Share

บทที่ 56

Author: คันธรส สุภาสนันท์
เมื่อทั้งสองได้ยินดังนั้น ก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว แล้วตะโกนว่า “ไม่ไม่ไม่ พวกเราจะไม่พูด ไม่พูด...”

“ดีมาก” เซียวเป่ยยิ้มแย้ม นั่งลงอีกครั้ง แล้วถามว่า “บอกมานะ ว่าใครใช้พวกแกมา?”

“เหลากุ่ย... เหลา เหลา เหลากุ่ย!”

หนึ่งในนั้นรีบตะโกนพูดอย่างตะกุกตะกัก เพราะกลัวว่าจะพูดช้าไปก้าวหนึ่ง แล้วจะถูกเซียวเป่ยเหยียบเข่าจนเละ

“ใช่ใช่ใช่ พี่กุ่ย พี่กุ่ยให้พวกเรามา”

อีกคนหนึ่งก็ไม่ยอมน้อยหน้า แย่งตะโกนว่า “เขาให้พวกเรามาตัดมือทั้งสองข้างของคุณ แลกกับเงินหนึ่งล้านบาท”

“เงินหนึ่งล้านบาท ซื้อมือทั้งสองข้างของฉันงั้นเหรอ?”

เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และพูดอย่างเย็นชาว่า: “ฉันน่าจะไม่เคยทำให้คนที่พวกแกเรียกว่าเหล่ากุ่ยขุ่นเคืองใจนะ?”

ทั้งสองคนส่ายหัว และพูดอย่างคลุมเครือว่า: “พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกเราทำงานเสร็จก็รับเงิน รายละเอียดต่างๆ คุณต้องถามพี่กุ่ยเองแล้ว”

“เขาอยู่ที่ไหน?”

เซียวเป่ยเอ่ยปากถาม ด้วยนัยน์ย์ตาที่แฝงไปด้วยความเย็นชา

“ไม่รู้ ที่อยู่ของพี่กุ่ยมักจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ เวลาติดต่อพวกเรา ก็ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์” อีกคนเอ่ยปากพูด

เซียวเป่ยพยักหน้า ยื่นมือออกมาแล้วพ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 57

    “เด็กเวร มาเร็วเหมือนกันนี่ คนของฉันอยู่ที่ไหน?”เหลากุ่ยถามด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดเซียวเป่ยเอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋า แล้วเดินไปด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบ กวาดสายตามองไปที่ลูกสมุนทั้งหลายที่อยู่ในห้องส่วนตัวหนึ่งรอบ พอยืนยันตำแหน่ง และอาวุธที่พวกเขาสามารถใช้ได้ในตอนนี้แล้ว จึงเข้าไปนั่งที่ตรงหน้าเหลากุ่ย นั่งไขว่ห้าง ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “ถูกฉันมัดเอาไว้แล้ว”“เพี้ยะ!”เหลากุ่ยเอาตบมือไปที่บนโต๊ะกาแฟด้วยความโกรธ และตะคอกว่า: “ไอ้เด็กเวร! กล้าแตะต้องคนของฉัน ไม่ว่าแกจะเป็นใคร ไม่ว่าจะเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ คืนนี้อย่าคิดว่าจะเดินออกไปจากที่นี่ได้ !”ทันทีที่พูดจบ ลูกสมุนเจ็ดถึงแปดคนที่อยู่รอบๆ ก็รายล้อมเข้ามาพร้อมด้วยรังสีอำมหิต และสีหน้าที่ดุร้าย ขณะเดียวกันก็ดึงกริชที่ส่องแสงวาววับอันน่ากลัวออกมาจากระหว่างเอวของพวกเขาเซียวเป่ยไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เขามัวแต่รินไวน์หนึ่งแก้วให้กับตัวเอง ดื่มเข้าไปหนึ่งอึก แล้วถามกลับไปว่า: “เหลากุ่ยใช่มั้๊ย? พวกเราน่าจะไม่เคยบาดหมางใจกันนะ?ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ มีคนอยู่เบื้องหลังคุณใช่มั้๊ย ”“ให้โอกาสคุณหนึ่งครั้ง บอกฉันม

