย่างมาก จึงต้องบำรุงเป็นธรรมดายาอู๋จื่อเหย่นจงสามารถกระตุ้นการผลิตอสุจิ ให้แพะจ่าฝูงกินเหมาะสมพอดี!อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทุกคนในเหตุการณ์ได้รับการพิสูจน์จากเจิ้งเฟิงเหนียน ก็อื้ออึงทันทีพวกเขาคิดไม่ถึงว่า จางหยวนจะดมกลิ่นยาจีนออกจริง ๆในตอนนี้ เลขาไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ใบหน้าน้อย ๆ แดงก่ำในทันที!เธอนึกถึงตอนที่เพิ่งเจอหน้ากับจางหยวน ตอนนั้นจางหยวนขยับจมูก แถมยังถามเธอว่ามาทำงานกี่โมงตอนนั้นเลขาไม่ได้คิดเยอะขนาดนั้นแต่ตอนนี้ลองคิดดู จางหยวนที่มีการรับกลิ่
ครั้งนี้ เจิ้งปินชอบเลขาตัวน้อยแต่เลขาตัวน้อยกลับหน้าแดงใส่จางหยวน เห็นได้ชัดว่ามีความรู้สึกต่อจางหยวน!จางหยวนทำลายความสุขของเขาอีกครั้ง!หลี่ตงเซิ่งเห็นเลขาของเขาหน้าแดงต่อจางหยวน ก็มีสีหน้ากลุ้มใจจนกระทั่งเลขาตัวน้อยเสิร์ฟน้ำให้เขาและพูดสองสามคำที่ข้างหูด้วยเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคนหลี่ตงเซิ่งจึงอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้"จางหยวน ดื่มน้ำดื่มน้ำ! ตอนที่จัดงานฉลองช่วงเที่ยง คุณก็อยู่เข้าร่วมด้วยกันสิ" หลี่ตงเซิ่งพูดครั้งนี้ถึงคราวที่จางหยวนประหลาดใจบ้างเขาพบว่าหลี่ตงเซิ่งคนนี้เป็นคนที่น่าสนใจมากจางหยวนไม่ใช่คนโง่ ท่าทางก่อนหน้าและภายหลังของเลขาตัวน้อยที่มีต่อเขาแตกต่างกันมากขนาดนั้น ต้องเป็นเพราะเข้าใจคำพูดเหล่านั้นที่เขาถามในตอนที่เพิ่งเจอหน้ากันหลี่ตงเซิ่งที่อยู่ในฐานะเจ้านาย ทั้งที่รู้ว่าความลับระหว่างเขากับเลขาตัวน้อยถูกคนนอกรับรู้แล้วหลี่ตงเซิ่งกลับไม่โกรธ แถมยังเป็นฝ่ายเชิญชวนจางหยวนให้อยู่ร่วมงานเลี้ยงฉลองอีกด้วยพูดได้แค่ว่า ความคิดของคนอ้วนท้วมคนนี้ จางหยวนไม่สามารถเดาได้จริง ๆแต่จากคำพูดของหลี่ตงเซิ่งก็สามารถฟังออกได้ เขายังมีความมั่นใจต่อเจิ้งเฟิงเหนียนอย่
จางหยวนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม: "ประมาณนั้นแหละครับ! แม้ว่าตัวเลขจะแตกต่างกัน แต่ก็ต่างกันไม่เกินสองตัว!"“ได้!” หลี่ตงเซิ่งใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทันทีถ้าคนอื่นพูดแบบนี้ เขาจะต้องคิดว่าอีกฝ่ายกำลังพูดจาไร้สาระเจิ้งเฟิงเหนียนรองหัวหน้าสถานีปศุสัตว์ยังสามารถรักษาหมูป่วยหายได้ไม่ถึงสิบตัว จะมีคนรักษาหมูป่วยหายสามสิบตัวได้อย่างไร?แต่คนที่พูดแบบนี้กลับเป็นจางหยวน!ก่อนหน้านี้ จางหยวนได้แสดงพรสวรรค์ของเขาต่อหน้าทุกคนแล้วเพียงแค่ดมผงยา ก็สามารถแยกแยะออกมาได้ว่าในผงยามีวัตถุดิบยาจีนอะไรพรสวรรค์แบบนี้ ทำให้คนตกตะลึงจริง ๆ!ในเมื่อจางหยวนกล้าพูดว่าสามารถรักษาหมูป่วยให้หายได้สามสิบตัวถ้าอย่างนั้นเขาก็มีความมั่นใจอย่างแน่นอน!"ได้! งั้นคุณรีบบอกมาว่าต้องการวัตถุดิบยาชนิดไหนบ้าง! ผมจะให้คนไปซื้อเดี๋ยวนี้" หลี่ตงเซิ่งรีบพูดขึ้นเจิ้งปินที่อยู่ด้านข้างเห็นแบบนี้ก็รู้สึกร้อนใจเขารีบเดินไปตรงหน้าของหลี่ตงเซิ่ง"เถ้าแก่หลี่ คุณอย่าโดนไอ้หมอนี่หลอกนะครับ! สัตวแพทย์บ้านนอกชนบทคนนี้ เขาจะไปรู้เรื่องอะไร!""ถ้าหากกินยาที่เขาจ่ายให้ แล้วทำให้หมูเหล่านั้นที่คุณลุงของผมรักษาหายกินจนตาย จะทำอย่าง
เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์
"ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่
หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท
พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต
ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน
ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค
จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน
เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา
แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