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 58

    เซียวเป่ยยิ้มอย่างเย็นชา แล้วนั่งอย่างสงบนิ่งตรงที่เหลากุ่ยเคยนั่งก่อนหน้านี้ พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า: “ตอนนี้จะบอกมาได้หรือยัง?"เหลากุ่ยกลืนน้ำลายอึกๆ แล้วพูดอย่างลำบากใจว่า: “ลูกพี่เซียว ใช่ว่าผมจะไม่อยากพูด แต่ผมพูดไม่ได้ ทำอาชีพอย่างพวกเรา มีกฎเกณฑ์ข้อนี้อยู่”“ถ้าผมบอกไป ก็อย่าคิดว่าจะอยู่ที่เจียงจงได้อีกต่อไป”“ลูกพี่เซียวได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ.....ต่อไปให้ผมเป็นวัวเป็นม้ารับใช้ ตอบแทนลูกพี่เซียวไม่ได้เหรอ?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และพูดอย่างไม่พอใจว่า: “จำไว้ ต่อจากนี้ไป กฎเกณฑ์ของฉันถึงจะเป็นกฎเกณฑ์ที่แท้จริง!”“ถ้าไม่บอก ฉันก็จะฆ่าแกเดี๋ยวนี้เลย!”“ฉันให้เวลาแกสามนาที คิดไตร่ตรองให้ชัดเจน”กึกกึก!เหลากุ่ยสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว เพราะสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันท่วมท้นที่มาจากตัวของเซียวเป่ยไอ้หนุ่มคนนี้ กล้าฆ่าคนจริงๆหรือ?เหลากุ่ยสมองตื้อ เหงื่อเย็นที่อยู่มุมหน้าผาก ไหลลงมาทีละหยดเวลา ผ่านไปนาทีต่อนาทีตอนที่เหลากุ่ยใกล้จะยืดหยัดไม่ไหว ต้านทานต่อกลิ่นอายไอความกดดันสุดขีดที่อยู่บนตัวของเซียวเป่ยไม่ได้ ประตูห้องส่วนตัวก็ได้ถูกผลักออกอีกครั

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 59

    เมื่อเซียวเป่ยได้ยินดังนี้ ก็ส่ายหัว และพูดอย่างเย็นชาว่า: “ไม่ปล่อย”คิ้วของอู๋อวิ๋นเหอขมวดกันอย่างเย็นชา แล้วพูดตำหนิไปว่า: “พูดเตือนดีๆไม่ชอบชอบให้ใช้กำลังบีบบังคับงั้นเหรอ?”“แล้วไงล่ะ” เซียวเป่ยพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา เหลากุ่ยที่นอนอยู่บนพื้น ก็ตกใจมากจนฉี่ราด!ไอ้หนุ่มคนนี้ บ้าไปแล้ว!แม้แต่ท่านอาจารย์อู๋อวิ๋นเหอก็ไม่อยู่ในสายตา?รู้มั้๊ยว่า ในเจียงจง อู๋อวิ๋นเหอแค่พูดลอยๆ ก็สามารถทำให้คนตายโดยที่ไม่รู้ตัวได้แล้วเขากล้าดียังไงถึงทำแบบนี้?แต่ว่า เหลากุ่ยก็ยิ้มเยาะเย้ยอยู่ในใจในเมื่อทำให้ท่านอาจารย์อู๋ขุ่นเคืองใจ นั่นก็หมายความว่า ไอ้เด็กเวรเซียวเป่ยนี่จะไม่สามารถเดินออกไปแบบยังมีชีวิตได้สีหน้าของอู๋อวิ๋นเหอดำคล้ำลง เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งสุดขีด ตะโกนด้วยความเกรี้ยวโกรธว่า: “พ่อหนุ่ม! บ้าบิ่นเกินไปไม่ใช่เรื่องดี! พ่อหนุ่มคิดว่าความรู้ผิวเผินที่ตนเองเรียน กับความสามารถเท่าหางอึ่งที่ตนเองมี ก็จะสามารถทำเป็นโอหังมองไม่เห็นหัวผู้อื่นได้แล้วเหรอ? หลักการเหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือคนยังมีคน? พ่อหนุ่มไม่เข้าใจเหรอ?”“วั

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 60

    กึกๆ!เมื่อเห็นอู๋อวิ๋นเหอถูกเซียวเป่ยตบพลิกคว่ำลงกับพื้นด้วยฝ่ามือเดียว มุมปากของเหลากุ่ยก็กระตุก อ้าปากค้างตาเบิกโพลง!เขาจ้องมองไปที่เซียวเป่ยที่ร่างกายสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเซื่องซึม อกสั่นขวัญแขวนและหวาดกลัว นั่นเป็นท่านอาจารย์อู๋จากสำนักวิทยายุทธ์เทียนเหลยเชียวนะ!แต่กลับถูกคู่ต่อสู้ตบลอยกระเด็นออกไปด้วยฝ่ามือเดียว...แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะสู้กลับได้เลยแม้แต่น้อย!ไอ้เด็กคนนี้ เป็นใครมาจากไหนกันนะ?จิตอันหนาวเย็น ไล่ไปจากแต่ก้นกบ ไปจนถึงยอดหัวกระโหลกของเหลากุ่ยเกือบจะวินาทีต่อมา น้ำเสียงราวกับว่าเป็นเทพแห่งความความตายของเซียวเป่ยก็ดังขึ้น: “ตอนนี้ แกจะพูดได้หรือยัง?”อึกๆ!เหลากุ่ยกลืนน้ำลายอย่างแรง สั่นสะท้านไปทั้งตัว ทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้น เอาหัวโขกพื้นดังพลั่กๆแล้วตะโกนว่า “ยอดฝีมือได้โปรดเมตตาด้วย ผมพูด ผมพูด...”“ ประธานฉินฉินเฟิงแห่งหลินซื่อกรุ๊ปสั่งให้ผมทำ เขาให้เงินผมสิบล้านบาท เพื่อซื้อมือทั้งสองข้างของคุณ”ในขณะนี้ เหลากุ่ยหวาดกลัวจริงๆเป็นความหวาดกลัวที่ออกมาจากในใจ“ฉินเฟิง?” เซียวเป่ยขมวดคิ้วที่แท้คนที่อยู่เบื้องหลั

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 61

    ซูหว่านเอาโทรศัพท์มือถือตบลงไปบนโต๊ะ พ่นลมหายใจออกทางปาก พูดอย่างเย็นชาว่า “ ฉันรู้แล้ว ยังมีเรื่องอะไรอีกมั้ย?”“มีค่ะ”หลี่เซียวลี่กล่าว พร้อมดึงเอกสารฉบับหนึ่งออกจากมาอ้อมแขน พูดอย่างวิตกกังวลว่า “นี่คือเอกสารความร่วมมือกับถังซินกรุ๊ป อีกฝ่ายค้างชำระเงินพวกเรามาเป็นเวลาสามเดือนแล้ว หากยังเอาเงินกลับคืนมาไม่ได้อีก บริษัทของพวกเราอาจจะต้องขาดทุนกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท”ซูหว่านขมวดคิ้วโครงการความร่วมมือกับถังซินกรุ๊ป ทำให้เธอลำบากใจมาเป็นเวลาสามเดือนแล้วจริงๆอีกฝ่ายค้างชำระเงินมาโดยตลอด เงินลงทุนของโครงการ ปิงฉิ้นกรุ๊ปสำรองจ่ายไปก่อนทั้งหมดไปขอให้ชำระเงินหลายครั้งแล้ว แต่กลับถูกอีกฝ่ายหาเหตุผลต่างๆนานามาปฏิเสธตลอดซูหว่านกล้าโกรธแต่ไม่กล้าเอ่ยปาก ยังไงซะถังซินกรุ๊ปก็เป็นบริษัทใหญ่ เป็นบริษัทชั้นนำในเจียงจง ซึ่งเป็นบริษัทของตระกูลถังท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลถังผู้นั้น เป็นคนที่เด็ดขาดมาก!“ลองคิดหาวิธี นัดหมายกับผู้จัดการที่รับผิดชอบของพวกเขาอีกครั้ง ฉันจะไปเจรจาด้วยตนเอง” ซูหว่านกล่าว“ได้ค่ะ” หลี่เซียวลี่ตอบรับ“ประธานซูคะ ประธานฉินบอกว่า ตอนบ่ายหก

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 62

    ยาขวดนี้ เป็นยาที่เซียวเป่ยเตรียมไว้ให้ก่อนหน้านี้เพราะกังวลว่าตอนเช้าซูหว่านจะยุ่ง จนไม่มีเวลากินอาหารเช้าที่มีคุณค่าทางสารอาหาร จึงได้ทำไว้ในกรณีฉุกเฉินคิดไม่ถึงว่า ตอนนี้จะได้ใช้มันแล้ว ซู่หว่านเอามือกุมหน้าอก เปิดลิ้นชักด้วยสองมือที่สั่นเทา ควานเอาขวดเล็กๆขวดหนึ่งออกมา แล้วเปิดฝาขวดด้วยสีหน้าเจ็บปวดมาก แต่เพราะว่าหัวใจของเธอเจ็บปวดมากเกินไป จึงไม่ทันได้ระวัง เสียงดังซ่าๆ ขวดหนึ่งมียาประมาณสิบเม็ด ทั้งหมดต่างก็กระจัดกระจายอยู่บนพื้นเธอคุกเข่าลงอย่างสั่นเทา หยิบยาหนึ่งเม็ดขึ้นมาแล้วกลืนมันลงไปทางด้านเซียวเป่ย ได้ยินแค่เพียงเสียงซ่าๆดังมาจากในโทรศัพท์ และเสียงรบกวนต่างๆนานา เตรียมขึ้นแท็กซี่อย่างกระวนกระวายใจ พร้อมตะโกนว่า “เสียวหว่าน คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย? เป็นยังไงบ้าง?”เวลาผ่านไปนานสองนาน ก็ได้ยินเสียงลมหายใจหอบเหนื่อยของซูหว่านดังมาจากปลายสาย พูดอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า “ฉัน ฉันไม่เป็นไร...”เซียวเป่ยถึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกบางที แม้แต่เซียวเป่ยเองก็ไม่รู้ว่า ท่าทางของเขาเมื่อสักครู่นี้ ดูกังวลและร้อนใจมากแค่ไหนเซียวเป่ยยืนอยู่ที่ประตูร

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 63

    หลี่เซียวลี่รีบตอบกลับไปว่า “ประธานซูคะ เรื่องเกี่ยวกับการโปรโมตยาเม็ดโกลเด้นกา พวกเราได้ทำการยกเลิกเรียบร้อยแล้ว ตามคำสั่งของคุณ พวกเราได้นำศาสตร์การฝังเข็มที่ใช้รักษาร่วมกับยาเม็ดโกลเด้นกาที่โพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต มาจัดทำเป็นวิดีโอคำแนะนำสั้นๆอย่างเป็นทางการ และทำขายเป็นชุด ร่วมกับยาเม็ดโกลเด้นกา”“ดี” ซูหว่านพยักหน้า มองดูขวดยาที่อยู่ในมือ อย่างเหม่อลอยเล็กน้อยหลี่เซียวลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดเบาๆว่า “ประธานซู? ประธานซู... คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอคะ?”“อ่อ ไม่มีอะไร”พอซูหว่านตั้งสติได้ ก็อมยิ้ม แล้วเอาขวดยาใส่ไว้ในลิ้นชักหลี่เซียวลี่ถามอย่างลองเชิงว่า “ประธานซู คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย? หากร่างกายไม่สบาย จะไปโรงพยาบาลมั้ยคะ? ยานี้ จะกินมั่วซั่วไม่ได้นะ”“ฉันไม่เป็นไร มันเป็นยาที่เซียวเป่ยเตรียมไว้ให้ฉันก่อนหน้านี้” ซูหว่านยิ้ม และนั่งลงอีกครั้งเมื่อได้ยินดังนี้ หลี่เซียวลี่ก็ขมวดคิ้ว และพูดอย่างสงสัยว่า “ยาที่เซียวเป่ยเตรียมไว้ให้คุณ? ประธานซู คุณไม่กังวลว่ายานี้จะมีปัญหาเหรอ?”เมื่อได้ยินดังนี้ สีหน้าของซูหว่าน ก็ดูแย่ลงทันที จึงพูดอย่างเย็นชาว่า

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 64

    ทางด้านของเซียวเป่ย พอวางสายโทรศัพท์แล้ว ก็ถอนหายใจยาวๆด้วยความโล่งอกเพียงแต่ว่า เขาไม่ได้คิดอะไรมาก จึงยุ่งวุ่นวายอยู่กับการทำความสะอาดซากปรักหักพังในร้านต่อไปในเวลานี้ รถเบนซ์รุ่นเมอร์เซเดสเอสคลาสก็มาจอดที่หน้าร้านเล็กๆเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองดูสักพักบนรถ มีชายวัยกลางคนที่อายุสี่สิบห้าสิบปีรีบเดินออกมาอย่างรวดเร็ว สวมชุดไทเก็กสีขาว วิ่งเข้ามาเอามือประสานกันแสดงความเคารพแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเซียว ขอโทษที่รบกวน ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง อยากให้คุณช่วยดูหน่อย”“ที่แท้ก็เป็นประธานเสิ่น ครั้งนี้มาด้วยตนเองเลยเหรอ?”เซียวเป่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มคนที่สามารถทำให้เสิ่นฉางอันพามาได้ด้วยตนเอง คงจะไม่ธรรมดา“คุณเซียว นี่คือศาสตราจารย์ฉางฉางเจียงหมิงจากสมาคมการแพทย์เจียงจง หัวหน้าคณะกรรมการตัดสินการแข่งขันแพทย์แผนจีนรอบออดิชั่นของเจียงจง” เฉินฉางอันรีบแนะนำอย่างรวดเร็วด้านข้าง มีชายชราคนหนึ่งยืนเอามือไพล่หลัง อายุประมาณ 50-60 ปี สวมชุดเสื้อคลุมจีนสีดำอยู่หัวหน้าคณะกรรมการตัดสินการแข่งขันแพทย์แผนจีนรอบออดิชั่นของเจียงจง?เซียวเป่ยพยักหน้า แล้วส่งสัญญาณให

Latest chapter

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 475

    ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 474

    สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 473

    เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 472

    พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 471

    “หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 470

    “พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 469

    หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 468

    “พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 467

    ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status